Home / รักโบราณ / แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก / ตอนที่ 7 แจคพอตกองโต

Share

ตอนที่ 7 แจคพอตกองโต

Author: บ.บี
last update Last Updated: 2025-04-08 12:35:51

พอแยกเป็นกลุ่มหญิงชายฉู่หลิงก็นับเด็กหญิงได้ทั้งหมด 7 คน ส่วนอีก 12 คนล้วนเป็นเด็กชายทั้งหมด ฝ่ายเด็กหญิงมีเจียวจูอายุ 12 ปีเป็นหัวหน้ากลุ่ม ด้านเด็กชายก็มีเจียวจ้านอายุ 10 ปีเป็นหัวหน้ากลุ่ม ด้วยจำนวนเด็กชายที่มีมากกว่าและอยู่ในวัยซุกซนโดยไม่มีผู้ใหญ่ควบคุม นางก็ไม่แปลกใจสำหรับพลังทำลายล้างอันเกินต้านของพวกเขาแล้ว

“จากนี้ข้าจะขอเข้ามาอาศัยอยู่ในหอหงไถร่วมกับพวกเจ้า และแน่นอนว่าจะมีการจัดระเบียบสถานที่และอีกหลายๆ อย่าง ข้าอยากขอให้พวกเจ้าช่วยข้าด้วยได้หรือไม่” ในเมื่อนางต้องอยู่ที่นี่ไปอีกสามปี นางจะไม่ทนนอนอยู่กับขยะกองใหญ่เช่นนี้เป็นแน่ เด็กๆ ก็ควรมีสุขอนามัยที่ดีขึ้นเช่นกัน เลือดมนุษย์กลุ่มแรกที่นางจะลิ้มลองสมควรเป็นอาหารเกรดเอ!

เด็กๆ ไม่ได้ตอบรับคำแวมไพร์สาวพวกเขามองหน้ากันแล้วจับกลุ่มเป็นวงกลมเหมือนที่เคยทำ

“ข้าบอกแล้วให้เก็บกวาดหอหงไถให้สะอาด ไม่อยากนั้นจะไม่มีพวกพี่ชายมาเที่ยวที่นี่” เด็กหญิงในกลุ่มคนหนึ่งส่งเสียงตำหนิกลุ่มเด็กชาย

“ก็เมื่อก่อนไม่มีพี่สาวนี่นา ไม่มีพี่สาวก็ไม่มีคนมาที่นี่อยู่แล้ว” เด็กชายตัวเล็กทำหน้าเบี้ยวหาข้ออ้างมากลบเกลื่อนความผิดของพวกตน

“พวกเจ้าอย่าโง่ ข้าบอกแล้วอย่างไรว่าจะไม่มีผู้ใดมาที่นี่อีกแล้ว ที่นี่เป็นบ้านของเราจะมีหรือไม่มีพี่สาวเข้ามาอยู่เราก็ต้องรักษาข้าวของทุกชิ้นเอาไว้” เจียวจูตำหนิเด็กทั้งหมดทุกคน

“นี่พวกเจ้าจะกระซิบกระซาบกันเพื่ออะไร ข้าได้ยินที่เจ้าคุยกันทั้งหมดนั่นล่ะ จะไม่มีพี่ชายหรือบุรุษคนไหนเข้ามาใช้เงินหรือมาเยี่ยมเยียนที่นี่อีกต่อไป เราจะต้องช่วยกันทำความสะอาดที่อยู่อาศัยรวมทั้งต้องช่วยกันทำงานหาเงินมาซื้ออาหาร มีข้าอยู่ท้องพวกเจ้าต้องอิ่มต้องอ้วนกันทุกคน!"

"เย้!! 

เจ้าก้อนเลือดเก้าก้อน หลังจากได้ยินพี่สาวบอกพวกตนจะได้กินอิ่มท้องก็หูผึ่ง กระโดดโลดเต้นดีใจกันยกใหญ่ ผิดกับกลุ่มของเจียวจูสิบคนที่ออกไปเก็บผักป่า พวกเขาแยกแย้มริมฝีปากบิดเบี้ยว ดูไม่ออกว่ากำลังยิ้มหรือกำลังจะร้องไห้อยู่กันแน่ 

ก่อนหน้านี้พี่สาวก็จะจับปลาให้พวกตนกินด้วยท่าทางมั่นอกมั่นใจเช่นนี้ไม่ใช่หรือ แล้วผลของมัน…

“พอแล้วๆ หยุดส่งเสียงกันได้แล้ว จากนี้ต่อไปพวกเจ้าจะต้องเชื่อฟังพี่สาวหลิงหลิงนะ ถ้าใครดื้อไม่เชื่อฟัง พี่สาวก็จะหนีจากเราไปเหมือนคนอื่น ๆ” เจียวจูเหลือบมองฉู่หลิงด้วยความเกรงใจเล็กน้อยที่ฉวยโอกาสเอาชื่อนางมาแอบอ้าง 

แม้พี่สาวจะคุ้มดีคุ้มร้าย แต่เจียวจูเห็นชัดแล้วว่าฉู่หลิงเป็นความหวังของน้องๆ และเด็กทุกคนก็ดูเหมือนจะเชื่อฟังพี่สาวคนงามมากกว่าตน เจียวจูจึงต้องรีบฉวยโอกาสดีงามเอาไว้ก่อน

“ตงเหม่ย เสี่ยวผิง เฉาหวา เจ้าสามคนไปเตรียมอาหารในครัว ตงหยาง ฝานเจิ้ง อู๋ฉี  เจ้าสามคนไปช่วยพวกนาง” เจียวจูเรียกเด็กหญิงสามคน เด็กชายสามคนให้เริ่มทำงานกันได้แล้ว

ฉู่หลิงมองตามร่าง 6 ร่างที่รับคำสั่งและปฏิบัติตามอย่างรวดเร็ว พยายามจดจำชื่อของเด็กแต่ละคนเอาไว้ให้ได้มากที่สุด

“อี้เฉิน อี้ฝาน อี้เทียน เจ้าสามคนไปดูที่ข้างกำแพงให้รอบว่ามีคนโยนข้าวเข้ามาหรือไม่” เด็กสาวออกคำสั่งกับเด็กชายอีกกลุ่มหนึ่งต่อ

เจียวจูหันมาสบตากับฉู่หลิงที่เลิกคิ้วสูงท่าทางแปลกใจกับการที่นางออกคำสั่งแปลกๆ แต่ก็เลือกจะเงียบไว้ก่อน อีกเดี๋ยวนางจะอธิบายให้พี่สาวได้เข้าใจเอง

“คนที่เหลือ ช่วยกันเก็บข้าวของที่โถงนี้ วันนี้เราจะกินข้าวบนโต๊ะอาหารให้เป็นระเบียบสักครั้ง” กล่าวจบเจียวจูก็ชักชวนเด็กที่โตหน่อยให้มาช่วยกันคว่ำโต๊ะเก้าอี้ที่หงายท้องชี้ฟ้าอยู่หลายตัวให้กลับคืนสู่สภาพเดิม

ฉู่หลิงเห็นว่าทุกคนต่างก็มีหน้าที่กันแล้ว นางในฐานะสมาชิกที่เหลือในห้องโถง ก็คิดว่าตนเองสมควรช่วยเด็กๆ เก็บกวาดที่นี่เช่นกัน 

มองเห็นเด็กออกแรงยกโต๊ะกันไหว หญิงสาวก็เลือกเป้าหมายเป็นถ้วยชามที่เกลื่อนกลาดอยู่บนพื้น ตั้งใจจะเก็บพวกมันไปล้างด้วยตนเองนางจะรู้สึกสบายใจกว่าถ้าปล่อยให้เด็กเหล่านี้เป็นคนทำความสะอาดภาชนะใส่อาหาร

“พี่สาวอย่า!!”

"พี่หลิงหลิง ตรงนั้นไม่ได้!!

“ห้ามนางเอาไว้!”

หลายเสียงตะโกนร้องเสียงหลง ยกมือห้ามปรามกันพัลวัน

ไม่ทันแล้ว..เจียวจูหน้าซีดเผือดรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้บอกกล่าวพี่สาวเอาไว้ล่วงหน้า 

ฉู่หลิงเองก็ยกชามไม้ใบโตขึ้นมาจากพื้นห้องมุมหนึ่งมาไว้ในมือ ดวงตาเหลือกค้างของหญิงสาวรู้สึกหวาดหวั่นกับเสียงตะโกนของเด็กๆ นางทำอะไรผิดอีกเล่า?

กลิ่นไม่พึงประสงค์บางอย่างพวยพุ่งจากพื้นด้านล่างของแวมไพร์สาวในขณะที่นางกำลังสูดหายใจเข้าปอดคำใหญ่ 

“กรี๊ดดดดดดดดด” สายตาของฉู่หลิงมองไปที่พื้นตามสัญชาตญาณ นางเห็นวัตถุบางอย่างคล้ายแข็งและคล้ายเหลวสีน้ำตาลตุ่นๆ กองหนึ่งอยู่ที่พื้น กลิ่นและสีของมันบ่งชัดว่านี้คืออึมนุษย์!!

หญิงสาวมือสั่นขนลุกชันขึ้นมาทั้งร่างอย่างช่วยไม่ได้ นางช้อนดวงตาคู่งามไปมองชามไม้ในมือ 

“ม..มือ มือ..ข้า” หญิงสาวปากสั่นลิ้นแข็งจนเกือบจะพูดไม่จบ ปลายนิ้วหัวแม่มือข้างขวาของนางดูเหมือนว่าจะมีสีน้ำตาลเปื้อนอยู่ใช่หรือไม่?

“พี่สาว ท่านไปล้างมือทางบ่อน้ำด้านหลังเสียก่อนเจ้าค่ะ ข้าจะพาไปเอง ไป๋ซุนเจ้าจัดการตรงนี้แทนข้าหน่อยเถิด” เจียวจูขอความช่วยเหลือจากน้องสาวไป๋ซุนเด็กหญิงอายุ 7 ปีที่ยืนอยู่ใกล้ๆ"

“เว่ยหลง!! เจ้ามาช่วยข้าเลยนะ เห็นไหมว่าเจ้าก่อเรื่องอะไรไว้ ถ้าพี่สาวหนีไปอีกคนก็เป็นเพราะเจ้าไม่รู้จักหัดไปเข้าส้วมเสียทีนั่นล่ะ!” ไป๋ซุนเท้าสะเอวกวักมือเรียกต้นเหตุซึ่งเป็นเด็กชายที่อายุน้อยที่สุดในหอหงไถ

“ข..ข้า..ข้าจะร้องแล้วนะ” ฉู่หลิงถูกพยุงร่างเอาไว้โดยเจียวจู เดินปากคอสั่นไปทางด้านหลัง

กรรมเวรอะไรของแวมไพร์สาวอย่างนางกัน! พลังเขี้ยวเล็บก็ไม่มี คิดจะเป็นมนุษย์ธรรมดากินดื่มตามปกติสักมื้อ ยังไม่ทันไรก็เจอแจ็กพอตกองใหญ่เบ้อเริ่มเข้าแล้ว!

เจียวจูพาหญิงสาวเดินผ่านทางแคบที่มีม่านขาดๆ กั้นขวางเอาไว้ ตรงจุดนี้เป็นเพียงทางเชื่อมที่จะนำไปสู่เรือนเล็กที่แยกออกมาอีกหลังหนึ่ง แต่ภายในเป็นห้องโล่งๆ มีกำแพงสี่ด้านและมีหน้าต่างหลายบานไว้ถ่ายเทอากาศ ประตูขนาดใหญ่สองบานทางหนึ่งอยู่ในทิศทางที่พวกนางเพิ่งเดินเข้ามา อีกบานหนึ่งเปิดกว้างออกไปสู่บ่อน้ำทางด้านหลัง

“พี่สาวนั่งลง ข้าจะตักน้ำให้ท่านเองเจ้าค่ะ” เจียวจูจัดแจงหาเก้าอี้ไม้เตี้ยมาให้หญิงสาวนั่ง นางใช้ถังน้ำที่มีเชือกผูกเอาไว้หย่อนลงไปในบ่อแล้วตักขึ้นมาเทใส่มือหญิงสาวทีละน้อยให้อีกฝ่ายล้างได้ถนัด

“เว่ยหลงเป็นเด็กที่อยู่ในหอหงไถตั้งแต่แรกเริ่มเหมือนกับข้า ตอนที่พวกเขาจากไปเว่ยหลงเพิ่งจะอายุสามขวบเองเจ้าค่ะ เขาขี้กลัว ไม่กล้าเดินไปเข้าส้วมลำพัง หากพวกเราเผลอเมื่อใดหรือในช่วงเวลากลางคืน เขาก็จะแอบออกมาถ่ายแล้วหาอะไรมาปิดซ่อนมันไว้ ส่วนใหญ่เขาก็จะมาจัดการทำความสะอาดด้วยตัวเอง แต่วันนี้เขาคงจะลืม"

“อย่าบอกนะว่าทุกครั้งเขาจะใช้ถ้วยชามเอาไปปิดเป็นประจำ แล้วพวกเจ้าเอามันมาล้างไปใส่อาหารกินต่อหรือไม่” ฉู่หลิงขนลุกซู่ขึ้นมาอีกครั้งกับความจริงที่กำลังได้ยินและได้เห็นมากับตา

“ไม่หรอกเจ้าค่ะ เมื่อครู่ท่านไม่เห็นหรือถ้วยจานในครัวมีกองสูงหลายร้อยใบ ที่สกปรกมากๆ หรือแตกบิ่นพวกเราก็จะเอาไปกองรวมไว้ตรงนั้นปล่อยให้ฝนตกแดดออกหลายรอบหน่อยค่อยเก็บมาทำฟืนเจ้าค่ะ”

ฉู่หลิงมองตามมือของเจียวจูไปยังกลางลานโล่งแจ้ง นางเห็นว่ามีถ้วยชามตะเกียบรวมทั้งสิ่งแตกหักหลายอย่างที่ทำจากไม้กองพะเนินอยู่ตรงนั้นจริงๆ ก็โล่งใจ

“เป็นข้าที่สั่งสอนพวกเขาไม่ดีเอง” เจียวจูหน้าสลด เอื้อมมือไปหยิบสบู่ที่มีอยู่มากมายในหอหงไถให้กับฉู่หลิง

หญิงสาวถึงกับต้องถอนหายใจด้วยความโล่งใจ ยังดีที่นี่เป็นหอนางโลมเรื่องความสะอาดหรือเครื่องหอมจำเป็นต้องให้ความสำคัญ หากไม่มีสบู่นางคงจะไม่สบายใจแน่ว่าล้างมือสะอาดหรือไม่

“ไม่ใช่ความผิดของเจ้าหรอกเจียวจู ตอนเว่ยหลงสามขวบเจ้าอายุเท่าใดกันเชียว เลี้ยงดูน้องๆ มาได้ถึงขนาดนี้เจ้าเก่งมากแล้วนะ” หญิงสาวเอ่ยชื่นชมด้วยความจริงใจ ตอนนางอายุ 12 เป็นแวมไพร์ทำอะไรบ้างเล่านอกจากวิ่งหาจับนกจับหนูมาดูดเลือดกิน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 8 โกรธไม่ลง

    เจียวจูอดร้องไห้ออกมาไม่ได้ นางเหนื่อยจริงๆ กับหน้าที่รับผิดชอบที่ใหญ่เกินตัวหลายเท่าครั้งนี้ แต่นางไม่สามารถทอดทิ้งน้องๆ ไปได้ ได้ยินคำชมเป็นครั้งแรกในรอบสามปี เด็กหญิงถึงกับโผเข้ามาซุกในอ้อมกอดของฉู่หลิงโหยหาคำปลอบใจจากใครสักคนบ้างแวมไพร์สาวลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น นางไม่ได้รู้สึกกระหายเลือดแต่นางกำลังหวั่นไหว!! ความรู้สึกถึงความรักเอื้ออาทรระหว่างคนในครอบครัวที่หลงลืมไปนานย้อนกลับเข้ามาในความทรงจำของนางอีกครั้ง “ไม่ต้องร้อง มีข้าแล้ว ข้าจะสนับสนุนเจ้าทุกอย่าง ข้าจะเป็นมือที่ค้ำฟ้าไม่ให้ถล่มใส่เจ้าและน้องๆ ทุกคนเอง” “พี่สาว..มีที่ใดกันท้องฟ้าถล่มใส่คน” เด็กสาวหัวเราะออกมาได้ในที่สุด แม้ว่าพี่สาวจะสติไม่ค่อยดี แต่นางกลับรู้สึกว่าคำกล่าวเมื่อครู่ช่างน่าฟังเสียเหลือเกิน“เอาล่ะๆ ล้างสะอาดแล้ว ทีนี้เจ้าเล่าเรื่องไปเก็บข้าวข้างกำแพงสิ มันยังไงกัน”“นั่นไงเจ้าคะ พวกเขากลับมานู่นแล้ว” เด็กสาวพยักพเยิดใบหน้าไปในครัว ตามเสียงเอะอะโวยวายของเด็กชายที่หอบถุงผ้าเล็กๆ ไว้ในมือมาคนละถุงด้วยความดีใจเวลาต่อมาฉู่หลิงจึงได้รู้ว่า เป็นเพราะหอหงไถถูกยึดไปเป็นของหลวง บ่อยครั้งนายอำเภอเขตซิ่งอันก

    Last Updated : 2025-04-08
  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 9 จับปลา

    “ต้มผักก็ไม่ยากเลยนี่ พวกเจ้ากินสิ่งนี้กันทุกวันเช่นนั้นหรือ” หญิงสาวจัดการต้มผักป่าในกระทะใบโต ซึ่งมันก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการรอน้ำให้เดือด เทผักลงไปเติมเกลือเล็กน้อยก็เสร็จแล้วกินเพื่ออยู่น่ะพอได้ แต่กินให้เติบโตแข็งแรงผลิตเลือดเกรดเอให้นาง เท่านี้ไม่พอ! แวมไพร์สาวคิดในใจอาหารมื้อแรกในยุคโบราณของฉู่หลิงผ่านไปอย่างรวดเร็ว และก็เป็นอย่างที่นางคิด ดูจากสีหน้าของเด็กๆ และเสียงท้องร้องโครกครากที่ดังแว่วมาบ่อยๆ พวกเขาย่อมไม่อิ่มเจียวจูเองก็เป็นเด็กสาวที่เด็ดขาดพอสมควร ถึงทุกคนจะไม่อิ่มและอ้อนวอนขอข้าวเพิ่ม นางก็ยืนยันจะเก็บข้าวที่แบ่งส่วนเอาไว้ เพราะการมีกินไปทุกวัน ดีกว่าต้องอดในบางวันที่ไม่มีคนมาโยนข้าวสารไว้ให้ ก่อนหน้านี้นางเคยสงสารน้องๆ จึงต้มข้าวทั้งหมดที่มีไปจนหมด ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวชาวบ้านยุ่งอยู่กับการเพาะปลูกในที่ดินของพวกเขา จึงไม่มีเวลามาใส่ใจเด็กในหอหงไถกอปรกับต่างคนต่างก็คิดว่าคงมีคนมาโยนข้าวไว้ให้บ้างแล้ว นางและน้องๆ ต้องอดข้าวไปถึง 6 วัน ได้กินแต่ผักป่าที่เด็กๆ ไม่ชอบกินเพื่อประทังชีวิตไปเท่านั้นต่อมานางจึงรู้ว่าควรจัดการกับเรื่องอาหารอย่างไร และทำให้ทุกๆ คนมีข้าวเ

    Last Updated : 2025-04-08
  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 10 วางแผน

    “ปลาเยอะมากเลย” ตงเหม่ยแทบจะน้ำตาไหล ไม่คิดมาก่อนว่าปลาที่นางเคยมองอยู่เกือบทุกครั้งที่เดินผ่านลำธาร วันนี้นางจะได้กินพวกมันสมใจ“ทีนี้เชื่อข้าหรือยัง ว่ามีข้าอยู่พวกเจ้าจะได้กินอิ่ม” หญิงสาวมองดูปลาที่ดิ้นกระแด่วอยู่เต็มถังไม้สองใบ อดยกยอตัวเองอยู่อีกหลายประโยคไม่ได้ด้วยความภาคภูมิใจ “ข้าเชื่อแล้วเจ้าค่ะพี่สาว” หลิ่วจีรีบวิ่งมากอดแขนหญิงสาวเอาไว้พร้อมกับส่งเสียงออดอ้อนของลูกแมวน้อย“พวกเราก็เชื่อ แต่ว่า..พี่สาวให้พวกเราเล่นน้ำกันอีกสักครู่ได้ไหมขอรับ ไหนๆ พวกเราก็ตัวเปียกกันแล้ว” เว่ยหลงต่อรองทันที พวกเขาและเด็กชายที่เหลือต่างก็ยังคงอิดออดไม่ยอมขึ้นจากน้ำมารวมกลุ่มกับพวกเด็กผู้หญิง“ให้เล่นอีกพักเดียวพอนะ พวกเรายังมีงานต้องกลับไปทำอีกเยอะเลยทีเดียว” แวมไพร์สาวใจอ่อนลงทันทีเมื่อมีอาหารอยู่ในมือ อีกอย่างเด็กๆ ก็ควรได้พักผ่อนหย่อนใจกันบ้างเอ๋..ข้าเป็นคนมีเมตตาเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน? หญิงสาวรู้สึกติดขัดอยู่ในใจลึกๆ แต่ก็เลือกโทษว่าคงเป็นเพราะสารเคมีที่ถูกฉีดเข้าไปในร่างกายมีผลกับจิตใจที่เหี้ยมโหดของตน……….เนื่องจากปลาเต็มสองถังมีน้ำหนักมากเกินไป ฉู่หลิงจึงต้องแบ่งปลาออกไปใส่ไว้ในอกเ

    Last Updated : 2025-04-09
  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 11 ฉู่หลิงจะไม่ทน

    “พวกเจ้าอยู่จัดการที่นี่ต่อไปก่อนนะ ข้าจะขึ้นไปดูข้างบนเสียหน่อย” ฉู่หลิงเห็นว่าเด็กๆ จัดการทำความสะอาดครัวจนเกือบจะแล้วเสร็จ นางคิดจะไปค้นดูห้องด้านบนเผื่อจะพบของมีค่าที่นำไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินมาได้บ้าง ห้องโถงด้านล่างแม้จะมีเครื่องเรือนประเภทแจกันและภาพวาด แต่ของเหล่านั้นส่วนใหญ่จะวาดลวดลายเป็นรูปสัปดนในเชิงยั่วยุกามารมณ์ หากนำออกไปขายย่อมต้องมีคนคิดได้ว่าเป็นสิ่งของจากหอหงไถ นางยังไม่กล้าเสี่ยงสร้างปัญหากับคนของทางการพวกโต๊ะเก้าอี้หรือเครื่องเรือนขนาดใหญ่ที่มีมากเกินความจำเป็น ของพวกนี้อยู่ในสภาพปกติแต่ก็ชิ้นใหญ่เกินกว่าจะลักลอบขนออกไปขายได้ และนางยังไม่รู้ว่านำไปขายให้ผู้ใดด้วย สิ่งที่หญิงสาวมองหาก็คือเศษเงินหรือเครื่องประดับของนางคณิกาที่อาจจะยังตกหล่นหลงตาอยู่บ้างบนขั้นบันไดเด็กๆ คงจะใช้เป็นสนามเด็กเล่นส่วนตัวของพวกเขามันจึงไม่ค่อยมีฝุ่นจับ แต่เมื่อก้าวขึ้นมาถึงชั้นบนตามทางเดินเต็มไปด้วยฝุ่นจับตัวหนา คาดว่าตลอดสามปีที่ผ่านมาเด็กๆ คงไม่เดินขึ้นมาสักเท่าใดนักฉู่หลิงเปิดประตูเข้าไปค้นหาสิ่งของทีละห้องซึ่งมีทั้งหมด 14 ห้องอย่างใจเย็น “เสื้อผ้า ผ้าและผ้า!” ค้นดูไปหลายห้องแล้วนาง

    Last Updated : 2025-04-09
  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 12 ปวดท้อง

    “ฮึก!!” เสียงกลั้นสะอื้นดังมาจากหลิ่วจีเป็นคนแรก และตามด้วยอีกหลายเฮือกของบรรดาเด็กๆ ทั้งหมดที่นั่งรวมตัวกันอยู่“เอาละช่วยกันเก็บถ้วยจานไปล้าง แล้วอาบน้ำให้สะอาด วันนี้พวกเราจะนอนข้างล่างกันเหมือนเดิม พรุ่งนี้คงต้องจัดการเรื่องที่หลับที่นอนให้เสร็จไปอีกเรื่อง” หญิงสาวโบกมือไล่เด็กๆ แข็งใจไม่ยอมหันไปมองหน้าหลิ่วจีที่นั่งกลั้นก้อนสะอื้นจนตัวสั่น“คืนนี้ข้าจะเป็นคนดับตะเกียงเอง เจ้านอนหลับให้สบายเถิดเจียวจู” หญิงสาวเรียกตัวเจียวจูมาคุยก่อนที่นางจะแยกไปนอนที่ห้องพักเดิมที่นางเคยเข้าไปอาบน้ำ ยามนี้นางรู้แล้วว่าห้องเล็กเพียงห้องเดียวในชั้นล่าง เป็นห้องนอนส่วนตัวของนายหญิง หรือก็คือแม่เล้าประจำหอหงไถนั่นเอง ต่อไปฉู่หลิงก็ตั้งใจจะพักอยู่ในห้องนี้เพื่อคอยดูแลความเรียบร้อยและรอดับไฟตะเกียงให้เด็กๆ ยามค่ำคืน“เว่ยหลง ข้าจะแง้มประตูเอาไว้ หากเจ้าเกิดปวดท้องตอนกลางคืนก็มาเรียกข้า ข้าจะพาเจ้าไปเข้าส้วมเอง เข้าใจหรือไม่” เด็กชายตัวน้อยยืนบิดตัวหน้าแดงเอียงอายอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าตอบรับแล้ววิ่งหายไปนอนรวมกับกลุ่มเด็กชายในห้องรับรองแขกอีกด้านกลางดึกขณะที่ทั่วทั้งหอหงไถอยู่ในความมืดและเงียบส

    Last Updated : 2025-04-09
  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 13 ผิดปกติ

    “ช่วยข้าก่อไฟต้มน้ำที” ป้ายยาลงคอเว่ยหลงแล้ว หญิงชราก็หันมาชี้มือไปยังเตาไฟที่ก่อจากหินอย่างง่ายๆ หน้าเรือน สั่งให้เจียวจ้านใช้ไฟจากตะเกียงไปจุดเตาอีกทีหนึ่ง พอเจียวจ้านตั้งน้ำได้ นางก็ขอยืมตะเกียงกลับเข้าไปในเรือนอีกครั้ง และกลับมาพร้อมกับห่อผ้าเล็กๆ อีกห่อเทวัตถุสีน้ำตาลแห้งๆ ที่คล้ายว่าจะเป็นสมุนไพรตากแห้งอะไรเทือกนั้นลงหม้อ โชคดีที่ระหว่างรอต้มยา เว่ยหลงก็อ่อนแรงจนเผลอหลับไปและเขาไม่ได้ถ่ายของเสียออกมาอีก เว่ยหลงถูกปลุกให้ลุกขึ้นมาดื่มยาและตามด้วยน้ำเกลือที่เหลืออีกครึ่งถ้วย เขาถ่ายเหลวอีกสองครั้ง แต่ก็เว้นระยะห่างออกไปพอสมควรฉู่หลิงคาดคะเนว่าระยะเวลาที่พวกนางเฝ้ารอดูอาหารของเว่ยหลง รวมทั้งขอยืมใช้ส้วมในเรือนผู้อื่นอีกสองครั้ง ก็น่าจะราวๆ สามชั่วโมง หรือเทียบเท่ากับเกือบสองชั่วยามตามเวลาที่คนในยุคนี้ใช้เปรียบเทียบก่อนที่หญิงสาวจะเอ่ยปากขอร้องให้เด็กที่เหลือได้นอนค้างคืนที่บ้านหญิงชราจนถึงเช้า อีกฝ่ายก็ชิงเอ่ยคำออกมาเสียก่อน“อาการน่าจะดีขึ้นแล้วล่ะ แบกเขากลับไปเอายาที่เหลือติดหม้อเทใส่ถ้วยไปด้วยก็แล้วกัน หากไม่มีความจำเป็นก็ไม่ต้องมาที่นี่กันอีก” นางกล่าวจบก็ลุกเดินเข้าไปในเร

    Last Updated : 2025-04-10
  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 14 เพื่อนบ้าน

    “ท่านบอกว่าหากไม่จำเป็นก็ไม่ต้องมา แต่ข้ามีเรื่องจำเป็นเจ้าค่ะ” ฉู่หลิงรีบเดินเข้าไปให้ถึงแคร่ไม้ตัวเล็กหน้าเรือนท่านยาย เอาสิ! หากท่านสาดน้ำมาอีกก็เปียกเรือนตัวเองนะ“มีอะไรก็รีบว่ามา เด็กนั่นยังไม่หายป่วยหรือ? เจ้าก็พาเขาไปหาหมอสิ ข้าไม่ใช่หมอ” หญิงชราทำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจอยู่ครู่หนึ่ง ก็เริ่มออกเสียงบ่นว่า“ข้ามาขอบคุณท่านยายต่างหาก เว่ยหลงอาการดีขึ้นตั้งแต่ดื่มยาจากท่านไปเจ้าค่ะ และนี่ปลา ข้านำมันมาตอบแทนค่ายาที่ท่านต้องเสียไป”“เอาวางไว้นั่นล่ะ เสร็จธุระแล้วเจ้าก็รีบไปเสียสิ” หญิงชรากล่าวโดยไม่หันมามองหน้าฉู่หลิง นางยังคงก้มหน้าวุ่นวายอยู่กับการก่อไฟบนเตาที่ใช้หินมาเรียงซ้อนกัน“ไม่กลับจนกว่าข้าจะรู้ว่าเด็กๆ เคยไปทำอะไรให้ท่านต้องเดือดเนื้อร้อนใจหรือไร เหตุใดท่านจึงต้องทำท่าโกรธเคืองขับไล่พวกเราด้วยเล่า?” ฉู่หลิงยิ่งรู้สึกว่ามันผิดปกติมากเกินไปแล้วจริงๆ นางจึงเอ่ยปากถามออกมาโดยไม่อ้อมค้อม“เด็กพวกนั้นไม่เคยทำอะไรให้ข้าต้องเจ็บช้ำน้ำใจ แต่เป็นหญิงคณิกาชั้นต่ำอย่างเจ้าต่างหากที่ข้ารังเกียจ!” หญิงชราลุกขึ้นยืนหันหน้ามาเผชิญกับฉู่หลิงโดยตรงแวมไพร์สาวถึงกับตาเหลือกงุนงงเป็นไก่ตาแตก นา

    Last Updated : 2025-04-10
  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 15 ยายเฉินติดกับ

    นางมองหาหม้อดินเผาปากกว้างมีฝาปิดขนาดเหมาะมือไว้ได้ใบหนึ่ง หยิบมันออกมาชูให้เด็กๆ ทุกคนมองเห็นได้ชัดเจนเพื่อจดจำไว้ให้ขึ้นใจว่าจากนี้ต่อไป หม้อดินเผาใบนี้จะกลายเป็นสมบัติส่วนตัวของเว่ยหลง ห้ามผู้ใดนำมาใช้โดยเด็ดขาด!!“ข้าให้เจ้าใช้ได้เฉพาะเวลากลางคืนเท่านั้น ทุกเช้าเจ้าจะต้องนำมันไปเทและล้างทำความสะอาดให้ดี เวลากลางวันเจ้าต้องเข้าส้วมตามปกติเหมือนคนอื่น ๆ เข้าใจหรือไม่”“เข้าใจแล้วขอรับ” เว่ยหลงฉีกยิ้มออกมาได้ในที่สุด อีกทั้งยังพยายามอวดกระโถนส่วนตัวที่ตนมีไว้ครอบครองแต่เพียงผู้เดียวด้วยความภาคภูมิใจ……….ตลอดทั้งวันเด็กๆ ช่วยกันขนเสื้อผ้า ผ้าปูเตียง ปลดผ้าม่านลงมากองรวมไว้ในห้องรับแขกห้องใหญ่ในชั้นล่าง เด็กๆ ก็เหน็ดเหนื่อยจนหิวโซกันแล้ว ฉู่หลิงจึงให้พวกเขาหยุดงานแต่เพียงเท่านี้นางเลือกเสื้อผ้าที่มีสภาพใหม่และดูสุภาพเก็บเอาไว้ก่อน เด็กผู้หญิง 7 คนรวมทั้งนางอาจจะได้ใช้พวกมันในอนาคต ส่วนที่เหลือก็ให้เด็กๆ เอาไว้ทำผ้าขี้ริ้วเพื่อขึ้นไปเช็ดถูห้องด้านบนในวันพรุ่งนี้“พี่เจียวจู พี่ตงเหม่ย ทำปลาย่างกันเถิดเจ้าค่ะ ปลาย่างอร่อยกว่าปลาต้มมากนักข้าชอบกิน” ไป๋ซุ่นเด็กหญิงวัย 7 ปีผู้ที่ไม่ค่อยจะ

    Last Updated : 2025-04-10

Latest chapter

  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 26 ผู้ตรวจการพิเศษ

    “พรุ่งนี้หากพี่สาวจะเชือดกระต่าย ก็ให้เป็นข้า ตงเหม่ย เจียวจ้าน ฝานเจิ้ง อู๋ฉีและอู๋ซินคอยเรียนรู้กับพี่สาวหลิงหลิง พวกเด็กเล็กๆ ไม่ต้องมาดู รอจนมันกลายเป็นก้อนเนื้อเสียก่อนพวกเจ้าต้องอยากกินมันจนน้ำลายไหนแน่”ฉู่หลิงต้องยกนิ้วให้กับเจียวจูอีกครั้งสำหรับความกล้าหาญของนาง การฆ่ากระต่ายที่มีรูปลักษณ์น่ารักน่าเอ็นดูย่อมแตกต่างจากการฆ่าปลาอยู่แล้ว เดิมทีนางก็หวั่นใจอยู่ไม่น้อยว่าจะสอนให้เด็กๆ รู้วิธีการเชือดกระต่ายหรือไม่ นางเป็นแวมไพร์ไม่สามารถเอาความคิดของมนุษย์มาตัดสินเรื่องความโหดเหี้ยมได้เลย นางรู้แค่ว่าต้องดื่มกินและหาอาหารเลี้ยงตัวเท่านั้นแต่เวลานี้เด็กๆ กลับจัดการความคิดของพวกเขาได้ด้วยตนเอง ทำให้หญิงสาวพึงพอใจอยู่ไม่น้อยที่เด็กๆ รู้ว่านี่คือชีวิตจริงที่เขาต้องเผชิญ หญิงสาวค่อยๆ ย่องกลับเข้าไปนอนในห้องตามเดิม ผ่านไปอีกพักใหญ่หลังจากเด็กๆ ร่ำลา 21 ชีวิตในครัวกันแล้ว แสงไฟก็กลับมาส่องสว่างที่กลางห้องโถง ก่อนที่จะมีเสียงฝีเท้าของเด็กหลายคนแยกย้ายกันกลับห้องไป และน่าจะเป็นเจียวจูที่รับหน้าที่ดับไฟในตะเกียงตามเดิม……….ตอนเช้ามืดท่านยายเฉินก็เดินเข้ามาในหอหงไถเพื่อช่วยฉู่หลิงทำซาลาเ

  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 25 ล่าเนื้อ

    “หยิบเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใช้เไปเพิ่มด้วยหลิ่วจี เอาไปสัก 10 ตัวก็พอ” ฉู่หลิงนึกขึ้นได้ ตะกร้ากับถังน้ำยังไม่เพียงพอสำหรับการล่าเนื้อในครั้งนี้“บ่ายมากแล้วนะ เข้าป่าไปตอนนี้กว่าจะกลับก็ค่ำมืดกันพอดี เช่นนั้นข้าจะอยู่รอพวกเจ้าเป็นเพื่อนเจียวจูกับตงเหม่ยที่นี่ก่อนก็แล้วกัน” ยายเฉินเสนอตัวเมื่อมองดูพระอาทิตย์ด้านนอก“ท่านยายอยู่ก่อนก็ดีเจ้าค่ะ พวกเราจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด”ฉู่หลิงไม่รอช้าเมื่อได้รับคำเตือนจากท่านยายเฉิน แม้ว่าเรื่องคนร้ายที่ทางการคอยเฝ้าระวังอยู่เงียบไปแล้ว แต่ก็ไม่มีข่าวว่าถูกจับตัวไป นางควรพาเด็กๆ กลับมาให้ถึงหอหงไถก่อนที่จะค่ำ และที่สำคัญนางตื่นเต้น นางจะได้ล่าเนื้อ!!กลุ่มเด็กชายหญิง 17 คนเดินลัดเลาะไปตามเส้นทางประตูด้านหลังหอหงไถ ข้ามลำธารเล็กๆ ไปสู่ชายป่าโดยมีฉู่หลิงเป็นผู้นำกลุ่มด้วยความสามารถในการหาจับสัตว์ที่ติดตัวมาของแวมไพร์สาว นางมองปราดเดียวก็เห็นเนินดินที่เหมาะสมกับการเป็นที่อยู่อาศัยของกระต่ายป่าหญิงสาวให้เด็กทุกคนหยุดยืนรออยู่ห่างๆ ส่วนตนเองก็ลอบสำรวจไปรอบๆ เนินดินสี่กองสูงที่รวมตัวกันอยู่เป็นลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้า ภายนอกมีโพรงหลายโพรงซึ่งเป็นทางเข้าออกข

  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 24 เนื้อที่ดี

    “ตัวใหญ่จริงๆ ข้าเอาหมดทั้งสามตัวนี่ล่ะ เจ้าคิดราคาอย่างไรเล่า?” เถ้าแก่เนี้ยแซ่เวินไม่ได้ซักไซ้ต่อ นางไม่ได้คิดเอาดีทางด้านการค้าปลา เด็กเหล่านี้จะมีวิธีการอย่างไรนางย่อมไม่บังคับถามความจากเขาก่อนหน้านี้หวังหยวนได้พาเด็กๆ ไปสอบถามราคาปลาจากพ่อค้าคนอื่นบ้างแล้ว ปลาชนิดเดียวกันที่ขายอยู่ในตลาดเป็นปลาตาย คิดราคาตามน้ำหนัก 1 ชั่ง ราคา 8 อีแปะ ขนาดของปลาสามตัวในถังเป็นปลาใหญ่แต่ละตัวน่าจะหนักเกือบ 3 ชั่ง (ราวๆ 1.5 กิโลกรัม) และยังเป็นปลาเป็นซึ่งสดกว่าปลาในตลาดมากนัก ทำให้เจียวจ้านไม่รู้จะขายอย่างไร และเขาก็นับตัวเลขได้เพียงไม่เกินนิ้วมือของตน ทำให้การคิดราคายิ่งยากเข้าไปใหญ่“ท่านป้ามีน้ำใจกับพวกเราในครั้งก่อนข้ายังไม่ลืม ท่านป้าอยากซื้อเท่าใดพวกเราก็จะยินยอมขายให้ขอรับ” “ฮ่าๆๆ ข้าบอกท่านแล้วอย่างไรสามี เด็กพวกนี้เป็นเด็กมีน้ำใจดีจริงๆ” เถ้าแก่เนี้ยเจ้าของร้านลุกขึ้นยืนยกผ้าเช็ดหน้ามาป้องปากแล้วหัวเราะเสียงดังอย่างได้ใจยามนี้เด็กชายสี่คนและหวังหยวนจึงได้เห็นว่ามีบุรุษอยู่ในร้านอีกคนซึ่งกำลังเดินยิ้มออกมา บนร่างกายของบุรุษผู้มาใหม่มีผ้าคาดเอวแบบผ้ากันเปื้อนและในมือก็ยังมีคราบแป้งขาวติด

  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 23 เด็กผู้กล้าหาญ

    ซาลาเปาใกล้จะสุก กลุ่มเด็กชายทั้งหมดก็ตื่นขึ้นมาล้างหน้าขัดฟันเช่นกัน เจียวจ้าน ฝานเจิ้ง อู๋ซินและอู๋ฉี สี่พี่ชายใหญ่ ทำหน้าที่แบกปลา 7 ตัวที่ขังไว้ในถังไม้ตั้งแต่เมื่อวานออกไปเตรียมวางขายหน้าหอหงไถ ตามด้วยน้องชายที่เหลืออีก 8 คนจับคู่กันนำซาลาเปาร้อนๆ 40 ลูกออกไปทีหลัง“มากันเสียที ข้าจะรีบไปขึ้นเกวียนของหวังหยวน หากพวกเจ้ามาช้ากว่านี้ข้าคงต้องหิ้วท้องแห้งไปจนถึงเมืองสือเจียแน่” นางจวงหญิงวัยกลางคนร่างท้วมเจ้าของคำพูดไม่น่าฟังเมื่อวานปรี่เข้ามาหากลุ่มเด็กชายก่อนใคร“แป้งซาลาเปาของเจ้าทำจากอะไรกันนะ เวลาเคี้ยวเข้าไปทั้งหอมทั้งไม่ติดฟัน ถูกใจข้านัก เอามาให้ข้า 4 ลูกก่อนข้าจะรีบไปแล้ว"ตงหยางได้ยินว่าท่านป้าตรงหน้าจะซื้อซาลาเปาคราวเดียวถึง 4 ลูกเขาก็เลิ่กลั่กทำอะไรไม่ถูก เมื่อวานขายซาลาเปาลูกสองลูกก็ยัดใส่มือคนผู้นั้นไปเสียก็จบ แต่ซาลาเปา 4 ลูกเขาไม่ได้เตรียมอะไรมาห่อให้ลูกค้า “ท่านป้าขอรับ ท่านจะถือไปหมดทั้งสี่ลูกเลยได้หรือไม่ขอรับ” เด็กชายมีสีหน้าลำบากใจ กลัวว่าอีกฝ่ายจะถือไม่หมดแล้วเปลี่ยนใจเป็นซื้อเพียงแค่สองลูกแทน“ไม่มีอะไรใส่ใช่หรือไม่ เอาอย่างนี้ เดี๋ยวข้าจะยืนกินตรงนี้เสียเลยส

  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 22 ขายซาลาเปา

    “โอ..เกิดอะไรขึ้นกันเล่านี่ พวกเจ้าได้ปลามาเยอะหรือไรถึงพากันออกมาข้างนอกกันหลายคนเช่นนี้” ฉีฟ่งคนเดิมส่งเสียงร้องทักเมื่อเห็นกลุ่มเด็กชายเดินแถวหิ้วตะกร้าออกมาหน้าประตูแต่เช้าตรู่“ท่านลุง วันนี้พวกเราไม่มีปลามาขาย แต่เราขายซาลาเปาขอรับ” เว่ยหลงเคยพบกับนายทหารกลุ่มนี้เมื่อครั้งที่ติดตามเจียวจ้านออกมาขายปลา เขาจึงวิ่งเข้าไปหากลุ่มลูกค้าเก่าที่ช่วยอุดหนุนซื้อปลาไปทุกครั้งที่พวกตนเอาออกมาขาย“หน้าตาดีนี่ สีก็แปลกตาด้วย ดูท่าจะใช้ได้นะ” นายทหารพากันล้อมวงมาดูซาลาเปาในตะกร้าของเว่ยหลงกับตงหยางที่จับคู่กันออกมาขาย“ข้าจะซื้อชิมดูก่อนแล้วกัน เจ้าขายลูกละเท่าไรเล่า” “นี่เป็นไส้ถั่วเขียวขอรับ ลูกละสี่อีแปะ พวกเรามีไส้ถั่วเขียวอย่างเดียวเลย อีกไม่นานถึงจะทำไส้อื่นออกมาขายเพิ่มขอรับ” ตงหยางเป็นฝ่ายตอบบ้างนายทหารห้าคนควักเงินคนละสี่อีแปะออกมาซื้อคนละหนึ่งลูกโดยไม่ลังเล ใช่ว่าพวกตนไม่เคยโยนข้าวสารเข้าไปในกำแพงหอหงไถเสียเมื่อใด คราวนี้เด็กๆ เริ่มหัดค้าขายกันเอง สมควรแล้วที่จะส่งเสริมเห็นน้องเล็กสุดในกลุ่มขายซาลาเปาได้แล้ว กลุ่มเด็กชายที่เหลือก็ตื่นเต้นกันใหญ่ พวกเขารีบเดินออกห่างจากเว่ยหลง เพื่

  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 21 ของดี

    “ข้าก็ทำของข้าได้เท่านี้ ท่านทำได้ดีกว่านี้ก็ไปทำเองเสียสิ!”“ชิชะ! นังหนู! เจ้ากลับไปกวนไส้เอาไว้เลย พรุ่งนี้ยามอิ๋น (03.00-04.59) ข้าจะไปทำแป้งแล้วจะอยู่นึ่งซาลาเปาให้จนเสร็จ ยามเหม่า (05.00-06.59) ให้เด็กๆ เอาออกไปขายได้เลยก็แล้วกัน!” หญิงชราชี้หน้าหญิงสาวที่ทำท่าแง่งอนใส่ตน“ตกลงเจ้าค่ะ! ข้ากลับแล้ว อีกเดี๋ยวจะให้เจียวจ้านเอาตะเกียงมาทิ้งไว้ให้ท่าน ตอนกลางคืนจะได้เดินไปได้สะดวก หรือท่านจะให้พวกเขามารับ” “ไม่ต้อง! มีตะเกียงแล้วข้าย่อมเดินไปเองได้” “เช่นนั้นก็เอาตามท่านว่า ข้าลาล่ะ!" หญิงสาวเดินฉับๆ เร่งฝีเท้าจากไปอย่างรวดเร็ว แม้แต่ซาลาเปาที่เหลืออยู่ในจานอีกสี่ลูกก็ไม่ทิ้งไว้ให้ยายเฉินดูต่างหน้า หากแต่ใบหน้างามปรากฏรอยยิ้มกว้างแอบขอโทษหญิงชราอยู่ในใจนางเฉินหอบหายใจถี่ด้วยความโมโห กอปรกับเมื่อครู่นางตะเบ็งเสียงแข่งกับฉู่หลิงอยู่นานสองนาน ครู่หนึ่งร่างเล็กก็ทรุดนั่งลงบนแคร่ไม้หน้าเรือน “เหมือนจะมีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้องอยู่หรือเปล่านะ" ท่านยายเฉินขมวดคิ้วมุ่นจนหัวคิ้วพันเป็นเส้นเดียวกัน“นางหญิงบ้า! หลอกข้าอีกแล้ว!” แม้จะทำท่าตีอกชกตัวคล้ายว่ากำลังโมโหอย่างหนัก แต่มุมปากของผู้ชรา

  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 21 ของดี

    “ข้าก็ทำของข้าได้เท่านี้ ท่านทำได้ดีกว่านี้ก็ไปทำเองเสียสิ!”“ชิชะ! นังหนู! เจ้ากลับไปกวนไส้เอาไว้เลย พรุ่งนี้ยามอิ๋น (03.00-04.59) ข้าจะไปทำแป้งแล้วจะอยู่นึ่งซาลาเปาให้จนเสร็จ ยามเหม่า (05.00-06.59) ให้เด็กๆ เอาออกไปขายได้เลยก็แล้วกัน!” หญิงชราชี้หน้าหญิงสาวที่ทำท่าแง่งอนใส่ตน“ตกลงเจ้าค่ะ! ข้ากลับแล้ว อีกเดี๋ยวจะให้เจียวจ้านเอาตะเกียงมาทิ้งไว้ให้ท่าน ตอนกลางคืนจะได้เดินไปได้สะดวก หรือท่านจะให้พวกเขามารับ” “ไม่ต้อง! มีตะเกียงแล้วข้าย่อมเดินไปเองได้” “เช่นนั้นก็เอาตามท่านว่า ข้าลาล่ะ!" หญิงสาวเดินฉับๆ เร่งฝีเท้าจากไปอย่างรวดเร็ว แม้แต่ซาลาเปาที่เหลืออยู่ในจานอีกสี่ลูกก็ไม่ทิ้งไว้ให้ยายเฉินดูต่างหน้า หากแต่ใบหน้างามปรากฏรอยยิ้มกว้างแอบขอโทษหญิงชราอยู่ในใจนางเฉินหอบหายใจถี่ด้วยความโมโห กอปรกับเมื่อครู่นางตะเบ็งเสียงแข่งกับฉู่หลิงอยู่นานสองนาน ครู่หนึ่งร่างเล็กก็ทรุดนั่งลงบนแคร่ไม้หน้าเรือน “เหมือนจะมีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้องอยู่หรือเปล่านะ" ท่านยายเฉินขมวดคิ้วมุ่นจนหัวคิ้วพันเป็นเส้นเดียวกัน“นางหญิงบ้า! หลอกข้าอีกแล้ว!” แม้จะทำท่าตีอกชกตัวคล้ายว่ากำลังโมโหอย่างหนัก แต่มุมปากของผู้ชรา

  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 20 นี่เรียกว่า?

    เด็กชายสี่คนสลับกันเล่าเหตุการณ์ความคึกคักของเมืองสือเจีย ให้กับเด็กคนอื่น ๆ รวมทั้งฉู่หลิงฟัง พร้อมทั้งแจกจ่ายลูกอมน้ำตาลปั้นให้ทุกคนคนละหนึ่งเม็ดฉู่หลิงเองก็รับเอาน้ำตาลปั้นมาอมไว้ในปากเช่นกัน นางไม่ได้กินขนมหวานเช่นนี้มานานมากแล้ว มีเพียงนางเฉินที่ปฏิเสธ แต่นั่นก็ทำให้เจียวจ้านแอบโล่งใจ เพราะตนลืมนึกไปว่าท่านยายเฉินก็มาอยู่ที่หอหงไถเป็นประจำแล้วเช่นกัน หากนางอยากกินตนก็คงต้องแบ่งให้หญิงชรา“หอหงไถของเราว่าใหญ่แล้ว แต่มันดูธรรมดามากเลยเมื่อเทียบกับอาคารและสิ่งก่อสร้างในเมืองสือเจีย บ้านเรือนของพวกเขาก็แข็งแรงแน่นหนา ไม่ได้ทรุดโทรมเหมือนบ้านเรือนชาวบ้านที่อยู่นอกเมือง” ฝานเจิ้งบรรยายออกมาเป็นฉากๆ“ผู้คนที่ข้างนอกก็ใจดีด้วยนะ พี่ชายทหารข้างนอกก็ไม่ได้ดุเสียหน่อย พวกเขาคุยกับพวกเราตั้งหลายประโยคและยังให้เราผ่านเข้าเมืองโดยไม่คิดเงินอีกด้วย” อู่ซินชอบพี่ชายทหารเป็นที่สุด“ในเมืองมีผู้คนพลุกพล่าน พวกเขาหลายคนแต่งกายด้วยเสื้อผ้างดงาม ข้าดูออกเลยว่าคนไหนมาจากนอกเมืองคนไหนอาศัยอยู่ในเมือง พวกเขามีมากจนแทบจะเดินชนกันเลยด้วยซ้ำ!” ฟังถึงตรงนี้ดวงตาของแวมไพร์สาวฉู่หลิงก็เคลิ้มฝันไปถึงไหนต่อไห

  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 19 คุณธรรม

    “พวกเจ้ามาจากหอหงไถเช่นนั้นหรือ?” สตรีเจ้าของร้านเริ่มสนใจเด็กๆ ขึ้นมาบ้าง ในมือนางหยิบเค้กถั่วแดงใส่ลงไปในกล่องเรียบร้อยแล้ว เมื่อเห็นหวังหยวนปฏิเสธนางก็รีบชักมือที่กำลังจะส่งให้เจียวจ้านกลับมา รู้สึกเห็นด้วยกับหวังหยวน“ขอรับ พวกเราหาปลามาขายได้รายได้มานิดหน่อยก็เลยเข้าเมืองมาหาซื้อของใช้ที่จำเป็นขอรับ” “เอาอย่างนี้สิ ที่ร้านข้ายังมีขนมอีกตั้งหลายอย่าง หรือไม่อย่างนั้นเจ้าก็เลือกลูกอมนี่ไป 5 เม็ด 2 อีแปะ อย่างนี้จะได้แบ่งกันได้หลายคน” หญิงเจ้าของร้านรีบเสนอขายสินค้าอย่างอื่น นางไม่รู้ว่าเด็กในหอหงไถมีจำนวนกี่คนกันแน่ แต่ย่อมไม่น้อยกว่าสิบคนฝานเจิ้ง อู๋ฉีและอู๋ซิน ต่างก็พากันมองไปที่ลูกอมน้ำตาลปั้นด้วยความอยากกิน รอฟังการตัดสินใจจากเจียวจ้านที่เป็นพี่ใหญ่ในกลุ่มเด็กชาย“ท่านอาหวังเค้กถั่วแดงนั้นข้าตั้งใจซื้อให้ท่านจากใจจริง แล้วข้าจะเอาลูกอมอีก 10 เม็ดขอรับ” สามเด็กชายได้ฟังก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย พวกเขามีกัน 19 คน หากเจียวจ้านซื้อไปเพียงสิบเม็ด ย่อมต้องให้น้องที่อายุน้อยกว่าได้กินก่อน พวกตนเป็นกลุ่มรุ่นพี่คงอดแน่แล้ว แต่เงินแปดอีแปะเด็กชายก็พอจะนับตัวเลขได้ว่ามันซื้อได้เพียงเท่านั

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status