หน้าหลัก / รักโบราณ / แม่หม้ายแฝดสาม / ทะลุมิติมาในร่างแม่หม้าย.

แชร์

แม่หม้ายแฝดสาม
แม่หม้ายแฝดสาม
ผู้แต่ง: ต้าเหนิง

ทะลุมิติมาในร่างแม่หม้าย.

ผู้เขียน: ต้าเหนิง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-13 06:23:40

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

เสียงกรีดร้องของเด็ก ๆ ดังไปทั่วเรือนหลังเล็กที่ทรุดโทรม ซูหนิงเหยียนยืนตระหง่านอยู่กลางลานบ้าน ดวงตาแข็งกร้าวราวกับพายุโหมกระหน่ำ มองดูเด็กทั้งสามที่คุกเข่าตัวสั่นอยู่ตรงหน้า

“พวกเจ้ามันตัวกาลกิณี! ถ้าไม่มีพวกเจ้า ข้าคงไม่ต้องใช้ชีวิตต่ำต้อยเช่นนี้!” เธอตวาดเสียงแข็ง กวาดสายตามองลูกทั้งสามด้วยความโกรธเคือง

เด็ก ๆ ก้มหน้าซ่อนหยาดน้ำตา ไม่กล้าส่งเสียงโต้แย้งใด ๆ พวกเขารู้ดีว่าแม่ของตนไม่เคยปรานีใคร แม้แต่ลูกในไส้ก็ไม่เว้น

ซูหนิงเหยียนกำลังเงื้อมมือขึ้นเพื่อทุบบนหลังของลูกชายคนโต ทันใดนั้น ความรู้สึกวิงเวียนก็พุ่งเข้าใส่ร่างของเธอ ความเจ็บปวดแล่นขึ้นสมองอย่างรุนแรง โลกทั้งใบหมุนคว้างก่อนที่ร่างของเธอจะทรุดฮวบลงกับพื้น

ตึง!

ร่างของนางแน่นิ่งไปต่อหน้าต่อตาเด็กทั้งสาม คนโตรีบพุ่งเข้าไปเขย่าตัวแม่ของตน ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว “ท่านแม่! ท่านแม่!”

ไม่มีเสียงตอบกลับ ซูหนิงเหยียนหมดสติไปแล้ว

โลกอนาคต

เสียงหวอของรถพยาบาลดังระงมกลางถนน หญิงสาวคนหนึ่งนอนแน่นิ่งอยู่บนเปล รถพยาบาลเร่งฝ่าการจราจรด้วยความเร็วสูง ทีมแพทย์เร่งช่วยเหลือเธออย่างสุดความสามารถ แต่หัวใจของเธอเต้นช้าลงเรื่อย ๆ ก่อนที่เครื่องวัดชีพจรจะส่งเสียงดัง ปี๊บ! ยาวเหยียด…

ทุกอย่างดับวูบลงสู่ความมืดมิด

โลกยุคจีนโบราณ

เปลือกตาของซูหนิงเหยียนกระตุกเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะลืมตาขึ้นมา ดวงตาของเธอที่เคยเย็นชาเปลี่ยนเป็นแววตาตกตะลึงและสับสน

“นี่มัน…ที่ไหน?” เสียงหวานแหบพร่าดังขึ้น

หญิงสาวกะพริบตาถี่ ๆ มองไปรอบตัวด้วยความตกใจ เธอพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนพื้นห้องไม้เก่า ๆ รอบข้างมีข้าวของกระจัดกระจาย บรรยากาศไม่คุ้นเคยแม้แต่น้อย

ก่อนที่เธอจะได้ตั้งสติ เสียงสะอื้นก็ดังขึ้นจากมุมห้อง

เธอหันไปมอง และพบกับเด็กสามคนที่กำลังเบียดกันอยู่ด้วยความหวาดกลัว ดวงตาของพวกเขาแดงก่ำ น้ำตาไหลอาบแก้ม ขณะที่พวกเขาจับจ้องเธอด้วยสายตาหวาดระแวงและสับสน

หญิงสาวขมวดคิ้ว “นี่มัน…เกิดอะไรขึ้น? เด็กพวกนี้เป็นใคร?”

เธอพยายามลุกขึ้นนั่ง แต่กลับรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งร่าง ความทรงจำแปลกประหลาดพรั่งพรูเข้ามาในหัวราวกับกระแสน้ำเชี่ยวกราก เธอเห็นภาพของหญิงคนหนึ่งที่หน้าตาเหมือนเธอไม่มีผิดเพี้ยน แต่กลับมีบุคลิกที่โหดร้ายและใจร้าย

ซูหนิงเหยียน… นี่มันชื่อของข้านี่?

หญิงสาวตกใจ ดวงตาเบิกกว้างเมื่อเข้าใจความจริง เธอไม่ได้อยู่ในโลกเดิมอีกต่อไปแล้ว!

เธอ… ได้ทะลุมิติเข้ามาในร่างของหญิงแม่หม้ายที่มีลูกแฝดสามในยุคจีนโบราณ!

แม่คนใหม่

ซูหนิงเหยียนค่อย ๆ ลุกขึ้นจากพื้น แม้ร่างกายจะยังมึนงงและอ่อนแรง แต่เธอก็พยายามพยุงตัวเองให้ยืนขึ้น มือข้างหนึ่งกุมขมับแน่น ความรู้สึกปวดศีรษะราวกับมีใครเอาเหล็กร้อนมากระแทกซ้ำ ๆ แต่สิ่งที่ทำให้เธอปวดใจยิ่งกว่ากลับเป็นเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของเด็กทั้งสามที่ดังมาจากมุมห้อง

เธอหันไปมอง และพบว่าพวกเขากำลังขดตัวเบียดกันอยู่ที่มุมกำแพง ดวงตาแดงก่ำจากการร้องไห้ มือเล็ก ๆ กอดกันแน่นราวกับพยายามปกป้องกันและกันจากอันตราย

เธอสูดหายใจเข้าลึก พยายามข่มอารมณ์สับสนที่ถาโถมเข้ามา เด็กพวกนี้เป็นลูกของเธอในร่างนี้... พวกเขาคือแฝดสาม

หญิงสาวค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ ขณะที่เงาของเธอทอดลงบนตัวเด็ก ๆ พวกเขาก็สะดุ้งเฮือก ใบหน้าเล็กซีดเผือดราวกับหวาดกลัวว่าเธอจะลงโทษพวกเขาอีก

“ท่านแม่… ได้โปรดอย่าทำโทษพวกเราเลย…”

เสียงเด็กชายคนโตพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ดวงตาสีดำสนิทเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น

หัวใจของซูหนิงเหยียนกระตุกวูบ พวกเขากลัวเธอขนาดนี้เลยหรือ?

เธอเม้มปากแน่น ภาพความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมที่มักจะทุบตีและดุด่าลูก ๆ ผุดขึ้นมาในหัว นางหญิงคนก่อนเป็นคนเย็นชาและใจร้าย ไม่เคยมอบความรักให้เด็กพวกนี้เลย ไม่แปลกใจที่พวกเขาจะกลัวเธอ…

หญิงสาวคุกเข่าลงตรงหน้าเด็ก ๆ และเอื้อมมือไปหา พวกเขาสะดุ้งโหยง ตัวสั่นเทาอย่างเห็นได้ชัด เธอหยุดชะงัก ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยเสียงอ่อนโยนที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้

“ไม่ต้องกลัว ข้า…ข้าจะไม่ทำร้ายพวกเจ้า”

เด็กทั้งสามเงยหน้ามองเธออย่างไม่เชื่อสายตา พวกเขาไม่เคยได้ยินเสียงที่อ่อนโยนแบบนี้จากปากของมารดามาก่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียว

เธอยกมือขึ้นช้า ๆ ใช้หลังมือแตะเบา ๆ ที่แก้มของเด็กชายคนโต

“เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า?”

เด็กชายเบิกตากว้าง มองเธออย่างหวาดระแวงก่อนจะส่ายหน้าช้า ๆ แต่ยังคงไม่พูดอะไร

เธอหันไปมองเด็กหญิงฝาแฝดที่ตัวเล็กกว่า พวกเธอซุกตัวอยู่ด้านหลังพี่ชาย ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและไม่มั่นใจ

นี่คือเด็ก ๆ ที่เธอจะต้องดูแล… พวกเขาคือครอบครัวของเธอจากนี้ไป

หญิงสาวยิ้มบาง ๆ แม้ในใจจะหนักอึ้ง เธอต้องพิสูจน์ให้พวกเขาเห็นว่า "ซูหนิงเหยียน" คนเก่าได้จากไปแล้ว และเธอ… แม่คนใหม่ของพวกเขา จะไม่มีวันทำร้ายพวกเขาอีก

อาหารมื้อแรกของครอบครัว

ซูหนิงเหยียนตื่นขึ้นมาในยามเช้าตรู่ แสงแดดอ่อน ๆ ลอดผ่านหน้าต่างไม้เก่าเข้ามา เธอลืมตาขึ้นแล้วหันไปมองเด็ก ๆ ที่ยังคงหลับอยู่บนฟูกบาง ๆ ที่วางอยู่บนพื้นไม้ พวกเขาขดตัวแน่นด้วยผ้าห่มเก่า ๆ ผืนเดียวกัน

หญิงสาวขยับตัวลุกขึ้นเบา ๆ วันนี้เธอต้องพิสูจน์ให้พวกเขาเห็นว่า "แม่" ของพวกเขาเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ

อาหารเช้าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด

แต่เมื่อเธอเดินไปถึงห้องครัวที่อยู่ด้านหลังเรือน ก็ต้องชะงักไปเพราะภาพตรงหน้า...

ห้องครัวเล็ก ๆ มีเพียงเตาถ่านเก่า หม้อดินหนึ่งใบ และภาชนะที่แทบจะใช้งานไม่ได้ ไม่มีข้าวสาร ไม่มีเนื้อ ไม่มีผักสด มีเพียงเศษมันฝรั่งแห้งและถั่วเหลืองที่แข็งราวกับก้อนหิน

ซูหนิงเหยียนขมวดคิ้ว แบบนี้จะทำอาหารยังไงกัน?

เธอกอดอกครุ่นคิด ก่อนจะเดินออกไปสำรวจรอบ ๆ บ้าน และพบว่าในสวนหลังบ้านมีแปลงผักเล็ก ๆ ที่มีต้นหอม กระเทียมป่า และฟักทองลูกเล็ก ๆ ไม่กี่ลูก

หญิงสาวถอนหายใจ ยังดีที่มีของพวกนี้

เธอรีบเก็บฟักทองและถอนต้นหอมกับกระเทียม จากนั้นเดินกลับเข้าครัวและเริ่มลงมือทำอาหารด้วยวัตถุดิบที่มีอยู่

ไม่นานหลังจากนั้น...

กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของฟักทองผัดกับต้นหอมและกระเทียมลอยอบอวลไปทั่วเรือน

ซูหนิงเหยียนใช้ถั่วเหลืองแช่น้ำให้นุ่มก่อนนำไปต้มเป็นน้ำแกง เติมเกลือเล็กน้อยเพื่อให้มีรสชาติ จากนั้นเธอหั่นฟักทองเป็นชิ้นเล็ก ๆ ผัดกับต้นหอมและกระเทียมจนได้กลิ่นหอม ก่อนจะใส่น้ำลงไปให้กลายเป็นซุปอุ่น ๆ

แม้อาหารจะเรียบง่าย แต่เธอก็ตั้งใจทำมันอย่างสุดฝีมือ

เด็ก ๆ ตื่นขึ้นมาเพราะกลิ่นหอม

พวกเขาค่อย ๆ เดินออกมาจากห้องด้วยท่าทางงัวเงีย แต่เมื่อเห็นแม่ของตนกำลังจัดอาหารลงบนโต๊ะเล็ก ๆ ดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ

"ท่านแม่ทำอาหารเองหรือ?" เด็กชายคนโตถามเสียงเบา สีหน้าเต็มไปด้วยความระแวง

“ใช่” ซูหนิงเหยียนยิ้ม

“มาลองกินกันเถอะ”

เด็ก ๆ ยังคงลังเล แต่เมื่อเธอวางถ้วยซุปฟักทองร้อน ๆ ไว้ตรงหน้าพวกเขา กลิ่นหอมก็ทำให้พวกเขากลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว

เด็กหญิงฝาแฝดตักน้ำแกงขึ้นมาชิมคนละคำ ก่อนที่ดวงตากลมโตจะเป็นประกาย

"อร่อย!"

เด็กชายคนโตเห็นน้อง ๆ กินอย่างมีความสุข จึงค่อย ๆ ตักซุปขึ้นมาชิมบ้าง และสุดท้ายก็กินเงียบ ๆ แต่ท่าทางของเขาดูผ่อนคลายลงมากกว่าตอนแรก

ซูหนิงเหยียนมองเด็ก ๆ ที่กินอาหารด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่า "ครอบครัว" มีความหมายเพียงใด

ตั้งแต่นี้ไป... เธอจะดูแลลูก ๆ ให้ดีที่สุด

มื้อแรกที่อิ่มจนพุงกาง

เด็กทั้งสามนั่งล้อมวงกันรอบโต๊ะไม้เล็ก ๆ ที่มีรอยแตกร้าว แม้ว่าโต๊ะจะเก่า แต่บรรยากาศในเรือนกลับอบอุ่นเป็นพิเศษ

พวกเขามองถ้วยซุปฟักทองและข้าวต้มที่แม่ของพวกเขาทำด้วยสายตาลังเล แต่เมื่อได้ลองชิมคำแรก คำที่สองก็ตามมาอย่างรวดเร็ว และไม่นานก็เริ่มตักกันจนชามเกือบหมด

เด็กหญิงคนเล็กตบพุงตัวเองเบา ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองพี่ชายและพี่สาว “วันนี้ข้ากินอิ่มจังเลย!”

เด็กหญิงอีกคนพยักหน้าเห็นด้วย

“ข้าก็เหมือนกัน นานแล้วที่เราไม่ได้กินข้าวอิ่มแบบนี้”

ซูหนิงเหยียนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามมองเด็ก ๆ ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน

เธอรับรู้จากความทรงจำของร่างเดิมว่า เด็ก ๆ แทบไม่เคยได้กินอิ่มท้องเลยสักครั้ง เนื่องจาก "ซูหนิงเหยียน" คนก่อนเป็นคนที่ไม่สนใจดูแลลูก ๆ ของตัวเอง เอาแต่ใช้เงินไปกับเรื่องไร้สาระและทิ้งให้เด็ก ๆ หิวโหย

แต่จากนี้ไป จะไม่มีวันเป็นแบบนั้นอีก

“ถ้าอยากกินอิ่มแบบนี้ทุกวัน เจ้าต้องช่วยข้าดูแลเรือนและหาอาหารด้วยนะ” เธอพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้ม

เด็กชายคนโตเงยหน้าขึ้นมองเธอ สีหน้าเขายังมีแววระแวงเล็กน้อย แต่น้ำเสียงของเธอไม่ได้แข็งกร้าวหรือบังคับเหมือนเมื่อก่อน ทำให้เขาค่อย ๆ พยักหน้า “ข้าจะช่วยท่านแม่”

เด็กหญิงฝาแฝดก็มองหน้ากันก่อนจะยิ้มออกมา

“ข้าก็จะช่วย!”

ซูหนิงเหยียนหัวเราะเบา ๆ พลางลูบศีรษะเด็ก ๆ ด้วยความเอ็นดู

นี่เป็นก้าวแรกของครอบครัวใหม่ที่แท้จริง

หนี้สินจากอดีต

หลังจากที่เด็ก ๆ อิ่มท้องเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน พวกเขาก็นั่งพิงกันอย่างสบายใจอยู่บนเสื่อฟางภายในเรือน ซูหนิงเหยียนนั่งมองเด็ก ๆ ด้วยความรู้สึกอบอุ่นในใจ

แต่ไม่นาน…

ปัง! ปัง! ปัง!

เสียงเคาะประตูดังสนั่นจนฝุ่นร่วงลงมาจากขื่อเรือน เด็กทั้งสามสะดุ้งเฮือก รีบขดตัวเข้าใกล้กัน ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“นังซูหนิงเหยียน! ออกมาเดี๋ยวนี้!”

เสียงแหลมของหญิงวัยกลางคนดังขึ้นจากนอกเรือน ตามมาด้วยเสียงชายร่างใหญ่ที่ตะโกนเสริม “เจ้าจะหลบหน้าหนี้ไปถึงเมื่อไร หา?!”

ซูหนิงเหยียนขมวดคิ้วแน่น ในความทรงจำของร่างเดิม เธอจำได้ว่า "ซูหนิงเหยียน" คนก่อนใช้ชีวิตฟุ่มเฟือย หลงระเริงกับการพนันและเครื่องประทินโฉมจนเป็นหนี้สินมากมาย และคนที่อยู่หน้าประตูก็คือ แม่หม้ายหลี่ เพื่อนบ้านที่เคยให้เจ้าของร่างเดิมยืมเงิน

หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปเปิดประตู

เมื่อบานไม้เก่าถูกผลักออก แม่หม้ายหลี่ในชุดผ้าฝ้ายสีเทาก็ยืนกอดอก จ้องมองซูหนิงเหยียนด้วยสายตาดูถูก ข้าง ๆ นางมีชายฉกรรจ์สองคนที่น่าจะเป็นลูกน้องที่นางพามาข่มขู่

“หึ! เจ้าคิดว่าหลบอยู่แต่ในเรือนแล้วจะหนีพ้นหรืออย่างไร?”

แม่หม้ายหลี่เอ่ยเสียงเยาะเย้ย ก่อนจะก้าวเข้ามาภายในลานบ้านโดยไม่รอให้ซูหนิงเหยียนเชิญ “เงินที่เจ้ายืมไปเมื่อเดือนก่อน ไหนล่ะ? ถึงเวลาต้องคืนแล้ว!”

ซูหนิงเหยียนกอดอก มองแม่หม้ายหลี่นิ่ง ๆ ร่างนี้เป็นคนก่อหนี้ขึ้นมา แต่คนที่ต้องมารับกรรมกลับเป็นเธอในตอนนี้… นี่มันไม่ยุติธรรมเลยสักนิด!

เด็ก ๆ ที่อยู่ในเรือนรีบกอดกันแน่น ตัวสั่นเล็กน้อย พวกเขารู้ดีว่าแม่ของพวกเขาเป็นหนี้เพื่อนบ้าน แต่ที่ผ่านมาก็ได้แต่หวังว่าเจ้าหนี้จะลืมหรือไม่ก็มองข้ามพวกเขาไป

ซูหนิงเหยียนสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะถามเสียงเรียบ “ข้าติดหนี้เจ้าเท่าไร?”

แม่หม้ายหลี่ยิ้มเยาะ “สิบตำลึงเงิน! พร้อมดอกเบี้ยอีกห้าตำลึง”

เด็ก ๆ ที่นั่งฟังอยู่เบิกตากว้าง สิบห้าตำลึง?

สำหรับพวกเขาที่แทบไม่มีเงินติดบ้าน นั่นเป็นจำนวนเงินที่มากมายมหาศาล!

ซูหนิงเหยียนขมวดคิ้ว เจ้าของร่างเดิมใช้เงินมากมายขนาดนี้ไปกับเรื่องไร้สาระได้อย่างไร?

แม่หม้ายหลี่เห็นซูหนิงเหยียนเงียบไป ก็ยิ้มเยาะหนักขึ้น

“หรือเจ้าจะบอกว่าไม่มีเงิน? ถ้าไม่มี เจ้าก็ควรหาทางใช้คืนมา ไม่อย่างนั้น… ข้าอาจจะต้องเอาของในเรือนเจ้าติดมือกลับไปสักหน่อย”

นางว่าพลางกวาดตามองไปทั่วเรือน แววตาเต็มไปด้วยความโลภ

ซูหนิงเหยียนกำหมัดแน่น ของในเรือนมีอยู่เพียงน้อยนิด หากนางเอาไปจริง ๆ เด็ก ๆ จะอยู่อย่างไร?

เธอรู้ดีว่าตอนนี้ไม่มีเงินพอจะใช้หนี้ แต่เธอก็ไม่ยอมให้ใครมารังแกครอบครัวของเธออีกต่อไป

เธอเงยหน้าขึ้น มองแม่หม้ายหลี่ด้วยสายตานิ่งสงบ แต่แฝงไว้ด้วยความแน่วแน่ “ข้าไม่มีเงินตอนนี้ แต่ข้าจะหาให้”

แม่หม้ายหลี่เลิกคิ้ว “หา? เจ้าจะหาได้จากที่ไหนกัน? หรือจะให้ข้ารอจนชาตินี้ชาติหน้า?”

ซูหนิงเหยียนยิ้มบาง ๆ “ข้าขอเวลาสามวัน ข้าจะคืนเงินให้”

แม่หม้ายหลี่หัวเราะเสียงดัง

“สามวัน? นังซูหนิงเหยียน เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร? สามวันจะหาเงินสิบห้าตำลึงได้งั้นหรือ?”

“ถ้าภายในสามวันข้าหาเงินมาไม่ได้ เจ้าค่อยมาเอาของในเรือนข้าไป”

ซูหนิงเหยียนตอบเสียงเรียบ แต่แววตาเต็มไปด้วยความมั่นใจ

แม่หม้ายหลี่จ้องเธอเขม็ง ดูเหมือนนางเองก็ไม่คิดว่า "ซูหนิงเหยียน" ที่เคยอ่อนแอและขี้ขลาดจะกล้าต่อรองกับนางแบบนี้

“ดี! ถ้าครบสามวันแล้วยังไม่มีเงิน ข้าจะมาเอาของทุกอย่างในเรือนเจ้าไป รวมถึงตัวเจ้าด้วย!”

ซูหนิงเหยียนไม่ตอบอะไร เธอเพียงแค่ยืนมองแม่หม้ายหลี่และพวกลูกน้องเดินออกจากเรือนไป

เมื่อเธอปิดประตูลง เด็ก ๆ ก็รีบวิ่งเข้ามากอดชายเสื้อของเธอแน่น

“ท่านแม่… เราจะทำอย่างไรดี?”

เด็กชายคนโตมองเธอด้วยความเป็นห่วง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวว่าแม่ของพวกเขาจะถูกขายใช้หนี้

ซูหนิงเหยียนย่อตัวลง ลูบศีรษะลูกชายเบา ๆ ก่อนจะยิ้ม “ไม่ต้องห่วง แม่จะไม่ให้ใครมาทำอะไรพวกเราได้”

สามวัน… เธอต้องหาเงินสิบห้าตำลึงให้ได้

และเธอจะไม่ยอมให้ครอบครัวนี้ต้องลำบากอีกต่อไป!

วิธีหาเงินภายในสามวัน

ซูหนิงเหยียนเดินวนไปมาภายในเรือน สีหน้าครุ่นคิดอย่างหนัก

สิบห้าตำลึง… ภายในสามวัน… จะหาเงินจากที่ไหนกัน?

เด็กทั้งสามนั่งเบียดกันอยู่บนฟูกเก่า ๆ ดวงตากลมโตจับจ้องมารดาของตนไม่กะพริบ ตั้งแต่แม่ของพวกเขาถูกทวงหนี้ เธอก็เอาแต่เดินวนไปมาพลางพึมพำอะไรบางอย่างอยู่คนเดียว

เด็กหญิงคนเล็กกระซิบกับพี่สาว “ท่านแม่เป็นอะไรหรือเปล่า? ทำไมเดินไปเดินมาแบบนั้น?”

เด็กชายคนโตถอนหายใจเบา ๆ “ข้าคิดว่า… ท่านแม่คงกำลังหาทางหาเงิน”

ซูหนิงเหยียนหยุดเดิน ก่อนจะหันไปมองเด็ก ๆ ที่กำลังจ้องเธออย่างสนใจ

“ข้าคิดออกแล้ว!” เธอประกาศเสียงดัง ทำให้เด็กทั้งสามสะดุ้งเล็กน้อย

“ท่านแม่คิดจะทำอะไรหรือ?” เด็กชายคนโตถามด้วยความสงสัย

ซูหนิงเหยียนยิ้มกว้าง “เราจะทำอาหารขาย!”

“อาหาร?” เด็กหญิงฝาแฝดมองหน้ากันอย่างงุนงง

“ใช่! แม่สังเกตเห็นว่าหมู่บ้านของเรามีตลาดเล็ก ๆ ทุกเช้า ชาวบ้านมักจะไปซื้ออาหารก่อนออกไปทำงานในไร่นา” ซูหนิงเหยียนอธิบาย “ถ้าเราทำของกินอร่อย ๆ ไปขาย พวกเขาต้องสนใจแน่!”

เด็กชายคนโตขมวดคิ้ว “แต่เรามีเงินไม่พอซื้อวัตถุดิบ…”

ซูหนิงเหยียนหัวเราะเบา ๆ “ไม่เป็นไร ข้าจะใช้สิ่งที่มีอยู่ก่อน แล้วค่อยขยายในวันต่อ ๆ ไป”

เธอเดินไปเปิดตู้เก็บเสบียงในครัว แม้ของจะเหลือน้อย แต่ยังมีแป้งข้าวเจ้า ถั่วเขียว และน้ำตาลอยู่บ้าง

ถั่วเขียวต้ม! นี่แหละสิ่งที่เธอจะทำขายในวันแรก!

เด็ก ๆ มองแม่ของพวกเขาด้วยแววตาตื่นเต้น นี่เป็นครั้งแรกที่แม่ของพวกเขาดูจริงจังกับการทำงานขนาดนี้

“พรุ่งนี้เช้า เราจะเริ่มขายของกัน!” ซูหนิงเหยียนประกาศอย่างมั่นใจ

เด็ก ๆ มองหน้ากันก่อนจะพยักหน้า แม้ว่าจะยังไม่แน่ใจว่าแผนนี้จะสำเร็จหรือไม่ แต่พวกเขาก็อยากช่วยแม่ให้ได้!

สามวันจากนี้จะเป็นการต่อสู้เพื่ออนาคตของพวกเขาทั้งหมด!

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่หม้ายแฝดสาม   ถั่วเขียวต้มน้ำตาล

    ลวันแรกของร้านขนมถั่วเขียว รุ่งเช้า หมอกจาง ๆ ปกคลุมทั่วหมู่บ้าน ซูหนิงเหยียนตื่นขึ้นมาพร้อมกับแววตามุ่งมั่น เธอใช้เวลาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางในการต้มถั่วเขียวให้นุ่ม แล้วเติมน้ำตาลให้รสหวานกำลังดี กลิ่นหอมของถั่วเขียวต้มลอยอบอวลไปทั่วเรือน เด็กทั้งสามลุกขึ้นมาช่วยกันอย่างแข็งขัน เด็กชายคนโตช่วยหาบน้ำจากบ่อ ส่วนฝาแฝดหญิงช่วยเตรียมถ้วยและตะเกียบ เมื่อทุกอย่างพร้อม พวกเขาก็ช่วยกันหาบหม้อถั่วเขียวใบโตเดินไปยังตลาดเล็ก ๆ ในหมู่บ้าน ณ ตลาดเช้า ตลาดเช้าของหมู่บ้านแม้จะไม่ใหญ่มาก แต่ก็คึกคักตั้งแต่เช้ามืด ชาวบ้านทยอยกันออกมาซื้อของก่อนจะไปทำงานในไร่นา ซูหนิงเหยียนเลือกตั้งร้านตรงมุมที่มีคนเดินผ่านมากที่สุด เธอใช้ผ้าผืนเก่าปูเป็นโต๊ะ วางถ้วยไม้เล็ก ๆ ที่เตรียมมา และเปิดฝาหม้อให้ไอร้อนลอยออกมา กลิ่นหอมของถั่วเขียวต้มอบอวลไปทั่ว ไม่นานนัก ก็มีคนเดินผ่านมาและหยุดมองด้วยความสนใจ “หืม? กลิ่นอะไรน่ะ หอมจัง!” หญิงชราร่างท้วมที่ถือกระบุงผักยืนมองซูหนิงเหยียนด้วยความสงสัย ซูหนิงเหยียนยิ้มอ่อนโยน “นี่เป็นถั่วเขียวต้มน้ำตาลเจ้าค่ะ ท่านป้าอยากลองชิมสักถ้วยไหม?” หญิงชรามองหม้อถั่วเขียวต้มที่เดือดปุด ๆ ด้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-13
  • แม่หม้ายแฝดสาม   กลิ่นหอมข้าวผัดไข่

    มื้ออาหารแห่งความสุขหลังจากเดินซื้อของในตลาดเสร็จ ซูหนิงเหยียนก็พาลูก ๆ กลับมาถึงเรือน เด็กทั้งสามคนวิ่งเข้าบ้านด้วยความตื่นเต้น ขณะที่ซูหนิงเหยียนถือถุงของกินมากมายตามเข้าไป"วันนี้ท่านแม่จะทำอะไรให้พวกเรากินหรือเจ้าคะ?" เด็กหญิงฝาแฝดเดินตามมาอย่างตื่นเต้นเด็กชายคนโตช่วยแม่ถือของไปวางที่ห้องครัว ก่อนจะหันมามองด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น "ข้าก็อยากรู้เช่นกัน ท่านแม่ซื้อของมาตั้งเยอะ!"ซูหนิงเหยียนยิ้มบาง ๆ พลางลูบศีรษะลูก ๆ "วันนี้… ท่านแม่จะทำอาหารที่พวกเจ้าไม่เคยกินมาก่อนให้ลองชิมกัน""จริงหรือ!?"เด็ก ๆ ตาโตเป็นประกายด้วยความดีใจ พวกเขาไม่เคยเห็นแม่ทำอาหารด้วยท่าทางตั้งใจเช่นนี้มาก่อนซูหนิงเหยียนเริ่มลงมือทำอาหาร นางใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ในเรือน รวมกับของที่ซื้อมาจากตลาด แล้วค่อย ๆ ปรุงแต่งรสชาติให้คล้ายกับอาหารจากยุคอนาคตให้มากที่สุดเมนูที่เธอเลือกทำคือ "ข้าวผัดไข่"เธอจุดเตา ใส่น้ำมันหมูลงไปในกระทะ พอเริ่มร้อนก็ใส่ไข่ไก่ลงไปตีจนฟู ตามด้วยข้าวสวยหุงใหม่ที่เธอเตรียมไว้ นางใช้ตะหลิวไม้ค่อย ๆ คลุกข้าวกับไข่ให้เข้ากันดีจากนั้นก็ใส่หมูสามชั้นหั่นเต๋า เพิ่มผักซอยเล็กน้อย ปรุงรสด้วยเกลื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-15
  • แม่หม้ายแฝดสาม   ประกาศรับสมัครแม่ครัว

    เป้าหมายใหม่ของมารดาซูหนิงเหยียนมองหวังซื่อที่ยิ้มอย่างจริงใจ นางเข้าใจดีว่าการมีโอกาสได้ทำอาหารขายในร้านเป็นเรื่องที่ดี แต่...นั่นไม่ใช่เป้าหมายของนางนางสูดลมหายใจลึก ๆ แล้วมองไปยังลูก ๆ ทั้งสามที่นั่งมองมาอย่างสงสัย ดวงตาไร้เดียงสาของพวกเขาทำให้หัวใจของนางอบอุ่น"ข้าขอบคุณในความหวังดีของแม่นางหวัง แต่ข้ามีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น"หวังซื่อขมวดคิ้วเล็กน้อย "เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น? เจ้าหมายถึงอะไร?"ซูหนิงเหยียนยิ้มบาง ๆ นางคิดถึงป้ายประกาศที่เห็นในตลาด 'ตำแหน่งแม่ครัวในวังหลวง'"ข้า… ตั้งใจจะสมัครเป็นแม่ครัวในวังหลวง""ว่าอย่างไรนะ!?"หวังซื่อตาโตด้วยความตกใจ ไม่เพียงแต่นาง ลูก ๆ ของซูหนิงเหยียนเองก็เบิกตากว้าง"ท่านแม่… ท่านแม่จะเข้าไปในวังหรือเจ้าคะ?" เด็กหญิงฝาแฝดถามเสียงเบา"ใช่" ซูหนิงเหยียนพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น "ข้าต้องการให้พวกเจ้ามีชีวิตที่ดีขึ้น หากข้าได้เป็นแม่ครัวในวังหลวง พวกเจ้าก็อาจจะมีโอกาสได้เข้าไปศึกษาเล่าเรียนในวัง ข้าอยากให้พวกเจ้ามีอนาคตที่ดีกว่าเดิม"เด็กทั้งสามนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เด็กชายคนโตจะกำมือแน่น ดวงตาของเขามีประกายมุ่งมั่น"ท่านแม่ ข้าจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-16
  • แม่หม้ายแฝดสาม   ทดสอบขั้นพื้นฐาน

    ด่านแรก ทดสอบอาหารพื้นฐานภายใต้แสงแดดยามสาย ขันทีผู้ดูแลการคัดเลือกแม่ครัวกวาดตามองกลุ่มหญิงสาวที่มายืนรอด้วยความตื่นเต้นและกังวล ก่อนจะประกาศเสียงดังฟังชัด"ด่านแรก! ทดสอบความสามารถด้านอาหารพื้นฐาน พวกเจ้าทุกคนจะได้รับวัตถุดิบชุดเดียวกัน จากนั้นจงปรุงอาหารที่เหมาะสมให้เสร็จภายในสองเค่อ!"(หนึ่งเค่อเท่ากับ 15 นาที สองเค่อจึงเท่ากับ 30 นาที)ทันทีที่กล่าวจบ ขันทีผู้อาวุโสสะบัดพัดในมือ ชี้ไปยังโต๊ะเรียงรายที่มีหม้อ กระทะ และวัตถุดิบเตรียมไว้เรียบร้อย"ขอให้ทุกคนเริ่มได้!"—––เริ่มต้นการทดสอบซูหนิงเหยียนก้าวไปยังโต๊ะที่ถูกกำหนดให้อย่างไม่ร้อนรน นางกวาดตามองวัตถุดิบที่มีให้ข้าวสารไข่ไก่เนื้อหมูสามชั้นผักกาดขาวซีอิ๊ว และเครื่องปรุงพื้นฐาน‘อาหารพื้นฐานที่ใช้วัตถุดิบเหล่านี้…’ นางครุ่นคิดอย่างรวดเร็วรอบตัวมีเสียงพึมพำจากผู้เข้าร่วม หลายคนเริ่มตั้งหม้อต้มน้ำ บางคนหั่นหมูเป็นชิ้นเล็กเพื่อทำซุป ซูหนิงเหยียนกลับคิดแตกต่างออกไป‘ถ้าเป็นอาหารที่เรียบง่ายที่สุด อิ่มท้อง และรสชาติอร่อย… ข้าวผัดไข่กับหมูสามชั้นตุ๋นน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี’—––การลงมือทำอาหาร1. ข้าวผัดไข่ซูหนิงเหยียนรีบหุงข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-16
  • แม่หม้ายแฝดสาม   ที่อยู่ใหม่

    เริ่มต้นชีวิตใหม่ในเมืองหลวง หลังจากได้รับตำแหน่งแม่ครัวหลวง ซูหนิงเหยียนก็ได้รับอนุญาตให้นำลูก ๆ ทั้งสามเข้ามาอยู่ในเมืองหลวง นางได้รับบ้านพักที่จัดสรรให้แก่ข้าราชสำนักระดับกลาง เป็นตำหนักเล็ก ๆ แต่เงียบสงบและอบอุ่น เมื่อลงจากรถม้า เด็ก ๆ ทั้งสามก็จ้องมองรอบ ๆ ด้วยดวงตาเป็นประกาย "แม่จ๋า! บ้านของเราใหญ่กว่าห้องเก่าในหมู่บ้านอีก!" เสี่ยวเป่าเอ่ยขึ้น พลางวิ่งสำรวจไปรอบ ๆ "พวกเรามีสวนด้วย!" เสี่ยวหูชี้ไปยังแปลงดินเล็ก ๆ ข้างตำหนัก"เราปลูกผักเองได้ไหมแม่?" ซูหนิงเหยียนหัวเราะเบา ๆ พลางลูบศีรษะลูก ๆ "ได้สิ หากพวกเจ้าอยากปลูก แม่จะช่วยพวกเจ้าดูแล" เสี่ยวหมิงที่เป็นพี่คนโตกลับไม่ได้วิ่งเล่นเช่นน้อง ๆ แต่เดินสำรวจตำหนักด้วยสีหน้าครุ่นคิด "แม่จ๋า... ตำหนักนี้ไม่เล็กไปสำหรับพวกเรา แต่ก็ไม่ได้ใหญ่เกินไปเช่นกัน เหมาะสมกับแม่ครัวหลวงจริง ๆ" ซูหนิงเหยียนพยักหน้า "ใช่แล้ว ที่นี่ไม่หรูหรา แต่ก็ปลอดภัยและอยู่ใกล้วังหลวง แม่สามารถเดินไปทำงานได้สะดวก ส่วนพวกเจ้าก็สามารถศึกษาหาความรู้ได้" จัดบ้านใหม่ พวกนางช่วยกันทำความสะอาดตำหนัก เสี่ยวเป่ากับเสี่ยวหูช่วยปัดกวาด เสี่ยวหมิงช่วยจัดของใช้ ซูหนิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-17
  • แม่หม้ายแฝดสาม   นางเอกช่วยชีวิต

    การพบกันโดยไม่ คาดฝันซูหนิงเหยียนยังคงยืนมองรอบ ๆ ตำหนัก ด้วยความระแวดระวัง เสียงลมพัดแรง ทำให้ต้นไม้ไหว เสียงใบไม้เสียดสีกันดัง แผ่วเบา แต่ไม่มีเงาของผู้ใด นางจึงคิด ว่าคงเป็นความรู้สึกไปเองแต่ทันใดนั้น-"ตุบ!"เสียงร่างหนัก ๆ หล่นลงกับพื้นหน้า ตำหนัก นางสะดุ้งเฮือก รีบหันไปมอง ก่อนจะพบร่างของชายผู้หนึ่งนอนคว่ำ หน้าอยู่ เลือดสีแดงเข้มไหลเปรอะเปื้อน พื้นหิน"อ๊ะ!" นางอุทานเบา ๆ ดวงตาเบิกกว้าง เขาสวมอาภรณ์สีดำสนิท แม้ยามนี้จะ เปรอะเปื้อนเลือดและฝุ่นดิน แต่ก็มอง ออกว่าผ้าเนื้อนี้ไม่ใช่ของชนชั้นธรรมดา นางใจสั่น รีบวิ่งเข้าไปดูใกล้ ๆ "ท่าน!" นางแตะร่างเขาเบา ๆ "ท่านยังมี ชีวิตอยู่หรือไม่?" ชายหนุ่มขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะเงย หน้าขึ้นเผยให้เห็นดวงตาคมกริบใต้ แสงจันทร์ แม้จะซีดเซียวจากการเสีย เลือด แต่ก็ยังคงแฝงไว้ด้วยพลังอำนาจ "องค์ชาย!?"ดวงตาสีดำลึกล้ำจ้องมองนาง ราวกับพยายามจะพูดบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ หมดแรงสลบไปช่วยชีวิตชายลึกลับซูหนิงเหยียนกัดฟัน คิดวิเคราะห์อย่าง รวดเร็ว"เขาเป็นใครกันแน่? ถูกลอบสังหารมา หรือ?"แม้จะสงสัย แต่นางรู้ว่าตอนนี้สิ่งที่สำคัญ ที่สุดคือช่วยชีวิตเขาก่อน น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-17
  • แม่หม้ายแฝดสาม   ข้าวต้มนก

    ข้าวต้มยามเช้า กับความเข้าใจผิดขององค์ชายรุ่งเช้า...แสงแดดอ่อน ๆ สาดเข้ามาผ่านหน้าต่าง ซูหนิงเหยียนตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมอาหารให้ชายหนุ่มที่ยังคงบาดเจ็บ นางหันไปมองร่างที่ยังนอนอยู่บนเตียง ใบหน้าหล่อเหลายังคงซีดเซียวจากการเสียเลือดมากเกินไป"หากไม่กินอะไรเลย ร่างกายคงแย่ลงแน่"ด้วยความที่พระเอกยังบาดเจ็บหนัก นางจึงตัดสินใจทำ ข้าวต้มไก่ อาหารง่าย ๆ ที่ย่อยง่ายและให้พลังงานพอสมควรกลิ่นหอมของข้าวต้ม กับสายตาของเด็ก ๆกลิ่นข้าวต้มร้อน ๆ โชยไปทั่วตำหนัก เด็ก ๆ ทั้งสามที่นั่งเฝ้าอยู่ด้านข้างเริ่มกลืนน้ำลาย"แม่จ๋า... กลิ่นหอมจังเลย!""ข้าวต้มอะไรน่ะ?""พวกเรากินได้หรือไม่?"ซูหนิงเหยียนหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะยกชามข้าวต้มขึ้นมา "อันนี้ทำให้พี่ชายในห้องก่อน ส่วนของพวกเจ้า แม่จะทำให้ทีหลัง"เด็ก ๆ พยักหน้าหงึก ๆ แม้จะอยากกินแต่ก็เข้าใจดีว่าคนเจ็บต้องมาก่อนเมื่อองค์ชายพบกับ ‘ข้าวนก’ซูหนิงเหยียนเดินถือถาดอาหารเข้าไปในห้องขององค์ชาย ก่อนจะวางมันลงข้างเตียง"ท่านตื่นหรือยัง?"เสียงขยับตัวเบา ๆ ดังขึ้น ชายหนุ่มค่อย ๆ ลืมตา เขามองนางก่อนจะเหลือบไปมองถ้วยข้าวต้มที่วางอยู่ตรงหน้า"เจ้าทำอะไรมาให้ข้าก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-18
  • แม่หม้ายแฝดสาม   นาทีชีวิต.

    คลื่นใต้น้ำในวังหลวงคืนวันนั้น ขณะที่ซูหนิงเหยียนกำลังเตรียมยาต้มให้พระเอกพักฟื้น เสียงฝีเท้าหนักแน่นก็ดังขึ้นนอกตำหนัก"ค้นให้ทั่ว!"เสียงทรงอำนาจดังขึ้นตามมาด้วยเสียงฝีเท้าของกลุ่มคนที่เดินเข้ามาโดยไม่ขออนุญาตซูหนิงเหยียนชะงัก ใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็นจริงจังทันที นางหันไปมองเด็ก ๆ ที่กำลังนั่งเล่นกันอยู่"พวกเจ้า อยู่ข้างในอย่าออกมา!" นางสั่งเสียงเข้มแฝดทั้งสามพยักหน้าหงึก ๆ แล้วรีบวิ่งไปซ่อนตัวตามคำสั่งเมื่อซูหนิงเหยียนเดินออกมาหน้าตำหนัก นางก็พบกับกลุ่มข้ารับใช้ในชุดเครื่องแบบของวังหลวงกำลังยืนล้อมรอบ พร้อมกับหญิงวัยกลางคนที่แต่งกายหรูหรา ใบหน้านางเต็มไปด้วยร่องรอยของความเย่อหยิ่ง"ท่านหญิงหลี่…" นางพึมพำในใจอนุภรรยาของฝ่าบาท… หรือก็คือพระสนมหลี่ หนึ่งในภรรยาของฮ่องเต้ และเป็นคนที่มีอำนาจมากในวังหลวงเหตุใดจึงมาค้นตำหนักของนาง?พระสนมหลี่ก้าวมาหยุดตรงหน้าซูหนิงเหยียน ดวงตาเย็นชากวาดมองตำหนักเล็ก ๆ ของแม่ครัวด้วยสีหน้าดูแคลน"เจ้าคือแม่ครัวคนใหม่ใช่หรือไม่?" นางถามเสียงเรียบ แต่แฝงไปด้วยอำนาจ"เพคะ" ซูหนิงเหยียนตอบกลับด้วยท่าทางสงบ"ข้าสงสัยว่ามีคนลอบหนีเข้ามาซ่อนตัวที่นี่ ข้าจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-18

บทล่าสุด

  • แม่หม้ายแฝดสาม   เอาดีเข้าตัว

    ภายในตำหนักหลวง โต๊ะเสวยถูกจัดเตรียมอย่างประณีต กลิ่นหอมของอาหารลอยฟุ้งไปทั่วห้อง ทุกจานถูกจัดวางอย่างมีศิลปะจนแม้แต่ขันทีกับนางกำนัลยังอดชื่นชมไม่ได้"อาหารฝีมือแม่ครัวคนใหม่?" ฮ่องเต้ลูบเคราอย่างพึงพอใจ มองสำรับที่ถูกนำขึ้นโต๊ะพระสนมเหมยฮวา หนึ่งในอนุภรรยาคนโปรดของฮ่องเต้ แสร้งยิ้มอ่อนโยน แต่นัยน์ตากลับซ่อนความสงสัย นางได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับแม่ครัวคนใหม่ที่เพิ่งเข้ามา ว่านางช่างอวดดีและไม่เกรงกลัวใคร"หม่อมฉันก็อยากรู้ว่าอาหารของแม่ครัวใหม่จะดีเพียงใด" นางเอ่ยเสียงหวาน แฝงความนัยองค์ชายรัชทายาท ลู่เหวินเฉิง ลูกชายใหญ่ของพระสนมเหมยฮวา นั่งอย่างสง่างาม เขายกถ้วยชาขึ้นจิบเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้นในขณะที่ทุกคนเริ่มลิ้มรสอาหาร"เสด็จพ่อ ลูกได้รับรายงานมาว่า การค้าผ้าไหมของแคว้นเราในปีนี้เติบโตขึ้นเป็นเท่าตัว หม่อมฉันได้มีส่วนจัดการให้ทูตจากแคว้นต้าโจวตกลงซื้อผ้าไหมเพิ่มขึ้นถึงห้าร้อยพับพ่ะย่ะค่ะ"น้ำเสียงของเขาเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจ ราวกับรอคอยให้ฮ่องเต้เอ่ยชมฮ่องเต้พยักหน้าเล็กน้อยก่อนตอบ "อืม ถือเป็นความดีความชอบของเจ้า"รัชทายาทเผยรอยยิ้มพึงพอใจ ก่อนจะพูดต่อ "นอกจากเรื่องการค้า หม

  • แม่หม้ายแฝดสาม   อำนาจ

    อำนาจในมือของนางหลังจากเหตุการณ์ปะทะกับฮวาเหมยในครัวหลวง บรรยากาศในห้องครัวก็เปลี่ยนไปทันที ก่อนหน้านี้แม่ครัวและผู้ช่วยหลายคนต่างจับกลุ่มซุบซิบนินทานาง คอยมองนางด้วยสายตาดูแคลน แต่ตอนนี้…พวกนางกลับเงียบกันไปหมดซูหนิงเหยียนกวาดตามองรอบห้องครัว มือเรียวยกไหซุปขึ้นตักน้ำซุปให้เข้าที่ นางมองดูผู้ช่วยที่ยืนว่างงานอยู่หลายคนก่อนจะกล่าวเสียงเรียบแต่ทรงอำนาจ"ที่นี่คือครัวหลวง มิใช่โรงน้ำชา!"เสียงของนางแม้จะไม่ได้ดังมาก แต่กลับก้องกังวานในใจทุกคนแม่ครัวหลายคนสะดุ้ง รีบหันมามองนาง"ในเมื่อเจ้าทุกคนเป็นแม่ครัวและผู้ช่วยในครัวหลวง จงทำงานให้สมกับตำแหน่งของตนเอง!"นางเดินไปยังกลุ่มแม่ครัวที่จับกลุ่มคุยกันอย่างว่างงาน แล้วกล่าวเสียงเข้ม"หากมีเวลายืนพูดคุยเรื่องไร้สาระ เช่นนั้นจงไปช่วยเตรียมวัตถุดิบเสีย! ปอกกระเทียม หั่นขิง หรือกวาดลานก็ได้!"แม่ครัวบางคนทำหน้าไม่พอใจ แต่ก็ไม่มีใครกล้าเถียง เพราะพวกนางเพิ่งเห็นแล้วว่า… นางไม่ใช่คนที่ยอมให้ใครกดหัวได้ง่าย ๆการบริหารจัดการในครัวหลวงซูหนิงเหยียนกวาดตามองไปรอบ ๆ ก่อนจะกล่าวต่อ"จากนี้ไป ข้าจะแบ่งหน้าที่ให้ชัดเจน"นางชี้ไปที่กลุ่มผู้ช่วยแม่ครัว

  • แม่หม้ายแฝดสาม   แผนร้าย

    คำสั่งจากวังหลวง หลังจากเหตุการณ์ตึงเครียดผ่านไปไม่นาน ขณะที่ซูหนิงเหยียนกำลังเช็ดตัวให้พระเอก เสียงฝีเท้าของใครบางคนก็ดังขึ้นหน้าตำหนัก "ท่านแม่ครัวหลวง!" เสียงร้องเรียกนั้นฟังดูเป็นทางการ นางหันไปมองก่อนจะเห็นขันทีผู้หนึ่งก้าวเข้ามาในตำหนัก พร้อมกับข้ารับใช้ถือกล่องไม้ลวดลายงดงาม ซูหนิงเหยียนรีบลุกขึ้น แล้วคำนับตามมารยาท "ขออภัยเพคะ ไม่ทราบว่าท่านขันทีมีธุระอันใดหรือ?" ขันทียิ้มบาง ๆ ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง "ข้ามาแจ้งข่าวให้ท่านทราบ พรุ่งนี้ท่านต้องเข้าครัวหลวงแล้ว" ภารกิจใหม่เริ่มต้น ซูหนิงเหยียนนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบรับ "เพคะ" ขันทีมองนางอย่างพึงพอใจ ก่อนจะกล่าวต่อ "ในฐานะแม่ครัวหลวง ท่านต้องเตรียมอาหารเช้าสำหรับเหล่าขุนนางและพระสนมในวัง หากทำได้ดี อาจมีโอกาสได้ถวายอาหารแก่ฝ่าบาทโดยตรง" นางพยักหน้ารับรู้ "หม่อมฉันจะทำให้ดีที่สุดเพคะ" ขันทีหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะเปิดกล่องไม้ที่นำมา ข้างในมีชุดแม่ครัวหลวงที่ปักด้วยลายเมฆมงคล และป้ายไม้แกะสลักซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงตำแหน่งของนาง "นี่คือชุดของท่าน และป้ายตำแหน่ง โปรดรักษาไว้ให้ดี" สายตาของพระเอก ขณะที่ซูหนิงเหยียนรั

  • แม่หม้ายแฝดสาม   นาทีชีวิต.

    คลื่นใต้น้ำในวังหลวงคืนวันนั้น ขณะที่ซูหนิงเหยียนกำลังเตรียมยาต้มให้พระเอกพักฟื้น เสียงฝีเท้าหนักแน่นก็ดังขึ้นนอกตำหนัก"ค้นให้ทั่ว!"เสียงทรงอำนาจดังขึ้นตามมาด้วยเสียงฝีเท้าของกลุ่มคนที่เดินเข้ามาโดยไม่ขออนุญาตซูหนิงเหยียนชะงัก ใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็นจริงจังทันที นางหันไปมองเด็ก ๆ ที่กำลังนั่งเล่นกันอยู่"พวกเจ้า อยู่ข้างในอย่าออกมา!" นางสั่งเสียงเข้มแฝดทั้งสามพยักหน้าหงึก ๆ แล้วรีบวิ่งไปซ่อนตัวตามคำสั่งเมื่อซูหนิงเหยียนเดินออกมาหน้าตำหนัก นางก็พบกับกลุ่มข้ารับใช้ในชุดเครื่องแบบของวังหลวงกำลังยืนล้อมรอบ พร้อมกับหญิงวัยกลางคนที่แต่งกายหรูหรา ใบหน้านางเต็มไปด้วยร่องรอยของความเย่อหยิ่ง"ท่านหญิงหลี่…" นางพึมพำในใจอนุภรรยาของฝ่าบาท… หรือก็คือพระสนมหลี่ หนึ่งในภรรยาของฮ่องเต้ และเป็นคนที่มีอำนาจมากในวังหลวงเหตุใดจึงมาค้นตำหนักของนาง?พระสนมหลี่ก้าวมาหยุดตรงหน้าซูหนิงเหยียน ดวงตาเย็นชากวาดมองตำหนักเล็ก ๆ ของแม่ครัวด้วยสีหน้าดูแคลน"เจ้าคือแม่ครัวคนใหม่ใช่หรือไม่?" นางถามเสียงเรียบ แต่แฝงไปด้วยอำนาจ"เพคะ" ซูหนิงเหยียนตอบกลับด้วยท่าทางสงบ"ข้าสงสัยว่ามีคนลอบหนีเข้ามาซ่อนตัวที่นี่ ข้าจ

  • แม่หม้ายแฝดสาม   ข้าวต้มนก

    ข้าวต้มยามเช้า กับความเข้าใจผิดขององค์ชายรุ่งเช้า...แสงแดดอ่อน ๆ สาดเข้ามาผ่านหน้าต่าง ซูหนิงเหยียนตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมอาหารให้ชายหนุ่มที่ยังคงบาดเจ็บ นางหันไปมองร่างที่ยังนอนอยู่บนเตียง ใบหน้าหล่อเหลายังคงซีดเซียวจากการเสียเลือดมากเกินไป"หากไม่กินอะไรเลย ร่างกายคงแย่ลงแน่"ด้วยความที่พระเอกยังบาดเจ็บหนัก นางจึงตัดสินใจทำ ข้าวต้มไก่ อาหารง่าย ๆ ที่ย่อยง่ายและให้พลังงานพอสมควรกลิ่นหอมของข้าวต้ม กับสายตาของเด็ก ๆกลิ่นข้าวต้มร้อน ๆ โชยไปทั่วตำหนัก เด็ก ๆ ทั้งสามที่นั่งเฝ้าอยู่ด้านข้างเริ่มกลืนน้ำลาย"แม่จ๋า... กลิ่นหอมจังเลย!""ข้าวต้มอะไรน่ะ?""พวกเรากินได้หรือไม่?"ซูหนิงเหยียนหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะยกชามข้าวต้มขึ้นมา "อันนี้ทำให้พี่ชายในห้องก่อน ส่วนของพวกเจ้า แม่จะทำให้ทีหลัง"เด็ก ๆ พยักหน้าหงึก ๆ แม้จะอยากกินแต่ก็เข้าใจดีว่าคนเจ็บต้องมาก่อนเมื่อองค์ชายพบกับ ‘ข้าวนก’ซูหนิงเหยียนเดินถือถาดอาหารเข้าไปในห้องขององค์ชาย ก่อนจะวางมันลงข้างเตียง"ท่านตื่นหรือยัง?"เสียงขยับตัวเบา ๆ ดังขึ้น ชายหนุ่มค่อย ๆ ลืมตา เขามองนางก่อนจะเหลือบไปมองถ้วยข้าวต้มที่วางอยู่ตรงหน้า"เจ้าทำอะไรมาให้ข้าก

  • แม่หม้ายแฝดสาม   นางเอกช่วยชีวิต

    การพบกันโดยไม่ คาดฝันซูหนิงเหยียนยังคงยืนมองรอบ ๆ ตำหนัก ด้วยความระแวดระวัง เสียงลมพัดแรง ทำให้ต้นไม้ไหว เสียงใบไม้เสียดสีกันดัง แผ่วเบา แต่ไม่มีเงาของผู้ใด นางจึงคิด ว่าคงเป็นความรู้สึกไปเองแต่ทันใดนั้น-"ตุบ!"เสียงร่างหนัก ๆ หล่นลงกับพื้นหน้า ตำหนัก นางสะดุ้งเฮือก รีบหันไปมอง ก่อนจะพบร่างของชายผู้หนึ่งนอนคว่ำ หน้าอยู่ เลือดสีแดงเข้มไหลเปรอะเปื้อน พื้นหิน"อ๊ะ!" นางอุทานเบา ๆ ดวงตาเบิกกว้าง เขาสวมอาภรณ์สีดำสนิท แม้ยามนี้จะ เปรอะเปื้อนเลือดและฝุ่นดิน แต่ก็มอง ออกว่าผ้าเนื้อนี้ไม่ใช่ของชนชั้นธรรมดา นางใจสั่น รีบวิ่งเข้าไปดูใกล้ ๆ "ท่าน!" นางแตะร่างเขาเบา ๆ "ท่านยังมี ชีวิตอยู่หรือไม่?" ชายหนุ่มขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะเงย หน้าขึ้นเผยให้เห็นดวงตาคมกริบใต้ แสงจันทร์ แม้จะซีดเซียวจากการเสีย เลือด แต่ก็ยังคงแฝงไว้ด้วยพลังอำนาจ "องค์ชาย!?"ดวงตาสีดำลึกล้ำจ้องมองนาง ราวกับพยายามจะพูดบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ หมดแรงสลบไปช่วยชีวิตชายลึกลับซูหนิงเหยียนกัดฟัน คิดวิเคราะห์อย่าง รวดเร็ว"เขาเป็นใครกันแน่? ถูกลอบสังหารมา หรือ?"แม้จะสงสัย แต่นางรู้ว่าตอนนี้สิ่งที่สำคัญ ที่สุดคือช่วยชีวิตเขาก่อน น

  • แม่หม้ายแฝดสาม   ที่อยู่ใหม่

    เริ่มต้นชีวิตใหม่ในเมืองหลวง หลังจากได้รับตำแหน่งแม่ครัวหลวง ซูหนิงเหยียนก็ได้รับอนุญาตให้นำลูก ๆ ทั้งสามเข้ามาอยู่ในเมืองหลวง นางได้รับบ้านพักที่จัดสรรให้แก่ข้าราชสำนักระดับกลาง เป็นตำหนักเล็ก ๆ แต่เงียบสงบและอบอุ่น เมื่อลงจากรถม้า เด็ก ๆ ทั้งสามก็จ้องมองรอบ ๆ ด้วยดวงตาเป็นประกาย "แม่จ๋า! บ้านของเราใหญ่กว่าห้องเก่าในหมู่บ้านอีก!" เสี่ยวเป่าเอ่ยขึ้น พลางวิ่งสำรวจไปรอบ ๆ "พวกเรามีสวนด้วย!" เสี่ยวหูชี้ไปยังแปลงดินเล็ก ๆ ข้างตำหนัก"เราปลูกผักเองได้ไหมแม่?" ซูหนิงเหยียนหัวเราะเบา ๆ พลางลูบศีรษะลูก ๆ "ได้สิ หากพวกเจ้าอยากปลูก แม่จะช่วยพวกเจ้าดูแล" เสี่ยวหมิงที่เป็นพี่คนโตกลับไม่ได้วิ่งเล่นเช่นน้อง ๆ แต่เดินสำรวจตำหนักด้วยสีหน้าครุ่นคิด "แม่จ๋า... ตำหนักนี้ไม่เล็กไปสำหรับพวกเรา แต่ก็ไม่ได้ใหญ่เกินไปเช่นกัน เหมาะสมกับแม่ครัวหลวงจริง ๆ" ซูหนิงเหยียนพยักหน้า "ใช่แล้ว ที่นี่ไม่หรูหรา แต่ก็ปลอดภัยและอยู่ใกล้วังหลวง แม่สามารถเดินไปทำงานได้สะดวก ส่วนพวกเจ้าก็สามารถศึกษาหาความรู้ได้" จัดบ้านใหม่ พวกนางช่วยกันทำความสะอาดตำหนัก เสี่ยวเป่ากับเสี่ยวหูช่วยปัดกวาด เสี่ยวหมิงช่วยจัดของใช้ ซูหนิ

  • แม่หม้ายแฝดสาม   ทดสอบขั้นพื้นฐาน

    ด่านแรก ทดสอบอาหารพื้นฐานภายใต้แสงแดดยามสาย ขันทีผู้ดูแลการคัดเลือกแม่ครัวกวาดตามองกลุ่มหญิงสาวที่มายืนรอด้วยความตื่นเต้นและกังวล ก่อนจะประกาศเสียงดังฟังชัด"ด่านแรก! ทดสอบความสามารถด้านอาหารพื้นฐาน พวกเจ้าทุกคนจะได้รับวัตถุดิบชุดเดียวกัน จากนั้นจงปรุงอาหารที่เหมาะสมให้เสร็จภายในสองเค่อ!"(หนึ่งเค่อเท่ากับ 15 นาที สองเค่อจึงเท่ากับ 30 นาที)ทันทีที่กล่าวจบ ขันทีผู้อาวุโสสะบัดพัดในมือ ชี้ไปยังโต๊ะเรียงรายที่มีหม้อ กระทะ และวัตถุดิบเตรียมไว้เรียบร้อย"ขอให้ทุกคนเริ่มได้!"—––เริ่มต้นการทดสอบซูหนิงเหยียนก้าวไปยังโต๊ะที่ถูกกำหนดให้อย่างไม่ร้อนรน นางกวาดตามองวัตถุดิบที่มีให้ข้าวสารไข่ไก่เนื้อหมูสามชั้นผักกาดขาวซีอิ๊ว และเครื่องปรุงพื้นฐาน‘อาหารพื้นฐานที่ใช้วัตถุดิบเหล่านี้…’ นางครุ่นคิดอย่างรวดเร็วรอบตัวมีเสียงพึมพำจากผู้เข้าร่วม หลายคนเริ่มตั้งหม้อต้มน้ำ บางคนหั่นหมูเป็นชิ้นเล็กเพื่อทำซุป ซูหนิงเหยียนกลับคิดแตกต่างออกไป‘ถ้าเป็นอาหารที่เรียบง่ายที่สุด อิ่มท้อง และรสชาติอร่อย… ข้าวผัดไข่กับหมูสามชั้นตุ๋นน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี’—––การลงมือทำอาหาร1. ข้าวผัดไข่ซูหนิงเหยียนรีบหุงข

  • แม่หม้ายแฝดสาม   ประกาศรับสมัครแม่ครัว

    เป้าหมายใหม่ของมารดาซูหนิงเหยียนมองหวังซื่อที่ยิ้มอย่างจริงใจ นางเข้าใจดีว่าการมีโอกาสได้ทำอาหารขายในร้านเป็นเรื่องที่ดี แต่...นั่นไม่ใช่เป้าหมายของนางนางสูดลมหายใจลึก ๆ แล้วมองไปยังลูก ๆ ทั้งสามที่นั่งมองมาอย่างสงสัย ดวงตาไร้เดียงสาของพวกเขาทำให้หัวใจของนางอบอุ่น"ข้าขอบคุณในความหวังดีของแม่นางหวัง แต่ข้ามีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น"หวังซื่อขมวดคิ้วเล็กน้อย "เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น? เจ้าหมายถึงอะไร?"ซูหนิงเหยียนยิ้มบาง ๆ นางคิดถึงป้ายประกาศที่เห็นในตลาด 'ตำแหน่งแม่ครัวในวังหลวง'"ข้า… ตั้งใจจะสมัครเป็นแม่ครัวในวังหลวง""ว่าอย่างไรนะ!?"หวังซื่อตาโตด้วยความตกใจ ไม่เพียงแต่นาง ลูก ๆ ของซูหนิงเหยียนเองก็เบิกตากว้าง"ท่านแม่… ท่านแม่จะเข้าไปในวังหรือเจ้าคะ?" เด็กหญิงฝาแฝดถามเสียงเบา"ใช่" ซูหนิงเหยียนพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น "ข้าต้องการให้พวกเจ้ามีชีวิตที่ดีขึ้น หากข้าได้เป็นแม่ครัวในวังหลวง พวกเจ้าก็อาจจะมีโอกาสได้เข้าไปศึกษาเล่าเรียนในวัง ข้าอยากให้พวกเจ้ามีอนาคตที่ดีกว่าเดิม"เด็กทั้งสามนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เด็กชายคนโตจะกำมือแน่น ดวงตาของเขามีประกายมุ่งมั่น"ท่านแม่ ข้าจ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status