แชร์

กลิ่นหอมข้าวผัดไข่

ผู้เขียน: ต้าเหนิง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-15 05:49:54

มื้ออาหารแห่งความสุข

หลังจากเดินซื้อของในตลาดเสร็จ ซูหนิงเหยียนก็พาลูก ๆ กลับมาถึงเรือน เด็กทั้งสามคนวิ่งเข้าบ้านด้วยความตื่นเต้น ขณะที่ซูหนิงเหยียนถือถุงของกินมากมายตามเข้าไป

"วันนี้ท่านแม่จะทำอะไรให้พวกเรากินหรือเจ้าคะ?" เด็กหญิงฝาแฝดเดินตามมาอย่างตื่นเต้น

เด็กชายคนโตช่วยแม่ถือของไปวางที่ห้องครัว ก่อนจะหันมามองด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น

 "ข้าก็อยากรู้เช่นกัน ท่านแม่ซื้อของมาตั้งเยอะ!"

ซูหนิงเหยียนยิ้มบาง ๆ พลางลูบศีรษะลูก ๆ "วันนี้… ท่านแม่จะทำอาหารที่พวกเจ้าไม่เคยกินมาก่อนให้ลองชิมกัน"

"จริงหรือ!?"

เด็ก ๆ ตาโตเป็นประกายด้วยความดีใจ พวกเขาไม่เคยเห็นแม่ทำอาหารด้วยท่าทางตั้งใจเช่นนี้มาก่อน

ซูหนิงเหยียนเริ่มลงมือทำอาหาร นางใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ในเรือน รวมกับของที่ซื้อมาจากตลาด แล้วค่อย ๆ ปรุงแต่งรสชาติให้คล้ายกับอาหารจากยุคอนาคตให้มากที่สุด

เมนูที่เธอเลือกทำคือ "ข้าวผัดไข่"

เธอจุดเตา ใส่น้ำมันหมูลงไปในกระทะ พอเริ่มร้อนก็ใส่ไข่ไก่ลงไปตีจนฟู ตามด้วยข้าวสวยหุงใหม่ที่เธอเตรียมไว้ นางใช้ตะหลิวไม้ค่อย ๆ คลุกข้าวกับไข่ให้เข้ากันดี

จากนั้นก็ใส่หมูสามชั้นหั่นเต๋า เพิ่มผักซอยเล็กน้อย ปรุงรสด้วยเกลือและซอสถั่วเหลืองที่เธอเจอในห้องครัว เสียงข้าวผัดกระทบกับกระทะร้อน ๆ ดัง ฉ่า ๆ ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วเรือน

เด็ก ๆ ที่ยืนดูอยู่ถึงกับกลืนน้ำลาย

"กลิ่นหอมจังเลย!"

"ท่านแม่เคยทำอาหารแบบนี้มาก่อนหรือ?"

ซูหนิงเหยียนหัวเราะเบา ๆ "ท่านแม่เคยทำมาหลายครั้งแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ทำให้พวกเจ้ากิน"

หลังจากข้าวผัดเสร็จ นางก็ตักใส่จานไม้ให้ลูก ๆ พร้อมกับยื่นตะเกียบให้

"ลองชิมดูสิ ว่าอร่อยหรือไม่?"

เด็ก ๆ รีบหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบข้าวเข้าปากทันที

"อร่อยมาก!"

"ข้าไม่เคยกินข้าวแบบนี้มาก่อนเลย!"

เด็กหญิงฝาแฝดเคี้ยวข้าวตุ้ย ๆ ตาเป็นประกายด้วยความชอบใจ ส่วนเด็กชายคนโตแม้จะไม่พูดมาก แต่ก็กินข้าวคำแล้วคำเล่าไม่หยุด

ซูหนิงเหยียนมองลูก ๆ ด้วยความอบอุ่น

"ถ้าพวกเจ้าชอบ วันหลังท่านแม่จะทำให้กินอีก"

เด็ก ๆ ยิ้มกว้าง ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตากินต่อ

วันนี้เป็นวันแรก… ที่เด็ก ๆ ได้กินอาหารอร่อย ๆ จนอิ่มจนพุงกาง และเป็นวันแรก… ที่พวกเขารู้สึกถึงความรักจากแม่ของตนเองอย่างแท้จริง

กลิ่นหอมที่ลอยไปถึงเรือนข้าง ๆ

ซูหนิงเหยียนมองลูก ๆ ที่กำลังตักข้าวผัดไข่เข้าปากคำแล้วคำเล่าอย่างเอร็ดอร่อย นางอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจ

แต่ในขณะที่พวกเขากำลังกินกันอย่างมีความสุข กลิ่นหอมของข้าวผัดไข่ ก็ลอยตามลมออกไปจากเรือน จนไปถึง…

เรือนของแม่หม้ายข้างบ้าน

"หืม… กลิ่นอะไรหอมนัก?"

หวังซื่อ แม่หม้ายวัยกลางคนที่อาศัยอยู่เรือนติดกัน หรี่ตาแล้วสูดกลิ่นหอมเข้าไปเต็มจมูก เธอวางตะเกียบลง เพราะทันทีที่ได้กลิ่นนั้น อาหารจืด ๆ บนโต๊ะของตัวเองก็ดูไม่น่ากินขึ้นมาทันที

"แม่! ข้าหิว!"

เสียงลูกชายวัยห้าขวบของนางดังขึ้นข้าง ๆ

หวังซื่อขมวดคิ้วก่อนจะหันไปมองลูกชาย นางมองดูข้าวต้มจืดชืดในถ้วย แล้วเปรียบเทียบกับกลิ่นหอมที่ลอยมาจากเรือนข้าง ๆ

มันต่างกันราวฟ้ากับเหว!

"เจ้ารอก่อน!" นางเอ่ยเสียงแข็ง ก่อนจะลุกขึ้น เดินไปที่ประตูรั้วเรือนของตนเอง แล้วแอบชะเง้อมองเข้าไปในเรือนของซูหนิงเหยียน

และนั่น… ทำให้นางต้องตาโตด้วยความตกตะลึง!

เด็กทั้งสามคนนั่งกินข้าวกันอย่างมีความสุข!

"เป็นไปได้อย่างไร!?"

หวังซื่ออดไม่ได้ที่จะพึมพำกับตัวเอง ก็เมื่อก่อน… หญิงซูหนิงเหยียนคนนั้นขี้เกียจและใจร้ายกับลูกของตนเองมิใช่หรือ? นางจำได้ว่าเด็ก ๆ มักจะอดอยาก และแทบไม่ได้กินอาหารดี ๆ เลย

แต่ตอนนี้… พวกเขากำลังกินข้าวผัดไข่หอมกรุ่น แถมหน้าตาของเด็ก ๆ ยังดูสดใสขึ้นกว่าเดิมมาก!

หวังซื่อยิ่งสงสัย นางลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วตัดสินใจเดินเข้าไปหา

เคาะ! เคาะ! เคาะ!

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้ซูหนิงเหยียนเงยหน้าขึ้นมอง เด็ก ๆ ก็หันไปมองเช่นกัน

"ท่านแม่ มีคนมา" เด็กชายคนโตกระซิบเบา ๆ

ซูหนิงเหยียนวางตะเกียบลงก่อนจะลุกขึ้นไปเปิดประตู พอเห็นว่าเป็น หวังซื่อ นางก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

"แม่นางหวัง มีอะไรหรือ?"

หวังซื่อพยายามยิ้มให้อ่อนโยนที่สุด "ข้าแค่เดินผ่านมาพอดี แล้วก็ได้กลิ่นหอมของอาหาร เลยอยากมาถามว่า… เจ้าทำอะไรกินหรือ?"

ซูหนิงเหยียนมองอีกฝ่ายแวบหนึ่ง ก่อนจะยิ้มบาง ๆ "ข้าทำข้าวผัดไข่ ให้ลูก ๆ กิน"

หวังซื่อตาเป็นประกาย "ข้าวผัดไข่หรือ? ทำไมถึงหอมเช่นนี้?"

"ข้าเพียงใช้วัตถุดิบธรรมดา แต่ใส่ใจในการปรุงรส" ซูหนิงเหยียนตอบเสียงเรียบ

หวังซื่อกลืนน้ำลาย จริงสิ! นางเองก็อยากลองกินดูบ้าง!

"เอ่อ… แม่นางซู" หวังซื่อยิ้มแหย ๆ "ไม่ทราบว่าข้าจะลองชิมได้หรือไม่?"

ซูหนิงเหยียนมองหญิงตรงหน้าก่อนจะยิ้มเล็กน้อย นางเดินไปตักข้าวผัดไข่ใส่ถ้วยใบเล็กแล้วยื่นให้ "เชิญชิมได้"

หวังซื่อรีบรับมาแล้วตักเข้าปากทันที

ดวงตาของนางเบิกกว้าง!

"อร่อยมาก!"

นางตกใจจนเผลออุทานออกมา ข้าวผัดไข่ของซูหนิงเหยียนอร่อยกว่าที่คิดไว้มาก! ไข่นุ่ม หอมกลิ่นกระทะ ข้าวเม็ดเรียงตัวสวยและเคลือบซอสอย่างลงตัว รสชาติเค็มนิด ๆ หวานหน่อย ๆ มันแตกต่างจากอาหารจืดชืดที่นางกินทุกวันโดยสิ้นเชิง!

หวังซื่อเงยหน้าขึ้นมองซูหนิงเหยียนด้วยความตกใจ 

"เจ้าทำอาหารเก่งเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใด?"

ซูหนิงเหยียนหัวเราะเบา ๆ

 "ไม่นานมานี้เอง"

หวังซื่อพยักหน้า ถ้านางสามารถทำอาหารอร่อยขนาดนี้ได้ ก็น่าจะหาเงินจากการขายอาหารได้ไม่น้อย!

หวังซื่อคิดอะไรบางอย่างก่อนจะยิ้มออกมา "แม่นางซู ข้ามีเรื่องอยากคุยด้วย เจ้าสนใจจะร่วมมือกับข้าไหม?"

ซูหนิงเหยียนขมวดคิ้ว "ร่วมมือ?"

"ใช่!" หวังซื่อยิ้มกว้าง "ข้ามีคนรู้จักที่เปิดร้านอาหารในตลาด หากเจ้าสนใจ ข้าสามารถช่วยเจ้าไปฝากขายอาหารที่ร้านนั้นได้!"

ซูหนิงเหยียนนิ่งคิด

โอกาสในการหาเงินมาถึงแล้ว!

 

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่หม้ายแฝดสาม   ประกาศรับสมัครแม่ครัว

    เป้าหมายใหม่ของมารดาซูหนิงเหยียนมองหวังซื่อที่ยิ้มอย่างจริงใจ นางเข้าใจดีว่าการมีโอกาสได้ทำอาหารขายในร้านเป็นเรื่องที่ดี แต่...นั่นไม่ใช่เป้าหมายของนางนางสูดลมหายใจลึก ๆ แล้วมองไปยังลูก ๆ ทั้งสามที่นั่งมองมาอย่างสงสัย ดวงตาไร้เดียงสาของพวกเขาทำให้หัวใจของนางอบอุ่น"ข้าขอบคุณในความหวังดีของแม่นางหวัง แต่ข้ามีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น"หวังซื่อขมวดคิ้วเล็กน้อย "เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น? เจ้าหมายถึงอะไร?"ซูหนิงเหยียนยิ้มบาง ๆ นางคิดถึงป้ายประกาศที่เห็นในตลาด 'ตำแหน่งแม่ครัวในวังหลวง'"ข้า… ตั้งใจจะสมัครเป็นแม่ครัวในวังหลวง""ว่าอย่างไรนะ!?"หวังซื่อตาโตด้วยความตกใจ ไม่เพียงแต่นาง ลูก ๆ ของซูหนิงเหยียนเองก็เบิกตากว้าง"ท่านแม่… ท่านแม่จะเข้าไปในวังหรือเจ้าคะ?" เด็กหญิงฝาแฝดถามเสียงเบา"ใช่" ซูหนิงเหยียนพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น "ข้าต้องการให้พวกเจ้ามีชีวิตที่ดีขึ้น หากข้าได้เป็นแม่ครัวในวังหลวง พวกเจ้าก็อาจจะมีโอกาสได้เข้าไปศึกษาเล่าเรียนในวัง ข้าอยากให้พวกเจ้ามีอนาคตที่ดีกว่าเดิม"เด็กทั้งสามนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เด็กชายคนโตจะกำมือแน่น ดวงตาของเขามีประกายมุ่งมั่น"ท่านแม่ ข้าจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-16
  • แม่หม้ายแฝดสาม   ทดสอบขั้นพื้นฐาน

    ด่านแรก ทดสอบอาหารพื้นฐานภายใต้แสงแดดยามสาย ขันทีผู้ดูแลการคัดเลือกแม่ครัวกวาดตามองกลุ่มหญิงสาวที่มายืนรอด้วยความตื่นเต้นและกังวล ก่อนจะประกาศเสียงดังฟังชัด"ด่านแรก! ทดสอบความสามารถด้านอาหารพื้นฐาน พวกเจ้าทุกคนจะได้รับวัตถุดิบชุดเดียวกัน จากนั้นจงปรุงอาหารที่เหมาะสมให้เสร็จภายในสองเค่อ!"(หนึ่งเค่อเท่ากับ 15 นาที สองเค่อจึงเท่ากับ 30 นาที)ทันทีที่กล่าวจบ ขันทีผู้อาวุโสสะบัดพัดในมือ ชี้ไปยังโต๊ะเรียงรายที่มีหม้อ กระทะ และวัตถุดิบเตรียมไว้เรียบร้อย"ขอให้ทุกคนเริ่มได้!"—––เริ่มต้นการทดสอบซูหนิงเหยียนก้าวไปยังโต๊ะที่ถูกกำหนดให้อย่างไม่ร้อนรน นางกวาดตามองวัตถุดิบที่มีให้ข้าวสารไข่ไก่เนื้อหมูสามชั้นผักกาดขาวซีอิ๊ว และเครื่องปรุงพื้นฐาน‘อาหารพื้นฐานที่ใช้วัตถุดิบเหล่านี้…’ นางครุ่นคิดอย่างรวดเร็วรอบตัวมีเสียงพึมพำจากผู้เข้าร่วม หลายคนเริ่มตั้งหม้อต้มน้ำ บางคนหั่นหมูเป็นชิ้นเล็กเพื่อทำซุป ซูหนิงเหยียนกลับคิดแตกต่างออกไป‘ถ้าเป็นอาหารที่เรียบง่ายที่สุด อิ่มท้อง และรสชาติอร่อย… ข้าวผัดไข่กับหมูสามชั้นตุ๋นน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี’—––การลงมือทำอาหาร1. ข้าวผัดไข่ซูหนิงเหยียนรีบหุงข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-16
  • แม่หม้ายแฝดสาม   ที่อยู่ใหม่

    เริ่มต้นชีวิตใหม่ในเมืองหลวง หลังจากได้รับตำแหน่งแม่ครัวหลวง ซูหนิงเหยียนก็ได้รับอนุญาตให้นำลูก ๆ ทั้งสามเข้ามาอยู่ในเมืองหลวง นางได้รับบ้านพักที่จัดสรรให้แก่ข้าราชสำนักระดับกลาง เป็นตำหนักเล็ก ๆ แต่เงียบสงบและอบอุ่น เมื่อลงจากรถม้า เด็ก ๆ ทั้งสามก็จ้องมองรอบ ๆ ด้วยดวงตาเป็นประกาย "แม่จ๋า! บ้านของเราใหญ่กว่าห้องเก่าในหมู่บ้านอีก!" เสี่ยวเป่าเอ่ยขึ้น พลางวิ่งสำรวจไปรอบ ๆ "พวกเรามีสวนด้วย!" เสี่ยวหูชี้ไปยังแปลงดินเล็ก ๆ ข้างตำหนัก"เราปลูกผักเองได้ไหมแม่?" ซูหนิงเหยียนหัวเราะเบา ๆ พลางลูบศีรษะลูก ๆ "ได้สิ หากพวกเจ้าอยากปลูก แม่จะช่วยพวกเจ้าดูแล" เสี่ยวหมิงที่เป็นพี่คนโตกลับไม่ได้วิ่งเล่นเช่นน้อง ๆ แต่เดินสำรวจตำหนักด้วยสีหน้าครุ่นคิด "แม่จ๋า... ตำหนักนี้ไม่เล็กไปสำหรับพวกเรา แต่ก็ไม่ได้ใหญ่เกินไปเช่นกัน เหมาะสมกับแม่ครัวหลวงจริง ๆ" ซูหนิงเหยียนพยักหน้า "ใช่แล้ว ที่นี่ไม่หรูหรา แต่ก็ปลอดภัยและอยู่ใกล้วังหลวง แม่สามารถเดินไปทำงานได้สะดวก ส่วนพวกเจ้าก็สามารถศึกษาหาความรู้ได้" จัดบ้านใหม่ พวกนางช่วยกันทำความสะอาดตำหนัก เสี่ยวเป่ากับเสี่ยวหูช่วยปัดกวาด เสี่ยวหมิงช่วยจัดของใช้ ซูหนิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-17
  • แม่หม้ายแฝดสาม   นางเอกช่วยชีวิต

    การพบกันโดยไม่ คาดฝันซูหนิงเหยียนยังคงยืนมองรอบ ๆ ตำหนัก ด้วยความระแวดระวัง เสียงลมพัดแรง ทำให้ต้นไม้ไหว เสียงใบไม้เสียดสีกันดัง แผ่วเบา แต่ไม่มีเงาของผู้ใด นางจึงคิด ว่าคงเป็นความรู้สึกไปเองแต่ทันใดนั้น-"ตุบ!"เสียงร่างหนัก ๆ หล่นลงกับพื้นหน้า ตำหนัก นางสะดุ้งเฮือก รีบหันไปมอง ก่อนจะพบร่างของชายผู้หนึ่งนอนคว่ำ หน้าอยู่ เลือดสีแดงเข้มไหลเปรอะเปื้อน พื้นหิน"อ๊ะ!" นางอุทานเบา ๆ ดวงตาเบิกกว้าง เขาสวมอาภรณ์สีดำสนิท แม้ยามนี้จะ เปรอะเปื้อนเลือดและฝุ่นดิน แต่ก็มอง ออกว่าผ้าเนื้อนี้ไม่ใช่ของชนชั้นธรรมดา นางใจสั่น รีบวิ่งเข้าไปดูใกล้ ๆ "ท่าน!" นางแตะร่างเขาเบา ๆ "ท่านยังมี ชีวิตอยู่หรือไม่?" ชายหนุ่มขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะเงย หน้าขึ้นเผยให้เห็นดวงตาคมกริบใต้ แสงจันทร์ แม้จะซีดเซียวจากการเสีย เลือด แต่ก็ยังคงแฝงไว้ด้วยพลังอำนาจ "องค์ชาย!?"ดวงตาสีดำลึกล้ำจ้องมองนาง ราวกับพยายามจะพูดบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ หมดแรงสลบไปช่วยชีวิตชายลึกลับซูหนิงเหยียนกัดฟัน คิดวิเคราะห์อย่าง รวดเร็ว"เขาเป็นใครกันแน่? ถูกลอบสังหารมา หรือ?"แม้จะสงสัย แต่นางรู้ว่าตอนนี้สิ่งที่สำคัญ ที่สุดคือช่วยชีวิตเขาก่อน น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-17
  • แม่หม้ายแฝดสาม   ข้าวต้มนก

    ข้าวต้มยามเช้า กับความเข้าใจผิดขององค์ชายรุ่งเช้า...แสงแดดอ่อน ๆ สาดเข้ามาผ่านหน้าต่าง ซูหนิงเหยียนตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมอาหารให้ชายหนุ่มที่ยังคงบาดเจ็บ นางหันไปมองร่างที่ยังนอนอยู่บนเตียง ใบหน้าหล่อเหลายังคงซีดเซียวจากการเสียเลือดมากเกินไป"หากไม่กินอะไรเลย ร่างกายคงแย่ลงแน่"ด้วยความที่พระเอกยังบาดเจ็บหนัก นางจึงตัดสินใจทำ ข้าวต้มไก่ อาหารง่าย ๆ ที่ย่อยง่ายและให้พลังงานพอสมควรกลิ่นหอมของข้าวต้ม กับสายตาของเด็ก ๆกลิ่นข้าวต้มร้อน ๆ โชยไปทั่วตำหนัก เด็ก ๆ ทั้งสามที่นั่งเฝ้าอยู่ด้านข้างเริ่มกลืนน้ำลาย"แม่จ๋า... กลิ่นหอมจังเลย!""ข้าวต้มอะไรน่ะ?""พวกเรากินได้หรือไม่?"ซูหนิงเหยียนหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะยกชามข้าวต้มขึ้นมา "อันนี้ทำให้พี่ชายในห้องก่อน ส่วนของพวกเจ้า แม่จะทำให้ทีหลัง"เด็ก ๆ พยักหน้าหงึก ๆ แม้จะอยากกินแต่ก็เข้าใจดีว่าคนเจ็บต้องมาก่อนเมื่อองค์ชายพบกับ ‘ข้าวนก’ซูหนิงเหยียนเดินถือถาดอาหารเข้าไปในห้องขององค์ชาย ก่อนจะวางมันลงข้างเตียง"ท่านตื่นหรือยัง?"เสียงขยับตัวเบา ๆ ดังขึ้น ชายหนุ่มค่อย ๆ ลืมตา เขามองนางก่อนจะเหลือบไปมองถ้วยข้าวต้มที่วางอยู่ตรงหน้า"เจ้าทำอะไรมาให้ข้าก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-18
  • แม่หม้ายแฝดสาม   นาทีชีวิต.

    คลื่นใต้น้ำในวังหลวงคืนวันนั้น ขณะที่ซูหนิงเหยียนกำลังเตรียมยาต้มให้พระเอกพักฟื้น เสียงฝีเท้าหนักแน่นก็ดังขึ้นนอกตำหนัก"ค้นให้ทั่ว!"เสียงทรงอำนาจดังขึ้นตามมาด้วยเสียงฝีเท้าของกลุ่มคนที่เดินเข้ามาโดยไม่ขออนุญาตซูหนิงเหยียนชะงัก ใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็นจริงจังทันที นางหันไปมองเด็ก ๆ ที่กำลังนั่งเล่นกันอยู่"พวกเจ้า อยู่ข้างในอย่าออกมา!" นางสั่งเสียงเข้มแฝดทั้งสามพยักหน้าหงึก ๆ แล้วรีบวิ่งไปซ่อนตัวตามคำสั่งเมื่อซูหนิงเหยียนเดินออกมาหน้าตำหนัก นางก็พบกับกลุ่มข้ารับใช้ในชุดเครื่องแบบของวังหลวงกำลังยืนล้อมรอบ พร้อมกับหญิงวัยกลางคนที่แต่งกายหรูหรา ใบหน้านางเต็มไปด้วยร่องรอยของความเย่อหยิ่ง"ท่านหญิงหลี่…" นางพึมพำในใจอนุภรรยาของฝ่าบาท… หรือก็คือพระสนมหลี่ หนึ่งในภรรยาของฮ่องเต้ และเป็นคนที่มีอำนาจมากในวังหลวงเหตุใดจึงมาค้นตำหนักของนาง?พระสนมหลี่ก้าวมาหยุดตรงหน้าซูหนิงเหยียน ดวงตาเย็นชากวาดมองตำหนักเล็ก ๆ ของแม่ครัวด้วยสีหน้าดูแคลน"เจ้าคือแม่ครัวคนใหม่ใช่หรือไม่?" นางถามเสียงเรียบ แต่แฝงไปด้วยอำนาจ"เพคะ" ซูหนิงเหยียนตอบกลับด้วยท่าทางสงบ"ข้าสงสัยว่ามีคนลอบหนีเข้ามาซ่อนตัวที่นี่ ข้าจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-18
  • แม่หม้ายแฝดสาม   แผนร้าย

    คำสั่งจากวังหลวง หลังจากเหตุการณ์ตึงเครียดผ่านไปไม่นาน ขณะที่ซูหนิงเหยียนกำลังเช็ดตัวให้พระเอก เสียงฝีเท้าของใครบางคนก็ดังขึ้นหน้าตำหนัก "ท่านแม่ครัวหลวง!" เสียงร้องเรียกนั้นฟังดูเป็นทางการ นางหันไปมองก่อนจะเห็นขันทีผู้หนึ่งก้าวเข้ามาในตำหนัก พร้อมกับข้ารับใช้ถือกล่องไม้ลวดลายงดงาม ซูหนิงเหยียนรีบลุกขึ้น แล้วคำนับตามมารยาท "ขออภัยเพคะ ไม่ทราบว่าท่านขันทีมีธุระอันใดหรือ?" ขันทียิ้มบาง ๆ ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง "ข้ามาแจ้งข่าวให้ท่านทราบ พรุ่งนี้ท่านต้องเข้าครัวหลวงแล้ว" ภารกิจใหม่เริ่มต้น ซูหนิงเหยียนนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบรับ "เพคะ" ขันทีมองนางอย่างพึงพอใจ ก่อนจะกล่าวต่อ "ในฐานะแม่ครัวหลวง ท่านต้องเตรียมอาหารเช้าสำหรับเหล่าขุนนางและพระสนมในวัง หากทำได้ดี อาจมีโอกาสได้ถวายอาหารแก่ฝ่าบาทโดยตรง" นางพยักหน้ารับรู้ "หม่อมฉันจะทำให้ดีที่สุดเพคะ" ขันทีหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะเปิดกล่องไม้ที่นำมา ข้างในมีชุดแม่ครัวหลวงที่ปักด้วยลายเมฆมงคล และป้ายไม้แกะสลักซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงตำแหน่งของนาง "นี่คือชุดของท่าน และป้ายตำแหน่ง โปรดรักษาไว้ให้ดี" สายตาของพระเอก ขณะที่ซูหนิงเหยียนรั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-19
  • แม่หม้ายแฝดสาม   อำนาจ

    อำนาจในมือของนางหลังจากเหตุการณ์ปะทะกับฮวาเหมยในครัวหลวง บรรยากาศในห้องครัวก็เปลี่ยนไปทันที ก่อนหน้านี้แม่ครัวและผู้ช่วยหลายคนต่างจับกลุ่มซุบซิบนินทานาง คอยมองนางด้วยสายตาดูแคลน แต่ตอนนี้…พวกนางกลับเงียบกันไปหมดซูหนิงเหยียนกวาดตามองรอบห้องครัว มือเรียวยกไหซุปขึ้นตักน้ำซุปให้เข้าที่ นางมองดูผู้ช่วยที่ยืนว่างงานอยู่หลายคนก่อนจะกล่าวเสียงเรียบแต่ทรงอำนาจ"ที่นี่คือครัวหลวง มิใช่โรงน้ำชา!"เสียงของนางแม้จะไม่ได้ดังมาก แต่กลับก้องกังวานในใจทุกคนแม่ครัวหลายคนสะดุ้ง รีบหันมามองนาง"ในเมื่อเจ้าทุกคนเป็นแม่ครัวและผู้ช่วยในครัวหลวง จงทำงานให้สมกับตำแหน่งของตนเอง!"นางเดินไปยังกลุ่มแม่ครัวที่จับกลุ่มคุยกันอย่างว่างงาน แล้วกล่าวเสียงเข้ม"หากมีเวลายืนพูดคุยเรื่องไร้สาระ เช่นนั้นจงไปช่วยเตรียมวัตถุดิบเสีย! ปอกกระเทียม หั่นขิง หรือกวาดลานก็ได้!"แม่ครัวบางคนทำหน้าไม่พอใจ แต่ก็ไม่มีใครกล้าเถียง เพราะพวกนางเพิ่งเห็นแล้วว่า… นางไม่ใช่คนที่ยอมให้ใครกดหัวได้ง่าย ๆการบริหารจัดการในครัวหลวงซูหนิงเหยียนกวาดตามองไปรอบ ๆ ก่อนจะกล่าวต่อ"จากนี้ไป ข้าจะแบ่งหน้าที่ให้ชัดเจน"นางชี้ไปที่กลุ่มผู้ช่วยแม่ครัว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-20

บทล่าสุด

  • แม่หม้ายแฝดสาม   เอาดีเข้าตัว

    ภายในตำหนักหลวง โต๊ะเสวยถูกจัดเตรียมอย่างประณีต กลิ่นหอมของอาหารลอยฟุ้งไปทั่วห้อง ทุกจานถูกจัดวางอย่างมีศิลปะจนแม้แต่ขันทีกับนางกำนัลยังอดชื่นชมไม่ได้"อาหารฝีมือแม่ครัวคนใหม่?" ฮ่องเต้ลูบเคราอย่างพึงพอใจ มองสำรับที่ถูกนำขึ้นโต๊ะพระสนมเหมยฮวา หนึ่งในอนุภรรยาคนโปรดของฮ่องเต้ แสร้งยิ้มอ่อนโยน แต่นัยน์ตากลับซ่อนความสงสัย นางได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับแม่ครัวคนใหม่ที่เพิ่งเข้ามา ว่านางช่างอวดดีและไม่เกรงกลัวใคร"หม่อมฉันก็อยากรู้ว่าอาหารของแม่ครัวใหม่จะดีเพียงใด" นางเอ่ยเสียงหวาน แฝงความนัยองค์ชายรัชทายาท ลู่เหวินเฉิง ลูกชายใหญ่ของพระสนมเหมยฮวา นั่งอย่างสง่างาม เขายกถ้วยชาขึ้นจิบเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้นในขณะที่ทุกคนเริ่มลิ้มรสอาหาร"เสด็จพ่อ ลูกได้รับรายงานมาว่า การค้าผ้าไหมของแคว้นเราในปีนี้เติบโตขึ้นเป็นเท่าตัว หม่อมฉันได้มีส่วนจัดการให้ทูตจากแคว้นต้าโจวตกลงซื้อผ้าไหมเพิ่มขึ้นถึงห้าร้อยพับพ่ะย่ะค่ะ"น้ำเสียงของเขาเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจ ราวกับรอคอยให้ฮ่องเต้เอ่ยชมฮ่องเต้พยักหน้าเล็กน้อยก่อนตอบ "อืม ถือเป็นความดีความชอบของเจ้า"รัชทายาทเผยรอยยิ้มพึงพอใจ ก่อนจะพูดต่อ "นอกจากเรื่องการค้า หม

  • แม่หม้ายแฝดสาม   อำนาจ

    อำนาจในมือของนางหลังจากเหตุการณ์ปะทะกับฮวาเหมยในครัวหลวง บรรยากาศในห้องครัวก็เปลี่ยนไปทันที ก่อนหน้านี้แม่ครัวและผู้ช่วยหลายคนต่างจับกลุ่มซุบซิบนินทานาง คอยมองนางด้วยสายตาดูแคลน แต่ตอนนี้…พวกนางกลับเงียบกันไปหมดซูหนิงเหยียนกวาดตามองรอบห้องครัว มือเรียวยกไหซุปขึ้นตักน้ำซุปให้เข้าที่ นางมองดูผู้ช่วยที่ยืนว่างงานอยู่หลายคนก่อนจะกล่าวเสียงเรียบแต่ทรงอำนาจ"ที่นี่คือครัวหลวง มิใช่โรงน้ำชา!"เสียงของนางแม้จะไม่ได้ดังมาก แต่กลับก้องกังวานในใจทุกคนแม่ครัวหลายคนสะดุ้ง รีบหันมามองนาง"ในเมื่อเจ้าทุกคนเป็นแม่ครัวและผู้ช่วยในครัวหลวง จงทำงานให้สมกับตำแหน่งของตนเอง!"นางเดินไปยังกลุ่มแม่ครัวที่จับกลุ่มคุยกันอย่างว่างงาน แล้วกล่าวเสียงเข้ม"หากมีเวลายืนพูดคุยเรื่องไร้สาระ เช่นนั้นจงไปช่วยเตรียมวัตถุดิบเสีย! ปอกกระเทียม หั่นขิง หรือกวาดลานก็ได้!"แม่ครัวบางคนทำหน้าไม่พอใจ แต่ก็ไม่มีใครกล้าเถียง เพราะพวกนางเพิ่งเห็นแล้วว่า… นางไม่ใช่คนที่ยอมให้ใครกดหัวได้ง่าย ๆการบริหารจัดการในครัวหลวงซูหนิงเหยียนกวาดตามองไปรอบ ๆ ก่อนจะกล่าวต่อ"จากนี้ไป ข้าจะแบ่งหน้าที่ให้ชัดเจน"นางชี้ไปที่กลุ่มผู้ช่วยแม่ครัว

  • แม่หม้ายแฝดสาม   แผนร้าย

    คำสั่งจากวังหลวง หลังจากเหตุการณ์ตึงเครียดผ่านไปไม่นาน ขณะที่ซูหนิงเหยียนกำลังเช็ดตัวให้พระเอก เสียงฝีเท้าของใครบางคนก็ดังขึ้นหน้าตำหนัก "ท่านแม่ครัวหลวง!" เสียงร้องเรียกนั้นฟังดูเป็นทางการ นางหันไปมองก่อนจะเห็นขันทีผู้หนึ่งก้าวเข้ามาในตำหนัก พร้อมกับข้ารับใช้ถือกล่องไม้ลวดลายงดงาม ซูหนิงเหยียนรีบลุกขึ้น แล้วคำนับตามมารยาท "ขออภัยเพคะ ไม่ทราบว่าท่านขันทีมีธุระอันใดหรือ?" ขันทียิ้มบาง ๆ ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง "ข้ามาแจ้งข่าวให้ท่านทราบ พรุ่งนี้ท่านต้องเข้าครัวหลวงแล้ว" ภารกิจใหม่เริ่มต้น ซูหนิงเหยียนนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบรับ "เพคะ" ขันทีมองนางอย่างพึงพอใจ ก่อนจะกล่าวต่อ "ในฐานะแม่ครัวหลวง ท่านต้องเตรียมอาหารเช้าสำหรับเหล่าขุนนางและพระสนมในวัง หากทำได้ดี อาจมีโอกาสได้ถวายอาหารแก่ฝ่าบาทโดยตรง" นางพยักหน้ารับรู้ "หม่อมฉันจะทำให้ดีที่สุดเพคะ" ขันทีหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะเปิดกล่องไม้ที่นำมา ข้างในมีชุดแม่ครัวหลวงที่ปักด้วยลายเมฆมงคล และป้ายไม้แกะสลักซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงตำแหน่งของนาง "นี่คือชุดของท่าน และป้ายตำแหน่ง โปรดรักษาไว้ให้ดี" สายตาของพระเอก ขณะที่ซูหนิงเหยียนรั

  • แม่หม้ายแฝดสาม   นาทีชีวิต.

    คลื่นใต้น้ำในวังหลวงคืนวันนั้น ขณะที่ซูหนิงเหยียนกำลังเตรียมยาต้มให้พระเอกพักฟื้น เสียงฝีเท้าหนักแน่นก็ดังขึ้นนอกตำหนัก"ค้นให้ทั่ว!"เสียงทรงอำนาจดังขึ้นตามมาด้วยเสียงฝีเท้าของกลุ่มคนที่เดินเข้ามาโดยไม่ขออนุญาตซูหนิงเหยียนชะงัก ใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็นจริงจังทันที นางหันไปมองเด็ก ๆ ที่กำลังนั่งเล่นกันอยู่"พวกเจ้า อยู่ข้างในอย่าออกมา!" นางสั่งเสียงเข้มแฝดทั้งสามพยักหน้าหงึก ๆ แล้วรีบวิ่งไปซ่อนตัวตามคำสั่งเมื่อซูหนิงเหยียนเดินออกมาหน้าตำหนัก นางก็พบกับกลุ่มข้ารับใช้ในชุดเครื่องแบบของวังหลวงกำลังยืนล้อมรอบ พร้อมกับหญิงวัยกลางคนที่แต่งกายหรูหรา ใบหน้านางเต็มไปด้วยร่องรอยของความเย่อหยิ่ง"ท่านหญิงหลี่…" นางพึมพำในใจอนุภรรยาของฝ่าบาท… หรือก็คือพระสนมหลี่ หนึ่งในภรรยาของฮ่องเต้ และเป็นคนที่มีอำนาจมากในวังหลวงเหตุใดจึงมาค้นตำหนักของนาง?พระสนมหลี่ก้าวมาหยุดตรงหน้าซูหนิงเหยียน ดวงตาเย็นชากวาดมองตำหนักเล็ก ๆ ของแม่ครัวด้วยสีหน้าดูแคลน"เจ้าคือแม่ครัวคนใหม่ใช่หรือไม่?" นางถามเสียงเรียบ แต่แฝงไปด้วยอำนาจ"เพคะ" ซูหนิงเหยียนตอบกลับด้วยท่าทางสงบ"ข้าสงสัยว่ามีคนลอบหนีเข้ามาซ่อนตัวที่นี่ ข้าจ

  • แม่หม้ายแฝดสาม   ข้าวต้มนก

    ข้าวต้มยามเช้า กับความเข้าใจผิดขององค์ชายรุ่งเช้า...แสงแดดอ่อน ๆ สาดเข้ามาผ่านหน้าต่าง ซูหนิงเหยียนตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมอาหารให้ชายหนุ่มที่ยังคงบาดเจ็บ นางหันไปมองร่างที่ยังนอนอยู่บนเตียง ใบหน้าหล่อเหลายังคงซีดเซียวจากการเสียเลือดมากเกินไป"หากไม่กินอะไรเลย ร่างกายคงแย่ลงแน่"ด้วยความที่พระเอกยังบาดเจ็บหนัก นางจึงตัดสินใจทำ ข้าวต้มไก่ อาหารง่าย ๆ ที่ย่อยง่ายและให้พลังงานพอสมควรกลิ่นหอมของข้าวต้ม กับสายตาของเด็ก ๆกลิ่นข้าวต้มร้อน ๆ โชยไปทั่วตำหนัก เด็ก ๆ ทั้งสามที่นั่งเฝ้าอยู่ด้านข้างเริ่มกลืนน้ำลาย"แม่จ๋า... กลิ่นหอมจังเลย!""ข้าวต้มอะไรน่ะ?""พวกเรากินได้หรือไม่?"ซูหนิงเหยียนหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะยกชามข้าวต้มขึ้นมา "อันนี้ทำให้พี่ชายในห้องก่อน ส่วนของพวกเจ้า แม่จะทำให้ทีหลัง"เด็ก ๆ พยักหน้าหงึก ๆ แม้จะอยากกินแต่ก็เข้าใจดีว่าคนเจ็บต้องมาก่อนเมื่อองค์ชายพบกับ ‘ข้าวนก’ซูหนิงเหยียนเดินถือถาดอาหารเข้าไปในห้องขององค์ชาย ก่อนจะวางมันลงข้างเตียง"ท่านตื่นหรือยัง?"เสียงขยับตัวเบา ๆ ดังขึ้น ชายหนุ่มค่อย ๆ ลืมตา เขามองนางก่อนจะเหลือบไปมองถ้วยข้าวต้มที่วางอยู่ตรงหน้า"เจ้าทำอะไรมาให้ข้าก

  • แม่หม้ายแฝดสาม   นางเอกช่วยชีวิต

    การพบกันโดยไม่ คาดฝันซูหนิงเหยียนยังคงยืนมองรอบ ๆ ตำหนัก ด้วยความระแวดระวัง เสียงลมพัดแรง ทำให้ต้นไม้ไหว เสียงใบไม้เสียดสีกันดัง แผ่วเบา แต่ไม่มีเงาของผู้ใด นางจึงคิด ว่าคงเป็นความรู้สึกไปเองแต่ทันใดนั้น-"ตุบ!"เสียงร่างหนัก ๆ หล่นลงกับพื้นหน้า ตำหนัก นางสะดุ้งเฮือก รีบหันไปมอง ก่อนจะพบร่างของชายผู้หนึ่งนอนคว่ำ หน้าอยู่ เลือดสีแดงเข้มไหลเปรอะเปื้อน พื้นหิน"อ๊ะ!" นางอุทานเบา ๆ ดวงตาเบิกกว้าง เขาสวมอาภรณ์สีดำสนิท แม้ยามนี้จะ เปรอะเปื้อนเลือดและฝุ่นดิน แต่ก็มอง ออกว่าผ้าเนื้อนี้ไม่ใช่ของชนชั้นธรรมดา นางใจสั่น รีบวิ่งเข้าไปดูใกล้ ๆ "ท่าน!" นางแตะร่างเขาเบา ๆ "ท่านยังมี ชีวิตอยู่หรือไม่?" ชายหนุ่มขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะเงย หน้าขึ้นเผยให้เห็นดวงตาคมกริบใต้ แสงจันทร์ แม้จะซีดเซียวจากการเสีย เลือด แต่ก็ยังคงแฝงไว้ด้วยพลังอำนาจ "องค์ชาย!?"ดวงตาสีดำลึกล้ำจ้องมองนาง ราวกับพยายามจะพูดบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ หมดแรงสลบไปช่วยชีวิตชายลึกลับซูหนิงเหยียนกัดฟัน คิดวิเคราะห์อย่าง รวดเร็ว"เขาเป็นใครกันแน่? ถูกลอบสังหารมา หรือ?"แม้จะสงสัย แต่นางรู้ว่าตอนนี้สิ่งที่สำคัญ ที่สุดคือช่วยชีวิตเขาก่อน น

  • แม่หม้ายแฝดสาม   ที่อยู่ใหม่

    เริ่มต้นชีวิตใหม่ในเมืองหลวง หลังจากได้รับตำแหน่งแม่ครัวหลวง ซูหนิงเหยียนก็ได้รับอนุญาตให้นำลูก ๆ ทั้งสามเข้ามาอยู่ในเมืองหลวง นางได้รับบ้านพักที่จัดสรรให้แก่ข้าราชสำนักระดับกลาง เป็นตำหนักเล็ก ๆ แต่เงียบสงบและอบอุ่น เมื่อลงจากรถม้า เด็ก ๆ ทั้งสามก็จ้องมองรอบ ๆ ด้วยดวงตาเป็นประกาย "แม่จ๋า! บ้านของเราใหญ่กว่าห้องเก่าในหมู่บ้านอีก!" เสี่ยวเป่าเอ่ยขึ้น พลางวิ่งสำรวจไปรอบ ๆ "พวกเรามีสวนด้วย!" เสี่ยวหูชี้ไปยังแปลงดินเล็ก ๆ ข้างตำหนัก"เราปลูกผักเองได้ไหมแม่?" ซูหนิงเหยียนหัวเราะเบา ๆ พลางลูบศีรษะลูก ๆ "ได้สิ หากพวกเจ้าอยากปลูก แม่จะช่วยพวกเจ้าดูแล" เสี่ยวหมิงที่เป็นพี่คนโตกลับไม่ได้วิ่งเล่นเช่นน้อง ๆ แต่เดินสำรวจตำหนักด้วยสีหน้าครุ่นคิด "แม่จ๋า... ตำหนักนี้ไม่เล็กไปสำหรับพวกเรา แต่ก็ไม่ได้ใหญ่เกินไปเช่นกัน เหมาะสมกับแม่ครัวหลวงจริง ๆ" ซูหนิงเหยียนพยักหน้า "ใช่แล้ว ที่นี่ไม่หรูหรา แต่ก็ปลอดภัยและอยู่ใกล้วังหลวง แม่สามารถเดินไปทำงานได้สะดวก ส่วนพวกเจ้าก็สามารถศึกษาหาความรู้ได้" จัดบ้านใหม่ พวกนางช่วยกันทำความสะอาดตำหนัก เสี่ยวเป่ากับเสี่ยวหูช่วยปัดกวาด เสี่ยวหมิงช่วยจัดของใช้ ซูหนิ

  • แม่หม้ายแฝดสาม   ทดสอบขั้นพื้นฐาน

    ด่านแรก ทดสอบอาหารพื้นฐานภายใต้แสงแดดยามสาย ขันทีผู้ดูแลการคัดเลือกแม่ครัวกวาดตามองกลุ่มหญิงสาวที่มายืนรอด้วยความตื่นเต้นและกังวล ก่อนจะประกาศเสียงดังฟังชัด"ด่านแรก! ทดสอบความสามารถด้านอาหารพื้นฐาน พวกเจ้าทุกคนจะได้รับวัตถุดิบชุดเดียวกัน จากนั้นจงปรุงอาหารที่เหมาะสมให้เสร็จภายในสองเค่อ!"(หนึ่งเค่อเท่ากับ 15 นาที สองเค่อจึงเท่ากับ 30 นาที)ทันทีที่กล่าวจบ ขันทีผู้อาวุโสสะบัดพัดในมือ ชี้ไปยังโต๊ะเรียงรายที่มีหม้อ กระทะ และวัตถุดิบเตรียมไว้เรียบร้อย"ขอให้ทุกคนเริ่มได้!"—––เริ่มต้นการทดสอบซูหนิงเหยียนก้าวไปยังโต๊ะที่ถูกกำหนดให้อย่างไม่ร้อนรน นางกวาดตามองวัตถุดิบที่มีให้ข้าวสารไข่ไก่เนื้อหมูสามชั้นผักกาดขาวซีอิ๊ว และเครื่องปรุงพื้นฐาน‘อาหารพื้นฐานที่ใช้วัตถุดิบเหล่านี้…’ นางครุ่นคิดอย่างรวดเร็วรอบตัวมีเสียงพึมพำจากผู้เข้าร่วม หลายคนเริ่มตั้งหม้อต้มน้ำ บางคนหั่นหมูเป็นชิ้นเล็กเพื่อทำซุป ซูหนิงเหยียนกลับคิดแตกต่างออกไป‘ถ้าเป็นอาหารที่เรียบง่ายที่สุด อิ่มท้อง และรสชาติอร่อย… ข้าวผัดไข่กับหมูสามชั้นตุ๋นน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี’—––การลงมือทำอาหาร1. ข้าวผัดไข่ซูหนิงเหยียนรีบหุงข

  • แม่หม้ายแฝดสาม   ประกาศรับสมัครแม่ครัว

    เป้าหมายใหม่ของมารดาซูหนิงเหยียนมองหวังซื่อที่ยิ้มอย่างจริงใจ นางเข้าใจดีว่าการมีโอกาสได้ทำอาหารขายในร้านเป็นเรื่องที่ดี แต่...นั่นไม่ใช่เป้าหมายของนางนางสูดลมหายใจลึก ๆ แล้วมองไปยังลูก ๆ ทั้งสามที่นั่งมองมาอย่างสงสัย ดวงตาไร้เดียงสาของพวกเขาทำให้หัวใจของนางอบอุ่น"ข้าขอบคุณในความหวังดีของแม่นางหวัง แต่ข้ามีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น"หวังซื่อขมวดคิ้วเล็กน้อย "เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น? เจ้าหมายถึงอะไร?"ซูหนิงเหยียนยิ้มบาง ๆ นางคิดถึงป้ายประกาศที่เห็นในตลาด 'ตำแหน่งแม่ครัวในวังหลวง'"ข้า… ตั้งใจจะสมัครเป็นแม่ครัวในวังหลวง""ว่าอย่างไรนะ!?"หวังซื่อตาโตด้วยความตกใจ ไม่เพียงแต่นาง ลูก ๆ ของซูหนิงเหยียนเองก็เบิกตากว้าง"ท่านแม่… ท่านแม่จะเข้าไปในวังหรือเจ้าคะ?" เด็กหญิงฝาแฝดถามเสียงเบา"ใช่" ซูหนิงเหยียนพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น "ข้าต้องการให้พวกเจ้ามีชีวิตที่ดีขึ้น หากข้าได้เป็นแม่ครัวในวังหลวง พวกเจ้าก็อาจจะมีโอกาสได้เข้าไปศึกษาเล่าเรียนในวัง ข้าอยากให้พวกเจ้ามีอนาคตที่ดีกว่าเดิม"เด็กทั้งสามนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เด็กชายคนโตจะกำมือแน่น ดวงตาของเขามีประกายมุ่งมั่น"ท่านแม่ ข้าจ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status