แม่คะช่วยหนูด้วย พ่อขังหนูไว้ในรถแล้ว “แม่คะ ช่วยด้วย พ่อขังหนูไว้ในรถแล้ว” เวลาบ่ายสองในวันที่แดดจ้า ก็ได้รับโทรศัพท์จากลูกสาว ฉันเร่งมือหาหนทางช่วยชีวิตลูกทันที แต่สามีที่รับสายกลับดูไม่ทุกข์ร้อนใจเลยแม้แต่นิด “เสี่ยวหานอารมณ์ไม่ดี ผมพาไปเดินเล่นในสวนสนุกหน่อย คุณจะอะไรนักหนา” เสียงวางสายอย่างเย็นชาจากสามี ทำให้ในใจฉันมีเพียงความคิดเดียวเท่านั้น ดีที่สุดพวกคุณควรภาวนาให้ลูกสาวของฉันปลอดภัย
View More"ที่รัก ผมขอร้องล่ะ รีบออกมาเถอะ""ที่รัก ผมสำนึกผิดแล้ว คุณอย่าทำให้เสี่ยวหานลำบากใจเลยนะ...""ฮึก ซินซิน ลูกอยู่ไหน ซินซินของพ่อ ฮือ..."ฉันรับโทรศัพท์ "หา ทำให้ลำบากใจอะไรกัน? เธออยู่กับซินซิน คุณไปเป็นพ่อเลี้ยงคนอื่น แต่ดันมาอิจฉาซินซิน คุณไม่อายบ้างรึไง?""ฉันวางนะ...""ซินซินบอกให้ฉันวางแล้ว งั้นฉันวางแล้วนะ...""นี่คุณสั่งให้คนตามหาที่อยู่ของพวกเราเหรอ? คุณมันน่าแขยงขยะ เธอชื่อซินซินสินะ""แม่ของเธอน่าขยะแขยงที่สุด!"เสียงนังเด็กนั่นตะโกนดังขึ้นข้างหู "คุณพ่อขา ช่วยหนูด้วย ช่วยหนูด้วย..."ฉันยัดถุงเท้าปิดปากนังเด็กนั่น"ซินซินเรียกฉันไปเล่นด้วยแล้ว แกบอกว่าพวกคุณเสียงดัง ควรถูกขังไว้ในรถ...""อะไรนะจ๊ะ โอเค ๆ ไม่เล่นโทรศัพท์แล้ว""แม่ปิดแล้วจ้ะ!" ฉันพูดกับลูกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเช่นที่เคยทำ จากนั้นจึงปิดโทรศัพท์ ทำความหวังทั้งหมดดับสิ้นไปโดยสมบูรณ์ข้างล่างนั้นวุ่นวายไปทั่วเสียงของหลินซียู่ดังขึ้นผ่านวิทยุกระจายเสียง "เด็กไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ฉันยอมคุกเข่าต่อหน้าเธอเลยก็ได้""เจียงเยว่ ฉันขอร้องล่ะ""เจียงเยว่ ฉันไม่เคยรักผู้ชายคนนี้เลย ฉันก็แค่...""ขอร้องล่ะ
"ซินซิน ลูกดูสิ เธอเสียงดังกว่าลูกเยอะเลย"ณ จุดสูงสุดของชิงช้าสวรรค์ เมื่อมองลงไปภาพเบื้องล่างเล็กจิ๋วฉันรู้ว่าเหนือห้องโดยสารมีช่องอากาศเล็ก ๆ ซึ่งพอจะให้คนคนหนึ่งออกไปได้ฉันใช้แรงทั้งหมดเพื่อปีนออกไป ก่อนจะดึงตัวลูกสาวกับนังเด็กนั่นออกมาฉันมาถึงทางเดินที่ปูด้วยแผ่นไม้ซึ่งเชื่อมอยู่กับตู้โดยสาร และเป็นรางเหล็กที่มีความกว้างแค่หนึ่งเมตรกว่า ๆเส้นทางนั้นทอดยาวเชื่อมไปถึงแกนกลางของชิงช้าสวรรค์ฉันพาลูกกับนังเด็กตัวดีที่ยังสลบไสลไถลไปตามเส้นทางตอนนี้เป็นทางลาด...ตกเย็นแล้ว ไม่มีใครอื่น และไม่มีใครสังเกตเห็นพวกเรา บนชิงช้าสวรรค์ขนาดมหึมา พวกเราเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ จุดหนึ่งเท่านั้นด้านนอกรางเหล็กประดับไปด้วยไฟหลากสีสวยงามทว่าภายในกลับมืดสนิทในที่สุดฉันกับลูกก็ไถลลงมาได้ราวเล่นสไลเดอร์รวมถึงนังเด็กที่ไม่ได้สติคนนั้นด้วยไม่กี่นาทีต่อมา ในที่สุดเราก็ไถลผ่านเส้นทางหลายร้อยเมตรจนมาถึงแกนกลางของชิงช้าสวรรค์ตรงนั้นมีแท่นเล็ก ๆ ที่อยู่ห่างจากพื้นดินราวร้อยเมตรที่นี่ เป็นแท่นเปิดโล่งสำหรับให้คนงานยืนเพื่อซ่อมแกนชิงช้าสวรรค์ข้างล่างมีบันไดอยู่ แต่ฉันรู้ว่าพวกเขาจะพาดบันไ
ระหว่างที่เรากำลังหาตั๋ว เขาก็โทรเข้ามาฉันส่งสัญญาณให้ซินซินเล็กน้อยว่าพ่อของเธอโทรมาก่อนจะรับสาย"เจียงเยว่ ใครให้คุณมาที่ดิสนีย์แลนด์?""คุณทำแบบนี้ทำให้ผมรู้สึกขยะแขยงมากเลยนะ เจียงเยว่ ทำแบบนี้มีแต่จะทำให้ผมรังเกียจคุณมากขึ้นไปอีก..."ฉันเบาเสียงลง"ชู่ว์ อย่าให้ซินซินได้ยินนะ!""ซินซินอยากมาเที่ยวที่นี่มาโดยตลอด แล้วตอนนี้คุณก็บังเอิญอยู่ที่นี่พอดี...""หลิ่วเฉินลนลาน ""ซินซิน ซินซินอีกแล้ว คุณ...ทั้งที่คุณก็รู้สถานการณ์ของเสี่ยวหานในตอนนี้ดี ทำไมยังพาซินซินมายั่วโมโหแกอีก""Note: ต้นฉบับเป็นชื่อ 柳岩 แต่ในเรื่องไม่มีการกล่าวถึงตัวละครชื่อนี้มาก่อน ในบริบทนี้คาดว่าน่าจะหมายถึงหลิ่วเฉิน รบกวนช่วยรีเช็กอีกทีนะคะ"ฉันพูดอย่างเย็นชา "ไม่ต้องห่วง ฉันกับซินซินจะขอให้คุณอยู่ด้วยกันแค่แป๊บเดียว ต่อไปเด็กเหลือขอคนนั้นก็เป็นของคุณแล้ว"หลิ่วเฉินตะโกน "คุณว่าไงนะ? ผมบอกไว้เลยนะ คุณอย่ามายุ่ง! คุณรอผมที่ทางเข้านั่นแหละ ผมจะออกไปหาคุณเอง อย่ามาหาพวกเราเด็ดขาด"ข้างหูแว่วเสียงเขาพูดกับผู้หญิงข้างกายเข้ามาอีกครั้ง "คุณพาลูกไปก่อนนะ ผมจะออกไปหาเธอ""เราแยกกันตามหาง่ายกว่านะ"ฉันได้ยิน
ขณะที่กำลังจะฝ่าด่านออกไป ตำรวจก็ตะโกนผ่านโทรโข่งมาว่า"คุณเจียง อย่าวู่วามนะครับ!""เราติดต่อสามีคุณได้แล้ว!"ก็ดี ดีแล้วติดต่อได้ก็ดี ฉันกับซินซินกำลังจะไปหาเขาพอดีซินซินอยากให้ครอบครัวเราอยู่พร้อมหน้ากันมาตลอดนี่นาซินซิน ลูกรักของแม่อีกไม่นานก็จะได้เจอพ่อแล้วนะ"คุณหลิ่วเฉินใช่ไหมครับ?""ผมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเขตคุนเฉิง คือเรื่องเป็นแบบนี้ครับ ลูกสาวคุณเสียชีวิตแล้ว...""ภรรยาของคุณรับความจริงไม่ได้ ตอนนี้กำลังนำร่างลูกสาวของคุณ--"ปลายสายเงียบไปไม่ถึงครึ่งวินาที จากนั้นเสียงเย็นชาก็ดังขึ้น"ดีนี่เจียงเยว่ ไปหาคนมาปลอมตัวเป็นตำรวจสินะ""อะไรอีกล่ะ อยากให้ผมแสดงละครเป็นเพื่อนคุณด้วยใช่ไหม""คืนร่างของซินซินมา ทำไมคุณไม่ให้ซินซินแสดงว่าตายยังไงด้วยเลยละ!""..."เมื่อได้ยินประโยคนั้น ฉันก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่หัวเราะไป น้ำตาก็ไหลรินออกมาไม่หยุด"ใช่ไหมล่ะ ฉันบอกแล้วไงว่าซินซินของฉันไม่เป็นไร ซินซินแสดงละครอยู่ต่างหาก!""ซินซินของฉันแค่กำลังแสดงละคร!""ซินซิน เป็นเด็กดีนะลูก อย่าขยับนะ"ตำรวจมองไปยังซินซินที่อยู่บนคาร์ซีท เขาขมวดคิ้ว ก่อนจะตะค
ฉันกระโดดไปข้างหน้าหมอราวกับสปริงเด้งแต่สิ่งที่เห็นคือหมอกำลังถอนหายใจ ส่ายหัว ความรู้สึกในใจฉันเหมือนถูกดูดจนกลายเป็นสุญญากาศฉันจับตัวหมอเขย่าอย่างแรง “ซินซินจะต้องไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ คุณหมอ”หมอพูดปลอบฉันด้วยความหมดหวังว่าได้ทำเต็มที่แล้ว ลองให้เธออยู่ในห้องไอซียูดูก่อน“แล้วพ่อของเด็กล่ะอยู่ไหน?”“พาเขามาดูหน่อยก็ดีนะ”ฉันทั้งสิ้นหวังและโกรธจนอยากจะคว้าตัวหมอ อยากคุกเข่าขอร้องให้หมอช่วยให้เต็มที่มากกว่านี้แต่แล้วฉันก็เห็นลูกสาวที่รักของฉัน เต็มไปด้วยสายระโยงระยางทั่วทั้งตัว ขณะถูกเข็นไปยังห้องไอซียูฉันวิ่งตามไปเหมือนสัตว์ป่าที่สูญเสียจิตวิญญาณ น้ำตาและน้ำมูกไหลไม่หยุด“ซินซิน ซินซิน ลูกจะต้องไม่เป็นอะไรนะ ซินซินของแม่”ซินซินหลับตาสนิท ส่วนที่เปิดเผยของร่างกายถูกพันด้วยผ้าพันแผลใบหน้าของเธอซีดเซียว ไม่พูดสักคำ และดูไร้ซึ่งชีวิตชีวาเด็กน้อยคนนั้น ตอนนี้กลายเป็นเหมือนตุ๊กตาที่แตกหัก นอนนิ่งอยู่บนเตียงผู้ป่วยก่อนที่ฉันจะเดินทางไปทำงาน เธอยังวิ่งเล่นอย่างสนุกสนาน ทั้งจูบทั้งกอดฉัน ร้องเรียกฉันอย่างหวาน ๆ ว่าแม่ และสัญญาว่าจะรอเล่นด้วยกันเมื่อฉันกลับมาบ้านแต่ทำไมเพี
ฉันมาถึงโรงพยาบาลตอนนี้เป็นเวลาประมาณห้าโมงเย็นแล้ว ระหว่างทางฉันฝ่าไฟแดงไปหลายครั้งเสี่ยวฟางและเพื่อนๆ อีกสองสามคนรอฉันอยู่ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวล“สถานการณ์ไม่ค่อยดีนัก เธอต้องใจเย็น ๆ ก่อนนะ”ฉันรู้สึกหน้ามืดคล้ายจะล้มลงเมื่อเดินไปถึงหน้าห้องฉุกเฉินร่างเล็ก ๆ ของลูกสาวฉันยังคงอยู่ในนั้น ยังคงอยู่ระหว่างการช่วยชีวิต"ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้"แค่ถูกขังไว้ในรถ ทำไมถึงได้รุนแรงขนาดนี้ทั้ง ๆ ที่ก่อนออกเดินทาง เธอยังโผเข้ากอดฉันอย่างหวานชื่น จูบฉัน และบอกให้ฉันรีบกลับบ้านเร็ว ๆแล้วทำไมเพียงชั่วพริบตา เธอถึงได้มาอยู่ในห้องฉุกเฉินแบบนี้…ตลอดทางฉันคิดถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด แต่ก็ไม่เคยคิดว่าจะร้ายแรงถึงเพียงนี้เสี่ยวฟางเล่าถึงวิธีที่พวกเขาพบตัวลูกของฉัน“พวกเราค้นหารถของนางหลินจากหน่วยงานจราจร แต่รถของเธอไม่ได้อยู่ที่สวนสนุก”“จากนั้นเราดูภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าโรงเรียนอนุบาล และพบรถคันนี้”“เป็นรถของสามีผู้ล่วงลับของหลินซียู่”หลังจากได้หมายเลขทะเบียนรถมา เราก็ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่เป็นคนขับรถหลายคน จนรู้ว่ารถจอดอยู่ที่ลานจอดรถกลางแจ้งของสวนสนุกดิสน
“คุณเจียง รถของสามีคุณอยู่ที่ลานจอดรถบริษัท”“เยว่เยว่ เพื่อนคนขับรถในเมืองที่สวนสนุกช่วยกันหาแล้วนะ แต่ยังไม่พบอะไรเลย”“เยว่เยว่ ยัยหลินนั่นไม่ได้อยู่ที่บริษัทนะ ได้ยินว่าเธอไปทำงานนอกสถานที่กับผู้ชายคนหนึ่ง”ฉันแทบจะตะโกน “ช่วยฉันตามหารถของเธอที”“ซินซินยังอยู่ในรถนะ”ข้างหน้าสว่างจ้า แสงอาทิตย์ส่องแสงแรงจนพื้นถนนดูบิดเบี้ยวฉันเองก็รู้สึกเหมือนกำลังบิดเบี้ยว ถึงจะขับรถเร็วเกินกำหนด แต่ฉันไม่สนใจแล้วลูกรักของแม่จะต้องปลอดภัยนะเรากำลังเข้าใกล้เมืองขึ้นทุกทีแต่ฉันกลับไม่รู้สึกโล่งใจเลยแม้แต่น้อยโทรศัพท์ของเขายังคงปิดเครื่องอยู่เหมือนกับคืนที่เขาไม่กลับบ้านอีกครั้งซินซินนอนไม่หลับและร้องไห้หาแต่พ่อของเธอ“พ่อหายไปแล้วเหรอคะแม่? เราไปหาพ่อกันนะ”ฉันไม่กล้าบอกเธอว่า ตอนนี้พ่อของเธอคงอยู่ที่บ้านของคนอื่น...ฉันโกหกเธอไปว่าพ่อกำลังทำงานล่วงเวลาเธอร้องตะโกนว่าให้ไปที่บริษัทของพ่อเพื่อไปอยู่กับพ่อของเธอเช้าวันรุ่งขึ้น หลิ่วเฉินกลับมา เมื่อรู้ว่าเราสองคนออกไปตามหาเขาทั้งคืน เขาก็ทำหน้าบึ้งตึงทันที“ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าดึงซินซินเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของเรา”“เจ
ใบหน้าเขาไร้ความรู้สึก แต่ตอนนั้นฉันรู้สึกว่าตัวเองคือคนที่มีความสุขที่สุดในโลกเพราะฉันรักเขามาโดยตลอด คอยปกป้องอย่างเงียบๆ โดยไม่เคยคาดหวังอะไร ฉันคิดว่าในที่สุดฉันก็ทำให้เขาประทับใจได้แล้วไม่นานเราก็แต่งงานและมีซินซินฉันเข้าใจผิดว่าเราจะมีชีวิตที่มีความสุขและสงบสุขต่อไปแต่วันหนึ่ง ฉันเห็นเขานั่งนิ่ง ๆ จ้องโทรศัพท์แล้วร้องไห้ฉันแอบหยิบโทรศัพท์มา แล้วพบว่ามันเป็นข่าวร้ายอุบัติเหตุทางรถยนต์ร้ายแรง หญิงและเด็กคนหนึ่งรอดตายจากเหตุการณ์นั้นอย่างปาฏิหาริย์แต่สามีของเธอกลับเสียชีวิตในเหตุการณ์นั้นในภาพข่าว หญิงคนนั้นยังคงไว้ผมยาวหยิกเหมือนเดิม อีกทั้งยังคงบอบบางและสวยงามเธอคือหลินซียู่ที่ฉันไม่ได้เจอมาเป็นเวลานานหลิ่วเฉินพยายามทำใจให้สงบ “ฉันแค่รู้สึกเสียใจแทนพวกเขาก็เท่านั้น”จากนั้น เขาก็เริ่มเหม่อลอยและไม่สนใจสิ่งรอบข้างมากขึ้นเรื่อยๆถึงขนาดที่เขาเริ่มลืมเรื่องสำคัญของครอบครัวเราไม่ว่าจะเป็นวันเกิดของฉันและซินซิน วันที่ซินซินต้องไปฉีดวัคซีน หรือวันครบรอบแต่งงานของเรา... ในทางกลับกัน เขาเริ่มใช้เครื่องประดับและน้ำหอมที่เขาไม่ชอบมาโดยตลอดแม้แต่เจลใส่ผมที่ไม่เค
ตอนบ่ายสองโมงของวันที่แดดแรง ฉันกำลังเดินทางไปทำงานนอกสถานที่ และได้รับโทรศัพท์จากซินซินลูกสาววัยห้าขวบของฉันน่าจะเป็นการโทรผ่านแท็บเล็ตเธอร้องไห้ด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ ที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว“แม่จ๋า แม่จ๋า ช่วยหนูด้วย”“พ่อขังหนูไว้ในรถ”หัวฉันวูบไป และเกือบจะเป็นลม“ลูกรัก ไม่ต้องร้องนะ... บอกแม่สิว่า ลูกอยู่ที่ไหน แม่จะไปหาลูกเดี๋ยวนี้เลย”ซินซินดูเหมือนจะสงบลงเล็กน้อย เธอร้องไห้แล้วพูดว่า “หนูอยู่ที่...”แต่ทันใดนั้นเอง สายก็ถูกตัดไปฉันตกใจมาก รีบโทรกลับไปอีกครั้ง แต่เครื่องก็ปิดไปแล้วโทรอีกครั้งก็ยังปิดอยู่ฉันรู้ว่ามันคงจะไม่มีแบตเตอรี่แล้วไม่ใช่ ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ถึงเรื่องสำคัญฉันจึงรีบโทรหาสามีทันที หลิ่วเฉินไม่รับสายโทรอีกครั้งก็ไม่รับระหว่างนั้น ฉันได้บอกเพื่อนร่วมงานให้ช่วยโทรแจ้งตำรวจและฉันก็ยังคงโทรหาหลิ่วเฉินอย่างบ้าคลั่งพร้อมทั้งรีบขึ้นรถและขับกลับไปยังเมืองที่บ้านของเธอโชคดีที่ในที่สุดก็รับสายเสียงหลิ่วเฉินพูดด้วยความรำคาญ“อย่าโทรมาอีกนะ ผมกำลังยุ่ง”ฉันได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงหัวเราะเบาๆ“พ่อจ๋า หนูอยากเล่นอันนั้น”แม่งั้นเหรอ?ทำไมถ
ตอนบ่ายสองโมงของวันที่แดดแรง ฉันกำลังเดินทางไปทำงานนอกสถานที่ และได้รับโทรศัพท์จากซินซินลูกสาววัยห้าขวบของฉันน่าจะเป็นการโทรผ่านแท็บเล็ตเธอร้องไห้ด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ ที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว“แม่จ๋า แม่จ๋า ช่วยหนูด้วย”“พ่อขังหนูไว้ในรถ”หัวฉันวูบไป และเกือบจะเป็นลม“ลูกรัก ไม่ต้องร้องนะ... บอกแม่สิว่า ลูกอยู่ที่ไหน แม่จะไปหาลูกเดี๋ยวนี้เลย”ซินซินดูเหมือนจะสงบลงเล็กน้อย เธอร้องไห้แล้วพูดว่า “หนูอยู่ที่...”แต่ทันใดนั้นเอง สายก็ถูกตัดไปฉันตกใจมาก รีบโทรกลับไปอีกครั้ง แต่เครื่องก็ปิดไปแล้วโทรอีกครั้งก็ยังปิดอยู่ฉันรู้ว่ามันคงจะไม่มีแบตเตอรี่แล้วไม่ใช่ ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ถึงเรื่องสำคัญฉันจึงรีบโทรหาสามีทันที หลิ่วเฉินไม่รับสายโทรอีกครั้งก็ไม่รับระหว่างนั้น ฉันได้บอกเพื่อนร่วมงานให้ช่วยโทรแจ้งตำรวจและฉันก็ยังคงโทรหาหลิ่วเฉินอย่างบ้าคลั่งพร้อมทั้งรีบขึ้นรถและขับกลับไปยังเมืองที่บ้านของเธอโชคดีที่ในที่สุดก็รับสายเสียงหลิ่วเฉินพูดด้วยความรำคาญ“อย่าโทรมาอีกนะ ผมกำลังยุ่ง”ฉันได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงหัวเราะเบาๆ“พ่อจ๋า หนูอยากเล่นอันนั้น”แม่งั้นเหรอ?ทำไมถ
Comments