Home / โรแมนติก / แดนอารยะ / ตอนที่2.เจตนาบริสุทธิ์

Share

ตอนที่2.เจตนาบริสุทธิ์

last update Last Updated: 2025-03-07 12:50:51

เณรคังเดินเข้ามาเมียงมองด้วยความอยากรู้อยากเห็นตามประสาเด็กเลยถูกจามิลดุเอา เณรน้อยทำคอย่น ถอยห่างออกไปนิดหนึ่ง ทำให้จามิลคล่องตัวขึ้น เขาบอกธีราด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

          “ผมเป็นพระก็จริง แต่พระสงฆ์ที่คีรีมันมีกฎวินัยไม่เหมือนกับพระสงฆ์ที่บ้านเมืองของคุณ ที่คีรีมีนนี่พระสงฆ์แตะเนื้อต้องตัวผู้หญิงได้ หากมีเจตนาบริสุทธิ์หรือเพื่อให้ความช่วยเหลือ”

          “หรือคะ” หญิงสาวพยักหน้ารับรู้ “คล้าย ๆ กับพระสงฆ์ทิเบตบางนิกายเลย”

          “ผมขอดูข้อเท้าของคุณหน่อย” จามิลเอ่ยพร้อมกับจับข้อเท้าหญิงสาว

          ธีราไม่ขัดขืน มองดูเขาถอดรองเท้าบูทสั้นของเธอออกอย่างเบามือด้วยความรู้สึกเจ็บแปลบ พอเขาลองขยับข้อเท้าของเธอ หญิงสาวก็ร้องเบา ๆ “อู๊ย เจ็บ”

     เขาปล่อยมือข้างที่จับเท้าให้ขยับ แต่มือซ้ายที่ประคองข้อเท้าไว้ไม่ได้ปล่อย “คุณลองขยับเท้าเองดูสิครับ”

        หญิงสาวทำตาม ผลคือเธอขยับเท้าเองได้

          “แต่ยังรู้สึกเสียวแปลบ ๆ อยู่เลยค่ะ” เธอบอกอาการ

          จามิลจึงใช้นิ้วมือคลึงข้อเท้า “อดทนหน่อยนะคุณธีรา ถ้าไม่รีบนวดตั้งแต่ตอนนี้มันจะอักเสบไปอีกนาน”

          หญิงสาวพยักหน้า พยายามไม่ส่งเสียงร้องหรือครวญคราง จามิลนวดข้อเท้านานราวสิบนาทีก็วางเท้าหญิงสาวลงบนพื้นอย่างแผ่วเบา

          “ข้อเท้าคุณแพลง ควรงดการเดินสักวันสองวัน เดี๋ยวผมจะจัดยาให้นะครับ”

        หญิงสาวเลิกเรียวคิ้วงามเป็นเชิงถาม

          “เป็นยาสมุนไพรน่ะครับ” พระหนุ่มตอบยิ้มๆ

          “ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวยิ้มตอบ

          จามิลหันไปมองเชิงเนินพลางเอ่ย “บ้านพักของอู๋อยู่ทางโน้น ต้องเดินต่ออีกประเดี๋ยวเดียว”

          “หา!” หญิงสาวอุทานลั่น “ยังมีอีกประเดี๋ยวเดียวหรือคะ?”

          “อะไรหรือครับ?” จามิลถามอย่างงุนงง

          “ฉันว่าฉันคงเดินต่อไม่ไหวแน่ ๆ” หญิงสาวบอกตามตรง

          “นั่นน่ะสิ” เขามีสีหน้าครุ่นคิดก่อนตัดสินใจพูดว่า “งั้นผมแบกคุณไปเอง”

          “หา!” หญิงสาวอุทานลั่นอีกครั้ง ก่อนจะส่ายหน้า “ไม่ดีมั้งคะ”

          คังพูดขัดจังหวะ จามิลหันไปพูดกับเณรน้อยสองสามประโยค เณรน้อยก็ตรงเข้ามาจับเท้าหญิงสาวข้างที่ยังไม่ได้ถอดรองเท้า พยายามถอดรองเท้ากึ่งบูทสั้นออก

          หญิงสาวกระถดเท้าหนีพลางถาม “เณรจะทำอะไรน่ะ?”

          “คังจะช่วยถือรองเท้าให้คุณเอง ผมจะได้แบกคุณสะดวกหน่อย” จามิลกล่าว

          “คุณเอาจริงหรือ?” หญิงสาวย้อนถาม

          “จริงสิครับ” พระหนุ่มตอบหนักแน่นก่อนพูดต่อ “คุณถอดรองเท้าอีกข้างให้คังเถอะ เพราะข้างที่เจ็บคงใส่รองเท้าไม่ได้ ใส่ข้างไม่ใส่ข้างมันดูแปลกๆชอบกล”

          หญิงสาวพยักหน้ารับ ถอดรองเท้าแล้วยื่นให้เณรน้อย คังถือรองเท้าแล้ววิ่งตัวปลิวลงไปยังเชิงเนิน

          จามิลยอบตัวลงให้หญิงสาวเกาะบ่าได้ถนัดแล้วแบกเธอขึ้นหลัง ก่อนจะยืดตัวตรงแล้วเดินลิ่วๆ ลงไปยังเชิงเนิน

          ธีราอดถามไม่ได้ “คุณไม่รู้สึกหนักหรือคะ?”

          “ตัวคุณยังเบากว่ากระสอบข้าวสาร” เขาตอบ

          “พูดอย่างกับคุณแบกกระสอบข้าวสารบ่อยๆ” หญิงสาวเอ่ย

          “คุณพูดถูก ที่คีรีมันนี่ทุกคนต่างทำงานตามความสามารถ ไม่เว้นแม้แต่พระสงฆ์ ตัวผมยังหนุ่มแน่นจึงมีหน้าที่แบกหามของหนัก” ปากของเขาพูดไปเรื่อย แต่ฝีเท้ากลับไม่ลดระดับความเร็วแม้แต่น้อย

          “แล้วคุณไม่ต้องเรียนพระธรรมหรือคะ?” หญิงสาวถาม

          “เรียนครับ แต่พวกเราจะเรียนกันตอนเย็นหลังเลิกงานประจำวันแล้ว” เขาตอบพลางหัวเราะเบาๆ

          “คุณเรียนอะไรบ้างคะ?” หญิงสาวถามอย่างชวนคุย

          ทว่าจามิลกลับตอบอย่างจริงจัง “พวกเราเรียนพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ เรียนสมาธิกรรมฐาน และศิลปะการป้องกันตัว เพื่อกระตุ้นลมปราณให้ร่างกายอบอุ่นแข็งแรง”

พูดจบจามิลเดินเลี้ยวตรงเหลี่ยมเขาก็เห็นกระท่อมดินคลุมหลังคาด้วยผ้าใบขนจามรีที่เชิงเขาถัดลงไปหน่อยอย่างถนัดตา

          “นั่น! บ้านของอู๋” จามิลเอ่ย

          “ไหนคะ?” ธีราขยับตัวเพื่อให้เห็นถนัดตา

          เธอเห็นสาวชาวบ้านคนหนึ่งวิ่งตรงมาจากบ้านของอู๋ ตรงมาทางนี้ พร้อมกับส่งเสียงเรียก

          “จามิลๆๆ”

          พอมาถึงตัวจามิล หล่อนตวัดสายตามองธีราแวบหนึ่งพร้อมกับพูดจายืดยาว

          จามิลหัวเราะเบาๆ แล้วเอ่ยเป็นภาษาไทย “นี่คุณธีรา ลูกสาวของครู รินเซนพูดภาษาไทยเถอะ คุณธีราจะได้ฟังรู้เรื่อง”

          แม้ปากกล่าววาจาแต่เท้าจามิลก็ไม่ยอมหยุดพัก ยังคงเดินตรงไปที่กระท่อมหลังนั้นอย่างรวดเร็วและมั่นคง

   รินเซนวิ่งตามพลางเอ่ยเป็นภาษาไทยด้วยน้ำเสียงแปร่งๆ “ผู้หญิงไทยมาคีรีมันทำไม?”

          ธีรารับรู้ถึงความไม่เป็นมิตรในน้ำเสียงของเจ้าหล่อน

          “คุณธีรามาตามหาครู” จามิลตอบเสียงเรียบ

          “ดอกเตอร์ธีระนะหรือ? เขาหายไปนานแล้ว หายไปตั้งแต่สิบปีก่อน” รินเซนพูดแบบไม่ถนอมน้ำใจคนฟัง

          “ก็เพราะพ่อหายไปฉันถึงต้องมาตามหายังไงละ” หญิงสาวชาวไทยเอ่ยบ้าง

          “ไม่มีทางหาเจอหรอก” รินเซนพูดเสียงห้วน

          เมื่อเดินถึงกระท่อมรินเซนเป็นคนเปิดประตูรั้วอย่างเสียไม่ได้ เดินผ่านประตูรั้วเข้าไปก็เห็นจามรีขนยาวตัวหนึ่งถูกล่ามอยู่หน้าบ้าน คังกุลีกุจอยกเก้าอี้ไม้มาให้

จามิลจึงค่อยๆ วางธีรานั่งลงบนเก้าอี้ตัวนั้น

          “คุณมาบ้านฉันทำไม?” รินเซนถามทันทีที่อีกฝ่ายลงจากหลังจามิล

          “ฉันมาหาอู๋ ลูกหาบคนเดียวของคุณพ่อที่รอดชีวิตกลับมา” ธีราตอบตามตรง

          “พ่อฉันไม่พบคนแปลกหน้า” รินเซนพูดเสียงห้วนอย่างมะนาวไม่มีน้ำ

          “แต่…” ธีราเพิ่งอ้าปาก

        รินเซนชิงตัดบท “ไม่มีแต่ ไม่ให้พบก็คือไม่ให้พบ”

        หญิงสาวรู้สึกลำบากใจจนต้องหันไปสบตาจามิล

          พระหนุ่มจึงเอ่ยขึ้นว่า “ให้คุณธีราพบเถอะ เผื่อจะได้เบาะแสอะไรบ้าง”

          “ไม่” รินเซนเอ่ยเสียงเรียบพลางเชิดดวงหน้าจิ้มลิ้มสูง

          จามิลนิ่งไปอึดใจหนึ่งก่อนพูดเสียงเรียบ ทว่าเฉียบขาด “นี่เป็นคำสั่งของท่านอาจารย์นะรินเซน”

          รินเซนลดทีท่าผยองลงเปลี่ยนเป็นอัดอั้นตันใจ ก่อนจะหันกายเดินนำเข้าไปในกระท่อม “งั้นตามมาสิ”

          คังคว้าท่อนไม้ยาวเหมาะมือจากที่ไหนหญิงสาวไม่ทันเห็น เขายื่นส่งให้เธอยิกๆ หญิงสาวส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรให้เณรน้อยแล้วรับท่อนไม้มาช่วยพยุงตัว เดินโขยกเขยกตามรินเซนเข้าไปในกระท่อม

ภายในกระท่อมมืดกว่าข้างนอกทำให้หญิงสาวต้องยืนนิ่งหลับตาเพื่อปรับสายตาครู่หนึ่งก่อนจะลืมตากวาดมองไปรอบห้อง ห้องที่มีขนาดไม่กว้างไม่ใหญ่ เครื่องเรือนมีน้อยชิ้น มุมห้องด้านในปูเสื่อและผ้าขนสัตว์จัดเป็นที่นอน

          บนที่นอนมีชายชรารูปร่างผอมบาง ผมเผ้าและหนวดเครารุงรัง เส้นผมและหนวดเคราแซมหงอกจนเป็นสีเทา สวมเสื้อเก่าคร่ำคร่านั่งเหม่อลอยอยู่ รินเซนมองชายชราด้วยสายตาปวดร้าว ริมฝีปากสวยเม้มแน่นและสั่นระริก

          จามิลจึงต้องเป็นคนเอ่ยแนะนำกับธีรา “นี่คืออู๋”

          หญิงสาวลอบถอนหายใจ อดนึกเห็นใจรินเซนไม่ได้ ถ้าเธอตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับรินเซนก็คงไม่พอใจที่ใครจะมาพบพ่อซึ่งมีสภาพน่าอนาถอย่างนี้เป็นแน่ ทว่าธีราต้องตัดใจ เพราะว่าอู๋คือเบาะแสเดียวที่เธอจะสืบสาวถึงพ่อที่หายสาบสูญได้

Related chapters

  • แดนอารยะ   ตอนที่3. จามิล

    ธีราพยายามถามอู๋ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แต่ชายชรายังคงนั่งเหม่อลอยไม่แสดงปฏิกิริยาใดใด หญิงสาวถามอยู่พักหนึ่งแล้วก็หันไปขอร้องจามิลว่า “คุณช่วยถามเป็นภาษาคีรีมันให้หน่อยสิคะ” “ได้ครับ” จามิลตอบ แล้วหันไปส่งภาษาท้องถิ่นกับชายชราผู้ยังคงนิ่งเฉยเหมือนคนไร้วิญญาณ เขาพูดภาษาคีรีมันอยู่พักหนึ่ง แต่อู๋ยังคงไม่มีปฏิกิริยาใด “พอทีเถอะ!” รินเซนพูดขัดขึ้น หันมาจ้องธีราเขม็งพลางเอ่ย “คุณกลับไปเถอะ ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมาถามพ่อของฉัน คุณก็เห็นแล้วนี่ว่าพ่อตอบอะไรไม่ได้ทั้งนั้น” ธีราพยักหน้ารับรู้ก่อนถอนหายใจเบาๆ จามิลส่งภาษาคีรีมันกับรินเซน “ผมขอยืมจามรีหน่อยนะ” “คุณจะเอาไปให้ผู้หญิงไทยขี่ใช่ไหม?” รินเซนถามด้วยภาษาเดียวกัน “ใช่” จามิลตอบ “ถ้าอย่างนั้นฉันไม่ให้” รินเซนพูดด้วยทีท่าแง่งอน คังมองคนนั้นทีมองคนนี้ทีแล้วพูดแทรก “งั้นศิษย์พี่จามิลก็ต้องแบกผู้หญิงสวยๆ กลับที่พัก” “ทำไมต้องแบกด้วย?” รินเซนถามเสียงห้วน “ขาเธอเจ็บ” จามิลตอบ “ก็ให้เธอค่อยๆ เดินกลับไปเองสิ” รินเซนพ

    Last Updated : 2025-03-07
  • แดนอารยะ   ตอนที่4. หมายความว่า...

    “คุณช่วยบอกเขาด้วยว่าฉันขอจ่ายครึ่งหนึ่ง หลังจากที่เขาพาฉันไปถึงกันเดนและกลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว ฉันถึงจะจ่ายส่วนที่เหลือให้ทั้งหมด” ธีราบอกล่ามสาวชาวจีนอายุราวสามสิบปี รูปร่างผอมเพรียว สวมเสื้อโค้ตสีน้ำตาล ให้แปลเป็นภาษาคีรีมันบอกกับชายซึ่งรับอาสาเป็นพรานนำทาง ล่ามสาวหันไปเจรจากับพรานนำทางตัวเล็กแกร็น หน้าเสี้ยม ดวงตาหยี ไว้เรียวหนวดเหนือริมฝีปากหนา พอรู้ว่าจะได้รับค่าจ้างก่อนเพียงครึ่งเดียว เขาก็เอะอะโวยวายเสียงดังลั่น จนคนที่นั่งรับประทานอาหารเช้าในห้องอาหารของโรงแรมพากันหันมามองมาเป็นตาเดียว ล่ามสาวรีบแปลเป็นภาษาไทย “หลงบอกว่าถ้าคุณจ่ายไม่ครบ เขาจะไม่นำทางให้” คำเตือนของจามิลดูท่าจะเป็นจริง ธีราเม้มริมฝีปากก่อนยื่นคำขาด “ถ้าเขาไม่ตกลง ก็ให้คืนเงินมัดจำล่วงหน้ามา” ล่ามสาวหันไปเจรจากับหลงอีกรอบก่อนหันมาบอกธีราว่า “เงินนั่นหลงบอกว่าถือเป็นค่าเสียเวลาของเขา” “หมายความว่าเขาไม่ยอมคืนเงินหรือ?” ธีราเอ่ยถาม “ค่ะ” ล่ามสาวรับคำ “สวัสดีครับ” เสียงทุ้มเอ่ยทักทายจากปากทางเข้าห้องอาหารของโรงแรม ธีราหันไปมอ

    Last Updated : 2025-03-07
  • แดนอารยะ   ตอนที่5.หวั่นไหว

    “เจ้าจะไปกันเดนรึ?” ภิกษุชราซึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่บนเบาะกลมบนตั่งเตี้ยถามจามิลที่คุกเข่าตรงหน้า “ครับ” พระหนุ่มรับคำสั้นๆ “เพราะเหตุไร?” ภิกษุชราเอ่ยถามช้าๆ จามิลนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนตอบอย่างไตร่ตรองแล้วว่า “ผมเป็นพระสงฆ์ย่อมใฝ่ฝันถึงกันเดน ซึ่งเป็นดินแดนแห่งการหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวงครับท่านอาจารย์” ท่านอาจารย์หลับตาลงครู่หนึ่งก่อนลืมตา “ในชีวิตของอาจารย์มีคนจากไปเพื่อค้นหากันเดนสองรุ่นแล้ว รุ่นแรกคืออาจารย์อากับพระสงฆ์หนุ่มๆ ในยุคนั้นรวมสิบรูป ออกเดินทางจากวัดนี้ไป ตอนนั้นอาจารย์อายุแค่แปดขวบ ยังออกไปโบกไม้โบกมือส่งอาจารย์อาถึงประตูวัด นับจากนั้นอาจารย์ก็ไม่ได้เห็นพระทั้งสิบรูปนั้นอีกเลย” ท่านหยุดพูดครู่หนึ่งเหมือนระลึกเหตุการณ์ในอดีต “ส่วนรุ่นที่สองก็คือดอกเตอร์ธีระและคณะ พวกเขาไปกันเกือบสามสิบชีวิต ไปแล้วก็ไม่กลับ จนกระทั่งปีต่อมาจึงมีคนไปพบอู๋นอนสลบอยู่ริมลำธาร อู๋เป็นคนเดียวที่กลับมาได้ แต่กลับมาเหมือนคนไร้วิญญาณ” สิ่งที่ท่านอาจารย์บอกเล่าไม่ได้ทำให้จามิลหวั่นไหว พระหนุ่มยังคงยืนกรานหนักแน่น “ผมอยากไปกันเดนครับ ขอให้ท่าน

    Last Updated : 2025-03-07
  • แดนอารยะ   ตอนที่6 สีหน้างุนงง

    จามิลนั่งตรงกันข้ามกับธีราที่โต๊ะตัวหนึ่งในห้องอาหารของโรงแรมที่หญิงสาวพัก โดยมีผู้ร่วมโต๊ะอีกสองคน คือ หลิง ล่ามสาวชาวจีน และหลง นายพรานนำทาง เวลานี้เป็นเวลาบ่ายสองโมงเศษ ผู้คนในห้องอาหารจึงมีไม่มากนัก นอกจากโต๊ะที่กลุ่มของธีรานั่งแล้วก็มีชายวัยกลางคนท่าทางเหมือนพ่อค้านั่งอยู่ที่โต๊ะตัวถัดไปเท่านั้น “ภรรยาของหลงเอาเงินค่าจ้างของคุณไปใช้มากกว่าครึ่ง หลงเลยเอาเงินส่วนที่เหลือมาคืนคุณก่อน” ล่ามสาวเอ่ยกับธีราเป็นภาษาไทย หลงยิ้มแหยๆ พลางยื่นธนบัตรจำนวนหนึ่งคืนให้ธีรา จามิลเปรยว่า “ดูท่าคุณจะได้เงินส่วนที่เหลือกลับคืนยาก” ธีรายิ้มอย่างเซ็งๆ ก่อนพูด “จะทำยังไงได้ล่ะคะ” “ผมมีวิธีที่ดีกว่าการรอให้เขาคืนเงิน” พระหนุ่มกล่าวเสียงเรียบ “วิธีอะไรคะ?” หญิงสาวถามอย่างสนใจ “พวกเราจะเดินทางไปกันเดนแต่ยังไม่มีลูกหาบ ก็ตั้งให้เขาเป็นหัวหน้าลูกหาบแล้วคอยหาลูกหาบให้พวกเรา” พระหนุ่มเสนอแนะ “เป็นความคิดที่ดีค่ะ” หญิงสาวเห็นด้วย จามิลจึงพูดภาษาคีรีมันกับหลง “เงินที่เจ้าใช้ไปแล้วพวกเราจะนับเป็นค่าจ้างของเจ้า”

    Last Updated : 2025-03-11
  • แดนอารยะ   ตอนที่7 ค่อยๆ พูดจากัน

    วิษณุยืนคอยอย่างกระวนกระวายใจในตรอกแคบๆ และสกปรกซึ่งอยู่หลังโรงแรมที่พักที่ไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน ครู่หนึ่งก็ปรากฏเงาร่างเพรียวของหญิงคนหนึ่งเดินลัดเลาะมาหาด้วยความระมัดระวังเหมือนกลัวใครจะเห็นเข้า หญิงผู้ใช้หมวกที่เป็นส่วนหนึ่งของปกเสื้อคลุมศีรษะและบดบังใบหน้าจนเกือบมิดเดินเข้ามาใกล้ “หลิง ทำไมช้านักล่ะ?” วิษณุเอ่ยถามทันที หลิงดึงหมวกคลุมศีรษะลง เปิดเผยให้เห็นดวงหน้าเรียวและดวงตาที่กลิ้งกลอกไปมาไม่หยุดนิ่งพลางตอบ “ก็คุณเองไม่ใช่เหรอที่ไม่ต้องการเปิดเผยการพบปะของพวกเรา?” “นั่นก็ใช่ แต่ผมรักคุณจริงๆ นะ” พร้อมกับคำพูดวิษณุรวบร่างเพรียวมาไว้ในอ้อดกอดแล้วระดมจูบดวงหน้าเรียวถี่ยิบ ล่ามสาวชาวจีนต้องยกมือดันดวงหน้าชายหนุ่มให้ออกห่างก่อนเอ่ยปาก “ฉันไม่เชื่อคุณหรอก คุณธีราออกจะสวยขนาดนั้น” วิษณุแบะปาก “หึ! สวย สวยเหมือนประติมากรรมหินอ่อนที่จิตรกรเอกของโลกบรรจงแกะสลัก เย็นชืด แข็งทื่อ แตะต้องไม่ได้ อยู่ใกล้แล้วอัดอั้นใจแทบจะระเบิด ไม่เหมือนคุณ คุณมีเลือดมีเนื้อ นุ่มนวลและอบอุ่น เป็นสุดปรารถนาของผม” “แหม ปากหวาน แต่ตอนนี้คุณปล่อยฉันก่อนเถอ

    Last Updated : 2025-03-11
  • แดนอารยะ   ตอนที่ 8 เอ่ยถามเสียงเรียบ

    จามิลนั่งตรงกันข้ามกับธีราที่โต๊ะมุมในห้องอาหารของโรงแรม ซึ่งกลายเป็นสถานที่นัดพบพูดคุยเรื่องงานของคนทั้งสองไปโดยปริยาย พระหนุ่มยกถ้วยชาที่ส่งควันฉุยขึ้นจิบคำหนึ่งก่อนวางถ้วยลงบนโต๊ะ แล้วเอ่ยถามเสียงเรียบ “รินเซนว่าคุณอนุญาตให้เธอไปด้วย” “ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับก่อนจะอธิบายต่อ “ฉันมีเหตุผลที่ให้รินเซนไปด้วยนะคะ คือ...หนึ่งฉันจะได้มีเพื่อนผู้หญิงร่วมคณะไปด้วย สองเธอเป็นล่ามให้ฉันแทนคุณหลิงได้ และข้อสุดท้ายเธออาจค้นพบวิธีรักษาพ่อของเธอให้หายจากอาการป่วยได้” จามิลหลับตาครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนลืมตาแล้วพูดว่า “ที่คุณพูดมาก็มีเหตุผล แต่ที่ผมไม่ให้รินเซนไปด้วยแต่แรกก็เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอ การไปค้นหากันเดนของพวกเราไม่ได้มีผลสุดท้ายที่แน่นอน อาจจะพบ อาจจะไม่พบ อาจจะไปถึง อาจจะไปไม่ถึง อาจจะได้กลับ และอาจจะไม่ได้กลับ” คำท้ายของเขาทอดหางเสียงเบาลงจนธีรารู้สึกใจหายไปด้วย จริงสิ...ทุกคนที่ไปกันเดนอาจจะไม่มีใครได้กลับมาอีก เหมือนอย่างคณะก่อนๆ ที่ไปกัน “ฉันลืมคิดถึงข้อนี้ไป ฉันจะพูดกับเธอใหม่แล้วกันนะคะ” พูดถึงตรงนี้รินเซนก็เดินเข้ามาพร้อมกับคั

    Last Updated : 2025-03-11
  • แดนอารยะ   ตอนที่ 9 ตามความเป็นจริง

    หลังจากหลงออกปากรับต้าเข้าร่วมคณะเดินทาง ต้าก็ขอลากลับไปเตรียมตัวเดินทาง หลงยังคงตกอยู่ในภวังค์ความคิด นึกจินตนาการไปว่าเมื่อไปถึงกันเดนเขาคงพบเพชรนิลจินดากองมหึมาเทียมภูเขา กำลังคิดเพลินๆ “หลง!” เสียงหลิงดังลั่นอยู่ข้างหูพร้อมกับมือของหล่อนตบไหล่ของเขาเต็มแรง เรียกสติที่กำลังเพ้อฝันให้กลับคืนมา “อ๊ะ! คุณหลิง” ผู้ถูกเลื่อนตำแหน่งให้เป็นหัวหน้าลูกหาบอุทานลั่น หลิงยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มเอาเรื่อง “ใช่แล้ว ฉันเอง แล้วไม่เพียงฉันเท่านั้นแต่ยังมีอีกคนอยากพบแก” ล่ามสาวพูดพลางบุ้ยใบ้ไปด้านข้าง วิษณุเดินออกมาจากหลืบกำแพง หลงเบิกตาเหลือกลานพลางอุทานลั่น “นะ…นาย!” “แกรับเงินไปแล้วทำไมไม่ทำตามสัญญา” วิษณุส่งเสียงตะคอกถามพร้อมกับกระชากคอเสื้ออีกฝ่าย หลิงรีบแปลภาษาไทยเป็นภาษาคีรีมัน หลงมีสีหน้าเลิ่กลั่ก เอี้ยวคอมองซ้ายมองขวาก่อนพูดเสียงแผ่ว “คุณหลิง ช่วยบอกนายที พวกเราเข้าไปคุยกันข้างในก่อนดีกว่า ผมมีเรื่องสำคัญจะบอก” หลิงรีบแปลภาษาคีรีมันเป็นภาษาไทย วิษณุตัดสินใจเพียงอึดใจเดียวก็ปล่อยมือที่กำคอเสื้อ

    Last Updated : 2025-03-11
  • แดนอารยะ   ตอนที่10 อยู่ที่ไหน

    ธีรายืนมองหลงและเหล่าลูกหาบช่วยกันขนสัมภาระขึ้นรถบรรทุกหกล้อ โดยมีจามิลพระหนุ่มคอยดูแลความเรียบร้อยอยู่หน้าโรงแรมที่พัก รินเซนและคังหอบหิ้วข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวพลางเดินอย่างเร่งรีบตรงมาเบื้องหน้าของหญิงสาว เณรน้อยพูดภาษาคีรีมันยืดยาวซึ่งธีราไม่เข้าใจแม้แต่น้อย หญิงสาวจึงหันไปถามรินเซน “เณรคังพูดว่าอะไรหรือ?” รินเซนยิ้มเล็กน้อยก่อนจะตอบว่า “เณรคังบอกว่าจามิลแกล้งไม่ปลุกเณรและแอบหนีมาก่อน แต่โชคยังดีที่เณรตามมาทัน” “อ้อ” ธีราพยักหน้ารับรู้พลางว่า “นี่ยังไม่ทันรุ่งเช้า คุณจามิลเพิ่งจะคุมลูกหาบช่วยกันขนสัมภาระขึ้นรถเสร็จ กว่าพวกเราจะออกเดินทางกันจริงๆ ก็คงหลังจากกินอาหารเช้ากันเรียบร้อยแล้ว ราวๆ เจ็ดโมงเช้า” เพิ่งตอบรินเซน วิษณุก็ส่งเสียงร้องเรียก “ธีรา ธีราอยู่ไหน?” “อยู่นี่ค่ะ” หญิงสาวส่งเสียงตอบ ชักสีหน้าเอือมระอา วิษณุเดินแกมวิ่งมาหาแล้วหอบแฮ็กๆ ต่อว่าต่อขานเสียงดังระคนหอบ “อยู่ตรงนี้เอง ทำไมน้องธีราไม่ปลุกพี่ล่ะ? งานคุมคนงานอย่างนี้ต้องพี่เอง” แล้วทำทีจะเข้าไปเจ้ากี้เจ้าการกับการขนสัมภาระของลูกหาบ ธีรา

    Last Updated : 2025-03-11

Latest chapter

  • แดนอารยะ   ตอนที่10 อยู่ที่ไหน

    ธีรายืนมองหลงและเหล่าลูกหาบช่วยกันขนสัมภาระขึ้นรถบรรทุกหกล้อ โดยมีจามิลพระหนุ่มคอยดูแลความเรียบร้อยอยู่หน้าโรงแรมที่พัก รินเซนและคังหอบหิ้วข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวพลางเดินอย่างเร่งรีบตรงมาเบื้องหน้าของหญิงสาว เณรน้อยพูดภาษาคีรีมันยืดยาวซึ่งธีราไม่เข้าใจแม้แต่น้อย หญิงสาวจึงหันไปถามรินเซน “เณรคังพูดว่าอะไรหรือ?” รินเซนยิ้มเล็กน้อยก่อนจะตอบว่า “เณรคังบอกว่าจามิลแกล้งไม่ปลุกเณรและแอบหนีมาก่อน แต่โชคยังดีที่เณรตามมาทัน” “อ้อ” ธีราพยักหน้ารับรู้พลางว่า “นี่ยังไม่ทันรุ่งเช้า คุณจามิลเพิ่งจะคุมลูกหาบช่วยกันขนสัมภาระขึ้นรถเสร็จ กว่าพวกเราจะออกเดินทางกันจริงๆ ก็คงหลังจากกินอาหารเช้ากันเรียบร้อยแล้ว ราวๆ เจ็ดโมงเช้า” เพิ่งตอบรินเซน วิษณุก็ส่งเสียงร้องเรียก “ธีรา ธีราอยู่ไหน?” “อยู่นี่ค่ะ” หญิงสาวส่งเสียงตอบ ชักสีหน้าเอือมระอา วิษณุเดินแกมวิ่งมาหาแล้วหอบแฮ็กๆ ต่อว่าต่อขานเสียงดังระคนหอบ “อยู่ตรงนี้เอง ทำไมน้องธีราไม่ปลุกพี่ล่ะ? งานคุมคนงานอย่างนี้ต้องพี่เอง” แล้วทำทีจะเข้าไปเจ้ากี้เจ้าการกับการขนสัมภาระของลูกหาบ ธีรา

  • แดนอารยะ   ตอนที่ 9 ตามความเป็นจริง

    หลังจากหลงออกปากรับต้าเข้าร่วมคณะเดินทาง ต้าก็ขอลากลับไปเตรียมตัวเดินทาง หลงยังคงตกอยู่ในภวังค์ความคิด นึกจินตนาการไปว่าเมื่อไปถึงกันเดนเขาคงพบเพชรนิลจินดากองมหึมาเทียมภูเขา กำลังคิดเพลินๆ “หลง!” เสียงหลิงดังลั่นอยู่ข้างหูพร้อมกับมือของหล่อนตบไหล่ของเขาเต็มแรง เรียกสติที่กำลังเพ้อฝันให้กลับคืนมา “อ๊ะ! คุณหลิง” ผู้ถูกเลื่อนตำแหน่งให้เป็นหัวหน้าลูกหาบอุทานลั่น หลิงยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มเอาเรื่อง “ใช่แล้ว ฉันเอง แล้วไม่เพียงฉันเท่านั้นแต่ยังมีอีกคนอยากพบแก” ล่ามสาวพูดพลางบุ้ยใบ้ไปด้านข้าง วิษณุเดินออกมาจากหลืบกำแพง หลงเบิกตาเหลือกลานพลางอุทานลั่น “นะ…นาย!” “แกรับเงินไปแล้วทำไมไม่ทำตามสัญญา” วิษณุส่งเสียงตะคอกถามพร้อมกับกระชากคอเสื้ออีกฝ่าย หลิงรีบแปลภาษาไทยเป็นภาษาคีรีมัน หลงมีสีหน้าเลิ่กลั่ก เอี้ยวคอมองซ้ายมองขวาก่อนพูดเสียงแผ่ว “คุณหลิง ช่วยบอกนายที พวกเราเข้าไปคุยกันข้างในก่อนดีกว่า ผมมีเรื่องสำคัญจะบอก” หลิงรีบแปลภาษาคีรีมันเป็นภาษาไทย วิษณุตัดสินใจเพียงอึดใจเดียวก็ปล่อยมือที่กำคอเสื้อ

  • แดนอารยะ   ตอนที่ 8 เอ่ยถามเสียงเรียบ

    จามิลนั่งตรงกันข้ามกับธีราที่โต๊ะมุมในห้องอาหารของโรงแรม ซึ่งกลายเป็นสถานที่นัดพบพูดคุยเรื่องงานของคนทั้งสองไปโดยปริยาย พระหนุ่มยกถ้วยชาที่ส่งควันฉุยขึ้นจิบคำหนึ่งก่อนวางถ้วยลงบนโต๊ะ แล้วเอ่ยถามเสียงเรียบ “รินเซนว่าคุณอนุญาตให้เธอไปด้วย” “ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับก่อนจะอธิบายต่อ “ฉันมีเหตุผลที่ให้รินเซนไปด้วยนะคะ คือ...หนึ่งฉันจะได้มีเพื่อนผู้หญิงร่วมคณะไปด้วย สองเธอเป็นล่ามให้ฉันแทนคุณหลิงได้ และข้อสุดท้ายเธออาจค้นพบวิธีรักษาพ่อของเธอให้หายจากอาการป่วยได้” จามิลหลับตาครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนลืมตาแล้วพูดว่า “ที่คุณพูดมาก็มีเหตุผล แต่ที่ผมไม่ให้รินเซนไปด้วยแต่แรกก็เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอ การไปค้นหากันเดนของพวกเราไม่ได้มีผลสุดท้ายที่แน่นอน อาจจะพบ อาจจะไม่พบ อาจจะไปถึง อาจจะไปไม่ถึง อาจจะได้กลับ และอาจจะไม่ได้กลับ” คำท้ายของเขาทอดหางเสียงเบาลงจนธีรารู้สึกใจหายไปด้วย จริงสิ...ทุกคนที่ไปกันเดนอาจจะไม่มีใครได้กลับมาอีก เหมือนอย่างคณะก่อนๆ ที่ไปกัน “ฉันลืมคิดถึงข้อนี้ไป ฉันจะพูดกับเธอใหม่แล้วกันนะคะ” พูดถึงตรงนี้รินเซนก็เดินเข้ามาพร้อมกับคั

  • แดนอารยะ   ตอนที่7 ค่อยๆ พูดจากัน

    วิษณุยืนคอยอย่างกระวนกระวายใจในตรอกแคบๆ และสกปรกซึ่งอยู่หลังโรงแรมที่พักที่ไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน ครู่หนึ่งก็ปรากฏเงาร่างเพรียวของหญิงคนหนึ่งเดินลัดเลาะมาหาด้วยความระมัดระวังเหมือนกลัวใครจะเห็นเข้า หญิงผู้ใช้หมวกที่เป็นส่วนหนึ่งของปกเสื้อคลุมศีรษะและบดบังใบหน้าจนเกือบมิดเดินเข้ามาใกล้ “หลิง ทำไมช้านักล่ะ?” วิษณุเอ่ยถามทันที หลิงดึงหมวกคลุมศีรษะลง เปิดเผยให้เห็นดวงหน้าเรียวและดวงตาที่กลิ้งกลอกไปมาไม่หยุดนิ่งพลางตอบ “ก็คุณเองไม่ใช่เหรอที่ไม่ต้องการเปิดเผยการพบปะของพวกเรา?” “นั่นก็ใช่ แต่ผมรักคุณจริงๆ นะ” พร้อมกับคำพูดวิษณุรวบร่างเพรียวมาไว้ในอ้อดกอดแล้วระดมจูบดวงหน้าเรียวถี่ยิบ ล่ามสาวชาวจีนต้องยกมือดันดวงหน้าชายหนุ่มให้ออกห่างก่อนเอ่ยปาก “ฉันไม่เชื่อคุณหรอก คุณธีราออกจะสวยขนาดนั้น” วิษณุแบะปาก “หึ! สวย สวยเหมือนประติมากรรมหินอ่อนที่จิตรกรเอกของโลกบรรจงแกะสลัก เย็นชืด แข็งทื่อ แตะต้องไม่ได้ อยู่ใกล้แล้วอัดอั้นใจแทบจะระเบิด ไม่เหมือนคุณ คุณมีเลือดมีเนื้อ นุ่มนวลและอบอุ่น เป็นสุดปรารถนาของผม” “แหม ปากหวาน แต่ตอนนี้คุณปล่อยฉันก่อนเถอ

  • แดนอารยะ   ตอนที่6 สีหน้างุนงง

    จามิลนั่งตรงกันข้ามกับธีราที่โต๊ะตัวหนึ่งในห้องอาหารของโรงแรมที่หญิงสาวพัก โดยมีผู้ร่วมโต๊ะอีกสองคน คือ หลิง ล่ามสาวชาวจีน และหลง นายพรานนำทาง เวลานี้เป็นเวลาบ่ายสองโมงเศษ ผู้คนในห้องอาหารจึงมีไม่มากนัก นอกจากโต๊ะที่กลุ่มของธีรานั่งแล้วก็มีชายวัยกลางคนท่าทางเหมือนพ่อค้านั่งอยู่ที่โต๊ะตัวถัดไปเท่านั้น “ภรรยาของหลงเอาเงินค่าจ้างของคุณไปใช้มากกว่าครึ่ง หลงเลยเอาเงินส่วนที่เหลือมาคืนคุณก่อน” ล่ามสาวเอ่ยกับธีราเป็นภาษาไทย หลงยิ้มแหยๆ พลางยื่นธนบัตรจำนวนหนึ่งคืนให้ธีรา จามิลเปรยว่า “ดูท่าคุณจะได้เงินส่วนที่เหลือกลับคืนยาก” ธีรายิ้มอย่างเซ็งๆ ก่อนพูด “จะทำยังไงได้ล่ะคะ” “ผมมีวิธีที่ดีกว่าการรอให้เขาคืนเงิน” พระหนุ่มกล่าวเสียงเรียบ “วิธีอะไรคะ?” หญิงสาวถามอย่างสนใจ “พวกเราจะเดินทางไปกันเดนแต่ยังไม่มีลูกหาบ ก็ตั้งให้เขาเป็นหัวหน้าลูกหาบแล้วคอยหาลูกหาบให้พวกเรา” พระหนุ่มเสนอแนะ “เป็นความคิดที่ดีค่ะ” หญิงสาวเห็นด้วย จามิลจึงพูดภาษาคีรีมันกับหลง “เงินที่เจ้าใช้ไปแล้วพวกเราจะนับเป็นค่าจ้างของเจ้า”

  • แดนอารยะ   ตอนที่5.หวั่นไหว

    “เจ้าจะไปกันเดนรึ?” ภิกษุชราซึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่บนเบาะกลมบนตั่งเตี้ยถามจามิลที่คุกเข่าตรงหน้า “ครับ” พระหนุ่มรับคำสั้นๆ “เพราะเหตุไร?” ภิกษุชราเอ่ยถามช้าๆ จามิลนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนตอบอย่างไตร่ตรองแล้วว่า “ผมเป็นพระสงฆ์ย่อมใฝ่ฝันถึงกันเดน ซึ่งเป็นดินแดนแห่งการหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวงครับท่านอาจารย์” ท่านอาจารย์หลับตาลงครู่หนึ่งก่อนลืมตา “ในชีวิตของอาจารย์มีคนจากไปเพื่อค้นหากันเดนสองรุ่นแล้ว รุ่นแรกคืออาจารย์อากับพระสงฆ์หนุ่มๆ ในยุคนั้นรวมสิบรูป ออกเดินทางจากวัดนี้ไป ตอนนั้นอาจารย์อายุแค่แปดขวบ ยังออกไปโบกไม้โบกมือส่งอาจารย์อาถึงประตูวัด นับจากนั้นอาจารย์ก็ไม่ได้เห็นพระทั้งสิบรูปนั้นอีกเลย” ท่านหยุดพูดครู่หนึ่งเหมือนระลึกเหตุการณ์ในอดีต “ส่วนรุ่นที่สองก็คือดอกเตอร์ธีระและคณะ พวกเขาไปกันเกือบสามสิบชีวิต ไปแล้วก็ไม่กลับ จนกระทั่งปีต่อมาจึงมีคนไปพบอู๋นอนสลบอยู่ริมลำธาร อู๋เป็นคนเดียวที่กลับมาได้ แต่กลับมาเหมือนคนไร้วิญญาณ” สิ่งที่ท่านอาจารย์บอกเล่าไม่ได้ทำให้จามิลหวั่นไหว พระหนุ่มยังคงยืนกรานหนักแน่น “ผมอยากไปกันเดนครับ ขอให้ท่าน

  • แดนอารยะ   ตอนที่4. หมายความว่า...

    “คุณช่วยบอกเขาด้วยว่าฉันขอจ่ายครึ่งหนึ่ง หลังจากที่เขาพาฉันไปถึงกันเดนและกลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว ฉันถึงจะจ่ายส่วนที่เหลือให้ทั้งหมด” ธีราบอกล่ามสาวชาวจีนอายุราวสามสิบปี รูปร่างผอมเพรียว สวมเสื้อโค้ตสีน้ำตาล ให้แปลเป็นภาษาคีรีมันบอกกับชายซึ่งรับอาสาเป็นพรานนำทาง ล่ามสาวหันไปเจรจากับพรานนำทางตัวเล็กแกร็น หน้าเสี้ยม ดวงตาหยี ไว้เรียวหนวดเหนือริมฝีปากหนา พอรู้ว่าจะได้รับค่าจ้างก่อนเพียงครึ่งเดียว เขาก็เอะอะโวยวายเสียงดังลั่น จนคนที่นั่งรับประทานอาหารเช้าในห้องอาหารของโรงแรมพากันหันมามองมาเป็นตาเดียว ล่ามสาวรีบแปลเป็นภาษาไทย “หลงบอกว่าถ้าคุณจ่ายไม่ครบ เขาจะไม่นำทางให้” คำเตือนของจามิลดูท่าจะเป็นจริง ธีราเม้มริมฝีปากก่อนยื่นคำขาด “ถ้าเขาไม่ตกลง ก็ให้คืนเงินมัดจำล่วงหน้ามา” ล่ามสาวหันไปเจรจากับหลงอีกรอบก่อนหันมาบอกธีราว่า “เงินนั่นหลงบอกว่าถือเป็นค่าเสียเวลาของเขา” “หมายความว่าเขาไม่ยอมคืนเงินหรือ?” ธีราเอ่ยถาม “ค่ะ” ล่ามสาวรับคำ “สวัสดีครับ” เสียงทุ้มเอ่ยทักทายจากปากทางเข้าห้องอาหารของโรงแรม ธีราหันไปมอ

  • แดนอารยะ   ตอนที่3. จามิล

    ธีราพยายามถามอู๋ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แต่ชายชรายังคงนั่งเหม่อลอยไม่แสดงปฏิกิริยาใดใด หญิงสาวถามอยู่พักหนึ่งแล้วก็หันไปขอร้องจามิลว่า “คุณช่วยถามเป็นภาษาคีรีมันให้หน่อยสิคะ” “ได้ครับ” จามิลตอบ แล้วหันไปส่งภาษาท้องถิ่นกับชายชราผู้ยังคงนิ่งเฉยเหมือนคนไร้วิญญาณ เขาพูดภาษาคีรีมันอยู่พักหนึ่ง แต่อู๋ยังคงไม่มีปฏิกิริยาใด “พอทีเถอะ!” รินเซนพูดขัดขึ้น หันมาจ้องธีราเขม็งพลางเอ่ย “คุณกลับไปเถอะ ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมาถามพ่อของฉัน คุณก็เห็นแล้วนี่ว่าพ่อตอบอะไรไม่ได้ทั้งนั้น” ธีราพยักหน้ารับรู้ก่อนถอนหายใจเบาๆ จามิลส่งภาษาคีรีมันกับรินเซน “ผมขอยืมจามรีหน่อยนะ” “คุณจะเอาไปให้ผู้หญิงไทยขี่ใช่ไหม?” รินเซนถามด้วยภาษาเดียวกัน “ใช่” จามิลตอบ “ถ้าอย่างนั้นฉันไม่ให้” รินเซนพูดด้วยทีท่าแง่งอน คังมองคนนั้นทีมองคนนี้ทีแล้วพูดแทรก “งั้นศิษย์พี่จามิลก็ต้องแบกผู้หญิงสวยๆ กลับที่พัก” “ทำไมต้องแบกด้วย?” รินเซนถามเสียงห้วน “ขาเธอเจ็บ” จามิลตอบ “ก็ให้เธอค่อยๆ เดินกลับไปเองสิ” รินเซนพ

  • แดนอารยะ   ตอนที่2.เจตนาบริสุทธิ์

    เณรคังเดินเข้ามาเมียงมองด้วยความอยากรู้อยากเห็นตามประสาเด็กเลยถูกจามิลดุเอา เณรน้อยทำคอย่น ถอยห่างออกไปนิดหนึ่ง ทำให้จามิลคล่องตัวขึ้น เขาบอกธีราด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ผมเป็นพระก็จริง แต่พระสงฆ์ที่คีรีมันมีกฎวินัยไม่เหมือนกับพระสงฆ์ที่บ้านเมืองของคุณ ที่คีรีมีนนี่พระสงฆ์แตะเนื้อต้องตัวผู้หญิงได้ หากมีเจตนาบริสุทธิ์หรือเพื่อให้ความช่วยเหลือ” “หรือคะ” หญิงสาวพยักหน้ารับรู้ “คล้าย ๆ กับพระสงฆ์ทิเบตบางนิกายเลย” “ผมขอดูข้อเท้าของคุณหน่อย” จามิลเอ่ยพร้อมกับจับข้อเท้าหญิงสาว ธีราไม่ขัดขืน มองดูเขาถอดรองเท้าบูทสั้นของเธอออกอย่างเบามือด้วยความรู้สึกเจ็บแปลบ พอเขาลองขยับข้อเท้าของเธอ หญิงสาวก็ร้องเบา ๆ “อู๊ย เจ็บ” เขาปล่อยมือข้างที่จับเท้าให้ขยับ แต่มือซ้ายที่ประคองข้อเท้าไว้ไม่ได้ปล่อย “คุณลองขยับเท้าเองดูสิครับ” หญิงสาวทำตาม ผลคือเธอขยับเท้าเองได้ “แต่ยังรู้สึกเสียวแปลบ ๆ อยู่เลยค่ะ” เธอบอกอาการ จามิลจึงใช้นิ้วมือคลึงข้อเท้า “อดทนหน่อยนะคุณธีรา ถ้าไม่รีบนวดตั้งแต่ตอนนี้มันจะอักเสบไปอีกนาน” หญิงสาวพยักหน้า พยายามไ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status