Home / โรแมนติก / แดนอารยะ / ตอนที่ 8 เอ่ยถามเสียงเรียบ

Share

ตอนที่ 8 เอ่ยถามเสียงเรียบ

last update Last Updated: 2025-03-11 15:06:26

จามิลนั่งตรงกันข้ามกับธีราที่โต๊ะมุมในห้องอาหารของโรงแรม ซึ่งกลายเป็นสถานที่นัดพบพูดคุยเรื่องงานของคนทั้งสองไปโดยปริยาย

          พระหนุ่มยกถ้วยชาที่ส่งควันฉุยขึ้นจิบคำหนึ่งก่อนวางถ้วยลงบนโต๊ะ แล้วเอ่ยถามเสียงเรียบ “รินเซนว่าคุณอนุญาตให้เธอไปด้วย”

          “ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับก่อนจะอธิบายต่อ “ฉันมีเหตุผลที่ให้รินเซนไปด้วยนะคะ คือ...หนึ่งฉันจะได้มีเพื่อนผู้หญิงร่วมคณะไปด้วย สองเธอเป็นล่ามให้ฉันแทนคุณหลิงได้ และข้อสุดท้ายเธออาจค้นพบวิธีรักษาพ่อของเธอให้หายจากอาการป่วยได้”

          จามิลหลับตาครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนลืมตาแล้วพูดว่า “ที่คุณพูดมาก็มีเหตุผล แต่ที่ผมไม่ให้รินเซนไปด้วยแต่แรกก็เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอ การไปค้นหากันเดนของพวกเราไม่ได้มีผลสุดท้ายที่แน่นอน อาจจะพบ อาจจะไม่พบ อาจจะไปถึง อาจจะไปไม่ถึง อาจจะได้กลับ และอาจจะไม่ได้กลับ”

          คำท้ายของเขาทอดหางเสียงเบาลงจนธีรารู้สึกใจหายไปด้วย จริงสิ...ทุกคนที่ไปกันเดนอาจจะไม่มีใครได้กลับมาอีก เหมือนอย่างคณะก่อนๆ ที่ไปกัน

          “ฉันลืมคิดถึงข้อนี้ไป ฉันจะพูดกับเธอใหม่แล้วกันนะคะ” พูดถึงตรงนี้รินเซนก็เดินเข้ามาพร้อมกับคัง

          เณรน้อยเดินมายังไม่ทันถึงโต๊ะก็ส่งเสียงเอะอะโวยวายกับจามิล หญิงสาวมองหน้ารินเซนด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ

          รินเซนยิ้มเล็กน้อย รีบแปลให้ธีราฟังชนิดประโยคต่อประโยค “เณรคังว่าศิษย์พี่ต้องพาผมไปกันเดนด้วยนะ”

          จามิลขมวดคิ้วพูดเสียงต่ำ “เจ้ายังเด็กเกินไป”

          “ถึงผมจะเป็นเด็ก ผมก็เป็นเด็กที่กล้าหาญ มีความรู้ด้านธรรมะไม่ต่ำนัก ทั้งยังมีกำลังใจที่เข็มแข็ง ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดีเยี่ยม” รินเซนแปลถึงตรงนี้ธีราก็อดหัวเราะด้วยความขบขันไม่ได้

          “คุณหัวเราะจนฉันแปลไม่ทันแล้วล่ะค่ะ” รินเซนพูดทักท้วง ในขณะที่เณรคังยังคงพูดจ้อไม่หยุด

          ธีราหยุดหัวเราะร่วน พยักหน้าให้รินเซน “ค่ะๆ คุณแปลต่อเถอะ”

          รินเซนเม้มริมฝีปากคล้ายพยายามกลั้นหัวเราะเหมือนกัน ก่อนจะตีสีหน้าเคร่งขรึม “สรุปคือเณรคังบอกว่าผู้ออกบวชทั้งหลายต่างปรารถนาไปให้ถึงกันเดน ไม่จำกัดว่าจะเป็นเด็กหรือเป็นผู้ใหญ่ ขอให้ศิษย์พี่ส่งเสริมผมเหมือนที่ท่านอาจารย์ส่งเสริมศิษย์พี่ด้วย”

          จามิลอึ้งไปครู่หนึ่ง หันมามองหญิงสาว

          “เณรคังคารมดีนะคะ” ธีราเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ

          จามิลถอนหายใจเฮือกก่อนตอบเณรน้อย “เอาเถอะ ไว้เราจะเรียนถามท่านอาจารย์”

          “ขอบคุณศิษย์พี่ที่อนุญาต” เณรคังค้อมศีรษะคารวะจนแทบจรดพื้น

          “ยัง” จามิลรีบพูดแย้ง “ต้องให้ท่านอาจารย์อนุญาตก่อน”

          “ถ้าศิษย์พี่อนุญาตแล้ว ท่านอาจารย์คงไม่ขัดข้องเป็นแน่” เณรคังเอ่ยอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก ก่อนจะหันมายิ้มให้หญิงสาวชาวไทยแล้วกล่าวต่อ “ให้ผมไปด้วย จะช่วยงานคุณผู้หญิงอย่างดีที่สุดครับ”

          ธีรายิ้มรับก่อนหันมาพูดกับรินเซนอย่างที่ตั้งใจไว้ “ฉันพูดเรื่องเธอกับคุณจามิลแล้ว แต่คุณจามิลบอกว่าเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอจึงอยากให้เธอตัดสินใจใหม่อีกที”

          “ฉันไม่ล้มเลิกความตั้งใจอย่างแน่นอน คุณรับปากฉันแล้ว คุณต้องไม่กลับคำนะคะ” รินเซนเอ่ยพลางค้อนควักจามิลอย่างแง่งอน

          ธีราพูดไม่ออก หันไปมองหน้าพระหนุ่ม

          จามิลได้แต่ยิ้มอย่างอ่อนใจ “คณะเดินทางที่มีทั้งเด็กและผู้หญิง คงยุ่งเหยิงและสนุกพิลึก”

          รินเซนตาลุกวาว พูดโต้ตอบทันควัน “เป็นผู้หญิงแล้วยังไง เผลอๆ ฉันจะมีประโยชน์มากกว่าลูกหาบผู้ชายของคุณเสียด้วยซ้ำ”

          ส่วนเณรคังพูดจาภาษาคีรีมันราวกับต่อยหอย

          เกมโลกีย์ผ่านพ้น...วิษณุกับหลิงนอนซุกตัวเบียดชิดกันใต้ผ้าห่มนวมผืนเก่าบนเตียงที่ก่อด้วยดิน ใต้เตียงมีเตาอุ่น ที่นี่สภาพอากาศหนาวจัดแม้ในเวลากลางวัน เตียงที่ก่อจากดินเหนียวก็ยังเย็นเยียบเสียดกระดูก ชาวบ้านจึงใช้วิธีก่อเตาเล็กแล้ววางเตาไว้ในช่องใต้เตียงเพื่ออุ่นเตียงนอนให้อบอุ่นขึ้น

          ตอนหลิงมาเจรจาขอใช้กระท่อมของหญิงชราเป็นรังรักชั่วคราว หล่อนพูดภาษาท้องถิ่นกับเจ้าของกระท่อมว่า ‘ป้า ฉันขอยืมกระท่อมของป้าใช้หน่อย ป้าช่วยจุดเตาอุ่นเตียงให้ด้วยแล้วป้าหลบไปชั่วคราว และต้องทำตัวไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น เงินนี้ก็จะตกเป็นของป้า’

          ขาดคำธนบัตรเกือบสิบใบยื่นมาตรงหน้าหญิงชรา เจ้าของกระท่อมปฏิบัติตามอย่างว่าง่าย รับเงินไปนับด้วยมือไม้สั่นเทาแล้วรีบไปทำตามสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการ ก่อนจะเดินออกไปนอกกระท่อมโดยไม่ปริปากถามอะไรสักแอะอย่างรู้หน้าที่ เพราะนี่เป็นการใช้บริการครั้งที่สามของสาวชาวจีนผู้นี้

          วิษณุเอ่ยกระซิบข้างหูหลิงหลังผ่านพ้นเกมโลกีย์ “เรื่องแรกที่เราจะต้องจัดการก็คือไปหาหลงกัน”

          หลงมองดูชายหนุ่มฉกรรจ์ที่มาหาด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์ “เจ้าชื่ออะไร?”

          “ผมชื่อต้าครับ” ชายหนุ่มตอบด้วยทีท่านอบน้อมอยู่นอกประตูรั้ว

          หลงที่ยืนอยู่หลังประตูรั้วสูงเทียมคอพยักหน้ารับรู้พลางถามต่อ “เจ้ามาหาข้าด้วยเรื่องอะไร?”

          “ผมจะมาสมัครเป็นลูกหาบไปกันเดนครับ” ต้าตอบด้วยสีหน้ายิ้มประจบ

          “เจ้ามาช้าไป ข้าได้ลูกหาบครบแล้ว” หลงตอบ อดนึกแปลกใจไม่ได้ ตอนแรกเขาคิดว่าคงหาลูกหาบไปกันเดนไม่ได้ หรือถ้าได้ก็คงต้องจ่ายค่าจ้างในอัตราสูงลิบลิ่ว

          ทว่าผิดคาด วันนี้พอเขาประกาศรับสมัครลูกหาบไปกันเดน ชายฉกรรจ์ต่างกรูกันมาสมัครจนได้ลูกหาบครบอย่างรวดเร็ว แถมแต่ละคนยังไม่เกี่ยงงอนเรื่องค่าจ้างอีกด้วย

          “ขอให้ช่วยรับผมไปอีกคนเถอะครับ” ต้าขอร้อง

          “ไม่ได้หรอก คนเต็มแล้ว เงินข้าก็จ่ายไปหมดแล้ว” หลงตอบปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใย

          “ผมไม่เอาเงินก็ได้ ขอให้ผมได้ไปด้วยคนก็พอครับ” ต้าเอ่ยแทบจะลงทุนก้มกราบ

          หลงนึกเอะใจจึงย้อนถาม “ทำไมเจ้าถึงอยากไปกันเดนนัก?”

          “เพราะว่า…” ต้าเอ่ยแล้วเหมือนนึกได้ว่าจะต้องต่อรองให้อีกฝ่ายรับตนเสียก่อนจึงจะบอกเหตุผลได้ ก็เลยยื่นข้อเสนอว่า “ถ้าผมบอกความลับแก่คุณ คุณต้องรับผมเป็นลูกหาบด้วยคนนะครับ”

          “ข้าบอกแล้วไงว่าเงินค่าจ้างหมดแล้ว” หลงเอ่ย

          “ผมบอกคุณแล้วว่าผมไม่เอาค่าจ้างก็ได้”

          “หมายความว่าเจ้าจะยอมทำงานให้เปล่าๆ โดยไม่เอาค่าจ้างหรือ?” หลงถามย้ำเพื่อความมั่นใจ

          “ครับ” ต้ารับคำน้ำเสียงหนักแน่น

          “เพราะอะไร?” หลงถาม อยากรู้เป็นทวีคูณ

          ต้ายิ้มเล็กน้อยก่อนพูดต่อรอง “คุณต้องรับปากผมก่อนสิว่าจะรับผมเป็นลูกหาบ ผมถึงจะบอก”

          “เอาเถอะๆ ดูหน่วยก้านเจ้าก็ไม่เลว เท่ากับได้ลูกหาบเพิ่มโดยไม่ต้องเสียเงิน ข้าตกลง” หลงพูดอย่างตัดปัญหาก่อนเร่งรัดอีกฝ่าย “คราวนี้เจ้ารีบบอกเหตุผลมาได้แล้ว”

          “เรื่องนี้เป็นความลับที่เพิ่งรั่วไหลออกมาจากวัดกัมโป” ต้าพูดพลางเหลียวซ้ายแลขวาเหมือนกลัวใครจะมาได้ยินเข้า เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ใกล้บริเวณนั้นจึงลดเสียงพูดแผ่วเบาลง “เมื่อสิบปีก่อนมีคณะเดินทางไปค้นหากันเดน คุณรู้หรือเปล่า?”

          “รู้สิ ไปแล้วก็ไปลับ ไม่มีใครกลับมาอีกเลย” หลงตอบ

          “ผิดแล้ว” ต้าพูดพลางขยายความ “มีคนหนึ่งกลับมาได้ พระลูกวัดกัมโปไปพบเขานอนสลบไสลอยู่ริมลำธารนอกหมู่บ้านเลยพาเขากลับมาที่วัด จากนั้นเขาก็ถูกกักตัวอยู่แต่ในบริเวณวัดตลอดมา”

          “ทำไมข้าถึงไม่รู้เรื่องนี้?” หลงหลุดปากถาม

          “ถ้าทุกคนรู้ จะเรียกว่าเป็นความลับเหรอ?” ต้าย้อนถาม

          หลงพยักหน้าพลางถามอย่างคาดคั้น “ข้าไม่เชื่อว่าเหตุผลเพียงแค่นี้จะทำให้เจ้ายอมไปกันเดนโดยไม่เอาค่าจ้าง มีอะไรจงบอกออกมาให้หมด”

          ต้ากลืนน้ำลายลงคอก่อนพูดเสียงแผ่ว “คุณรู้ไหมว่าทำไมเขาจึงถูกกักตัวอยู่แต่ในวัดกัมโป?”

          “ข้าจะไปรู้เรอะ” หลงพูดอย่างรำคาญ

          ต้าเลยรีบเฉลย “เพราะเขาไปถึงกันเดนมาแล้วน่ะสิ”

          “มีอะไรเป็นหลักฐานว่าเขาไปถึงกันเดนมาแล้ว?” หลงถาม

          “เขาลือกันว่าคนที่กลับมา ได้นำเพชรเม็ดใหญ่กว่าไข่ไก่กลับมาด้วยเม็ดหนึ่ง” ต้าพูดเสียงเบาราวกระซิบ

          ทว่าหลงกลับร้องเสียงหลง “หา! แล้วเวลานี้เพชรเม็ดนั้นอยู่ที่ไหน?”

          ต้ารีบยื่นมือข้ามรั้วมาปิดปากอีกฝ่าย “จุ๊ๆๆ เบาๆ หน่อย”

          หลงพยักหน้ารับ ต้าจึงปล่อยมือก่อนกระซิบเสียงแผ่ว “น่าจะอยู่ที่ท่านเจ้าอาวาสวัดกัมโป”

          ทั้งสองสบตากัน เหลียวมองไปรอบด้านอย่างระแวดระวัง

          หลงตัดสินใจเปิดประตูรั้วพลางบอกอีกฝ่าย “เข้ามาคุยกันต่อข้างในเถอะ”

          “ดีสิ”

          พอต้าเดินเข้ามา หลงก็รีบปิดประตูรั้วแล้วจูงมืออีกฝ่ายเข้าไปนั่งตรงม้านั่งหน้าบ้านอย่างเร่งรีบ นั่งประชิดตัวพลางกระซิบถาม “แล้วคนอื่นๆละ ทำไมไม่กลับมา”

          แทนคำตอบต้ากลับย้อนถาม “คุณเคยได้ยินคำร่ำลือเกี่ยวกับกันเดนไหม?”

          “เคยสิ” หลงตอบ ดวงตาลุกวาว “เขาว่ากันว่า กันเดนคือแดนสวรรค์ มีเพชรนิลจินดาของมีค่ามากมาย มีสาวงามที่ไม่รู้จักแก่จักเฒ่า จริงสิ...ถ้าข้าได้ไปถึงกันเดนข้าคงไม่กลับมาหาอีแก่ที่บ้านหรอก” หลงทำนัยน์ตาลอยเคลิ้มฝันครู่หนึ่งก่อนกลายเป็นสีหน้าสลด “แต่การไปกันเดนไม่ใช่เรื่องง่ายๆ”

          ต้ายิ้มพลางเอ่ย “คราวนี้ไม่เหมือนกัน ว่ากันว่าหัวหน้าคณะเมื่อสิบปีก่อนเป็นคนไทย ก่อนเดินทางไปกันเดนได้ส่งจดหมายกับแผนที่กลับไปเมืองไทย แล้วลูกหลานของเขาก็เดินทางมาเป็นหัวหน้าคณะในคราวนี้ด้วย”

          “ใช่ จริงๆ” หลงร้องอย่างยินดี

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • แดนอารยะ   ตอนที่ 9 ตามความเป็นจริง

    หลังจากหลงออกปากรับต้าเข้าร่วมคณะเดินทาง ต้าก็ขอลากลับไปเตรียมตัวเดินทาง หลงยังคงตกอยู่ในภวังค์ความคิด นึกจินตนาการไปว่าเมื่อไปถึงกันเดนเขาคงพบเพชรนิลจินดากองมหึมาเทียมภูเขา กำลังคิดเพลินๆ “หลง!” เสียงหลิงดังลั่นอยู่ข้างหูพร้อมกับมือของหล่อนตบไหล่ของเขาเต็มแรง เรียกสติที่กำลังเพ้อฝันให้กลับคืนมา “อ๊ะ! คุณหลิง” ผู้ถูกเลื่อนตำแหน่งให้เป็นหัวหน้าลูกหาบอุทานลั่น หลิงยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มเอาเรื่อง “ใช่แล้ว ฉันเอง แล้วไม่เพียงฉันเท่านั้นแต่ยังมีอีกคนอยากพบแก” ล่ามสาวพูดพลางบุ้ยใบ้ไปด้านข้าง วิษณุเดินออกมาจากหลืบกำแพง หลงเบิกตาเหลือกลานพลางอุทานลั่น “นะ…นาย!” “แกรับเงินไปแล้วทำไมไม่ทำตามสัญญา” วิษณุส่งเสียงตะคอกถามพร้อมกับกระชากคอเสื้ออีกฝ่าย หลิงรีบแปลภาษาไทยเป็นภาษาคีรีมัน หลงมีสีหน้าเลิ่กลั่ก เอี้ยวคอมองซ้ายมองขวาก่อนพูดเสียงแผ่ว “คุณหลิง ช่วยบอกนายที พวกเราเข้าไปคุยกันข้างในก่อนดีกว่า ผมมีเรื่องสำคัญจะบอก” หลิงรีบแปลภาษาคีรีมันเป็นภาษาไทย วิษณุตัดสินใจเพียงอึดใจเดียวก็ปล่อยมือที่กำคอเสื้อ

    Last Updated : 2025-03-11
  • แดนอารยะ   ตอนที่10 อยู่ที่ไหน

    ธีรายืนมองหลงและเหล่าลูกหาบช่วยกันขนสัมภาระขึ้นรถบรรทุกหกล้อ โดยมีจามิลพระหนุ่มคอยดูแลความเรียบร้อยอยู่หน้าโรงแรมที่พัก รินเซนและคังหอบหิ้วข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวพลางเดินอย่างเร่งรีบตรงมาเบื้องหน้าของหญิงสาว เณรน้อยพูดภาษาคีรีมันยืดยาวซึ่งธีราไม่เข้าใจแม้แต่น้อย หญิงสาวจึงหันไปถามรินเซน “เณรคังพูดว่าอะไรหรือ?” รินเซนยิ้มเล็กน้อยก่อนจะตอบว่า “เณรคังบอกว่าจามิลแกล้งไม่ปลุกเณรและแอบหนีมาก่อน แต่โชคยังดีที่เณรตามมาทัน” “อ้อ” ธีราพยักหน้ารับรู้พลางว่า “นี่ยังไม่ทันรุ่งเช้า คุณจามิลเพิ่งจะคุมลูกหาบช่วยกันขนสัมภาระขึ้นรถเสร็จ กว่าพวกเราจะออกเดินทางกันจริงๆ ก็คงหลังจากกินอาหารเช้ากันเรียบร้อยแล้ว ราวๆ เจ็ดโมงเช้า” เพิ่งตอบรินเซน วิษณุก็ส่งเสียงร้องเรียก “ธีรา ธีราอยู่ไหน?” “อยู่นี่ค่ะ” หญิงสาวส่งเสียงตอบ ชักสีหน้าเอือมระอา วิษณุเดินแกมวิ่งมาหาแล้วหอบแฮ็กๆ ต่อว่าต่อขานเสียงดังระคนหอบ “อยู่ตรงนี้เอง ทำไมน้องธีราไม่ปลุกพี่ล่ะ? งานคุมคนงานอย่างนี้ต้องพี่เอง” แล้วทำทีจะเข้าไปเจ้ากี้เจ้าการกับการขนสัมภาระของลูกหาบ ธีรา

    Last Updated : 2025-03-11
  • แดนอารยะ   ตอนที่11 ระวังปากระวังคำ

    ขบวนรถแล่นช้าๆ ไปตามทางภูเขาซึ่งทั้งแคบและลื่นเพราะเป็นหินปนกรวด อีกทั้งตลอดเส้นทางยังเปียกชื้นเนื่องจากน้ำละลายจากหิมะบนภูเขา รถจึงแล่นด้วยความเร็วไม่เกินยี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง ทัศนียภาพสองข้างทางสวยงามตามธรรมชาติ ด้านหนึ่งเป็นขุนเขา ส่วนอีกด้านเป็นทุ่งนาสลับทุ่งหญ้า ดอกหญ้าสีม่วง สีเหลือง สีคราม และสีขาวบานสะพรั่งเต็มท้องทุ่งสุดลูกหูลูกตา ฝูงจามรีและฝูงแกะยืนและเล็มใบหญ้า รถแล่นผ่านทุ่งหญ้า ถัดไปเป็นทิวเขาสลับซับซ้อน หุบเหว โตรกธารที่ไหลรวมกันเป็นสระกว้าง มีขนาดใหญ่บ้างเล็กบ้าง หาดทรายริมสระกว้างบ้างแคบบ้าง ถัดจากหาดทรายมีหญ้าขึ้นปกคลุมเป็นแห่งๆ แต่ไม่มีต้นไม้ใหญ่พอจะให้ร่มเงา ยิ่งสายแดดยิ่งร้อนแรงจนผู้โดยสารหลายคนในรถต้องรีบคว้าแว่นกันแดดมาสวมรวมทั้งเณรคัง ธีราหันไปเห็นเข้าก็อดหัวเราะเบาๆ ไม่ได้ วิษณุมองตามแล้วพูดจาเหน็บแนมทันที “ฮึ! อย่างกับบ้านนอกเข้ากรุง” “พี่ณุ จะพูดจะจาอะไรระวังปากระวังคำหน่อยได้ไหม?” หญิงสาวกระซิบเบาๆ พอได้ยินกันสองคน เพราะวิษณุนั่งอยู่ข้างๆเธอ ทว่าวิษณุกลับตอบกลับ “ก็พี่ไม่ชอบขี้หน้าพวกพระพวกเณรนี

    Last Updated : 2025-03-17
  • แดนอารยะ   ตอนที่12 อุ่นใจเมื่อมีอาวุธอยู่ในมือ

    หลังจากสุดเส้นทางที่รถยนต์จะแล่นถึง ผู้โดยสารทุกคนก็ต้องเดินเท้าต่อ แม้ธีรา วิษณุ และหลิงจะไม่ได้แบกสัมภาระอะไร แต่เนื้อตัวก็หนาหนักด้วยเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่น จามิลแบกสัมภาระของตนเองพร้อมกับถือไม้เท้าพระธรรมเดินนำหน้าขบวน ตามติดด้วยเณรคังซึ่งแบกสัมภาระพะรุงพะรังไม่แพ้กัน นักบวชต่างวัยครองผ้าขนสัตว์ทับบนจีวรอีกชั้นหนึ่ง ธีราเห็นแล้วก็อดรู้สึกเหน็บหนาวแทนไม่ได้ วิษณุถืออาวุธปืนยาวติดมือและพกปืนสั้นเหน็บเอว แม้อาวุธสองสิ่งนี้จะทำให้หนักกว่าปกติหลายเท่าแต่เขากลับอุ่นใจเมื่อมีอาวุธร้ายอยู่ในมือ ธีราเดินตามเป็นอันดับสี่ ตามหลังวิษณุ หญิงสาวมองขุนเขาสูงชันสลับซับซ้อนที่ดูราวไม่มีวันสิ้นสุด แต่ละยอดเขาแซมสีขาวของน้ำแข็งและหิมะเห็นแล้วอดรู้สึกอ่อนใจไม่ได้ เพราะใต้รองเท้าของเธอเหยียบถูกน้ำแข็งบางๆ ที่ทำให้เส้นทางโรยด้วยกรวดหินค่อนข้างลื่น รินเซนและหลิงแบกเป้บรรจุของใช้กระจุกกระจิกส่วนตัวอยู่บนหลัง เดินตามธีรามาติดๆ ต่างชิงกันหวังเดินประกบธีรา เป็นศึกย่อยๆ ที่ไม่มีใครสนใจ บรรดาลูกหาบต่างแบกสัมภาระห่อใหญ่อยู่บนหลัง แม้จะสวมเสื้อผ้าหลายชั้นแต่ดูท

    Last Updated : 2025-03-17
  • แดนอารยะ   ตอนที่13 ลังเลใจ

    เบื้องหน้าเป็นหุบเหวลึก ส่วนซ้ายขวาเป็นขุนเขาสูงชัน ธีรามองหนทางข้างหน้าแล้วหันมามองจามิล พระหนุ่มผู้นำทางซึ่งบัดนี้ยืนอยู่ข้างเธอ “เรามาถูกทางแน่หรือคะ?” หญิงสาวถามอย่างลังเลใจ “ครับ” จามิลรับคำหนักแน่น “ตามแผนที่ชี้ตรงลงไปในหุบเขา แล้วยังต้องเดินตรงไปอีกราวยี่สิบกิโลเมตร” ธีราเม้มริมฝีปากก่อนจะสารภาพเสียงแผ่วเบาราวกระซิบ “ฉันกลัวความสูง” “อ้อ” จามิลพยักหน้าด้วยแววตาเข้าใจระคนเห็นใจ “ตอนปีนขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่หันไปมองข้างหลังก็พอว่า แต่ต้องปีนลงหน้าผาสูงชันแบบนี้ ฉัน…เอ่อ…” หญิงสาวอธิบายไม่ถูก “ไม่ต้องกลัวครับ” จามิลเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เดี๋ยวผมจะหาทางพาคุณลงไปข้างล่างเอง คุณเพียงแค่หลับตาเท่านั้นก็พอ” “ฉันไม่อยากเป็นตัวถ่วงเลย” หญิงสาวพูดอย่างจนปัญญา “คุณอย่าคิดมากสิครับ” จามิลยังไม่ทันพูดปลอบ วิษณุเดินเข้ามาพลางถามแทรก “มีอะไรหรือน้องธีรา?” “คือ…” ธีราตั้งใจจะตอบว่าเธอเป็นโรคกลัวความสูง แต่จามิลกลับพูดขัดขึ้นเสียก่อนว่า “พวกเราจะต้องไต่หน้าผานี้ลงไปด้านล่าง เลยหารือกันว่าจ

    Last Updated : 2025-03-17
  • แดนอารยะ   ตอนที่14 หงุดหงิด

    ระยะทางที่เดินในหุบเหวซึ่งขนาบข้างด้วยหน้าผาสองฟากยาวราวยี่สิบกิโลเมตร สิ้นสุดลงตรงหน้าผาชันที่ขวางหน้า ธีราหันมาสบตาจามิลเป็นเชิงถาม พวกเรามากันถูกทางหรือเปล่า? วิษณุพูดโพล่งทันที “นี่พามาผิดทางแน่ๆ” “ผมเทียบแผนที่แล้ว ทางนี้ถูกต้อง พวกเรายังต้องเดินหน้าต่อไปอีก” จามิลยืนยัน วิษณุชี้หน้าผาตรงหน้าพลางพูดเยาะเย้ย “เชอะ ตรงไป เห็นทีต้องขุดหน้าผากันแล้ว” แทนที่จะโกรธ จามิลกลับพูดว่า “คุณพูดจามีเหตุผล” พลางเดินสำรวจหน้าผาตรงหน้า คังเห็นศิษย์พี่สำรวจหน้าผาก็ทำตามบ้าง นักบวชต่างวัยเดินลูบๆ ตบๆ ตามผนังผา ครู่หนึ่งเณรน้อยก็ส่งเสียงเอะอะ “ไอ้เด็กเปรตมันว่าอะไรของมัน?” วิษณุเอ่ยไม่ดังนัก เจตนาจะถามหลิง ธีราได้ยินเข้าก็อดพูดตำหนิไม่ได้ “พี่ณุ ทำไมชอบพูดจาหยาบคายอย่างนี้” “เหอะน่า ยังไงมันก็ฟังไม่รู้เรื่อง” วิษณุพูดอย่างขอไปที “แต่ยังไงก็ไม่สมควรพูด” ธีรายังยืนยันความคิดเดิม วิษณุเลยพาลหงุดหงิด “เออๆ” “เณรว่าเขาพบทางเข้าแล้ว” หลิงพูดแทรก ทั้งหมดจึงหันไปมองเณรน้อย ก็เห็

    Last Updated : 2025-03-17
  • แดนอารยะ   ตอนที่15 หึงล่ะสิ

    จามิลถือคบไฟนำทางธีราเข้าไปในถ้ำเป็นคู่แรก วิษณุมองตามด้วยสายตาไม่ประสงค์ดีพร้อมกับสบถลั่น “ห่าเอ๊ย! เดี๋ยวขึ้นเขา เดี๋ยวลงเหว เดี๋ยวลุยหิมะ เดี๋ยวมุดถ้ำ เมื่อไรจะถึงสักทีวะ” ก่อนจะหยิบไฟฉายคาดหน้าผากมาสวมเพื่อส่องทาง หลิงที่ยืนอยู่ข้างๆ ทำตามบ้างพลางกระซิบ “หึงล่ะสิ?” “ผมไม่ชอบที่มันทำตัวใกล้ชิดธีรามากเกินไป” วิษณุพูดจาเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน “นั่นแหละความรู้สึกที่เรียกว่าหึง” หลิงพูดพลางแกล้งยั่ว “พระคีรีมันไม่เหมือนพระเมืองจีนที่บวชแล้วบวชเลยไม่ค่อยสึก และก็ไม่เหมือนพระทิเบตบางนิกายที่มีภรรยาทั้งๆ ที่เป็นพระได้ แต่พระคีรีมันสึกออกไปครองเรือนมีเปอร์เซ็นต์สูงมาก” “คุณมาบอกผมทำไม?” วิษณุถามน้ำเสียงหงุดหงิด “เตือนให้คุณระวังเอาไว้ ดีไม่ดีแม่น้องสาวแสนสวยของคุณจะถูกพระคีรีมันฉกเอาไปครอง” หลิงพูดกึ่งประชดกึ่งแหย่ วิษณุสีหน้าบึ้งตึงก่อนพูดเสียงแข็ง “รอให้ไปถึงกันเดนก่อนเถอะ” มือขยับแตะปืนพกข้างเอวพลางกระซิบลอดไรฟัน “จะส่งมันไปสวรรค์” “คุณมองตาของผมนะ” จามิลกล่าวเสียงทุ้มลึก ธีรารู้สึกว่าเสียงนั้นซอกซอนเข

    Last Updated : 2025-03-17
  • แดนอารยะ   ตอนที่16 ไม่ต้องกลัว

    “ยืนอยู่กับที่ ใครอยู่ตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น” เสียงจามิลดังกึกก้องเรียกสติของคนอีกหลายคนที่กำลังหวาดกลัวให้กลับคืนมา กรี๊ดดดดด! เสียงเหมือนคนกรีดร้องดังโหยหวน สะท้อนอึงอลจากไกลมาใกล้อย่างรวดเร็ว “ไม่ต้องกลัว เสียงลม” ฉับพลัน พึ่บบบบบ! กระแสลมกระโชกโหมมาจากอุโมงค์อย่างแรง ทำให้คบไฟที่จามิลและลูกหาบถืออยู่ดับลงทันที เสียงเอะอะของพวกลูกหาบดังขึ้นอีกครา หลายคนวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต ไม่จำแนกทิศทาง “บอกให้อยู่กับที่!” จามิลตวาดลั่น เห็นความเคลื่อนไหวรางๆ จากแสงไฟฉายคาดหน้าผากของวิษณุและหลิง ทั้งสองหนุ่มสาวมองหน้ากันเลิ่กลั่กด้วยความหวาดกลัว “เจ้าเขาเจ้าถ้ำกำลังโกรธพวกเราแน่ๆ ที่รุกล้ำเข้ามา” หลงเอ่ยเสียงสั่น “เหลวไหล” จามิลพูดตัดบทเสียงห้วน ทำให้หลงไม่กล้าพูดอะไรต่อ “จุดคบไฟ” พระหนุ่มสั่ง คบไฟในมือลูกหาบที่เหลือและในมือจามิลถูกจุดขึ้นอีกครั้ง จามิลนับลูกหาบที่เหลือแล้วกล่าวเป็นภาษาคีรีมัน “ตอนนี้ลูกหาบเหลืออยู่เจ็ดคน พวกที่วิ่งหนีทิ้งสัมภาระเอาไว้ เส้นทางวกวนของที่

    Last Updated : 2025-03-17

Latest chapter

  • แดนอารยะ   ตอนที่25 กังวล

    ธีราหน้าซีดเผือด หันมาสบตาจามิลอย่างกังวล แต่พระหนุ่มยังคงวางตัวนิ่งเฉยไม่แสดงทีท่ากระวนกระวายใจแต่อย่างไร “ขอบคุณที่เตือน แต่พวกเราตั้งใจจะไปกันเดนให้ได้” จามิลพูดกับพญานาคราช “หนทางไม่ใช่ไปได้โดยง่าย” พญานาคราชเอ่ย ธีราลอบถอนหายใจ เมื่อครู่เธอเข้าใจผิดคิดว่าพญานาคราชจะทำร้ายเธอและคณะ แท้จริงเขาเพียงไม่เห็นด้วยกับการเดินทางไปยังกันเดนของเธอและคณะเท่านั้น “ผมทราบครับ แต่พวกเราไม่ล้มเลิกความตั้งใจแน่” จามิลพูดน้ำเสียงหนักแน่น “และผมต้องขอโทษแทนทุกคนด้วยที่มารบกวนการบำเพ็ญเพียรของท่านในถ้ำนั้น” “ช่างเถอะ เรากำลังออกจากฌานพอดี” พญานาคราชตอบอย่างไม่ถือสาหาความ “แล้วคนที่มาพร้อมพวกเราละคะ?” ธีราเอ่ยถาม “เจ้าอยากพบคนพวกนั้นไหม?” พญานาคราชหันมาถามหญิงสาว “อยากค่ะ” หญิงสาวรับคำ “ก็ได้ เราจะให้นำคนพวกนั้นมาพบเจ้าเดี๋ยวนี้” พญานาคราชพูดพลางหันไปออกคำสั่งชายประหลาด “ยะมะ เจ้าไปนำพวกนั้นมา” “พ่ะย่ะค่ะ” ยะมะน้อมคำนับรับคำแล้วเดินผละจากไปอย่างว่องไว หลังจากยะมะออกไปแล้ว ธีราก็พนมม

  • แดนอารยะ   ตอนที่ 24 เนื้อตัวสั่นเทา

    “ท่านต้องการอะไร?” จามิลเบี่ยงตัวเข้าขวางเบื้องหน้าธีราพลางเอ่ยถามชายประหลาดผู้นั้น ชายผู้นั้นไม่ตอบเพียงเดินวนและมองชายหนุ่มหญิงสาวอย่างพินิจพิจารณาหนึ่งรอบแล้วออกคำสั่ง “ตามข้ามา” ก่อนจะเดินลงน้ำผลุบหายไปต่อหน้าต่อตา จามิลจะก้าวตาม ธีรารีบรั้งแขนของเขาไว้ “นั่นคนหรืออะไรคะ?” พระหนุ่มจึงชะงักฝีเท้าหันกลับมาตอบ “คงจะเป็นชนเผ่านาคา” “คุณจะตามเขาไปจริงๆ เหรอคะ?” หญิงสาวถามเพื่อความแน่ใจ จามิลค้อมศีรษะเล็กน้อยพลางเอ่ย “พวกเราอยู่ในถิ่นของเขา อะไรที่ดูไม่น่ามีพิษมีภัยก็ควรทำตามที่เขาสั่งไปก่อน” ทั้งสองหยุดสนทนาเมื่อเห็นชายประหลาดผู้นั้นโผล่เหนือน้ำพลางพูดเร่งรัด “อย่าชักช้า ตามข้ามาเดี๋ยวนี้” แล้วผลุบกลับลงไปใหม่ จามิลจูงมือธีราพลางว่า “พวกเราไปกันเถอะ ผมอยู่ทั้งคน ไม่ต้องกลัว” เขาเอ่ยเน้นท้ายประโยคเพราะสัมผัสรับรู้ว่ามือของหญิงสาวสั่นระริก ธีราเดินตามพระหนุ่มลงน้ำ พอดำลงไปจึงรู้ว่าใต้น้ำมีอุโมงค์ที่ผนังส่องแสงสว่างระยิบระยับ อุโมงค์ทอดตัวไม่ยาวนัก เพียงอึดใจก็โผล่มาที่คูหาถ้ำแห่งหนึ่ง ชายปร

  • แดนอารยะ   ตอนที่23 งูยักษ์

    คูหาถ้ำตรงหน้าไม่ได้มืดมิดเพราะมีแสงสว่างส่องเล็ดลอดจากเพดานถ้ำลงมา แสงสว่างส่องกระทบผนังถ้ำจนดูเหมือนครอบด้วยแก้วใสอีกชั้นหนึ่ง เกิดการหักเหและสะท้อนไปมาของแสงมากมายนับพันนับหมื่นลำแสง ทั้งถ้ำสว่างไสว ส่วนพื้นถ้ำเป็นน้ำ แต่เป็นน้ำที่แข็งตัวราวกระจกใส สิ่งที่ทำให้ทุกคนยืนตะลึงจนตัวแข็งทื่อก็คือบนพื้นน้ำราวกระจกใสปรากฏงูยักษ์ตัวหนึ่ง เกล็ดเขียวราวมรกต ดวงตาสีแดงดังทับทิม มีหงอน เคราครีบหลัง และครีบหางสีแดงสดใส “นาค” จามิลกระซิบบอกธีราเสียงแผ่ว ไม่ทันที่หญิงสาวจะคิดอ่านทำอะไร วิษณุกลับสาดกระสุนปืนใส่งูยักษ์หรือนาคตัวนั้นชนิดไม่ยั้ง ปัง! ปัง! ปัง! งูยักษ์แผ่พังพานมหึมาเหมือนโกรธ แม้ลูกกระสุนจะไม่ระคายผิวมันปลาบก็ตามที ก่อนจะหุบพังพานพุ่งตัวขึ้นสู่เบื้องบนอากาศแล้ววกกลับ หมุนควงสว่านพุ่งสู่พื้นน้ำ ตูมมมมม! พื้นน้ำแตกกระจาย น้ำใสราวกระจกเปลี่ยนสภาพเป็นน้ำธรรมดา พร้อมกันนั้นที่เห็นเหมือนแก้วใสครอบผนังถ้ำก็แปรเปลี่ยนสภาพเป็นน้ำไหลลงมาอย่างเร็วและแรง กระแสน้ำพัดพาทุกคนไหลลงไปรวมกันยังพื้นน้ำกลางถ้ำ ที่ขณะนี้กลายเป

  • แดนอารยะ   ตอนที่22 แสร้งทำดี

    “แย่แล้ว!” ธีราอุทานลั่นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมื่อครู่เธอมัวแต่ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงทิ้งกระติกน้ำที่ไม่ได้หมุนเกลียวปิดฝาให้สนิทไว้กับพื้น หญิงสาวกราดไฟฉายเพื่อมองหากระติกน้ำก็เห็นล้มกลิ้งอยู่กับพื้น ฝาเผยอเปิด น้ำนองพื้น เธอรีบคว้ากระติกน้ำขึ้น น้ำหนักเบามือทำให้รู้ว่าน้ำหกหมด ธีราหันไปสบตาจามิลด้วยสายตาขอลุแก่โทษ เธอน่าจะถนอมน้ำดื่มที่เขามีน้ำใจหยิบยื่นให้ให้ดีกว่านี้ พระหนุ่มยิ้มเล็กน้อยเป็นนัยว่าไม่เป็นไร ก่อนหันไปคว้าสัมภาระขึ้นหลังและโบกมือให้สัญญาณเดินทางต่อ ธีรารีบหยิบสัมภาระส่วนตัวขึ้นแบกแล้วเดินตามเงียบๆ “อุ๊ย!” รินเซนอุทานเบาๆ หล่อนลืมตัวใช้มือข้างที่บาดเจ็บคว้าสัมภาระ “ผมช่วย” ต้าขันอาสา ชิงคว้าสัมภาระของรินเซนขึ้นหลังรวมกับสัมภาระที่ตัวเองแบกอยู่จนดูพะรุงพะรังน่าขัน รินเซนค้อนควักก่อนเร่งฝีเท้าตามติดธีรา ต้าเดินตามรินเซน ตามติดด้วยหลิง วิษณุ และหลง “ซวยฉิบ เดินทางโดยไม่มีแผนที่ อีกกี่ชาติจะไปถึงกันเดนวะ” วิษณุบ่นกระปอดกระแปดไม่เลิกรา หลิงรีบดึงแขนเสื้อวิษณุเพื่อให้เขาเดินช้าลง พอทอดระยะห

  • แดนอารยะ   ตอนที่21 ไม่อาจสยบ

    หลิงมีฝีมือในการต่อสู้เหนือกว่าวิษณุมาก ทำให้จามิลไม่อาจสยบหล่อนได้ในเวลาอันรวดเร็ว วิษณุคิดอยากเข้าไปช่วยหลิงกลุ้มรุมกินโต๊ะพระหนุ่ม แต่การต่อสู้ของทั้งสองรวดเร็วเสียจนเขาดูไม่ทันจึงไม่มีจังหวะเข้าไปร่วมวง ส่วนต้ารีบปลดสัมภาระลงจากหลังค้นหายาใส่แผลและผ้าพันแผลอย่างรีบเร่ง พอหาเจอก็รีบห้ามเลือดให้รินเซนทันที “เจ็บมากไหมครับ?” ต้าถามเบาๆ อย่างห่วงใย ทว่ารินเซนไม่สนใจฟัง มัวแต่ใจจดใจจ่อกับการต่อสู้ระหว่างจามิลกับหลิง แล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือกร้องลั่น “โอ๊ะ! โหย” เพราะเจ็บแสบบริเวณบาดแผลจึงหันมามอง เห็นต้าใช้สำลีชุ่มแอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดบริเวณบาดแผล หล่อนสะบัดมือพลางค้อนควัก “อดทนหน่อยนะครับ แผลจะได้หายเร็วๆ” ต้าพูดปลอบ ยังคงกุมข้อมืออีกฝ่ายแน่นไม่ยอมปล่อย ขณะรินเซนยังคิดไม่ออกว่าจะตอบอย่างไรดี หางตาก็เห็นการต่อสู้เปลี่ยนไป หลิงพลาดท่าถูกจามิลกางมือขวาขยุ้มบนไหล่ขวาและกดลงจนหล่อนต้องคุกเข่าลงข้างหนึ่งเพราะต้านแรงไม่ไหว วิษณุชักปืนสั้นหวังจะช่วยคู่ขาสาวอีกแรง แต่ธีราที่จับตามองเขาตลอดเวลาชักปืนสั้นยิงลงพื้นสกัด

  • แดนอารยะ   ตอนที่20 ข่าวลือ

    แผนที่แผ่นนั้นวางหราบนพื้นต่อหน้าทุกคน ไฟฉายสามดวงส่องตรงลงบนแผนที่ก็เห็นเส้นทางคดเคี้ยวและตัวอักษรยึกยือซึ่งเป็นภาษาคีรีมัน พิจารณาแผนที่ครู่หนึ่ง หลิง รินเซน หลง และต้า ต่างมีสีหน้าผิดหวัง “หมายความว่ายังไง?” หลิงเอ่ยถามจามิล “มีอะไรผิดปกติรึหลิง?” วิษณุถาม “แผนที่นี้ชี้เส้นทางมาแค่ถ้ำที่มีอุโมงค์ทางแยกห้าแพร่งเท่านั้น ต่อจากนั้นก็ไม่มีเส้นทางแสดงไว้เลย” หลิงตอบเสียงสั่น วิษณุกระชากคอเสื้อจามิลพลางตะคอกถาม “มึงเอาแผนที่ปลอมมาหลอกกูเหรอ?” พระหนุ่มกำข้อมือวิษณุแล้วออกแรงบีบ พลันมือวิษณุก็อ่อนแรง“ผมไม่ได้หลอกคุณหรือหลอกใคร” จามิลตอบเสียงเข้ม พลางคลายมือจากข้อมือของวิษณุ ญาติผู้พี่ของธีราไม่กล้าหุนหันพลันแล่นอีก และพยายามระงับโทสะ “ตกลงมันยังไงกันแน่ แล้วแผนที่ที่คุณอาธีระส่งมาให้น้องธีราล่ะ?” “ไม่มีแผนที่ที่ว่านั่น” ธีราตอบเสียงเบา รู้สึกผิดหวังไม่น้อยไปกว่าคนอื่น “หมายความว่าไงที่ว่าไม่มีแผนที่ที่ว่า?” วิษณุกับหลิงถามแทบจะพร้อมกัน “ฉันได้รับจดหมายจากคุณพ่อก็จริง แต่ท่านไม่ได้ส่งแผนที่มาให้ ท่านเ

  • แดนอารยะ   ตอนที่19 โวยวาย

    สิ่งที่เห็นตรงหน้าเป็นสิ่งที่ธีราคาดไม่ถึงมาก่อน ลำธารลาวาเดือดปุดๆ ไหลขวางอยู่ในร่องเหวลึกตรงหน้า ควันและกลิ่นกำมะถันฉุนคละคลุ้ง บางครั้งบางคราวก็ปะทุเปลวไฟขึ้นเป็นระยะๆ แสงสว่างจากลาวาและเปลวไฟส่องให้เห็นผนังหินตะปุ่มตะป่ำทั้งสองฟากของหุบเหวลาวา ทุกคนในคณะเดินทางยกเว้นจามิลต่างสำลักควัน ส่งเสียงไอค็อกแค็กน้ำหูน้ำตาเล็ดเพราะแสบเคืองตา “โว้ย! แสบจมูกแสบตาเป็นบ้า นี่คุณ รีบๆ หาทางพาพวกเราออกไปให้พ้นจากนรกตรงนี้เร็วๆ เข้า” วิษณุส่งเสียงโวยวาย แม้ธีราจะไม่ชอบใจคำพูดของญาติผู้พี่นัก แต่จุดประสงค์ของเธอก็เป็นทำนองเดียวกัน จึงไม่ออกปากว่ากล่าวแต่อย่างไร ด้วยไม่อยากสูดควันและกลิ่นฉุนกึกเข้าปอดโดยไม่จำเป็น “พวกเราเดินเลียบไปทางขวามือ ตรงนั้นดูเหมือนจะมีทางข้าม” พระหนุ่มบอกเสียงเรียบแล้วเดินนำไป ธีราเดินตามไปติดๆ ตามด้วยวิษณุ หลิง รินเซน และคณะลูกหาบ ทางข้ามที่จามิลว่ามีลักษณะเป็นแท่งหินล้มพาดหน้าผาทั้งสองฟาก พระหนุ่มเอื้อมมือมากุมมือธีราแล้วออกแรงดึงเธอให้ไต่แท่งหินตามเขาไป แค่เห็นระดับความสูงของแท่งหินหญิงสาวมืออ่อนเท้าอ่อ

  • แดนอารยะ   บทที่ 18 คงต้องเป็นอย่างนั้น

    จามิลส่องไฟฉายในมือกราดไปทั่วเพื่อมองหาเณรน้อย คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันด้วยสีหน้าร้อนใจ “จริงด้วย เณรคังหายไป ผมก็มัวแต่ยุ่งๆ เรื่องลูกหาบจนลืมนึกถึง” “แล้วเราจะทำอย่างไรกันดี?” ธีราถามอย่างกังวลใจไม่น้อย “ขอผมเดินสำรวจดูหน่อยว่าเณรน่าจะเดินหลงไปเส้นทางไหน” จามิลเอ่ยหลังจากนิ่งคิดครู่หนึ่ง “อ้อ นี่จะตามหาเณรหรือ? ทีลูกหาบมึง…เอ๊ย…คุณจามิลไม่เห็นสนใจจะตามหาบ้างเลย” วิษณุพูดประชด “พอทีเถอะน่าพี่ณุ” ธีราพูดปราม “ฉันเห็นด้วยกับคุณจามิล เณรคังยังเด็กอยู่ ยังไงพวกเราก็สมควรต้องตามหา” จามิลมองหญิงสาวอย่างนึกขอบคุณ แต่ไม่เอ่ยอะไร เขาเดินสำรวจเส้นทางแยกห้าแพร่งนั้นอย่างละเอียดก็เห็นปากทางแยกแห่งหนึ่ง ที่แง่งหินมีเศษผ้าจีวรติดอยู่ พระหนุ่มก้มลงหยิบเศษผ้าจีวรจากแง่งหิน ในขณะที่ธีราและรินเซนเดินเข้ามาสมทบ “คังคงวิ่งหนีเตลิดไปทางนี้” พระหนุ่มพูดพลางชูสิ่งของในมือให้สองสาวดู “งั้นเราออกตามหาเณรคังก่อนแล้วค่อยย้อนกลับมาค้นหากันเดน” ธีราเสนอแนะ “คงต้องเป็นอย่างนั้น” จามิลรับคำ ทว่าลูกห

  • แดนอารยะ   ตอนที่17

    ลูกกระสุนพุ่งเข้าใส่อกจามิล แต่แทนที่จะทะลุทะลวงเนื้อผ้าหรือเนื้อคน กลับกระดอนกลับเพราะปะทะเกราะพลังปราณ เปรี๊ยะ! ลูกกระสุนกระดอนไปถูกเพดานถ้ำ ฝุ่นหินร่วงพรูลงมาบริเวณที่ลูกกระสุนฝังตัวและระเบิดออก ทุกคนยกเว้นพระหนุ่มล้วนอยู่ในอาการตกตะลึง ทั่วทั้งถ้ำเงียบกริบ “ปืนของคุณทำอะไรผมไม่ได้หรอก” จามิลเอ่ยทำลายความเงียบ “กูไม่เชื่อ!” วิษณุที่หายตะลึง ตะโกนก้องพร้อมกับเหนี่ยวไกอีกสองนัดซ้อน ปัง! ปัง! “อย่า!” ธีราที่เพิ่งได้สติรีบร้องห้าม กระสุนทั้งสองนัดไม่ต่างอะไรจากนัดแรก กระดอนขึ้นเจาะเพดานถ้ำอีกครั้ง วิษณุอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนร้องคราง “ไม่น่าเชื่อ” “หยุดเดี๋ยวนี้นะพี่ณุ” ธีราตวาดลั่น ทันใด… “ฮิๆๆๆ ซุบซิบๆๆ” เหมือนเสียงผู้หญิงหัวเราะแหลมเย็น ตามด้วยเสียงคนกระซิบกระซาบดังก้อง “หลงแหละทุกคน หยิบไฟฉายออกมาใช้ เดี๋ยวลมจะมาอีกระลอก” จามิลสั่งเป็นภาษาคีรีมันก่อนจะหันมาพูดกับธีราเป็นภาษาไทย “พวกเราต้องใช้ไฟฉายแทนคบไฟแล้วละครับ เพราะกระแสลมจะพัดคบไฟดับ” ธีรารีบปล

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status