Beranda / โรแมนติก / แดนอารยะ / ตอนที่3. จามิล

Share

ตอนที่3. จามิล

last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-07 12:51:29

ธีราพยายามถามอู๋ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แต่ชายชรายังคงนั่งเหม่อลอยไม่แสดงปฏิกิริยาใดใด

          หญิงสาวถามอยู่พักหนึ่งแล้วก็หันไปขอร้องจามิลว่า “คุณช่วยถามเป็นภาษาคีรีมันให้หน่อยสิคะ”

          “ได้ครับ” จามิลตอบ แล้วหันไปส่งภาษาท้องถิ่นกับชายชราผู้ยังคงนิ่งเฉยเหมือนคนไร้วิญญาณ

          เขาพูดภาษาคีรีมันอยู่พักหนึ่ง แต่อู๋ยังคงไม่มีปฏิกิริยาใด

          “พอทีเถอะ!” รินเซนพูดขัดขึ้น หันมาจ้องธีราเขม็งพลางเอ่ย “คุณกลับไปเถอะ ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมาถามพ่อของฉัน คุณก็เห็นแล้วนี่ว่าพ่อตอบอะไรไม่ได้ทั้งนั้น”

          ธีราพยักหน้ารับรู้ก่อนถอนหายใจเบาๆ

          จามิลส่งภาษาคีรีมันกับรินเซน “ผมขอยืมจามรีหน่อยนะ”

          “คุณจะเอาไปให้ผู้หญิงไทยขี่ใช่ไหม?” รินเซนถามด้วยภาษาเดียวกัน

          “ใช่” จามิลตอบ

          “ถ้าอย่างนั้นฉันไม่ให้” รินเซนพูดด้วยทีท่าแง่งอน

          คังมองคนนั้นทีมองคนนี้ทีแล้วพูดแทรก “งั้นศิษย์พี่จามิลก็ต้องแบกผู้หญิงสวยๆ กลับที่พัก”

          “ทำไมต้องแบกด้วย?” รินเซนถามเสียงห้วน

          “ขาเธอเจ็บ” จามิลตอบ

          “ก็ให้เธอค่อยๆ เดินกลับไปเองสิ” รินเซนพูดอย่างไม่ยี่หระ

          “ไม่ได้หรอก เธอเป็นแขกของท่านอาจารย์” จามิลอ้าง

          คำอ้างได้ผล รินเซนมีทีท่าอ่อนลง อึ้งไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยปากอนุญาต “อย่างนี้ให้เอาจามรีไปขี่ก็ได้”

          ธีราเพิ่งขี่จามรีเป็นครั้งแรกในชีวิตก็เลยเกร็งๆ ไม่น้อย

          “ไม่ยากหรอกครับ ก็เหมือนกับขี่วัวขี่ควายในบ้านเมืองคุณ” จามิลพูดปลอบ

          หญิงสาวจึงสารภาพตามตรง “ฉันไม่เคยขี่วัวขี่ควาย หรือขี่อะไรมาก่อนเลย”

          “อ้อ” เขาพยักหน้าแล้วแนะนำ “คุณทำตัวให้สบาย อย่าขืนตัวนะครับ รับรองไม่ตกแน่”

          หญิงสาวได้แต่ยิ้ม พูดน่ะง่าย แต่ทำจริงไม่ได้ง่ายอย่างนั้น จามิลซึ่งจูงจามรีอยู่ด้านหน้าหันมาเห็นสีหน้าเจื่อนๆ ของหญิงสาว เลยหาเรื่องคุยเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ

          “คุณเห็นสภาพของอู๋แล้ว จะเลิกล้มความคิดที่จะค้นหาดอกเตอร์ธีระไหม?”

          “ไม่” หญิงสาวยืนกรานเสียงหนักแน่น “แม้ว่าจะต้องตามไปถึงกันเดนก็ตาม”

          “แล้วคุณจะไปตามหากันเดนที่ไหน?” พระหนุ่มเอ่ยพลางจูงจามรีให้เดินไต่ไปตามเส้นทางที่ปูลาดด้วยก้อนหิน มีเณรน้อยคังเดินนำหน้าลิ่วๆ “เพราะไม่มีใครเคยพบหรือเคยไปถึงมาก่อน”

          “ฉันวานให้ล่ามช่วยหาพรานนำทางอยู่ เธอบอกฉันว่าพรานคนนี้เคยเห็นเมืองประหลาดที่ซ่อนตัวในหุบเขา เขาคิดว่านั่นคือกันเดน” หญิงสาวบอกตามตรง

          จามิลขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนถาม “เขาเรียกร้องค่าจ้างสูงมากใช่ไหม?”

          “ใช่” หญิงสาวตอบพลางขยายความ “เขาต้องการให้ฉันจ่ายล่วงหน้าทั้งหมด อ้างว่าหนทางอันตราย หากเขาเป็นอะไรไป คนทางบ้านจะได้ไม่ลำบาก เวลานี้ฉันต่อรองขอจ่ายเพียงครึ่งหนึ่งก่อน”

          “แม้แต่ครึ่งหนึ่งคุณก็ไม่สมควรจ่าย” จามิลพูดเสียงหนักแน่น

          “ทำไมคะ?” หญิงสาวถาม เลิกเรียวคิ้วงามขึ้นเล็กน้อย

          “เพราะมีคนหลอกลวงชาวต่างชาติว่าจะพาไปกันเดน พอรับเงินแล้วก็เชิดเงินหายตัวไป คนที่ว่าจ้างก็สูญเงินเปล่าๆ” จามิลอธิบาย

          “ตายจริง!” หญิงสาวอุทาน

          “อย่างแรกนี่คุณยังไม่ถึงกับตายหรอกครับ แต่ถ้าอย่างที่สองนี่สิคุณจะยิ่งลำบาก” พระหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบ

          “หมายความว่าอย่างไร?” หญิงสาวถาม อดนึกถึงเงินที่จ่ายมัดจำล่วงหน้าไปแล้วครึ่งหนึ่งไม่ได้

          “อย่างแรกเขาแค่หลอกเงินคุณแล้วหนี” เขาพูดน้ำเสียงจริงจัง “แต่อย่างที่สองเขาจะทำทีพาคุณไปหากันเดนจริงๆ แต่แล้วก็จะปล่อยคณะของคุณทิ้งไว้ในหุบเขาแห่งใดแห่งหนึ่ง กว่าคุณจะหาทางกลับมาเองได้ก็สะบักสะบอมเอาเรื่อง”

          “คุณพูดเสียจนคนฟังท้อใจ” หญิงสาวพูดแล้วเหมือนนึกขึ้นได้ “หรือคุณพยายามพูดโน้มน้าวใจให้ฉันล้มเลิกที่จะไปค้นหากันเดน?”

          “นั่นก็ส่วนหนึ่ง” จามิลยอมรับตรงๆ “แต่อีกส่วนหนึ่งก็เพื่อความปลอดภัยของคุณเองด้วย”

          “ขอบคุณที่หวังดี แต่งานนี้ฉันถอยไม่ได้”

          สีหน้าและน้ำเสียงหญิงสาวหม่นเศร้าจนคนฟังอดสงสัยไม่ได้

          “คุณมีเหตุจำเป็นอะไรหรือครับ?”

          ธีรานิ่งอึ้ง มองพระหนุ่มที่เดินจูงจามรีอยู่แล้วมีความรู้สึกว่าไว้วางใจเขาได้

          “เวลานี้คุณแม่ของฉันป่วยอยู่ ท่านรอคอยคุณพ่อมานานนับสิบปี ฉันอยากพาคุณพ่อกลับไปพบคุณแม่” หญิงสาวนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนพูดต่อเสียงแผ่ว “หรืออย่างน้อยก็นำข่าวคราวที่แท้จริงกลับไป”

          จามิลนิ่งเงียบ เขาเดินจูงจามรีไปเรื่อยๆ โดยไม่พูดจาอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะเอ่ยปากเป็นภาษาไทยที่ฟังคล้ายกลอนไร้สัมผัส

          กันเดน แดนอารยะ

แดนแห่งสุขสันต์อมตะ

ณ ขอบฟ้าที่สายรุ้งจรดเมฆา”

          ตกเย็นจามิลก็พาธีราเดินทางมาถึงที่พัก หญิงสาวมองเห็นวิษณุลูกพี่ลูกน้องหนุ่มที่มาจากเมืองไทยด้วยกัน ยืนโงนเงนรอเธอด้วยทีท่าหงุดหงิด พอเธอนั่งหลังจามรีเข้ามาใกล้

         วิษณุเอ่ยถามทันที “ทำไมไปนานนักล่ะธีรา?”

          “เดี๋ยวค่อยคุยกัน” หญิงสาวพูดตัดบท

          ทว่าวิษณุไม่ยอมฟัง ยังคงพูดอย่างหงุดหงิด “พระที่นี่เป็นอะไรไปกันหมด เดี๋ยวก็เรียกผู้หญิงไปพบ เดี๋ยวก็จูงตัวประหลาดให้ผู้หญิงนั่ง หรือพระที่นี่เห็นผู้หญิงเป็นไม่ได้”

          หญิงสาวโกรธจนหน้าแดงก่ำเค้นเสียงพูด “พี่ณุ ท่านฟังภาษาไทยรู้เรื่องนะ”

          “ก็ช่างหัวมัน” วิษณุพูดโพล่งพร้อมกับเอื้อมมือหมายผลักไหล่จามิล “ไปซะ จะไปไหนก็ไปไอ้หัวโล้น”

          จามิลเบี่ยงไหล่ทำให้มือวิษณุพลาดเป้าถลาลงไปทั้งตัว จึงกลิ้งคลุกฝุ่นอยู่กับพื้นถนนหน้าโรงแรมที่พัก

          โรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมสองชั้นครึ่งตึกครึ่งไม้ขนาดไม่กว้างใหญ่นัก มีห้องพักเพียงสิบกว่าห้อง ผู้เข้าพักส่วนใหญ่จะเป็นพ่อค้าจากทิเบตและชาวคีรีมันเอง

          แม้จะเป็นโรงแรมเพียงแห่งเดียวในเมืองเจโล เมืองหลวงของคีรีมัน แต่ก็ไม่ได้หรูหราอะไร ทุกสิ่งดูเรียบง่ายราวกับโรงเตี๊ยมในภาพยนตร์จีนโบราณ

          คังวิ่งเข้าไปเรียกเจ้าของโรงแรมซึ่งเป็นสองสามีภรรยา ฝ่ายสามีวิ่งไปพยุงวิษณุให้ลุกขึ้น ส่วนภรรยาช่วยจามิลประคองธีราลงจากหลังจามรี

          “เขาคงเมา คุณอย่าถือสานะคะ” หญิงสาวบอกจามิลเบาๆ

          “ครับ” จามิลรับคำเสียงเรียบ

          พอวิษณุลุกขึ้นยืนได้ก็ชี้หน้าพระหนุ่ม “มึงกล้าผลักกูเหรอ?”

          เจ้าของโรงแรมฟังไม่รู้เรื่อง รู้แต่ว่าลูกค้าเมามายจึงเรียกพนักงานอีกคนมาช่วยกันทั้งฉุดทั้งดึงให้เขาเข้าไปข้างใน ธีรามองสภาพของวิษณุแล้วได้แต่ถอนหายใจ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • แดนอารยะ   ตอนที่4. หมายความว่า...

    “คุณช่วยบอกเขาด้วยว่าฉันขอจ่ายครึ่งหนึ่ง หลังจากที่เขาพาฉันไปถึงกันเดนและกลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว ฉันถึงจะจ่ายส่วนที่เหลือให้ทั้งหมด” ธีราบอกล่ามสาวชาวจีนอายุราวสามสิบปี รูปร่างผอมเพรียว สวมเสื้อโค้ตสีน้ำตาล ให้แปลเป็นภาษาคีรีมันบอกกับชายซึ่งรับอาสาเป็นพรานนำทาง ล่ามสาวหันไปเจรจากับพรานนำทางตัวเล็กแกร็น หน้าเสี้ยม ดวงตาหยี ไว้เรียวหนวดเหนือริมฝีปากหนา พอรู้ว่าจะได้รับค่าจ้างก่อนเพียงครึ่งเดียว เขาก็เอะอะโวยวายเสียงดังลั่น จนคนที่นั่งรับประทานอาหารเช้าในห้องอาหารของโรงแรมพากันหันมามองมาเป็นตาเดียว ล่ามสาวรีบแปลเป็นภาษาไทย “หลงบอกว่าถ้าคุณจ่ายไม่ครบ เขาจะไม่นำทางให้” คำเตือนของจามิลดูท่าจะเป็นจริง ธีราเม้มริมฝีปากก่อนยื่นคำขาด “ถ้าเขาไม่ตกลง ก็ให้คืนเงินมัดจำล่วงหน้ามา” ล่ามสาวหันไปเจรจากับหลงอีกรอบก่อนหันมาบอกธีราว่า “เงินนั่นหลงบอกว่าถือเป็นค่าเสียเวลาของเขา” “หมายความว่าเขาไม่ยอมคืนเงินหรือ?” ธีราเอ่ยถาม “ค่ะ” ล่ามสาวรับคำ “สวัสดีครับ” เสียงทุ้มเอ่ยทักทายจากปากทางเข้าห้องอาหารของโรงแรม ธีราหันไปมอ

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-07
  • แดนอารยะ   ตอนที่5.หวั่นไหว

    “เจ้าจะไปกันเดนรึ?” ภิกษุชราซึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่บนเบาะกลมบนตั่งเตี้ยถามจามิลที่คุกเข่าตรงหน้า “ครับ” พระหนุ่มรับคำสั้นๆ “เพราะเหตุไร?” ภิกษุชราเอ่ยถามช้าๆ จามิลนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนตอบอย่างไตร่ตรองแล้วว่า “ผมเป็นพระสงฆ์ย่อมใฝ่ฝันถึงกันเดน ซึ่งเป็นดินแดนแห่งการหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวงครับท่านอาจารย์” ท่านอาจารย์หลับตาลงครู่หนึ่งก่อนลืมตา “ในชีวิตของอาจารย์มีคนจากไปเพื่อค้นหากันเดนสองรุ่นแล้ว รุ่นแรกคืออาจารย์อากับพระสงฆ์หนุ่มๆ ในยุคนั้นรวมสิบรูป ออกเดินทางจากวัดนี้ไป ตอนนั้นอาจารย์อายุแค่แปดขวบ ยังออกไปโบกไม้โบกมือส่งอาจารย์อาถึงประตูวัด นับจากนั้นอาจารย์ก็ไม่ได้เห็นพระทั้งสิบรูปนั้นอีกเลย” ท่านหยุดพูดครู่หนึ่งเหมือนระลึกเหตุการณ์ในอดีต “ส่วนรุ่นที่สองก็คือดอกเตอร์ธีระและคณะ พวกเขาไปกันเกือบสามสิบชีวิต ไปแล้วก็ไม่กลับ จนกระทั่งปีต่อมาจึงมีคนไปพบอู๋นอนสลบอยู่ริมลำธาร อู๋เป็นคนเดียวที่กลับมาได้ แต่กลับมาเหมือนคนไร้วิญญาณ” สิ่งที่ท่านอาจารย์บอกเล่าไม่ได้ทำให้จามิลหวั่นไหว พระหนุ่มยังคงยืนกรานหนักแน่น “ผมอยากไปกันเดนครับ ขอให้ท่าน

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-07
  • แดนอารยะ   ตอนที่6 สีหน้างุนงง

    จามิลนั่งตรงกันข้ามกับธีราที่โต๊ะตัวหนึ่งในห้องอาหารของโรงแรมที่หญิงสาวพัก โดยมีผู้ร่วมโต๊ะอีกสองคน คือ หลิง ล่ามสาวชาวจีน และหลง นายพรานนำทาง เวลานี้เป็นเวลาบ่ายสองโมงเศษ ผู้คนในห้องอาหารจึงมีไม่มากนัก นอกจากโต๊ะที่กลุ่มของธีรานั่งแล้วก็มีชายวัยกลางคนท่าทางเหมือนพ่อค้านั่งอยู่ที่โต๊ะตัวถัดไปเท่านั้น “ภรรยาของหลงเอาเงินค่าจ้างของคุณไปใช้มากกว่าครึ่ง หลงเลยเอาเงินส่วนที่เหลือมาคืนคุณก่อน” ล่ามสาวเอ่ยกับธีราเป็นภาษาไทย หลงยิ้มแหยๆ พลางยื่นธนบัตรจำนวนหนึ่งคืนให้ธีรา จามิลเปรยว่า “ดูท่าคุณจะได้เงินส่วนที่เหลือกลับคืนยาก” ธีรายิ้มอย่างเซ็งๆ ก่อนพูด “จะทำยังไงได้ล่ะคะ” “ผมมีวิธีที่ดีกว่าการรอให้เขาคืนเงิน” พระหนุ่มกล่าวเสียงเรียบ “วิธีอะไรคะ?” หญิงสาวถามอย่างสนใจ “พวกเราจะเดินทางไปกันเดนแต่ยังไม่มีลูกหาบ ก็ตั้งให้เขาเป็นหัวหน้าลูกหาบแล้วคอยหาลูกหาบให้พวกเรา” พระหนุ่มเสนอแนะ “เป็นความคิดที่ดีค่ะ” หญิงสาวเห็นด้วย จามิลจึงพูดภาษาคีรีมันกับหลง “เงินที่เจ้าใช้ไปแล้วพวกเราจะนับเป็นค่าจ้างของเจ้า”

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-11
  • แดนอารยะ   ตอนที่7 ค่อยๆ พูดจากัน

    วิษณุยืนคอยอย่างกระวนกระวายใจในตรอกแคบๆ และสกปรกซึ่งอยู่หลังโรงแรมที่พักที่ไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน ครู่หนึ่งก็ปรากฏเงาร่างเพรียวของหญิงคนหนึ่งเดินลัดเลาะมาหาด้วยความระมัดระวังเหมือนกลัวใครจะเห็นเข้า หญิงผู้ใช้หมวกที่เป็นส่วนหนึ่งของปกเสื้อคลุมศีรษะและบดบังใบหน้าจนเกือบมิดเดินเข้ามาใกล้ “หลิง ทำไมช้านักล่ะ?” วิษณุเอ่ยถามทันที หลิงดึงหมวกคลุมศีรษะลง เปิดเผยให้เห็นดวงหน้าเรียวและดวงตาที่กลิ้งกลอกไปมาไม่หยุดนิ่งพลางตอบ “ก็คุณเองไม่ใช่เหรอที่ไม่ต้องการเปิดเผยการพบปะของพวกเรา?” “นั่นก็ใช่ แต่ผมรักคุณจริงๆ นะ” พร้อมกับคำพูดวิษณุรวบร่างเพรียวมาไว้ในอ้อดกอดแล้วระดมจูบดวงหน้าเรียวถี่ยิบ ล่ามสาวชาวจีนต้องยกมือดันดวงหน้าชายหนุ่มให้ออกห่างก่อนเอ่ยปาก “ฉันไม่เชื่อคุณหรอก คุณธีราออกจะสวยขนาดนั้น” วิษณุแบะปาก “หึ! สวย สวยเหมือนประติมากรรมหินอ่อนที่จิตรกรเอกของโลกบรรจงแกะสลัก เย็นชืด แข็งทื่อ แตะต้องไม่ได้ อยู่ใกล้แล้วอัดอั้นใจแทบจะระเบิด ไม่เหมือนคุณ คุณมีเลือดมีเนื้อ นุ่มนวลและอบอุ่น เป็นสุดปรารถนาของผม” “แหม ปากหวาน แต่ตอนนี้คุณปล่อยฉันก่อนเถอ

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-11
  • แดนอารยะ   ตอนที่ 8 เอ่ยถามเสียงเรียบ

    จามิลนั่งตรงกันข้ามกับธีราที่โต๊ะมุมในห้องอาหารของโรงแรม ซึ่งกลายเป็นสถานที่นัดพบพูดคุยเรื่องงานของคนทั้งสองไปโดยปริยาย พระหนุ่มยกถ้วยชาที่ส่งควันฉุยขึ้นจิบคำหนึ่งก่อนวางถ้วยลงบนโต๊ะ แล้วเอ่ยถามเสียงเรียบ “รินเซนว่าคุณอนุญาตให้เธอไปด้วย” “ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับก่อนจะอธิบายต่อ “ฉันมีเหตุผลที่ให้รินเซนไปด้วยนะคะ คือ...หนึ่งฉันจะได้มีเพื่อนผู้หญิงร่วมคณะไปด้วย สองเธอเป็นล่ามให้ฉันแทนคุณหลิงได้ และข้อสุดท้ายเธออาจค้นพบวิธีรักษาพ่อของเธอให้หายจากอาการป่วยได้” จามิลหลับตาครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนลืมตาแล้วพูดว่า “ที่คุณพูดมาก็มีเหตุผล แต่ที่ผมไม่ให้รินเซนไปด้วยแต่แรกก็เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอ การไปค้นหากันเดนของพวกเราไม่ได้มีผลสุดท้ายที่แน่นอน อาจจะพบ อาจจะไม่พบ อาจจะไปถึง อาจจะไปไม่ถึง อาจจะได้กลับ และอาจจะไม่ได้กลับ” คำท้ายของเขาทอดหางเสียงเบาลงจนธีรารู้สึกใจหายไปด้วย จริงสิ...ทุกคนที่ไปกันเดนอาจจะไม่มีใครได้กลับมาอีก เหมือนอย่างคณะก่อนๆ ที่ไปกัน “ฉันลืมคิดถึงข้อนี้ไป ฉันจะพูดกับเธอใหม่แล้วกันนะคะ” พูดถึงตรงนี้รินเซนก็เดินเข้ามาพร้อมกับคั

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-11
  • แดนอารยะ   ตอนที่ 9 ตามความเป็นจริง

    หลังจากหลงออกปากรับต้าเข้าร่วมคณะเดินทาง ต้าก็ขอลากลับไปเตรียมตัวเดินทาง หลงยังคงตกอยู่ในภวังค์ความคิด นึกจินตนาการไปว่าเมื่อไปถึงกันเดนเขาคงพบเพชรนิลจินดากองมหึมาเทียมภูเขา กำลังคิดเพลินๆ “หลง!” เสียงหลิงดังลั่นอยู่ข้างหูพร้อมกับมือของหล่อนตบไหล่ของเขาเต็มแรง เรียกสติที่กำลังเพ้อฝันให้กลับคืนมา “อ๊ะ! คุณหลิง” ผู้ถูกเลื่อนตำแหน่งให้เป็นหัวหน้าลูกหาบอุทานลั่น หลิงยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มเอาเรื่อง “ใช่แล้ว ฉันเอง แล้วไม่เพียงฉันเท่านั้นแต่ยังมีอีกคนอยากพบแก” ล่ามสาวพูดพลางบุ้ยใบ้ไปด้านข้าง วิษณุเดินออกมาจากหลืบกำแพง หลงเบิกตาเหลือกลานพลางอุทานลั่น “นะ…นาย!” “แกรับเงินไปแล้วทำไมไม่ทำตามสัญญา” วิษณุส่งเสียงตะคอกถามพร้อมกับกระชากคอเสื้ออีกฝ่าย หลิงรีบแปลภาษาไทยเป็นภาษาคีรีมัน หลงมีสีหน้าเลิ่กลั่ก เอี้ยวคอมองซ้ายมองขวาก่อนพูดเสียงแผ่ว “คุณหลิง ช่วยบอกนายที พวกเราเข้าไปคุยกันข้างในก่อนดีกว่า ผมมีเรื่องสำคัญจะบอก” หลิงรีบแปลภาษาคีรีมันเป็นภาษาไทย วิษณุตัดสินใจเพียงอึดใจเดียวก็ปล่อยมือที่กำคอเสื้อ

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-11
  • แดนอารยะ   ตอนที่10 อยู่ที่ไหน

    ธีรายืนมองหลงและเหล่าลูกหาบช่วยกันขนสัมภาระขึ้นรถบรรทุกหกล้อ โดยมีจามิลพระหนุ่มคอยดูแลความเรียบร้อยอยู่หน้าโรงแรมที่พัก รินเซนและคังหอบหิ้วข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวพลางเดินอย่างเร่งรีบตรงมาเบื้องหน้าของหญิงสาว เณรน้อยพูดภาษาคีรีมันยืดยาวซึ่งธีราไม่เข้าใจแม้แต่น้อย หญิงสาวจึงหันไปถามรินเซน “เณรคังพูดว่าอะไรหรือ?” รินเซนยิ้มเล็กน้อยก่อนจะตอบว่า “เณรคังบอกว่าจามิลแกล้งไม่ปลุกเณรและแอบหนีมาก่อน แต่โชคยังดีที่เณรตามมาทัน” “อ้อ” ธีราพยักหน้ารับรู้พลางว่า “นี่ยังไม่ทันรุ่งเช้า คุณจามิลเพิ่งจะคุมลูกหาบช่วยกันขนสัมภาระขึ้นรถเสร็จ กว่าพวกเราจะออกเดินทางกันจริงๆ ก็คงหลังจากกินอาหารเช้ากันเรียบร้อยแล้ว ราวๆ เจ็ดโมงเช้า” เพิ่งตอบรินเซน วิษณุก็ส่งเสียงร้องเรียก “ธีรา ธีราอยู่ไหน?” “อยู่นี่ค่ะ” หญิงสาวส่งเสียงตอบ ชักสีหน้าเอือมระอา วิษณุเดินแกมวิ่งมาหาแล้วหอบแฮ็กๆ ต่อว่าต่อขานเสียงดังระคนหอบ “อยู่ตรงนี้เอง ทำไมน้องธีราไม่ปลุกพี่ล่ะ? งานคุมคนงานอย่างนี้ต้องพี่เอง” แล้วทำทีจะเข้าไปเจ้ากี้เจ้าการกับการขนสัมภาระของลูกหาบ ธีรา

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-11
  • แดนอารยะ   ตอนที่11 ระวังปากระวังคำ

    ขบวนรถแล่นช้าๆ ไปตามทางภูเขาซึ่งทั้งแคบและลื่นเพราะเป็นหินปนกรวด อีกทั้งตลอดเส้นทางยังเปียกชื้นเนื่องจากน้ำละลายจากหิมะบนภูเขา รถจึงแล่นด้วยความเร็วไม่เกินยี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง ทัศนียภาพสองข้างทางสวยงามตามธรรมชาติ ด้านหนึ่งเป็นขุนเขา ส่วนอีกด้านเป็นทุ่งนาสลับทุ่งหญ้า ดอกหญ้าสีม่วง สีเหลือง สีคราม และสีขาวบานสะพรั่งเต็มท้องทุ่งสุดลูกหูลูกตา ฝูงจามรีและฝูงแกะยืนและเล็มใบหญ้า รถแล่นผ่านทุ่งหญ้า ถัดไปเป็นทิวเขาสลับซับซ้อน หุบเหว โตรกธารที่ไหลรวมกันเป็นสระกว้าง มีขนาดใหญ่บ้างเล็กบ้าง หาดทรายริมสระกว้างบ้างแคบบ้าง ถัดจากหาดทรายมีหญ้าขึ้นปกคลุมเป็นแห่งๆ แต่ไม่มีต้นไม้ใหญ่พอจะให้ร่มเงา ยิ่งสายแดดยิ่งร้อนแรงจนผู้โดยสารหลายคนในรถต้องรีบคว้าแว่นกันแดดมาสวมรวมทั้งเณรคัง ธีราหันไปเห็นเข้าก็อดหัวเราะเบาๆ ไม่ได้ วิษณุมองตามแล้วพูดจาเหน็บแนมทันที “ฮึ! อย่างกับบ้านนอกเข้ากรุง” “พี่ณุ จะพูดจะจาอะไรระวังปากระวังคำหน่อยได้ไหม?” หญิงสาวกระซิบเบาๆ พอได้ยินกันสองคน เพราะวิษณุนั่งอยู่ข้างๆเธอ ทว่าวิษณุกลับตอบกลับ “ก็พี่ไม่ชอบขี้หน้าพวกพระพวกเณรนี

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-17

Bab terbaru

  • แดนอารยะ   ตอนที่25 กังวล

    ธีราหน้าซีดเผือด หันมาสบตาจามิลอย่างกังวล แต่พระหนุ่มยังคงวางตัวนิ่งเฉยไม่แสดงทีท่ากระวนกระวายใจแต่อย่างไร “ขอบคุณที่เตือน แต่พวกเราตั้งใจจะไปกันเดนให้ได้” จามิลพูดกับพญานาคราช “หนทางไม่ใช่ไปได้โดยง่าย” พญานาคราชเอ่ย ธีราลอบถอนหายใจ เมื่อครู่เธอเข้าใจผิดคิดว่าพญานาคราชจะทำร้ายเธอและคณะ แท้จริงเขาเพียงไม่เห็นด้วยกับการเดินทางไปยังกันเดนของเธอและคณะเท่านั้น “ผมทราบครับ แต่พวกเราไม่ล้มเลิกความตั้งใจแน่” จามิลพูดน้ำเสียงหนักแน่น “และผมต้องขอโทษแทนทุกคนด้วยที่มารบกวนการบำเพ็ญเพียรของท่านในถ้ำนั้น” “ช่างเถอะ เรากำลังออกจากฌานพอดี” พญานาคราชตอบอย่างไม่ถือสาหาความ “แล้วคนที่มาพร้อมพวกเราละคะ?” ธีราเอ่ยถาม “เจ้าอยากพบคนพวกนั้นไหม?” พญานาคราชหันมาถามหญิงสาว “อยากค่ะ” หญิงสาวรับคำ “ก็ได้ เราจะให้นำคนพวกนั้นมาพบเจ้าเดี๋ยวนี้” พญานาคราชพูดพลางหันไปออกคำสั่งชายประหลาด “ยะมะ เจ้าไปนำพวกนั้นมา” “พ่ะย่ะค่ะ” ยะมะน้อมคำนับรับคำแล้วเดินผละจากไปอย่างว่องไว หลังจากยะมะออกไปแล้ว ธีราก็พนมม

  • แดนอารยะ   ตอนที่ 24 เนื้อตัวสั่นเทา

    “ท่านต้องการอะไร?” จามิลเบี่ยงตัวเข้าขวางเบื้องหน้าธีราพลางเอ่ยถามชายประหลาดผู้นั้น ชายผู้นั้นไม่ตอบเพียงเดินวนและมองชายหนุ่มหญิงสาวอย่างพินิจพิจารณาหนึ่งรอบแล้วออกคำสั่ง “ตามข้ามา” ก่อนจะเดินลงน้ำผลุบหายไปต่อหน้าต่อตา จามิลจะก้าวตาม ธีรารีบรั้งแขนของเขาไว้ “นั่นคนหรืออะไรคะ?” พระหนุ่มจึงชะงักฝีเท้าหันกลับมาตอบ “คงจะเป็นชนเผ่านาคา” “คุณจะตามเขาไปจริงๆ เหรอคะ?” หญิงสาวถามเพื่อความแน่ใจ จามิลค้อมศีรษะเล็กน้อยพลางเอ่ย “พวกเราอยู่ในถิ่นของเขา อะไรที่ดูไม่น่ามีพิษมีภัยก็ควรทำตามที่เขาสั่งไปก่อน” ทั้งสองหยุดสนทนาเมื่อเห็นชายประหลาดผู้นั้นโผล่เหนือน้ำพลางพูดเร่งรัด “อย่าชักช้า ตามข้ามาเดี๋ยวนี้” แล้วผลุบกลับลงไปใหม่ จามิลจูงมือธีราพลางว่า “พวกเราไปกันเถอะ ผมอยู่ทั้งคน ไม่ต้องกลัว” เขาเอ่ยเน้นท้ายประโยคเพราะสัมผัสรับรู้ว่ามือของหญิงสาวสั่นระริก ธีราเดินตามพระหนุ่มลงน้ำ พอดำลงไปจึงรู้ว่าใต้น้ำมีอุโมงค์ที่ผนังส่องแสงสว่างระยิบระยับ อุโมงค์ทอดตัวไม่ยาวนัก เพียงอึดใจก็โผล่มาที่คูหาถ้ำแห่งหนึ่ง ชายปร

  • แดนอารยะ   ตอนที่23 งูยักษ์

    คูหาถ้ำตรงหน้าไม่ได้มืดมิดเพราะมีแสงสว่างส่องเล็ดลอดจากเพดานถ้ำลงมา แสงสว่างส่องกระทบผนังถ้ำจนดูเหมือนครอบด้วยแก้วใสอีกชั้นหนึ่ง เกิดการหักเหและสะท้อนไปมาของแสงมากมายนับพันนับหมื่นลำแสง ทั้งถ้ำสว่างไสว ส่วนพื้นถ้ำเป็นน้ำ แต่เป็นน้ำที่แข็งตัวราวกระจกใส สิ่งที่ทำให้ทุกคนยืนตะลึงจนตัวแข็งทื่อก็คือบนพื้นน้ำราวกระจกใสปรากฏงูยักษ์ตัวหนึ่ง เกล็ดเขียวราวมรกต ดวงตาสีแดงดังทับทิม มีหงอน เคราครีบหลัง และครีบหางสีแดงสดใส “นาค” จามิลกระซิบบอกธีราเสียงแผ่ว ไม่ทันที่หญิงสาวจะคิดอ่านทำอะไร วิษณุกลับสาดกระสุนปืนใส่งูยักษ์หรือนาคตัวนั้นชนิดไม่ยั้ง ปัง! ปัง! ปัง! งูยักษ์แผ่พังพานมหึมาเหมือนโกรธ แม้ลูกกระสุนจะไม่ระคายผิวมันปลาบก็ตามที ก่อนจะหุบพังพานพุ่งตัวขึ้นสู่เบื้องบนอากาศแล้ววกกลับ หมุนควงสว่านพุ่งสู่พื้นน้ำ ตูมมมมม! พื้นน้ำแตกกระจาย น้ำใสราวกระจกเปลี่ยนสภาพเป็นน้ำธรรมดา พร้อมกันนั้นที่เห็นเหมือนแก้วใสครอบผนังถ้ำก็แปรเปลี่ยนสภาพเป็นน้ำไหลลงมาอย่างเร็วและแรง กระแสน้ำพัดพาทุกคนไหลลงไปรวมกันยังพื้นน้ำกลางถ้ำ ที่ขณะนี้กลายเป

  • แดนอารยะ   ตอนที่22 แสร้งทำดี

    “แย่แล้ว!” ธีราอุทานลั่นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมื่อครู่เธอมัวแต่ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงทิ้งกระติกน้ำที่ไม่ได้หมุนเกลียวปิดฝาให้สนิทไว้กับพื้น หญิงสาวกราดไฟฉายเพื่อมองหากระติกน้ำก็เห็นล้มกลิ้งอยู่กับพื้น ฝาเผยอเปิด น้ำนองพื้น เธอรีบคว้ากระติกน้ำขึ้น น้ำหนักเบามือทำให้รู้ว่าน้ำหกหมด ธีราหันไปสบตาจามิลด้วยสายตาขอลุแก่โทษ เธอน่าจะถนอมน้ำดื่มที่เขามีน้ำใจหยิบยื่นให้ให้ดีกว่านี้ พระหนุ่มยิ้มเล็กน้อยเป็นนัยว่าไม่เป็นไร ก่อนหันไปคว้าสัมภาระขึ้นหลังและโบกมือให้สัญญาณเดินทางต่อ ธีรารีบหยิบสัมภาระส่วนตัวขึ้นแบกแล้วเดินตามเงียบๆ “อุ๊ย!” รินเซนอุทานเบาๆ หล่อนลืมตัวใช้มือข้างที่บาดเจ็บคว้าสัมภาระ “ผมช่วย” ต้าขันอาสา ชิงคว้าสัมภาระของรินเซนขึ้นหลังรวมกับสัมภาระที่ตัวเองแบกอยู่จนดูพะรุงพะรังน่าขัน รินเซนค้อนควักก่อนเร่งฝีเท้าตามติดธีรา ต้าเดินตามรินเซน ตามติดด้วยหลิง วิษณุ และหลง “ซวยฉิบ เดินทางโดยไม่มีแผนที่ อีกกี่ชาติจะไปถึงกันเดนวะ” วิษณุบ่นกระปอดกระแปดไม่เลิกรา หลิงรีบดึงแขนเสื้อวิษณุเพื่อให้เขาเดินช้าลง พอทอดระยะห

  • แดนอารยะ   ตอนที่21 ไม่อาจสยบ

    หลิงมีฝีมือในการต่อสู้เหนือกว่าวิษณุมาก ทำให้จามิลไม่อาจสยบหล่อนได้ในเวลาอันรวดเร็ว วิษณุคิดอยากเข้าไปช่วยหลิงกลุ้มรุมกินโต๊ะพระหนุ่ม แต่การต่อสู้ของทั้งสองรวดเร็วเสียจนเขาดูไม่ทันจึงไม่มีจังหวะเข้าไปร่วมวง ส่วนต้ารีบปลดสัมภาระลงจากหลังค้นหายาใส่แผลและผ้าพันแผลอย่างรีบเร่ง พอหาเจอก็รีบห้ามเลือดให้รินเซนทันที “เจ็บมากไหมครับ?” ต้าถามเบาๆ อย่างห่วงใย ทว่ารินเซนไม่สนใจฟัง มัวแต่ใจจดใจจ่อกับการต่อสู้ระหว่างจามิลกับหลิง แล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือกร้องลั่น “โอ๊ะ! โหย” เพราะเจ็บแสบบริเวณบาดแผลจึงหันมามอง เห็นต้าใช้สำลีชุ่มแอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดบริเวณบาดแผล หล่อนสะบัดมือพลางค้อนควัก “อดทนหน่อยนะครับ แผลจะได้หายเร็วๆ” ต้าพูดปลอบ ยังคงกุมข้อมืออีกฝ่ายแน่นไม่ยอมปล่อย ขณะรินเซนยังคิดไม่ออกว่าจะตอบอย่างไรดี หางตาก็เห็นการต่อสู้เปลี่ยนไป หลิงพลาดท่าถูกจามิลกางมือขวาขยุ้มบนไหล่ขวาและกดลงจนหล่อนต้องคุกเข่าลงข้างหนึ่งเพราะต้านแรงไม่ไหว วิษณุชักปืนสั้นหวังจะช่วยคู่ขาสาวอีกแรง แต่ธีราที่จับตามองเขาตลอดเวลาชักปืนสั้นยิงลงพื้นสกัด

  • แดนอารยะ   ตอนที่20 ข่าวลือ

    แผนที่แผ่นนั้นวางหราบนพื้นต่อหน้าทุกคน ไฟฉายสามดวงส่องตรงลงบนแผนที่ก็เห็นเส้นทางคดเคี้ยวและตัวอักษรยึกยือซึ่งเป็นภาษาคีรีมัน พิจารณาแผนที่ครู่หนึ่ง หลิง รินเซน หลง และต้า ต่างมีสีหน้าผิดหวัง “หมายความว่ายังไง?” หลิงเอ่ยถามจามิล “มีอะไรผิดปกติรึหลิง?” วิษณุถาม “แผนที่นี้ชี้เส้นทางมาแค่ถ้ำที่มีอุโมงค์ทางแยกห้าแพร่งเท่านั้น ต่อจากนั้นก็ไม่มีเส้นทางแสดงไว้เลย” หลิงตอบเสียงสั่น วิษณุกระชากคอเสื้อจามิลพลางตะคอกถาม “มึงเอาแผนที่ปลอมมาหลอกกูเหรอ?” พระหนุ่มกำข้อมือวิษณุแล้วออกแรงบีบ พลันมือวิษณุก็อ่อนแรง“ผมไม่ได้หลอกคุณหรือหลอกใคร” จามิลตอบเสียงเข้ม พลางคลายมือจากข้อมือของวิษณุ ญาติผู้พี่ของธีราไม่กล้าหุนหันพลันแล่นอีก และพยายามระงับโทสะ “ตกลงมันยังไงกันแน่ แล้วแผนที่ที่คุณอาธีระส่งมาให้น้องธีราล่ะ?” “ไม่มีแผนที่ที่ว่านั่น” ธีราตอบเสียงเบา รู้สึกผิดหวังไม่น้อยไปกว่าคนอื่น “หมายความว่าไงที่ว่าไม่มีแผนที่ที่ว่า?” วิษณุกับหลิงถามแทบจะพร้อมกัน “ฉันได้รับจดหมายจากคุณพ่อก็จริง แต่ท่านไม่ได้ส่งแผนที่มาให้ ท่านเ

  • แดนอารยะ   ตอนที่19 โวยวาย

    สิ่งที่เห็นตรงหน้าเป็นสิ่งที่ธีราคาดไม่ถึงมาก่อน ลำธารลาวาเดือดปุดๆ ไหลขวางอยู่ในร่องเหวลึกตรงหน้า ควันและกลิ่นกำมะถันฉุนคละคลุ้ง บางครั้งบางคราวก็ปะทุเปลวไฟขึ้นเป็นระยะๆ แสงสว่างจากลาวาและเปลวไฟส่องให้เห็นผนังหินตะปุ่มตะป่ำทั้งสองฟากของหุบเหวลาวา ทุกคนในคณะเดินทางยกเว้นจามิลต่างสำลักควัน ส่งเสียงไอค็อกแค็กน้ำหูน้ำตาเล็ดเพราะแสบเคืองตา “โว้ย! แสบจมูกแสบตาเป็นบ้า นี่คุณ รีบๆ หาทางพาพวกเราออกไปให้พ้นจากนรกตรงนี้เร็วๆ เข้า” วิษณุส่งเสียงโวยวาย แม้ธีราจะไม่ชอบใจคำพูดของญาติผู้พี่นัก แต่จุดประสงค์ของเธอก็เป็นทำนองเดียวกัน จึงไม่ออกปากว่ากล่าวแต่อย่างไร ด้วยไม่อยากสูดควันและกลิ่นฉุนกึกเข้าปอดโดยไม่จำเป็น “พวกเราเดินเลียบไปทางขวามือ ตรงนั้นดูเหมือนจะมีทางข้าม” พระหนุ่มบอกเสียงเรียบแล้วเดินนำไป ธีราเดินตามไปติดๆ ตามด้วยวิษณุ หลิง รินเซน และคณะลูกหาบ ทางข้ามที่จามิลว่ามีลักษณะเป็นแท่งหินล้มพาดหน้าผาทั้งสองฟาก พระหนุ่มเอื้อมมือมากุมมือธีราแล้วออกแรงดึงเธอให้ไต่แท่งหินตามเขาไป แค่เห็นระดับความสูงของแท่งหินหญิงสาวมืออ่อนเท้าอ่อ

  • แดนอารยะ   บทที่ 18 คงต้องเป็นอย่างนั้น

    จามิลส่องไฟฉายในมือกราดไปทั่วเพื่อมองหาเณรน้อย คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันด้วยสีหน้าร้อนใจ “จริงด้วย เณรคังหายไป ผมก็มัวแต่ยุ่งๆ เรื่องลูกหาบจนลืมนึกถึง” “แล้วเราจะทำอย่างไรกันดี?” ธีราถามอย่างกังวลใจไม่น้อย “ขอผมเดินสำรวจดูหน่อยว่าเณรน่าจะเดินหลงไปเส้นทางไหน” จามิลเอ่ยหลังจากนิ่งคิดครู่หนึ่ง “อ้อ นี่จะตามหาเณรหรือ? ทีลูกหาบมึง…เอ๊ย…คุณจามิลไม่เห็นสนใจจะตามหาบ้างเลย” วิษณุพูดประชด “พอทีเถอะน่าพี่ณุ” ธีราพูดปราม “ฉันเห็นด้วยกับคุณจามิล เณรคังยังเด็กอยู่ ยังไงพวกเราก็สมควรต้องตามหา” จามิลมองหญิงสาวอย่างนึกขอบคุณ แต่ไม่เอ่ยอะไร เขาเดินสำรวจเส้นทางแยกห้าแพร่งนั้นอย่างละเอียดก็เห็นปากทางแยกแห่งหนึ่ง ที่แง่งหินมีเศษผ้าจีวรติดอยู่ พระหนุ่มก้มลงหยิบเศษผ้าจีวรจากแง่งหิน ในขณะที่ธีราและรินเซนเดินเข้ามาสมทบ “คังคงวิ่งหนีเตลิดไปทางนี้” พระหนุ่มพูดพลางชูสิ่งของในมือให้สองสาวดู “งั้นเราออกตามหาเณรคังก่อนแล้วค่อยย้อนกลับมาค้นหากันเดน” ธีราเสนอแนะ “คงต้องเป็นอย่างนั้น” จามิลรับคำ ทว่าลูกห

  • แดนอารยะ   ตอนที่17

    ลูกกระสุนพุ่งเข้าใส่อกจามิล แต่แทนที่จะทะลุทะลวงเนื้อผ้าหรือเนื้อคน กลับกระดอนกลับเพราะปะทะเกราะพลังปราณ เปรี๊ยะ! ลูกกระสุนกระดอนไปถูกเพดานถ้ำ ฝุ่นหินร่วงพรูลงมาบริเวณที่ลูกกระสุนฝังตัวและระเบิดออก ทุกคนยกเว้นพระหนุ่มล้วนอยู่ในอาการตกตะลึง ทั่วทั้งถ้ำเงียบกริบ “ปืนของคุณทำอะไรผมไม่ได้หรอก” จามิลเอ่ยทำลายความเงียบ “กูไม่เชื่อ!” วิษณุที่หายตะลึง ตะโกนก้องพร้อมกับเหนี่ยวไกอีกสองนัดซ้อน ปัง! ปัง! “อย่า!” ธีราที่เพิ่งได้สติรีบร้องห้าม กระสุนทั้งสองนัดไม่ต่างอะไรจากนัดแรก กระดอนขึ้นเจาะเพดานถ้ำอีกครั้ง วิษณุอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนร้องคราง “ไม่น่าเชื่อ” “หยุดเดี๋ยวนี้นะพี่ณุ” ธีราตวาดลั่น ทันใด… “ฮิๆๆๆ ซุบซิบๆๆ” เหมือนเสียงผู้หญิงหัวเราะแหลมเย็น ตามด้วยเสียงคนกระซิบกระซาบดังก้อง “หลงแหละทุกคน หยิบไฟฉายออกมาใช้ เดี๋ยวลมจะมาอีกระลอก” จามิลสั่งเป็นภาษาคีรีมันก่อนจะหันมาพูดกับธีราเป็นภาษาไทย “พวกเราต้องใช้ไฟฉายแทนคบไฟแล้วละครับ เพราะกระแสลมจะพัดคบไฟดับ” ธีรารีบปล

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status