Share

นี่คือศรีไพร

“ท่านยังไม่บอกข้าเลยว่าท่านชื่ออะไรน้องชาย”

หรวนหนิงหลงมีสีหน้าครุ่นคิดไม่คิดว่านางจะอยากทราบชื่อเขาด้วยซ้ำ

“ขะขะข้าชื่อหนิงเอ่อร์”ศรีไพรยิ้ม

“อี้เอ่อร์ หนิงเอ่อร์ทำไมพวกเจ้าต้องมีคำว่าเอ่อร์ รู้ไหมคำว่า เอ่อ สำหรับข้า มันฟังแปลกแต่ช่างเถอะจำง่ายดี ไว้พบกันใหม่…อือ ยินดีที่รู้จักด้วยเกือบลืมไป”

หนิงหลงยิ้มน้อยๆ ศรีไพรโบกมือลาราวกับว่าจะไม่ได้พบกันอีก

หนิงหลงหายไปในความมืด

“ใกล้จะเที่ยงคืน”

ศรีไพรพุ่งตัวเข้าไปในห้องเครื่องวิ่งไปที่กองขิงและกองมันฝรั่ง ที่ที่จำได้ว่าเห็นแสงหลากสีตรงนั้น

“ใกล้แล้วใกล้แล้วสิ ขอให้เป็นอย่างที่คิดด้วยเถิด สาธุ”

เที่ยงคืนของในทุกวัน แสงหลากสีจะต้องปรากฏและพาคนบางคนข้ามผ่านกาลเวลา หลับตาลงช้าๆ นับถอยหลังดังๆ

“4….3….2….1”

ลืมตาขึ้นไม่มีแสงไม่มีอะไรมีเพียงความว่างเปล่าและหนาวเหน็บเสียงนกเค้าแมวร้องอยู่บนหลังคา ห้องเครื่อง คล้ายกับเย้ยหยันศรีไพร

ศรีไพรน้ำตาร่วงเผาะ

“ไม่ใช่เที่ยงคืนแล้วยังมีเงื่อนไขอะไรอีกที่จะพาฉันกลับไป”

เช้าวันใหม่ที่ไก่ป่าขันเจื้อยแจ๊ว ศรีไพรนอนซุกตัวในผ้าห่มหนา มือขวายังกำมีดมือซ้ายยังกำห่อผ้าที่มีลูกฟักทองที่คว้านเอาเมล็ดออก แกะสลักด้วยมีดท
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status