แสงแดดยามเช้าส่องลอดผ้าม่านเข้ามาในห้องกว้าง รันขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะรู้สึกถึงความหนักที่โอบรัดร่างเขาไว้
"อือ..."เขาค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา แล้วก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าตัวเองกำลังนอนซุกอยู่ในอ้อมกอดของศิวกร แถมใบหน้าของรันยังแนบชิดกับแผ่นอกอุ่น ๆ ของอีกฝ่าย
"เหี้ย"รันรีบผลักอกเสี่ยศิวกรเต็มแรง ก่อนจะดีดตัวออกมา ทว่าคนที่เพิ่งตื่นกลับไม่ได้สะทกสะท้านสักนิด
"เสียงดังแต่เช้าเลยนะ" ศิวกรพูดเสียงแหบพร่า พลิกตัวนอนตะแคงใช้ศอกเท้าหัวมองเด็กแสบที่หน้าแดงจัด
"เมื่อคืนฉันไม่ได้ทำอะไรนายหรอก อย่าทำหน้าเหมือนเสียตัวไปแล้วแบบนั้นสิ"
"ใครทำหน้าแบบนั้นวะ" รันกำหมอนฟาดใส่ศิวกรด้วยความหมั่นไส้
ศิวกรดึงหมอนออกจากมือรัน "หิวไหม เดี๋ยวพาไปกินข้าว"
"ไม่ต้อง ผมจะกลับหอ"
"ใครบอกว่านายจะกลับได้ล่ะ"
ห๊ะ รันขมวดคิ้ว "นี่คุณคิดจะกักขังผมไว้ตั้งเเต่เเรกอยู่เเล้วใช่ไหม"
"ก็เปล่า แค่ยังไม่อยากให้นายไปไหน" ศิวกรยกยิ้มดวงตาเฉียบคม
รัน รู้สึกได้เลยว่าศิวกรโคตรจะเผด็จการ"ผมไม่ใช่เด็กในสังกัดคุณที่ จะมากักตัวผมไว้แบบนี้"
"ฉันก็ไม่ได้บอกว่านายเป็นเด็กในสังกัด" ศิวกรเอนตัวเข้ามาใกล้ กระซิบเบา ๆ ที่ข้างหู "แต่ถ้านายอยากเป็น ฉันก็ไม่ขัดหรอกนะ"
รันสะดุ้งเฮือก ก่อนจะถอยหลังหนีแทบไม่ทัน"อย่ามาพูดอะไรห่าม ๆ กับผม"
" หรือว่านายอยากให้ฉันพูดหวาน ๆ"
รันอยากจะเอาหมอนฟาดหน้าเสี่ยศิวกรอีกครั้งให้หายหมั่นไส้ แต่ก็รู้ว่าคงสู้แรงอีกฝ่ายไม่ไหวแน่ๆ
"ผมจะไปอาบน้ำ"เขาหันหลังเดินเข้าห้องน้ำไปแต่ไม่วายได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มต่ำของศิวกรตามหลังมา
หลังจากใช้เวลาทำใจอยู่นาน รันก็เดินออกมาจากห้องน้ำในชุดเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ของตัวเอง เขาตั้งใจจะรีบออกจากห้องนี้ให้เร็วที่สุด แต่ก็ต้องหยุดเมื่อเห็นศิวกรยังคงนั่งไขว่ห้างจิบกาแฟสบายใจอยู่ที่โซฟา
"เสี่ย ผมจะกลับแล้ว" รันประกาศกร้าว
ศิวกรเหลือบตามองก่อนจะพยักหน้ารับช้า ๆ "อืม ตามใจ"
รันขมวดคิ้วเล็กน้อย นึกสงสัยในใจว่าทำไมวันนี้เสี่ยศิวกรถึงว่าง่ายผิดปกติ แต่ก็ไม่อยากเสียเวลาไปคิดอะไรมาก เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเรียกแท็กซี่ทว่าทันทีที่เปิดแอปสัญญาณอินเทอร์เน็ตของเขากลับใช้ไม่ได้
"อะไรวะ" รันลองปิดเปิดเครื่องใหม่ แต่ผลก็ยังเหมือนเดิม
ศิวกรวางแก้วกาแฟลงแล้วเอ่ยขึ้น "ที่นี่ไม่มีสัญญาณมือถือหรอก"
"หา" รันหันขวับไปมอง
"คอนโดของฉันเป็นโซนพิเศษ สัญญาณอินเทอร์เน็ตต้องใช้ไวไฟเท่านั้น แล้วไวไฟก็ต้องใช้รหัสผ่าน"
รันอ้าปากค้าง "เสี่ย นี่คุณจงใจที่จะไม่ปล่อยผมใช่ไหม"
"เปล่านี่" ศิวกรยักไหล่ "ฉันบอกแล้วไง ว่าถ้านายอยากกลับ ก็กลับได้เลย"
"แต่ไม่มีสัญญาณ แล้วผมจะออกไปได้ยังไง"
"เดินลงไปเองสิ ห้องนี้อยู่แค่ชั้นยี่สิบหกเอง"
"ยี่สิบหกบ้านคุณสิ นี่มันสูงจะตาย" รันแยกเขี้ยวใส่
ศิวกร มองรันที่เริ่มแสดงอาการหงุดหงิดได้อย่างน่าเอ็นดู"ก็งั้นแหละ ทางเลือกมีสองอย่าง"
"อีกแล้วเหรอ" รันแทบจะกรีดร้องออกมา
ศิวกรยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เดินเข้ามาใกล้จนรันต้องถอยหลัง
"หนึ่ง... นายอยู่กินข้าวกับฉันดี ๆ แล้วฉันจะให้คนไปส่ง"
"แล้วสองล่ะ" รันถามเสียงกระด้าง
ศิวกรสบตากับรัน ดวงตาคมมองลึกเข้ามาจนเขารู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์บางอย่างที่ไม่ค่อยดี
"สอง... ฉันจะทำให้นายอยู่ต่อเอง"
รันตัวแข็งทื่อไปทันที แก้มเริ่มขึ้นสีแดงเรื่ออย่างห้ามไม่อยู่
" คุณนี่มัน... มัน"
"หืม มันอะไร" ศิวกรเลิกคิ้ว
"มันเจ้าเล่ห์ จงใจแกล้งกันชัด ๆตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยเห็นใครเป็นเเบบเสี่ยเลย"
"ก็เห็นซะสิ"
เขาเอื้อมมือไปจับข้อมือเล็กแล้วดึงเข้ามาใกล้กว่าเดิม"ฉันไม่ได้แกล้ง นายต่างหากที่ต้องตอบตัวเองให้ได้ ว่าที่นายเต้นยั่วฉันวันนั้น... นายแกล้งเล่น หรืออ่อยจริง"
รันเงียบกริบหัวใจเต้นแรงขึ้นมา"ผม... ผมไม่ได้อ่อย"
"ออ ยังงั้นเหรอ" ศิวกรโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้จนรันต้องรีบถอยหลังหนีแต่ยังไม่ทันได้ถอยพ้น วงแขนแกร่งก็รัดรอบเอวไว้แน่น
"ถ้าไม่ได้อ่อยจริง ๆ ก็ลองพิสูจน์ดูสิ"
"ปล่อยนะเว้ย ผมจะกลับเเล้วเสี่ย ผมจะกลับจริงๆ"
"อืม ก็กลับสิ" ศิวกรพูดเสียงเรียบ แต่กลับไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย
"แต่คุณกอดผมไว้แบบนี้ ผมจะไปได้ยังไง"
ศิวกรกระซิบที่ข้างหู "ก็บอกแล้วไง ว่าฉันให้เลือก… ถ้าไม่อยากให้ฉันทำอะไร ก็อยู่กินข้าวกับฉัน"
รันมองคนตรงหน้าด้วยความหงุดหงิดปนหมั่นไส้สุดขีด"ได้ นึกว่ากลัวที่ไหนได้ กลัวอดกินข้าวนี่เอง" รันแกล้งพูดประชด
"ก็ใช่" ศิวกรตอบประชด
รันเม้มแน่น แพ้ทางเสี่ยศิวกรทุกที!
"ก็ได้ ๆ กินข้าวก็ได้ "
ศิวกรยกยิ้มมุมปากด้วยความพอใจ ก่อนจะปล่อยมือจากรันช้าๆ
ถึงจะพูดแบบนั้น แต่สุดท้ายเขาก็ต้องยอมเดินไปที่โต๊ะอาหารอยู่ดี ศิวกรสั่งแม่บ้านเตรียมอาหารเช้าหรูหราราวกับในโรงแรมรันมองอาหารตรงหน้าด้วยแววตาวาววับ ท้องเริ่มร้องเบา ๆ อย่างห้ามไม่ได้
"หิวก็กิน อย่ามัวแต่มอง"
"ผมไม่อยากติดหนี้บุญคุณคุณ"
"ถ้าอย่างนั้น ฉันให้โอกาสนายจ่ายหนี้" ศิวกรยิ้มบางก่อนจะยกนิ้วชี้ไปที่ริมฝีปากของตัวเอง
รันเบิกตากว้าง "เฮ้ย ไอ้เสี่ย"
"หึ เมื่อคืนจูบฉันไปแล้ว จะอีกสักครั้งจะเป็นไรไป"
รันหน้าแดง ก่อนจะคว้าช้อนมาตักข้าวคำโตแล้วยัดเข้าปากตัวเอง"ผมกินแล้ว ไม่ต้องพูดมาก"
ศิวกรส่ายหน้ายิ้มขำให้กับรันที่ทำหน้าบึ้งตึงแต่กลับกินข้าวคำโตเหมือนคนหิวมาหลายวัน
รันก้มหน้าหลบสายตาของศิวกร หัวใจเต้นแรงเขาก้มหน้าก้มตากินข้าว พยายามไม่สนใจคำพูดกวนประสาท แต่ไม่ว่าจะทำยังไง หัวใจก็เต้นแรง
หลังจากมื้อเช้าที่เต็มไปด้วยความกวนประสาทของศิวกร รันก็ได้กลับมาที่หอพักของตัวเองในที่สุด เขาทิ้งตัวลงบนเตียง ถอนหายใจยาวราวกับได้อิสรภาพกลับคืนมา"ให้ตายเถอะ เสี่ยบ้านั่นมันตัวอันตรายชัด ๆ" รันเอามือก่ายหน้าผาก คิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนแล้วยิ่งรู้สึกปั่นป่วน ไม่ว่าจะเป็นจูบที่เผลอไปให้เสี่ย หรือคำพูดกวน ๆ ของอีกฝ่ายที่ทำให้เขาหัวเสีย"ช่างมันเถอะ ยังไงเราก็ไม่มีทางเจอกับเขาอีกแล้ว" รันปลอบใจตัวเอง ก่อนจะลุกไปอาบน้ำแล้วเตรียมตัวไปเรียนแต่รันคิดผิด เพราะแค่วันรุ่งขึ้น เขาก็ได้เจอเสี่ยศิวกรอีกครั้ง และครั้งนี้ไม่ใช่การพบกันโดยบังเอิญ แต่เป็นการ ถูกตามล่า โดยเสี่ยอย่างแท้จริง ที่คณะของรัน รันกำลังเดินอยู่กับเพื่อนสนิทของเขา ภูมินทร์ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมคณะเดียวกัน สองคนกำลังคุยกันเรื่องงานกลุ่ม แต่ทันใดนั้นเอง เสียงฮือฮาของนักศึกษาหลายคนก็ดังขึ้น "ดูนั่นสิ ใครวะ โคตรหล่อเลย" "โห รถหรูขนาดนี้ ต้องเป็นมหาเศรษฐีเเน่ๆ" รันขมวดคิ้วก่อนจะหันไปมอง และสิ่งที่เห็นก็ทำให้หัวใจของเขากระตุกวูบรถสปอร์ตสีดำสุดหรูจอดเทียบอยู่ที่หน้าคณะของเขา และศิวกรในชุดสู
รันตัวแข็งทื่อ หัวใจเต้นโครมครามจนแทบจะกระเด้งออกมานอกอก เขาพยายามขืนตัวถอยหนี แต่หลังติดผนังไปแล้ว จะหนีไปทางไหนก็ไม่ได้"ผมไม่ได้อ่อยเลิกพูดเรื่องนี้ผมสักจะลำคาญเเล้วนะ" รันเถียงเสียงสั่น "แน่ใจ" ศิวกรโน้มหน้าเข้ามาใกล้อีกจนปลายจมูกแทบจะชนกัน "งั้นทำไมถึงหน้าแดง" "ผมร้อน แอร์ห้องคุณเสียหรือเปล่า" รันบ่ายเบี่ยง แต่ในใจรู้ดีว่ามันไม่เกี่ยวกับแอร์เลยสักนิด ศิวกรยกยิ้มมุมปาก มือหนาลูบไล้ปลายคางของรันเบา ๆ สัมผัสนั้นทำให้รันสะดุ้ง"ดะ...เดี๋ยวสิ" "อะไร" "คุณจะทำอะไรผม" ศิวกรหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะกระซิบเสียงพร่า "อยากรู้เหรอ" รันรีบส่ายหัวแรง ๆ "ไม่อยากรู้ไม่ต้องบอก แล้วก็ปล่อยผมเดี๋ยวนี้เลย" แต่แทนที่ศิวกรจะปล่อย เขากลับใช้แขนทั้งสองข้างกักรันเอาไว้ ริมฝีปากหยักได้รูปกระตุกยิ้มขบขัน" ไม่ยอมหนีก็ดีแล้ว " "เดี๋ยวผมไม่ได้หมายความว่า" "ก็อยู่ให้ฉันจับกินซะดี ๆ รัน" รันอ้าปากค้าง รู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของศิวกรที่เป่ารดอยู่ข้างแก้ม หัวใจของเขาเต้นโครมคราม มือกำเข้าหากันแน่นศิวกรยกยิ้มมุมปาก ดวงตาคมกริบฉายแววพอใจที่เห็นเด็กดื
แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านผ้าม่านเข้ามากระทบเปลือกตาของรัน ทำให้เขาค่อย ๆ ขยับตัวอย่างงัวเงีย รู้สึกได้ถึงความนุ่มของเตียงที่แตกต่างจากหอพักเก่า ๆ ของตัวเอง "อืม..."เขาพลิกตัวไปอีกทาง แต่แล้วก็ชนเข้ากับอะไรบางอย่างที่อุ่นก่อนจะลืมตาขึ้นช้า ๆ แล้วพบว่าเสี่ยศิวกรกำลังนอนตะแคงมองเขาอยู่ก่อนแล้ว "ตื่นแล้วเหรอ" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้น "คุณ... นอนอยู่ตรงนี้ทำไม" รันดีดตัวลุกขึ้นนั่งทันที ใบหน้าร้อนวูบเมื่อสังเกตเห็นว่าเขายังอยู่ในเสื้อผ้าชุดเดิมจากเมื่อคืน แต่ที่น่าตกใจคือเสี่ยอยู่ในสภาพที่หล่อเหลาแต่ดูเซ็กซี่เกินไป เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกปลดกระดุมออกเล็กน้อย เผยให้เห็นแผ่นอกกว้าง "นี่มันอะไรกัน" รันถามเสียงสูง ศิวกรหัวเราะเบา ๆ "ก็แค่นอนเฉย ๆ" "ใครเขานอนเตียงเดียวกันกับคนอื่นแบบนี้กันล่ะ" เสี่ยยกคิ้ว "คนเป็นแฟนกันไง" "ใครแฟนคุณ" "อีกไม่นานก็จะเป็น" "บ้าไปแล้ว" รันรีบถอยหลังหนีจนชิดขอบเตียง "ผมจะกลับหอ" แต่พอขยับตัวลงจากเตียง ศิวกรก็ดึงแขนเขาไว้ "ไปไหน" "กลับหอไง" "ไม่ให้ไป" "นี่คุณเป็นอะไร" ศิวกรจ้องรันนิ
รันนั่งกอดอกอยู่บนเตียง มองถาดอาหารตรงหน้าด้วยสีหน้าบึ้งตึง แม้ท้องจะเริ่มร้องประท้วง แต่เขาก็ยังมีทิฐิ "คิดจะกักขังผมไว้แล้วเอาอาหารมาล่อเหรอฝันไปเถอะ"แต่สุดท้ายกลิ่นหอม ๆ ของอาหารก็ทำให้เขาต้องถอนหายใจแรง ๆ แล้วหยิบช้อนขึ้นมาตักเข้าปาก "อร่อย... อร่อยมากให้ตายเถอะ คนแก่ขี้หวงนี่มีฝีมือทำอาหารดีเหมือนกัน" รันกินไปบ่นไป แต่ก็ไม่ทันรู้ตัวว่าทานจนหมดถาดแล้ว ก๊อก ก๊อก ก๊อก ~เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนที่บานประตูจะเปิดออกโดยไม่รอให้เจ้าของห้องอนุญาต และแน่นอน คนที่เดินเข้ามาก็คือเสี่ยศิวกร ในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำแขนพับขึ้นเล็กน้อย ทำให้มองเห็นข้อมือแข็งแกร่งที่สวมเรือนนาฬิการาคาแพง "อิ่มไหมยังมีอีกเยอะเลยนะในครัวฉันทำเพื่อไว้กลัวนายไม่อิ่ม" เสียงทุ้มเอ่ยถาม รันเบือนหน้าหนี ไม่อยากมอง"อิ่มสิ หิวก็ต้องกิน จะปล่อยให้ตัวเองอดตายรึไง" ศิวกรกระตุกยิ้มมุมปาก เดินเข้ามาใกล้ก่อนจะนั่งลงบนเตียงข้าง ๆ รัน ทำเอาคนตัวเล็กสะดุ้งรีบขยับหนี "อะไรของคุณ" " ทำไมต้องหนีด้วยนายหนีฉันบ่อยเกินไปเเล้วนะ" "ก็คุณมันอันตราย" ศิวกรโน้มตัวเข้าไปใ
ศิวกรเอนตัวพิงพนักโซฟา ดวงตาคมจ้องมองแก้วไวน์ในมือพลางนึกถึงใบหน้าดื้อ ๆ ของใครบางคน"เฮ้อ..." ตั้งแต่เจอรัน เขารู้สึกเหมือนตัวเองเปลี่ยนไป จากที่เคยเย็นชา ไม่สนใจใคร ตอนนี้กลับมาคอยคิดถึงแต่เด็กดื้อคนนั้นตลอดเวลา "ให้ตายสิ..." ศิวกรพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะยกไวน์ขึ้นจิบ "คิดอะไรอยู่?" เสียงทุ้มของเสี่ยสหัสวินดังขึ้น เขาทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามพร้อมกับมองหน้าเพื่อนสนิท "ไม่มีอะไร" ศิวกรตอบเสียงเรียบ สหัสวินยกคิ้วขึ้น "อย่ามาโกหก เห็นนั่งถอนหายใจแบบนี้มากี่ครั้งแล้ว ตั้งแต่มีเด็กคนนั้นเข้ามา" ศิวกรเหลือบตามองเพื่อน ก่อนจะวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะ "ฉันไม่ได้ถอนหายใจ" "หรอ แล้วเมื่อกี้ที่ถอนหายใจล่ะ" ศิวกรชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะปรายตามองสหัสวิน "พูดมาก" สหัสวินหัวเราะ "ยอมรับเถอะว่าหลงเด็กนั่นจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว" ศิวกรไม่ตอบอะไร เพียงแต่หันหน้าหนีไปอีกทาง ท่าทางเหมือนคนกำลังปฏิเสธความจริง "ถึงขนาดมานั่งคิดถึงเขาตอนอยู่กับเพื่อนแบบนี้ ไม่เรียกว่าหลงก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วว่ะ" สหัสวินแซวขำ ๆ ศิวกรถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะยกไวน์
รันนั่งกอดอก มองศิวกรที่นั่งจ้องหน้าตัวเองไม่วางตา"โอ๊ย เสี่ย มองอะไรนักหนาเนี่ย" "มองเมียผิดตรงไหน"ศิวกรเอ่ยเสียงเรียบ "เมียใครเมียเสี่ย เพ้อเจ้อ" รันแทบจะเอาหมอนฟาดหน้า แต่ศิวกรกลับยกมือขึ้นมาจับข้อมือไว้ก่อน "พูดมาก เดี๋ยวจูบปิดปากซะเลย" "ไอ้เสี่ยบ้า" รันดึงมือกลับ แต่ใบหน้า กลับร้อนวูบวาบแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร โทรศัพท์ของรันก็ดังขึ้น ภูมินทร์แค่เห็นชื่อที่โชว์บนหน้าจอ ศิวกรก็หรี่ตาลงทันที รันกดรับสาย "ว่าไง" "เฮ้ย ไอ้รัน คืนนี้ไปกินหมูกระทะกันไหม กูเลี้ยง" "จริงดิ เอาดิเอาดิ" ศิวกรขมวดคิ้ว เสียงเข้มขึ้น"รัน ไม่ไป" รันหันขวับมามองเสี่ย "เสี่ยจะมายุ่งอะไรด้วยเนี่ย" "ฉันบอกว่าไม่ไป" รันเบะปากก่อนจะพูดใส่โทรศัพท์ "เดี๋ยวกูโทรกลับนะ" แล้วก็ตัดสายทิ้ง "เสี่ย นี่มันเรื่องของผมนะ" "เรื่องของนายก็คือเรื่องของฉัน" ศิวกรตอบหน้าตาเฉย แต่แววตานั้นกลับเต็มไปด้วยความหึงหวง รันถอนหายใจเฮือก "โห... เสี่ยนี่มันขี้หึงจริงว่ะ" "ฉันไม่ได้แค่หึงธรรมดา ฉันหวงมากด้วย" "..." "แล้วถ้านายทำให้ฉั
ศิวกรมองรันที่กำลังนั่งกินขนมอยู่บนโซฟาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์เด็กนี่... ทำไมถึงน่ารักขนาดนี้วะริมฝีปากเล็ก ๆ นั่นที่กำลังงับขนมเข้าปาก ไหนจะแก้มที่พองออกมาเหมือนกระต่ายตัวจิ๋ว ยิ่งมองก็ยิ่งใจสั่น รันเงยหน้าขึ้นมาเจอสายตาของเสี่ยพอดี "เสี่ยมองอะไรครับ" ศิวกรกระแอมเล็กน้อย พยายามเก็บอาการ "เปล่า" "แล้วทำหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่" รันถามพลางเคี้ยวขนมตุ้ย ๆ ศิวกรมองริมฝีปากนั่นแล้วเผลอกลืนน้ำลาย "อย่ากินไปคุยไป สำลักขึ้นมาจะทำยังไง" รันกลอกตา "เสี่ยนี่ขี้บ่นจัง" ศิวกรถอนหายใจ เขากำลังจะบอกให้รันเลิกกินแล้วไปล้างหน้าล้างตา แต่ยังไม่ทันจะพูด เจ้าตัวเล็กก็ดันยื่นขนมมาให้ "อ้าปากสิ เดี๋ยวป้อน" ศิวกรชะงักไปเล็กน้อย "ฉันกินเองได้" "ก็อยากป้อนไง อ้าปากเร็ว" รันจิ้มขนมไปที่ริมฝีปากของ ศิวกรเขามองหน้าเด็กดื้อก่อนจะถอนหายใจแล้วอ้าปากรับ ให้ตายเถอะ ทำไมแค่นี้ถึงทำให้เขาใจบางได้ขนาดนี้ รันยิ้มกว้าง "เห็นไหม ป้อนเสี่ยก็ได้ด้วย" ศิวกรมองเด็กดื้อที่นั่งยิ้มหวานอยู่ตรงหน้า ก่อนจะยื่นมือไปบีบแก้มเบา ๆ "ถ้าจะอ่อยกันขนาดนี้ รับผ
รันยืนอยู่ข้างกระจกในห้องนอนของเสี่ยศิวกร กำลังจัดเสื้อผ้าในตู้ที่เสี่ยให้เขามาไว้ใช้ในช่วงนี้ เขาสูดหายใจลึก รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกลากไปในเกมที่ตัวเองไม่เคยอยากเล่น แต่ไม่รู้ทำไมยิ่งอยู่ใกล้เสี่ยศิวกร ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนหัวใจตัวเองกำลังจะชอบเสี่ยขึ้นมา "ทำไม... ทำไมต้องทำให้ฉันรู้สึกแบบนี้ด้วย" รันกระซิบกับตัวเอง ทันใดนั้น เสี่ยศิวกรก็เปิดประตูเข้ามาในห้อง รันหันไปมองอย่างตกใจ "เสี่ย" "ทำอะไรอยู่" เสี่ยศิวกรถามเสียงทุ้มขณะยืนอยู่ที่กรอบประตู "กะ... กำลังจัดของอยู่น่ะครับ" รันรีบเอามือปิดตู้เสื้อผ้า เขาไม่รู้ว่าทำไมแต่พอเห็นเสี่ยยืนมองอยู่เขาก็รู้สึกไม่สบายใจ "จัดของเหรอ" ศิวกรขยับเข้ามาใกล้ ๆ มองที่ตู้เสื้อผ้าแล้วก็ยิ้มเบา ๆ "ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ได้จะจับผิดอะไรหรอก" รันหันกลับไปมองศิวกรที่ยืนมองเขาอยู่ใกล้เกินไป รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังหมุน "เสี่ย..." รันเรียกชื่ออย่างลังเล ศิวกรยิ้มกว้าง "ทำไม นายดูเหมือนกลัวอะไรบางอย่าง" "ไม่... ไม่ใช่ครับ" รันรีบเดินหนีไปที่มุมห้อง รู้สึกเหมือนหัวใจมันจะหยุดเต้น
รันไม่รู้ว่าตัวเองถูกพามาที่นี่ได้ยังไง เมื่อคืนยังหนีจากเสี่ยศิวกรแทบตาย แต่พอตื่นขึ้นมาอีกที เขากลับอยู่ในงานเลี้ยงของพวกเสี่ยทั้งแก๊ง แถมโดนจับมานั่งข้างเสี่ยสหัสวิน เพื่อนสนิทของเสี่ยศิวกรอีก "เด็กของมึงน่ารักดีนี่หว่าศิวกร" เสี่ยสหัสวินเอ่ยเสียงทุ้ม ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบพลางหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้รัน "พอดีช่วงนี้กูเหงา…แบ่งให้กูเล่นด้วยหน่อยได้มั้ย" รันเบิกตากว้าง หันขวับไปมองเสี่ยศิวกรทันที แต่แทนที่เสี่ยจะโกรธหรือพูดอะไรกลับปล่อยให้เพื่อนเล่นงานเขา "ไอ้เสี่ย มึงก็พูดอะไรหน่อยดิวะ" รันตวาดเสียงขุ่น รีบขยับหนีแต่กลับถูกเสี่ยสหัสวินคว้าข้อมือเอาไว้ "ทำไมต้องหนีล่ะครับ" เสี่ยสหัสวินกระซิบชิดใบหู "หรือชอบให้เสี่ยศิวกรจับมากกว่า" รันตัวแข็ง กัดฟันแน่นจะสะบัดมือออก แต่ยิ่งดิ้น มือหนาของเสี่ยสหัสวินยิ่งรัดแน่นขึ้น "ไอ้ศิว กูขอยืมเด็กมึงสักคืนได้ป่ะ" "...หึ" เสียงหัวเราะเย็นเยียบของเสี่ยศิวกรดังขึ้นข้างตัว รันรีบหันไปมองแล้วต้องสะดุ้งกับสายตาดุกร้าวที่มองมา "มึงอยากลองดีเหรอไอ้วิน" เสี่ยสหัสวินยกยิ้มมุมปาก "ก็กูแค่แกล้งเล
รันตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเมื่อยล้าไปทั้งตัว ร่องรอยที่เสี่ยศิวกรฝากไว้เมื่อคืนยังคงเด่นชัดเต็มผิวเนียน ดวงตากลมโตเบิกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองคนที่ยังหลับสนิทอยู่ข้าง ๆ เมื่อคืน...รันแทบไม่ได้นอนเลย "ไอ้เสี่ยบ้า โหดชะมัด" รันกัดริมฝีปาก ก้มมองตัวเองที่เต็มไปด้วยรอยแดงแล้วก็หน้าแดงซ่าน รันค่อย ๆ ยกแขนหนักที่โอบอยู่รอบเอวออกช้า ๆ ก่อนจะขยับตัวลงจากเตียงเท่าที่จะทำได้ เสี่ยศิวกรครางฮึมฮัมในลำคอเบา ๆ ทำเอารันชะงักไปชั่วขณะ แต่พอเห็นว่าอีกฝ่ายยังไม่ตื่น เขาก็รีบหยิบเสื้อผ้าของตัวเองขึ้นมาใส่อย่างเร่งรีบ หนีตอนนี้แหละ เท้ายาว ๆ ก้าวเบา ๆ ไปทางประตู ก่อนจะค่อย ๆ บิดลูกบิด... "คิดจะไปไหน" รันสะดุ้งเฮือกก่อนจะหันกลับไปมอง เสี่ยศิวกรยังคงนอนอยู่ท่าเดิม แต่เปลือกตาคมเปิดออกเล็กน้อย แววตานิ่ง ๆ แต่เต็มไปด้วยแรงกดดัน "เอ่อ...คือ..." รันเม้มปากแน่น กำชายเสื้อตัวเองแน่น "ก็...ผมมีเรียนไง" เสี่ยศิวกรยันตัวขึ้นพิงหัวเตียง มองเด็กดื้อที่กำลังหาทางหนีด้วยรอยยิ้มเย็น ๆ "เรียนตอนบ่ายไม่ใช่เหรอ" "ก็ คือ เอ่อ " "กลับมานี่ เดี๋ยวนี
ภายในคอนโดสุดหรูของเสี่ยศิวกร บรรยากาศมาคุขึ้นทันทีที่รันก้าวเข้ามา “ออกไปกับมันทำไม” เสียงทุ้มต่ำกดดันดังขึ้นจากด้านหลัง รันหันไปมองก็พบกับเสี่ยศิวกรที่ยืนกอดอก สายตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “ใครคือ มัน ครับเสี่ย” รันเลิกคิ้วท้าทาย ท่าทางยียวนเหมือนไม่รู้สึกผิด เสี่ยศิวกรสาวเท้าเข้ามาประชิด ดวงตาคมกริบจ้องลงมาราวกับจะกลืนกิน “ภูมินทร์…” เขาเอ่ยชื่อออกมาเสียงเข้ม “คิดว่าฉันไม่เห็นเหรอว่าเมื่อกี้มันมาส่ง” รันกลืนน้ำลายลงคอ สัมผัสได้ถึงพายุอารมณ์ของคนตรงหน้า แต่ก็ยังแกล้งยิ้ม “แค่เพื่อนกันครับเสี่ย” หมับ แขนแกร่งกระชากเอวบางเข้าหา ลมหายใจร้อนเป่ารดข้างแก้ม “ถ้าเป็นแค่เพื่อน ทำไมมันต้องมองมึงแบบนั้นด้วยหลายครั้งเเล้วนะรัน” “แบบไหนครับ” รันยังคงเล่นลิ้น แต่ใจเริ่มเต้นแรงเมื่อฝ่ามือหนาเริ่มลูบไล้ต่ำลง “แบบใหนนะเหรอ อย่ามายอกย้อนกับฉันนะรันฉันจะไม่ยอมให้มันได้แม้แต่แตะต้องนาย” เสี่ยศิวกรกระซิบเสียงพร่า ก่อนจะเหวี่ยงลงบนเตียงกว้าง “เสี่ย เดี๋ยว…” “มึงต้องโดนทำโทษ” น้ำเสียงเด็ดขาด ศิวกรคร่อมทับ โน้มลงกระซิบข้างหู “ให้มึงจำเอาไว้ว่า
"พอได้แล้วรัน ดื่มเยอะไปแล้วนะ" ภูมินทร์แตะไหล่เพื่อนเบา ๆ เมื่อเห็นว่ารันกระดกแก้วเหล้าไปหลายแก้วแล้ว "ไม่เป็นไร เราดื่มไหว" รันเถียงเสียงแข็ง แต่น้ำเสียงกลับอ้อแอ้เล็กน้อย สายตารันเหลือบไปมองเสี่ยศิวกรที่ยังคงนั่งอยู่กับผู้หญิงคนนั้น แถมยังหัวเราะกันอย่างอารมณ์ดีอีก ให้ตายสิ หงุดหงิดโว้ย รันวางแก้วกระแทกลงบนโต๊ะอย่างแรง ก่อนจะลุกพรวดขึ้นยืน ตั้งใจจะเดินออกไปจากตรงนี้ แต่ขาเจ้ากรรมดันเซไปข้างหน้าแทบล้ม ดีที่มีมือหนาคว้าเอวไว้ทัน "จะไปไหน" เสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหู รันเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าเป็นเสี่ยศิวกร "ปล่อยนะ" รันดิ้น แต่เสี่ยกลับกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น "หึ... เมาขนาดนี้ จะเดินไปไหนได้" เสี่ยศิวกรโน้มหน้าลงมาใกล้ กระซิบถามข้างหู "หรือว่า... หึง" "มะ... ไม่ได้หึงสักหน่อย" รันเถียงทั้งที่แก้มแดงแจ๋ "แน่ใจเหรอ" เสี่ยศิวกรยิ้มมุมปาก "ถ้าไม่หึง ทำไมต้องดื่มขนาดนี้" "กะ... ก็แค่..." "ยอมรับมาดี ๆ สิรัน" เสี่ยกระซิบเสียงพร่า "ว่าเราหึง" รันเม้มปากแน่น ก่อนจะหลบตา "ก็ได้... หึงแล้วจะทำไม" เสี่ยศิวกรถึงกับหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะก
รันนั่งกอดอกอยู่บนโซฟา มองเสี่ยศิวกรที่กำลังนั่งคุยกับหญิงสาวคนหนึ่งอย่างสนิทสนม สายตาของเสี่ยเต็มไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ต่างจากเวลาที่อยู่กับเขาที่มีแต่ความดุและเอาแต่ใจ มือเล็กกำแก้วน้ำแน่น รู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก ตั้งแต่ที่เข้ามาในร้านอาหารหรูแห่งนี้ เสี่ยก็เอาแต่สนใจผู้หญิงคนนั้น ทั้งที่เมื่อวานยังคลั่งเขาจะตายอยู่แล้วแท้ ๆ " ทำไมหน้าบูดแบบนั้นล่ะ" เสี่ยศิวกรหันมาถามด้วยรอยยิ้มกวน ๆ รันสะดุ้งก่อนจะรีบเบือนหน้าหนี "เปล่าสักหน่อย" "แน่ใจ" เสี่ยยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะหันไปพูดกับหญิงสาวข้างกายต่อ ทำเอารันกัดปากแน่น ความรู้สึกมันแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว เขาไม่ชอบแบบนี้เลย "เสี่ยครับ ผมไม่ค่อยหิว ขอไปเดินเล่นแป๊บหนึ่งนะ" รันลุกขึ้นทำท่าจะเดินออกไป แต่ยังไม่ทันจะก้าวไปไหน เสี่ยก็คว้าข้อมือเขาไว้แน่น "ไปไหน" น้ำเสียงของเสี่ยฟังดูอารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด "ก็ไปเดินเล่นไง ผมเบื่อ" "อ้อ เบื่อ หรือหวง" เสี่ยโน้มหน้าเข้ามากระซิบข้างหู ทำเอารันสะดุ้ง "ใคร…ใครหวงกัน" "อืม หรอ…แต่หน้าบูดขนาดนี้ เหมือนเด็กกำลังหึงเลยนะ"
รันนั่งกอดอก หน้าบึ้งอยู่บนโซฟาในห้องของเสี่ยศิวกร หลังจากถูกพามาลงโทษเมื่อคืนนี้จนแทบลุกไม่ขึ้น แต่วันนี้พอมีแรงขึ้นมาหน่อย ก็ต้องมาเจอเรื่องที่ทำให้หงุดหงิดอีก สายตาของเสี่ยศิวกรที่กำลังมอง "ภูมินทร์" เพื่อนสนิทของรันมันดูผิดปกติ "เสี่ย มองเพื่อนผมแบบนั้นทำไม" รันเอ่ยถามเสียงห้วน "เพื่อน" เสี่ยศิวกรเลิกคิ้ว ก่อนจะก้าวเข้ามาใกล้ ดึงรันให้ลุกขึ้นมาแนบชิดกับอกกว้าง "แน่ใจนะว่าแค่เพื่อน" รันขมวดคิ้ว "แน่สิ เราสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก..." "สนิทขนาดไหน" เสี่ยถามเสียงเข้ม ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของรัน "ก็แค่เพื่อนจริง ๆ นะเสี่ย" รันเริ่มเหงื่อตกเมื่อเห็นเสี่ยศิวกรขมวดคิ้วแน่นขึ้นกว่าเดิม "แค่เพื่อน แต่ทำไมมันมองนายไม่เหมือนเพื่อน" เสี่ยศิวกรกดเสียงต่ำ มือที่จับเอวรันกระชับแน่นขึ้น "หรือฉันต้องทำให้ชัดเจนกว่านี้ ว่าเป็นของฉัน" รันเม้มปากแน่น ใบหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย "พูดอะไรของเสี่ย คนเยอะอยู่นะ" "แล้วไง ถ้าภูมินทร์คิดจะเป็นมากกว่าเพื่อน..." "ผมไม่ได้คิดอะไรกับมันสักหน่อย" รันโวยวาย แต่เสี่ยกลับก้มลงกระซิบข้างหูเสียงพ
รันไม่เคยคิดมาก่อนว่าการแค่เถียงเสี่ยเล่น ๆ จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ แต่ตอนนี้เขากำลังติดอยู่ในอ้อมแขนของเสี่ยศิวกร คนที่มักจะใจดีแต่ก็ขี้หวงและเอาแต่ใจอย่างร้ายกาจ "ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าดื้อ" เสี่ยศิวกรกดเสียงต่ำ สายตาคมกริบจ้องมองเด็กดื้อที่อยู่ตรงหน้า "ผมแค่...แกล้งเล่นเอง" รันเบะปากเล็กน้อยแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ ร่างสูงก็โน้มตัวลงมาหาอย่างรวดเร็ว "แกล้งเล่น หืม...งั้นก็ต้องโดนทำโทษให้รู้ว่าห้ามเล่นแบบนี้อีก" ริมฝีปากร้อนจัดกดลงมาแนบแน่นกับของเขาอย่างร้อนแรง รันเบิกตากว้างเมื่อเสี่ยไม่ยอมให้เขาได้ขัดขืน มือหนารั้งเอวเขาเข้าไปแนบชิดมากขึ้น จนรู้สึกถึงลมหายใจร้อนที่แผ่วกระซิบข้างหู "จำไว้...ว่าอย่าดื้อกับเสี่ยอีก" หัวใจของรันเต้นแรง มือเล็กพยายามผลักอกแกร่งออกแต่ไร้ประโยชน์ ความแข็งแกร่งของเสี่ยทำให้เขาติดอยู่ในกรงอ้อมแขนที่ไม่มีทางหนีรอดไปได้ "ถ้ายังดื้ออีก...ฉันจะทำมากกว่านี้" รันพยายามดิ้นหนีจากอ้อมแขนแข็งแรงของเสี่ยศิวกร แต่ยิ่งดิ้น เสี่ยก็ยิ่งกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นไปอีก "จะหนีไปไหน" เสี่ยกระซิบข้างหู เสียงทุ้มต่ำแฝงไปด้วยแร
แสงแดดอ่อน ๆ ของยามเช้าสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง รันขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะรู้สึกถึงวงแขนแกร่งที่กอดรัดเขาแน่นจากทางด้านหลัง "อือ... เสี่ย ปล่อยก่อน ผมจะไปอาบน้ำ" เสียงงัวเงียเอ่ยออกมา พลางพยายามดึงแขนแกร่งที่พาดอยู่บนเอวออก แต่แทนที่จะปล่อย เสี่ยศิวกรกลับรัดแน่นขึ้นกว่าเดิม ซุกใบหน้าหล่อเหลาลงกับซอกคอขาว "ไม่ให้ไป..." เสียงแหบพร่าดังอยู่ข้างใบหู "อยู่ตรงนี้ก่อน" รันตัวสั่นเล็กน้อยเมื่อลมหายใจอุ่นรินรดลงมาบนต้นคอ เขาหันมองคนตัวโตที่ยังคงหลับตาอยู่ แต่สัมผัสจากมือที่ไล้ไปตามผิวกายทำให้รู้ว่าเสี่ยยังตื่นเต็มตา "เสี่ย... พอแล้ว ผมเมื่อยไปหมดแล้วนะ" คนตัวเล็กขยับหนีแต่กลับถูกดึงกลับมาแนบชิดกว่าเดิม ดวงตาคมลืมขึ้นมองเขา พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ "ยังไม่พอเลย" ศิวกรกระซิบเสียงพร่า "ฉันอยากทำมากกว่านี้" รันเบิกตากว้างเมื่อจู่ ๆ ร่างก็ถูกพลิกให้นอนราบลงกับเตียง เสี่ยศิวกรกดทับลงมา มือหนาลูบไล้ไปตามแผ่นหลังเปลือยเปล่า ก่อนจะกดจูบลงบนลาดไหล่ "อ๊ะ เสี่ย เดี๋ยว... มันเช้าแล้วนะ" "แล้วยังไง" เสี่ยกระตุกยิ้ม มองเหยื่อของเขาที่หน้าแดงซ่าน "ฉันยัง
แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงทอดเงาจาง ๆ บนผนัง เสียงลมหายใจหอบกระเส่าผสมกับเสียงทุ้มต่ำของใครบางคนที่กำลังบดขยี้สัมผัสลงมาไม่หยุด "อื้อ... เสี่ย... เดี๋ยว..." รันพยายามดันอกแกร่งที่แนบชิดเข้ามา แต่เสี่ยศิวกรกลับรั้งเอวเขาไว้แน่นกว่าเดิม ริมฝีปากร้อนลากไล้ไปตามลำคอ ดูดเม้มจนเกิดรอยแดงเด่นชัด "ร้องเบา ๆ หน่อยสิรัน... หรืออยากให้คนข้างห้องได้ยิน" เสียงกระซิบแผ่วข้างใบหูทำให้รันตัวสั่น ความร้อนแผ่ซ่านไปทั่วร่าง ริมฝีปากได้รูปแสยะยิ้มพอใจเมื่อเห็นคนตัวเล็กกว่ากัดปากแน่น พยายามกลั้นเสียงของตัวเอง "อึก... เสี่ย ดะ...เดี๋ยว... อื้มม" ศิวกรจับคางของรันให้เงยหน้าขึ้น สบดวงตาหวานฉ่ำที่ไหวระริก ก่อนจะประกบริมฝีปากลงไปอย่างร้อนแรง ดูดดึงเรียวลิ้นจนรันแทบทรงตัวไม่ไหว มือเล็กจิกเข้ากับไหล่กว้าง ร่างกายร้อนฉ่าไปหมด "อย่าดื้อกับฉัน" เสี่ยกระซิบเสียงพร่า "คืนนี้... นายหนีฉันไม่พ้นแล้วรัน" แผ่นหลังของรันแนบติดกับที่นอนนุ่ม ไอร้อนที่โอบล้อม ศิวกรโน้มตัวลงมาประทับจูบอีกครั้ง ก่อนจะไล่สัมผัสลงไปช้า ๆ ราวกับกำลังลงโทษรันที่ทำให้เขาคลั่งแทบบ้า อ้อมเเขนเเข็ง