ศิวกรเอนตัวพิงพนักโซฟา ดวงตาคมจ้องมองแก้วไวน์ในมือพลางนึกถึงใบหน้าดื้อ ๆ ของใครบางคน"เฮ้อ..."
ตั้งแต่เจอรัน เขารู้สึกเหมือนตัวเองเปลี่ยนไป จากที่เคยเย็นชา ไม่สนใจใคร ตอนนี้กลับมาคอยคิดถึงแต่เด็กดื้อคนนั้นตลอดเวลา "ให้ตายสิ..." ศิวกรพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะยกไวน์ขึ้นจิบ "คิดอะไรอยู่?" เสียงทุ้มของเสี่ยสหัสวินดังขึ้น เขาทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามพร้อมกับมองหน้าเพื่อนสนิท "ไม่มีอะไร" ศิวกรตอบเสียงเรียบ สหัสวินยกคิ้วขึ้น "อย่ามาโกหก เห็นนั่งถอนหายใจแบบนี้มากี่ครั้งแล้ว ตั้งแต่มีเด็กคนนั้นเข้ามา" ศิวกรเหลือบตามองเพื่อน ก่อนจะวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะ "ฉันไม่ได้ถอนหายใจ" "หรอ แล้วเมื่อกี้ที่ถอนหายใจล่ะ" ศิวกรชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะปรายตามองสหัสวิน "พูดมาก" สหัสวินหัวเราะ "ยอมรับเถอะว่าหลงเด็กนั่นจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว" ศิวกรไม่ตอบอะไร เพียงแต่หันหน้าหนีไปอีกทาง ท่าทางเหมือนคนกำลังปฏิเสธความจริง "ถึงขนาดมานั่งคิดถึงเขาตอนอยู่กับเพื่อนแบบนี้ ไม่เรียกว่าหลงก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วว่ะ" สหัสวินแซวขำ ๆ ศิวกรถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะยกไวน์ขึ้นจิบ "ก็นิดหน่อย" "หึ นิดหน่อยของนายก็คือโคตรมากล่ะสิ" ศิวกรไม่เถียงอะไร ปล่อยให้เพื่อนพูดไป ในใจกลับคิดถึงแต่รัน เด็กดื้อที่เขาอยากจับมากอดไว้ทั้งคืนให้ตายเถอะ หลงเด็กไม่ไหวแล้วจริง ๆ ศิวกรเอนตัวลงพนักโซฟา ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ดวงตาคมมองแก้วไวน์ในมืออย่างเหม่อลอย ก่อนจะนึกถึงใบหน้าของรันที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ รัน ตั้งแต่เด็กคนนั้นเข้ามาในชีวิต เขาก็เริ่มไม่เหมือนเดิม หงุดหงิดง่ายขึ้น ใจร้อนขึ้น และที่สำคัญเขาคิดถึงรันแทบตลอดเวลา "เฮ้อ..." ศิวกรพึมพำกับตัวเองก่อนจะยกไวน์ขึ้นจิบ "ถอนหายใจอีกแล้ว" "อะไร" ศิวกรเลิกคิ้วถาม "นายเป็นแบบนี้ตั้งแต่มีเด็กคนนั้นเข้ามา" สหัสวินยกแก้วขึ้นจิบไวน์พลางยิ้มมุมปาก "แบบไหน" "แบบที่ถอนหายใจบ่อย คิดอะไรไม่รู้แล้วก็เหม่อลอย" ศิวกรนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพึมพำเบา ๆ "ก็อาจจะใช่" "โอ้โห ปกตินายไม่เคยยอมรับอะไรแบบนี้" สหัสวินหัวเราะออกมา "เด็กนั่นทำให้นายยอมรับตัวเองได้ขนาดนี้เลย" ศิวกรยกแก้วขึ้นดื่มอีกอึก ก่อนจะวางลงแล้วเอนตัวพิงโซฟา "ก็ไม่รู้ว่ะ" "ไม่รู้ หรือรู้แต่ไม่อยากยอมรับ" ศิวกรนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดเสียงเรียบ "ฉันรู้แค่ว่าฉันอยากอยู่ใกล้ ๆ เขา อยากเห็นหน้าเขาทุกวัน" สหัสวินเลิกคิ้วสูง "พูดขนาดนี้ ทำไมไม่รีบทำให้เป็นของตัวเองไปเลยล่ะ" ศิวกรหัวเราะในลำคอ ก่อนจะพูดเสียงแผ่ว "ก็เด็กมันดื้อ" "ดื้อแล้วยังไง" "ดื้อแล้วน่ารัก..." "..." "และฉันก็หลงเด็กดื้อนั่นจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว" สหัสวินมองหน้าเพื่อน ก่อนจะหลุดขำออกมา "ไอ้เสี่ยศิวกรที่แสนเย็นชา กลายเป็นเสี่ยที่คลั่งรักเด็กแล้วจริง ๆ สินะ" ศิวกรไม่ตอบอะไร เพียงแค่ยกไวน์ขึ้นดื่มอีกอึก แต่ในใจกลับคิดถึงใบหน้าของรันไม่หยุดเขาจะทำยังไงให้เด็กนั่นยอมรับความรู้สึกของตัวเองสักทีนะ หลังจากนั่งคิดวนไปวนมาเกี่ยวกับเด็กคนนั้น ศิวกรก็ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกเสียงสัญญาณดังขึ้นเพียงไม่นาน ปลายสายก็กดรับ "ครับเสี่ย" เสียงของจอม บอดี้การ์ดคนสนิทดังขึ้น "รันอยู่ไหน" ศิวกรถามเสียงเรียบ แต่ในใจกลับร้อนรนอย่างไม่รู้สาเหตุ "อยู่ที่ห้องครับ ดูเหมือนจะเล่นเกมอยู่กับเพื่อน" ศิวกรขมวดคิ้ว "เพื่อน" "ครับ มีไอ้เด็กชื่อภูมินทร์อยู่ด้วย" แค่ได้ยินชื่อ ศิวกรก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา เขาจำไอ้เด็กคนนั้นได้ดี ไอ้เด็กที่ชอบทำตัวสนิทสนมกับรันเกินไป "สองคนนั้นทำอะไรกันอยู่" เสียงของศิวกรเข้มขึ้น "นั่งเล่นเกม หัวเราะกันเสียงดังเลยครับ" ศิวกรหรี่ตาลง "ฉันจะไปหาเดี๋ยวนี้" "ครับเสี่ย" ศิวกรตัดสายทันที ก่อนจะคว้ากุญแจรถแล้วเดินออกจากคอนโดด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์ รันนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง มือถือจอยเกมไว้แน่น ดวงตาจับจ้องอยู่ที่หน้าจอ ส่วนข้าง ๆ มีภูมินทร์ที่กำลังนั่งหัวเราะไปด้วย "เฮ้ย ยิงมันเลย ๆ" ภูมินทร์พูดเสียงดัง "เออ กำลังยิงอยู่" รันตั้งใจเล่นเกมสุดชีวิต แต่จู่ ๆ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ทำให้รันชะงัก "หืม ใครมา" ภูมินทร์หันไปมองประตู รันก็สงสัยไม่แพ้กัน เขาวางจอยเกมลงก่อนจะเดินไปเปิดประตู แต่ทันทีที่เปิดออก ดวงตาก็เบิกกว้างเมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า "เสี่ย มาที่นี่ได้ยังไง" ศิวกรกวาดตามองรัน ก่อนจะหรี่ตามองเข้าไปในห้อง แล้วก็เห็นภูมินทร์ที่กำลังมองมาที่เขาเหมือนกันแค่เห็นหน้าไอ้เด็กนี่ อารมณ์หงุดหงิดก็เพิ่มขึ้นทันที "ฉันมาหาหวานใจของฉัน อีกอย่าง คอนโดนี่ฉันก็เป็นคนซื้อให้นายฉันมีสิทธิ์จะเข้าจะออกก็ได้" ศิวกรพูดเสียงเรียบ แต่สายตากลับเเข็งกร้าว "หวานใจ ผมไม่ใช่หวานใจเสี่ยสักหน่อย" รันรีบเถียงทันที ศิวกรไม่ตอบอะไร แต่เดินเข้าไปในห้องหน้าตาเฉย ก่อนจะหันไปมองภูมินทร์ที่นั่งอยู่บนเตียง "นาย กลับได้แล้ว" ภูมินทร์ทำหน้ามึน " ทำไมผมต้องกลับ" "เพราะตอนนี้ฉันจะอยู่กับรันแค่สองคน" "..." รันอ้าปากค้าง มองเสี่ยสลับกับภูมินทร์ ก่อนจะหันไปกระซิบเพื่อน "มึงรีบไปเหอะ ก่อนที่คนแก่จะจับโยนออกจากหน้าต่าง" ภูมินทร์กลั้นขำ แต่ก็ยอมลุกขึ้น "โอเค ๆ ไว้เจอกัน" เมื่อภูมินทร์ออกไปแล้ว ศิวกรก็ปิดประตูล็อกทันที " ล็อกทำไม" รันเริ่มใจคอไม่ดี ศิวกรก้าวเข้ามาใกล้ ก่อนจะยกมือเท้ากับประตู กักรันไว้ในอ้อมแขน "ฉันคิดถึงนาย" เสี่ยพูดเสียงทุ้มต่ำ "..." รันเงยหน้ามองเสี่ยที่กักตัวเองไว้กับประตู ดวงตาคมของศิวกรจ้องลงมาไม่วางตา แววตานั่นมันอันตรายเกินไป "เสี่ย... ถอยไปก่อนดิ ผมหายใจไม่ออก" รันพยายามดันอกกว้างออกไป แต่ศิวกรไม่ขยับแม้แต่นิดเดียว "ฉันบอกแล้วไง ว่าคิดถึง" ศิวกรพูดเสียงทุ้ม ดวงตาคู่นั้นมีแววบางอย่างที่ทำให้รันรู้สึกขนลุก "เวอร์ละเสี่ย เพิ่งเจอกันไม่กี่วันเอง" "กี่วันก็ช่าง ฉันคิดถึงก็คือคิดถึง" รันเม้มปาก พยายามเบือนหน้าหนี แต่ศิวกรกลับยกมือขึ้นมาจับคางให้หันกลับมาสบตา "มองหน้าฉันดี ๆ รัน" "มองแล้วทำไม" "เห็นมั้ยว่าฉันจริงจังแค่ไหน" "..." รันกลืนน้ำลายลงคอ ใบหน้าของเสี่ยอยู่ใกล้เกินไป ใกล้จนได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากตัวเขา "เสี่ย... จะทำอะไร" "จะกอด" "ห๊ะ" ไม่ทันให้รันตั้งตัว ศิวกรก็ดึงเขาเข้าไปกอดแน่น "ปล่อยดิ" รันดิ้น แต่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งถูกกระชับอ้อมแขนมากขึ้น "กอดให้หายคิดถึง" เสียงของเสี่ยทุ้มต่ำ ใกล้ใบหูจนรันสะดุ้ง "เสี่ยแม่ง! คนแก่บ้า หื่นจังน่ะเสี่ย อย่าหื่นสิ" ศิวกรขำลั่นแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อย รันได้แต่ยืนตัวแข็งอยู่ในอ้อมแขนของเสี่ย แม้จะพยายามดิ้นออกแต่ก็เหมือนดิ้นให้เหนื่อยเปล่า เพราะยิ่งดิ้น เสี่ยก็ยิ่งกอดแน่นขึ้น "เสี่ยพอได้แล้ว" ศิวกรหัวเราะในลำคอเบาๆ แต่ก็ยอมคลายอ้อมแขนเล็กน้อย มือหนายังคงวางอยู่ที่เอวของรัน ดวงตาคมมองเด็กดื้อที่หน้าแดงจัดอย่างพึงพอใจ "หน้าแดงอะไรขนาดนั้น นายเขินเหรอ" "ไม่ได้แดง" รันเถียงกลับทันที แต่ใบหูที่แดงเถือกกลับหักล้างคำพูดตัวเองไปหมด ศิวกรกระตุกยิ้ม ก่อนจะยื่นมือไปเขี่ยแก้มรันเบา ๆ "เด็กอะไร ขี้เถียง แล้วยังน่ารักอีก" "บ้า เสี่ยแม่ง น่าขนลุกว่ะ" รันรีบผลักตัวเสี่ยออกแล้วเดินหนีไปนั่งที่เตียง มือขยุ้มผ้าห่มแน่น ใบหน้ายังร้อนผ่าวไม่หาย ศิวกรเดินตามไปแล้วนั่งลงข้าง ๆ ก่อนจะมองรันนิ่ง ๆ "รัน" "อะไร" "คืนนี้ไปกินข้าวกับฉันนะ" รันหันขวับ "ห๊ะ ไม่เอาอะ" ศิวกรขมวดคิ้ว "ทำไม" "ผมมีนัดเล่นเกมกับไอ้ภูมินทร์" ทันทีที่ได้ยินชื่อเพื่อนสนิท รังสีอำมหิตของเสี่ยก็พวยพุ่งออกมา "ยกเลิกซะ" เสียงเข้มจนรันสะดุ้ง "ไม่เอา นัดไปแล้ว" ศิวกรจ้องหน้ารัน ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปใกล้ "ฉันบอกให้ยกเลิก" "ทำไมต้องยกเลิกว่ะ" "เพราะฉันอยากอยู่กับนายเเค่สองคนคนอื่นไม่เกี่ยว" "นาย ต้องกินข้าวกับฉันเท่านั้น" รันเม้มปากแน่น หัวใจเต้นโครมครามเมื่อเจอสายตาคลั่งรักของเสี่ยเข้าไปเต็ม ๆรันนั่งกอดอก มองศิวกรที่นั่งจ้องหน้าตัวเองไม่วางตา"โอ๊ย เสี่ย มองอะไรนักหนาเนี่ย" "มองเมียผิดตรงไหน"ศิวกรเอ่ยเสียงเรียบ "เมียใครเมียเสี่ย เพ้อเจ้อ" รันแทบจะเอาหมอนฟาดหน้า แต่ศิวกรกลับยกมือขึ้นมาจับข้อมือไว้ก่อน "พูดมาก เดี๋ยวจูบปิดปากซะเลย" "ไอ้เสี่ยบ้า" รันดึงมือกลับ แต่ใบหน้า กลับร้อนวูบวาบแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร โทรศัพท์ของรันก็ดังขึ้น ภูมินทร์แค่เห็นชื่อที่โชว์บนหน้าจอ ศิวกรก็หรี่ตาลงทันที รันกดรับสาย "ว่าไง" "เฮ้ย ไอ้รัน คืนนี้ไปกินหมูกระทะกันไหม กูเลี้ยง" "จริงดิ เอาดิเอาดิ" ศิวกรขมวดคิ้ว เสียงเข้มขึ้น"รัน ไม่ไป" รันหันขวับมามองเสี่ย "เสี่ยจะมายุ่งอะไรด้วยเนี่ย" "ฉันบอกว่าไม่ไป" รันเบะปากก่อนจะพูดใส่โทรศัพท์ "เดี๋ยวกูโทรกลับนะ" แล้วก็ตัดสายทิ้ง "เสี่ย นี่มันเรื่องของผมนะ" "เรื่องของนายก็คือเรื่องของฉัน" ศิวกรตอบหน้าตาเฉย แต่แววตานั้นกลับเต็มไปด้วยความหึงหวง รันถอนหายใจเฮือก "โห... เสี่ยนี่มันขี้หึงจริงว่ะ" "ฉันไม่ได้แค่หึงธรรมดา ฉันหวงมากด้วย" "..." "แล้วถ้านายทำให้ฉั
ศิวกรมองรันที่กำลังนั่งกินขนมอยู่บนโซฟาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์เด็กนี่... ทำไมถึงน่ารักขนาดนี้วะริมฝีปากเล็ก ๆ นั่นที่กำลังงับขนมเข้าปาก ไหนจะแก้มที่พองออกมาเหมือนกระต่ายตัวจิ๋ว ยิ่งมองก็ยิ่งใจสั่น รันเงยหน้าขึ้นมาเจอสายตาของเสี่ยพอดี "เสี่ยมองอะไรครับ" ศิวกรกระแอมเล็กน้อย พยายามเก็บอาการ "เปล่า" "แล้วทำหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่" รันถามพลางเคี้ยวขนมตุ้ย ๆ ศิวกรมองริมฝีปากนั่นแล้วเผลอกลืนน้ำลาย "อย่ากินไปคุยไป สำลักขึ้นมาจะทำยังไง" รันกลอกตา "เสี่ยนี่ขี้บ่นจัง" ศิวกรถอนหายใจ เขากำลังจะบอกให้รันเลิกกินแล้วไปล้างหน้าล้างตา แต่ยังไม่ทันจะพูด เจ้าตัวเล็กก็ดันยื่นขนมมาให้ "อ้าปากสิ เดี๋ยวป้อน" ศิวกรชะงักไปเล็กน้อย "ฉันกินเองได้" "ก็อยากป้อนไง อ้าปากเร็ว" รันจิ้มขนมไปที่ริมฝีปากของ ศิวกรเขามองหน้าเด็กดื้อก่อนจะถอนหายใจแล้วอ้าปากรับ ให้ตายเถอะ ทำไมแค่นี้ถึงทำให้เขาใจบางได้ขนาดนี้ รันยิ้มกว้าง "เห็นไหม ป้อนเสี่ยก็ได้ด้วย" ศิวกรมองเด็กดื้อที่นั่งยิ้มหวานอยู่ตรงหน้า ก่อนจะยื่นมือไปบีบแก้มเบา ๆ "ถ้าจะอ่อยกันขนาดนี้ รับผ
รันยืนอยู่ข้างกระจกในห้องนอนของเสี่ยศิวกร กำลังจัดเสื้อผ้าในตู้ที่เสี่ยให้เขามาไว้ใช้ในช่วงนี้ เขาสูดหายใจลึก รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกลากไปในเกมที่ตัวเองไม่เคยอยากเล่น แต่ไม่รู้ทำไมยิ่งอยู่ใกล้เสี่ยศิวกร ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนหัวใจตัวเองกำลังจะชอบเสี่ยขึ้นมา "ทำไม... ทำไมต้องทำให้ฉันรู้สึกแบบนี้ด้วย" รันกระซิบกับตัวเอง ทันใดนั้น เสี่ยศิวกรก็เปิดประตูเข้ามาในห้อง รันหันไปมองอย่างตกใจ "เสี่ย" "ทำอะไรอยู่" เสี่ยศิวกรถามเสียงทุ้มขณะยืนอยู่ที่กรอบประตู "กะ... กำลังจัดของอยู่น่ะครับ" รันรีบเอามือปิดตู้เสื้อผ้า เขาไม่รู้ว่าทำไมแต่พอเห็นเสี่ยยืนมองอยู่เขาก็รู้สึกไม่สบายใจ "จัดของเหรอ" ศิวกรขยับเข้ามาใกล้ ๆ มองที่ตู้เสื้อผ้าแล้วก็ยิ้มเบา ๆ "ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ได้จะจับผิดอะไรหรอก" รันหันกลับไปมองศิวกรที่ยืนมองเขาอยู่ใกล้เกินไป รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังหมุน "เสี่ย..." รันเรียกชื่ออย่างลังเล ศิวกรยิ้มกว้าง "ทำไม นายดูเหมือนกลัวอะไรบางอย่าง" "ไม่... ไม่ใช่ครับ" รันรีบเดินหนีไปที่มุมห้อง รู้สึกเหมือนหัวใจมันจะหยุดเต้น
รันไม่เข้าใจเลยว่าตัวเองทำอะไรผิดไป แค่คุยเล่นกับเพื่อนเฉย ๆ แต่ทำไมเสี่ยศิวกรถึงได้มองเขาด้วยสายตาดุ ๆ แบบนั้น "รัน... ใครให้นายไปหัวเราะกับไอ้หมอนั่น" เสียงทุ้มต่ำดังขึ้น รันเงยหน้าขึ้นสบตากับเสี่ยศิวกรที่ยืนกอดอกอยู่ข้างหลัง สีหน้าไม่ค่อยพอใจนัก "อ้าว เสี่ย... ผมก็คุยกับภูมินทร์แค่เรื่องทั่ว ๆ ไปเองนะครับ" รันพูดอย่างไม่เข้าใจ "เรื่องทั่ว ๆ ไป" เสี่ยศิวกรเลิกคิ้ว ก่อนจะเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้ารัน "แล้วทำไมต้องยิ้มขนาดนั้น" รันกระพริบตาปริบ ๆ แล้วหัวเราะออกมา "เสี่ยครับ แค่ยิ้มมันผิดตรงไหน" "ผิดตรงที่ไม่ควรยิ้มให้ใครนอกจากฉัน" เสี่ยพูดเสียงเข้มพลางขยับเข้ามาใกล้รันมากขึ้น จนรันต้องถอยหลัง " เสี่ย... ผมก็ต้องมีเพื่อนมีสังคมบ้างสิ" รันพูดติดขำ แต่พอเห็นแววตาของเสี่ยที่ดูจริงจังขึ้นเรื่อย ๆ ก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองน่าจะอยู่ในสถานการณ์อันตราย เสี่ยศิวกรไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่จับข้อมือของรันแน่น ก่อนจะดึงเข้าไปใกล้แล้วกระซิบเสียงต่ำข้างหู "ถ้านายอยากมีเพื่อนนัก ฉันจะให้เวลานายคิดใหม่..." รันขมวดคิ้ว "หมายความว่าไงครับ" เสี่ยยกย
รันเดินหน้าบึ้งเข้ามาในห้อง เสี่ยศิวกรที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟามองเด็กดื้อของตัวเองก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น "อะไร ทำหน้าแบบนี้ใส่ฉันหมายความว่ายังไง" รันเท้าเอว หรี่ตามองเสี่ย "เสี่ยส่งคนไปตามผมที่มหาลัยอีกแล้วใช่ไหม" เสี่ยศิวกรยกยิ้มมุมปาก "แล้วไง นายหายไปทั้งวัน ฉันก็ต้องรู้ว่าอยู่ไหน" "ผมไปเรียนครับ ไม่ได้ไปไหนสักหน่อย" รันเถียงกลับ "แถมเพื่อนผมยังมาถามอีกว่า ผมเป็นเมียนักเลงหรือไง ถึงมีลูกน้องมาตามเฝ้า" เสี่ยศิวกรหัวเราะในลำคอ ดวงตาเต็มไปด้วยความพอใจ "แล้วนายตอบว่าไงล่ะ" "ผมบอกว่าเสี่ยเป็นคนบ้า" รันเชิดหน้าใส่ เสี่ยศิวกรหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าไปหารันช้า ๆ "หึ... ฉันเป็นบ้า" เสียงทุ้มเอ่ยช้า ๆ ก่อนจะใช้แขนขวางไม่ให้รันหนีไปไหนได้ "ก็ใช่ ฉันมันบ้า... บ้าหวงนายไง" รันกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่ สายตาคมกริบของเสี่ยทำให้เขาเผลอถอยหลังไปนิดหนึ่ง แต่เสี่ยกลับก้าวตามมาเรื่อย ๆ "เสี่ย... เดี๋ยวสิ..." "ฉันเตือนแล้วนะ... ว่าอย่าทำให้ฉันหวงมาก" เสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหู ก่อนที่ร่างสูงจะกดรันติดกับผนัง รั
ศิวกรเอนตัวพิงโซฟา มองเด็กหนุ่มที่กำลังก้มหน้าก้มตากินข้าวตักเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย รอยยิ้มบาง ๆ เผยออกมาโดยไม่รู้ตัว " ทำไมเสี่ยมองผมแบบนั้น" รันเงยหน้าขึ้นมาถาม ปากยังคาบข้าวอยู่ ศิวกรหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะยื่นมือไปเช็ดเศษข้าวที่ติดมุมปากให้อย่างอ่อนโยน "กินเลอะเทอะเป็นเด็กไปได้" รันเบ้ปาก "ก็ผมหิวไง เสี่ยให้ผมกินเยอะ ๆ เองนี่" "หึ… เพราะนายเป็นเด็กของฉัน" ศิวกรพูดเสียงนุ่ม แต่ในแววตากลับเต็มไปด้วยความหลงใหล หัวใจรันเต้นแรง เขาหลบสายตาคมกริบของเสี่ย รีบตักข้าวเข้าปากแก้เขิน แต่ยิ่งทำแบบนั้น ศิวกรก็ยิ่งมองอย่างเอ็นดู "จะให้เป็นเด็กตลอดไปไม่ได้หรอกนะ" รันพึมพำเบา ๆ ศิวกรเลิกคิ้ว ก่อนจะโน้มตัวเข้าใกล้กระซิบที่ข้างหู "งั้นเป็นเมียเลยไหม" "เสี่ย" รันแทบจะสำลักข้าว หน้าแดงแจ๋ทันที ศิวกรหัวเราะออกมาอย่างพอใจ รันกำลังจิ้มสตรอว์เบอร์รีเข้าปาก ดวงตากลมโตเป็นประกายเหมือนเด็กได้ของหวานที่ชอบ "มองผมอีกแล้วนะเสี่ย" รันย่นจมูกใส่ ศิวกรยกยิ้มมุมปาก นัยน์ตาคมกริบจับจ้องไปที่ริมฝีปากสีสดที่กำลังเคี้ยวตุ้ย ๆ "ทำไม มองไม่ได้เหรอ"
รันนั่งกอดเข่าบนเตียง ในใจเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ เพราะสายตาของศิวกรที่กำลังมองเขาอยู่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ "ทำไมทำหน้าตาตื่นแบบนั้น" เสี่ยศิวกรเอ่ยถามพลางปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกช้า ๆ เผยให้เห็นแผ่นอกแกร่ง รันรีบเบือนหน้าหนี "ผมไม่ได้ตื่นเต้นสักหน่อย" "จริงเหรอ งั้นทำไมหน้าแดง" เสี่ยศิวกรก้าวเข้ามาใกล้ขึ้นอีก รันรีบถอยหลังไปจนแผ่นหลังติดกับหัวเตียง "เสี่ย... อย่าเข้ามานะ" ศิวกรหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะโน้มตัวลงคร่อม รัน มือใหญ่ยันเตียงเอาไว้ข้างศีรษะ กักตัวอีกฝ่ายไว้ไม่ให้หนี "รัน..." เสี่ยเรียกชื่อเขาเสียงพร่า "คืนนี้ นายต้องเป็นของฉันแล้วนะ" "เดี๋ยวสิ ผมยังไม่ได้" ไม่ทันพูดจบ ริมฝีปากร้อนก็ประกบลงมาอย่างเร่าร้อน ดูดดื่มและเอาแต่ใจ รันพยายามจะดันเสี่ยออก แต่แรงของเขาเทียบไม่ได้เลย มือหนาลูบไล้ไปตามแผ่นหลังเปลือยเปล่าของเด็กดื้อช้า ๆ ส่งความร้อนวาบไปทั่วร่างของรัน "อ๊ะ… เสี่ย…" เสียงหวานหลุดออกมาเมื่อเสี่ยไล่จูบไปตามซอกคอ ขบเม้มเบา ๆ "อย่าร้องเสียงหวานแบบนี้สิ…" ศิวกรกระซิบข้างหู "เดี๋ยวฉันจะอดใจไม่ไหวเอาน
แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงทอดเงาจาง ๆ บนผนัง เสียงลมหายใจหอบกระเส่าผสมกับเสียงทุ้มต่ำของใครบางคนที่กำลังบดขยี้สัมผัสลงมาไม่หยุด "อื้อ... เสี่ย... เดี๋ยว..." รันพยายามดันอกแกร่งที่แนบชิดเข้ามา แต่เสี่ยศิวกรกลับรั้งเอวเขาไว้แน่นกว่าเดิม ริมฝีปากร้อนลากไล้ไปตามลำคอ ดูดเม้มจนเกิดรอยแดงเด่นชัด "ร้องเบา ๆ หน่อยสิรัน... หรืออยากให้คนข้างห้องได้ยิน" เสียงกระซิบแผ่วข้างใบหูทำให้รันตัวสั่น ความร้อนแผ่ซ่านไปทั่วร่าง ริมฝีปากได้รูปแสยะยิ้มพอใจเมื่อเห็นคนตัวเล็กกว่ากัดปากแน่น พยายามกลั้นเสียงของตัวเอง "อึก... เสี่ย ดะ...เดี๋ยว... อื้มม" ศิวกรจับคางของรันให้เงยหน้าขึ้น สบดวงตาหวานฉ่ำที่ไหวระริก ก่อนจะประกบริมฝีปากลงไปอย่างร้อนแรง ดูดดึงเรียวลิ้นจนรันแทบทรงตัวไม่ไหว มือเล็กจิกเข้ากับไหล่กว้าง ร่างกายร้อนฉ่าไปหมด "อย่าดื้อกับฉัน" เสี่ยกระซิบเสียงพร่า "คืนนี้... นายหนีฉันไม่พ้นแล้วรัน" แผ่นหลังของรันแนบติดกับที่นอนนุ่ม ไอร้อนที่โอบล้อม ศิวกรโน้มตัวลงมาประทับจูบอีกครั้ง ก่อนจะไล่สัมผัสลงไปช้า ๆ ราวกับกำลังลงโทษรันที่ทำให้เขาคลั่งแทบบ้า อ้อมเเขนเเข็ง
รันไม่รู้ว่าตัวเองถูกพามาที่นี่ได้ยังไง เมื่อคืนยังหนีจากเสี่ยศิวกรแทบตาย แต่พอตื่นขึ้นมาอีกที เขากลับอยู่ในงานเลี้ยงของพวกเสี่ยทั้งแก๊ง แถมโดนจับมานั่งข้างเสี่ยสหัสวิน เพื่อนสนิทของเสี่ยศิวกรอีก "เด็กของมึงน่ารักดีนี่หว่าศิวกร" เสี่ยสหัสวินเอ่ยเสียงทุ้ม ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบพลางหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้รัน "พอดีช่วงนี้กูเหงา…แบ่งให้กูเล่นด้วยหน่อยได้มั้ย" รันเบิกตากว้าง หันขวับไปมองเสี่ยศิวกรทันที แต่แทนที่เสี่ยจะโกรธหรือพูดอะไรกลับปล่อยให้เพื่อนเล่นงานเขา "ไอ้เสี่ย มึงก็พูดอะไรหน่อยดิวะ" รันตวาดเสียงขุ่น รีบขยับหนีแต่กลับถูกเสี่ยสหัสวินคว้าข้อมือเอาไว้ "ทำไมต้องหนีล่ะครับ" เสี่ยสหัสวินกระซิบชิดใบหู "หรือชอบให้เสี่ยศิวกรจับมากกว่า" รันตัวแข็ง กัดฟันแน่นจะสะบัดมือออก แต่ยิ่งดิ้น มือหนาของเสี่ยสหัสวินยิ่งรัดแน่นขึ้น "ไอ้ศิว กูขอยืมเด็กมึงสักคืนได้ป่ะ" "...หึ" เสียงหัวเราะเย็นเยียบของเสี่ยศิวกรดังขึ้นข้างตัว รันรีบหันไปมองแล้วต้องสะดุ้งกับสายตาดุกร้าวที่มองมา "มึงอยากลองดีเหรอไอ้วิน" เสี่ยสหัสวินยกยิ้มมุมปาก "ก็กูแค่แกล้งเล
รันตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเมื่อยล้าไปทั้งตัว ร่องรอยที่เสี่ยศิวกรฝากไว้เมื่อคืนยังคงเด่นชัดเต็มผิวเนียน ดวงตากลมโตเบิกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองคนที่ยังหลับสนิทอยู่ข้าง ๆ เมื่อคืน...รันแทบไม่ได้นอนเลย "ไอ้เสี่ยบ้า โหดชะมัด" รันกัดริมฝีปาก ก้มมองตัวเองที่เต็มไปด้วยรอยแดงแล้วก็หน้าแดงซ่าน รันค่อย ๆ ยกแขนหนักที่โอบอยู่รอบเอวออกช้า ๆ ก่อนจะขยับตัวลงจากเตียงเท่าที่จะทำได้ เสี่ยศิวกรครางฮึมฮัมในลำคอเบา ๆ ทำเอารันชะงักไปชั่วขณะ แต่พอเห็นว่าอีกฝ่ายยังไม่ตื่น เขาก็รีบหยิบเสื้อผ้าของตัวเองขึ้นมาใส่อย่างเร่งรีบ หนีตอนนี้แหละ เท้ายาว ๆ ก้าวเบา ๆ ไปทางประตู ก่อนจะค่อย ๆ บิดลูกบิด... "คิดจะไปไหน" รันสะดุ้งเฮือกก่อนจะหันกลับไปมอง เสี่ยศิวกรยังคงนอนอยู่ท่าเดิม แต่เปลือกตาคมเปิดออกเล็กน้อย แววตานิ่ง ๆ แต่เต็มไปด้วยแรงกดดัน "เอ่อ...คือ..." รันเม้มปากแน่น กำชายเสื้อตัวเองแน่น "ก็...ผมมีเรียนไง" เสี่ยศิวกรยันตัวขึ้นพิงหัวเตียง มองเด็กดื้อที่กำลังหาทางหนีด้วยรอยยิ้มเย็น ๆ "เรียนตอนบ่ายไม่ใช่เหรอ" "ก็ คือ เอ่อ " "กลับมานี่ เดี๋ยวนี
ภายในคอนโดสุดหรูของเสี่ยศิวกร บรรยากาศมาคุขึ้นทันทีที่รันก้าวเข้ามา “ออกไปกับมันทำไม” เสียงทุ้มต่ำกดดันดังขึ้นจากด้านหลัง รันหันไปมองก็พบกับเสี่ยศิวกรที่ยืนกอดอก สายตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “ใครคือ มัน ครับเสี่ย” รันเลิกคิ้วท้าทาย ท่าทางยียวนเหมือนไม่รู้สึกผิด เสี่ยศิวกรสาวเท้าเข้ามาประชิด ดวงตาคมกริบจ้องลงมาราวกับจะกลืนกิน “ภูมินทร์…” เขาเอ่ยชื่อออกมาเสียงเข้ม “คิดว่าฉันไม่เห็นเหรอว่าเมื่อกี้มันมาส่ง” รันกลืนน้ำลายลงคอ สัมผัสได้ถึงพายุอารมณ์ของคนตรงหน้า แต่ก็ยังแกล้งยิ้ม “แค่เพื่อนกันครับเสี่ย” หมับ แขนแกร่งกระชากเอวบางเข้าหา ลมหายใจร้อนเป่ารดข้างแก้ม “ถ้าเป็นแค่เพื่อน ทำไมมันต้องมองมึงแบบนั้นด้วยหลายครั้งเเล้วนะรัน” “แบบไหนครับ” รันยังคงเล่นลิ้น แต่ใจเริ่มเต้นแรงเมื่อฝ่ามือหนาเริ่มลูบไล้ต่ำลง “แบบใหนนะเหรอ อย่ามายอกย้อนกับฉันนะรันฉันจะไม่ยอมให้มันได้แม้แต่แตะต้องนาย” เสี่ยศิวกรกระซิบเสียงพร่า ก่อนจะเหวี่ยงลงบนเตียงกว้าง “เสี่ย เดี๋ยว…” “มึงต้องโดนทำโทษ” น้ำเสียงเด็ดขาด ศิวกรคร่อมทับ โน้มลงกระซิบข้างหู “ให้มึงจำเอาไว้ว่า
"พอได้แล้วรัน ดื่มเยอะไปแล้วนะ" ภูมินทร์แตะไหล่เพื่อนเบา ๆ เมื่อเห็นว่ารันกระดกแก้วเหล้าไปหลายแก้วแล้ว "ไม่เป็นไร เราดื่มไหว" รันเถียงเสียงแข็ง แต่น้ำเสียงกลับอ้อแอ้เล็กน้อย สายตารันเหลือบไปมองเสี่ยศิวกรที่ยังคงนั่งอยู่กับผู้หญิงคนนั้น แถมยังหัวเราะกันอย่างอารมณ์ดีอีก ให้ตายสิ หงุดหงิดโว้ย รันวางแก้วกระแทกลงบนโต๊ะอย่างแรง ก่อนจะลุกพรวดขึ้นยืน ตั้งใจจะเดินออกไปจากตรงนี้ แต่ขาเจ้ากรรมดันเซไปข้างหน้าแทบล้ม ดีที่มีมือหนาคว้าเอวไว้ทัน "จะไปไหน" เสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหู รันเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าเป็นเสี่ยศิวกร "ปล่อยนะ" รันดิ้น แต่เสี่ยกลับกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น "หึ... เมาขนาดนี้ จะเดินไปไหนได้" เสี่ยศิวกรโน้มหน้าลงมาใกล้ กระซิบถามข้างหู "หรือว่า... หึง" "มะ... ไม่ได้หึงสักหน่อย" รันเถียงทั้งที่แก้มแดงแจ๋ "แน่ใจเหรอ" เสี่ยศิวกรยิ้มมุมปาก "ถ้าไม่หึง ทำไมต้องดื่มขนาดนี้" "กะ... ก็แค่..." "ยอมรับมาดี ๆ สิรัน" เสี่ยกระซิบเสียงพร่า "ว่าเราหึง" รันเม้มปากแน่น ก่อนจะหลบตา "ก็ได้... หึงแล้วจะทำไม" เสี่ยศิวกรถึงกับหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะก
รันนั่งกอดอกอยู่บนโซฟา มองเสี่ยศิวกรที่กำลังนั่งคุยกับหญิงสาวคนหนึ่งอย่างสนิทสนม สายตาของเสี่ยเต็มไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ต่างจากเวลาที่อยู่กับเขาที่มีแต่ความดุและเอาแต่ใจ มือเล็กกำแก้วน้ำแน่น รู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก ตั้งแต่ที่เข้ามาในร้านอาหารหรูแห่งนี้ เสี่ยก็เอาแต่สนใจผู้หญิงคนนั้น ทั้งที่เมื่อวานยังคลั่งเขาจะตายอยู่แล้วแท้ ๆ " ทำไมหน้าบูดแบบนั้นล่ะ" เสี่ยศิวกรหันมาถามด้วยรอยยิ้มกวน ๆ รันสะดุ้งก่อนจะรีบเบือนหน้าหนี "เปล่าสักหน่อย" "แน่ใจ" เสี่ยยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะหันไปพูดกับหญิงสาวข้างกายต่อ ทำเอารันกัดปากแน่น ความรู้สึกมันแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว เขาไม่ชอบแบบนี้เลย "เสี่ยครับ ผมไม่ค่อยหิว ขอไปเดินเล่นแป๊บหนึ่งนะ" รันลุกขึ้นทำท่าจะเดินออกไป แต่ยังไม่ทันจะก้าวไปไหน เสี่ยก็คว้าข้อมือเขาไว้แน่น "ไปไหน" น้ำเสียงของเสี่ยฟังดูอารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด "ก็ไปเดินเล่นไง ผมเบื่อ" "อ้อ เบื่อ หรือหวง" เสี่ยโน้มหน้าเข้ามากระซิบข้างหู ทำเอารันสะดุ้ง "ใคร…ใครหวงกัน" "อืม หรอ…แต่หน้าบูดขนาดนี้ เหมือนเด็กกำลังหึงเลยนะ"
รันนั่งกอดอก หน้าบึ้งอยู่บนโซฟาในห้องของเสี่ยศิวกร หลังจากถูกพามาลงโทษเมื่อคืนนี้จนแทบลุกไม่ขึ้น แต่วันนี้พอมีแรงขึ้นมาหน่อย ก็ต้องมาเจอเรื่องที่ทำให้หงุดหงิดอีก สายตาของเสี่ยศิวกรที่กำลังมอง "ภูมินทร์" เพื่อนสนิทของรันมันดูผิดปกติ "เสี่ย มองเพื่อนผมแบบนั้นทำไม" รันเอ่ยถามเสียงห้วน "เพื่อน" เสี่ยศิวกรเลิกคิ้ว ก่อนจะก้าวเข้ามาใกล้ ดึงรันให้ลุกขึ้นมาแนบชิดกับอกกว้าง "แน่ใจนะว่าแค่เพื่อน" รันขมวดคิ้ว "แน่สิ เราสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก..." "สนิทขนาดไหน" เสี่ยถามเสียงเข้ม ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของรัน "ก็แค่เพื่อนจริง ๆ นะเสี่ย" รันเริ่มเหงื่อตกเมื่อเห็นเสี่ยศิวกรขมวดคิ้วแน่นขึ้นกว่าเดิม "แค่เพื่อน แต่ทำไมมันมองนายไม่เหมือนเพื่อน" เสี่ยศิวกรกดเสียงต่ำ มือที่จับเอวรันกระชับแน่นขึ้น "หรือฉันต้องทำให้ชัดเจนกว่านี้ ว่าเป็นของฉัน" รันเม้มปากแน่น ใบหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย "พูดอะไรของเสี่ย คนเยอะอยู่นะ" "แล้วไง ถ้าภูมินทร์คิดจะเป็นมากกว่าเพื่อน..." "ผมไม่ได้คิดอะไรกับมันสักหน่อย" รันโวยวาย แต่เสี่ยกลับก้มลงกระซิบข้างหูเสียงพ
รันไม่เคยคิดมาก่อนว่าการแค่เถียงเสี่ยเล่น ๆ จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ แต่ตอนนี้เขากำลังติดอยู่ในอ้อมแขนของเสี่ยศิวกร คนที่มักจะใจดีแต่ก็ขี้หวงและเอาแต่ใจอย่างร้ายกาจ "ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าดื้อ" เสี่ยศิวกรกดเสียงต่ำ สายตาคมกริบจ้องมองเด็กดื้อที่อยู่ตรงหน้า "ผมแค่...แกล้งเล่นเอง" รันเบะปากเล็กน้อยแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ ร่างสูงก็โน้มตัวลงมาหาอย่างรวดเร็ว "แกล้งเล่น หืม...งั้นก็ต้องโดนทำโทษให้รู้ว่าห้ามเล่นแบบนี้อีก" ริมฝีปากร้อนจัดกดลงมาแนบแน่นกับของเขาอย่างร้อนแรง รันเบิกตากว้างเมื่อเสี่ยไม่ยอมให้เขาได้ขัดขืน มือหนารั้งเอวเขาเข้าไปแนบชิดมากขึ้น จนรู้สึกถึงลมหายใจร้อนที่แผ่วกระซิบข้างหู "จำไว้...ว่าอย่าดื้อกับเสี่ยอีก" หัวใจของรันเต้นแรง มือเล็กพยายามผลักอกแกร่งออกแต่ไร้ประโยชน์ ความแข็งแกร่งของเสี่ยทำให้เขาติดอยู่ในกรงอ้อมแขนที่ไม่มีทางหนีรอดไปได้ "ถ้ายังดื้ออีก...ฉันจะทำมากกว่านี้" รันพยายามดิ้นหนีจากอ้อมแขนแข็งแรงของเสี่ยศิวกร แต่ยิ่งดิ้น เสี่ยก็ยิ่งกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นไปอีก "จะหนีไปไหน" เสี่ยกระซิบข้างหู เสียงทุ้มต่ำแฝงไปด้วยแร
แสงแดดอ่อน ๆ ของยามเช้าสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง รันขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะรู้สึกถึงวงแขนแกร่งที่กอดรัดเขาแน่นจากทางด้านหลัง "อือ... เสี่ย ปล่อยก่อน ผมจะไปอาบน้ำ" เสียงงัวเงียเอ่ยออกมา พลางพยายามดึงแขนแกร่งที่พาดอยู่บนเอวออก แต่แทนที่จะปล่อย เสี่ยศิวกรกลับรัดแน่นขึ้นกว่าเดิม ซุกใบหน้าหล่อเหลาลงกับซอกคอขาว "ไม่ให้ไป..." เสียงแหบพร่าดังอยู่ข้างใบหู "อยู่ตรงนี้ก่อน" รันตัวสั่นเล็กน้อยเมื่อลมหายใจอุ่นรินรดลงมาบนต้นคอ เขาหันมองคนตัวโตที่ยังคงหลับตาอยู่ แต่สัมผัสจากมือที่ไล้ไปตามผิวกายทำให้รู้ว่าเสี่ยยังตื่นเต็มตา "เสี่ย... พอแล้ว ผมเมื่อยไปหมดแล้วนะ" คนตัวเล็กขยับหนีแต่กลับถูกดึงกลับมาแนบชิดกว่าเดิม ดวงตาคมลืมขึ้นมองเขา พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ "ยังไม่พอเลย" ศิวกรกระซิบเสียงพร่า "ฉันอยากทำมากกว่านี้" รันเบิกตากว้างเมื่อจู่ ๆ ร่างก็ถูกพลิกให้นอนราบลงกับเตียง เสี่ยศิวกรกดทับลงมา มือหนาลูบไล้ไปตามแผ่นหลังเปลือยเปล่า ก่อนจะกดจูบลงบนลาดไหล่ "อ๊ะ เสี่ย เดี๋ยว... มันเช้าแล้วนะ" "แล้วยังไง" เสี่ยกระตุกยิ้ม มองเหยื่อของเขาที่หน้าแดงซ่าน "ฉันยัง
แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงทอดเงาจาง ๆ บนผนัง เสียงลมหายใจหอบกระเส่าผสมกับเสียงทุ้มต่ำของใครบางคนที่กำลังบดขยี้สัมผัสลงมาไม่หยุด "อื้อ... เสี่ย... เดี๋ยว..." รันพยายามดันอกแกร่งที่แนบชิดเข้ามา แต่เสี่ยศิวกรกลับรั้งเอวเขาไว้แน่นกว่าเดิม ริมฝีปากร้อนลากไล้ไปตามลำคอ ดูดเม้มจนเกิดรอยแดงเด่นชัด "ร้องเบา ๆ หน่อยสิรัน... หรืออยากให้คนข้างห้องได้ยิน" เสียงกระซิบแผ่วข้างใบหูทำให้รันตัวสั่น ความร้อนแผ่ซ่านไปทั่วร่าง ริมฝีปากได้รูปแสยะยิ้มพอใจเมื่อเห็นคนตัวเล็กกว่ากัดปากแน่น พยายามกลั้นเสียงของตัวเอง "อึก... เสี่ย ดะ...เดี๋ยว... อื้มม" ศิวกรจับคางของรันให้เงยหน้าขึ้น สบดวงตาหวานฉ่ำที่ไหวระริก ก่อนจะประกบริมฝีปากลงไปอย่างร้อนแรง ดูดดึงเรียวลิ้นจนรันแทบทรงตัวไม่ไหว มือเล็กจิกเข้ากับไหล่กว้าง ร่างกายร้อนฉ่าไปหมด "อย่าดื้อกับฉัน" เสี่ยกระซิบเสียงพร่า "คืนนี้... นายหนีฉันไม่พ้นแล้วรัน" แผ่นหลังของรันแนบติดกับที่นอนนุ่ม ไอร้อนที่โอบล้อม ศิวกรโน้มตัวลงมาประทับจูบอีกครั้ง ก่อนจะไล่สัมผัสลงไปช้า ๆ ราวกับกำลังลงโทษรันที่ทำให้เขาคลั่งแทบบ้า อ้อมเเขนเเข็ง