รันนั่งกอดอก มองศิวกรที่นั่งจ้องหน้าตัวเองไม่วางตา"โอ๊ย เสี่ย มองอะไรนักหนาเนี่ย"
"มองเมียผิดตรงไหน"ศิวกรเอ่ยเสียงเรียบ "เมียใครเมียเสี่ย เพ้อเจ้อ" รันแทบจะเอาหมอนฟาดหน้า แต่ศิวกรกลับยกมือขึ้นมาจับข้อมือไว้ก่อน "พูดมาก เดี๋ยวจูบปิดปากซะเลย" "ไอ้เสี่ยบ้า" รันดึงมือกลับ แต่ใบหน้า กลับร้อนวูบวาบแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร โทรศัพท์ของรันก็ดังขึ้น ภูมินทร์แค่เห็นชื่อที่โชว์บนหน้าจอ ศิวกรก็หรี่ตาลงทันที รันกดรับสาย "ว่าไง" "เฮ้ย ไอ้รัน คืนนี้ไปกินหมูกระทะกันไหม กูเลี้ยง" "จริงดิ เอาดิเอาดิ" ศิวกรขมวดคิ้ว เสียงเข้มขึ้น"รัน ไม่ไป" รันหันขวับมามองเสี่ย "เสี่ยจะมายุ่งอะไรด้วยเนี่ย" "ฉันบอกว่าไม่ไป" รันเบะปากก่อนจะพูดใส่โทรศัพท์ "เดี๋ยวกูโทรกลับนะ" แล้วก็ตัดสายทิ้ง "เสี่ย นี่มันเรื่องของผมนะ" "เรื่องของนายก็คือเรื่องของฉัน" ศิวกรตอบหน้าตาเฉย แต่แววตานั้นกลับเต็มไปด้วยความหึงหวง รันถอนหายใจเฮือก "โห... เสี่ยนี่มันขี้หึงจริงว่ะ" "ฉันไม่ได้แค่หึงธรรมดา ฉันหวงมากด้วย" "..." "แล้วถ้านายทำให้ฉันหึงมากกว่านี้..." ศิวกรโน้มตัวเข้าไปกระซิบข้างหูเสียงแหบต่ำ "ฉันจะไม่ปล่อยนายไปไหนอีกเลย จำไว้" รันกลืนน้ำลายลงคอ ใจเต้นโครมครามนั่งเม้มปากแน่น มองเสี่ยศิวกรที่จ้องเขาไม่วางตา "เสี่ย... ผมก็แค่ไปกินหมูกระทะกับเพื่อนเองนะ มันจะอะไรนักหนาวะ" "ไม่ให้ไป" "ห๊ะ" รันแทบจะลุกขึ้นจากเตียง "แค่กินข้าวกับเพื่อนเนี่ยนะ" ศิวกรยกมือขึ้นลูบคางตัวเองช้า ๆ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "ฉันไม่ไว้ใจเพื่อนนาย" "อ้าว แล้วไปเกี่ยวอะไรกับภูมินทร์" "มันชอบนายหรือเปล่า" รันถึงกับอ้าปากค้างไปสามวิ "เสี่ยคิดอะไรเนี่ย ผมกับภูมิทร์เพื่อนกันโว้ย" ศิวกรเลิกคิ้วเล็กน้อย "งั้นเหรอ" "เออสิ เสี่ยหึงมั่วซั่วไปหมดแล้ว" รันบ่นอุบ แต่ก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อเสี่ยโน้มตัวเข้ามาใกล้ ดวงตาคมจ้องลึกจนรู้สึกเหมือนถูกกลืนกิน "หวงจนอยากจับมัดไว้ที่นี่เลยดีไหม" รันเบิกตากว้าง "เป็นเอามากนะเสี่ย จะบ้าเหรอ" ศิวกรจะใช้ปลายนิ้วแตะริมฝีปากของรันเบา ๆ "ไม่อยากให้ฉันหึง ก็อย่าทำตัวน่ารักให้ใครมอง" "บ้า... ใครมันจะไปมอง" รันเบือนหน้าหนี แต่กลับถูกเสี่ยเชยคางให้หันกลับมาอีกครั้ง "ก็ฉันมองไง" หัวใจรันเต้นโครมครามไปหมด แววตาของเสี่ยตอนนี้เต็มไปด้วยความคลั่งรักสุด ๆ "เสี่ย ผมแค่ไปกินหมูกระทะเองนะ ไม่ได้หนีไปไหนสักหน่อย" "ไม่ได้" ศิวกรตอบเสียงเรียบ แต่แฝงไปด้วยความเอาแต่ใจ รันถอนหายใจเฮือก "ทำไมวะ ผมเเค่นัดเจอเพื่อน ไปกินหมูกระทะเเล้วก็กลับ ไม่ได้ไปนอนกับมันสักหน่อย" "ฉันไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับของของฉัน โดยเฉพาะคนที่ชื่อภูมิทร์" รันแทบจะกลอกตามองบน "ไอ้เสี่ยจะบ้าหรือไง" ศิวกรยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะโน้มตัวลงมากระซิบข้างหู "ลองดื้อดูหรือขัดคำสั่งฉันสิรัน ว่าฉันจะจัดการยังไงกับนาย" รันสะดุ้ง รีบถอยหนีทันที "ขี้หึงว่ะเสี่ยหึงแบบเวอร์เกินเหตุ" "แล้วถ้านายยังไม่เชื่อฟัง ฉันอาจจะต้องลงโทษ" รันกลืนน้ำลายลงคอ มองเสี่ยที่ค่อย ๆ ขยับเข้าใกล้ทีละนิด ก่อนที่แขนแกร่งจะเอื้อมมาดึงตัวเขาเข้าไปใกล้ "เสี่ย เดี๋ยว..." "ห้ามเถียง" เสียงทุ้มกระซิบเบา ๆ ข้างใบหู รันตัวแข็งทื่อเมื่อสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ที่รินรดอยู่ใกล้ใบหู ใจเต้นแรงเขาพยายามดิ้นออกจากอ้อมแขน แต่ยิ่งดิ้น เสี่ยก็ยิ่งกอดแน่นขึ้น ใบหน้าคมก้มลงมาชิดจนลมหายใจร้อน ๆ เป่ารดอยู่ตรงซอกคอ "เสี่ย ผมหายใจไม่ออกแล้วนะปล่อย" รันพยายามดันอกเสี่ยออก แต่ศิวกรกลับรวบมือทั้งสองข้างของเขาไว้แน่นยิ้มมุมปากอย่างมีเลสนัย ก่อนจะก้มลงมากระซิบเสียงแหบพร่า "ตกลง นายจะไปกับเพื่อนไหม" รันเม้มปากแน่น ก่อนจะตะโกนลั่นห้อง "ยอม ก็ได้วะ ไม่ไปก็ไม่ไป" ศิวกรกระตุกยิ้ม "ดี" "ดีบ้าอะไร เสี่ยมันบ้าอำนาจ" รันบ่นอุบอิบ "ไม่ต้องปากแข็งหรอก นายก็ชอบให้ฉันหึงอยู่แล้ว ไม่งั้นคงไม่ทำตัวน่าแกล้งแบบนี้" " ใครมันจะไปชอบ" รันเถียงกลับ แต่หน้ากลับร้อนวูบวาบจนปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาชอบให้เสี่ยหวงจริง ๆ นั่นแหละรันมองเสี่ยศิวกรด้วยสายตาเหลือเชื่อ แค่จะไปกินข้าวกับเพื่อนแท้ ๆ ทำไมต้องทำเหมือนเขาจะหนีไปกับใครด้วย รันเลิกคิ้ว แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อเสี่ยก้มลงมากัดเบา ๆ ตรงต้นคอ "โอ๊ย เสี่ยทำบ้าอะไรเนี่ย" ศิวกรยิ้มพอใจ "ก็ทำเครื่องหมายไง... จะได้ไม่มีใครกล้ามอง" รันเอามือกุมคอ ใบหน้าร้อนผ่าว "โว้ยเสี่ยนี่มันนับวันยิ่งบ้าเข้าไปใหญ่" ศิวกรเอื้อมมือมาดึงเอวรันเข้ามาแนบชิด "ถ้าไม่อยากให้ฉันหึง ก็อย่าทำตัวน่าแกล้งสิครับเด็กดี" "ใครเด็กดีของเสี่ยกัน" รันตะโกนใส่หน้า แต่กลับถูกศิวกรกระชากเข้าไปกอดแน่นกว่าเดิม "ก็เด็กของฉันไง" เสี่ยตอบพร้อมรอยยิ้มเเฝงไปด้วยความเจ้าเจ้าเล่ห์รันพยายามดิ้นออกจากอ้อมแขนของเสี่ยศิวกร แต่ก็เหมือนจะไม่มีประโยชน์ เพราะยิ่งดิ้น เสี่ยก็ยิ่งกอดแน่นขึ้น ศิวกรกระตุกยิ้มมุมปาก ก่อนจะยกมือขึ้นลูบแก้มของรัน "ฉันไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับนายจำไว้" "เสี่ย" ศิวกรดึงรันเข้ามากอดแน่นกว่าเดิม " หวงจนไม่อยากให้คลาดสายตาเลยด้วยซ้ำ" รันเม้มปากแน่นศิวกรมองรันที่กำลังนั่งกินขนมอยู่บนโซฟาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์เด็กนี่... ทำไมถึงน่ารักขนาดนี้วะริมฝีปากเล็ก ๆ นั่นที่กำลังงับขนมเข้าปาก ไหนจะแก้มที่พองออกมาเหมือนกระต่ายตัวจิ๋ว ยิ่งมองก็ยิ่งใจสั่น รันเงยหน้าขึ้นมาเจอสายตาของเสี่ยพอดี "เสี่ยมองอะไรครับ" ศิวกรกระแอมเล็กน้อย พยายามเก็บอาการ "เปล่า" "แล้วทำหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่" รันถามพลางเคี้ยวขนมตุ้ย ๆ ศิวกรมองริมฝีปากนั่นแล้วเผลอกลืนน้ำลาย "อย่ากินไปคุยไป สำลักขึ้นมาจะทำยังไง" รันกลอกตา "เสี่ยนี่ขี้บ่นจัง" ศิวกรถอนหายใจ เขากำลังจะบอกให้รันเลิกกินแล้วไปล้างหน้าล้างตา แต่ยังไม่ทันจะพูด เจ้าตัวเล็กก็ดันยื่นขนมมาให้ "อ้าปากสิ เดี๋ยวป้อน" ศิวกรชะงักไปเล็กน้อย "ฉันกินเองได้" "ก็อยากป้อนไง อ้าปากเร็ว" รันจิ้มขนมไปที่ริมฝีปากของ ศิวกรเขามองหน้าเด็กดื้อก่อนจะถอนหายใจแล้วอ้าปากรับ ให้ตายเถอะ ทำไมแค่นี้ถึงทำให้เขาใจบางได้ขนาดนี้ รันยิ้มกว้าง "เห็นไหม ป้อนเสี่ยก็ได้ด้วย" ศิวกรมองเด็กดื้อที่นั่งยิ้มหวานอยู่ตรงหน้า ก่อนจะยื่นมือไปบีบแก้มเบา ๆ "ถ้าจะอ่อยกันขนาดนี้ รับผ
รันยืนอยู่ข้างกระจกในห้องนอนของเสี่ยศิวกร กำลังจัดเสื้อผ้าในตู้ที่เสี่ยให้เขามาไว้ใช้ในช่วงนี้ เขาสูดหายใจลึก รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกลากไปในเกมที่ตัวเองไม่เคยอยากเล่น แต่ไม่รู้ทำไมยิ่งอยู่ใกล้เสี่ยศิวกร ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนหัวใจตัวเองกำลังจะชอบเสี่ยขึ้นมา "ทำไม... ทำไมต้องทำให้ฉันรู้สึกแบบนี้ด้วย" รันกระซิบกับตัวเอง ทันใดนั้น เสี่ยศิวกรก็เปิดประตูเข้ามาในห้อง รันหันไปมองอย่างตกใจ "เสี่ย" "ทำอะไรอยู่" เสี่ยศิวกรถามเสียงทุ้มขณะยืนอยู่ที่กรอบประตู "กะ... กำลังจัดของอยู่น่ะครับ" รันรีบเอามือปิดตู้เสื้อผ้า เขาไม่รู้ว่าทำไมแต่พอเห็นเสี่ยยืนมองอยู่เขาก็รู้สึกไม่สบายใจ "จัดของเหรอ" ศิวกรขยับเข้ามาใกล้ ๆ มองที่ตู้เสื้อผ้าแล้วก็ยิ้มเบา ๆ "ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ได้จะจับผิดอะไรหรอก" รันหันกลับไปมองศิวกรที่ยืนมองเขาอยู่ใกล้เกินไป รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังหมุน "เสี่ย..." รันเรียกชื่ออย่างลังเล ศิวกรยิ้มกว้าง "ทำไม นายดูเหมือนกลัวอะไรบางอย่าง" "ไม่... ไม่ใช่ครับ" รันรีบเดินหนีไปที่มุมห้อง รู้สึกเหมือนหัวใจมันจะหยุดเต้น
รันไม่เข้าใจเลยว่าตัวเองทำอะไรผิดไป แค่คุยเล่นกับเพื่อนเฉย ๆ แต่ทำไมเสี่ยศิวกรถึงได้มองเขาด้วยสายตาดุ ๆ แบบนั้น "รัน... ใครให้นายไปหัวเราะกับไอ้หมอนั่น" เสียงทุ้มต่ำดังขึ้น รันเงยหน้าขึ้นสบตากับเสี่ยศิวกรที่ยืนกอดอกอยู่ข้างหลัง สีหน้าไม่ค่อยพอใจนัก "อ้าว เสี่ย... ผมก็คุยกับภูมินทร์แค่เรื่องทั่ว ๆ ไปเองนะครับ" รันพูดอย่างไม่เข้าใจ "เรื่องทั่ว ๆ ไป" เสี่ยศิวกรเลิกคิ้ว ก่อนจะเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้ารัน "แล้วทำไมต้องยิ้มขนาดนั้น" รันกระพริบตาปริบ ๆ แล้วหัวเราะออกมา "เสี่ยครับ แค่ยิ้มมันผิดตรงไหน" "ผิดตรงที่ไม่ควรยิ้มให้ใครนอกจากฉัน" เสี่ยพูดเสียงเข้มพลางขยับเข้ามาใกล้รันมากขึ้น จนรันต้องถอยหลัง " เสี่ย... ผมก็ต้องมีเพื่อนมีสังคมบ้างสิ" รันพูดติดขำ แต่พอเห็นแววตาของเสี่ยที่ดูจริงจังขึ้นเรื่อย ๆ ก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองน่าจะอยู่ในสถานการณ์อันตราย เสี่ยศิวกรไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่จับข้อมือของรันแน่น ก่อนจะดึงเข้าไปใกล้แล้วกระซิบเสียงต่ำข้างหู "ถ้านายอยากมีเพื่อนนัก ฉันจะให้เวลานายคิดใหม่..." รันขมวดคิ้ว "หมายความว่าไงครับ" เสี่ยยกย
รันเดินหน้าบึ้งเข้ามาในห้อง เสี่ยศิวกรที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟามองเด็กดื้อของตัวเองก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น "อะไร ทำหน้าแบบนี้ใส่ฉันหมายความว่ายังไง" รันเท้าเอว หรี่ตามองเสี่ย "เสี่ยส่งคนไปตามผมที่มหาลัยอีกแล้วใช่ไหม" เสี่ยศิวกรยกยิ้มมุมปาก "แล้วไง นายหายไปทั้งวัน ฉันก็ต้องรู้ว่าอยู่ไหน" "ผมไปเรียนครับ ไม่ได้ไปไหนสักหน่อย" รันเถียงกลับ "แถมเพื่อนผมยังมาถามอีกว่า ผมเป็นเมียนักเลงหรือไง ถึงมีลูกน้องมาตามเฝ้า" เสี่ยศิวกรหัวเราะในลำคอ ดวงตาเต็มไปด้วยความพอใจ "แล้วนายตอบว่าไงล่ะ" "ผมบอกว่าเสี่ยเป็นคนบ้า" รันเชิดหน้าใส่ เสี่ยศิวกรหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าไปหารันช้า ๆ "หึ... ฉันเป็นบ้า" เสียงทุ้มเอ่ยช้า ๆ ก่อนจะใช้แขนขวางไม่ให้รันหนีไปไหนได้ "ก็ใช่ ฉันมันบ้า... บ้าหวงนายไง" รันกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่ สายตาคมกริบของเสี่ยทำให้เขาเผลอถอยหลังไปนิดหนึ่ง แต่เสี่ยกลับก้าวตามมาเรื่อย ๆ "เสี่ย... เดี๋ยวสิ..." "ฉันเตือนแล้วนะ... ว่าอย่าทำให้ฉันหวงมาก" เสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหู ก่อนที่ร่างสูงจะกดรันติดกับผนัง รั
ศิวกรเอนตัวพิงโซฟา มองเด็กหนุ่มที่กำลังก้มหน้าก้มตากินข้าวตักเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย รอยยิ้มบาง ๆ เผยออกมาโดยไม่รู้ตัว " ทำไมเสี่ยมองผมแบบนั้น" รันเงยหน้าขึ้นมาถาม ปากยังคาบข้าวอยู่ ศิวกรหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะยื่นมือไปเช็ดเศษข้าวที่ติดมุมปากให้อย่างอ่อนโยน "กินเลอะเทอะเป็นเด็กไปได้" รันเบ้ปาก "ก็ผมหิวไง เสี่ยให้ผมกินเยอะ ๆ เองนี่" "หึ… เพราะนายเป็นเด็กของฉัน" ศิวกรพูดเสียงนุ่ม แต่ในแววตากลับเต็มไปด้วยความหลงใหล หัวใจรันเต้นแรง เขาหลบสายตาคมกริบของเสี่ย รีบตักข้าวเข้าปากแก้เขิน แต่ยิ่งทำแบบนั้น ศิวกรก็ยิ่งมองอย่างเอ็นดู "จะให้เป็นเด็กตลอดไปไม่ได้หรอกนะ" รันพึมพำเบา ๆ ศิวกรเลิกคิ้ว ก่อนจะโน้มตัวเข้าใกล้กระซิบที่ข้างหู "งั้นเป็นเมียเลยไหม" "เสี่ย" รันแทบจะสำลักข้าว หน้าแดงแจ๋ทันที ศิวกรหัวเราะออกมาอย่างพอใจ รันกำลังจิ้มสตรอว์เบอร์รีเข้าปาก ดวงตากลมโตเป็นประกายเหมือนเด็กได้ของหวานที่ชอบ "มองผมอีกแล้วนะเสี่ย" รันย่นจมูกใส่ ศิวกรยกยิ้มมุมปาก นัยน์ตาคมกริบจับจ้องไปที่ริมฝีปากสีสดที่กำลังเคี้ยวตุ้ย ๆ "ทำไม มองไม่ได้เหรอ"
รันนั่งกอดเข่าบนเตียง ในใจเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ เพราะสายตาของศิวกรที่กำลังมองเขาอยู่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ "ทำไมทำหน้าตาตื่นแบบนั้น" เสี่ยศิวกรเอ่ยถามพลางปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกช้า ๆ เผยให้เห็นแผ่นอกแกร่ง รันรีบเบือนหน้าหนี "ผมไม่ได้ตื่นเต้นสักหน่อย" "จริงเหรอ งั้นทำไมหน้าแดง" เสี่ยศิวกรก้าวเข้ามาใกล้ขึ้นอีก รันรีบถอยหลังไปจนแผ่นหลังติดกับหัวเตียง "เสี่ย... อย่าเข้ามานะ" ศิวกรหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะโน้มตัวลงคร่อม รัน มือใหญ่ยันเตียงเอาไว้ข้างศีรษะ กักตัวอีกฝ่ายไว้ไม่ให้หนี "รัน..." เสี่ยเรียกชื่อเขาเสียงพร่า "คืนนี้ นายต้องเป็นของฉันแล้วนะ" "เดี๋ยวสิ ผมยังไม่ได้" ไม่ทันพูดจบ ริมฝีปากร้อนก็ประกบลงมาอย่างเร่าร้อน ดูดดื่มและเอาแต่ใจ รันพยายามจะดันเสี่ยออก แต่แรงของเขาเทียบไม่ได้เลย มือหนาลูบไล้ไปตามแผ่นหลังเปลือยเปล่าของเด็กดื้อช้า ๆ ส่งความร้อนวาบไปทั่วร่างของรัน "อ๊ะ… เสี่ย…" เสียงหวานหลุดออกมาเมื่อเสี่ยไล่จูบไปตามซอกคอ ขบเม้มเบา ๆ "อย่าร้องเสียงหวานแบบนี้สิ…" ศิวกรกระซิบข้างหู "เดี๋ยวฉันจะอดใจไม่ไหวเอาน
แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงทอดเงาจาง ๆ บนผนัง เสียงลมหายใจหอบกระเส่าผสมกับเสียงทุ้มต่ำของใครบางคนที่กำลังบดขยี้สัมผัสลงมาไม่หยุด "อื้อ... เสี่ย... เดี๋ยว..." รันพยายามดันอกแกร่งที่แนบชิดเข้ามา แต่เสี่ยศิวกรกลับรั้งเอวเขาไว้แน่นกว่าเดิม ริมฝีปากร้อนลากไล้ไปตามลำคอ ดูดเม้มจนเกิดรอยแดงเด่นชัด "ร้องเบา ๆ หน่อยสิรัน... หรืออยากให้คนข้างห้องได้ยิน" เสียงกระซิบแผ่วข้างใบหูทำให้รันตัวสั่น ความร้อนแผ่ซ่านไปทั่วร่าง ริมฝีปากได้รูปแสยะยิ้มพอใจเมื่อเห็นคนตัวเล็กกว่ากัดปากแน่น พยายามกลั้นเสียงของตัวเอง "อึก... เสี่ย ดะ...เดี๋ยว... อื้มม" ศิวกรจับคางของรันให้เงยหน้าขึ้น สบดวงตาหวานฉ่ำที่ไหวระริก ก่อนจะประกบริมฝีปากลงไปอย่างร้อนแรง ดูดดึงเรียวลิ้นจนรันแทบทรงตัวไม่ไหว มือเล็กจิกเข้ากับไหล่กว้าง ร่างกายร้อนฉ่าไปหมด "อย่าดื้อกับฉัน" เสี่ยกระซิบเสียงพร่า "คืนนี้... นายหนีฉันไม่พ้นแล้วรัน" แผ่นหลังของรันแนบติดกับที่นอนนุ่ม ไอร้อนที่โอบล้อม ศิวกรโน้มตัวลงมาประทับจูบอีกครั้ง ก่อนจะไล่สัมผัสลงไปช้า ๆ ราวกับกำลังลงโทษรันที่ทำให้เขาคลั่งแทบบ้า อ้อมเเขนเเข็ง
แสงแดดอ่อน ๆ ของยามเช้าสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง รันขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะรู้สึกถึงวงแขนแกร่งที่กอดรัดเขาแน่นจากทางด้านหลัง "อือ... เสี่ย ปล่อยก่อน ผมจะไปอาบน้ำ" เสียงงัวเงียเอ่ยออกมา พลางพยายามดึงแขนแกร่งที่พาดอยู่บนเอวออก แต่แทนที่จะปล่อย เสี่ยศิวกรกลับรัดแน่นขึ้นกว่าเดิม ซุกใบหน้าหล่อเหลาลงกับซอกคอขาว "ไม่ให้ไป..." เสียงแหบพร่าดังอยู่ข้างใบหู "อยู่ตรงนี้ก่อน" รันตัวสั่นเล็กน้อยเมื่อลมหายใจอุ่นรินรดลงมาบนต้นคอ เขาหันมองคนตัวโตที่ยังคงหลับตาอยู่ แต่สัมผัสจากมือที่ไล้ไปตามผิวกายทำให้รู้ว่าเสี่ยยังตื่นเต็มตา "เสี่ย... พอแล้ว ผมเมื่อยไปหมดแล้วนะ" คนตัวเล็กขยับหนีแต่กลับถูกดึงกลับมาแนบชิดกว่าเดิม ดวงตาคมลืมขึ้นมองเขา พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ "ยังไม่พอเลย" ศิวกรกระซิบเสียงพร่า "ฉันอยากทำมากกว่านี้" รันเบิกตากว้างเมื่อจู่ ๆ ร่างก็ถูกพลิกให้นอนราบลงกับเตียง เสี่ยศิวกรกดทับลงมา มือหนาลูบไล้ไปตามแผ่นหลังเปลือยเปล่า ก่อนจะกดจูบลงบนลาดไหล่ "อ๊ะ เสี่ย เดี๋ยว... มันเช้าแล้วนะ" "แล้วยังไง" เสี่ยกระตุกยิ้ม มองเหยื่อของเขาที่หน้าแดงซ่าน "ฉันยัง
รันไม่รู้ว่าตัวเองถูกพามาที่นี่ได้ยังไง เมื่อคืนยังหนีจากเสี่ยศิวกรแทบตาย แต่พอตื่นขึ้นมาอีกที เขากลับอยู่ในงานเลี้ยงของพวกเสี่ยทั้งแก๊ง แถมโดนจับมานั่งข้างเสี่ยสหัสวิน เพื่อนสนิทของเสี่ยศิวกรอีก "เด็กของมึงน่ารักดีนี่หว่าศิวกร" เสี่ยสหัสวินเอ่ยเสียงทุ้ม ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบพลางหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้รัน "พอดีช่วงนี้กูเหงา…แบ่งให้กูเล่นด้วยหน่อยได้มั้ย" รันเบิกตากว้าง หันขวับไปมองเสี่ยศิวกรทันที แต่แทนที่เสี่ยจะโกรธหรือพูดอะไรกลับปล่อยให้เพื่อนเล่นงานเขา "ไอ้เสี่ย มึงก็พูดอะไรหน่อยดิวะ" รันตวาดเสียงขุ่น รีบขยับหนีแต่กลับถูกเสี่ยสหัสวินคว้าข้อมือเอาไว้ "ทำไมต้องหนีล่ะครับ" เสี่ยสหัสวินกระซิบชิดใบหู "หรือชอบให้เสี่ยศิวกรจับมากกว่า" รันตัวแข็ง กัดฟันแน่นจะสะบัดมือออก แต่ยิ่งดิ้น มือหนาของเสี่ยสหัสวินยิ่งรัดแน่นขึ้น "ไอ้ศิว กูขอยืมเด็กมึงสักคืนได้ป่ะ" "...หึ" เสียงหัวเราะเย็นเยียบของเสี่ยศิวกรดังขึ้นข้างตัว รันรีบหันไปมองแล้วต้องสะดุ้งกับสายตาดุกร้าวที่มองมา "มึงอยากลองดีเหรอไอ้วิน" เสี่ยสหัสวินยกยิ้มมุมปาก "ก็กูแค่แกล้งเล
รันตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเมื่อยล้าไปทั้งตัว ร่องรอยที่เสี่ยศิวกรฝากไว้เมื่อคืนยังคงเด่นชัดเต็มผิวเนียน ดวงตากลมโตเบิกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองคนที่ยังหลับสนิทอยู่ข้าง ๆ เมื่อคืน...รันแทบไม่ได้นอนเลย "ไอ้เสี่ยบ้า โหดชะมัด" รันกัดริมฝีปาก ก้มมองตัวเองที่เต็มไปด้วยรอยแดงแล้วก็หน้าแดงซ่าน รันค่อย ๆ ยกแขนหนักที่โอบอยู่รอบเอวออกช้า ๆ ก่อนจะขยับตัวลงจากเตียงเท่าที่จะทำได้ เสี่ยศิวกรครางฮึมฮัมในลำคอเบา ๆ ทำเอารันชะงักไปชั่วขณะ แต่พอเห็นว่าอีกฝ่ายยังไม่ตื่น เขาก็รีบหยิบเสื้อผ้าของตัวเองขึ้นมาใส่อย่างเร่งรีบ หนีตอนนี้แหละ เท้ายาว ๆ ก้าวเบา ๆ ไปทางประตู ก่อนจะค่อย ๆ บิดลูกบิด... "คิดจะไปไหน" รันสะดุ้งเฮือกก่อนจะหันกลับไปมอง เสี่ยศิวกรยังคงนอนอยู่ท่าเดิม แต่เปลือกตาคมเปิดออกเล็กน้อย แววตานิ่ง ๆ แต่เต็มไปด้วยแรงกดดัน "เอ่อ...คือ..." รันเม้มปากแน่น กำชายเสื้อตัวเองแน่น "ก็...ผมมีเรียนไง" เสี่ยศิวกรยันตัวขึ้นพิงหัวเตียง มองเด็กดื้อที่กำลังหาทางหนีด้วยรอยยิ้มเย็น ๆ "เรียนตอนบ่ายไม่ใช่เหรอ" "ก็ คือ เอ่อ " "กลับมานี่ เดี๋ยวนี
ภายในคอนโดสุดหรูของเสี่ยศิวกร บรรยากาศมาคุขึ้นทันทีที่รันก้าวเข้ามา “ออกไปกับมันทำไม” เสียงทุ้มต่ำกดดันดังขึ้นจากด้านหลัง รันหันไปมองก็พบกับเสี่ยศิวกรที่ยืนกอดอก สายตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “ใครคือ มัน ครับเสี่ย” รันเลิกคิ้วท้าทาย ท่าทางยียวนเหมือนไม่รู้สึกผิด เสี่ยศิวกรสาวเท้าเข้ามาประชิด ดวงตาคมกริบจ้องลงมาราวกับจะกลืนกิน “ภูมินทร์…” เขาเอ่ยชื่อออกมาเสียงเข้ม “คิดว่าฉันไม่เห็นเหรอว่าเมื่อกี้มันมาส่ง” รันกลืนน้ำลายลงคอ สัมผัสได้ถึงพายุอารมณ์ของคนตรงหน้า แต่ก็ยังแกล้งยิ้ม “แค่เพื่อนกันครับเสี่ย” หมับ แขนแกร่งกระชากเอวบางเข้าหา ลมหายใจร้อนเป่ารดข้างแก้ม “ถ้าเป็นแค่เพื่อน ทำไมมันต้องมองมึงแบบนั้นด้วยหลายครั้งเเล้วนะรัน” “แบบไหนครับ” รันยังคงเล่นลิ้น แต่ใจเริ่มเต้นแรงเมื่อฝ่ามือหนาเริ่มลูบไล้ต่ำลง “แบบใหนนะเหรอ อย่ามายอกย้อนกับฉันนะรันฉันจะไม่ยอมให้มันได้แม้แต่แตะต้องนาย” เสี่ยศิวกรกระซิบเสียงพร่า ก่อนจะเหวี่ยงลงบนเตียงกว้าง “เสี่ย เดี๋ยว…” “มึงต้องโดนทำโทษ” น้ำเสียงเด็ดขาด ศิวกรคร่อมทับ โน้มลงกระซิบข้างหู “ให้มึงจำเอาไว้ว่า
"พอได้แล้วรัน ดื่มเยอะไปแล้วนะ" ภูมินทร์แตะไหล่เพื่อนเบา ๆ เมื่อเห็นว่ารันกระดกแก้วเหล้าไปหลายแก้วแล้ว "ไม่เป็นไร เราดื่มไหว" รันเถียงเสียงแข็ง แต่น้ำเสียงกลับอ้อแอ้เล็กน้อย สายตารันเหลือบไปมองเสี่ยศิวกรที่ยังคงนั่งอยู่กับผู้หญิงคนนั้น แถมยังหัวเราะกันอย่างอารมณ์ดีอีก ให้ตายสิ หงุดหงิดโว้ย รันวางแก้วกระแทกลงบนโต๊ะอย่างแรง ก่อนจะลุกพรวดขึ้นยืน ตั้งใจจะเดินออกไปจากตรงนี้ แต่ขาเจ้ากรรมดันเซไปข้างหน้าแทบล้ม ดีที่มีมือหนาคว้าเอวไว้ทัน "จะไปไหน" เสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหู รันเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าเป็นเสี่ยศิวกร "ปล่อยนะ" รันดิ้น แต่เสี่ยกลับกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น "หึ... เมาขนาดนี้ จะเดินไปไหนได้" เสี่ยศิวกรโน้มหน้าลงมาใกล้ กระซิบถามข้างหู "หรือว่า... หึง" "มะ... ไม่ได้หึงสักหน่อย" รันเถียงทั้งที่แก้มแดงแจ๋ "แน่ใจเหรอ" เสี่ยศิวกรยิ้มมุมปาก "ถ้าไม่หึง ทำไมต้องดื่มขนาดนี้" "กะ... ก็แค่..." "ยอมรับมาดี ๆ สิรัน" เสี่ยกระซิบเสียงพร่า "ว่าเราหึง" รันเม้มปากแน่น ก่อนจะหลบตา "ก็ได้... หึงแล้วจะทำไม" เสี่ยศิวกรถึงกับหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะก
รันนั่งกอดอกอยู่บนโซฟา มองเสี่ยศิวกรที่กำลังนั่งคุยกับหญิงสาวคนหนึ่งอย่างสนิทสนม สายตาของเสี่ยเต็มไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ต่างจากเวลาที่อยู่กับเขาที่มีแต่ความดุและเอาแต่ใจ มือเล็กกำแก้วน้ำแน่น รู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก ตั้งแต่ที่เข้ามาในร้านอาหารหรูแห่งนี้ เสี่ยก็เอาแต่สนใจผู้หญิงคนนั้น ทั้งที่เมื่อวานยังคลั่งเขาจะตายอยู่แล้วแท้ ๆ " ทำไมหน้าบูดแบบนั้นล่ะ" เสี่ยศิวกรหันมาถามด้วยรอยยิ้มกวน ๆ รันสะดุ้งก่อนจะรีบเบือนหน้าหนี "เปล่าสักหน่อย" "แน่ใจ" เสี่ยยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะหันไปพูดกับหญิงสาวข้างกายต่อ ทำเอารันกัดปากแน่น ความรู้สึกมันแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว เขาไม่ชอบแบบนี้เลย "เสี่ยครับ ผมไม่ค่อยหิว ขอไปเดินเล่นแป๊บหนึ่งนะ" รันลุกขึ้นทำท่าจะเดินออกไป แต่ยังไม่ทันจะก้าวไปไหน เสี่ยก็คว้าข้อมือเขาไว้แน่น "ไปไหน" น้ำเสียงของเสี่ยฟังดูอารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด "ก็ไปเดินเล่นไง ผมเบื่อ" "อ้อ เบื่อ หรือหวง" เสี่ยโน้มหน้าเข้ามากระซิบข้างหู ทำเอารันสะดุ้ง "ใคร…ใครหวงกัน" "อืม หรอ…แต่หน้าบูดขนาดนี้ เหมือนเด็กกำลังหึงเลยนะ"
รันนั่งกอดอก หน้าบึ้งอยู่บนโซฟาในห้องของเสี่ยศิวกร หลังจากถูกพามาลงโทษเมื่อคืนนี้จนแทบลุกไม่ขึ้น แต่วันนี้พอมีแรงขึ้นมาหน่อย ก็ต้องมาเจอเรื่องที่ทำให้หงุดหงิดอีก สายตาของเสี่ยศิวกรที่กำลังมอง "ภูมินทร์" เพื่อนสนิทของรันมันดูผิดปกติ "เสี่ย มองเพื่อนผมแบบนั้นทำไม" รันเอ่ยถามเสียงห้วน "เพื่อน" เสี่ยศิวกรเลิกคิ้ว ก่อนจะก้าวเข้ามาใกล้ ดึงรันให้ลุกขึ้นมาแนบชิดกับอกกว้าง "แน่ใจนะว่าแค่เพื่อน" รันขมวดคิ้ว "แน่สิ เราสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก..." "สนิทขนาดไหน" เสี่ยถามเสียงเข้ม ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของรัน "ก็แค่เพื่อนจริง ๆ นะเสี่ย" รันเริ่มเหงื่อตกเมื่อเห็นเสี่ยศิวกรขมวดคิ้วแน่นขึ้นกว่าเดิม "แค่เพื่อน แต่ทำไมมันมองนายไม่เหมือนเพื่อน" เสี่ยศิวกรกดเสียงต่ำ มือที่จับเอวรันกระชับแน่นขึ้น "หรือฉันต้องทำให้ชัดเจนกว่านี้ ว่าเป็นของฉัน" รันเม้มปากแน่น ใบหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย "พูดอะไรของเสี่ย คนเยอะอยู่นะ" "แล้วไง ถ้าภูมินทร์คิดจะเป็นมากกว่าเพื่อน..." "ผมไม่ได้คิดอะไรกับมันสักหน่อย" รันโวยวาย แต่เสี่ยกลับก้มลงกระซิบข้างหูเสียงพ
รันไม่เคยคิดมาก่อนว่าการแค่เถียงเสี่ยเล่น ๆ จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ แต่ตอนนี้เขากำลังติดอยู่ในอ้อมแขนของเสี่ยศิวกร คนที่มักจะใจดีแต่ก็ขี้หวงและเอาแต่ใจอย่างร้ายกาจ "ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าดื้อ" เสี่ยศิวกรกดเสียงต่ำ สายตาคมกริบจ้องมองเด็กดื้อที่อยู่ตรงหน้า "ผมแค่...แกล้งเล่นเอง" รันเบะปากเล็กน้อยแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ ร่างสูงก็โน้มตัวลงมาหาอย่างรวดเร็ว "แกล้งเล่น หืม...งั้นก็ต้องโดนทำโทษให้รู้ว่าห้ามเล่นแบบนี้อีก" ริมฝีปากร้อนจัดกดลงมาแนบแน่นกับของเขาอย่างร้อนแรง รันเบิกตากว้างเมื่อเสี่ยไม่ยอมให้เขาได้ขัดขืน มือหนารั้งเอวเขาเข้าไปแนบชิดมากขึ้น จนรู้สึกถึงลมหายใจร้อนที่แผ่วกระซิบข้างหู "จำไว้...ว่าอย่าดื้อกับเสี่ยอีก" หัวใจของรันเต้นแรง มือเล็กพยายามผลักอกแกร่งออกแต่ไร้ประโยชน์ ความแข็งแกร่งของเสี่ยทำให้เขาติดอยู่ในกรงอ้อมแขนที่ไม่มีทางหนีรอดไปได้ "ถ้ายังดื้ออีก...ฉันจะทำมากกว่านี้" รันพยายามดิ้นหนีจากอ้อมแขนแข็งแรงของเสี่ยศิวกร แต่ยิ่งดิ้น เสี่ยก็ยิ่งกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นไปอีก "จะหนีไปไหน" เสี่ยกระซิบข้างหู เสียงทุ้มต่ำแฝงไปด้วยแร
แสงแดดอ่อน ๆ ของยามเช้าสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง รันขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะรู้สึกถึงวงแขนแกร่งที่กอดรัดเขาแน่นจากทางด้านหลัง "อือ... เสี่ย ปล่อยก่อน ผมจะไปอาบน้ำ" เสียงงัวเงียเอ่ยออกมา พลางพยายามดึงแขนแกร่งที่พาดอยู่บนเอวออก แต่แทนที่จะปล่อย เสี่ยศิวกรกลับรัดแน่นขึ้นกว่าเดิม ซุกใบหน้าหล่อเหลาลงกับซอกคอขาว "ไม่ให้ไป..." เสียงแหบพร่าดังอยู่ข้างใบหู "อยู่ตรงนี้ก่อน" รันตัวสั่นเล็กน้อยเมื่อลมหายใจอุ่นรินรดลงมาบนต้นคอ เขาหันมองคนตัวโตที่ยังคงหลับตาอยู่ แต่สัมผัสจากมือที่ไล้ไปตามผิวกายทำให้รู้ว่าเสี่ยยังตื่นเต็มตา "เสี่ย... พอแล้ว ผมเมื่อยไปหมดแล้วนะ" คนตัวเล็กขยับหนีแต่กลับถูกดึงกลับมาแนบชิดกว่าเดิม ดวงตาคมลืมขึ้นมองเขา พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ "ยังไม่พอเลย" ศิวกรกระซิบเสียงพร่า "ฉันอยากทำมากกว่านี้" รันเบิกตากว้างเมื่อจู่ ๆ ร่างก็ถูกพลิกให้นอนราบลงกับเตียง เสี่ยศิวกรกดทับลงมา มือหนาลูบไล้ไปตามแผ่นหลังเปลือยเปล่า ก่อนจะกดจูบลงบนลาดไหล่ "อ๊ะ เสี่ย เดี๋ยว... มันเช้าแล้วนะ" "แล้วยังไง" เสี่ยกระตุกยิ้ม มองเหยื่อของเขาที่หน้าแดงซ่าน "ฉันยัง
แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงทอดเงาจาง ๆ บนผนัง เสียงลมหายใจหอบกระเส่าผสมกับเสียงทุ้มต่ำของใครบางคนที่กำลังบดขยี้สัมผัสลงมาไม่หยุด "อื้อ... เสี่ย... เดี๋ยว..." รันพยายามดันอกแกร่งที่แนบชิดเข้ามา แต่เสี่ยศิวกรกลับรั้งเอวเขาไว้แน่นกว่าเดิม ริมฝีปากร้อนลากไล้ไปตามลำคอ ดูดเม้มจนเกิดรอยแดงเด่นชัด "ร้องเบา ๆ หน่อยสิรัน... หรืออยากให้คนข้างห้องได้ยิน" เสียงกระซิบแผ่วข้างใบหูทำให้รันตัวสั่น ความร้อนแผ่ซ่านไปทั่วร่าง ริมฝีปากได้รูปแสยะยิ้มพอใจเมื่อเห็นคนตัวเล็กกว่ากัดปากแน่น พยายามกลั้นเสียงของตัวเอง "อึก... เสี่ย ดะ...เดี๋ยว... อื้มม" ศิวกรจับคางของรันให้เงยหน้าขึ้น สบดวงตาหวานฉ่ำที่ไหวระริก ก่อนจะประกบริมฝีปากลงไปอย่างร้อนแรง ดูดดึงเรียวลิ้นจนรันแทบทรงตัวไม่ไหว มือเล็กจิกเข้ากับไหล่กว้าง ร่างกายร้อนฉ่าไปหมด "อย่าดื้อกับฉัน" เสี่ยกระซิบเสียงพร่า "คืนนี้... นายหนีฉันไม่พ้นแล้วรัน" แผ่นหลังของรันแนบติดกับที่นอนนุ่ม ไอร้อนที่โอบล้อม ศิวกรโน้มตัวลงมาประทับจูบอีกครั้ง ก่อนจะไล่สัมผัสลงไปช้า ๆ ราวกับกำลังลงโทษรันที่ทำให้เขาคลั่งแทบบ้า อ้อมเเขนเเข็ง