รันไม่เคยคิดมาก่อนว่าการแค่เถียงเสี่ยเล่น ๆ จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ แต่ตอนนี้เขากำลังติดอยู่ในอ้อมแขนของเสี่ยศิวกร คนที่มักจะใจดีแต่ก็ขี้หวงและเอาแต่ใจอย่างร้ายกาจ "ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าดื้อ" เสี่ยศิวกรกดเสียงต่ำ สายตาคมกริบจ้องมองเด็กดื้อที่อยู่ตรงหน้า "ผมแค่...แกล้งเล่นเอง" รันเบะปากเล็กน้อยแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ ร่างสูงก็โน้มตัวลงมาหาอย่างรวดเร็ว "แกล้งเล่น หืม...งั้นก็ต้องโดนทำโทษให้รู้ว่าห้ามเล่นแบบนี้อีก" ริมฝีปากร้อนจัดกดลงมาแนบแน่นกับของเขาอย่างร้อนแรง รันเบิกตากว้างเมื่อเสี่ยไม่ยอมให้เขาได้ขัดขืน มือหนารั้งเอวเขาเข้าไปแนบชิดมากขึ้น จนรู้สึกถึงลมหายใจร้อนที่แผ่วกระซิบข้างหู "จำไว้...ว่าอย่าดื้อกับเสี่ยอีก" หัวใจของรันเต้นแรง มือเล็กพยายามผลักอกแกร่งออกแต่ไร้ประโยชน์ ความแข็งแกร่งของเสี่ยทำให้เขาติดอยู่ในกรงอ้อมแขนที่ไม่มีทางหนีรอดไปได้ "ถ้ายังดื้ออีก...ฉันจะทำมากกว่านี้" รันพยายามดิ้นหนีจากอ้อมแขนแข็งแรงของเสี่ยศิวกร แต่ยิ่งดิ้น เสี่ยก็ยิ่งกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นไปอีก "จะหนีไปไหน" เสี่ยกระซิบข้างหู เสียงทุ้มต่ำแฝงไปด้วยแร
รันนั่งกอดอก หน้าบึ้งอยู่บนโซฟาในห้องของเสี่ยศิวกร หลังจากถูกพามาลงโทษเมื่อคืนนี้จนแทบลุกไม่ขึ้น แต่วันนี้พอมีแรงขึ้นมาหน่อย ก็ต้องมาเจอเรื่องที่ทำให้หงุดหงิดอีก สายตาของเสี่ยศิวกรที่กำลังมอง "ภูมินทร์" เพื่อนสนิทของรันมันดูผิดปกติ "เสี่ย มองเพื่อนผมแบบนั้นทำไม" รันเอ่ยถามเสียงห้วน "เพื่อน" เสี่ยศิวกรเลิกคิ้ว ก่อนจะก้าวเข้ามาใกล้ ดึงรันให้ลุกขึ้นมาแนบชิดกับอกกว้าง "แน่ใจนะว่าแค่เพื่อน" รันขมวดคิ้ว "แน่สิ เราสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก..." "สนิทขนาดไหน" เสี่ยถามเสียงเข้ม ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของรัน "ก็แค่เพื่อนจริง ๆ นะเสี่ย" รันเริ่มเหงื่อตกเมื่อเห็นเสี่ยศิวกรขมวดคิ้วแน่นขึ้นกว่าเดิม "แค่เพื่อน แต่ทำไมมันมองนายไม่เหมือนเพื่อน" เสี่ยศิวกรกดเสียงต่ำ มือที่จับเอวรันกระชับแน่นขึ้น "หรือฉันต้องทำให้ชัดเจนกว่านี้ ว่าเป็นของฉัน" รันเม้มปากแน่น ใบหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย "พูดอะไรของเสี่ย คนเยอะอยู่นะ" "แล้วไง ถ้าภูมินทร์คิดจะเป็นมากกว่าเพื่อน..." "ผมไม่ได้คิดอะไรกับมันสักหน่อย" รันโวยวาย แต่เสี่ยกลับก้มลงกระซิบข้างหูเสียงพ
รันนั่งกอดอกอยู่บนโซฟา มองเสี่ยศิวกรที่กำลังนั่งคุยกับหญิงสาวคนหนึ่งอย่างสนิทสนม สายตาของเสี่ยเต็มไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ต่างจากเวลาที่อยู่กับเขาที่มีแต่ความดุและเอาแต่ใจ มือเล็กกำแก้วน้ำแน่น รู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก ตั้งแต่ที่เข้ามาในร้านอาหารหรูแห่งนี้ เสี่ยก็เอาแต่สนใจผู้หญิงคนนั้น ทั้งที่เมื่อวานยังคลั่งเขาจะตายอยู่แล้วแท้ ๆ " ทำไมหน้าบูดแบบนั้นล่ะ" เสี่ยศิวกรหันมาถามด้วยรอยยิ้มกวน ๆ รันสะดุ้งก่อนจะรีบเบือนหน้าหนี "เปล่าสักหน่อย" "แน่ใจ" เสี่ยยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะหันไปพูดกับหญิงสาวข้างกายต่อ ทำเอารันกัดปากแน่น ความรู้สึกมันแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว เขาไม่ชอบแบบนี้เลย "เสี่ยครับ ผมไม่ค่อยหิว ขอไปเดินเล่นแป๊บหนึ่งนะ" รันลุกขึ้นทำท่าจะเดินออกไป แต่ยังไม่ทันจะก้าวไปไหน เสี่ยก็คว้าข้อมือเขาไว้แน่น "ไปไหน" น้ำเสียงของเสี่ยฟังดูอารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด "ก็ไปเดินเล่นไง ผมเบื่อ" "อ้อ เบื่อ หรือหวง" เสี่ยโน้มหน้าเข้ามากระซิบข้างหู ทำเอารันสะดุ้ง "ใคร…ใครหวงกัน" "อืม หรอ…แต่หน้าบูดขนาดนี้ เหมือนเด็กกำลังหึงเลยนะ"
"พอได้แล้วรัน ดื่มเยอะไปแล้วนะ" ภูมินทร์แตะไหล่เพื่อนเบา ๆ เมื่อเห็นว่ารันกระดกแก้วเหล้าไปหลายแก้วแล้ว "ไม่เป็นไร เราดื่มไหว" รันเถียงเสียงแข็ง แต่น้ำเสียงกลับอ้อแอ้เล็กน้อย สายตารันเหลือบไปมองเสี่ยศิวกรที่ยังคงนั่งอยู่กับผู้หญิงคนนั้น แถมยังหัวเราะกันอย่างอารมณ์ดีอีก ให้ตายสิ หงุดหงิดโว้ย รันวางแก้วกระแทกลงบนโต๊ะอย่างแรง ก่อนจะลุกพรวดขึ้นยืน ตั้งใจจะเดินออกไปจากตรงนี้ แต่ขาเจ้ากรรมดันเซไปข้างหน้าแทบล้ม ดีที่มีมือหนาคว้าเอวไว้ทัน "จะไปไหน" เสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหู รันเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าเป็นเสี่ยศิวกร "ปล่อยนะ" รันดิ้น แต่เสี่ยกลับกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น "หึ... เมาขนาดนี้ จะเดินไปไหนได้" เสี่ยศิวกรโน้มหน้าลงมาใกล้ กระซิบถามข้างหู "หรือว่า... หึง" "มะ... ไม่ได้หึงสักหน่อย" รันเถียงทั้งที่แก้มแดงแจ๋ "แน่ใจเหรอ" เสี่ยศิวกรยิ้มมุมปาก "ถ้าไม่หึง ทำไมต้องดื่มขนาดนี้" "กะ... ก็แค่..." "ยอมรับมาดี ๆ สิรัน" เสี่ยกระซิบเสียงพร่า "ว่าเราหึง" รันเม้มปากแน่น ก่อนจะหลบตา "ก็ได้... หึงแล้วจะทำไม" เสี่ยศิวกรถึงกับหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะก
ภายในคอนโดสุดหรูของเสี่ยศิวกร บรรยากาศมาคุขึ้นทันทีที่รันก้าวเข้ามา “ออกไปกับมันทำไม” เสียงทุ้มต่ำกดดันดังขึ้นจากด้านหลัง รันหันไปมองก็พบกับเสี่ยศิวกรที่ยืนกอดอก สายตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “ใครคือ มัน ครับเสี่ย” รันเลิกคิ้วท้าทาย ท่าทางยียวนเหมือนไม่รู้สึกผิด เสี่ยศิวกรสาวเท้าเข้ามาประชิด ดวงตาคมกริบจ้องลงมาราวกับจะกลืนกิน “ภูมินทร์…” เขาเอ่ยชื่อออกมาเสียงเข้ม “คิดว่าฉันไม่เห็นเหรอว่าเมื่อกี้มันมาส่ง” รันกลืนน้ำลายลงคอ สัมผัสได้ถึงพายุอารมณ์ของคนตรงหน้า แต่ก็ยังแกล้งยิ้ม “แค่เพื่อนกันครับเสี่ย” หมับ แขนแกร่งกระชากเอวบางเข้าหา ลมหายใจร้อนเป่ารดข้างแก้ม “ถ้าเป็นแค่เพื่อน ทำไมมันต้องมองมึงแบบนั้นด้วยหลายครั้งเเล้วนะรัน” “แบบไหนครับ” รันยังคงเล่นลิ้น แต่ใจเริ่มเต้นแรงเมื่อฝ่ามือหนาเริ่มลูบไล้ต่ำลง “แบบใหนนะเหรอ อย่ามายอกย้อนกับฉันนะรันฉันจะไม่ยอมให้มันได้แม้แต่แตะต้องนาย” เสี่ยศิวกรกระซิบเสียงพร่า ก่อนจะเหวี่ยงลงบนเตียงกว้าง “เสี่ย เดี๋ยว…” “มึงต้องโดนทำโทษ” น้ำเสียงเด็ดขาด ศิวกรคร่อมทับ โน้มลงกระซิบข้างหู “ให้มึงจำเอาไว้ว่า
รันตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเมื่อยล้าไปทั้งตัว ร่องรอยที่เสี่ยศิวกรฝากไว้เมื่อคืนยังคงเด่นชัดเต็มผิวเนียน ดวงตากลมโตเบิกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองคนที่ยังหลับสนิทอยู่ข้าง ๆ เมื่อคืน...รันแทบไม่ได้นอนเลย "ไอ้เสี่ยบ้า โหดชะมัด" รันกัดริมฝีปาก ก้มมองตัวเองที่เต็มไปด้วยรอยแดงแล้วก็หน้าแดงซ่าน รันค่อย ๆ ยกแขนหนักที่โอบอยู่รอบเอวออกช้า ๆ ก่อนจะขยับตัวลงจากเตียงเท่าที่จะทำได้ เสี่ยศิวกรครางฮึมฮัมในลำคอเบา ๆ ทำเอารันชะงักไปชั่วขณะ แต่พอเห็นว่าอีกฝ่ายยังไม่ตื่น เขาก็รีบหยิบเสื้อผ้าของตัวเองขึ้นมาใส่อย่างเร่งรีบ หนีตอนนี้แหละ เท้ายาว ๆ ก้าวเบา ๆ ไปทางประตู ก่อนจะค่อย ๆ บิดลูกบิด... "คิดจะไปไหน" รันสะดุ้งเฮือกก่อนจะหันกลับไปมอง เสี่ยศิวกรยังคงนอนอยู่ท่าเดิม แต่เปลือกตาคมเปิดออกเล็กน้อย แววตานิ่ง ๆ แต่เต็มไปด้วยแรงกดดัน "เอ่อ...คือ..." รันเม้มปากแน่น กำชายเสื้อตัวเองแน่น "ก็...ผมมีเรียนไง" เสี่ยศิวกรยันตัวขึ้นพิงหัวเตียง มองเด็กดื้อที่กำลังหาทางหนีด้วยรอยยิ้มเย็น ๆ "เรียนตอนบ่ายไม่ใช่เหรอ" "ก็ คือ เอ่อ " "กลับมานี่ เดี๋ยวนี
รันไม่รู้ว่าตัวเองถูกพามาที่นี่ได้ยังไง เมื่อคืนยังหนีจากเสี่ยศิวกรแทบตาย แต่พอตื่นขึ้นมาอีกที เขากลับอยู่ในงานเลี้ยงของพวกเสี่ยทั้งแก๊ง แถมโดนจับมานั่งข้างเสี่ยสหัสวิน เพื่อนสนิทของเสี่ยศิวกรอีก "เด็กของมึงน่ารักดีนี่หว่าศิวกร" เสี่ยสหัสวินเอ่ยเสียงทุ้ม ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบพลางหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้รัน "พอดีช่วงนี้กูเหงา…แบ่งให้กูเล่นด้วยหน่อยได้มั้ย" รันเบิกตากว้าง หันขวับไปมองเสี่ยศิวกรทันที แต่แทนที่เสี่ยจะโกรธหรือพูดอะไรกลับปล่อยให้เพื่อนเล่นงานเขา "ไอ้เสี่ย มึงก็พูดอะไรหน่อยดิวะ" รันตวาดเสียงขุ่น รีบขยับหนีแต่กลับถูกเสี่ยสหัสวินคว้าข้อมือเอาไว้ "ทำไมต้องหนีล่ะครับ" เสี่ยสหัสวินกระซิบชิดใบหู "หรือชอบให้เสี่ยศิวกรจับมากกว่า" รันตัวแข็ง กัดฟันแน่นจะสะบัดมือออก แต่ยิ่งดิ้น มือหนาของเสี่ยสหัสวินยิ่งรัดแน่นขึ้น "ไอ้ศิว กูขอยืมเด็กมึงสักคืนได้ป่ะ" "...หึ" เสียงหัวเราะเย็นเยียบของเสี่ยศิวกรดังขึ้นข้างตัว รันรีบหันไปมองแล้วต้องสะดุ้งกับสายตาดุกร้าวที่มองมา "มึงอยากลองดีเหรอไอ้วิน" เสี่ยสหัสวินยกยิ้มมุมปาก "ก็กูแค่แกล้งเล
รันนอนซุกอยู่ในอ้อมแขนแกร่งของเสี่ยศิวกร หลังจากค่ำคืนสุดเร่าร้อนที่อีกฝ่าย ลงโทษ เขาไปแบบจัดเต็ม แต่แทนที่เขาจะได้พักผ่อนแบบสบายใจ เสียงทุ้มของเสี่ยกลับทำให้หัวใจเขาเต้นแรงยิ่งกว่าเดิม "รัน" "หืม" "มึงอยากมีลูกไหม" "..." รันเด้งตัวขึ้นจากอกกว้างทันที ก่อนจะหันไปมองเสี่ยด้วยดวงตาตื่นตกใจ "เสี่ยพูดอะไรเนี่ย" "ก็กูอยากมีลูก" เสี่ยศิวกรพูดหน้าตาเฉย "คิดดูสิ ถ้ามีเด็กตัวเล็ก ๆ วิ่งอยู่ในบ้าน จะน่ารักขนาดใหนมึงไม่อยากเห็นเหรอ" "ไม่ ไม่เลย" รันรีบส่ายหัว "ผมยังเรียนอยู่เลยนะ" เสี่ยศิวกรยกมือขึ้นบีบแก้มรันเบา ๆ แล้วหัวเราะในลำคอ "เรียนอยู่แล้วไง กูเลี้ยงได้" "ไม่เกี่ยว ผมยังไม่พร้อม" "งั้นก็เตรียมตัวไว้ เพราะกูพร้อมแล้ว" "เสี่ย" "เอาเป็นว่าจากนี้ กูจะไม่ปล่อยให้มึงได้นอนเฉย ๆ ทุกคืนแน่" รันหน้าแดงจัด รีบคว้าหมอนมาปาใส่เสี่ย ก่อนจะมุดตัวหนีเข้าผ้าห่ม เสี่ยศิวกรหัวเราะชอบใจ ก่อนจะกระชากผ้าห่มออก แล้วก้มลงมากระซิบข้างหู "คืนนี้เริ่มกันเลยดีไหม" รันหน้าแดงก่ำเมื่อถูกเสี่ยศิวกรกระซิบ
"วาเลนไทน์ปีนี้ อยากได้กี่ดอกครับ หืม" เสียงทุ้มกระซิบข้างใบหู ก่อนที่ริมฝีปากร้อนจะกดจูบลงบนซอกคอขาว รันตัวสั่น ยกมือดันอกแกร่งของเสี่ยศิวกรออก แต่ก็ไม่อาจสู้แรงของอีกฝ่ายได้ "อึก…เสี่ย…พอแล้ว ผมเหนื่อย" ศิวกรหัวเราะในลำคอ ดวงตาคมฉายแววเจ้าเล่ห์ "ผมหมายถึงดอกกุหลาบไม่ใช่แบบนี้" รันแหวใส่ หน้าแดงจัดเมื่อเข้าใจความหมายของเสี่ยชัดเจน "หึ งั้นก็เอาทั้งกุหลาบ ทั้งดอกนี้ไปพร้อมกันเลยแล้วกัน" ไม่ทันให้ตั้งตัว ศิวกรพลิกตัวคร่อมทับ ก่อนจะเริ่มบทลงโทษที่ทำให้รันไม่ได้ออกจากห้องทั้งวัน รันดิ้นพล่านอยู่ใต้ร่างแกร่ง ดวงตากลมโตฉายแววตกใจปนเขินอาย "โอ๊ย!เสี่ย พอได้แล้ว" "ยังไม่ตอบเลยว่าจะเอากี่ดอก" เสี่ยศิวกรกระซิบเสียงพร่า รันตัวสั่นสะท้าน ใบหน้าแดงก่ำ "ผมหมายถึงดอกกุหลาบ ไม่ใช่..." "ฉันก็หมายถึงดอกกุหลาบไง" เสี่ยศิวกรหัวเราะในลำคอ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบช่อกุหลาบสีแดงสดขึ้นมา "แต่ถ้านับ ดอก ที่คิดอยู่...ก็ต้องรอดูคืนนี้แล้วล่ะ ว่าจะได้กี่ดอก" รันเม้มปากแน่น ทั้งอายทั้งขัดใจแต่ก็เถียงไม่ออก เพราะสายตาของเสี่ยมันเจ้าเล่ห์เกินต้าน
รันแอบลอบถอนหายใจเบา ๆ หลังจากอุ้มลูกน้อยจนหลับสนิท เขาเหลือบมองเสี่ยศิวกรที่นอนกอดอกมองมาเหมือนจะจับกินอยู่รอมร่อ "ไปไหนครับ" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามทันทีที่รันค่อย ๆ ย่องออกจากห้อง รันสะดุ้ง รีบส่ายหน้าแล้วหัวเราะกลบเกลื่อน "เปล๊า จะไปหาอะไรกิน" เสี่ยศิวกรหรี่ตา "ให้เสี่ยไปด้วยไหม" "ไม่ต้อง แค่หน้าปากซอยเอง" รันรีบพูดก่อนจะเดินเร็ว ๆ ออกจากห้องไป จริง ๆ แล้วเขาไม่ได้หิว แต่จะหนีไปนอนห้องอื่นต่างหากตั้งแต่คลอดลูก เสี่ยก็ดูจะหื่นขึ้นกว่าเดิมอีกสิบระดับ แล้วแบบนี้เขาจะพักผ่อนได้ยังไงกัน แต่ยังไม่ทันจะพ้นประตูคอนโด เสียงคุ้นหูก็ดังขึ้น "อ้าว รัน มาทำทำอะไรดึก ๆ" รันชะงัก หันไปมองก็เจอ เสี่ยสหัสวิน เพื่อนสนิทของศิวกร กำลังยืนพิงรถหรูมองมาอย่างสงสัย "เอ่อ…" "แอบหนีผัวเหรอ" สหัสวินถามตรง ๆ พร้อมยิ้ม รันหน้าซีด รีบส่ายหน้าปฏิเสธทันควัน "เปล่าผมแค่มาหาอะไรกิน" แต่ยังไม่ทันจะพูดจบ จู่ ๆ ก็รู้สึกถึงรังสีอำมหิตที่แผ่ซ่านจากด้านหลัง "หืม… มาหาอะไรกิน หรือจะหนีเสี่ยกันแน่ครับ รัน" เสียงทุ้มที่คุ้นเคยดังขึ้น
รันหอบหายใจแรง ฝังหน้าลงกับแผ่นอกแกร่งของเสี่ยศิวกร ขณะที่มือหนาลูบไล้แผ่นหลังของเขาไปมา "อื้ม… เสี่ย พอแล้วม..." "แง๊" เสียงร้องไห้จ้าของเจ้าตัวน้อยที่อยู่ในเปลทำให้ทั้งคู่ชะงักทันที รันรีบผละออกจากอกเสี่ย หันไปมองลูกน้อยที่กำลังดิ้นงอแง ดวงตากลมโตเอ่อคลอด้วยน้ำตา "โอ๋ ๆ ลูก หิวนมเหรอครับ" รันรีบคว้าผ้าคลุมมาห่อตัวเองก่อนจะลุกขึ้นไปอุ้มลูกน้อย เสี่ยศิวกรที่กำลังขัดใจสุด ๆ ขยี้หัวตัวเองอย่างหงุดหงิด "ให้ตายสิ ลูกพ่อเลือกเวลาตื่นเก่งจริง ๆ" รันหันกลับมาค้อนใส่ "เพราะเสี่ยไม่พักเองต่างหาก" เสี่ยหัวเราะในลำคอ มองภรรยาตัวน้อยที่กำลังกล่อมลูกด้วยสายตาหลงใหล แต่ในใจเขาคิดไว้แล้ว… คืนนี้แหละ รอให้ลูกหลับก่อนเถอะ เสี่ยจะเอาคืนให้หนักเลย "โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะครับคนเก่ง" รันโยกตัวเบา ๆ กล่อมลูกน้อยที่ยังสะอื้นอยู่ในอ้อมแขน ขณะที่เสี่ยศิวกรมองตามด้วยสายตาเซ็ง "รัน… ลูกนอนเองได้มั้ย" เสี่ยถามเสียงพร่า ดวงตาเต็มไปด้วยความต้องการที่ยังค้างอยู่ รันหันขวับ ค้อนใส่ทันที "เสี่ย นี่ลูกเสี่ยนะ จะมาขัดใจกันแบบนี้ไม่ได้" "ก็เสี่ยยังไม่หายอยาก
รันแทบไม่มีแรงแม้แต่จะลืมตา ร่างกายระบมไปหมดเพราะเมื่อคืนถูกเสี่ยศิวกรเล่นงานจนแทบไม่ได้พัก เขาพยายามขยับตัว แต่แขนแกร่งของเสี่ยกลับรั้งเขาไว้แน่น "อื้ม... เสี่ย ปล่อยผมหน่อย" รันครางเสียงแผ่ว พยายามดิ้นหนี แต่กลับถูกกอดแน่นกว่าเดิม "ยังไม่ให้ไปไหน" เสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหู "เมื่อคืนยังไม่พอ "พอแล้ว" รันเถียงทันที "เสี่ยไม่ปล่อยให้ผมพักบ้างเลย" ศิวกรหัวเราะเบา ๆ พลิกตัวขึ้นคร่อมรันไว้ มือหนาลูบไล้เอวบางอย่างอ้อยอิ่ง "ก็เสี่ยติดใจเมีย..." "ใครเมียเสี่ยกันล่ะ" รันโวยวายแต่แก้มแดงก่ำ "มีลูกด้วยกันเเล้วถ้าไม่ใช่เมียจะเรียกว่าอะไรครับ หรือจะให้ผัวคนนี้สั่งสอนเเบบจัดหนักจัดเต็มครับเมีย" "เดี๋ยว ไม่เอาแล้ว เสี่ย อื้อออ" เสียงร้องประท้วงถูกกลืนหายไปในจูบเร่าร้อนของเสี่ยศิวกร รันพยายามดิ้นหนีแต่ก็ไร้ผล ศิวกรคร่อมร่างเขาไว้แน่น ดวงตาคมกริบจ้องมองมาอย่างพอใจ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์แต้มมุมปากก่อนที่เขาจะก้มลงมากระซิบเสียงพร่า "ทำไมต้องหนีล่ะครับ หืม หรือว่าเมื่อคืนเสี่ยยังทำให้ไม่พอ" "พอแล้ว ผมจะไม่ไหวแล้วนะเสี่ย" รันโวยวาย ใบหน
รันนั่งหน้างออยู่บนเตียงหลังจากถูกเสี่ยศิวกรกอดรัดฟัดเหวี่ยงไปมา เหมือนหมาป่าหวงลูกกระต่ายตัวน้อย ๆ ที่กำลังพยายามดิ้นหนี "เสี่ย พอได้แล้ว ผมบอกว่าไม่พร้อมไง" รันโวยวายเสียงเบา กลัวจะปลุกลูกสาวที่กำลังหลับอยู่ ศิวกรยิ้มเจ้าเล่ห์ "แต่เสี่ยพร้อมแล้วนี่ครับ" เขาพูดพลางลูบแผ่นหลังบางไปมา "อีกอย่าง... ลูกเราน่ารักขนาดนี้ มีอีกสักคนจะเป็นไรไปครับ" รันหรี่ตามองเสี่ยอย่างจับผิด "ไม่ใช่ว่าอยากมีลูกหรอก เสี่ยแค่อยาก..." "อยากอะไรครับ" ศิวกรเลิกคิ้วถามอย่างท้าทาย มือหนายกขึ้นลูบแก้มรันเบา ๆ รันเม้มปากแน่นก่อนจะสะบัดหน้าหนี "เปล่า แต่ผมยังไม่พร้อมไง เสี่ยจะให้ผมอุ้มท้องอีกคนตอนนี้เลยหรือไง" "อืม... ก็น่าสนใจนะครับ" ศิวกรหัวเราะเบา ๆ แล้วขยับเข้าใกล้รันมากขึ้น "เสี่ย" รันรีบหยิบหมอนขึ้นมากันตัวเองไว้ ศิวกรหัวเราะอย่างเอ็นดู ก่อนจะกดจูบลงบนหน้าผากของรัน "โอเค ๆ ถ้ารันยังไม่พร้อม เสี่ยก็จะรอ" รันถอนหายใจอย่างโล่งอก "แต่คืนนี้ขอแบบไม่ป้องกันนะครับ" เสี่ยกระซิบเสียงพร่า ขณะจ้องมองใบหน้าที่แดงซ่านของรัน "เสี่ย" "หืม ทำหน้างอแบ
หลังจากแต่งงานกันได้ไม่นาน รันก็เริ่มท้องโตขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงวันที่ต้องลาคลอด เสี่ยศิวกรที่เคยเป็นนักธุรกิจสุดเคร่งขรึม ตอนนี้กลับกลายเป็นคุณพ่อมือใหม่เต็มตัว คอยดูแลทุกอย่างเกี่ยวกับลูก ทั้งอุ้ม กล่อมนอน เปลี่ยนผ้าอ้อม และแม้แต่ร้องเพลงกล่อมลูกก็ยังทำ ส่วนรันที่เป็นแม่แต่ยังเรียนไม่จบ ก็ต้องกลับไปเรียนตามเดิม ตอนเช้า “เสี่ย ผมไปเรียนก่อนนะ” รันพูดขึ้นขณะจัดกระเป๋านักศึกษา รันหัวเราะเบา ๆ เดินเข้าไปใกล้เสี่ยแล้วจุ๊บแก้มลูกเบา ๆ “เสี่ยเลี้ยงลูกดี ๆ นะ” เสี่ยศิวกรทำหน้าไม่พอใจ “กูเป็นพ่อของลูกนะ รันอย่ามาดูถูกกู” รันหัวเราะ “โอเค ๆ งั้นไปล่ะนะ” เสี่ยมองตามรันที่เดินออกไป ก่อนจะก้มลงมองลูกน้อยที่กำลังหลับตาพริ้ม “หึ… เมียกูไปเรียน ส่วนกูเลี้ยงลูก นี่กูเป็นเสี่ยหรือเป็นพ่อบ้านกันแน่วะ” แม้จะบ่น แต่เสี่ยศิวกรก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เพราะตอนนี้ทั้งรันและลูกคือลมหายใจของเขาทั้งหมดแล้ว หลังจากรันออกไปเรียน เสี่ยศิวกรก็นั่งมองลูกน้อยที่กำลังหลับอยู่ในเปลโยก สองมือใหญ่ลูบหัวเบา ๆ อย่างอ่อนโยน "เฮ้อ... ทำธุรกิจพันล้านยั
รันนั่งนิ่งอยู่บนเตียงในคอนโดของเสี่ยศิวกร มือเล็กกำโทรศัพท์แน่น หัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ตั้งแต่กลับมาจากโรงพยาบาล เสี่ยก็ดูแลเขาดียิ่งกว่าเดิม ทั้งคอยบังคับให้กินข้าว กำชับให้พักผ่อน และที่สำคัญ ไม่ให้เขาออกไปไหนคนเดียว รันไม่ได้รังเกียจการถูกดูแลแบบนี้ แต่เขากลัว… กลัวว่าทุกอย่างมันจะเป็นแค่ช่วงเวลาหนึ่ง "เสี่ยแค่รับผิดชอบหรือเปล่า" คำถามนี้วนเวียนอยู่ในหัวของเขาไม่หยุด แต่ยังไม่ทันที่รันจะคิดอะไรไปมากกว่านั้น ประตูห้องก็เปิดออก พร้อมกับร่างสูงของเสี่ยศิวกรที่เดินเข้ามา เขาสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว พับแขนขึ้นเล็กน้อย ทำให้ดูดี “คิดอะไรอยู่” เสี่ยทิ้งตัวนั่งลงข้าง ๆ ก่อนจะยื่นกล่องกำมะหยี่สีแดงให้รัน รันขมวดคิ้ว มองกล่องตรงหน้าด้วยความสงสัย “อะไร” เสี่ยศิวกรไม่ตอบ แต่เปิดกล่องออกมา ด้านในมีแหวนเพชรเม็ดงามวางอยู่ รันเบิกตากว้าง หัวใจแทบหยุดเต้น “เสี่ย…” เสี่ยศิวกรจับมือรันขึ้นมา มองเข้าไปในดวงตากลมโตของคนตัวเล็กด้วยแววตาจริงจัง “แต่งงานกับกูนะ” รันนิ่งไป หัวใจเต้นโครมคราม “เสี่ยพูดอะไร…” “กูอยากแต่งงานกับมึง อยากให้มึงเป
รันนั่งนิ่งอยู่ในรถ มือเรียวกำชายเสื้อแน่นจนเหงื่อเริ่มซึมออกมา เสี่ยศิวกรเหลือบมองคนตัวเล็กที่เอาแต่นั่งเงียบมาตลอดทาง ก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือรันมากุมไว้ "ทำหน้าเครียดขนาดนั้น ไม่ดีใจที่จะมีลูกกับเสี่ยเหรอ" เสี่ยถามเสียงนุ่ม รันเงยหน้ามองเสี่ย ดวงตากลมมีแววสับสน "ผมแค่...ยังทำใจไม่ได้ เสี่ยแน่ใจแล้วเหรอว่าพร้อม" เสี่ยศิวกรหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นลูบหัวรันอย่างเอ็นดู "กูพร้อมตั้งแต่วินาทีที่รู้ว่ามึงท้องแล้ว" รันเม้มปากแน่น ใจหนึ่งก็ดีใจ แต่อีกใจก็ยังกลัว เขายังเรียนไม่จบ ยังไม่ได้วางแผนอนาคตอะไรเลย แล้วอยู่ ๆ จะต้องกลายเป็นแม่คนแบบนี้… "เสี่ย…ถ้าเกิดว่าผมดูแลลูกไม่ดีล่ะ" รันพูดเสียงเบา ดวงตาฉายแววกังวล เสี่ยศิวกรหยุดรถที่ไฟแดง ก่อนจะจับมือรันแน่นขึ้น "มึงไม่ต้องดูแลคนเดียว กูอยู่ตรงนี้ กูจะดูแลมึงกับลูกเอง" "แต่…" "ไม่มีแต่ กูอยากให้มึงเชื่อใจกู" เสี่ยพูดเสียงเเน่วเเน่ รันมองสบตาเสี่ย ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ และพยักหน้าช้า ๆ "โอเค… ผมจะพยายาม" เสี่ยศิวกรยิ้ม ก่อนจะก้มลงจูบหลังมือรันเบา ๆ แล้วขับรถตรงไปยังโรงพยาบาล
รันนอนซุกอยู่ในอ้อมแขนแกร่งของเสี่ยศิวกร หลังจากค่ำคืนสุดเร่าร้อนที่อีกฝ่าย ลงโทษ เขาไปแบบจัดเต็ม แต่แทนที่เขาจะได้พักผ่อนแบบสบายใจ เสียงทุ้มของเสี่ยกลับทำให้หัวใจเขาเต้นแรงยิ่งกว่าเดิม "รัน" "หืม" "มึงอยากมีลูกไหม" "..." รันเด้งตัวขึ้นจากอกกว้างทันที ก่อนจะหันไปมองเสี่ยด้วยดวงตาตื่นตกใจ "เสี่ยพูดอะไรเนี่ย" "ก็กูอยากมีลูก" เสี่ยศิวกรพูดหน้าตาเฉย "คิดดูสิ ถ้ามีเด็กตัวเล็ก ๆ วิ่งอยู่ในบ้าน จะน่ารักขนาดใหนมึงไม่อยากเห็นเหรอ" "ไม่ ไม่เลย" รันรีบส่ายหัว "ผมยังเรียนอยู่เลยนะ" เสี่ยศิวกรยกมือขึ้นบีบแก้มรันเบา ๆ แล้วหัวเราะในลำคอ "เรียนอยู่แล้วไง กูเลี้ยงได้" "ไม่เกี่ยว ผมยังไม่พร้อม" "งั้นก็เตรียมตัวไว้ เพราะกูพร้อมแล้ว" "เสี่ย" "เอาเป็นว่าจากนี้ กูจะไม่ปล่อยให้มึงได้นอนเฉย ๆ ทุกคืนแน่" รันหน้าแดงจัด รีบคว้าหมอนมาปาใส่เสี่ย ก่อนจะมุดตัวหนีเข้าผ้าห่ม เสี่ยศิวกรหัวเราะชอบใจ ก่อนจะกระชากผ้าห่มออก แล้วก้มลงมากระซิบข้างหู "คืนนี้เริ่มกันเลยดีไหม" รันหน้าแดงก่ำเมื่อถูกเสี่ยศิวกรกระซิบ