รันตัวแข็งทื่อ หัวใจเต้นโครมครามจนแทบจะกระเด้งออกมานอกอก เขาพยายามขืนตัวถอยหนี แต่หลังติดผนังไปแล้ว จะหนีไปทางไหนก็ไม่ได้"ผมไม่ได้อ่อยเลิกพูดเรื่องนี้ผมสักจะลำคาญเเล้วนะ" รันเถียงเสียงสั่น
"แน่ใจ" ศิวกรโน้มหน้าเข้ามาใกล้อีกจนปลายจมูกแทบจะชนกัน "งั้นทำไมถึงหน้าแดง" "ผมร้อน แอร์ห้องคุณเสียหรือเปล่า" รันบ่ายเบี่ยง แต่ในใจรู้ดีว่ามันไม่เกี่ยวกับแอร์เลยสักนิด ศิวกรยกยิ้มมุมปาก มือหนาลูบไล้ปลายคางของรันเบา ๆ สัมผัสนั้นทำให้รันสะดุ้ง"ดะ...เดี๋ยวสิ" "อะไร" "คุณจะทำอะไรผม" ศิวกรหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะกระซิบเสียงพร่า "อยากรู้เหรอ" รันรีบส่ายหัวแรง ๆ "ไม่อยากรู้ไม่ต้องบอก แล้วก็ปล่อยผมเดี๋ยวนี้เลย" แต่แทนที่ศิวกรจะปล่อย เขากลับใช้แขนทั้งสองข้างกักรันเอาไว้ ริมฝีปากหยักได้รูปกระตุกยิ้มขบขัน" ไม่ยอมหนีก็ดีแล้ว " "เดี๋ยวผมไม่ได้หมายความว่า" "ก็อยู่ให้ฉันจับกินซะดี ๆ รัน" รันอ้าปากค้าง รู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของศิวกรที่เป่ารดอยู่ข้างแก้ม หัวใจของเขาเต้นโครมคราม มือกำเข้าหากันแน่นศิวกรยกยิ้มมุมปาก ดวงตาคมกริบฉายแววพอใจที่เห็นเด็กดื้อเริ่มทำตัวไม่ถูก"ทำอะไรน่า..." รันกัดริมฝีปากแน่น รู้สึกว่าตัวเองตกหลุมพรางของเสี่ยเข้าเต็ม ๆ ศิวกรโน้มหน้าเข้ามาใกล้อีกจนรันต้องรีบยกมือขึ้นมาดันอกแกร่งเอาไว้ "ดะ...เดี๋ยวก่อนสิ" "หืม มีอะไรอีก" "ผมยังไม่พร้อม" รันเผลอหลุดปากออกไปแล้วหน้าแดงวาบ ศิวกรเลิกคิ้วมอง ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ "งั้นเหรอ แต่หน้าตานายดูเหมือนกำลังรอให้ฉันทำอะไรสักอย่างอยู่นะ" "ใครบอก ไม่มี๊" รันรีบส่ายหัวแรง ๆ ศิวกรมองเด็กดื้อที่พยายามปฏิเสธทั้งที่หน้าแดงเป็นลูกตำลึง ก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบแก้มเนียนเบา ๆ"เอาเถอะ... ยังไงนายก็หนีฉันไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว" รันตัวเกร็ง "หมายความว่ายังไง" ศิวกรยักไหล่ "ก็หมายความตามนั้น ฉันจะทำให้นายอยู่ข้าง ๆ ฉันไปตลอด" "เดี๋ยว คุณพูดแบบนี้หมายความว่าไง" "ไม่บอก" ศิวกรยิ้มกริ่ม ก่อนจะคว้ามือรันมากุมไว้แน่น "แต่เดี๋ยวอีกไม่นานนายก็จะรู้เอง" รันหัวใจเต้นรัวเขาพยายามดึงมือตัวเองออกจากการกอบกุมแต่เสี่ยกลับยึดไว้แน่น แถมยังใช้นิ้วโป้งลูบหลังมือเบา ๆ จนรันขนลุกวาบ "ปล่อย" "ไม่ปล่อย" "คุณจะมากำหนดชีวิตผมไม่ได้" รันพยายามทำเสียงแข็งกระด้าง แต่ดวงตาคมกริบของเสี่ยกลับทำให้เขาหัวใจสั่น ศิวกรโน้มหน้าเข้ามาใกล้ ก่อนจะกระซิบเบา ๆ ข้างหู "ฉันไม่ได้กำหนด... แค่อยากให้นายรู้ ว่าต่อจากนี้นายเป็นของฉันวันนี้เเละตลอดไป" รันเบิกตา รีบถอยหลังหนีแต่กลับลืมไปว่าตัวเองติดผนังอยู่ พอรู้ตัวอีกที เสี่ยศิวกรก็เอื้อมมือมาค้ำกับผนัง กักเขาไว้ในอ้อมแขน "ละ...แล้วถ้าผมไม่อยากเป็นล่ะ" "ก็ลองดูว่านายจะหนีฉันได้จริง ๆ ไหม" ศิวกรพูดจบก็โน้มหน้าลงมาใกล้กว่าเดิม รันรีบหลับตาปี๋ แต่แล้ว ปิ๊งป่อง~ เสียงกริ่งหน้าห้องดังขึ้น ทำให้บรรยากาศเมื่อครู่พังลงทันทีรันรีบผลักอกเสี่ยศิวกรเต็มแรง ก่อนจะกระโดดถอยห่างไปอีกฝั่งของห้อง ศิวกรมองรันที่ทำหน้าตาตื่น ก่อนจะถอนหายใจอย่างขัดใจ " ถือว่านายโชคดี" รันไม่ได้สนใจฟังอะไรทั้งนั้น เพราะตอนนี้เขาแค่รู้สึกว่าต้องรีบหาโอกาสหนีออกไปจากที่นี่ให้ได้แต่เสี่ยศิวกรน่ะเหรอ... คิดเหรอว่าเขาจะปล่อยให้รันหนีไปง่าย ๆ เขาเดินไปเปิดประตูอย่างไม่รีบร้อน ส่วนรันก็ยืนกอดอกห่างออกไปเล็กน้อย ทำตัวเหมือนไม่สนใจแต่จริง ๆ แอบเงี่ยหูฟังว่าใครมากดกริ่ง เมื่อประตูเปิดออก ชายในชุดสูทสีดำก็ยืนอยู่หน้าห้อง ดวงตาเรียบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความเคร่งขรึม "เสี่ย ผมเอาของที่สั่งมาให้ครับ" จอม บอดี้การ์ดคู่ใจของศิวกร กล่าวพร้อมยื่นถุงกระดาษให้ ศิวกรรับมา เปิดดูครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า "อืม ขอบใจมาก ฝากเก็บรถด้วย" "ครับ" หลังจากนั้นศิวกรก็ปิดประตู หันกลับมามองรันที่ยืนทำหน้าสงสัย "อะไร" รันถามพลางชี้ถุงในมือเสี่ย ศิวกรยกยิ้มบางก่อนจะเดินเข้ามาหา "ของสำคัญ" "ของสำคัญ" รันเลิกคิ้ว ศิวกรมองรันนิ่ง ๆ ก่อนจะพยักหน้า "อืม ใช่ของสำคัญ" รันมองอย่างไม่ไว้ใจ "ของสำคัญอะไร" ศิวกรไม่ได้ตอบอะไร แต่กลับเดินเข้าไปในครัว รันขมวดคิ้วมองตาม สักพัก เสี่ยก็เดินกลับออกมาพร้อมกับแก้วน้ำหนึ่งใบ แล้วยื่นให้รัน "ดื่มซะ" "ทำไมผมต้องดื่มด้วย" ศิวกรยิ้มมุมปาก "ทำไม นายกลัวที่จะดื่มน้ำจากฉันงั้นเหรอ" "ผมไม่ได้กลัว" รันเถียง ก่อนจะรับแก้วน้ำมา พิจารณาดูว่าเสี่ยจะเล่นอะไรอีก "ถ้ากลัวว่าฉันจะวางยา ก็ไม่ต้องดื่มก็ได้" ศิวกรพูดเสียงเรียบ ทำเหมือนไม่ได้สนใจ รันเม้มปากแน่น คำพูดนั้นเหมือนเป็นการท้าทายเขาทางอ้อม "ใครว่า ผมไม่ได้กลัวอะไรทั้งนั้น" แล้วรันก็กระดกน้ำดื่มเข้าไปจนหมดแก้ว ก่อนจะวางลงบนโต๊ะเสียงดัง "เห็นไหม ใครว่าผมไม่กล้า ไม่เห็นมีอะไรสักหน่อย" ศิวกรหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะเดินเข้ามาหยุดตรงหน้า"ก็ดี..." เขาก้มลงมากระซิบที่ข้างหู "คืนนี้จะได้หลับสบายหน่อย" รัน คิ้วขมวดเข้าหากันทันที"เดี๋ยวนะ... นี่คุณให้ผมดื่มอะไร" ศิวกรไม่ตอบ แต่ยกยิ้มพอใจ ก่อนจะก้มลงกระซิบอีกครั้ง" เพราะคืนนี้นายต้องอยู่ที่นี่ทั้งคืน" รันหัวใจเต้นรัวอย่างหวาดระแวงเริ่มร้อนรนเมื่อคิดได้ว่าเขาเพิ่งดื่มน้ำจากมือของเสี่ยศิวกรไป แถมอีกฝ่ายยังพูดกำกวมเหมือนวางแผนอะไรบางอย่างไว้แล้ว ศิวกรยกยิ้มมุมปาก ดวงตาคมกริบฉายแววเจ้าเล่ห์ "วิตามินช่วยให้หลับสบาย" "วิตามิน หรือยานอนหลับกันเเน่" รันเบิกตากว้าง "ใครเขาให้วิตามินคนอื่นแบบนี้กันล่ะ" "ก็ฉันไง" "นี่มันบังคับกันชัด ๆ" รันพยายามจะก้าวถอยหลัง แต่ศิวกรก็ไวกว่า เขาคว้าข้อมือของรันไว้ก่อนจะดึงเข้ามาใกล้จนแทบจะแนบชิดกัน"เลิกดื้อสักทีเถอะรัน" น้ำเสียงทุ้มต่ำนั่นฟังดูไม่ใช่แค่คำสั่ง แต่มันเต็มไปด้วยความเอาแต่ใจแบบเสี่ยที่ต้องได้ทุกอย่างตามที่ต้องการ "ผมไม่ได้ดื้อ แต่คุณมัน..."รันยังพูดไม่ทันจบก็รู้สึกเหมือนหัวเริ่มหนักขึ้น ร่างกายอ่อนแรงอย่างรวดเร็ว"หืม... ทำไมรู้สึกง่วงแปลก ๆ" ศิวกรมองเด็กดื้อที่เริ่มโอนเอนแล้วหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะช้อนตัวอีกฝ่ายขึ้นมาแนบอก "ก็บอกแล้วว่าเป็นวิตามินช่วยให้หลับสบาย" รันพยายามดิ้น แต่สติเริ่มพร่าเลือน "คุณ... มัน... เสี่ย..." "ไม่ต้องพูดแล้ว หลับไปเด็กดี" สิ่งสุดท้ายที่รันจำได้ก่อนที่สติจะดับวูบ คือสัมผัสอุ่น ๆ ที่หน้าผากแสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านผ้าม่านเข้ามากระทบเปลือกตาของรัน ทำให้เขาค่อย ๆ ขยับตัวอย่างงัวเงีย รู้สึกได้ถึงความนุ่มของเตียงที่แตกต่างจากหอพักเก่า ๆ ของตัวเอง "อืม..."เขาพลิกตัวไปอีกทาง แต่แล้วก็ชนเข้ากับอะไรบางอย่างที่อุ่นก่อนจะลืมตาขึ้นช้า ๆ แล้วพบว่าเสี่ยศิวกรกำลังนอนตะแคงมองเขาอยู่ก่อนแล้ว "ตื่นแล้วเหรอ" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้น "คุณ... นอนอยู่ตรงนี้ทำไม" รันดีดตัวลุกขึ้นนั่งทันที ใบหน้าร้อนวูบเมื่อสังเกตเห็นว่าเขายังอยู่ในเสื้อผ้าชุดเดิมจากเมื่อคืน แต่ที่น่าตกใจคือเสี่ยอยู่ในสภาพที่หล่อเหลาแต่ดูเซ็กซี่เกินไป เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกปลดกระดุมออกเล็กน้อย เผยให้เห็นแผ่นอกกว้าง "นี่มันอะไรกัน" รันถามเสียงสูง ศิวกรหัวเราะเบา ๆ "ก็แค่นอนเฉย ๆ" "ใครเขานอนเตียงเดียวกันกับคนอื่นแบบนี้กันล่ะ" เสี่ยยกคิ้ว "คนเป็นแฟนกันไง" "ใครแฟนคุณ" "อีกไม่นานก็จะเป็น" "บ้าไปแล้ว" รันรีบถอยหลังหนีจนชิดขอบเตียง "ผมจะกลับหอ" แต่พอขยับตัวลงจากเตียง ศิวกรก็ดึงแขนเขาไว้ "ไปไหน" "กลับหอไง" "ไม่ให้ไป" "นี่คุณเป็นอะไร" ศิวกรจ้องรันนิ
รันนั่งกอดอกอยู่บนเตียง มองถาดอาหารตรงหน้าด้วยสีหน้าบึ้งตึง แม้ท้องจะเริ่มร้องประท้วง แต่เขาก็ยังมีทิฐิ "คิดจะกักขังผมไว้แล้วเอาอาหารมาล่อเหรอฝันไปเถอะ"แต่สุดท้ายกลิ่นหอม ๆ ของอาหารก็ทำให้เขาต้องถอนหายใจแรง ๆ แล้วหยิบช้อนขึ้นมาตักเข้าปาก "อร่อย... อร่อยมากให้ตายเถอะ คนแก่ขี้หวงนี่มีฝีมือทำอาหารดีเหมือนกัน" รันกินไปบ่นไป แต่ก็ไม่ทันรู้ตัวว่าทานจนหมดถาดแล้ว ก๊อก ก๊อก ก๊อก ~เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนที่บานประตูจะเปิดออกโดยไม่รอให้เจ้าของห้องอนุญาต และแน่นอน คนที่เดินเข้ามาก็คือเสี่ยศิวกร ในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำแขนพับขึ้นเล็กน้อย ทำให้มองเห็นข้อมือแข็งแกร่งที่สวมเรือนนาฬิการาคาแพง "อิ่มไหมยังมีอีกเยอะเลยนะในครัวฉันทำเพื่อไว้กลัวนายไม่อิ่ม" เสียงทุ้มเอ่ยถาม รันเบือนหน้าหนี ไม่อยากมอง"อิ่มสิ หิวก็ต้องกิน จะปล่อยให้ตัวเองอดตายรึไง" ศิวกรกระตุกยิ้มมุมปาก เดินเข้ามาใกล้ก่อนจะนั่งลงบนเตียงข้าง ๆ รัน ทำเอาคนตัวเล็กสะดุ้งรีบขยับหนี "อะไรของคุณ" " ทำไมต้องหนีด้วยนายหนีฉันบ่อยเกินไปเเล้วนะ" "ก็คุณมันอันตราย" ศิวกรโน้มตัวเข้าไปใ
ศิวกรเอนตัวพิงพนักโซฟา ดวงตาคมจ้องมองแก้วไวน์ในมือพลางนึกถึงใบหน้าดื้อ ๆ ของใครบางคน"เฮ้อ..." ตั้งแต่เจอรัน เขารู้สึกเหมือนตัวเองเปลี่ยนไป จากที่เคยเย็นชา ไม่สนใจใคร ตอนนี้กลับมาคอยคิดถึงแต่เด็กดื้อคนนั้นตลอดเวลา "ให้ตายสิ..." ศิวกรพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะยกไวน์ขึ้นจิบ "คิดอะไรอยู่?" เสียงทุ้มของเสี่ยสหัสวินดังขึ้น เขาทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามพร้อมกับมองหน้าเพื่อนสนิท "ไม่มีอะไร" ศิวกรตอบเสียงเรียบ สหัสวินยกคิ้วขึ้น "อย่ามาโกหก เห็นนั่งถอนหายใจแบบนี้มากี่ครั้งแล้ว ตั้งแต่มีเด็กคนนั้นเข้ามา" ศิวกรเหลือบตามองเพื่อน ก่อนจะวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะ "ฉันไม่ได้ถอนหายใจ" "หรอ แล้วเมื่อกี้ที่ถอนหายใจล่ะ" ศิวกรชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะปรายตามองสหัสวิน "พูดมาก" สหัสวินหัวเราะ "ยอมรับเถอะว่าหลงเด็กนั่นจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว" ศิวกรไม่ตอบอะไร เพียงแต่หันหน้าหนีไปอีกทาง ท่าทางเหมือนคนกำลังปฏิเสธความจริง "ถึงขนาดมานั่งคิดถึงเขาตอนอยู่กับเพื่อนแบบนี้ ไม่เรียกว่าหลงก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วว่ะ" สหัสวินแซวขำ ๆ ศิวกรถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะยกไวน์
รันนั่งกอดอก มองศิวกรที่นั่งจ้องหน้าตัวเองไม่วางตา"โอ๊ย เสี่ย มองอะไรนักหนาเนี่ย" "มองเมียผิดตรงไหน"ศิวกรเอ่ยเสียงเรียบ "เมียใครเมียเสี่ย เพ้อเจ้อ" รันแทบจะเอาหมอนฟาดหน้า แต่ศิวกรกลับยกมือขึ้นมาจับข้อมือไว้ก่อน "พูดมาก เดี๋ยวจูบปิดปากซะเลย" "ไอ้เสี่ยบ้า" รันดึงมือกลับ แต่ใบหน้า กลับร้อนวูบวาบแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร โทรศัพท์ของรันก็ดังขึ้น ภูมินทร์แค่เห็นชื่อที่โชว์บนหน้าจอ ศิวกรก็หรี่ตาลงทันที รันกดรับสาย "ว่าไง" "เฮ้ย ไอ้รัน คืนนี้ไปกินหมูกระทะกันไหม กูเลี้ยง" "จริงดิ เอาดิเอาดิ" ศิวกรขมวดคิ้ว เสียงเข้มขึ้น"รัน ไม่ไป" รันหันขวับมามองเสี่ย "เสี่ยจะมายุ่งอะไรด้วยเนี่ย" "ฉันบอกว่าไม่ไป" รันเบะปากก่อนจะพูดใส่โทรศัพท์ "เดี๋ยวกูโทรกลับนะ" แล้วก็ตัดสายทิ้ง "เสี่ย นี่มันเรื่องของผมนะ" "เรื่องของนายก็คือเรื่องของฉัน" ศิวกรตอบหน้าตาเฉย แต่แววตานั้นกลับเต็มไปด้วยความหึงหวง รันถอนหายใจเฮือก "โห... เสี่ยนี่มันขี้หึงจริงว่ะ" "ฉันไม่ได้แค่หึงธรรมดา ฉันหวงมากด้วย" "..." "แล้วถ้านายทำให้ฉั
ศิวกรมองรันที่กำลังนั่งกินขนมอยู่บนโซฟาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์เด็กนี่... ทำไมถึงน่ารักขนาดนี้วะริมฝีปากเล็ก ๆ นั่นที่กำลังงับขนมเข้าปาก ไหนจะแก้มที่พองออกมาเหมือนกระต่ายตัวจิ๋ว ยิ่งมองก็ยิ่งใจสั่น รันเงยหน้าขึ้นมาเจอสายตาของเสี่ยพอดี "เสี่ยมองอะไรครับ" ศิวกรกระแอมเล็กน้อย พยายามเก็บอาการ "เปล่า" "แล้วทำหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่" รันถามพลางเคี้ยวขนมตุ้ย ๆ ศิวกรมองริมฝีปากนั่นแล้วเผลอกลืนน้ำลาย "อย่ากินไปคุยไป สำลักขึ้นมาจะทำยังไง" รันกลอกตา "เสี่ยนี่ขี้บ่นจัง" ศิวกรถอนหายใจ เขากำลังจะบอกให้รันเลิกกินแล้วไปล้างหน้าล้างตา แต่ยังไม่ทันจะพูด เจ้าตัวเล็กก็ดันยื่นขนมมาให้ "อ้าปากสิ เดี๋ยวป้อน" ศิวกรชะงักไปเล็กน้อย "ฉันกินเองได้" "ก็อยากป้อนไง อ้าปากเร็ว" รันจิ้มขนมไปที่ริมฝีปากของ ศิวกรเขามองหน้าเด็กดื้อก่อนจะถอนหายใจแล้วอ้าปากรับ ให้ตายเถอะ ทำไมแค่นี้ถึงทำให้เขาใจบางได้ขนาดนี้ รันยิ้มกว้าง "เห็นไหม ป้อนเสี่ยก็ได้ด้วย" ศิวกรมองเด็กดื้อที่นั่งยิ้มหวานอยู่ตรงหน้า ก่อนจะยื่นมือไปบีบแก้มเบา ๆ "ถ้าจะอ่อยกันขนาดนี้ รับผ
รันยืนอยู่ข้างกระจกในห้องนอนของเสี่ยศิวกร กำลังจัดเสื้อผ้าในตู้ที่เสี่ยให้เขามาไว้ใช้ในช่วงนี้ เขาสูดหายใจลึก รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกลากไปในเกมที่ตัวเองไม่เคยอยากเล่น แต่ไม่รู้ทำไมยิ่งอยู่ใกล้เสี่ยศิวกร ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนหัวใจตัวเองกำลังจะชอบเสี่ยขึ้นมา "ทำไม... ทำไมต้องทำให้ฉันรู้สึกแบบนี้ด้วย" รันกระซิบกับตัวเอง ทันใดนั้น เสี่ยศิวกรก็เปิดประตูเข้ามาในห้อง รันหันไปมองอย่างตกใจ "เสี่ย" "ทำอะไรอยู่" เสี่ยศิวกรถามเสียงทุ้มขณะยืนอยู่ที่กรอบประตู "กะ... กำลังจัดของอยู่น่ะครับ" รันรีบเอามือปิดตู้เสื้อผ้า เขาไม่รู้ว่าทำไมแต่พอเห็นเสี่ยยืนมองอยู่เขาก็รู้สึกไม่สบายใจ "จัดของเหรอ" ศิวกรขยับเข้ามาใกล้ ๆ มองที่ตู้เสื้อผ้าแล้วก็ยิ้มเบา ๆ "ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ได้จะจับผิดอะไรหรอก" รันหันกลับไปมองศิวกรที่ยืนมองเขาอยู่ใกล้เกินไป รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังหมุน "เสี่ย..." รันเรียกชื่ออย่างลังเล ศิวกรยิ้มกว้าง "ทำไม นายดูเหมือนกลัวอะไรบางอย่าง" "ไม่... ไม่ใช่ครับ" รันรีบเดินหนีไปที่มุมห้อง รู้สึกเหมือนหัวใจมันจะหยุดเต้น
รันไม่เข้าใจเลยว่าตัวเองทำอะไรผิดไป แค่คุยเล่นกับเพื่อนเฉย ๆ แต่ทำไมเสี่ยศิวกรถึงได้มองเขาด้วยสายตาดุ ๆ แบบนั้น "รัน... ใครให้นายไปหัวเราะกับไอ้หมอนั่น" เสียงทุ้มต่ำดังขึ้น รันเงยหน้าขึ้นสบตากับเสี่ยศิวกรที่ยืนกอดอกอยู่ข้างหลัง สีหน้าไม่ค่อยพอใจนัก "อ้าว เสี่ย... ผมก็คุยกับภูมินทร์แค่เรื่องทั่ว ๆ ไปเองนะครับ" รันพูดอย่างไม่เข้าใจ "เรื่องทั่ว ๆ ไป" เสี่ยศิวกรเลิกคิ้ว ก่อนจะเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้ารัน "แล้วทำไมต้องยิ้มขนาดนั้น" รันกระพริบตาปริบ ๆ แล้วหัวเราะออกมา "เสี่ยครับ แค่ยิ้มมันผิดตรงไหน" "ผิดตรงที่ไม่ควรยิ้มให้ใครนอกจากฉัน" เสี่ยพูดเสียงเข้มพลางขยับเข้ามาใกล้รันมากขึ้น จนรันต้องถอยหลัง " เสี่ย... ผมก็ต้องมีเพื่อนมีสังคมบ้างสิ" รันพูดติดขำ แต่พอเห็นแววตาของเสี่ยที่ดูจริงจังขึ้นเรื่อย ๆ ก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองน่าจะอยู่ในสถานการณ์อันตราย เสี่ยศิวกรไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่จับข้อมือของรันแน่น ก่อนจะดึงเข้าไปใกล้แล้วกระซิบเสียงต่ำข้างหู "ถ้านายอยากมีเพื่อนนัก ฉันจะให้เวลานายคิดใหม่..." รันขมวดคิ้ว "หมายความว่าไงครับ" เสี่ยยกย
รันเดินหน้าบึ้งเข้ามาในห้อง เสี่ยศิวกรที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟามองเด็กดื้อของตัวเองก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น "อะไร ทำหน้าแบบนี้ใส่ฉันหมายความว่ายังไง" รันเท้าเอว หรี่ตามองเสี่ย "เสี่ยส่งคนไปตามผมที่มหาลัยอีกแล้วใช่ไหม" เสี่ยศิวกรยกยิ้มมุมปาก "แล้วไง นายหายไปทั้งวัน ฉันก็ต้องรู้ว่าอยู่ไหน" "ผมไปเรียนครับ ไม่ได้ไปไหนสักหน่อย" รันเถียงกลับ "แถมเพื่อนผมยังมาถามอีกว่า ผมเป็นเมียนักเลงหรือไง ถึงมีลูกน้องมาตามเฝ้า" เสี่ยศิวกรหัวเราะในลำคอ ดวงตาเต็มไปด้วยความพอใจ "แล้วนายตอบว่าไงล่ะ" "ผมบอกว่าเสี่ยเป็นคนบ้า" รันเชิดหน้าใส่ เสี่ยศิวกรหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าไปหารันช้า ๆ "หึ... ฉันเป็นบ้า" เสียงทุ้มเอ่ยช้า ๆ ก่อนจะใช้แขนขวางไม่ให้รันหนีไปไหนได้ "ก็ใช่ ฉันมันบ้า... บ้าหวงนายไง" รันกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่ สายตาคมกริบของเสี่ยทำให้เขาเผลอถอยหลังไปนิดหนึ่ง แต่เสี่ยกลับก้าวตามมาเรื่อย ๆ "เสี่ย... เดี๋ยวสิ..." "ฉันเตือนแล้วนะ... ว่าอย่าทำให้ฉันหวงมาก" เสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหู ก่อนที่ร่างสูงจะกดรันติดกับผนัง รั
"วาเลนไทน์ปีนี้ อยากได้กี่ดอกครับ หืม" เสียงทุ้มกระซิบข้างใบหู ก่อนที่ริมฝีปากร้อนจะกดจูบลงบนซอกคอขาว รันตัวสั่น ยกมือดันอกแกร่งของเสี่ยศิวกรออก แต่ก็ไม่อาจสู้แรงของอีกฝ่ายได้ "อึก…เสี่ย…พอแล้ว ผมเหนื่อย" ศิวกรหัวเราะในลำคอ ดวงตาคมฉายแววเจ้าเล่ห์ "ผมหมายถึงดอกกุหลาบไม่ใช่แบบนี้" รันแหวใส่ หน้าแดงจัดเมื่อเข้าใจความหมายของเสี่ยชัดเจน "หึ งั้นก็เอาทั้งกุหลาบ ทั้งดอกนี้ไปพร้อมกันเลยแล้วกัน" ไม่ทันให้ตั้งตัว ศิวกรพลิกตัวคร่อมทับ ก่อนจะเริ่มบทลงโทษที่ทำให้รันไม่ได้ออกจากห้องทั้งวัน รันดิ้นพล่านอยู่ใต้ร่างแกร่ง ดวงตากลมโตฉายแววตกใจปนเขินอาย "โอ๊ย!เสี่ย พอได้แล้ว" "ยังไม่ตอบเลยว่าจะเอากี่ดอก" เสี่ยศิวกรกระซิบเสียงพร่า รันตัวสั่นสะท้าน ใบหน้าแดงก่ำ "ผมหมายถึงดอกกุหลาบ ไม่ใช่..." "ฉันก็หมายถึงดอกกุหลาบไง" เสี่ยศิวกรหัวเราะในลำคอ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบช่อกุหลาบสีแดงสดขึ้นมา "แต่ถ้านับ ดอก ที่คิดอยู่...ก็ต้องรอดูคืนนี้แล้วล่ะ ว่าจะได้กี่ดอก" รันเม้มปากแน่น ทั้งอายทั้งขัดใจแต่ก็เถียงไม่ออก เพราะสายตาของเสี่ยมันเจ้าเล่ห์เกินต้าน
รันแอบลอบถอนหายใจเบา ๆ หลังจากอุ้มลูกน้อยจนหลับสนิท เขาเหลือบมองเสี่ยศิวกรที่นอนกอดอกมองมาเหมือนจะจับกินอยู่รอมร่อ "ไปไหนครับ" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามทันทีที่รันค่อย ๆ ย่องออกจากห้อง รันสะดุ้ง รีบส่ายหน้าแล้วหัวเราะกลบเกลื่อน "เปล๊า จะไปหาอะไรกิน" เสี่ยศิวกรหรี่ตา "ให้เสี่ยไปด้วยไหม" "ไม่ต้อง แค่หน้าปากซอยเอง" รันรีบพูดก่อนจะเดินเร็ว ๆ ออกจากห้องไป จริง ๆ แล้วเขาไม่ได้หิว แต่จะหนีไปนอนห้องอื่นต่างหากตั้งแต่คลอดลูก เสี่ยก็ดูจะหื่นขึ้นกว่าเดิมอีกสิบระดับ แล้วแบบนี้เขาจะพักผ่อนได้ยังไงกัน แต่ยังไม่ทันจะพ้นประตูคอนโด เสียงคุ้นหูก็ดังขึ้น "อ้าว รัน มาทำทำอะไรดึก ๆ" รันชะงัก หันไปมองก็เจอ เสี่ยสหัสวิน เพื่อนสนิทของศิวกร กำลังยืนพิงรถหรูมองมาอย่างสงสัย "เอ่อ…" "แอบหนีผัวเหรอ" สหัสวินถามตรง ๆ พร้อมยิ้ม รันหน้าซีด รีบส่ายหน้าปฏิเสธทันควัน "เปล่าผมแค่มาหาอะไรกิน" แต่ยังไม่ทันจะพูดจบ จู่ ๆ ก็รู้สึกถึงรังสีอำมหิตที่แผ่ซ่านจากด้านหลัง "หืม… มาหาอะไรกิน หรือจะหนีเสี่ยกันแน่ครับ รัน" เสียงทุ้มที่คุ้นเคยดังขึ้น
รันหอบหายใจแรง ฝังหน้าลงกับแผ่นอกแกร่งของเสี่ยศิวกร ขณะที่มือหนาลูบไล้แผ่นหลังของเขาไปมา "อื้ม… เสี่ย พอแล้วม..." "แง๊" เสียงร้องไห้จ้าของเจ้าตัวน้อยที่อยู่ในเปลทำให้ทั้งคู่ชะงักทันที รันรีบผละออกจากอกเสี่ย หันไปมองลูกน้อยที่กำลังดิ้นงอแง ดวงตากลมโตเอ่อคลอด้วยน้ำตา "โอ๋ ๆ ลูก หิวนมเหรอครับ" รันรีบคว้าผ้าคลุมมาห่อตัวเองก่อนจะลุกขึ้นไปอุ้มลูกน้อย เสี่ยศิวกรที่กำลังขัดใจสุด ๆ ขยี้หัวตัวเองอย่างหงุดหงิด "ให้ตายสิ ลูกพ่อเลือกเวลาตื่นเก่งจริง ๆ" รันหันกลับมาค้อนใส่ "เพราะเสี่ยไม่พักเองต่างหาก" เสี่ยหัวเราะในลำคอ มองภรรยาตัวน้อยที่กำลังกล่อมลูกด้วยสายตาหลงใหล แต่ในใจเขาคิดไว้แล้ว… คืนนี้แหละ รอให้ลูกหลับก่อนเถอะ เสี่ยจะเอาคืนให้หนักเลย "โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะครับคนเก่ง" รันโยกตัวเบา ๆ กล่อมลูกน้อยที่ยังสะอื้นอยู่ในอ้อมแขน ขณะที่เสี่ยศิวกรมองตามด้วยสายตาเซ็ง "รัน… ลูกนอนเองได้มั้ย" เสี่ยถามเสียงพร่า ดวงตาเต็มไปด้วยความต้องการที่ยังค้างอยู่ รันหันขวับ ค้อนใส่ทันที "เสี่ย นี่ลูกเสี่ยนะ จะมาขัดใจกันแบบนี้ไม่ได้" "ก็เสี่ยยังไม่หายอยาก
รันแทบไม่มีแรงแม้แต่จะลืมตา ร่างกายระบมไปหมดเพราะเมื่อคืนถูกเสี่ยศิวกรเล่นงานจนแทบไม่ได้พัก เขาพยายามขยับตัว แต่แขนแกร่งของเสี่ยกลับรั้งเขาไว้แน่น "อื้ม... เสี่ย ปล่อยผมหน่อย" รันครางเสียงแผ่ว พยายามดิ้นหนี แต่กลับถูกกอดแน่นกว่าเดิม "ยังไม่ให้ไปไหน" เสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหู "เมื่อคืนยังไม่พอ "พอแล้ว" รันเถียงทันที "เสี่ยไม่ปล่อยให้ผมพักบ้างเลย" ศิวกรหัวเราะเบา ๆ พลิกตัวขึ้นคร่อมรันไว้ มือหนาลูบไล้เอวบางอย่างอ้อยอิ่ง "ก็เสี่ยติดใจเมีย..." "ใครเมียเสี่ยกันล่ะ" รันโวยวายแต่แก้มแดงก่ำ "มีลูกด้วยกันเเล้วถ้าไม่ใช่เมียจะเรียกว่าอะไรครับ หรือจะให้ผัวคนนี้สั่งสอนเเบบจัดหนักจัดเต็มครับเมีย" "เดี๋ยว ไม่เอาแล้ว เสี่ย อื้อออ" เสียงร้องประท้วงถูกกลืนหายไปในจูบเร่าร้อนของเสี่ยศิวกร รันพยายามดิ้นหนีแต่ก็ไร้ผล ศิวกรคร่อมร่างเขาไว้แน่น ดวงตาคมกริบจ้องมองมาอย่างพอใจ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์แต้มมุมปากก่อนที่เขาจะก้มลงมากระซิบเสียงพร่า "ทำไมต้องหนีล่ะครับ หืม หรือว่าเมื่อคืนเสี่ยยังทำให้ไม่พอ" "พอแล้ว ผมจะไม่ไหวแล้วนะเสี่ย" รันโวยวาย ใบหน
รันนั่งหน้างออยู่บนเตียงหลังจากถูกเสี่ยศิวกรกอดรัดฟัดเหวี่ยงไปมา เหมือนหมาป่าหวงลูกกระต่ายตัวน้อย ๆ ที่กำลังพยายามดิ้นหนี "เสี่ย พอได้แล้ว ผมบอกว่าไม่พร้อมไง" รันโวยวายเสียงเบา กลัวจะปลุกลูกสาวที่กำลังหลับอยู่ ศิวกรยิ้มเจ้าเล่ห์ "แต่เสี่ยพร้อมแล้วนี่ครับ" เขาพูดพลางลูบแผ่นหลังบางไปมา "อีกอย่าง... ลูกเราน่ารักขนาดนี้ มีอีกสักคนจะเป็นไรไปครับ" รันหรี่ตามองเสี่ยอย่างจับผิด "ไม่ใช่ว่าอยากมีลูกหรอก เสี่ยแค่อยาก..." "อยากอะไรครับ" ศิวกรเลิกคิ้วถามอย่างท้าทาย มือหนายกขึ้นลูบแก้มรันเบา ๆ รันเม้มปากแน่นก่อนจะสะบัดหน้าหนี "เปล่า แต่ผมยังไม่พร้อมไง เสี่ยจะให้ผมอุ้มท้องอีกคนตอนนี้เลยหรือไง" "อืม... ก็น่าสนใจนะครับ" ศิวกรหัวเราะเบา ๆ แล้วขยับเข้าใกล้รันมากขึ้น "เสี่ย" รันรีบหยิบหมอนขึ้นมากันตัวเองไว้ ศิวกรหัวเราะอย่างเอ็นดู ก่อนจะกดจูบลงบนหน้าผากของรัน "โอเค ๆ ถ้ารันยังไม่พร้อม เสี่ยก็จะรอ" รันถอนหายใจอย่างโล่งอก "แต่คืนนี้ขอแบบไม่ป้องกันนะครับ" เสี่ยกระซิบเสียงพร่า ขณะจ้องมองใบหน้าที่แดงซ่านของรัน "เสี่ย" "หืม ทำหน้างอแบ
หลังจากแต่งงานกันได้ไม่นาน รันก็เริ่มท้องโตขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงวันที่ต้องลาคลอด เสี่ยศิวกรที่เคยเป็นนักธุรกิจสุดเคร่งขรึม ตอนนี้กลับกลายเป็นคุณพ่อมือใหม่เต็มตัว คอยดูแลทุกอย่างเกี่ยวกับลูก ทั้งอุ้ม กล่อมนอน เปลี่ยนผ้าอ้อม และแม้แต่ร้องเพลงกล่อมลูกก็ยังทำ ส่วนรันที่เป็นแม่แต่ยังเรียนไม่จบ ก็ต้องกลับไปเรียนตามเดิม ตอนเช้า “เสี่ย ผมไปเรียนก่อนนะ” รันพูดขึ้นขณะจัดกระเป๋านักศึกษา รันหัวเราะเบา ๆ เดินเข้าไปใกล้เสี่ยแล้วจุ๊บแก้มลูกเบา ๆ “เสี่ยเลี้ยงลูกดี ๆ นะ” เสี่ยศิวกรทำหน้าไม่พอใจ “กูเป็นพ่อของลูกนะ รันอย่ามาดูถูกกู” รันหัวเราะ “โอเค ๆ งั้นไปล่ะนะ” เสี่ยมองตามรันที่เดินออกไป ก่อนจะก้มลงมองลูกน้อยที่กำลังหลับตาพริ้ม “หึ… เมียกูไปเรียน ส่วนกูเลี้ยงลูก นี่กูเป็นเสี่ยหรือเป็นพ่อบ้านกันแน่วะ” แม้จะบ่น แต่เสี่ยศิวกรก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เพราะตอนนี้ทั้งรันและลูกคือลมหายใจของเขาทั้งหมดแล้ว หลังจากรันออกไปเรียน เสี่ยศิวกรก็นั่งมองลูกน้อยที่กำลังหลับอยู่ในเปลโยก สองมือใหญ่ลูบหัวเบา ๆ อย่างอ่อนโยน "เฮ้อ... ทำธุรกิจพันล้านยั
รันนั่งนิ่งอยู่บนเตียงในคอนโดของเสี่ยศิวกร มือเล็กกำโทรศัพท์แน่น หัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ตั้งแต่กลับมาจากโรงพยาบาล เสี่ยก็ดูแลเขาดียิ่งกว่าเดิม ทั้งคอยบังคับให้กินข้าว กำชับให้พักผ่อน และที่สำคัญ ไม่ให้เขาออกไปไหนคนเดียว รันไม่ได้รังเกียจการถูกดูแลแบบนี้ แต่เขากลัว… กลัวว่าทุกอย่างมันจะเป็นแค่ช่วงเวลาหนึ่ง "เสี่ยแค่รับผิดชอบหรือเปล่า" คำถามนี้วนเวียนอยู่ในหัวของเขาไม่หยุด แต่ยังไม่ทันที่รันจะคิดอะไรไปมากกว่านั้น ประตูห้องก็เปิดออก พร้อมกับร่างสูงของเสี่ยศิวกรที่เดินเข้ามา เขาสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว พับแขนขึ้นเล็กน้อย ทำให้ดูดี “คิดอะไรอยู่” เสี่ยทิ้งตัวนั่งลงข้าง ๆ ก่อนจะยื่นกล่องกำมะหยี่สีแดงให้รัน รันขมวดคิ้ว มองกล่องตรงหน้าด้วยความสงสัย “อะไร” เสี่ยศิวกรไม่ตอบ แต่เปิดกล่องออกมา ด้านในมีแหวนเพชรเม็ดงามวางอยู่ รันเบิกตากว้าง หัวใจแทบหยุดเต้น “เสี่ย…” เสี่ยศิวกรจับมือรันขึ้นมา มองเข้าไปในดวงตากลมโตของคนตัวเล็กด้วยแววตาจริงจัง “แต่งงานกับกูนะ” รันนิ่งไป หัวใจเต้นโครมคราม “เสี่ยพูดอะไร…” “กูอยากแต่งงานกับมึง อยากให้มึงเป
รันนั่งนิ่งอยู่ในรถ มือเรียวกำชายเสื้อแน่นจนเหงื่อเริ่มซึมออกมา เสี่ยศิวกรเหลือบมองคนตัวเล็กที่เอาแต่นั่งเงียบมาตลอดทาง ก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือรันมากุมไว้ "ทำหน้าเครียดขนาดนั้น ไม่ดีใจที่จะมีลูกกับเสี่ยเหรอ" เสี่ยถามเสียงนุ่ม รันเงยหน้ามองเสี่ย ดวงตากลมมีแววสับสน "ผมแค่...ยังทำใจไม่ได้ เสี่ยแน่ใจแล้วเหรอว่าพร้อม" เสี่ยศิวกรหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นลูบหัวรันอย่างเอ็นดู "กูพร้อมตั้งแต่วินาทีที่รู้ว่ามึงท้องแล้ว" รันเม้มปากแน่น ใจหนึ่งก็ดีใจ แต่อีกใจก็ยังกลัว เขายังเรียนไม่จบ ยังไม่ได้วางแผนอนาคตอะไรเลย แล้วอยู่ ๆ จะต้องกลายเป็นแม่คนแบบนี้… "เสี่ย…ถ้าเกิดว่าผมดูแลลูกไม่ดีล่ะ" รันพูดเสียงเบา ดวงตาฉายแววกังวล เสี่ยศิวกรหยุดรถที่ไฟแดง ก่อนจะจับมือรันแน่นขึ้น "มึงไม่ต้องดูแลคนเดียว กูอยู่ตรงนี้ กูจะดูแลมึงกับลูกเอง" "แต่…" "ไม่มีแต่ กูอยากให้มึงเชื่อใจกู" เสี่ยพูดเสียงเเน่วเเน่ รันมองสบตาเสี่ย ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ และพยักหน้าช้า ๆ "โอเค… ผมจะพยายาม" เสี่ยศิวกรยิ้ม ก่อนจะก้มลงจูบหลังมือรันเบา ๆ แล้วขับรถตรงไปยังโรงพยาบาล
รันนอนซุกอยู่ในอ้อมแขนแกร่งของเสี่ยศิวกร หลังจากค่ำคืนสุดเร่าร้อนที่อีกฝ่าย ลงโทษ เขาไปแบบจัดเต็ม แต่แทนที่เขาจะได้พักผ่อนแบบสบายใจ เสียงทุ้มของเสี่ยกลับทำให้หัวใจเขาเต้นแรงยิ่งกว่าเดิม "รัน" "หืม" "มึงอยากมีลูกไหม" "..." รันเด้งตัวขึ้นจากอกกว้างทันที ก่อนจะหันไปมองเสี่ยด้วยดวงตาตื่นตกใจ "เสี่ยพูดอะไรเนี่ย" "ก็กูอยากมีลูก" เสี่ยศิวกรพูดหน้าตาเฉย "คิดดูสิ ถ้ามีเด็กตัวเล็ก ๆ วิ่งอยู่ในบ้าน จะน่ารักขนาดใหนมึงไม่อยากเห็นเหรอ" "ไม่ ไม่เลย" รันรีบส่ายหัว "ผมยังเรียนอยู่เลยนะ" เสี่ยศิวกรยกมือขึ้นบีบแก้มรันเบา ๆ แล้วหัวเราะในลำคอ "เรียนอยู่แล้วไง กูเลี้ยงได้" "ไม่เกี่ยว ผมยังไม่พร้อม" "งั้นก็เตรียมตัวไว้ เพราะกูพร้อมแล้ว" "เสี่ย" "เอาเป็นว่าจากนี้ กูจะไม่ปล่อยให้มึงได้นอนเฉย ๆ ทุกคืนแน่" รันหน้าแดงจัด รีบคว้าหมอนมาปาใส่เสี่ย ก่อนจะมุดตัวหนีเข้าผ้าห่ม เสี่ยศิวกรหัวเราะชอบใจ ก่อนจะกระชากผ้าห่มออก แล้วก้มลงมากระซิบข้างหู "คืนนี้เริ่มกันเลยดีไหม" รันหน้าแดงก่ำเมื่อถูกเสี่ยศิวกรกระซิบ