แชร์

เสน่ห์รักนักสืบสาว
เสน่ห์รักนักสืบสาว
ผู้แต่ง: เวณิกา

-1-

ผู้เขียน: เวณิกา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-03 02:42:25

เอาล่ะ! เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยหญิงสาวผมสั้นทรงบ็อบเทพูดกับตัวเองขณะมองดูผลงานบนจอคอมพิวเตอร์อย่างอารมณ์ดี

“เพียงแค่คุณคือผู้เดือดร้อน ไม่สบายใจในทุกปัญหา ต้องการค้นพบคำตอบที่ถูกอำพรางไว้ โทรหาเราสิคะ 089-xxxxxxx นักสืบสาวโบตั๋นยินดีช่วยเหลือ…แกแน่ใจแล้วเหรอยายปิ่น” ลีลาวดีอ่านข้อความในบล็อกส่วนตัวของเพื่อนสาวพลางทำหน้าปูเลี่ยน ก่อนจะหันมาถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้งกับการตัดสินใจของเพื่อนซี้

“แน่ยิ่งกว่าแน่ ก็ฉันไม่มีทางเลือกแล้วนี่ คนตกงานเป็นปีๆ อย่างฉัน ลองมาทุกทางแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรคืบหน้าสักที ก็มีแค่ทางนี้ทางเดียวเท่านั้นแหละ”

“แต่ไอ้งานนักสืบเนี่ยมันเสี่ยงมากนะ อย่างแกน่ะมันไม่หนักไปหน่อยเหรอ เดี๋ยวนี้ยิ่งมีข่าวต้มตุ๋นหลอก ลวงกันไม่เว้นแต่ละวัน เราไม่หลอกเขา เขาก็หลอกเรา ฉันว่าแกอย่าเสี่ยงเลยปิ่น เชื่อฉันเหอะ”

“มันก็ไม่แน่เสมอไปหรอกริน ฉันอาจจะโชคดีมือขึ้นทางนี้ก็ได้ อีกอย่างแกก็รู้ว่าฉันเก่งวิชาพละ มีอะไรเกิดขึ้นฉันเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว”

“ทำเป็นอวดเก่ง แกจะใช้วิชาม้วนหน้าม้วนหลัง หกกบ สะพานโค้ง ตีลังกาล้อเกวียนหนีพวกโจรมัน    เหรอไง ยายบ้า”

“แกไม่เป็นฉันแกไม่รู้หรอกว่าการที่ต้องมานั่งหางานงกๆ เอาแต่เปิดเว็บสมัครงานทั้งวันทั้งคืนแบบนี้มันทำให้ฉันเครียดแค่ไหน”

“ทำไมฉันจะไม่เข้าใจ ฉันเองก็ยังไม่มีงานทำเหมือนกันนะยะ ลืมไปแล้วเหรอไง”

“แต่แกก็มีคนเรียกไปสัมภาษณ์แล้วนี่ แถมตอนนี้ก็ยังมีร้านให้รับจ็อบอีกต่างหาก”

“ไอ้ร้านเบเกอรี่เล็กๆ เนี่ยนะ”

“อื้อ!” ปิ่นมณีพยักหน้าหงึกหงักพลางจิ้มบราวนี่ช็อกโกแล็ตกินอย่างเอร็ดอร่อย “ดูสิ! มีของอร่อยกินด้วย”

“แกมันก็เป็นแบบนี้ทุกที แล้วแกแน่ใจเหรอว่าจะมีคนมาจ้างแกทำงานน่ะ” ลีลาวดีวกกลับมาเรื่องเดิม

“แน่นอนอยู่แล้ว!” ปิ่นมณีลอยหน้าตอบ

“ถ้าสมมุติว่ามีคนมาจ้างแกจริงๆ แกจะทำไง คิดไว้หรือยัง”

“แกลืมแล้วเหรอ ฉันน่ะแฟนนิยายสืบสวนสอบสวนตัวยงเลยนะ ทั้งโคนัน คินดะอิจิ ทอม ซอเยอร์ เอโดกาวะ รันโปะ อากาธา คริสตี้ ฉันอ่านมาหมดแล้ว”

“แล้วไง! แกจะแปลงเสียงแบบโคนันหรือไง”

“เอาเถอะน่า แกคอยดูฝีมือฉันก็แล้วกัน”

เช้าวันรุ่งขึ้น ลีลาวดีแต่งตัวสวยเพื่อไปสัมภาษณ์งาน เธอลงจากรถแท็กซี่พลางแหงนหน้ามองอาคารแบบทาวโฮมสามชั้นทรงโมเดิร์นที่ตั้งอยู่ตรงหน้าอย่างอดทึ่งไม่ได้ สมแล้วที่เป็นบริษัทรับตกแต่งภายใน ลีลาวดีเรียนจบมาทางด้านการจัดการ เธอจึงมาสมัครในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ประสานงาน แม้จะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตกแต่งภายในเหมือนกับพวกอินเทอร์เรอร์ก็ตาม แต่ตำแหน่งนี้ก็มีความสำคัญกับบริษัทไม่น้อย เพราะถือว่าเป็นตัวกลางการสื่อสารระหว่างอินเทอร์เรอร์กับลูกค้า รวมทั้งพนักงานภายในบริษัทเดียวกันอีกด้วย

ลีลาวดีถอนหายใจเพื่อคลายความกังวล พลางก้มลงสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะเดินเข้าประตูกระจกใสไปด้วยความมั่นใจ เธอหวังว่าเสื้อเชิ้ตสีชมพูแขนสามส่วนพอดีตัวกับกระโปรงทรงเอสั้นสีดำ และรองเท้าส้นสูงแหลมปรี๊ดหนังแก้วสีดำที่ลงทุนถอยแบรนด์เนมลดราคามาคงจะไม่เชยเกินไป

ขณะเดียวกันปิ่นมณีที่ยึดพื้นที่มุมหนึ่งภายในร้านเบเกอรี่เล็กๆ ของรจนา พี่สาวคนสวยของลีลาวดีเป็นฐานทัพก็กำลังคร่ำเคร่งกับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คตรงหน้า หลายชั่วโมงแล้วที่เธอเอาแต่จ้องมองที่หน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อหวังว่าจะมีลูกค้าเข้ามาสักคนในบล็อกนักสืบของเธอ

“จ้องมากขนาดนั้นระวังตาหลุดออกมาจากเบ้านะ”

ช่างเป็นพี่น้องที่นิสัยเหมือนกันเสียจริง ปิ่นมณีค่อนขอดในใจ แต่เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นสตรอเบอร์รี่ชีสเค้กก้อนโตในจานก็ฉีกยิ้มทันที

“แหม! พี่นา…ก็หนูอยากให้มีลูกค้าเข้ามาสักทีนี่คะ พี่จะได้ไม่ต้องเปลืองค่าไฟ แล้วก็ค่าอาหารส่วนของหนูไง” เพราะปิ่นมณีค้างค่าเช่าห้องมาสองเดือนแล้ว ทำให้เธอต้องหอบหิ้วโน้ตบุ๊ครวมทั้งตัวเองมาขออาศัยอยู่ที่บ้านของลีลาวดีเพื่อนรัก

“แล้วยังไม่มีเข้ามาเลยเหรอ”

“…” ปิ่นมณีส่ายหัวแทนคำตอบ

“เอาน่า! มากินเค้กก่อนดีกว่า เผื่อสิ่งดีๆ จะได้ตามเข้ามาไง”

เมื่อได้ยินคำชวน ปิ่นมณีก็ไม่ปฏิเสธ เธอหยิบส้อมพลางตักเค้กเข้าปากทันที แต่ยังไม่ทันได้กลืนลงคอเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือก็ทำให้หญิงสาวต้องสะดุ้งจนของที่เพิ่งเข้าปากไปเกือบติดคอ เมื่อตั้งสติได้ ปิ่นมณีรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมารับทันที

“ค่ะ! นักสืบโบตั๋นยินดีรับใช้ค่ะ เอ๊ะ! อะไรนะคะ” เสียงปลายสายที่ดังลอดโทรศัพท์ออกมาทำให้รจนาที่นั่งอยู่ข้างๆ ต้องเอามือปิดหู

“นี่! ยายปิ่นมณี เธอหายหัวไปอยู่ที่ไหนยะ แล้วค่าเช่าห้องของฉันล่ะ สองเดือนแล้วนะ เธอรีบเอามาจ่ายเดี๋ยวนี้ก่อนที่ฉันจะขนของในห้องเธอไปโยนทิ้งบริจาคให้รถขยะกทม.”

“ฮัลโหล ฮัลโหล…ขอโทษนะคะ ฉันไม่ได้ยินที่คุณพูดเลย” ปิ่นมณีพูดเสียงรัวก่อนจะวางสาย เธอถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยอ่อน ยังไม่ทันไรเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง เสียงเพลงริงโทนดังขึ้นวนไปวนมาจนเงียบหายไป แต่ก็ไม่เห็นทีท่าว่าเจ้าของเครื่องจะสนใจ

“ปิ่น…มีอะไรเหรอ” รจนาที่นั่งฟังอยู่นานเอ่ยปากทักเพราะเห็นท่าทีผิดปกติของเพื่อนน้องสาว  

“ก็ยายป้าไฝหัวฟูเจ้าของห้องเช่าน่ะสิ ตามมาทวงหนี้ แถมยังขู่ด้วยว่าถ้าไม่รีบเอาเงินไปจ่ายจะขนของในห้องหนูไปให้รถขยะให้หมด ยายป้าเฮงซวย ไม่สวยแล้วยังใจดำอีก เงินนะโว๊ย! ไม่ใช่ขี้ที่จะทำขึ้นมาเองได้น่ะ”

ให้ช้านตาย ดีกว่าร้ากเธอ…” เสียงเพลงริงโทนจากโทรศัพท์มือถือดังขึ้นอีกครั้ง ปิ่นมณีจะกดสายทิ้ง แต่เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นเบอร์ไม่คุ้นตาจึงตัดสินใจรับสาย

“เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน” ปิ่นมณีพูดกับตัวเอง ถ้าหากเป็นยายป้ามหาภัยล่ะก็ จะลองขอโทษแล้วผ่อนผันไปอีกสักเดือน แต่แล้ว…

“คุณนักสืบโบตั๋นใช่ไหมคะ ฉันไปอ่านเจอที่บล็อกนักสืบของคุณก็เลยโทรมาทันที ตอนนี้ฉันมีเรื่องร้อนใจอยากขอความช่วยเหลือจากคุณ”

“ดิฉันจะส่งสถานที่ติดต่อไปให้คุณทางแมสเซจ ถ้าได้รับแล้วกรุณาติดต่อดิฉันทันทีนะคะ ถ้าไม่มีปัญหาอะไรกรุณามาพบกันตามสถานที่นัดหมายโดยเร็วที่สุด”

ปิ่นมณีวางสายก่อนจะพิมพ์อะไรยุกยิกๆ ที่โทรศัพท์มือถืออยู่พักหนึ่ง ก่อนจะหันไปทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ รจนายื่นหน้าไปดูด้วยความสงสัยอย่างถือวิสาสะ

“อะไรเนี่ย! ร้านช็อกโกแล็ตของฉันกลายเป็นสำนักงานนักสืบไปแล้วเหรอ”

“ขอโทษนะคะพี่นา” ปิ่นมณียกมือท่วมหัวหลังจากส่งแมสเซจเสร็จเรียบร้อย “แต่หนูไม่มีที่ไปแล้วจริงๆ แถมงานนี้ก็เป็นงานแรกด้วย เอาเป็นว่าถ้าหนูทำงานสำเร็จจะเอาเงินมาใช้คืนให้ทุกบาททุกสตางค์ ตั้งแต่ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร ค่าอินเตอร์เน็ต แล้วก็…”

“พอเถอะจ้ะ ตามสบายเถอะ แต่อย่าให้มันเป็นจุดสนใจมากนักนะ เดี๋ยวคนอื่นจะรู้หมดว่าหนูเป็นนักสืบ”

“ขอบคุณค่ะพี่”

หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงลูกค้าคนแรกก็มาถึง เธอเป็นหญิงวัยกลางคน รูปร่างท่าทางดูดีมีชาติตระกูล แต่ใบหน้าอวบอูมนั้นบ่งบอกว่ากำลังมีทุกข์หนัก เมื่อพูดคุยกันได้สักพักปิ่นมณีก็ตกลงรับงานทันที

งานแรกของเธอคือการสืบเรื่องสามีนอกใจ…   

เย็นวันเดียวกัน ณ ภัตตาคารหรูริมถนนเศรษฐกิจย่านใจกลางเมือง

“ตกลงว่าคุณหาพนักงานมาแทนยายแว่นหนาได้หรือยังคะ” หญิงสาวไฮโซนามว่าโรสเอ่ยขณะยกแก้วไวน์แดงขึ้นดื่ม ประกายเพชรเม็ดงามจากแหวนคาร์เทียที่นิ้วนางสะท้อนแสงไฟส่องวูบวาบ

“ยังเลย วันนี้ก็มีมาสัมภาษณ์คนหนึ่ง ท่าทางนิ่งๆ ถ้าปรับปรุงเรื่องการแต่งตัวสักหน่อยก็ดูไม่เลว ถ้าภายในเดือนนี้ไม่มีใครมา ก็คงจะรับคนนี้แหละ” ชายหนุ่มรูปงามเจ้าของใบหน้ารูปไข่ตอบเสียงเรียบตามสไตล์ ทัดภูมิเป็นชายหนุ่มร่างสูงสมส่วนสมชายชาตรี กล้ามเนื้อซึ่งเกิดจากการเล่นฟิตเนสอย่างเอาเป็นเอาตายไม่เหมาะกันเลยกับดวงตาเรียวเล็กและใบหน้าขาวใส แต่ก็คงเถียงไม่ได้ว่าทัดภูมิจัดเป็น ตี๋หล่อหุ่นดี อีกคนหนึ่งที่สาวๆ หลายคนใฝ่ฝันอยากเป็นเจ้าของ

“แหม! คุณเนี่ยไม่เปลี่ยนเลยนะคะ เจอใครเป็นต้องวิจารณ์เรื่องการแต่งตัวเสียทุกที ใครจะสวยได้ตลอดเวลาเหมือนแฟนคุณคนนี้ละคะ ฮุ ฮุ ฮุ”

“…” ทัดภูมิส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่ายในความหลงตัวเองของแม่สาวโรส พลางยกแก้วไวน์ขึ้นจิบอย่างเอือมระอา

บรรยากาศภายในร้านเป็นไปอย่างเงียบสงบ มีเสียงช้อนส้อมกระทบกันสลับกับเสียงพูดคุยซุบซิบดังมาให้ได้ยินบ้างประปราย ทำให้หญิงสาวที่นั่งตัวลีบอยู่อีกมุมหนึ่งของร้านถึงกับขนลุกซู่

“นี่สิถึงจะเรียกว่าร้านคนรวย แอร์ก็เย็นเฉียบ อาหารก็แพงหูฉี่ แต่ละคนแต่งตัวดูดีมีระดับทั้งนั้น ดูสิ! นั่นก็คาร์เทีย นี่ก็วิกตอง ว้าว! โน่นเฮอร์เมส โอ้! แม่เจ้า ฉันอยากจะเป็นลม” ปิ่นมณีนั่งกุมขมับพลางก้มลงมองสารรูปของตัวเองในเวลานี้ รองเท้าคู่ละ 99 แถมรอยขาดตรงส้น ชุดกระโปรงผ้าซาตินลายสก๊อตสีฟ้าอ่อนที่ซื้อลดราคามาจากสวนจตุจักร แถมกระเป๋ามือสองใบละ 199 จากสยามหลังสามทุ่มที่เขาเอามากองๆ ขาย นี่อุตส่าห์เลือกแต่งชุดที่ดูดีที่สุดในตู้เสื้อผ้าแล้วนะ ยังได้แค่นี้เองเหรอเนี่ย  

“ขอโทษครับ ไม่ทราบว่าจะรับอาหารเลยไหมครับ”

“เอ่อ! คือ…ฉันรอเพื่อนอยู่น่ะค่ะ เอาเป็นน้ำส้มแก้วนึงก่อนนะคะ”

“งั้นรอสักครู่นะครับ” บริกรร่างผอมเพรียวเหมือนคนขาดสารอาหารเดินจากไปพร้อมกับเสียงถอนหายใจอย่างโล่งอกของปิ่นมณี

“น้ำส้มแก้วละร้อยยี่สิบ ทั้งเนื้อทั้งตัวฉันมีอยู่แค่สองร้อย จะให้สั่งอะไรกันนักหนา ทำไมถึงให้มาสืบในร้านหรูๆ แบบนี้ด้วยนะ ถ้าไม่ติดว่ากำลังร้อนเงินละก็ ฉันไม่มีทางรับเด็ดขาดเลยไอ้เรื่องผัวๆ เมียๆ เนี่ย” ปิ่นมณีบ่นกระปอดกระแปดขณะนั่งรอให้เหยื่อปรากฏตัว ระหว่างที่รอปิ่นมณีก็หยิบรูปใบหนึ่งที่ลูกค้าของเธอส่งให้เป็นข้อมูลออกมาดู

“อืม…หน้าตาก็ไม่ได้เรื่อง อ้วนตุ๊ต๊ะอย่างกับหมูตอน ยังจะให้ผู้หญิงตามหึงอีก ผู้ชายเนี่ยเป็นพวกเผ่าพันธุ์ไหนกันนะ ทำอย่างกับตัวเองมีเสน่ห์ซะเต็มประดา อิโธ่! ก็เป็นแค่ผู้ชายล่ะว๊า มีไอ้นั่นอันเดียว ก็คิดว่าครองโลกได้ ดีนะที่ฉันไม่มีแฟน ไม่งั้นต้องอกแตกตายแน่ๆ พูดถึงก็มาพอดีเลย หึ! ตัวจริงทุเรศกว่าในรูปอีก สงสัยจะเอารูปไปแต่งในโฟโต้ช็อป”

ผู้ชายที่ปิ่นมณีพูดถึงปรากฏตัวพร้อมกับหญิงวัยกลางคนร่างระหง ทั้งคู่แต่งตัวเหมือนตั้งใจมาออกเดท ถ้าไม่รู้เบื้องหลังมาก่อน เธอก็คงคิดว่าทั้งสองคนเป็นคู่สามีภรรยาที่รักกันมากเหมือนกับสายตาของคนอื่นๆ ในร้านที่จ้องมองมาเป็นแน่ โชคดีเป็นของปิ่นมณีอีกครั้งที่ทั้งคู่เลือกที่นั่งที่อยู่เยื้องไปข้างหน้าเล็กน้อย ทำให้เธอไม่ต้องชะเง้อมองให้ดูพิรุธ ปิ่นมณีดูดน้ำส้มในแก้วพลางคิดถึงคำพูดของลูกค้าสาวใหญ่เมื่อตอนเช้า

คุณโบตั๋นต้องช่วยฉันนะคะ ฉันรู้มาว่าวันนี้ไอ้ผัวจอมเจ้าชู้จะพากิ๊กใหม่ไปกินข้าวเย็นที่ร้านประจำที่มันเคยพากันไปกินบ่อยๆ ฉันอยากให้คุณโบตั๋นไปดูให้เห็นกับตาว่ามันพากันมาจริงหรือเปล่า ถ้าเห็นมันเดินเข้ามาในร้านรีบโทรบอกฉันเลยนะคะ ฉันจะได้เอาของขวัญไปเซอร์ไพรซ์มัน

ปิ่นมณีอมยิ้ม งานง่ายๆ แค่นี้ได้ตั้งสามหมื่น ใครกันจะไม่ทำ ก็แค่มานั่งแอบดูพฤติกรรมเลวๆ ของผู้ชาย ง่ายจะตาย สำหรับปิ่นมณีแล้วมันง่ายยิ่งกว่าเปิดตู้เย็นหาของกินซะอีก (ที่ไม่เป็นปอกกล้วยเข้าปากก็เพราะว่ากล้วยบางอย่างก็ปอกเปลือกยาก เปิดตู้เย็นยังง่ายกว่า) ปิ่นมณีมัวแต่คิดนั่นคิดนี่จึงไม่ได้สังเกตเลยว่าคนในร้านเริ่มมองเธออย่างผิดสังเกตโดยเฉพาะสาวชุดแดงเจ้าของแหวนเพชรคาร์เทียหลายกะรัต

“ทัดดูแม่นั่นสิคะ ท่าทางอย่างกับเด็กกะโปโล ไม่รู้หลุดมาจากไหน โรสนั่งดูมาตั้งนานแล้วยังไม่เห็นแม่นั่นสั่งอะไรสักอย่างนอกจากน้ำส้มแก้วเดียว ดูสิคะทัด…ตาของแม่นั่นมองแต่คู่ผัวเมียข้างหน้า จ้องเขม็งแทบจะหลุดออกมาจากเบ้า ท่าทางหลุกหลิกแบบนั้นมาจับเหยื่อหรือเปล่าก็ไม่รู้ แหวะ! เห็นแล้วแทบจะกินข้าวไม่ลง”

“คุณก็อย่ามองไปทางนั้นสิ จะได้กินลง” ทัดภูมิพูดเสียงนิ่งอย่างไม่สนใจ นี่แหละนิสัยผู้หญิง ชอบนินทาเป็นกิจวัตรโดยเฉพาะกับเพศเดียวกัน ถึงแม้ปากจะพูดแบบนั้น แต่เขาเองก็คิดเช่นเดียวกับโรส แม้จะไม่รุนแรงเท่าก็เถอะ ชุดกระโปรงอย่างนั้นกับร้านอาหารหรูๆ แบบนี้มันเข้ากันเสียทีไหน ดูยังไงก็ตลกอยู่ดี ทัดภูมิชำเลืองมองก่อนจะอมยิ้มแบบอดขำไม่ได้ ทำให้โรสที่นั่งหน้าบูดหันมาถาม

“ขำอะไรเหรอคะทัด”

“ไม่มีอะไรหรอก ทานต่อเถอะ” ทัดภูมิพูดทั้งๆ ที่ยังไม่หยุดยิ้ม

ฝ่ายหญิงสาวที่ถูกพาดพิงถึงก็นั่งหันซ้ายหันขวา เมื่อเห็นว่าไม่มีใครมองมาทางเธอก็กดโทรศัพท์ก่อนจะกรอกเสียงแผ่วเบากระซิบกระซาบ

“มาถึงแล้วค่ะ ฉันเห็นเขาควงผู้หญิงมาลักษณะอย่างที่คุณว่าเปี๊ยบเลย ฉันจะดูสถานการณ์ให้และคอยรายงานเรื่อยๆ คุณรีบมานะคะ”

ไม่นานนักร่างสวยสมส่วนพร้อมใบหน้าอวบอูมก็เข้ามาในร้าน เธอหันรีหันขวางอยู่พักหนึ่ง เมื่อเห็นปิ่นมณีส่งสัญญาณให้ เธอก็เดินตรงมายังที่นั่งของชายร่างอ้วนพร้อมของบางอย่างในมือ ด้วยสัญชาติญาณการเอาตัวรอดที่มีมาแต่กำเนิด ทำให้ปิ่นมณีเรียกคิดเงิน และรีบออกจากร้านเพื่อไปดูสถานการณ์อยู่ข้างนอกโดยทันที

“ทานข้าวกันอร่อยมากไหมคะที่รัก” เสียงพูดแบบกัดฟันดังขึ้นข้างหู เมื่อชายร่างอ้วนหันมามองก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อภรรยาสุดที่รักมายืนยิ้มแฉ่งอยู่ข้างๆ ขณะที่กำลังออกเดทกับกิ๊กในภัตตาคารหรู

“ดูท่าทางว่าอาหารจะไม่ค่อยอร่อยนะคะ สงสัยจะขาดอะไรไปสักอย่าง เติมนี่ไปสักหน่อยคงจะรสชาติดีขึ้น” พูดจบภรรยาสุดที่รักก็ราดของเหลวบางอย่างที่บรรจุมาในขวดน้ำโพลาลิสไปทั่วหน้าสามีและกิ๊ก กลิ่นปัสสาวะหึ่งไปทั่วร้าน ก่อนจะตามมาด้วยเสียงกรี๊ดของกิ๊กสาวร่างระหง และเสียงด่าทอของภรรยา

“แหวนวงใหม่อีกแล้วล่ะสิ! ปรนเปรอมันเข้าไป ไอ้เฒ่าหัวงู ลูกเมียมีไม่ดูแล เอาแต่ควงผู้หญิงไร้ยางอายที่เที่ยวแย่งผัวชาวบ้าน อย่างนี้มันน้อยไป ต้องตบอีกสักฉาดสองฉาด” ไม่พูดเปล่า แต่สองมือของภรรยาตรงดิ่งไปยังใบหน้าตึงที่เคลือบเครื่องสำอางซะหนาเตอะของชู้ร่างระหง ทำเอาบริกรต้องรีบมาห้ามทัพ ปิ่นมณีที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ข้างนอกขนลุกซู่

“น่ากลัวชะมัด ไม่น่ารับงานนี้เลยเรา ใครจะไปรู้ว่าเจ๊จะเอาฉี่มาราดหัวชู้ในร้านหรูแบบนี้ มิน่า! รู้สึกตะหงิดตั้งแต่แรกแล้วว่าเจ๊จะเอาของขวัญอะไรมาให้ ที่แท้ก็ฉี่ใส่ขวด ดูสิ! วุ่นวายกันไปทั้งร้าน”

เสียงเอะอะโวยวายยังไม่จบ ผู้จัดการร้านต้องสั่งให้ลูกน้องตัวเองจับตัวต้นเหตุทั้งสามออกจากร้าน พลางกล่าวขอโทษลูกค้าคนอื่นๆ ในร้านที่ตอนนี้ต่างก็ทำหน้าเบ้เพราะกลิ่นปัสสาวะที่เหม็นคลุ้งไปทั่ว บางรายถึงกับอาเจียนออกมา

“อะไรก็ไม่รู้ โรสจะไม่มาเหยียบร้านนี้อีกแล้ว ทุเรศสิ้นดี มีแต่คนต่ำๆ ดีนะที่ฉี่มันไม่กระเด็นมาโดนเสื้อกุชชี่ของโรส ไม่งั้นโรสจะฟ้องให้หมดตัวเลย” โรสบ่นเป็นหมีกินผึ้งทั้งๆ ที่ตัวเธอเองนั่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุไกลลิบ

“ไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยเหรอคะทัด คุณก็เป็นผู้ชายนะ เห็นภาพแบบนั้นแล้วไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ อยู่ๆ ก็โดนเมียเอาฉี่มาราด” เสียงเรียกของโรสเรียกชายหนุ่มให้ตื่นจากภวังค์

“ห๊ะ! อะไรเหรอ” เหตุการณ์เมื่อครู่สร้างความสะเทือนใจให้เขาอย่างไม่น่าเชื่อ

“ช่างเถอะค่ะ! พวกผู้ชายก็เป็นแบบนี้แหละ พอพูดถึงเรื่องแบบนี้ทีไรก็เอาแต่ปิดปากเงียบ แต่ถ้าคุณเกิดนอกใจฉันขึ้นมาละก็ คุณโดนหนักกว่านี้อีก”

“หึ หึ หึ…พวกผู้หญิงเนี่ยไร้สาระชะมัด” ทัดภูมิหัวเราะอย่างไม่มีเหตุผลก่อนจะขับรถยนต์คันหรูออกจากร้านไป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เสน่ห์รักนักสืบสาว   -2-

    “ว่าไงนะ!” รจนากับลีลาวดีถามขึ้นมาพร้อมกันเมื่อได้ยินสิ่งที่ปิ่นมณีเล่าให้ฟัง“ก็อย่างที่พูดมานั่นแหละ ยายเจ๊นั่นเดินเอาขวดฉี่ไปสาดหน้าผัวแล้วก็ชู้กลางร้าน กลิ่นนี้เหม็นหึ่ง ขนาดฉันยืนอยู่ข้างนอกยังได้กลิ่นชัดเลย ไอ้ผัวจอมเจ้าชู้นั่นนะอย่างกับหมูตกบ่อฉี่เลยล่ะ” สิ้นเสียงของปิ่นมณี เสียงหัวเราะท้องแข็งก็ดังประสานกันขึ้นมา ทำเอาร้านเล็กๆ อย่างร้านช็อกโกแล็ตสั่นสะเทือน“พูดถึงแล้วก็อยากเห็นหน้าแม่นั่นตอนโดนสาดฉี่จังเลยเนอะ” ลีลาวดีพูดทั้งๆ ที่ยังไม่หยุดหัวเราะ“แต่พี่ว่ามันไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่หรอกนะ ผัวเมียไปตบตีกันในร้านอาหารสาธารณะเนี่ย เฮ้อ! โชคดีที่พี่ไม่คิดแต่งงาน ถ้ามาเจออย่างนี้เข้าคงซวยไปทั้งชาติ แต่ปิ่นก็ต้องระวังตัวด้วยนะ พี่ว่าไอ้งานแบบนี้มันเสี่ยงใช่ย่อย เราเองก็เป็นผู้หญิงตัวคนเดียว ถ้าเป็นไปได้เลิกทำเถอะ พี่ฟังแล้วยังอดกลัวแทนไม่ได้เลย ถ้าวันหนึ่งมันไม่ใช่แค่ฉี่ แต่เป็นพวกสารเคมีหรือว่าน้ำกรดขึ้นมา เราจะกลายเป็นคนบาปได้นะ ยังไงก่อนจะรับงานก็ดูให้ดีๆ ก่อนละกัน ยิ่งงานที่ค่าจ้างงามๆ เนี่ยมันน่าคิด เศรษฐกิจแบบนี้คงไม่มีใครเอางานง่ายๆ ที่จ่ายค่าจ้างแพงๆ มาให้ทำหรอก”“แหม! พี่นา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-03
  • เสน่ห์รักนักสืบสาว   -3-

    “ทัดคะ คุณทำแบบนี้กับโรสได้ยังไงกัน ทั้งๆ ที่โรสชวนคุณทานข้าว โรสเป็นห่วงว่าคุณจะเครียดเกินไป แต่คุณก็บอกว่าไม่ว่าง กลับไปนั่งสวีตกับใครก็ไม่รู้ในร้านที่เราไปด้วยกันประจำ แล้วแม่นั่นน่ะเหรอลูกค้า โรสว่ามองยังไงมันก็ไอ้ผู้หญิงที่ชอบแย่งของของชาวบ้านนั่นแหละ ทำไมคุณต้องโกหกโรสด้วยคะ” โรสในชุดสีแดงไวน์โวยวายลั่นห้องพร้อมน้ำตา“ผมว่าคุณเข้าใจผิดไปใหญ่แล้วนะโรส ผมไปทานข้าวกับลูกค้าจริงๆ คุณภาณิณีเป็นลูกค้ารายใหญ่ของผม เธอเป็นลูกสาวของประธานบริษัทสกาย คอนสตัคชั่น บริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่ที่คอยสนับสนุนบริษัทของผม จะพูดจะจาอะไรก็หัดให้เกียรติเขาบ้าง”“ถึงกับออกรับแทนกันเลยเหรอคะ ผู้หญิงแพศยาแบบนั้นโรสว่ามันยังน้อยไปด้วยซ้ำ มีอย่างที่ไหน ผู้ชายก็มีตั้งเยอะแยะ ชอบทำตัวเป็นแมวขโมยของของคนอื่น พฤติกรรมแบบนี้ลูกผู้ลากมากดีเขาไม่ทำกันหรอก”“มันจะไปกันใหญ่แล้วนะโรส คุณเองก็เหมือนกัน…หัดมีเหตุผลบ้างสิ เอาแต่พูดจาให้ร้ายคนอื่นแบบเสียๆ หายๆ คุณเองก็เป็นลูกผู้ลากมากดีเหมือนกัน แต่ทำไมยิ่งนับวันก็ยิ่งหยาบคาย พูดจาไม่ให้เกียรติคนอื่นเลย ผมเองก็ไม่อยากพูดจาแบบนี้กับคุณหรอกนะ แต่พฤติกรรมของคุณนับวันผมเริ่มทน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-04
  • เสน่ห์รักนักสืบสาว   -4-

    รุ่งเช้าปิ่นมณีเดินไปด้อมๆ มองๆ อยู่ที่ร้านอาหารขนาดย่อมร้านหนึ่งที่ตั้งอยู่ตรงกลางโดยมีร้านขายดอกไม้และร้านขายยาขนาบอยู่สองข้างซ้ายขวา หน้าร้านสีขาวขนาดสองคูหาสองชั้นตกแต่งด้วยไม้ดอกจำพวกชวนชมหลากสีที่ตัดแต่งเป็นพุ่มสวยงาม ปิ่นมณีจ้องมองอย่างอดที่จะชื่นชมไม่ได้ หญิงสาวมองป้ายประกาศเล็กๆ ที่ติดอยู่บนกระจกหน้าร้านพลางเลยไปยังป้ายขนาดใหญ่ที่เขียนด้วยอักษรนูนสีทองว่า ‘จิ๊กกี๋โภชนา’ อย่างใช้ความคิดสักพักก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูกระจกเข้าไป“ขอโทษนะคะคุณ ตอนนี้ร้านยังไม่เปิดให้บริการค่ะ” พนักงานสาวที่ไม่สวยเลยสักนิดหันมาบอกอย่างตกใจเมื่อเห็นปิ่นมณีเดินเข้ามาด้วยคิดว่าเป็นลูกค้า“คือ…ฉะ…หนูมาสมัครงานค่ะ”ปิ่นมณีพูดอย่างไม่มั่นใจนักว่าจะใช้คำสรรพนามเรียกตัวเองว่าอะไร สุดท้ายก็นึกขึ้นมาได้ว่าเธอกำลังปลอมตัวเป็นเด็กมาหางานพิเศษทำ จึงใช้คำเรียกตัวเองว่า ‘หนู’ แทน ‘ฉัน’ อย่างที่ตั้งใจไว้ในตอนแรก“สมัครงานงั้นเหรอ” เมื่อรู้ว่าปิ่นมณีไม่ใช่แขก หญิงสาวคนเดิมจึงเปลี่ยนท่าทีการพูดในทันใด“เธออายุเท่าไหร่”“เอ่อ…17 จ้ะ” ปิ่นมณีตอบทันที เธอรู้สึกว่าอีกฝ่ายกำลังมองเธออย่างไม่ค่อยจะเชื่อนัก“รอเดี๋ยวนะ จะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-05
  • เสน่ห์รักนักสืบสาว   -5-

    ก๊อก…ก๊อก…ก๊อก…เสียงเคาะประตูดังขึ้นที่หน้าห้อง แต่ดูเหมือนว่าเจ้าของห้องจะยังคงหลับไม่รู้เรื่องก๊อก…ก๊อก…ก๊อก…เสียงเคาะประตูดังต่อเนื่องขึ้นมาอีกครั้ง แต่ดูเหมือนจะแรงและเร็วกว่าครั้งแรกมากนัก ได้ผล! เจ้าของห้องเริ่มเกิดปฏิกิริยา เธอลืมตาขึ้นมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าตนเองนอนหลับฟุบคาอยู่ที่โต๊ะคอมพิวเตอร์ข้างเตียง“เช้าแล้วเหรอเนี่ย เผลอหลับไปได้ยังไงกันนะเรา” ก๊อก…ก๊อก…ก๊อก…เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ปิ่นมณีวิ่งแจ้นไปเปิดประตูทันที“ยายปิ่น! นี่แกไปทำอะไรมาเนี่ย ผมเผ้ามันถึงได้กระเซอะกระเซิงแบบนี้”“ฉันเพิ่งตื่นน่ะ เข้ามาก่อนสิ” ปิ่นมณีพูดพลางเดินหันหลังกลับเข้ามาในห้อง ทิ้งให้เพื่อนสนิทอย่างลีลาวดีเดินตามเข้ามา ลีลาวดีมองเพื่อนรักจากทางด้านหลังพลางทำหน้าบอกบุญไม่รับ“นี่ถามจริงเหอะ…แกไปทำอะไรมากันแน่ สภาพถึงได้ยับเยินแบบนี้”“อื้อ! ฉันไปทำงานมาน่ะ”“งานอะไรของแก”“ก็งานนักสืบน่ะสิ เอาน่า…อย่าเพิ่งมาซักฉันตอนนี้เลย ยังไงฉันก็ต้องเล่าให้แกฟังอยู่ดีนั่นแหละ” ปิ่นมณีพูดตัดบทขณะคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป“ย่ะ! แม่เพื่อนตัวดี” ลีลาวดีส่งค้อนให้ด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะเดินเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-06

บทล่าสุด

  • เสน่ห์รักนักสืบสาว   -5-

    ก๊อก…ก๊อก…ก๊อก…เสียงเคาะประตูดังขึ้นที่หน้าห้อง แต่ดูเหมือนว่าเจ้าของห้องจะยังคงหลับไม่รู้เรื่องก๊อก…ก๊อก…ก๊อก…เสียงเคาะประตูดังต่อเนื่องขึ้นมาอีกครั้ง แต่ดูเหมือนจะแรงและเร็วกว่าครั้งแรกมากนัก ได้ผล! เจ้าของห้องเริ่มเกิดปฏิกิริยา เธอลืมตาขึ้นมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าตนเองนอนหลับฟุบคาอยู่ที่โต๊ะคอมพิวเตอร์ข้างเตียง“เช้าแล้วเหรอเนี่ย เผลอหลับไปได้ยังไงกันนะเรา” ก๊อก…ก๊อก…ก๊อก…เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ปิ่นมณีวิ่งแจ้นไปเปิดประตูทันที“ยายปิ่น! นี่แกไปทำอะไรมาเนี่ย ผมเผ้ามันถึงได้กระเซอะกระเซิงแบบนี้”“ฉันเพิ่งตื่นน่ะ เข้ามาก่อนสิ” ปิ่นมณีพูดพลางเดินหันหลังกลับเข้ามาในห้อง ทิ้งให้เพื่อนสนิทอย่างลีลาวดีเดินตามเข้ามา ลีลาวดีมองเพื่อนรักจากทางด้านหลังพลางทำหน้าบอกบุญไม่รับ“นี่ถามจริงเหอะ…แกไปทำอะไรมากันแน่ สภาพถึงได้ยับเยินแบบนี้”“อื้อ! ฉันไปทำงานมาน่ะ”“งานอะไรของแก”“ก็งานนักสืบน่ะสิ เอาน่า…อย่าเพิ่งมาซักฉันตอนนี้เลย ยังไงฉันก็ต้องเล่าให้แกฟังอยู่ดีนั่นแหละ” ปิ่นมณีพูดตัดบทขณะคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป“ย่ะ! แม่เพื่อนตัวดี” ลีลาวดีส่งค้อนให้ด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะเดินเ

  • เสน่ห์รักนักสืบสาว   -4-

    รุ่งเช้าปิ่นมณีเดินไปด้อมๆ มองๆ อยู่ที่ร้านอาหารขนาดย่อมร้านหนึ่งที่ตั้งอยู่ตรงกลางโดยมีร้านขายดอกไม้และร้านขายยาขนาบอยู่สองข้างซ้ายขวา หน้าร้านสีขาวขนาดสองคูหาสองชั้นตกแต่งด้วยไม้ดอกจำพวกชวนชมหลากสีที่ตัดแต่งเป็นพุ่มสวยงาม ปิ่นมณีจ้องมองอย่างอดที่จะชื่นชมไม่ได้ หญิงสาวมองป้ายประกาศเล็กๆ ที่ติดอยู่บนกระจกหน้าร้านพลางเลยไปยังป้ายขนาดใหญ่ที่เขียนด้วยอักษรนูนสีทองว่า ‘จิ๊กกี๋โภชนา’ อย่างใช้ความคิดสักพักก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูกระจกเข้าไป“ขอโทษนะคะคุณ ตอนนี้ร้านยังไม่เปิดให้บริการค่ะ” พนักงานสาวที่ไม่สวยเลยสักนิดหันมาบอกอย่างตกใจเมื่อเห็นปิ่นมณีเดินเข้ามาด้วยคิดว่าเป็นลูกค้า“คือ…ฉะ…หนูมาสมัครงานค่ะ”ปิ่นมณีพูดอย่างไม่มั่นใจนักว่าจะใช้คำสรรพนามเรียกตัวเองว่าอะไร สุดท้ายก็นึกขึ้นมาได้ว่าเธอกำลังปลอมตัวเป็นเด็กมาหางานพิเศษทำ จึงใช้คำเรียกตัวเองว่า ‘หนู’ แทน ‘ฉัน’ อย่างที่ตั้งใจไว้ในตอนแรก“สมัครงานงั้นเหรอ” เมื่อรู้ว่าปิ่นมณีไม่ใช่แขก หญิงสาวคนเดิมจึงเปลี่ยนท่าทีการพูดในทันใด“เธออายุเท่าไหร่”“เอ่อ…17 จ้ะ” ปิ่นมณีตอบทันที เธอรู้สึกว่าอีกฝ่ายกำลังมองเธออย่างไม่ค่อยจะเชื่อนัก“รอเดี๋ยวนะ จะ

  • เสน่ห์รักนักสืบสาว   -3-

    “ทัดคะ คุณทำแบบนี้กับโรสได้ยังไงกัน ทั้งๆ ที่โรสชวนคุณทานข้าว โรสเป็นห่วงว่าคุณจะเครียดเกินไป แต่คุณก็บอกว่าไม่ว่าง กลับไปนั่งสวีตกับใครก็ไม่รู้ในร้านที่เราไปด้วยกันประจำ แล้วแม่นั่นน่ะเหรอลูกค้า โรสว่ามองยังไงมันก็ไอ้ผู้หญิงที่ชอบแย่งของของชาวบ้านนั่นแหละ ทำไมคุณต้องโกหกโรสด้วยคะ” โรสในชุดสีแดงไวน์โวยวายลั่นห้องพร้อมน้ำตา“ผมว่าคุณเข้าใจผิดไปใหญ่แล้วนะโรส ผมไปทานข้าวกับลูกค้าจริงๆ คุณภาณิณีเป็นลูกค้ารายใหญ่ของผม เธอเป็นลูกสาวของประธานบริษัทสกาย คอนสตัคชั่น บริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่ที่คอยสนับสนุนบริษัทของผม จะพูดจะจาอะไรก็หัดให้เกียรติเขาบ้าง”“ถึงกับออกรับแทนกันเลยเหรอคะ ผู้หญิงแพศยาแบบนั้นโรสว่ามันยังน้อยไปด้วยซ้ำ มีอย่างที่ไหน ผู้ชายก็มีตั้งเยอะแยะ ชอบทำตัวเป็นแมวขโมยของของคนอื่น พฤติกรรมแบบนี้ลูกผู้ลากมากดีเขาไม่ทำกันหรอก”“มันจะไปกันใหญ่แล้วนะโรส คุณเองก็เหมือนกัน…หัดมีเหตุผลบ้างสิ เอาแต่พูดจาให้ร้ายคนอื่นแบบเสียๆ หายๆ คุณเองก็เป็นลูกผู้ลากมากดีเหมือนกัน แต่ทำไมยิ่งนับวันก็ยิ่งหยาบคาย พูดจาไม่ให้เกียรติคนอื่นเลย ผมเองก็ไม่อยากพูดจาแบบนี้กับคุณหรอกนะ แต่พฤติกรรมของคุณนับวันผมเริ่มทน

  • เสน่ห์รักนักสืบสาว   -2-

    “ว่าไงนะ!” รจนากับลีลาวดีถามขึ้นมาพร้อมกันเมื่อได้ยินสิ่งที่ปิ่นมณีเล่าให้ฟัง“ก็อย่างที่พูดมานั่นแหละ ยายเจ๊นั่นเดินเอาขวดฉี่ไปสาดหน้าผัวแล้วก็ชู้กลางร้าน กลิ่นนี้เหม็นหึ่ง ขนาดฉันยืนอยู่ข้างนอกยังได้กลิ่นชัดเลย ไอ้ผัวจอมเจ้าชู้นั่นนะอย่างกับหมูตกบ่อฉี่เลยล่ะ” สิ้นเสียงของปิ่นมณี เสียงหัวเราะท้องแข็งก็ดังประสานกันขึ้นมา ทำเอาร้านเล็กๆ อย่างร้านช็อกโกแล็ตสั่นสะเทือน“พูดถึงแล้วก็อยากเห็นหน้าแม่นั่นตอนโดนสาดฉี่จังเลยเนอะ” ลีลาวดีพูดทั้งๆ ที่ยังไม่หยุดหัวเราะ“แต่พี่ว่ามันไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่หรอกนะ ผัวเมียไปตบตีกันในร้านอาหารสาธารณะเนี่ย เฮ้อ! โชคดีที่พี่ไม่คิดแต่งงาน ถ้ามาเจออย่างนี้เข้าคงซวยไปทั้งชาติ แต่ปิ่นก็ต้องระวังตัวด้วยนะ พี่ว่าไอ้งานแบบนี้มันเสี่ยงใช่ย่อย เราเองก็เป็นผู้หญิงตัวคนเดียว ถ้าเป็นไปได้เลิกทำเถอะ พี่ฟังแล้วยังอดกลัวแทนไม่ได้เลย ถ้าวันหนึ่งมันไม่ใช่แค่ฉี่ แต่เป็นพวกสารเคมีหรือว่าน้ำกรดขึ้นมา เราจะกลายเป็นคนบาปได้นะ ยังไงก่อนจะรับงานก็ดูให้ดีๆ ก่อนละกัน ยิ่งงานที่ค่าจ้างงามๆ เนี่ยมันน่าคิด เศรษฐกิจแบบนี้คงไม่มีใครเอางานง่ายๆ ที่จ่ายค่าจ้างแพงๆ มาให้ทำหรอก”“แหม! พี่นา

  • เสน่ห์รักนักสืบสาว   -1-

    “เอาล่ะ! เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย” หญิงสาวผมสั้นทรงบ็อบเทพูดกับตัวเองขณะมองดูผลงานบนจอคอมพิวเตอร์อย่างอารมณ์ดี“เพียงแค่คุณคือผู้เดือดร้อน ไม่สบายใจในทุกปัญหา ต้องการค้นพบคำตอบที่ถูกอำพรางไว้ โทรหาเราสิคะ 089-xxxxxxx นักสืบสาวโบตั๋นยินดีช่วยเหลือ…แกแน่ใจแล้วเหรอยายปิ่น” ลีลาวดีอ่านข้อความในบล็อกส่วนตัวของเพื่อนสาวพลางทำหน้าปูเลี่ยน ก่อนจะหันมาถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้งกับการตัดสินใจของเพื่อนซี้“แน่ยิ่งกว่าแน่ ก็ฉันไม่มีทางเลือกแล้วนี่ คนตกงานเป็นปีๆ อย่างฉัน ลองมาทุกทางแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรคืบหน้าสักที ก็มีแค่ทางนี้ทางเดียวเท่านั้นแหละ”“แต่ไอ้งานนักสืบเนี่ยมันเสี่ยงมากนะ อย่างแกน่ะมันไม่หนักไปหน่อยเหรอ เดี๋ยวนี้ยิ่งมีข่าวต้มตุ๋นหลอก ลวงกันไม่เว้นแต่ละวัน เราไม่หลอกเขา เขาก็หลอกเรา ฉันว่าแกอย่าเสี่ยงเลยปิ่น เชื่อฉันเหอะ”“มันก็ไม่แน่เสมอไปหรอกริน ฉันอาจจะโชคดีมือขึ้นทางนี้ก็ได้ อีกอย่างแกก็รู้ว่าฉันเก่งวิชาพละ มีอะไรเกิดขึ้นฉันเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว”“ทำเป็นอวดเก่ง แกจะใช้วิชาม้วนหน้าม้วนหลัง หกกบ สะพานโค้ง ตีลังกาล้อเกวียนหนีพวกโจรมัน เหรอไง ยายบ้า”“แกไม่เป็นฉันแกไม่รู้หรอกว่าการที่ต้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status