"คุณจำคำพูดของตัวเองไม่ได้เหรอคะ ตอนที่พูดกับเพื่อนคุณบอกว่ายังไง ถ้าฉันท้องขึ้นมาคุณจะหย่ากับฉัน และสัญญาของฉันกับคุณมันก็สิ้นสุดลงแล้วด้วย” “ม่าน…” เพียงเขาอ้าปากเรียกชื่อเธอ ม่านทิวาก็พูดแทรกขึ้นมาอย่างไม่ยอมให้โอกาสคนใจร้ายอย่างเขาได้พูดอธิบายสักคำ “ที่คุณทำไปทั้งหมดก็เพราะต้องการแก้แค้นให้ยัยวิเจ็บใจแล้วก็เอาชนะเดิมพันเพื่อนของคุณเท่านั้น" เธอยอกย้อนเสียงราบเรียบ แต่มันกลับบาดลึกเข้าไปในหัวใจของชายหนุ่มจนเจ็บปวด
View Moreม่านทิวาส่ายหน้าให้กับคำตอบของเพื่อนก่อนหันไปจ่ายค่าเครื่องดื่มให้กับพนักงาน"ฉันง่วงไม่ไหวแล้วอะ ขอกลับก่อนนะ"ม่านทิวาบอกกับเพื่อนเสียงงัวเงียทางอ่อนเพลีย เธอขอตัวกลับทันทีเพราะตอนนี้เริ่มจะง่วงขึ้นมาอีกแล้ว ถึงแม้จะรู้ว่าเสียมารยาทมากแค่ไหนที่เธอนั้นมาทีหลังยังจะขอกลับก่อน"แล้วจะกลับยังไง ให้พวกฉันไปส่งไหม"วีรพลขันอาสาด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ถ้าง่วงแบบนี้ให้กลับเองไม่ดีแน่ ทว่าอีกใจคืออยากเห็นบ้านสามีเพื่อนด้วยนั่นแหละ ว่าบ้านสามีของเพื่อนสาวจะใหญ่อลังการหรือเปล่า ในจังหวะที่ม่านทิวากำลังจะตอบกลับ เสียงเข้มของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้นเหนือศีรษะของเธอ“ถ้าง่วงก็กลับบ้าน"ม่านทิวาที่กำลังดื่มกาแฟอยู่ต้องชะงัก เงยหน้าขึ้นมาดูว่าเสียงนั้นใช่คนที่เธอคิดไว้หรือไม่ใช่...เขาคือคนที่เธอคิดไว้ไม่มีผิด นั่นก็คือรณพีร์ แต่จะว่าไปเขามาอยู่อะไรที่นี่"คุณสอง""ฉันมารับกลับบ้าน" ชายหนุ่มเอ่ยบอกเสียงเข้มก่อนหันมาบอกเพื่อนของเธอ "ขอตัวพาภรรยากลับบ้านก่อนนะครับ" พูดจบก็คว้ามือเรียวของคนตัวเล็กออกจากร้านท่ามกลางความมึนงงของสาว
"เม้าท์ฉันอีกแล้วนะ" คนตัวเล็กมุ่ยหน้ามองเพื่อนพลางทำท่าทางแสนงอน"ช่วยไม่ได้ ก็แกอยากมีเรื่องให้พวกฉันเมาท์ทำไมล่ะยะ"“เฮ้อ!” ม่านทิวาถอนหลายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน ทำไมเพื่อนเธอถึงอยากรู้อยากเห็นอะไรกันขนาดนี้น้า"ว่าแต่เรื่องของแก เป็นจริงอย่างที่ยัยวีวี่มันพูดหรือเปล่า...ที่ว่าแกมีผัวแล้วน่ะ" คำถามขอธาริกาทำเอาม่านทิวาแทบสำลักอเมริกาโนเย็นที่เพิ่งเอามาเสิร์ฟเมื่อครู่นี้แค่ก ๆ"เอาอะไรมาพูด" ม่านทิวาพยายามบ่ายเบี่ยง สายตาหวานเสมองไปทางอื่นไม่ยอมสบตาเพื่อนทั้งสี่คนที่จ้องเธออย่างคาดคั้น"ก็ยัยวีวี่มันเล่าให้ฟังว่าแกมีผัวแล้ว ตอนที่แกไปเที่ยวเชียงใหม่เมื่อคราวก่อน" อัญญ์เอ่ยขึ้นพร้อมกับเสมองไปทางวีรพล"ใช่! อย่ามาตอแหลนะนังม่าน เพราะวันนั้นที่แกกับฉันจะไปวัดด้วยกันอะ ฉันโทร.หาแกแต่คนรับสายเป็นผู้ชาย ฉันสงสัยก็เลยรีบไปเคาะประตูที่ห้องพักของแก แต่คนที่เปิดเป็นผู้ชาย สูง ขาว หล่อล่ำ แต่หน้าดุไม่ค่อยยิ้ม พอฉันถามว่าเป็นใคร...เขาบอกว่าเป็นผัวแก" วีรพลอธิบายยาวเหยียดให้ม่านทิวาและเพื่อน ๆ ได้ฟังอีกครั้งเพื่อยืนยันว่าตนพูดจริง ๆ ไม่ได้โกหก
หลบหน้า 3โดยไม่ลืมที่จะบอกมธุรินว่าช่วงบ่ายเธอไม่ได้อยู่อ่านนิทานให้หนูน้อยพาลิกาฟังเพราะมีธุระด่วนต้องรีบไปทำ ทิ้งให้ร่างสูงของรณพีร์ยืนหัวเสียไม่น้อยที่ถูกเมียเมินมาหลายต่อหลายครั้งชายหนุ่มรีบต่อสายหาลูกน้องคนสนิทและสั่งการบางอย่างทันที ส่วนตัวของเขานั้นต้องกลับไปสะสางงานต่อให้เรียบร้อย ส่วนเรื่องอื่นที่ทำให้กวนใจค่อยว่ากันเพราะตอนนี้งานสำคัญกว่าคาเฟที่ตกแต่งอย่างน่ารักใกล้ห้างสรรพสินค้าชื่อดังเป็นสถานที่นัดพบกันของเหล่าเพื่อนสาวในวันนี้...ม่านทิวายืนชั่งใจอยู่หน้าร้านครู่หนึ่งก่อนจะรวบรวมความกล้าด้วยการผ่อนลมหายใจเข้าและออกอย่างช้า ๆ ถ้าหากเธอคิดไม่ผิด เหล่าสี่สาวน่าจะมีเรื่องเม้าท์มอยมากมายหลังจากไม่ได้เจอหน้ากันมานาน นับจากวันที่เธอจดทะเบียนสมรสกับรณพีร์มาก็รวมเวลาสามเดือนแล้ว เธอนั้นแทบไม่ได้ออกมาพบปะเพื่อนสาวเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะถ้าหากพบกันแล้วก็คงไม่วายที่จะซักถามเรื่องการย้ายบ้านของเธอเป็นแน่ เพราะเท่าที่เห็นนั่งคุยกันในกรุปไลน์ก็พากันคุยเรื่องของเธอเสียส่วนใหญ่ ถามไถ่ว่าเป็นอย่างไรบ้างไม่ได้เจอกันหลายเดือนแ
หลบหน้า 2“โถ…หนูม่าน! แม่อยากให้หนูลาออกได้แล้ว หนูนอนดึกตื่นเช้าทุกวันร่างกายมันจะแย่เอานะ” นางลูบศีรษะทุยได้รูปของหญิงสาวด้วยความเอ็นดูระคนเป็นห่วงเป็นใย“ม่านอยากทำงานค่ะ” หญิงสาวตอบสั้น ๆสาเหตุที่เธอต้องทำงานหนักและกลับดึกทุกวันเพราะไม่อยากให้ใครมาว่าเธอได้ว่าหวังรวยทางลัด หวังเงินทองของคนในบ้านหลังนี้ เพียงแค่นามสกุลของคนในตระกูลนี้ช่วยปกป้องเธอจากแม่เลี้ยงและน้องสาวนอกไส้ได้เท่านี้ก็พอแล้ว“อาม่านมาแล้ว” หนูน้อยพาลิกาที่ถูกมารดาพาออกไปเดินเล่นข้างนอกเข้ามาเห็นม่านทิวาก็รีบวิ่งมาหาทันที“น้องพายอย่าวิ่งลูก” บอกบุตรสาวตัวน้อยก่อนเอ่ยทักทายน้องสะใภ้ด้วยรอยยิ้ม “สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณม่าน”“สวัสดีค่ะคุณมายด์” ทักทายเสร็จก็ย่อตัวลงมาหาเจ้าตัวน้อยที่ทำตาแป๋วใส่อย่างออดอ้อน“จ๊ะเอ๋! ว่าไงคะคนสวย”“อาม่านมาแล้ว น้องพายอยากฟังนิทานจังค่า” หนูน้อยพาลิกาบอกเสียงใส“ได้สิคะ” ม่านทิวาตอบกลับเสียงหวานตามใจหลานสาวตัวน้อยทุกอย่าง“น้องพายรอหนูม่านเล่านิทานให้ฟังตั้งแต่เมื่อวานน่ะ แม่ก็เลยบอกว่าวันนี้ค่อยให้ห
หลบหน้า 1"อาม่านอยู่ไหนค้า..." เสียงเจื้อยแจ้วของหนูพาลิกาดังขึ้นพร้อมกับวิ่งเข้ามาหา ในมือของหนูน้อยมีหนังสือนิทานเล่มเดิมถือติดมาด้วย"คุณย่าขา...อาม่านอยู่ไหนค้า" เสียงเล็ก ๆ เอ่ยถามคนเป็นย่าตาแป๋วคนเป็นย่าสอดส่ายสายตามองหาลูกสะใภ้คนเล็กที่ยังไม่เห็นหน้าตั้งแต่เช้า นางเลยร้องถามแม่บ้านเก่าแก่อย่างแม่เจียมจิต"แม่เจียม หนูม่านอยู่ในครัวหรือเปล่า" ร้องถามพร้อมกับชะเง้อคอมองหา"ไม่เห็นคุณม่านเลยค่ะ ตั้งแต่เช้าแล้ว ปกติคุณม่านจะลงมาเตรียมอาหารก่อนเจียมและเด็ก ๆ อีกนะคะ" คนถูกถามออกความเห็นด้วยความสงสัยไม่แพ้เจ้านาย"นั่นน่ะสิ นี่ก็จะสิบโมงเช้าแล้วนะ…หรือว่าออกไปทำงานแล้ว" คุณนายสรวงสุดาตั้งข้อสังเกตด้วยความแปลกใจ ปกติลูกสะใภ้มักจะตื่นเช้ามากไม่ว่าจะกลับบ้านดึกขนาดไหนก็ตาม"วันนี้วันหยุดนะคะคุณนาย" สาวใช้เอ่ยเตือน"งั้นเธอขึ้น..." ยังไม่ทันที่คุณนายสรวงสุดาจะเอ่ยจบประโยค รณพีร์ก็พี่เอ่ยแทรกเข้ามาเสียก่อน“มีอะไรกันเหรอครับเสียงดังกันเชียว” รณพีร์ที่ออกไปทำธุระข้างนอกบ้านตั้งแต่เช้าเพิ่งจะกลับมานั้นถามขึ้
"โอ๊ย…เจ็บ!" เสียงหวานร้องออกมาเมื่อสองมือของรณพีร์เลื่อนขึ้นมากอบกุมทรวงอกอวบของตนอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาเคลื่อนกายใหญ่โตพร้อมกับโน้มใบหน้าคมลงมาดูดกลืนเม็ดเชอร์รีสีหวานอย่างหิวกระหาย ทั้งริมฝีปากหนา มือ และเอวสอบต่างทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดี"อ้า! หวานเป็นบ้าเลยม่านทิวา"ละปากออกจากทรวงอกอวบอิ่มก่อนก้มจูบตักตวงความหวานจากริมฝีปากบางกระจับของหญิงสาวอย่างดูดดื่มอีกครั้ง ก่อนจะผละออกอย่างเสียดายเพราะเธอกำลังจะขาดอากาศหายใจรณพีร์กระแทกความแข็งขึงเข้ามาในกายสาวจนหน้าอกอวบใหญ่กระเพื่อมไหวไปตามแรงทำให้หญิงสาวเจ็บจุกและเสียดเสียวท้องน้อยในเวลาเดียวกันคนตัวโตถอนกายออกมาก่อนกระแทกเข้าไปอีกครั้งทำเอาหญิงสาวเกือบเสร็จเก็บเสียงครางรัญจวนเอาไว้ไม่อยู่ เขาทำแบบนั้นซ้ำไปซ้ำมาก่อนเปลี่ยนท่าทำรักใหม่ตามที่ใจเขาต้องการ ไม่สนว่าคนตัวเล็กจะเหน็ดเหนื่อยหรือไม่"คุณสอง...พอแล้ว...ฉันเหนื่อยแล้ว" เสียงหอบหายใจแรงเอ่ยขึ้นอย่างเหนื่อยอ่อน แต่มีหรือคนที่ความต้องการสูงอย่างเขาจะยอม อีกทั้งเมียยังพยายามหลบหน้ามาเกือบอาทิตย์ สิ่งที่สั่งสมในกายจึงต้องการการปลดปล่อยอย่างเ
“ไม่ ฉันไม่ยอม” หญิงสาวตอบเสียงแข็งพยายามดิ้นรนออกจากร่างสูงกำยำเอาแต่ใจของเขา“ไม่ยอมก็ต้องยอมเพราะเธอเป็นเมียฉัน” รณพีร์บอกอย่างเอาแต่ใจตัวเอง“ไม่! ถ้าอยากมากคุณก็ออกไปซื้อกินข้างนอกสิ มายุ่งกับฉันทำไม” คนอ่อนแรงกว่าบอกชายหนุ่มอีกทั้งพยายามผลักอกแกร่งให้ถอยออกไปเขาต้องการอะไรจากเธอ ในเมื่อเป็นคนพูดเองว่าห้ามเข้าใกล้เขาไม่ใช่หรือ…แล้วนี่อะไรกัน?“มีเมียให้เอาฟรี ๆ อยู่ที่บ้านทั้งคน…จะออกไปเอาผู้หญิงข้างนอกให้เสียเงินทำไม ในเมื่อแม่ฉันเสียเงินจ่ายหนี้สินให้เธอตั้งหลายล้าน…ก็ต้องตอบแทนกันหน่อยสิ”“คุณรู้ได้ไง” ร้องถามด้วยความตกใจเขารู้ได้อย่างไร…หรือว่าคุณนายสรวงสุดาเป็นคนบอก ถ้าหากนางบอก…เขาก็ต้องรู้เรื่องที่เธอตกลงเอาไว้กับมารดาของเขาน่ะสิ“จะบอกอะไรให้นะ…ฉันรู้เรื่องทุกอย่าง แต่ฉันไม่พูดก็แค่นั้นเอง”“ปล่อยฉันนะ ไม่งั้นฉันร้องจริง ๆ ด้วย” หญิงสาวขู่พร้อมกับอ้าปากหมายจะส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ“เอาเลย ร้องไห้ตายยังไงก็ไม่มีใครได้ยิน” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ยกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจก่อนก้มลงกระซิบเสียงแหบ
นี่หลานตัวน้อยเจออาคนใหม่แล้วก็ลืมอาคนเก่าอย่างเขาไปเลยหรือ!“อาม่านไปทำงานยังไม่กลับค่ะ มาให้แม่อ่านให้ฟังก่อนเนอะ” มธุรินพยายามเกลี้ยกล่อมลูกสาวตัวน้อย แต่หนูน้อยกลับงอแงไม่ยอมท่าเดียว“น้องพายจะรออาม่าน” หนูน้อยหันไปบอกคนเป็นมารดาตาแป๋ว“อีกนานเลยลูกกว่าอาม่านจะกลับมา ย่าว่าน้องพายของย่าไปนอนก่อนดีกว่านะคะ พรุ่งนี้วันหยุดค่อยให้อาม่านอ่านให้ฟังดีไหม” คุณนายสรวงสุดาปะเหลาะหลานสาวเสียงนุ่มละมุน“จริงนะคะคุณย่า” มองหนังสือนิทานในมือแล้วเงยหน้าขึ้นมามองผู้เป็นย่าตาแป๋ว“มาค่ะ คุณพ่อพาไปนอนนะคะ” รณวีร์อ้าแขนรับลูกสาวเตรียมพาไปขึ้นนอนเพราะเวลานี้ก็ดึกมากแล้ว เจ้าตัวจ้อยกระโดดกอดคอผู้เป็นบิดาแล้วก็พากันขึ้นนอนทันที“ไม่ขึ้นนอนหรือไงตาสอง” นางถามบุตรชายที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหนรณพีร์มองหน้ามารดาแล้วพยักหน้ารับโดยไม่พูดอะไร ทำเอาคนเป็นมารดาถึงกับส่ายศีรษะให้กับความปากแข็งของบุตรชายที่อยากจะรอเมียแต่ทำเป็นขรึมไปอย่างนั้น“ขึ้นนอนเถอะ อีกสองชั่วโมงกว่าเมียแกจะเลิกงานกลับถึงบ้าน” นางบอกเพียงแค่นั้นแล้วเดินขึ้นห้องนอนทันที ทิ้
ม่านทิวาและรณพีร์กลับจากเชียงใหม่มาได้เกือบหนึ่งสัปดาห์แล้ว ใครว่าหลังจากฮันนีมูนความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาจะดีขึ้นไม่เลย ทุกอย่างแย่ลงเสียยิ่งกว่าเดิม!ม่านทิวาตั้งใจหลบหน้ารณพีร์ทุกวัน สองสามวันแรกไม่ค่อยเท่าไร พอนานเข้าอารมณ์ของเขาพลุ่งพล่านเป็นฟืนเป็นไฟเมื่อถูกเมียหลบหน้าหลบตาอย่างเอาเป็นเอาตายเขาจะกลับไปคุยกับเธอให้รู้เรื่อง!สี่วันให้หลังเมื่อชายหนุ่มกลับบ้านมาก็มักจะพบว่าหญิงสาวชิงนอนหลับไปก่อนทุกครั้ง กลิ่นกายหอม ๆ ของเธอทำเอาเขาปั่นป่วนร้อนรุ่มไปทั้งกาย อยากจะปลุกให้ตื่นขึ้นมารับโทษที่ทำให้เขานอนไม่หลับกระสับกระส่าย อยากทำรักกับคนที่นอนข้าง ๆ อยู่ไม่น้อย มิหนำซ้ำตื่นเช้ามาหญิงสาวก็ชิงออกจากบ้านก่อนเขาจะตื่นเสียอีกวันนี้รณพีร์กลับบ้านก่อนเวลาเลิกงานเพื่อที่จะรอพบม่านทิวา ดูซิว่าหญิงสาวจะทำอย่างไร จะหลบหน้าเขาอีกหรือไม่ทันทีที่ชายหนุ่มเข้ามาในบ้านกลับเป็นที่แปลกใจไม่น้อยสำหรับคนในบ้าน…“วันนี้ฝนคงตกหนักเพราะลูกชายคนเล็กของฉันกลับบ้านเร็ว…จริงไหมแม่เจียม” คุณนายสรวงสุดามองบุตรชายที่เดินเข้ามาพลางกระเซ้าเย้าแห
“คุณจำคำพูดของตัวเองไม่ได้เหรอคะ ตอนที่พูดกับเพื่อนคุณบอกว่ายังไง ถ้าม่านท้องขึ้นมาคุณจะหย่ากับม่าน และสัญญาของม่านกับคุณมันก็สิ้นสุดลงแล้วด้วย”“ม่าน…” เพียงเขาอ้าปากเรียกชื่อเธอ ม่านทิวาก็พูดแทรกขึ้นมาอย่างไม่ยอมให้โอกาสคนใจร้ายอย่างเขาได้พูดอธิบายสักคำ“ที่คุณทำไปทั้งหมดก็เพราะต้องการแก้แค้นให้ยัยวิเจ็บใจแล้วก็เอาชนะเดิมพันเพื่อนของคุณ” เธอยอกย้อนเสียงราบเรียบ แต่มันกลับบาดลึกเข้าไปในหัวใจของชายหนุ่มจนเจ็บปวด“ฉัน...” รณพีร์กำลังจะเอ่ยค้าน แต่ก็ถูกม่านทิวาพูดดักคอเอาไว้เสียก่อน“อย่าไปทำแบบนี้กับใครอีกนะคะ เพราะการหลอกลวงให้ ผู้หญิงคนหนึ่งรักคุณจนหมดใจ แต่คุณกลับตอบแทนเขาด้วยความเจ็บช้ำ มันจะทำให้ ผู้หญิงคนนั้นหมดความหวัง ความศรัทธา ความเชื่อใจในความรักจนหมดสิ้น” เสียงสั่นเครือของหญิงสาวทำเอาชายหนุ่มอยากจะกอดปลอบ แต่เธอคงไม่ต้องการ“ม่าน...ฉันขอโทษ”--------------------------------------------------------------------------------------------------- เสน่หาสามีลวงใจ ประพันธ์ ญาดาพัชร์ ออกแบบปก คนวาดสีเทา ...
Comments