แชร์

ตอนที่ 6 ความใกล้ชิดที่เกินพอดี (NC+)

ฉันนั่งอยู่บนเตียงในห้องพักที่เงียบสงบ สายตาของฉันจับจ้องไปที่กระดาษแผ่นหนึ่งในมือ มันคือกฎระเบียบของโรงเรียนเซนต์เอมิลี่ ซึ่งฉันได้รับมาเมื่อตอนเข้ามาใหม่ ฉันควรจะอ่านมันตั้งแต่วันแรก แต่ด้วยเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้น ฉันกลับลืมไปเสียสนิท กระดาษแผ่นนี้เหมือนเป็นเตือนความจำของสิ่งที่ควรและไม่ควรทำ

ฉันค่อยๆ พลิกกระดาษไปเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าสุดท้าย สายตาของฉันก็สะดุดกับกฎข้อที่ 10 ที่ถูกเขียนไว้ด้วยตัวหนังสือสีเข้มกว่าปกติ ฉันรู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นแรงขึ้นทันทีเมื่ออ่านมัน

กฎข้อที่ 10: ห้ามมิให้มีความสัมพันธ์ส่วนตัวที่เกินขอบเขตของความเป็นครูและนักเรียน หากพบว่ามีการกระทำเช่นนี้ จะมีการสอบสวนและลงโทษอย่างเคร่งครัดทั้งครูและนักเรียนที่เกี่ยวข้อง

ฉันอ่านประโยคนั้นซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง ใจของฉันเริ่มเต้นแรงขึ้นเมื่อคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างฉันกับครูพีท ความสัมพันธ์ของเรานั้นข้ามเส้นที่ถูกเขียนไว้ในกฎระเบียบนี้อย่างชัดเจน และฉันก็รู้ดีว่าถ้ามีใครรู้เรื่องนี้ ผลที่ตามมาอาจจะไม่ดีเลย

เสียงเปิดประตูดังขึ้น ฉันเงยหน้าขึ้นมองเห็นซาร่า เพื่อนร่วมห้องของฉันเดินเข้ามาพร้อมกับยิ้มกว้าง เธอเพิ่งกลับจากห้องสมุด ดูมีความสุขกับหนังสือเล่มใหม่ที่เพิ่งยืมมา ซาร่าเป็นคนที่ร่าเริงเสมอ และฉันรู้สึกดีที่มีเธอเป็นเพื่อนร่วมชั้นและเพื่อนร่วมห้อง

“เธอกำลังทำอะไรอยู่เหรอ?” ซาร่าถามพลางวางกระเป๋าลงบนโต๊ะข้างเตียงของเธอ น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความสนใจและความอบอุ่นตามแบบฉบับของเธอ

“ฉันกำลังอ่านกฎระเบียบของโรงเรียนอยู่”

“กฎระเบียบ? โอ้ พระเจ้า น่าเบื่อแย่เลย!” ซาร่าหัวเราะออกมา แต่เมื่อเห็นสีหน้าของฉันที่ดูไม่ค่อยดีนัก เธอก็หยุดหัวเราะและถามอย่างสงสัย “มีอะไรหรือเปล่า ทำไมดูเคร่งเครียดจัง?”

“กฎข้อ 10 เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียน...”

“อ้อ เรื่องนั้น” ซาร่าพูดเสียงเบาลงทันที

“โรงเรียนนี้เข้มงวดมากเรื่องพวกนี้ พวกเขากลัวว่าถ้าครูและนักเรียนมีความสัมพันธ์ที่เกินขอบเขต มันจะทำให้สภาพแวดล้อมการเรียนเสียหายได้ง่าย”

“ซาร่า... เคยมีเหตุการณ์อะไรเกี่ยวกับกฎข้อนี้มาก่อนไหม?” ฉันอยากรู้

ซาร่าทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดออกมา “จริงๆ แล้วก็มีนะ มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณสองปีก่อน เหมือนว่าเคยมีนักเรียนคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่ แล้วเธอก็มีความสัมพันธ์กับครูของเธอ”

หัวใจของฉันเต้นแรงขึ้นอีกครั้งเมื่อได้ยินเช่นนั้น “แล้วมันเกิดอะไรขึ้น?”

ซาร่าถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่อง “นักเรียนคนนั้นชื่อเอมิลี่ เธอเป็นนักเรียนที่เก่งมาก แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไปตกหลุมรักครูคนหนึ่งที่สอนวิชาวิทยาศาสตร์ ทั้งสองคนเริ่มมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมีคนในโรงเรียนเริ่มสงสัย”

“พวกเขาถูกจับได้เหรอ?” ฉันถามด้วยความกังวล รู้สึกว่าหัวใจของฉันหนักอึ้ง

“ใช่” ซาร่าพยักหน้า

“มีคนเห็นพวกเขาอยู่ด้วยกันนอกเวลาเรียน แล้วเรื่องก็มาถึงหูผู้บริหารโรงเรียน พวกเขาถูกเรียกไปสอบสวน ครูคนนั้นถูกไล่ออกทันที ส่วนเอมิลี่ก็ถูกไล่ออกจากโรงเรียนเหมือนกัน เธอต้องย้ายไปเรียนที่อื่น เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ไม่มีใครลืมได้เลย”

“อย่ากังวลมากไปเลยนะลิลลี่ แค่ทำตามกฎระเบียบทุกอย่างก็จะไม่มีปัญหาอะไร” ซาร่ายิ้มให้ฉันอย่างอบอุ่น

‘ขอโทษ ฉันฝ่าฝืนระเบียบไปแล้วล่ะ’ ฉันได้แต่คิดในใจ

ซาร่าเห็นฉันเงียบไปนานก็เริ่มหันเหความสนใจไปที่หนังสือเล่มใหม่ของเธอ ซึ่งเป็นนิยายเรื่องหนึ่งที่เธอเพิ่งยืมมาจากห้องสมุด เธอเริ่มเล่าเรื่องราวในหนังสือให้ฉันฟังด้วยความตื่นเต้น

ฉันพยายามฟังเธอ แต่หัวใจของฉันกลับล่องลอยไปกับความคิดเกี่ยวกับครูพีทและความสัมพันธ์ที่เสี่ยงจะถูกเปิดเผย ฉันรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่บนเชือกเส้นเล็กๆ ที่พร้อมจะขาดลงได้ทุกเมื่อ ความสัมพันธ์ของเรามันเป็นเหมือนเปลวไฟที่สวยงามและร้อนแรง แต่ก็พร้อมจะเผาผลาญทุกอย่างที่อยู่รอบตัว

“ลิลลี่ เธอเป็นอะไรไปหรือเปล่า? ทำไมดูเหม่อลอยจัง?” ซาร่าถามขึ้นหลังจากเห็นฉันไม่ได้ตอบสนองต่อเรื่องราวที่เธอเล่า

“ไม่มีอะไรหรอก ซาร่า” ฉันตอบพลางยิ้มบางๆ แต่ในใจกลับรู้สึกหวาดหวั่น “ฉันแค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ”

“ถ้าเธอมีอะไรก็บอกฉันนะ” ซาร่าพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและเป็นห่วง

“อื้ม” ฉันพยักหน้า แต่ฉันรู้ว่าฉันไม่สามารถบอกความจริงกับเธอได้ ความลับของฉันและครูพีท

เสียงกระดิ่งบอกเวลาเริ่มคาบเรียนดังขึ้น ทุกคนในห้องเรียนต่างรีบเปิดหนังสือและเตรียมอุปกรณ์เพื่อเริ่มเรียน ฉันนั่งอยู่ที่โต๊ะของตัวเอง ใจของฉันเต้นแรงเมื่อเห็นครูพีทเดินเข้ามาในห้อง เขาดูสงบนิ่งเหมือนทุกครั้ง แต่ฉันรู้ดีว่าเบื้องหลังท่าทีที่นิ่งสงบนี้มีอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่

ครูพีทเริ่มสอนบทเรียนด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง เขาอธิบายเนื้อหาด้วยความชัดเจนและน่าสนใจ ทุกคนในห้องต่างตั้งใจฟัง แต่ฉันกลับรู้สึกเหมือนว่าเสียงของเขากำลังดังก้องอยู่ในใจฉันมากกว่าที่ควรจะเป็น

ขณะที่เขาสอน ฉันพยายามจดบันทึกและทำความเข้าใจกับเนื้อหาที่เขาพูด แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าตัวเองถูกสายตาของเขาจับจ้องอยู่เป็นระยะ ๆ

ทุกครั้งที่เขามองมาทางฉัน ฉันรู้สึกได้ถึงความร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ราวกับว่าในห้องเรียนนี้มีเพียงเราสองคนเท่านั้น

“ลิลลี่” เสียงของครูพีทเรียกชื่อฉัน ขณะที่เขาเดินเข้ามาใกล้โต๊ะของฉัน

“ค่ะ ครู?” หัวใจของฉันเต้นแรงขึ้นเมื่อเขาเข้ามาใกล้จนฉันสามารถรับรู้ถึงความอบอุ่นจากตัวเขาได้

“เธอเข้าใจเนื้อหาที่ฉันอธิบายหรือเปล่า?” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล แต่กลับเต็มไปด้วยความเข้มงวด ดวงตาคมกริบจ้องมองฉันราวกับหมาป่าเจ้าเล่ห์จ้องมองเหยื่อ

“เอ่อ...ค่ะ...แต่บางส่วนหนูก็...ยังไม่ค่อยเข้าใจค่ะ”

ฉันตอบออกไปอย่างสั่นไหว รู้สึกว่าตัวเองเริ่มพูดติดขัดเพราะความใกล้ชิดของเขา

“ดูเหมือนเธอไม่เข้าใจนะ” ครูพีทยิ้มเล็กน้อย เมื่อก้มลงมองหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะของฉัน

“ฉันจะอธิบายอีกครั้งนะ”

เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้มากขึ้น ร่างกายของเขาเกือบจะแนบชิดกับฉัน ฉันรู้สึกถึงลมหายใจของเขาที่อยู่ใกล้ข้างแก้มของฉัน ความอบอุ่นที่แผ่ออกมาจากตัวเขาทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าทั้งห้องเรียนกำลังหมุนไปรอบ ๆ เราสองคน

ขณะที่เขาอธิบายเนื้อหาอย่างละเอียด มือของเขาก็เคลื่อนมาใกล้กับมือของฉันที่วางอยู่บนโต๊ะ ฉันรู้สึกถึงแรงดึงดูดที่ไม่สามารถต้านทานได้ ความคิดที่จะขยับตัวหนีหายไปทันทีเมื่อสัมผัสของเขาแตะเข้ากับมือของฉันอย่างแผ่วเบา

“เนื้อหานี้ค่อนข้างซับซ้อน เธอควรตั้งใจให้มากนะ” เขาพูดเบา ๆ ขณะที่ยังคงโน้มตัวอยู่ใกล้ ๆ

“ค่ะ... หนูจะพยายาม” ฉันตอบกลับด้วยเสียงที่แทบจะกระซิบ หัวใจของฉันเต้นแรงจนรู้สึกว่ามันจะหลุดออกมาจากอก ความตึงเครียดและความตื่นเต้นที่ปะปนกันอยู่ในใจทำให้ฉันรู้สึกสับสน

ครูพีทยังคงอธิบายเนื้อหาให้ฉันฟัง แต่ในขณะเดียวกัน การสัมผัสของเขาที่แตะกับมือของฉันก็ยังคงอยู่ ความอบอุ่นจากมือของเขาทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าฉันกำลังถูกล้อมรอบด้วยความปรารถนา ตอนนี้ในหัวสมองฉันไม่มีเนื้อหาที่เขาสอนเลยสักนิด

“ลิลลี่”

“คะ!” ฉันสะดุ้ง

“ดูเหมือนเธอมีปัญหากับการเรียนวันนี้นะ” ครูพีทถอนหายใจราวกับเหนื่อยหน่าย แต่แววตาที่เขามองฉันกลับเป็นประกายและเต็มไปด้วยความปรารถนา

“หลังเลิกเรียนมาที่ห้องพักครูด้วย” ครูพีทยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะหันไปสอนนักเรียนคนอื่นต่อ

หัวใจฉันเต้นแรง ฉันรู้ความหมายของคำพูดนั้นดี ครูพีทมักสอนบทเรียนหลังเลิกเรียนให้ฉันแทบทุกวัน ร่างกายของฉันถูกครูพีทสัมผัสแทบทุกสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็นริมฝีปาก พวงแก้ม ซอกคอ เนินอก หน้าท้อง ต้นขา ขาอ่อน หรือแม้แต่...

ฉันเผลอยกมือขึ้นปิดหน้าด้วยความอาย เพียงแค่คิดใบหน้าของฉันก็ร้อนผ่าวไปหมด

หลังจากเสียงออดบอกเวลาเลิกเรียนดังขึ้น นักเรียนคนอื่นๆ ทยอยกันออกจากห้องเรียนไปทีละคน ขณะที่ฉันยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะ รวบรวมความกล้าที่กำลังสั่นไหวในใจ ฉันรู้ว่าการไปหาครูพีทที่ห้องพักครูหลังเลิกเรียนอย่างไร แต่ก็ไม่สามารถห้ามตัวเองไม่ให้รู้สึกตื่นเต้นได้

“ลิลลี่ วันนี้ไปร้านคาเฟ่กัน ได้ข่าวว่ามีร้านเปิดใหม่ล่ะ” ซาร่าชวนฉันขณะที่กำลังเก็บของลงกระเป๋า

“ขอโทษนะ...ฉันมีเรียนเสริมน่ะ..” ฉันตอบพร้อมกับค่อยๆ เก็บของ

“ห๊ะ? ครูพีทเหรอ?”

“อื้อ”

“ทำไมครูเข้มงวดกับเธอจัง” ซาร่าเอียงคอมองด้วยความสงสัย

“ฉันเรียนแล้วไม่ค่อยเข้าใจน่ะ” ฉันยิ้มแหย

ซาร่าทำหน้าแบบไม่ค่อยเชื่อ “ใช่เหรอ? ฉันว่าเธอเก่งนะ อ๋อ ฉันรู้แล้ว”

“สงสัยครูอยากได้เธอไปร่วมแข่งขันการประกวดเขียนบทวรรณกรรมระหว่างโรงเรียนของปีนี้แน่เลย” ซาร่ายิ้มร่า

“แข่งขัน?” ฉันเลิกคิ้วงุนงง เพราะเพิ่งเคยได้ยิน

“ช่ายย ถ้างั้นสู้ๆ นะ ส่วนร้านคาเฟ่ วันหยุดเราค่อยไปกัน” ซาร่ายิ้มให้ฉัน

“อะ...อื้อ” ฉันพยักหน้ารับ

“เจอกันที่ห้องนะ” ซาร่าโบกมือให้ฉันแล้วเดินออกจากห้องเรียนไปอย่างร่าเริง

เมื่อห้องเรียนว่างเปล่า ฉันจึงลุกขึ้นและเดินไปยังห้องพักครู ความรู้สึกทั้งหลายปะปนกันจนทำให้ฉันรู้สึกหนักอึ้งในอก ทั้งตื่นเต้น กังวล และคาดหวัง ฉันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อรวบรวมความมั่นใจขณะเดินไปถึงหน้าประตูห้องพักครู

ฉันเคาะประตูเบาๆ และทันทีที่ได้ยินเสียงจากภายใน ฉันเปิดประตูเข้าไปเห็นครูพีทนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของเขา สายตาของเขามองขึ้นมาเจอฉัน และฉันรู้สึกถึงแรงดึงดูดที่เหมือนมีบางสิ่งเชื่อมโยงเราไว้

“เข้ามาสิ ลิลลี่” เขาพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ฉันปิดประตูและเดินเข้าไปหาเขา หัวใจของฉันเต้นแรงจนแทบจะได้ยิน

“หนูมาแล้วค่ะครู” ฉันพูดเสียงเบา ยิ้มบางๆ แม้จะรู้สึกว่าตัวเองกำลังสั่นน้อยๆ จากความตื่นเต้น

ครูพีทยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะชี้ไปที่กองเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะข้างๆ

“นี่คือเอกสารเกี่ยวกับบทเรียนวรรณคดีที่ฉันอยากให้เธอช่วยจัดเรียงและจัดเตรียมให้พร้อมสำหรับชั่วโมงเรียนวันพรุ่งนี้”

ฉันพยักหน้าและนั่งลงที่เก้าอี้ข้างโต๊ะ ทำงานตามที่เขาบอก ขณะที่มือของฉันจัดเรียงเอกสาร ความคิดของฉันกลับล่องลอยไปยังสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเรา ความใกล้ชิด ความลับที่เราต่างเก็บซ่อน และความรู้สึกที่ซับซ้อนในใจ

หลังจากทำงานไปได้สักพัก ฉันรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของครูพีท เขาลุกขึ้นและเดินเข้ามาใกล้ฉัน ฉันหยุดมือและเงยหน้าขึ้นมองเห็นเขายืนอยู่ตรงหน้าฉัน สายตาของเขามองฉันด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้งและยากจะตีความ

“ลิลลี่...” เสียงของเขาเบาและลึกซึ้ง ราวกับว่าเขากำลังจะบอกอะไรบางอย่างที่สำคัญ

“เธอรู้ไหมว่าการศึกษาบทกวีและวรรณคดีนั้น ไม่ใช่แค่การเข้าใจคำพูด แต่เป็นการเข้าใจความรู้สึกด้วย”

ฉันมองเขาอย่างสงสัย แต่ก็รับรู้ได้ถึงความตั้งใจในคำพูดของเขา “ค่ะ... หนูเข้าใจว่าบทกวีมันสะท้อนความรู้สึกที่ลึกซึ้ง”

ครูพีทยิ้มเล็กน้อยก่อนจะโน้มตัวลงใกล้ฉัน ความใกล้ชิดนี้ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหยุดนิ่ง ลมหายใจของฉันติดขัดและหัวใจเต้นรัว เขายื่นมือมาสัมผัสที่แก้มของฉันเบาๆ ทำให้ฉันรู้สึกถึงร้อนวูบวาบที่เกิดขึ้นในร่างกาย

“บางครั้ง ความรู้สึกที่ลึกซึ้งนั้นต้องการการสื่อสารด้วยวิธีอื่น” เขากระซิบเบาๆ ก่อนที่ใบหน้าของเขาจะเข้ามาใกล้จนฉันสามารถรู้สึกถึงลมหายใจของเขาที่แตะผิวของฉัน

ฉันรู้สึกเหมือนถูกสะกดให้หยุดนิ่ง ริมฝีปากของครูพีทแตะที่ริมฝีปากของฉันอย่างนุ่มนวล ก่อนจะตวัดปลายลิ้นเข้ามาในโพรงปากของฉัน และลิ้มรสความหวานจนฉันเริ่มหายใจไม่ทัน

“ครูคะ...”

“บทเรียนวันนี้....อาจจะทรมานหน่อยนะ”

ครูพีทกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูของฉัน

“อื๊อ..ครูคะ..”

เขาจูบฉันอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง พร้อมกับดึงเนคไทออกจากคอเสื้อของเขา และใช้มันผูกรวบข้อมือของฉันทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ และดันตัวของฉันให้พิงกับพนักเก้าอี้

เขาจรดริมฝีปากไล่ไปตามลำคอ พร้อมกับปลดกระดุมเสื้อของฉันออกจนมองเห็นบราเซียร์ลูกไม้สีชมพู เนินอกขาวกำลังยั่วให้เขาสัมผัส ลมหายใจอุ่นของเขาที่รดตามผิวกายของฉันทำให้ฉันรู้สึกร้อนรน ความปรารถนาบางอย่างที่ซ่อนเร้นอยู่ถูกปลุกเร้าขึ้นภายในตัวของฉัน

“ฉันยังไม่...หรอกนะ”

ครูพีทกระซิบเสียงกระเส่า มือของเขาสอดนิ้วเข้ามาใต้บรา และคลำจุดอ่อนไหวของฉัน

“อ๊ะ...” ฉันกัดริมฝีปากแน่นพยายามไม่ให้เสียงครางหลุดรอดออกมา

ครูพีทไม่ได้ถอดบราเซียร์ของฉันออก เพียงแต่รั้งดึงลง เพื่อหลีกทางให้ยอดอกทั้งสองเผยสู่สายตา เขาใช้ริมฝีปากเจ้าเล่ห์พรมจูบเรื่อยไปจนถึงตำแหน่งที่ตั้งชันสะดุดสายตา เขาพ่นลมหายใจรินรดยอดรวมเส้นประสาทคล้ายกับต้องการกลั่นแกล้ง ก่อนจะตวัดเรียวลิ้นร้ายกาจปลุกเร้าทั้งสองข้างอย่างเท่าเทียม

“อี๊อ...” ฉันรู้สึกทรมานอย่างบอกไม่ถูก ทั้งเสียวและทรมานในเวลาเดียวกัน ครูพีทช้อนสายตาขึ้นมองปฏิกิริยาบนใบหน้าของฉัน เขายกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจ

“ไหวมั้ย...”

“ครูคะ...หนู..อ๊า..”

ครูพีทกระซิบพร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งเลื่อนต่ำไต่ลงไปตามต้นขาและล้วงเข้าไประหว่างเรียวขาที่แยกออกจากกันอัตโนมัติ เขาจู่โจมจุดอ่อนไหวสุดที่เบื้องล่าง ฉันกัดริมฝีปากแน่นความปรารถนาล้นปรี่

“อ๊า..ครู..” ฉันสะดุ้งเมื่อเขาแตะโดนตำแหน่งสำคัญ พร้อมกับแอ่นร่างกายแนบชิดกับเขาโดยที่มือของฉันยังโดนพันธนาการอยู่

“ว่าไง..ลิลลี่” ครูพีทยิ้มเจ้าเล่ห์

“ทะ..ทรมานค่ะ...” ฉันอยากหนีจากตรงนี้ แต่ร่างกายของฉันกลับทำตรงกันข้าม ทั้งแอ่นอกให้เขาลิ้มรสอย่างเต็มที่ หรือจะเป็นปลายนิ้วของเขาขยี้จุดกระสันจนฉันแทบทนไม่ไหว ฉันไม่คิดเลยว่า แค่นิ้วของเขาก็สามารถทำให้ฉันเป็นได้ถึงขนาดนี้

“พร้อมรึยัง?” ครูเจ้าเสน่ห์หัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะเพิ่มน้ำหนักมือขยี้จุดอ่อนไหวของฉันให้มากขึ้น

“อ๊า...”

ฉันครางออกมา ท้องน้อยของฉันรู้สึกเกร็งวูบ ยิ่งเขาเพิ่มน้ำหนักตามเสียงครางของฉัน ความเสียวซ่านก็เพิ่มขึ้นจนสมองขาวโพลนไปหมด มือทั้งสองข้างที่โดนพันธนาการกำแน่น แต่ฉันไม่ร้องขอให้เขาหยุด แถมยังเคลื่อนเอวเข้าหาเขาด้วยซ้ำ เสียงหอบหายใจปะปนเสียงครางของฉัน จนกระทั่งในที่สุดฉันเกร็งไปทั้งตัว กล้ามเนื้อขาด้านในกระตุกสั่นระริก ช่างเป็นความทรมานที่ยาวนานที่สุดที่ฉันเคยเจอ

“หึหึ เด็กดีของฉัน น่ารักเสียจริง” นั่นคือเสียงสุดท้ายที่ฉันได้ยินจากปากของครูเจ้าเสน่ห์ ก่อนภาพจะตัดไป

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status