ครูพีทขับรถพาฉันไปที่คอนโดของเขา ซึ่งอยู่ห่างจากสวนสาธารณะไม่ไกลนัก เมื่อเรามาถึง ฉันรู้สึกประทับใจกับความหรูหราและเรียบง่ายของสถานที่นี้ คอนโดของครูพีทอยู่ในอาคารสูงที่มองเห็นวิวเมืองกรุงเทพฯ จากที่สูง เขาพาฉันขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นบนสุดของอาคาร ซึ่งเป็นที่พักของเขาเอง
เมื่อประตูคอนโดเปิดออก ฉันรู้สึกถึงบรรยากาศที่อบอุ่นและสะดวกสบายภายในห้อง พื้นที่ถูกตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นและเฟอร์นิเจอร์ที่มีรสนิยม ทุกอย่างดูสะอาดและเป็นระเบียบ แสงจากโคมไฟที่นุ่มนวลทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
“นี่คือห้องน้ำ และนี่คือเสื้อของฉัน เธอไปอาบน้ำแล้วเปลี่ยนชุดซะ”
ครูพีทบอกขณะยื่นเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาให้ฉัน และชี้ไปที่ห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกล
ฉันรับเสื้อคลุมจากเขา รู้สึกอุ่นใจและขอบคุณในความเอาใจใส่ของเขา
“ขอบคุณค่ะ... หนูจะรีบเปลี่ยนเดี๋ยวนี้”
ฉันเดินเข้าไปในห้องน้ำและปิดประตูเบาๆ มองตัวเองในกระจก เห็นสภาพที่เปียกชื้นและผมที่ชุ่มน้ำ ฉันถอดเสื้อผ้า รวมถึงชุดชั้นในที่เปียกออกและอาบน้ำเพื่อล้างตัวที่เปียกฝน ก่อนจะเช็ดตัวและเป่าผมอย่างรีบเร่งให้แห้งหมาด ก่อนจะสวมเสื้อเชิ้ตของครูพีท
“หอมจัง...” ฉันพึมพำเบาๆ เมื่อได้กลิ่นโคโลญจน์จากเสื้อของครูพีท
“ขอโทษที่ใช้ห้องน้ำนานค่ะ”
เมื่อฉันก้าวออกจากห้องน้ำ ก็พบว่า ครูพีทยืนอยู่ตรงกลางห้อง สายตาของเขาจ้องมองมาที่ฉันราวกับหมาป่าเจ้าเล่ห์ที่จ้องมองเหยื่อ เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่บดบังเรือนร่างบางเบาของฉันไว้ ความโปร่งแสงของผ้าเผยให้เห็นผิวเนียนละเอียดที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อผ้า ทำให้ภาพตรงหน้าดูเรียบง่ายแต่กลับเย้ายวนใจอย่างบอกไม่ถูก
“เอ่อ..อย่ามองมากสิคะ”
ฉันยิ้มเก้อเขินเมื่อเห็นแววตาของครูพีทแสดงออกถึงความปรารถนาอันร้อนแรง ร่างสูงโปร่งของครูพีทเดินปรี่ตรงมาหาฉันอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ฉันก้าวเท้าไปด้านหลังอัตโนมัติ
“พี่พีทคะ...”
ครูพีทไม่พูดอะไร เขารั้งร่างบางของฉันเข้าไปประชิดแนบแน่น บังคับหน้าของฉันขึ้นมา ก่อนจะบดริมฝีปากของเขากับริมฝีปากของฉัน เป็นจูบเร่าร้อนและหนักหน่วง เรียวลิ้นของเขาคว้านลึกทุกซอกทุกมุม ขณะที่ริมฝีปากของเขาแนบสนิท ก็ไม่อาจซ่อนรอยยิ้มอันพึงใจไว้ได้
“อื๊อ..”
ฉันพยายามดิ้นรนเพื่อหาอากาศหายใจ แต่ครูพีทก็ไม่ยอมให้ฉันทำตามใจ เขารวบร่างของฉันขึ้นมา ก่อนจะอุ้มพาเดินไปยังห้องนอนที่อยู่ด้านใน
เขาวางร่างของฉันบนเตียงนอนที่อ่อนนุ่ม ก่อนจะขึ้นคร่อมร่างของฉัน
“ฉันจะทำให้เธอไม่ลืมบทเรียนวันนี้ไปนานเลย”
ครูพีทกระซิบข้างหูฉันเบาๆ ก่อนที่เขาจะกดริมฝีปากลงมาอีกครั้ง เรียวลิ้นร้อนไล่ต้อนลิ้นของฉัน ทำให้ฉันเผลอตัวครางออกมาเบาๆ ยิ่งเขาสอดลิ้นเข้ามาลึกเท่าไหร่ ฉันก็หอบหายใจแรงมากเท่านั้น
มือเรียวยาวของเขาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออก เผยให้เห็นเนินอกขาว ขนาดพอดีมือ ยอดอกสีชมพูตั้งชูชันล่อตา ครูพีทพรมจูบไซร้ไล่ตั้งแต่ลำคอของฉันเรื่อยไปจนถึงเนินอก ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากไปดูดและเลียวนรอบยอดอก จากเนิบนาบก็เพิ่มความเร็วสลับเปลี่ยนกันไป
“อ๊า..ครูคะ..” ฉันครางออกมาพร้อมกับกัดริมฝีปาก
“ลิลลี่..ฉันบอกให้เรียกว่าอะไร” ครูพีทพึมพำเบาๆ ขณะที่เรียวลิ้นของเขาปลุกเร้าที่ยอดอกไม่หยุด ฉันเสียวซ่านแต่ก็ยังแอ่นอกเข้าหาปลายลิ้นของเขา
“พะ..พี่พีท..ค่ะ อ๊า..”
ฉันเรียกชื่อเขาแทบไม่ได้ เมื่อมือข้างหนึ่งของเขาเลื่อนต่ำไต่ลงไปตามแนวต้นขา ลูบไปที่ส่วนล่างของฉันราวกับหยั่งเชิง ก่อนจะใช้นิ้วกดจิ้มไปยังจุดอ่อนไหวที่สำคัญ ยิ่งเขาบดและขยี้ ฉันก็ยิ่งกัดริมฝีปากแน่น ท้องน้อยของฉันเริ่มปั่นป่วน ความเสียวกระสันแล่นปราดไปทั่วร่าง ร่างกายร้อนวูบวาบไปหมด ขณะที่เขาจู่โจมด้านล่าง ส่วนด้านบนเขาก็ตวัดเรียวลิ้นอย่างร้ายกาจ ฉันครางเสียงกระเส่า จนในที่สุดร่างกายของฉันก็กระตุกเกร็ง มือของฉันจิกไปที่บ่าของเขาอย่างลืมตัว ก่อนที่จะนอนหอบหมดแรง เหงื่อซึมตามไรผมของฉัน
“คืนนี้ไม่กลับหอเป็นไรไหม...” ครูพีทกระซิบถามที่ข้างหูของฉัน
“อะ...ซาร่าไม่อยู่ค่ะ..” ฉันหลับตาพริ้มตอบเขาเสียงเบา เรี่ยวแรงของฉันเหมือนจะหายไปหมด
“งั้นเหรอ...” ครูพีทยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเลื่อนตัวต่ำลงไปด้านล่าง เขาใช้มือแหวกเรียวขาของฉันออกให้กว้างขึ้น ในขณะที่ฉันปรือตามองเขาอย่างสงสัย
“อ๊ะ!”
ฉันสะดุ้งเฮือกร้องออกมา เมื่อเขาแนบริมฝีปากลงที่ส่วนล่าง เรียวลิ้นร้อนลากไล้ผ่านปากทาง ก่อนจะแลบเลียจุดที่อ่อนไหว ฉันพยายามกระถดหนี แต่มือแกร่งของเขาก็รั้งสะโพกของฉันกลับไป
“อ๊า..พี่พีทคะ..อย่า..อ๊า...”
ฉันพยายามร้องห้ามแต่สุดท้ายกลายเป็นเสียงครางออกมา ลมหายใจรินรดที่ด้านล่างพาให้ช่องทางหดรัด ริมฝีปากเจ้าเล่ห์พรมจูบตรงนั้น ทั้งยังดูดดุนส่วนที่อ่อนไหว ปลายลิ้นบดขยี้ปุ่มกระสัน จนฉันเสียวซ่าน ครางออกมาอย่างระส่ำ มือของเขาคลึงยอดอกที่ชูชันของฉันอย่างต่อเนื่อง ยิ่งทำให้ฉันดิ้นเร่าด้วยความทรมาน
“อา...แฮ่ก..แฮ่ก..” ฉันหอบหายใจเมื่อเขาหยุดเคลื่อนไหวไปครู่หนึ่ง คิดว่าเขาคงจะหยุดเพียงเท่านี้ แต่เปล่าเลย
“อื๊อออ”
ฉันสะดุ้งอีกครั้ง เมื่อลิ้นร้อนของเขาแหวกเปิดกลีบกุหลาบ ฉันรู้สึกถึงลิ้นของเขาที่สอดเข้ามาในตัวของฉัน เขาฝังเรียวลิ้นเข้ามา ตวัดปลายลิ้นไปรอบๆ ปลายลิ้นกระดกย้ำๆ ฉันเริ่มรู้สึกว่า ภายในของฉันเริ่มชื้นไปด้วยน้ำ ราวกับเขารับรู้ได้ เขายิ่งเพิ่มแรงกดริมฝีปากมากขึ้นทุกที ปลายลิ้นจี้จุดไวสัมผัสและละเลงวนราวกับต้องการรังแกกันให้สิ้นท่า ช่องทางของฉันตอดรัดปลายลิ้นอย่างไม่อาจห้ามได้ ลมหายใจของเขาแรงขึ้นขณะที่พยายามสอดลิ้นให้ลึกมากกว่านี้
ฉันขยำผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่ เพื่อระบายความเสียวซ่าน ลมหายใจกระเส่าและเนื้อตัวสั่นเทิ้ม หน้าท้องเกร็งแน่น สะท้านไปทั้งตัว หลังจากรัดอย่างหนักหน่วงคล้ายต้องการกักขังบ่อเกิดของความเสียวซ่านเอาไว้ ช่องทางก็คลายออก พร้อมสำหรับขั้นต่อไป
“อา...พี่พีทคะ..ไม่ไหวแล้วค่ะ..” ฉันครางเสียงอ่อนแรง ซุกหน้าอยู่กับอกของเขา บทเรียนวันนี้มันมากเกินกว่าที่ฉันจะรับมือไหว
“หืม...ยังไม่ถึงบทสำคัญเลยนะ” ครูพีทยิ้มมุมปาก เขานอนกอดฉันที่หมดแรง พร้อมทั้งใช้มือข้างหนึ่งลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของฉันเบาๆ อย่างอ่อนโยน
“ไม่ไหวมั้งคะ...” ฉันบ่นอุบอิบ ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาของครูพีท
“ไม่ลองก็ไม่รู้หรอก”
ครูพีทจรดริมฝีปากลงที่ริมฝีปากของฉัน ก่อนจะตวัดเรียวลิ้นภายในโพรงปากเพื่อหาความหวาน เสียงครวญครางดังขึ้นในลำคอเป็นระยะ ตามจังหวะที่ถูกดูดดึงเรียวลิ้น แอร์เย็นๆ ไม่สามารถช่วยดับอุณหภูมิร่างกายที่กำลังร้อนระอุได้เลย
ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงซุกไซ้ สูดดมความหอมไปตามผิวเนียน เขาพรมจูบต้องแต่ต้นคอ ไล่มาบ่าซ้ายต่อด้วยเนินอก มืออีกข้างของเขาไต่ต่ำไปยังส่วนล่างของฉัน พร้อมกับใช้ปลายนิ้วเรียวบดขยี้ที่จุดอ่อนไหว ฉันรู้สึกเสียวสะท้านไปทั้งร่างกาย
“บทเรียนสำคัญวันนี้...ทนหน่อยนะ” ครูพีทกระซิบก่อนจะคลี่ยิ้ม มือของเขาเอื้อมไปหยิบซองสีเงินแล้วฉีกมันด้วยปาก ก่อนจะจัดการกับส่วนล่างของเขา
“จะ..พยายามค่ะ..” ฉันตอบเสียงเบาหวิว ใจหนึ่งก็กังวล แต่อีกใจกลับรู้สึกตื่นเต้น
ครูพีทยิ้มพึงพอใจ เขายกตัวขึ้นพร้อมกับกดส่วนล่างที่พร้อมใช้งานเข้าไประหว่างขาเรียวของฉัน
“อื้อ..จะ..เจ็บค่ะ..” ฉันสะดุ้งเฮือก เมื่ออะไรบางอย่างถูกสอดใส่เข้ามา จนต้องกระถดตัวหนีเล็กน้อย
“......”
ครูพีทไม่พูดอะไร เขากดจูบบนปากหยักก่อนดูดดึงกลีบปากให้เผยออ้าออกเพื่อสอดแทรกเรียวลิ้น เขาใช้ลิ้นควบคุมจังหวะการจูบให้ฉันตามจังหวะของเขา ทวีความเร่าร้อนภายใน เพื่อดึงความสนใจของฉันให้ไม่รู้สึกเจ็บ
ความเจ็บปวดบวกความเสียวซ่านแล่นแปลบไปทั่วร่างกายของฉัน แม้ฉันจะรู้สึกถึงความจุกแน่นและรวดร้าว ทว่าความเสียวมีมากกว่า ครูพีทขยับเข้าออกอย่างนุ่มนวล พอฉันเริ่มคุ้นชินเขาก็เริ่มเร่งจังหวะ
“เป็นไงมั่งลิลลี่” ครูพีทกระซิบถาม พร้อมกับกอดร่างของฉันให้รับจังหวะที่เขาเคลื่อนไหว
“อ๊ะ..พี่พีทคะ..” ฉันหอบหายใจถี่ ใจเต้นแรง ความเสียวซ่านจู่โจมเกินกว่าที่ฉันจะรับได้ ม้ครูพีทจะขยับร่างกาย แต่ริมฝีปากของเขาดูดยอดอกเข้าไปในปากจนมิดก่อนตวัดลิ้นโลมเลียอย่างสนุกสนานอยู่ด้านใน
“อ๊า...มะ..ไม่ไหวแล้วค่ะ..”
ฉันครางเสียงกระเส่า ความเสียวกระสันแล่นปราดไปทั่วร่าง ร่างกายร้อนวูบวาบจนต้องหนีบเกร็งท่อนล่าง ครูพีทรับรู้ได้ถึงช่องทางสวาทที่บีบรัด เขายิ่งกระแทกแรงฉันก็ยิ่งรัดแน่น เขากระแทกกระทั้นหนักหน่วงจนเตียงสั่นคลอน อารมณ์ของเขาพุ่งทะยานเกือบถึงจุดสูงสุด เขาเร่งจังหวะมากขึ้น ในที่สุดฉันก็ทนไม่ไหว กรีดร้องออกมาอีกทั้งเนื้อตัวยังเกร็งกระตุก ก่อนจะหมดสติไปในอ้อมกอดของเขา
“.....” ครูพีทคำรามเบาๆ ก่อนจะปลดปล่อยความปรารถนาออกมาพลางกอดรัดร่างของฉันไว้ในอ้อมแขน
ครูพีทลูบไล้ใบหน้าที่สลบไสลไม่ได้สติของฉันอย่างอ่อนโยน เขากระตุกยิ้มอย่างชอบใจกับการทรมานฉันด้วยเซ็กส์อันเร่าร้อน
“แค่นี้มันยังไม่พอหรอกนะ ลิลลี่”
แสงแดดยามบ่ายคล้อยสาดส่องเข้ามาผ่านม่านบางเบาในห้องของครูพีท ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้น สัมผัสแรกที่รับรู้คือความอ่อนเพลียที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย กล้ามเนื้อของฉันรู้สึกเหมือนถูกใช้งานจนหมดแรงทุกส่วน ความรู้สึกนี้ทำให้ฉันนอนนิ่งอยู่บนเตียงนุ่มๆ โดยไม่มีแรงแม้แต่จะขยับตัวฉันหันหน้าไปมองรอบห้อง ทุกอย่างเงียบสงบ มีเพียงเสียงนาฬิกาแขวนบนผนังที่บอกเวลาว่าเป็นเวลาบ่ายสี่โมงเย็นแล้ว มันเป็นช่วงเวลาที่ฉันน่าจะมีพลังสดชื่น แต่ในวันนี้กลับต่างออกไปหัวของฉันหมุนเล็กน้อยขณะที่ฉันพยายามจะลุกขึ้น แต่ร่างกายกลับไม่ยอมตามใจ รู้สึกเหนื่อยล้าและหนักอึ้งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ความรู้สึกอบอุ่นจากผ้าห่มที่คลุมร่างกายอยู่ทำให้ฉันอยากจะหลับต่อไปอีกหน่อย แต่ภาพความทรงจำจากเมื่อก่อนหน้านี้ก็ไหลเวียนกลับเข้ามาในหัวอย่างรวดเร็วครูพีท... เขากลั่นแกล้งฉันอย่างไร้ความปราณี ความรู้สึกของความสุขและความสุขสมที่เขาทำให้ฉันรู้สึกเหมือนอยู่บนสวรรค์และตกอยู่ในห้วงแห่งความสุขไม่รู้กี่รอบ ร่างกายของฉันยังคงรู้สึกถึงสัมผัสที่อ่อนโยนแต่ทรงพลังนั้น ความทรงจำเหล่านั้นทำให้ฉันรู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ซ่านอยู่ภายใน แต่ในขณะเดียวกันก็ท
หลังจากที่ฉันทานอาหารเสร็จ ความรู้สึกอบอุ่นและพึงพอใจจากอาหารที่ครูพีททำให้ยังคงอยู่ในใจ ฉันวางช้อนลงอย่างเบามือ ครูพีทยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นฉันทานจนหมดชาม“ขอบคุณค่ะ พี่พีท อาหารอร่อยมากเลยค่ะ” ฉันพูดพร้อมกับยิ้มให้เขาก่อนที่ครูพีทจะตอบอะไร เสียงกริ่งหน้าประตูก็ดังขึ้น ทำให้ฉันหันไปมองตามเสียง ครูพีทยืนขึ้นจากเก้าอี้และหันมาพูดกับฉันด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน“น่าจะเป็นแม่บ้านน่ะ”ขณะที่ครูพีทเดินไปที่ประตูเพื่อรับชุดเดรส ฉันก็ลุกขึ้น เริ่มเก็บจานและชามไปที่ห้องครัว ฉันยกถาดอาหารและเดินไปที่ห้องครัว เบาๆ วางถาดบนเคาน์เตอร์ และเริ่มล้างจานในอ่างน้ำอุ่นที่ไหลผ่านมือทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลาย ล้างจานอย่างใจเย็น ความคิดของฉันยังคงวนเวียนถึงช่วงเวลาที่ได้ใช้ร่วมกับครูพีท ฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีโอกาสได้สัมผัสกับความใกล้ชิดและความอบอุ่นแบบนี้จากเขา มันเป็นความรู้สึกที่ทั้งหวานและเต็มไปด้วยแรงปรารถนาเสียงประตูเปิดและปิดเบาๆ ฉันหันไปมองก็เห็นเขายืนอยู่ที่ประตูห้องครัว ในมือของเขามีชุดเดรสที่ถูกพับอย่างเรียบร้อยอยู่บนแขนของเขา“ลิลลี่ ไม่ต้องล้างจานหรอก เดี๋ยวฉันจัดการเอง” ครูพีทพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ
ฉันชื่อ ลิลลี่ อายุ 18 ปี วันนี้เป็นวันที่ฉันรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบพังทลายลงมา เมื่อฉันต้องย้ายเข้ามาเรียนในโรงเรียนประจำที่ไม่เคยคิดฝันว่าจะต้องมาอยู่ที่นี่ โรงเรียนแห่งนี้ชื่อว่า "เซนต์เอมิลี่" โรงเรียนที่มีชื่อเสียงด้านความเข้มงวดและกฎระเบียบที่เคร่งครัดที่สุดในประเทศฉันยืนอยู่หน้าประตูโรงเรียนพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ หัวใจของฉันเต้นแรงจนรู้สึกถึงมันชัดเจน ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันเคยรู้จัก ทุกคนที่ฉันเคยสนิท ตอนนี้มันถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง"ลิลลี่ เธอต้องเข้มแข็ง" ฉันพยายามปลอบใจตัวเองก่อนที่จะก้าวเข้าไปในโรงเรียนแห่งนี้ฉันเดินผ่านประตูใหญ่ที่ทำจากเหล็กสีดำสนิท เสาสูงที่ตั้งอยู่สองข้างประตูให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเข้าสู่โลกที่ไม่คุ้นเคย เส้นทางที่ฉันเดินผ่านปูด้วยหินก้อนเล็กๆ เรียงตัวเป็นระเบียบ ข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่ให้ความร่มรื่น แต่กลับรู้สึกเย็นยะเยือกและว่างเปล่าทันทีที่ก้าวเข้าสู่ห้องโถงใหญ่ ฉันก็ถูกทักทายโดยหญิงสูงวัยในชุดสูทสีเข้ม หน้าตาของเธอดูเคร่งขรึมและเข้มงวด เธอคือ มาร์ธา หัวหน้าอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนนี้"ยินดีต้อนรับสู่เซนต์เอมิลี่" มาร์ธาเอ่ยทักทายด้วยน้ำเส
เช้าวันใหม่ที่เซนต์เอมิลี่มาถึงแล้ว ฉันตื่นขึ้นมาในห้องพักเล็กๆ ที่ยังคงรู้สึกไม่คุ้นเคยกับมันเลยสักนิด แสงแดดอ่อนๆ ที่ลอดผ่านม่านหน้าต่างทำให้ฉันรู้สึกสดชื่นขึ้นเล็กน้อย ฉันลุกขึ้นจากเตียงและเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการเตรียมตัวไปเรียน ฉันหยิบชุดนักเรียนที่เป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกระโปรงจีบสีเทาออกมาจากตู้เสื้อผ้า และจัดผมให้เรียบร้อยตามระเบียบของโรงเรียน ความเคร่งครัดที่นี่ทำให้ฉันต้องระมัดระวังทุกการกระทำ ทุกอย่างต้องถูกต้องตามกฎที่ถูกวางไว้ แต่บางอย่างในใจฉันก็ยังรู้สึกว่า มีบางสิ่งที่ฉันกำลังท้าทายมันอยู่เมื่อฉันเดินออกมาจากห้องพัก ฉันก็เจอกับซาร่าที่กำลังเตรียมตัวไปเรียนเหมือนกัน ซาร่าส่งยิ้มให้ฉันด้วยความเป็นมิตรเช่นเคย"พร้อมไปเรียนหรือยัง?" ซาร่าถามด้วยน้ำเสียงสดใส"พร้อมแล้วล่ะ" ฉันตอบกลับพร้อมกับยิ้ม "แต่ยังคงรู้สึกประหม่าอยู่บ้าง""ไม่ต้องกังวลหรอก เดี๋ยวเธอก็ชิน" ซาร่าพูดพร้อมกับพยักหน้าให้ฉัน "วันนี้มีเรียนวรรณคดีเป็นวิชาแรกด้วยนะ ฉันจำได้ว่าเธอสนใจวรรณคดีมากเลยใช่ไหม?""ใช่ ฉันชอบอ่านนิยาย มันทำให้ฉันได้หลบหนีจากความจริงบ้าง" ฉันตอบอย่างตรงไปตรงมา "แต่...ครูพีทเป็นครูสอนวรรณค
ฉันเดินออกจากห้องเรียนด้วยหัวใจที่เต้นระรัว เสียงฝีเท้าของครูพีทยังคงก้องอยู่ในหู ราวกับว่าทุกก้าวที่เขาเดินออกจากห้องนั้นฝากอะไรบางอย่างไว้ในใจฉัน ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน มันทั้งตื่นเต้นและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน ฉันพยายามสลัดความรู้สึกนี้ออกไป แต่ก็พบว่ามันติดแน่นอยู่ในหัวใจฉันเหมือนฝันร้ายที่ฉันไม่อาจหลีกหนีได้ฉันเดินไปตามทางเดินของโรงเรียนที่เงียบสงบเพราะยังเป็นช่วงพักกลางวัน นักเรียนส่วนใหญ่ยังคงอยู่ที่ห้องอาหาร ฉันพยายามทำตัวให้ปกติ แต่ภายในใจกลับว้าวุ่นจนฉันรู้สึกว่าใครๆ ก็คงมองออกว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับฉันในที่สุดฉันก็กลับมาถึงห้องเรียนและนั่งลงที่โต๊ะของฉัน ฉันหยิบหนังสือเรียนขึ้นมาเปิดอ่าน หวังว่าจะสามารถตั้งสมาธิได้ แต่ความคิดของฉันกลับพุ่งตรงไปยังครูพีทอีกครั้ง ความอบอุ่นจากการสัมผัสมือของเขายังคงติดอยู่ในความทรงจำ และฉันไม่อาจลบมันออกไปได้‘ทำไมฉันถึงรู้สึกแบบนี้?’ ฉันถามตัวเองในใจ แต่ไม่มีคำตอบใดที่สามารถตอบสนองความสงสัยของฉันได้ ฉันรู้ดีว่าครูและนักเรียนไม่ควรมีความสัมพันธ์เกินเลย แต่ทุกครั้งที่ฉันนึกถึงครูพีท ความรู้สึกที่ไม่ควรเกิดขึ้นกลับยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น
หลังจากบทเรียนที่ไม่ธรรมดาของวันก่อน ฉันได้สัมผัสครูพีทในแบบที่ไม่เคยคาดคิด ภาพของเขาและการจูบที่ลึกซึ้งนั้นก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของฉัน ฉันพยายามจะลืมมัน พยายามบอกตัวเองว่ามันไม่ควรเกิดขึ้น แต่ทุกครั้งที่ฉันหลับตา ภาพเหล่านั้นกลับชัดเจนยิ่งขึ้น ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่คอยกระซิบบอกฉันว่าความสัมพันธ์แบบนี้เป็นสิ่งที่ผิด กลับถูกบดบังด้วยความปรารถนาอันแรงกล้าที่ฉันไม่สามารถควบคุมได้เช้านี้ ฉันเดินเข้าสู่ห้องเรียนด้วยความรู้สึกสับสนในใจ ทันทีที่ฉันก้าวเข้าสู่ห้อง สายตาของฉันก็พบกับครูพีทที่ยืนอยู่หน้าชั้นเรียน เขามองฉันด้วยสายตาที่เข้มข้นและเต็มไปด้วยความหมาย เพียงเสี้ยววินาทีที่เขามองมาที่ฉัน หัวใจของฉันก็เต้นแรงขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว ร่างกายของฉันรู้สึกราวกับถูกไฟส่องผ่านเมื่อเขามองมา สายตาของเขาช่างคมกริบและเต็มไปด้วยความปรารถนาที่ฉันรู้สึกได้ว่ามันไม่ใช่เพียงแค่ฉันที่รู้สึกเช่นนั้น ฉันรู้สึกถึงความร้อนที่เริ่มก่อตัวในท้องของฉัน มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบายตลอดชั่วโมงเรียน ฉันพยายามจะมีสมาธิกับบทเรียน แต่ความคิดของฉันกลับวกวนไปที่ครูพีท และสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเราครั้งก่อน ความ
ทุกครั้งที่ฉันนึกถึงครูพีท ใจฉันก็เต้นรัวจนแทบจะหลุดออกมา ความสัมพันธ์ระหว่างเรามันไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่ทำไมฉันถึงหยุดคิดถึงเขาไม่ได้เลย ฉันรู้ดีว่าสิ่งที่เราทำคือการท้าทายกฎระเบียบที่โรงเรียนเคร่งครัดที่สุด แต่ยิ่งฉันคิดถึงมัน ฉันก็ยิ่งรู้สึกถึงความเร่าร้อนที่ซ่อนอยู่ในใจฉันเช้านี้ฉันตื่นขึ้นมาในหอพักเหมือนเช่นเคย แต่ความรู้สึกที่ติดค้างอยู่ในหัวใจทำให้ฉันไม่สามารถทำตัวเหมือนปกติได้ ฉันพยายามจะไม่คิดถึงเขา แต่ทุกครั้งที่ฉันปิดตา ภาพของครูพีทก็จะปรากฏขึ้นมาในหัว ความใกล้ชิดของเรามันผิด ฉันรู้ดี แต่ฉันก็ไม่สามารถหยุดความรู้สึกนี้ได้“เมื่อวานกลับดึกเหรอ” ซาร่าทักทายฉัน ขณะที่ฉันกำลังเดินไปยังห้องเรียน“เอ้อ...ก็นิดนึง” ฉันหน้าแดงเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวาน“ไม่สบายรึเปล่า?” ซาร่าจ้องมองฉัน ก่อนจะเอามือมาอังที่หน้าผาก“ปะ..เปล่า” ฉันรีบปฏิเสธทันที“ครูพีทใช้งานหนักเหรอ?” ซาร่าพึมพำด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ“ก็...ไม่นะ..”“วันนี้ต้องไปช่วยครูอีกมั้ยอะ?”“อะ..ไม่แน่ใจอะ” ฉันแบ่งรับแบ่งสู้“ฉันไปช่วยมั้ย?” ซาร่าเสนอตัวเอง“ไหวเหรอ มีแต่บทเรียนวรรณคดีทั้งนั้นเลยนะ” ฉันเอียงคอถามเพื่อน เพราะร
ฉันนั่งอยู่บนเตียงในห้องพักที่เงียบสงบ สายตาของฉันจับจ้องไปที่กระดาษแผ่นหนึ่งในมือ มันคือกฎระเบียบของโรงเรียนเซนต์เอมิลี่ ซึ่งฉันได้รับมาเมื่อตอนเข้ามาใหม่ ฉันควรจะอ่านมันตั้งแต่วันแรก แต่ด้วยเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้น ฉันกลับลืมไปเสียสนิท กระดาษแผ่นนี้เหมือนเป็นเตือนความจำของสิ่งที่ควรและไม่ควรทำฉันค่อยๆ พลิกกระดาษไปเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าสุดท้าย สายตาของฉันก็สะดุดกับกฎข้อที่ 10 ที่ถูกเขียนไว้ด้วยตัวหนังสือสีเข้มกว่าปกติ ฉันรู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นแรงขึ้นทันทีเมื่ออ่านมันกฎข้อที่ 10: ห้ามมิให้มีความสัมพันธ์ส่วนตัวที่เกินขอบเขตของความเป็นครูและนักเรียน หากพบว่ามีการกระทำเช่นนี้ จะมีการสอบสวนและลงโทษอย่างเคร่งครัดทั้งครูและนักเรียนที่เกี่ยวข้องฉันอ่านประโยคนั้นซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง ใจของฉันเริ่มเต้นแรงขึ้นเมื่อคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างฉันกับครูพีท ความสัมพันธ์ของเรานั้นข้ามเส้นที่ถูกเขียนไว้ในกฎระเบียบนี้อย่างชัดเจน และฉันก็รู้ดีว่าถ้ามีใครรู้เรื่องนี้ ผลที่ตามมาอาจจะไม่ดีเลยเสียงเปิดประตูดังขึ้น ฉันเงยหน้าขึ้นมองเห็นซาร่า เพื่อนร่วมห้องของฉันเดินเข้ามาพร้อมกับยิ้มกว้าง เธอเพิ่งกลับจา