ทุกครั้งที่ฉันนึกถึงครูพีท ใจฉันก็เต้นรัวจนแทบจะหลุดออกมา ความสัมพันธ์ระหว่างเรามันไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่ทำไมฉันถึงหยุดคิดถึงเขาไม่ได้เลย ฉันรู้ดีว่าสิ่งที่เราทำคือการท้าทายกฎระเบียบที่โรงเรียนเคร่งครัดที่สุด แต่ยิ่งฉันคิดถึงมัน ฉันก็ยิ่งรู้สึกถึงความเร่าร้อนที่ซ่อนอยู่ในใจฉัน
เช้านี้ฉันตื่นขึ้นมาในหอพักเหมือนเช่นเคย แต่ความรู้สึกที่ติดค้างอยู่ในหัวใจทำให้ฉันไม่สามารถทำตัวเหมือนปกติได้ ฉันพยายามจะไม่คิดถึงเขา แต่ทุกครั้งที่ฉันปิดตา ภาพของครูพีทก็จะปรากฏขึ้นมาในหัว ความใกล้ชิดของเรามันผิด ฉันรู้ดี แต่ฉันก็ไม่สามารถหยุดความรู้สึกนี้ได้
“เมื่อวานกลับดึกเหรอ” ซาร่าทักทายฉัน ขณะที่ฉันกำลังเดินไปยังห้องเรียน
“เอ้อ...ก็นิดนึง” ฉันหน้าแดงเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวาน
“ไม่สบายรึเปล่า?” ซาร่าจ้องมองฉัน ก่อนจะเอามือมาอังที่หน้าผาก
“ปะ..เปล่า” ฉันรีบปฏิเสธทันที
“ครูพีทใช้งานหนักเหรอ?” ซาร่าพึมพำด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ
“ก็...ไม่นะ..”
“วันนี้ต้องไปช่วยครูอีกมั้ยอะ?”
“อะ..ไม่แน่ใจอะ” ฉันแบ่งรับแบ่งสู้
“ฉันไปช่วยมั้ย?” ซาร่าเสนอตัวเอง
“ไหวเหรอ มีแต่บทเรียนวรรณคดีทั้งนั้นเลยนะ” ฉันเอียงคอถามเพื่อน เพราะรู้ดีว่าเธอไม่ชอบเรียนวิชานี้เท่าไหร่
“อึก...ไม่เอาดีกว่า ฉันไม่ค่อยถนัด” ซาร่านึกได้รีบปฏิเสธ
“ก็ว่าอยู่” ฉันหัวเราะเบาๆ และรู้สึกโล่งใจในคราวเดียวกัน
วันนี้ในชั่วโมงเรียน ครูพีทสอนบทกวีของเชกสเปียร์ บทกวีที่เต็มไปด้วยความรู้สึกและความหมายที่ลึกซึ้ง ทุกคำพูดของเชกสเปียร์เหมือนกับกำลังสะท้อนความรู้สึกของฉันในตอนนี้อย่างประหลาด ครูพีทยืนอยู่หน้าชั้นเรียน แต่ฉันรู้สึกเหมือนเขากำลังพูดกับฉันเพียงคนเดียว เขาพูดถึงความรักที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน ความรักที่ไม่อาจเข้าใจได้ง่ายๆ และความรู้สึกที่ขัดแย้งกันภายในจิตใจ
“ความรักที่แท้จริง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะค้นหา มันเต็มไปด้วยความซับซ้อนและความรู้สึกที่ขัดแย้งกัน”
ครูพีทกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นและลึกซึ้ง สายตาของเขามองผ่านห้องเรียนไปยังนักเรียนทุกคน แต่ฉันรู้สึกเหมือนสายตานั้นกำลังจับจ้องมาที่ฉันเพียงคนเดียว หัวใจของฉันเต้นแรงขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น
หลังจากชั่วโมงเรียนจบลง ฉันรู้สึกถึงสายตาของครูพีทที่มองตามฉันไป ตอนที่ฉันเดินออกจากห้องเรียน มันเป็นสายตาที่ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกจับจ้องอย่างใกล้ชิดและลึกซึ้ง สายตานั้นทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันกำลังถูกดึงดูดกลับไปหาเขา แม้ว่าฉันจะพยายามต้านทาน
วันนี้ ฉันตัดสินใจไปหาครูพีทที่ห้องพักครูหลังเลิกเรียน ใจฉันเต้นแรงเมื่อเดินไปตามทางเดินที่เงียบสงัด ประตูห้องพักครูปิดอยู่ ฉันเคาะเบา ๆ ก่อนจะเปิดเข้าไป
ครูพีท…”
ฉันเรียกชื่อเขาอย่างแผ่วเบา เขาหันมามองฉันด้วยสายตาคมกริบที่ฉันคุ้นเคย ความร้อนแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายเมื่อฉันเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาของเขา
“ลิลลี่ เธอมาได้ยังไง?” เขาถามฉัน แต่ฉันรู้ดีว่าเขากำลังรอให้ฉันมา
ฉันเดินเข้าไปหาเขาอย่างช้าๆ ความรู้สึกที่มีต่อเขาเริ่มท่วมท้น ฉันไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป เมื่อฉันเข้าไปใกล้เขา เขาก็ลุกขึ้นยืน สายตาของเราสบกันเพียงชั่วครู่ก่อนที่เขาจะดึงฉันเข้ามาใกล้
“หนู..” ฉันพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่คำพูดกลับติดอยู่ในลำคอ ฉันไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน
ครูพีทยิ้มมุมปาก ก่อนจะก้าวเข้ามาใกล้ฉัน เขาเอื้อมมือไปสัมผัสแก้มของฉันเบาๆ การสัมผัสของเขาทำให้ฉันรู้สึกหวั่นไหว
ครูพีทยิ้มเล็กน้อยก่อนจะก้มลงมาจูบฉัน ริมฝีปากของเราสัมผัสกันอีกครั้ง และมันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน การจูบของเขาอ่อนโยนแต่ก็เต็มไปด้วยความร้อนแรงที่ยากจะต้านทาน ฉันตอบสนองต่อเขาอย่างที่ฉันเองก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อน
“ลิลลี่...”
ครูพีทกระซิบชื่อฉันข้างหู เสียงของเขาทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกกระตุ้นให้เข้าไปใกล้เขามากขึ้น ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน ทุกสัมผัสของเขาทำให้ฉันรู้สึกเหมือนจะหลอมละลายไปกับความปรารถนาที่เขามีต่อฉัน
มือของเขาเลื่อนลงมาจับที่เอวของฉัน ก่อนจะค่อยๆ ลูบไล้ไปตามแผ่นหลัง จากนั้นเลื่อนไปที่สะโพก ฉันรู้สึกถึงความร้อนแรงที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกำลังจมดิ่งเข้าสู่ความปรารถนาที่ไม่สามารถหยุดยั้งได้
“มีเรื่องที่ฉันต้องสอนเธอเยอะเลย ลิลลี่” เขาพูดเบาๆ ก่อนจะจูบฉันอีกครั้ง การจูบครั้งนี้เข้มข้นกว่าเดิม
“อ้าปากอีกนิดสิ...”
เขากระซิบ ฉันทำตามอย่างว่าง่าย ปลายลิ้นของเขาแทรกเข้ามาในปากของฉันอย่างช่ำชอง หัวใจของฉันรู้สึกราวกับว่ามันกำลังจะระเบิดออกมาจากอก เขากำลังทำให้ร่างกายของฉันร้อนด้วยไฟปรารถนา
ฉันตอบสนองต่อเขาอย่างเต็มใจ มือของฉันเลื่อนไปสัมผัสใบหน้าของเขา ความร้อนแรงที่ท่วมท้นทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกำลังถูกเผาผลาญด้วยความปรารถนาที่ไม่อาจห้ามได้
“อ๊ะ..ครู..”
ฉันตกใจเล็กน้อย เมื่อจู่ๆ เขาก็กวาดสิ่งของบนโต๊ะทำงานลงพื้น และยกตัวฉันขึ้นไปบนโต๊ะ ดันให้หลังของฉันพิงกับตู้เอกสาร มือของฉันรีบรวบกระโปรงสั้นเอาไว้ แต่เขากลับดึงมือของฉันออก ดวงตาคมเข้มของเขาจ้องมองฉัน มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย
“นี่คือบทเรียนที่เธอต้องเรียนวันนี้” ครูพีทกระซิบเสียงกระเส่า
นิ้วมือเรียวของเขาล้วงเข้าไปใต้กระโปรง ก่อนจะรูดชั้นในตัวจิ๋วของฉันออกจากกระโปรง จากนั้นเขาก็ยกขาขวาพาดที่บ่าของเขา ชั่วขณะที่ฉันเผลอ ลมหายใจอุ่นของเขาก็เป่ารดที่ด้านล่างของฉัน
“อ๊ะ!!” ฉันสะดุ้งเฮือกเมื่อลิ้นอันอ่อนนุ่มของเขาแตะเข้าส่วนที่อ่อนไหวมากที่สุดในร่างกาย
“ครูคะ...ไม่..อ๊า..” เสียงร้องห้ามของฉันหายไป กลายเป็นเสียงครางแผ่วเบาออกมา
ครูพีทช่างมีความชำนาญยิ่งนัก แม้ว่าบางครั้งฉันจะพยายามหุบขา แต่เขาก็ไม่ยอม ที่สำคัญเขากลับเร่งเร้าฉันอย่างหนัก ลิ้นพริ้วสะบัด ส่วนนิ้วมือเรียวของเขาก็ลูบคลำที่ยอดอกของฉันเพิ่มความเสียวซ่านขึ้นอีก
เสียงของฉันเริ่มครางถี่ ฉันเริ่มหายใจหอบ ร่างกายของฉันร้อนระอุ ทุกอณูในกายของฉันตอบรับความซาบซ่านที่วูบไหว ลิ้นของเขายังคงเคลื่อนไหวไม่หยุด และเพิ่มน้ำหนักให้แรงขึ้น เพิ่มความเสียวซ่านให้ฉันมากยิ่งขึ้น จนกระทั่งฉันรู้สึกราวกับร่างกายจะระเบิด ช่องท้องเสมือนมีมวลคลื่นก่อพายุ ในที่สุดฉันก็ถึงจุดหมายปลายทาง
“ลิลลี่...ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อนเลย” ครูพีทพูดเบาๆ กับฉันที่หมดแรงอ่อนระทวยในอ้อมกอดของเขา
ฉันเงยหน้ามองเข้าไปในดวงตาของเขา ดวงตาคู่นั้นที่มองฉันด้วยความรักและความปรารถนาที่ฉันไม่เคยเห็นในสายตาของใครมาก่อน มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกสะกดให้จมดิ่งลงไปในโลกที่มีเพียงเราเท่านั้น
“หนูก็เหมือนกันค่ะครู” ฉันพูดออกมาเบาๆ แต่เต็มไปด้วยความจริงใจที่ฉันไม่สามารถซ่อนเอาไว้ได้
ครูพีทยิ้มให้ฉันก่อนจะก้มลงมาจูบที่หน้าผากของฉัน
“คราวหน้าฉันจะสอนบทเรียนสำคัญที่สุดให้เธอ...แต่ไม่ใช่ที่นี่นะ”
“ค่ะ” ฉันตอบรับ และเงยหน้ามองเขา ดวงตาคมกริบของเขาเป็นประกายพึงพอใจมาก
ฉันนั่งอยู่บนเตียงในห้องพักที่เงียบสงบ สายตาของฉันจับจ้องไปที่กระดาษแผ่นหนึ่งในมือ มันคือกฎระเบียบของโรงเรียนเซนต์เอมิลี่ ซึ่งฉันได้รับมาเมื่อตอนเข้ามาใหม่ ฉันควรจะอ่านมันตั้งแต่วันแรก แต่ด้วยเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้น ฉันกลับลืมไปเสียสนิท กระดาษแผ่นนี้เหมือนเป็นเตือนความจำของสิ่งที่ควรและไม่ควรทำฉันค่อยๆ พลิกกระดาษไปเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าสุดท้าย สายตาของฉันก็สะดุดกับกฎข้อที่ 10 ที่ถูกเขียนไว้ด้วยตัวหนังสือสีเข้มกว่าปกติ ฉันรู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นแรงขึ้นทันทีเมื่ออ่านมันกฎข้อที่ 10: ห้ามมิให้มีความสัมพันธ์ส่วนตัวที่เกินขอบเขตของความเป็นครูและนักเรียน หากพบว่ามีการกระทำเช่นนี้ จะมีการสอบสวนและลงโทษอย่างเคร่งครัดทั้งครูและนักเรียนที่เกี่ยวข้องฉันอ่านประโยคนั้นซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง ใจของฉันเริ่มเต้นแรงขึ้นเมื่อคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างฉันกับครูพีท ความสัมพันธ์ของเรานั้นข้ามเส้นที่ถูกเขียนไว้ในกฎระเบียบนี้อย่างชัดเจน และฉันก็รู้ดีว่าถ้ามีใครรู้เรื่องนี้ ผลที่ตามมาอาจจะไม่ดีเลยเสียงเปิดประตูดังขึ้น ฉันเงยหน้าขึ้นมองเห็นซาร่า เพื่อนร่วมห้องของฉันเดินเข้ามาพร้อมกับยิ้มกว้าง เธอเพิ่งกลับจา
ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ รู้สึกเหมือนหัวของฉันหนักอึ้งและร่างกายของฉันอ่อนล้าอย่างประหลาด ฉันขยับตัวเล็กน้อยเพื่อพยายามระลึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน แต่ในหัวกลับเต็มไปด้วยความงุนงงว่าฉันกลับมาถึงหอพักได้อย่างไรขณะที่ฉันกำลังพยายามเรียกสติกลับมา ประตูห้องพักก็เปิดออกอย่างเบามือ ฉันหันไปมองเห็นซาร่า เพื่อนร่วมห้องของฉันเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง“ลิลลี่ เธอโอเคหรือเปล่า?” ซาร่าถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล“ฉันเห็นเธอดูไม่ค่อยดีเลยเมื่อคืนนี้ ตอนที่ครูพีทอุ้มเธอกลับมาที่หอพัก”ฉันชะงักไปทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของซาร่า“ครูพีท... อุ้มฉันกลับมาที่หอพักงั้นเหรอ?”ฉันถามกลับด้วยเสียงที่ยังคงแหบพร่า หัวใจฉันเต้นแรงขึ้นทันทีเมื่อได้ยินคำว่า ‘ครูพีท’ ความทรงจำเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อวานค่อยๆ ทยอยกลับมาในหัวของฉันทีละเล็กทีละน้อย“ใช่ เธอสลบไป ฉันตกใจมากเลยอะ” ซาร่าพูดพลางนั่งลงข้างเตียงของฉัน“ฉัน... ฉันไม่ค่อยแน่ใจ” ฉันตอบกลับเสียงแผ่ว รู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วใบหน้าเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวาน“ฉันคงรู้สึกเหนื่อยมากน่ะ...”“เธอแน่ใจนะ เมื่อวานเธอ
เช้าวันนี้ ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องลอดผ่านหน้าต่างหอพัก เข้ามาทักทายฉันด้วยความอ่อนโยน ฉันรู้ดีว่าวันนี้จะไม่ใช่วันธรรมดา ครูพีทจะมารับฉันตอน 10 โมงเช้าเพื่อไปดูงานนิทรรศการภาพถ่ายวรรณคดีในเมือง และมันทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงทุกครั้งที่คิดถึงการได้ใช้เวลาทั้งวันกับเขาขณะที่ฉันกำลังนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ และซาร่า เพื่อนร่วมห้องของฉันก็เดินเข้ามาพร้อมกับใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนทุกครั้ง“ลิลลี่ ตื่นแล้วเหรอ? วันนี้ฉันต้องกลับบ้านนะ” ซาร่าพูดขึ้นพร้อมกับลากกระเป๋าเดินทางของเธอเข้ามา“ที่บ้านมีธุระที่ต้องจัดการ ฉันคงจะกลับมาเรียนอีกทีวันจันทร์เลย”“เอ๊ะ วันจันทร์เลยเหรอ?” ฉันเงยหน้ามองซาร่า ความรู้สึกหวาดหวั่นเกิดขึ้นเมื่อฉันต้องอยู่หอพักเพียงลำพังคนเดียว“ไม่เอาน่า อย่าทำหน้าเหงาแบบนั้นดิ วันจันทร์แค่แปปเดียวเอง” ซาร่ายื่นมือมาดึงแก้มฉัน“อื้อๆ รู้แล้ว” ฉันส่งยิ้มให้เธอหายกังวลใจ“ถ้ามีอะไรที่อยากคุย ก็โทรหาฉันนะ” ซาร่าย้ำ พร้อมกับลากกระเป๋าเดินทางขนาดเล็กไปหน้าประตูฉันพยักหน้าและส่งยิ้มให้เธอ ก่อนที่ซาร่าจะอ
ครูพีทขับรถพาฉันไปที่คอนโดของเขา ซึ่งอยู่ห่างจากสวนสาธารณะไม่ไกลนัก เมื่อเรามาถึง ฉันรู้สึกประทับใจกับความหรูหราและเรียบง่ายของสถานที่นี้ คอนโดของครูพีทอยู่ในอาคารสูงที่มองเห็นวิวเมืองกรุงเทพฯ จากที่สูง เขาพาฉันขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นบนสุดของอาคาร ซึ่งเป็นที่พักของเขาเองเมื่อประตูคอนโดเปิดออก ฉันรู้สึกถึงบรรยากาศที่อบอุ่นและสะดวกสบายภายในห้อง พื้นที่ถูกตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นและเฟอร์นิเจอร์ที่มีรสนิยม ทุกอย่างดูสะอาดและเป็นระเบียบ แสงจากโคมไฟที่นุ่มนวลทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น“นี่คือห้องน้ำ และนี่คือเสื้อของฉัน เธอไปอาบน้ำแล้วเปลี่ยนชุดซะ”ครูพีทบอกขณะยื่นเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาให้ฉัน และชี้ไปที่ห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลฉันรับเสื้อคลุมจากเขา รู้สึกอุ่นใจและขอบคุณในความเอาใจใส่ของเขา“ขอบคุณค่ะ... หนูจะรีบเปลี่ยนเดี๋ยวนี้”ฉันเดินเข้าไปในห้องน้ำและปิดประตูเบาๆ มองตัวเองในกระจก เห็นสภาพที่เปียกชื้นและผมที่ชุ่มน้ำ ฉันถอดเสื้อผ้า รวมถึงชุดชั้นในที่เปียกออกและอาบน้ำเพื่อล้างตัวที่เปียกฝน ก่อนจะเช็ดตัวและเป่าผมอย่างรีบเร่งให้แห้งหมาด ก่อนจะสวมเสื้อเชิ้ตของครูพีท“หอมจัง...” ฉันพึมพำเบาๆ เมื่อได้
แสงแดดยามบ่ายคล้อยสาดส่องเข้ามาผ่านม่านบางเบาในห้องของครูพีท ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้น สัมผัสแรกที่รับรู้คือความอ่อนเพลียที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย กล้ามเนื้อของฉันรู้สึกเหมือนถูกใช้งานจนหมดแรงทุกส่วน ความรู้สึกนี้ทำให้ฉันนอนนิ่งอยู่บนเตียงนุ่มๆ โดยไม่มีแรงแม้แต่จะขยับตัวฉันหันหน้าไปมองรอบห้อง ทุกอย่างเงียบสงบ มีเพียงเสียงนาฬิกาแขวนบนผนังที่บอกเวลาว่าเป็นเวลาบ่ายสี่โมงเย็นแล้ว มันเป็นช่วงเวลาที่ฉันน่าจะมีพลังสดชื่น แต่ในวันนี้กลับต่างออกไปหัวของฉันหมุนเล็กน้อยขณะที่ฉันพยายามจะลุกขึ้น แต่ร่างกายกลับไม่ยอมตามใจ รู้สึกเหนื่อยล้าและหนักอึ้งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ความรู้สึกอบอุ่นจากผ้าห่มที่คลุมร่างกายอยู่ทำให้ฉันอยากจะหลับต่อไปอีกหน่อย แต่ภาพความทรงจำจากเมื่อก่อนหน้านี้ก็ไหลเวียนกลับเข้ามาในหัวอย่างรวดเร็วครูพีท... เขากลั่นแกล้งฉันอย่างไร้ความปราณี ความรู้สึกของความสุขและความสุขสมที่เขาทำให้ฉันรู้สึกเหมือนอยู่บนสวรรค์และตกอยู่ในห้วงแห่งความสุขไม่รู้กี่รอบ ร่างกายของฉันยังคงรู้สึกถึงสัมผัสที่อ่อนโยนแต่ทรงพลังนั้น ความทรงจำเหล่านั้นทำให้ฉันรู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ซ่านอยู่ภายใน แต่ในขณะเดียวกันก็ท
หลังจากที่ฉันทานอาหารเสร็จ ความรู้สึกอบอุ่นและพึงพอใจจากอาหารที่ครูพีททำให้ยังคงอยู่ในใจ ฉันวางช้อนลงอย่างเบามือ ครูพีทยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นฉันทานจนหมดชาม“ขอบคุณค่ะ พี่พีท อาหารอร่อยมากเลยค่ะ” ฉันพูดพร้อมกับยิ้มให้เขาก่อนที่ครูพีทจะตอบอะไร เสียงกริ่งหน้าประตูก็ดังขึ้น ทำให้ฉันหันไปมองตามเสียง ครูพีทยืนขึ้นจากเก้าอี้และหันมาพูดกับฉันด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน“น่าจะเป็นแม่บ้านน่ะ”ขณะที่ครูพีทเดินไปที่ประตูเพื่อรับชุดเดรส ฉันก็ลุกขึ้น เริ่มเก็บจานและชามไปที่ห้องครัว ฉันยกถาดอาหารและเดินไปที่ห้องครัว เบาๆ วางถาดบนเคาน์เตอร์ และเริ่มล้างจานในอ่างน้ำอุ่นที่ไหลผ่านมือทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลาย ล้างจานอย่างใจเย็น ความคิดของฉันยังคงวนเวียนถึงช่วงเวลาที่ได้ใช้ร่วมกับครูพีท ฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีโอกาสได้สัมผัสกับความใกล้ชิดและความอบอุ่นแบบนี้จากเขา มันเป็นความรู้สึกที่ทั้งหวานและเต็มไปด้วยแรงปรารถนาเสียงประตูเปิดและปิดเบาๆ ฉันหันไปมองก็เห็นเขายืนอยู่ที่ประตูห้องครัว ในมือของเขามีชุดเดรสที่ถูกพับอย่างเรียบร้อยอยู่บนแขนของเขา“ลิลลี่ ไม่ต้องล้างจานหรอก เดี๋ยวฉันจัดการเอง” ครูพีทพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ
เช้าวันนี้ ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกที่ผสมผสานกันระหว่างความเหนื่อยล้าและความอบอุ่นจากคืนที่ผ่านไป แสงแดดอ่อนๆ ส่องผ่านม่านหน้าต่างเข้ามาในห้องนอน ทำให้ห้องดูอบอุ่นและเงียบสงบ ฉันนอนนิ่งอยู่บนเตียง รู้สึกถึงความอ่อนล้าที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายฉันลุกขึ้นนั่งอย่างช้าๆ สายตาหยุดอยู่ที่ห้องนอนซึ่งไม่ใช่ห้องของฉันเอง นี่คือห้องนอนของครูพีท ความจริงที่ว่าฉันตื่นขึ้นมาในห้องของเขาทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงขึ้น ภาพความทรงจำของเมื่อคืนยังคงชัดเจนอยู่ในความคิด ทั้งความใกล้ชิด ความอ่อนโยน และความรู้สึกที่เรามีต่อกัน มันทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่น แต่ก็แฝงไปด้วยความเขินอายหลังจากที่ฉันตั้งสติและพาตัวเองออกจากเตียง ฉันเดินไปที่ห้องน้ำเพื่อเตรียมตัวสำหรับวันใหม่ แต่เมื่อเปิดประตูห้องน้ำออกมา ฉันพบว่าครูพีทกำลังยืนอยู่ในครัว พร้อมกับชุดลำลองที่ดูสบายๆ เขายิ้มให้ฉันและยื่นแก้วกาแฟอุ่นๆ มาให้“ตื่นแล้วเหรอ” ครูพีทถาม“ขอบคุณค่ะ” ฉันรับแก้วกาแฟมาและยิ้มตอบ รู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย กลิ่นหอมของกาแฟสดทำให้ฉันรู้สึกสดชื่นขึ้นทันที ฉันนั่งลงที่โต๊ะอาหารขณะที่ครูพีทยังคงยืนมองฉันด้วยสายตาที่เต
เมื่อฉันกลับมาที่หอพัก ความเงียบสงบที่เคยทำให้ฉันรู้สึกสบายใจกลับทำให้ฉันรู้สึกเหงาในคืนนี้ เสียงประตูปิดเบาๆ หลังจากที่ฉันเข้ามาในห้อง และทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวดูเหมือนจะชะลอตัวลง ฉันวางกระเป๋าลงบนเตียงก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งอย่างช้าๆ หัวใจของฉันยังคงเต้นแรงจากเหตุการณ์ตลอดสามวันที่เกิดขึ้นความทรงจำที่มีร่วมกับครูพีทยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของฉัน ตั้งแต่เช้าที่เราทำอาหารเช้าด้วยกัน การเดินเล่นในสวนสาธารณะที่เงียบสงบ และการดูหนังรักด้วยกันในช่วงบ่าย รวมไปถึงเรื่องบนเตียงที่เขาสอนฉัน ความรู้สึกของฉันที่มีต่อเขามันเพิ่มระดับความชอบมากขึ้นเรื่อยๆ แต่...“เฮ้อ...เรากำลังทำอะไรอยู่นะ” ฉันถอนหายใจและพึมพำเบาๆ กับตัวเองติ๊ง! เสียงของข้อความดังขึ้นPatrick: ถึงห้องแล้วใช่มั้ย พักผ่อนให้เต็มที่นะฉันอ่านข้อความนั้นและรู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ความห่วงใยที่เขามีให้กับฉันทำให้ฉันยิ้มออกมา ฉันพิมพ์ตอบกลับไปอย่างรวดเร็วLilly: ถึงแล้วค่ะ แล้วจะรีบนอนค่ะหลังจากที่ส่งข้อความไป ฉันนั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกได้ถึงความรู้สึกที่ลึกซึ้งและซับซ้อนที่เกิดขึ้นในใจ ฉันไม่เคยคาดคิดว่าฉันจะรู้สึก
ทันทีที่เข้ามาในบ้าน ครูพีทก็ไม่เสียเวลา เขาวางกระเป๋าเดินทางของฉันทิ้งไว้ในห้องรับแขก ก่อนจะอุ้มฉันขึ้นโดยไม่เปิดโอกาสให้ตั้งตัว แถมพาฉันเดินเข้าห้องนอนทันที นี่ใจคอเขาจะไม่รอให้ฉันทำใจบ้างเหรอเนี่ย!“พี่พีทคะ...เราน่าจะคุยกันก่อนนะคะ...อื๊อ” ฉันพยายามพูด แต่คำพูดทั้งหมดกลับถูกกลืนหายไปเมื่อริมฝีปากของเขากดลงมาแนบสนิท เขาไม่ปล่อยให้ฉันได้โต้แย้ง สอดลิ้นเข้ามาในโพรงปาก ไล่ต้อนลิ้นของฉันอย่างชำนาญจนฉันแทบจะหยุดหายใจ ร่างกายที่ดิ้นรนกลับอ่อนลงตามแรงจูบที่ลึกซึ้งนั้น“อื้ม...ไว้คุยนะ” ครูพีทพึมพำเสียงต่ำ ก่อนที่มือซุกซนของเขาจะลูบไล้ไปตามร่างกายของฉัน และเริ่มถอดเสื้อผ้าของฉันและของเขาออก จนสุดท้ายเหลือเพียงร่างเปลือยเปล่าของเราทั้งคู่บนเตียงที่เต็มไปด้วยบรรยากาศเร่าร้อนและใกล้ชิด“เดี๋ยวค่ะ..อ๊ะ..อ๊า...” ฉันพยายามจะห้ามเขา แต่ไม่ทันกับริมฝีปากร้อนที่ก้มลงไปจูบปลายยอดถันของฉัน เขาเม้มดูดเบาๆ ก่อนจะใช้เรียวลิ้นไล้วนไปอย่างช่ำชอง สลับกับดูดแรงขึ้นจนทิ้งรอยแดงไว้บนผิว ฉันเผลอครางออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ มือบางของฉันจิกแน่นที่บ่าของเขา พยายามบรรเทาความวาบหวามที่พุ่งพล่านไปทั่วร่าง“คิดถึงนะ..
ฉันยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนของตัวเอง มองกระเป๋าเดินทางที่ยังไม่ได้เริ่มเก็บอะไรเลย ในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า ฉันจะต้องออกเดินทางไปอังกฤษตามคำสั่งของแม่ ทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนใหม่ ที่พัก หรือแม้กระทั่งกำหนดการเดินทาง ฉันไม่เคยรู้สึกถูกกำหนดชีวิตแบบนี้มาก่อน และมันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะหลุดจากทุกสิ่งที่ฉันรักแต่ก่อนที่จะจากไป ฉันมีสิ่งหนึ่งที่อยากทำ ฉันอยากใช้เวลาครั้งสุดท้ายกับเขา คนที่ฉันรักมากที่สุด คนที่ฉันไม่รู้ว่าจะได้พบอีกเมื่อไหร่“ซาร่า...” ฉันพูดขึ้นระหว่างที่เรานั่งคุยกันในมุมเงียบ ๆ ของห้องสมุดโรงเรียน“ช่วยฉันหน่อยได้มั้ย?”“อะไรอะ?” ซาร่าถามขณะยกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย“ฉันอยากไปอยู่กับพี่พีทหนึ่งสัปดาห์ก่อนเดินทาง” ฉันพูดเสียงเบา แต่หนักแน่นซาร่ามองฉันนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ“แม่เธอจะยอมเหรอ?”“ฉันจะบอกแม่ว่า จะไปค้างบ้านเธอช่วงที่ตรงกับวันหยุดของเทศกาลเซนต์เอมิลี่แห่งมิตรภาพ”“แม่คงไม่ว่าอะไรถ้าเธอช่วยพูดให้”ซาร่านิ่งไปอีกครั้ง ก่อนจะยิ้มให้ฉัน“ได้สิ ฉันจะช่วยเธอเอง”“ขอบใจนะ ถ้าไม่มีเธอ ฉันคงไม่รู้จะทำยังไงแน่เลย” ฉันจับมื
บรรยากาศในรถระหว่างทางกลับบ้านนั้นเงียบจนแทบจะได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้น บรรยากาศในรถอึดอัดจนฉันแทบหายใจไม่ออก แม่ของฉันนั่งอยู่ข้าง ๆ โดยไม่พูดอะไรเลยตลอดทาง ใบหน้าของเธอสงบนิ่ง แต่ฉันรับรู้ได้ถึงความโกรธที่เธอพยายามกดไว้ใต้เปลือกนอกที่ดูเหมือนไม่แสดงอารมณ์ใด ๆฉันหันไปมองนอกหน้าต่าง พยายามดึงความสนใจตัวเอง แต่ก็ไม่สามารถหนีจากความคิดที่วนเวียนอยู่ในหัวได้ หัวใจของฉันเต้นแรง รู้สึกถึงพายุแห่งความกลัวและความไม่แน่นอนที่กำลังก่อตัวขึ้นในใจเมื่อรถเลี้ยวเข้าประตูบ้าน ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกพาเข้าไปในสนามรบ แม่เปิดประตูรถแล้วก้าวลงด้วยท่าทางที่เคร่งขรึม ฉันเดินตามหลังเธอไปยังห้องรับแขก เสียงรองเท้าของเรากระทบพื้นหินอ่อนก้องสะท้อนในความเงียบงันของบ้านหลังใหญ่“นั่งลง” เสียงของแม่เยือกเย็น ฉันนั่งลงบนโซฟาในห้องรับแขก เธอนั่งลงตรงข้ามกับฉัน สายตาที่มองมานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวังและความโกรธที่เธอไม่ปิดบัง“อลิสา วัฒนชัย” แม่เรียกชื่อเต็มของฉันด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม ฉันรู้ดีว่าการที่แม่เรียกฉันด้วยชื่อเต็มแบบนี้ไม่ใช่เรื่องปกติ มันหมายความว่าเธอกำลังโมโห และฉันต้องเตรียมรับมือกับสิ
หลังจากลิลลี่กลับไปแล้ว บ้านพักเล็ก ๆ ของผมกลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง แสงอาทิตย์ยามบ่ายสาดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องทำงาน ผมนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ก้มมองเอกสารปึกใหญ่ที่นักสืบจากอังกฤษส่งมาให้เมื่อเช้านี้มันเป็นข้อมูลที่ทำให้ผมรู้สึกถึงความจริงบางอย่างที่ผมไม่เคยคาดคิด และมันกำลังเปิดเผยภาพรวมของเกมที่ซับซ้อนที่กำลังดำเนินอยู่รอบตัวผม ข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้เพียงแค่เกี่ยวกับตัวผม แต่ยังเกี่ยวพันกับครอบครัวของผมในระดับที่ลึกซึ้งและน่ากลัวเอกสารหน้าแรกเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับอลิซเบธ อดีตคนรักของผม นักสืบที่ผมจ้างบอกว่าเธอกลับมาเมืองไทยหลังจากได้รับการว่าจ้างจากคู่แข่งทางธุรกิจของพ่อผม พวกเขาใช้ลิซเป็นเครื่องมือเพื่อพยายามดึงตัวผมเข้าไปอยู่ในความขัดแย้งระหว่างธุรกิจ“ลิซ...” ผมพึมพำชื่อของเธอในความเงียบ รู้สึกเหมือนเธอที่ผมเคยรู้จักเป็นเพียงภาพมายาเท่านั้น ผู้หญิงที่เคยเดินเคียงข้างผมในช่วงเวลาที่เราใช้ชีวิตในอังกฤษ กลายเป็นคนที่พยายามใช้ความสัมพันธ์ในอดีตเพื่อเข้ามาทำลายทุกอย่างที่ผมสร้างขึ้นในเอกสารยังระบุว่า ลิซไม่ได้มาหาผมเพียงเพราะความรู้สึกในอดีต แต่เธอได้รับคำสั่งให้สร้างเรื่องราว
แสงแดดอ่อน ๆ ที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาทำให้ฉันค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้น ภายในห้องนอนของครูพีทเงียบสงบ ฉันมองไปรอบๆ แต่ไม่เห็นเขาอยู่บนเตียงแล้ว พอลองขยับตัวก็รู้สึกปวดเมื่อยตามเนื้อตัวไปหมด เป็นผลจากค่ำคืนที่เขาไม่ยอมให้ฉันได้นอนพักเลย ฉันแทบจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าหลับไปตอนไหน“เฮ้อ...” ฉันถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ ยันตัวขึ้นนั่ง ผ้าห่มเลื่อนลงจากร่างกายเผยให้เห็นรอยจ้ำแดงเป็นคิสมาร์กที่กระจายอยู่เต็มเนินอกของฉัน“หือ...เป็นรอยเยอะขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย” ฉันพึมพำเบาๆ มองรอยแดงที่กระจายอยู่เต็มเนินอก ผลจากความเร่าร้อนของเขาเมื่อคืนที่ทำให้ฉันแทบจะหมดแรงฉันตัดสินใจก้าวลงจากเตียง เดินตรงไปยังห้องน้ำแล้วรีบอาบน้ำอย่างรวดเร็ว พออาบเสร็จฉันก็ไปหยิบเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ของเขามาสวม มันโอเวอร์ไซส์จนคลุมมาถึงต้นขาของฉันหลังจากนั้นฉันเดินออกจากห้องนอน เพื่อจะตามหาเขา ไม่นานฉันก็เห็นครูพีทอยู่ที่ห้องนั่งเล่น เขากำลังจัดโต๊ะอาหารเช้าอย่างตั้งใจ เสียงเบาๆ จากครัวและกลิ่นหอมของอาหารที่เขากำลังเตรียมอยู่ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นและดีใจที่ได้มาเจอเขาในเช้านี้เมื่อเขาหันกลับมา ฉันก็เห็นว่าเขาถือถาดอาหารที่มีขนมปังปิ้ง แพนเ
เมื่อประตูบ้านปิดลง ครูพีทไม่รอช้า เขาดึงเอวฉันเข้ามาหา ใบหน้าของเขาโน้มลงมาประกบริมฝีปากอย่างแนบแน่น จูบของเขาลึกซึ้งและเร่าร้อน สอดแทรกลิ้นเข้ามาในโพรงปากของฉัน ตักตวงความหวานราวกับไม่มีที่สิ้นสุด มือใหญ่ดันท้ายทอยของฉันให้เข้าไปใกล้ จูบของเขารุนแรงจนฉันแทบลืมหายใจ ทั้งหมดที่ฉันทำได้คือปล่อยตัวเองให้จมอยู่ในอ้อมกอดของเขา“อื๊อ...พี่พีทคะ...” ฉันหอบครางเสียงสั่น ครูพีทผละริมฝีปากออกเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าฉันเริ่มหายใจไม่ทัน“คิดถึง" ครูพีทกระซิบเบา ๆ ก่อนจะบดริมฝีปากลงมาอีกครั้ง เขาจูบฉันอย่างต่อเนื่อง ราวกับไม่ต้องการให้ฉันมีช่วงเวลาพักหายใจ พลันเขาอุ้มฉันขึ้นจนตัวลอย มือใหญ่รองใต้สะโพกฉันไว้ ฉันโอบแขนรอบคอเขาแน่น ขาทั้งสองเกี่ยวรัดเอวเขาไว้ไม่ให้ล่วงลงพื้นครูพีทก้าวเท้ายาว ๆ ตรงไปยังห้องนอน โดยที่ยังคงจูบฉันอย่างลึกซึ้ง ลิ้นของเราเกี่ยวกระหวัดกันไม่มีใครยอมใครตุบ!เขาวางฉันลงบนที่นอนอย่างนุ่มนวล ฉันเงยหน้าขึ้นสบตาเขา เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและความปรารถนาอันลึกซึ้งลุกโชนอยู่ในนั้น“ไม่เจอกันนาน ต้องชดเชยหน่อยนะ” ครูพีทพูดพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะก้มตัวลงมาจูบฉันอีกครั้ง เขาสอดล
เช้าวันนั้นฉันนั่งเงียบอยู่ที่โต๊ะเรียน ขณะที่รอบตัวเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะของเพื่อนร่วมชั้น แม้จะพยายามทำตัวให้ดูเป็นปกติเหมือนทุกวัน แต่ในใจฉันกลับเต็มไปด้วยความกังวลและความว่างเปล่าที่อธิบายไม่ถูกตั้งแต่ครูพีทถูกพักงานไป ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะขาดหาย ฉันไม่รู้ว่าจะรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร ความคิดต่าง ๆ วนเวียนอยู่ในหัวฉันตลอดเวลาทันใดนั้น ฉันรู้สึกถึงแรงสะกิดเบา ๆ ที่ไหล่ หันไปมองก็พบกับรอยยิ้มของซาร่า เธอยื่นซองจดหมายสีขาวให้ฉัน ดวงตาของเธอเป็นประกายระยิบระยับราวกับจะบอกว่านี่ไม่ใช่จดหมายธรรมดา“นี่ของเธอ” ซาร่ากระซิบพลางยิ้มให้ ฉันมองเธออย่างสงสัยก่อนจะเปิดซองจดหมายออกอย่างช้า ๆในซองจดหมายนั้นมีจดหมายที่เขียนด้วยลายมือที่ฉันคุ้นเคยดี หัวใจฉันเต้นแรงขึ้นในทันที ฉันแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ครูพีท เขาฝากจดหมายมาให้ฉัน!มือของฉันสั่นเล็กน้อยขณะที่เปิดจดหมายออกมาอ่านข้อความข้างในลิลลี่ฉันรู้ดีว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ ฉันเองก็คิดถึงและเป็นห่วงเธอมากเช่นกัน ช่วงนี้ฉันไม่ได้พักที่คอนโด ฉันกลับมาอยู่บ้าน แต่ฉันก็คิดถึงเธอจนทนไม่ไหวถ้าเธอสะดวก ฉันอยากให
ฉันยืนมองกระดานประกาศของโรงเรียนด้วยสายตาเรียบเฉย แต่ในใจกลับร้อนรุ่มเหมือนเปลวไฟที่กำลังลุกโชน ไม่ว่าจะอ่านซ้ำอีกกี่ครั้ง คำประกาศตรงหน้าก็ยังคงเหมือนเดิม ตัวอักษรแต่ละตัวชัดเจนราวกับตั้งใจตอกย้ำให้ความหวังในใจฉันสลายไปจนหมดสิ้น‘ประกาศพักงาน มิสเตอร์พีทริก วิลเลียมส์ ไม่มีกำหนด เพื่อพิจารณาและสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อร้องเรียนเรื่องความไม่เหมาะสมในการปฏิบัติงาน’ข้อความนั้นเหมือนดาบที่กรีดลึกลงกลางใจ จนทุกสิ่งรอบตัวฉันพังทลายไปในพริบตา ฉันพยายามสูดหายใจเข้าลึก กลั้นความรู้สึกที่ถาโถมในอก และบอกตัวเองให้เข้มแข็ง แต่หัวใจกลับเต้นรัวและสั่นไหว มือทั้งสองข้างกำหมัดแน่น พยายามควบคุมตัวเองไม่ให้ปล่อยน้ำตาที่เอ่อล้นออกมาคำพูดของเขายังวนเวียนอยู่ในหัวไม่หยุด เสียงของเขาทุ้มอ่อนโยนและปลอบโยนอย่างที่เคย“ฉันอาจจะต้องหายไปสักพัก แต่ขอให้เธอเข้มแข็งไว้นะ เชื่อใจฉันนะ” เขาก้มลงจูบที่หน้าผากฉันเบา ๆ สัมผัสที่อบอุ่นและอ่อนโยนจนฉันไม่อาจห้ามความรู้สึกปั่นป่วนในใจได้“ค่ะ หนูเชื่อพี่ค่ะ” ฉันตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พยายามเก็บความเจ็บปวดไว้ข้างใน และทำตัวให้เข้มแข็งอย่างที่เขาบอก“เด็กดีขอ
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนมีแรงกดดันถาโถมเข้ามาจากทุกทิศทาง ไม่ว่าจะเป็นการกลั่นแกล้งของมินนี่ หรือการร้องเรียนของครูลิซที่อาจทำให้ความลับระหว่างฉันกับครูพีทถูกเปิดเผย ฉันรู้สึกเหมือนทุกอย่างพร้อมจะพังลงในพริบตา และทุกครั้งที่คิดถึงมัน หัวใจของฉันก็เจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูกแต่ฉันยังคงมีคนที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างเสมอ คนที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อปกป้องฉัน โดยไม่คิดถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับตัวเขาเลย นั่นคือครูพีทฉันรู้ว่าครูพีทเองก็รู้สึกกดดันไม่แพ้กัน แต่เขาไม่เคยแสดงความกลัวออกมาเลย เขายืนหยัดอยู่ตรงนั้น พร้อมเผชิญหน้ากับปัญหาทุกอย่างที่เข้ามา โดยเฉพาะเรื่องการร้องเรียนจากครูลิซ ฉันรู้ว่าเขาพยายามจะจัดการทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบกับฉันฉันพยายามเตือนเขาว่าไม่ควรเสี่ยงมากเกินไป แต่เขากลับยิ้มให้ฉันเสมอ รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและความตั้งใจ “ลิลลี่ ฉันบอกแล้วไงว่าจะปกป้องเธอ” เขาพูดทุกครั้งที่ฉันแสดงความกังวลแต่ลึก ๆ แล้ว ฉันเองก็รู้สึกผิด ฉันไม่อยากให้เขาต้องแบกรับภาระเพียงคนเดียว ฉันไม่อยากให้เขาต้องเผชิญกับปัญหาทั้งหมดเพียงลำพังในวันหนึ่ง ฉันสังเก