ทุกครั้งที่ฉันนึกถึงครูพีท ใจฉันก็เต้นรัวจนแทบจะหลุดออกมา ความสัมพันธ์ระหว่างเรามันไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่ทำไมฉันถึงหยุดคิดถึงเขาไม่ได้เลย ฉันรู้ดีว่าสิ่งที่เราทำคือการท้าทายกฎระเบียบที่โรงเรียนเคร่งครัดที่สุด แต่ยิ่งฉันคิดถึงมัน ฉันก็ยิ่งรู้สึกถึงความเร่าร้อนที่ซ่อนอยู่ในใจฉัน
เช้านี้ฉันตื่นขึ้นมาในหอพักเหมือนเช่นเคย แต่ความรู้สึกที่ติดค้างอยู่ในหัวใจทำให้ฉันไม่สามารถทำตัวเหมือนปกติได้ ฉันพยายามจะไม่คิดถึงเขา แต่ทุกครั้งที่ฉันปิดตา ภาพของครูพีทก็จะปรากฏขึ้นมาในหัว ความใกล้ชิดของเรามันผิด ฉันรู้ดี แต่ฉันก็ไม่สามารถหยุดความรู้สึกนี้ได้
“เมื่อวานกลับดึกเหรอ” ซาร่าทักทายฉัน ขณะที่ฉันกำลังเดินไปยังห้องเรียน
“เอ้อ...ก็นิดนึง” ฉันหน้าแดงเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวาน
“ไม่สบายรึเปล่า?” ซาร่าจ้องมองฉัน ก่อนจะเอามือมาอังที่หน้าผาก
“ปะ..เปล่า” ฉันรีบปฏิเสธทันที
“ครูพีทใช้งานหนักเหรอ?” ซาร่าพึมพำด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ
“ก็...ไม่นะ..”
“วันนี้ต้องไปช่วยครูอีกมั้ยอะ?”
“อะ..ไม่แน่ใจอะ” ฉันแบ่งรับแบ่งสู้
“ฉันไปช่วยมั้ย?” ซาร่าเสนอตัวเอง
“ไหวเหรอ มีแต่บทเรียนวรรณคดีทั้งนั้นเลยนะ” ฉันเอียงคอถามเพื่อน เพราะรู้ดีว่าเธอไม่ชอบเรียนวิชานี้เท่าไหร่
“อึก...ไม่เอาดีกว่า ฉันไม่ค่อยถนัด” ซาร่านึกได้รีบปฏิเสธ
“ก็ว่าอยู่” ฉันหัวเราะเบาๆ และรู้สึกโล่งใจในคราวเดียวกัน
วันนี้ในชั่วโมงเรียน ครูพีทสอนบทกวีของเชกสเปียร์ บทกวีที่เต็มไปด้วยความรู้สึกและความหมายที่ลึกซึ้ง ทุกคำพูดของเชกสเปียร์เหมือนกับกำลังสะท้อนความรู้สึกของฉันในตอนนี้อย่างประหลาด ครูพีทยืนอยู่หน้าชั้นเรียน แต่ฉันรู้สึกเหมือนเขากำลังพูดกับฉันเพียงคนเดียว เขาพูดถึงความรักที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน ความรักที่ไม่อาจเข้าใจได้ง่ายๆ และความรู้สึกที่ขัดแย้งกันภายในจิตใจ
“ความรักที่แท้จริง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะค้นหา มันเต็มไปด้วยความซับซ้อนและความรู้สึกที่ขัดแย้งกัน”
ครูพีทกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นและลึกซึ้ง สายตาของเขามองผ่านห้องเรียนไปยังนักเรียนทุกคน แต่ฉันรู้สึกเหมือนสายตานั้นกำลังจับจ้องมาที่ฉันเพียงคนเดียว หัวใจของฉันเต้นแรงขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น
หลังจากชั่วโมงเรียนจบลง ฉันรู้สึกถึงสายตาของครูพีทที่มองตามฉันไป ตอนที่ฉันเดินออกจากห้องเรียน มันเป็นสายตาที่ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกจับจ้องอย่างใกล้ชิดและลึกซึ้ง สายตานั้นทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันกำลังถูกดึงดูดกลับไปหาเขา แม้ว่าฉันจะพยายามต้านทาน
วันนี้ ฉันตัดสินใจไปหาครูพีทที่ห้องพักครูหลังเลิกเรียน ใจฉันเต้นแรงเมื่อเดินไปตามทางเดินที่เงียบสงัด ประตูห้องพักครูปิดอยู่ ฉันเคาะเบา ๆ ก่อนจะเปิดเข้าไป
ครูพีท…”
ฉันเรียกชื่อเขาอย่างแผ่วเบา เขาหันมามองฉันด้วยสายตาคมกริบที่ฉันคุ้นเคย ความร้อนแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายเมื่อฉันเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาของเขา
“ลิลลี่ เธอมาได้ยังไง?” เขาถามฉัน แต่ฉันรู้ดีว่าเขากำลังรอให้ฉันมา
ฉันเดินเข้าไปหาเขาอย่างช้าๆ ความรู้สึกที่มีต่อเขาเริ่มท่วมท้น ฉันไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป เมื่อฉันเข้าไปใกล้เขา เขาก็ลุกขึ้นยืน สายตาของเราสบกันเพียงชั่วครู่ก่อนที่เขาจะดึงฉันเข้ามาใกล้
“หนู..” ฉันพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่คำพูดกลับติดอยู่ในลำคอ ฉันไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน
ครูพีทยิ้มมุมปาก ก่อนจะก้าวเข้ามาใกล้ฉัน เขาเอื้อมมือไปสัมผัสแก้มของฉันเบาๆ การสัมผัสของเขาทำให้ฉันรู้สึกหวั่นไหว
ครูพีทยิ้มเล็กน้อยก่อนจะก้มลงมาจูบฉัน ริมฝีปากของเราสัมผัสกันอีกครั้ง และมันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน การจูบของเขาอ่อนโยนแต่ก็เต็มไปด้วยความร้อนแรงที่ยากจะต้านทาน ฉันตอบสนองต่อเขาอย่างที่ฉันเองก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อน
“ลิลลี่...”
ครูพีทกระซิบชื่อฉันข้างหู เสียงของเขาทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกกระตุ้นให้เข้าไปใกล้เขามากขึ้น ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน ทุกสัมผัสของเขาทำให้ฉันรู้สึกเหมือนจะหลอมละลายไปกับความปรารถนาที่เขามีต่อฉัน
มือของเขาเลื่อนลงมาจับที่เอวของฉัน ก่อนจะค่อยๆ ลูบไล้ไปตามแผ่นหลัง จากนั้นเลื่อนไปที่สะโพก ฉันรู้สึกถึงความร้อนแรงที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกำลังจมดิ่งเข้าสู่ความปรารถนาที่ไม่สามารถหยุดยั้งได้
“มีเรื่องที่ฉันต้องสอนเธอเยอะเลย ลิลลี่” เขาพูดเบาๆ ก่อนจะจูบฉันอีกครั้ง การจูบครั้งนี้เข้มข้นกว่าเดิม
“อ้าปากอีกนิดสิ...”
เขากระซิบ ฉันทำตามอย่างว่าง่าย ปลายลิ้นของเขาแทรกเข้ามาในปากของฉันอย่างช่ำชอง หัวใจของฉันรู้สึกราวกับว่ามันกำลังจะระเบิดออกมาจากอก เขากำลังทำให้ร่างกายของฉันร้อนด้วยไฟปรารถนา
ฉันตอบสนองต่อเขาอย่างเต็มใจ มือของฉันเลื่อนไปสัมผัสใบหน้าของเขา ความร้อนแรงที่ท่วมท้นทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกำลังถูกเผาผลาญด้วยความปรารถนาที่ไม่อาจห้ามได้
“อ๊ะ..ครู..”
ฉันตกใจเล็กน้อย เมื่อจู่ๆ เขาก็กวาดสิ่งของบนโต๊ะทำงานลงพื้น และยกตัวฉันขึ้นไปบนโต๊ะ ดันให้หลังของฉันพิงกับตู้เอกสาร มือของฉันรีบรวบกระโปรงสั้นเอาไว้ แต่เขากลับดึงมือของฉันออก ดวงตาคมเข้มของเขาจ้องมองฉัน มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย
“นี่คือบทเรียนที่เธอต้องเรียนวันนี้” ครูพีทกระซิบเสียงกระเส่า
นิ้วมือเรียวของเขาล้วงเข้าไปใต้กระโปรง ก่อนจะรูดชั้นในตัวจิ๋วของฉันออกจากกระโปรง จากนั้นเขาก็ยกขาขวาพาดที่บ่าของเขา ชั่วขณะที่ฉันเผลอ ลมหายใจอุ่นของเขาก็เป่ารดที่ด้านล่างของฉัน
“อ๊ะ!!” ฉันสะดุ้งเฮือกเมื่อลิ้นอันอ่อนนุ่มของเขาแตะเข้าส่วนที่อ่อนไหวมากที่สุดในร่างกาย
“ครูคะ...ไม่..อ๊า..” เสียงร้องห้ามของฉันหายไป กลายเป็นเสียงครางแผ่วเบาออกมา
ครูพีทช่างมีความชำนาญยิ่งนัก แม้ว่าบางครั้งฉันจะพยายามหุบขา แต่เขาก็ไม่ยอม ที่สำคัญเขากลับเร่งเร้าฉันอย่างหนัก ลิ้นพริ้วสะบัด ส่วนนิ้วมือเรียวของเขาก็ลูบคลำที่ยอดอกของฉันเพิ่มความเสียวซ่านขึ้นอีก
เสียงของฉันเริ่มครางถี่ ฉันเริ่มหายใจหอบ ร่างกายของฉันร้อนระอุ ทุกอณูในกายของฉันตอบรับความซาบซ่านที่วูบไหว ลิ้นของเขายังคงเคลื่อนไหวไม่หยุด และเพิ่มน้ำหนักให้แรงขึ้น เพิ่มความเสียวซ่านให้ฉันมากยิ่งขึ้น จนกระทั่งฉันรู้สึกราวกับร่างกายจะระเบิด ช่องท้องเสมือนมีมวลคลื่นก่อพายุ ในที่สุดฉันก็ถึงจุดหมายปลายทาง
“ลิลลี่...ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อนเลย” ครูพีทพูดเบาๆ กับฉันที่หมดแรงอ่อนระทวยในอ้อมกอดของเขา
ฉันเงยหน้ามองเข้าไปในดวงตาของเขา ดวงตาคู่นั้นที่มองฉันด้วยความรักและความปรารถนาที่ฉันไม่เคยเห็นในสายตาของใครมาก่อน มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกสะกดให้จมดิ่งลงไปในโลกที่มีเพียงเราเท่านั้น
“หนูก็เหมือนกันค่ะครู” ฉันพูดออกมาเบาๆ แต่เต็มไปด้วยความจริงใจที่ฉันไม่สามารถซ่อนเอาไว้ได้
ครูพีทยิ้มให้ฉันก่อนจะก้มลงมาจูบที่หน้าผากของฉัน
“คราวหน้าฉันจะสอนบทเรียนสำคัญที่สุดให้เธอ...แต่ไม่ใช่ที่นี่นะ”
“ค่ะ” ฉันตอบรับ และเงยหน้ามองเขา ดวงตาคมกริบของเขาเป็นประกายพึงพอใจมาก
ฉันนั่งอยู่บนเตียงในห้องพักที่เงียบสงบ สายตาของฉันจับจ้องไปที่กระดาษแผ่นหนึ่งในมือ มันคือกฎระเบียบของโรงเรียนเซนต์เอมิลี่ ซึ่งฉันได้รับมาเมื่อตอนเข้ามาใหม่ ฉันควรจะอ่านมันตั้งแต่วันแรก แต่ด้วยเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้น ฉันกลับลืมไปเสียสนิท กระดาษแผ่นนี้เหมือนเป็นเตือนความจำของสิ่งที่ควรและไม่ควรทำฉันค่อยๆ พลิกกระดาษไปเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าสุดท้าย สายตาของฉันก็สะดุดกับกฎข้อที่ 10 ที่ถูกเขียนไว้ด้วยตัวหนังสือสีเข้มกว่าปกติ ฉันรู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นแรงขึ้นทันทีเมื่ออ่านมันกฎข้อที่ 10: ห้ามมิให้มีความสัมพันธ์ส่วนตัวที่เกินขอบเขตของความเป็นครูและนักเรียน หากพบว่ามีการกระทำเช่นนี้ จะมีการสอบสวนและลงโทษอย่างเคร่งครัดทั้งครูและนักเรียนที่เกี่ยวข้องฉันอ่านประโยคนั้นซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง ใจของฉันเริ่มเต้นแรงขึ้นเมื่อคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างฉันกับครูพีท ความสัมพันธ์ของเรานั้นข้ามเส้นที่ถูกเขียนไว้ในกฎระเบียบนี้อย่างชัดเจน และฉันก็รู้ดีว่าถ้ามีใครรู้เรื่องนี้ ผลที่ตามมาอาจจะไม่ดีเลยเสียงเปิดประตูดังขึ้น ฉันเงยหน้าขึ้นมองเห็นซาร่า เพื่อนร่วมห้องของฉันเดินเข้ามาพร้อมกับยิ้มกว้าง เธอเพิ่งกลับจา
ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ รู้สึกเหมือนหัวของฉันหนักอึ้งและร่างกายของฉันอ่อนล้าอย่างประหลาด ฉันขยับตัวเล็กน้อยเพื่อพยายามระลึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน แต่ในหัวกลับเต็มไปด้วยความงุนงงว่าฉันกลับมาถึงหอพักได้อย่างไรขณะที่ฉันกำลังพยายามเรียกสติกลับมา ประตูห้องพักก็เปิดออกอย่างเบามือ ฉันหันไปมองเห็นซาร่า เพื่อนร่วมห้องของฉันเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง“ลิลลี่ เธอโอเคหรือเปล่า?” ซาร่าถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล“ฉันเห็นเธอดูไม่ค่อยดีเลยเมื่อคืนนี้ ตอนที่ครูพีทอุ้มเธอกลับมาที่หอพัก”ฉันชะงักไปทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของซาร่า“ครูพีท... อุ้มฉันกลับมาที่หอพักงั้นเหรอ?”ฉันถามกลับด้วยเสียงที่ยังคงแหบพร่า หัวใจฉันเต้นแรงขึ้นทันทีเมื่อได้ยินคำว่า ‘ครูพีท’ ความทรงจำเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อวานค่อยๆ ทยอยกลับมาในหัวของฉันทีละเล็กทีละน้อย“ใช่ เธอสลบไป ฉันตกใจมากเลยอะ” ซาร่าพูดพลางนั่งลงข้างเตียงของฉัน“ฉัน... ฉันไม่ค่อยแน่ใจ” ฉันตอบกลับเสียงแผ่ว รู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วใบหน้าเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวาน“ฉันคงรู้สึกเหนื่อยมากน่ะ...”“เธอแน่ใจนะ เมื่อวานเธอ
เช้าวันนี้ ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องลอดผ่านหน้าต่างหอพัก เข้ามาทักทายฉันด้วยความอ่อนโยน ฉันรู้ดีว่าวันนี้จะไม่ใช่วันธรรมดา ครูพีทจะมารับฉันตอน 10 โมงเช้าเพื่อไปดูงานนิทรรศการภาพถ่ายวรรณคดีในเมือง และมันทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงทุกครั้งที่คิดถึงการได้ใช้เวลาทั้งวันกับเขาขณะที่ฉันกำลังนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ และซาร่า เพื่อนร่วมห้องของฉันก็เดินเข้ามาพร้อมกับใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนทุกครั้ง“ลิลลี่ ตื่นแล้วเหรอ? วันนี้ฉันต้องกลับบ้านนะ” ซาร่าพูดขึ้นพร้อมกับลากกระเป๋าเดินทางของเธอเข้ามา“ที่บ้านมีธุระที่ต้องจัดการ ฉันคงจะกลับมาเรียนอีกทีวันจันทร์เลย”“เอ๊ะ วันจันทร์เลยเหรอ?” ฉันเงยหน้ามองซาร่า ความรู้สึกหวาดหวั่นเกิดขึ้นเมื่อฉันต้องอยู่หอพักเพียงลำพังคนเดียว“ไม่เอาน่า อย่าทำหน้าเหงาแบบนั้นดิ วันจันทร์แค่แปปเดียวเอง” ซาร่ายื่นมือมาดึงแก้มฉัน“อื้อๆ รู้แล้ว” ฉันส่งยิ้มให้เธอหายกังวลใจ“ถ้ามีอะไรที่อยากคุย ก็โทรหาฉันนะ” ซาร่าย้ำ พร้อมกับลากกระเป๋าเดินทางขนาดเล็กไปหน้าประตูฉันพยักหน้าและส่งยิ้มให้เธอ ก่อนที่ซาร่าจะอ
ครูพีทขับรถพาฉันไปที่คอนโดของเขา ซึ่งอยู่ห่างจากสวนสาธารณะไม่ไกลนัก เมื่อเรามาถึง ฉันรู้สึกประทับใจกับความหรูหราและเรียบง่ายของสถานที่นี้ คอนโดของครูพีทอยู่ในอาคารสูงที่มองเห็นวิวเมืองกรุงเทพฯ จากที่สูง เขาพาฉันขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นบนสุดของอาคาร ซึ่งเป็นที่พักของเขาเองเมื่อประตูคอนโดเปิดออก ฉันรู้สึกถึงบรรยากาศที่อบอุ่นและสะดวกสบายภายในห้อง พื้นที่ถูกตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นและเฟอร์นิเจอร์ที่มีรสนิยม ทุกอย่างดูสะอาดและเป็นระเบียบ แสงจากโคมไฟที่นุ่มนวลทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น“นี่คือห้องน้ำ และนี่คือเสื้อของฉัน เธอไปอาบน้ำแล้วเปลี่ยนชุดซะ”ครูพีทบอกขณะยื่นเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาให้ฉัน และชี้ไปที่ห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลฉันรับเสื้อคลุมจากเขา รู้สึกอุ่นใจและขอบคุณในความเอาใจใส่ของเขา“ขอบคุณค่ะ... หนูจะรีบเปลี่ยนเดี๋ยวนี้”ฉันเดินเข้าไปในห้องน้ำและปิดประตูเบาๆ มองตัวเองในกระจก เห็นสภาพที่เปียกชื้นและผมที่ชุ่มน้ำ ฉันถอดเสื้อผ้า รวมถึงชุดชั้นในที่เปียกออกและอาบน้ำเพื่อล้างตัวที่เปียกฝน ก่อนจะเช็ดตัวและเป่าผมอย่างรีบเร่งให้แห้งหมาด ก่อนจะสวมเสื้อเชิ้ตของครูพีท“หอมจัง...” ฉันพึมพำเบาๆ เมื่อได้
แสงแดดยามบ่ายคล้อยสาดส่องเข้ามาผ่านม่านบางเบาในห้องของครูพีท ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้น สัมผัสแรกที่รับรู้คือความอ่อนเพลียที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย กล้ามเนื้อของฉันรู้สึกเหมือนถูกใช้งานจนหมดแรงทุกส่วน ความรู้สึกนี้ทำให้ฉันนอนนิ่งอยู่บนเตียงนุ่มๆ โดยไม่มีแรงแม้แต่จะขยับตัวฉันหันหน้าไปมองรอบห้อง ทุกอย่างเงียบสงบ มีเพียงเสียงนาฬิกาแขวนบนผนังที่บอกเวลาว่าเป็นเวลาบ่ายสี่โมงเย็นแล้ว มันเป็นช่วงเวลาที่ฉันน่าจะมีพลังสดชื่น แต่ในวันนี้กลับต่างออกไปหัวของฉันหมุนเล็กน้อยขณะที่ฉันพยายามจะลุกขึ้น แต่ร่างกายกลับไม่ยอมตามใจ รู้สึกเหนื่อยล้าและหนักอึ้งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ความรู้สึกอบอุ่นจากผ้าห่มที่คลุมร่างกายอยู่ทำให้ฉันอยากจะหลับต่อไปอีกหน่อย แต่ภาพความทรงจำจากเมื่อก่อนหน้านี้ก็ไหลเวียนกลับเข้ามาในหัวอย่างรวดเร็วครูพีท... เขากลั่นแกล้งฉันอย่างไร้ความปราณี ความรู้สึกของความสุขและความสุขสมที่เขาทำให้ฉันรู้สึกเหมือนอยู่บนสวรรค์และตกอยู่ในห้วงแห่งความสุขไม่รู้กี่รอบ ร่างกายของฉันยังคงรู้สึกถึงสัมผัสที่อ่อนโยนแต่ทรงพลังนั้น ความทรงจำเหล่านั้นทำให้ฉันรู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ซ่านอยู่ภายใน แต่ในขณะเดียวกันก็ท
หลังจากที่ฉันทานอาหารเสร็จ ความรู้สึกอบอุ่นและพึงพอใจจากอาหารที่ครูพีททำให้ยังคงอยู่ในใจ ฉันวางช้อนลงอย่างเบามือ ครูพีทยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นฉันทานจนหมดชาม“ขอบคุณค่ะ พี่พีท อาหารอร่อยมากเลยค่ะ” ฉันพูดพร้อมกับยิ้มให้เขาก่อนที่ครูพีทจะตอบอะไร เสียงกริ่งหน้าประตูก็ดังขึ้น ทำให้ฉันหันไปมองตามเสียง ครูพีทยืนขึ้นจากเก้าอี้และหันมาพูดกับฉันด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน“น่าจะเป็นแม่บ้านน่ะ”ขณะที่ครูพีทเดินไปที่ประตูเพื่อรับชุดเดรส ฉันก็ลุกขึ้น เริ่มเก็บจานและชามไปที่ห้องครัว ฉันยกถาดอาหารและเดินไปที่ห้องครัว เบาๆ วางถาดบนเคาน์เตอร์ และเริ่มล้างจานในอ่างน้ำอุ่นที่ไหลผ่านมือทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลาย ล้างจานอย่างใจเย็น ความคิดของฉันยังคงวนเวียนถึงช่วงเวลาที่ได้ใช้ร่วมกับครูพีท ฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีโอกาสได้สัมผัสกับความใกล้ชิดและความอบอุ่นแบบนี้จากเขา มันเป็นความรู้สึกที่ทั้งหวานและเต็มไปด้วยแรงปรารถนาเสียงประตูเปิดและปิดเบาๆ ฉันหันไปมองก็เห็นเขายืนอยู่ที่ประตูห้องครัว ในมือของเขามีชุดเดรสที่ถูกพับอย่างเรียบร้อยอยู่บนแขนของเขา“ลิลลี่ ไม่ต้องล้างจานหรอก เดี๋ยวฉันจัดการเอง” ครูพีทพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ
ฉันชื่อ ลิลลี่ อายุ 18 ปี วันนี้เป็นวันที่ฉันรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบพังทลายลงมา เมื่อฉันต้องย้ายเข้ามาเรียนในโรงเรียนประจำที่ไม่เคยคิดฝันว่าจะต้องมาอยู่ที่นี่ โรงเรียนแห่งนี้ชื่อว่า "เซนต์เอมิลี่" โรงเรียนที่มีชื่อเสียงด้านความเข้มงวดและกฎระเบียบที่เคร่งครัดที่สุดในประเทศฉันยืนอยู่หน้าประตูโรงเรียนพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ หัวใจของฉันเต้นแรงจนรู้สึกถึงมันชัดเจน ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันเคยรู้จัก ทุกคนที่ฉันเคยสนิท ตอนนี้มันถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง"ลิลลี่ เธอต้องเข้มแข็ง" ฉันพยายามปลอบใจตัวเองก่อนที่จะก้าวเข้าไปในโรงเรียนแห่งนี้ฉันเดินผ่านประตูใหญ่ที่ทำจากเหล็กสีดำสนิท เสาสูงที่ตั้งอยู่สองข้างประตูให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเข้าสู่โลกที่ไม่คุ้นเคย เส้นทางที่ฉันเดินผ่านปูด้วยหินก้อนเล็กๆ เรียงตัวเป็นระเบียบ ข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่ให้ความร่มรื่น แต่กลับรู้สึกเย็นยะเยือกและว่างเปล่าทันทีที่ก้าวเข้าสู่ห้องโถงใหญ่ ฉันก็ถูกทักทายโดยหญิงสูงวัยในชุดสูทสีเข้ม หน้าตาของเธอดูเคร่งขรึมและเข้มงวด เธอคือ มาร์ธา หัวหน้าอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนนี้"ยินดีต้อนรับสู่เซนต์เอมิลี่" มาร์ธาเอ่ยทักทายด้วยน้ำเส
เช้าวันใหม่ที่เซนต์เอมิลี่มาถึงแล้ว ฉันตื่นขึ้นมาในห้องพักเล็กๆ ที่ยังคงรู้สึกไม่คุ้นเคยกับมันเลยสักนิด แสงแดดอ่อนๆ ที่ลอดผ่านม่านหน้าต่างทำให้ฉันรู้สึกสดชื่นขึ้นเล็กน้อย ฉันลุกขึ้นจากเตียงและเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการเตรียมตัวไปเรียน ฉันหยิบชุดนักเรียนที่เป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกระโปรงจีบสีเทาออกมาจากตู้เสื้อผ้า และจัดผมให้เรียบร้อยตามระเบียบของโรงเรียน ความเคร่งครัดที่นี่ทำให้ฉันต้องระมัดระวังทุกการกระทำ ทุกอย่างต้องถูกต้องตามกฎที่ถูกวางไว้ แต่บางอย่างในใจฉันก็ยังรู้สึกว่า มีบางสิ่งที่ฉันกำลังท้าทายมันอยู่เมื่อฉันเดินออกมาจากห้องพัก ฉันก็เจอกับซาร่าที่กำลังเตรียมตัวไปเรียนเหมือนกัน ซาร่าส่งยิ้มให้ฉันด้วยความเป็นมิตรเช่นเคย"พร้อมไปเรียนหรือยัง?" ซาร่าถามด้วยน้ำเสียงสดใส"พร้อมแล้วล่ะ" ฉันตอบกลับพร้อมกับยิ้ม "แต่ยังคงรู้สึกประหม่าอยู่บ้าง""ไม่ต้องกังวลหรอก เดี๋ยวเธอก็ชิน" ซาร่าพูดพร้อมกับพยักหน้าให้ฉัน "วันนี้มีเรียนวรรณคดีเป็นวิชาแรกด้วยนะ ฉันจำได้ว่าเธอสนใจวรรณคดีมากเลยใช่ไหม?""ใช่ ฉันชอบอ่านนิยาย มันทำให้ฉันได้หลบหนีจากความจริงบ้าง" ฉันตอบอย่างตรงไปตรงมา "แต่...ครูพีทเป็นครูสอนวรรณค