หลังจากที่ฉันทานอาหารเสร็จ ความรู้สึกอบอุ่นและพึงพอใจจากอาหารที่ครูพีททำให้ยังคงอยู่ในใจ ฉันวางช้อนลงอย่างเบามือ ครูพีทยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นฉันทานจนหมดชาม
“ขอบคุณค่ะ พี่พีท อาหารอร่อยมากเลยค่ะ” ฉันพูดพร้อมกับยิ้มให้เขา
ก่อนที่ครูพีทจะตอบอะไร เสียงกริ่งหน้าประตูก็ดังขึ้น ทำให้ฉันหันไปมองตามเสียง ครูพีทยืนขึ้นจากเก้าอี้และหันมาพูดกับฉันด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
“น่าจะเป็นแม่บ้านน่ะ”
ขณะที่ครูพีทเดินไปที่ประตูเพื่อรับชุดเดรส ฉันก็ลุกขึ้น เริ่มเก็บจานและชามไปที่ห้องครัว ฉันยกถาดอาหารและเดินไปที่ห้องครัว เบาๆ วางถาดบนเคาน์เตอร์ และเริ่มล้างจานในอ่าง
น้ำอุ่นที่ไหลผ่านมือทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลาย ล้างจานอย่างใจเย็น ความคิดของฉันยังคงวนเวียนถึงช่วงเวลาที่ได้ใช้ร่วมกับครูพีท ฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีโอกาสได้สัมผัสกับความใกล้ชิดและความอบอุ่นแบบนี้จากเขา มันเป็นความรู้สึกที่ทั้งหวานและเต็มไปด้วยแรงปรารถนา
เสียงประตูเปิดและปิดเบาๆ ฉันหันไปมองก็เห็นเขายืนอยู่ที่ประตูห้องครัว ในมือของเขามีชุดเดรสที่ถูกพับอย่างเรียบร้อยอยู่บนแขนของเขา
“ลิลลี่ ไม่ต้องล้างจานหรอก เดี๋ยวฉันจัดการเอง” ครูพีทพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่ฉันส่ายหัวเบาๆ พร้อมกับยิ้มให้เขา
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันอยากช่วยบ้างน่ะค่ะ” ฉันตอบกลับและหันไปล้างจานต่อด้วยความตั้งใจ
ครูพีทยืนมองฉันด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเอ็นดู เขาไม่ได้ขัดฉัน และเพียงแต่ยืนรออยู่ที่นั่น เมื่อฉันล้างจานเสร็จและจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ฉันก็เดินไปหาเขา ครูพีทยื่นชุดเดรสให้ฉัน ขณะที่ฉันเอื้อมมือไปรับ ก่อนที่ฉันจะสัมผัสชุดนั้น เขาก็ดึงมันกลับไปอย่างรวดเร็ว รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าของเขา สายตาของเขามองฉันด้วยความรู้สึกที่ฉันอ่านไม่ออก
“พี่พีท…?” ฉันงุนงง หัวใจเริ่มเต้นแรงขึ้นอย่างบอกไม่ถูก
“ลิลลี่” เขาพูดเสียงนุ่ม แต่ในน้ำเสียงนั้นแฝงไปด้วยความลึกลับบางอย่าง
“ถ้าเธออยากได้ชุดนี้คืน ต้องมีอะไรแลกกับฉันก่อนนะ”
คำพูดของเขาทำให้ฉันหยุดนิ่ง ความสงสัยและความตื่นเต้นผสมปนเปกันไปในหัวใจ
“หมายความว่ายังไงคะ?” ฉันถามเสียงแผ่ว รู้สึกถึงความร้อนที่เริ่มแผ่ซ่านไปทั่วใบหน้า
ครูพีทยิ้มมุมปาก รอยยิ้มนั้นทำให้ฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น เขาเดินเข้ามาใกล้ฉัน ชุดเดรสยังคงถูกจับอยู่ในมือของเขาอย่างแน่นหนา เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้จนฉันสามารถรู้สึกถึงลมหายใจของเขาที่แตะต้องกับผิวหน้าเบาๆ
“เธอน่าจะรู้นะ” เขากระซิบเบาๆ ที่ข้างหูของฉัน เสียงของเขานุ่มนวลและเต็มไปด้วยความเร้าใจที่ทำให้หัวใจฉันเต้นแรงขึ้นไปอีก ฉันรู้สึกถึงความร้อนที่พุ่งขึ้นมาทันทีในร่างกาย รับรู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปอยู่ลึกๆ ด้วยใจเต้นไม่เป็นส่ำ
“ค่ะ” ฉันพยักหน้ารับเบาๆ ใบหน้าแดงก่ำ
ครูพีทยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นฉันพยักหน้ารับคำขอของเขา เขายื่นชุดเดรสให้ฉันอย่างช้าๆ แต่ก่อนที่ฉันจะทันได้จับมันไว้แน่น เขาก็กลับดึงมันออกไปอีกครั้ง สายตาของเขาจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของฉัน แฝงไปด้วยความปรารถนาและความเร่าร้อนที่ไม่สามารถปิดบังได้
ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง ครูพีทก็เอื้อมมือคว้าตัวฉันเข้ามาแนบชิด ร่างกายของฉันแนบกับอกของเขาอย่างไม่มีช่องว่าง และในทันทีที่ฉันเริ่มรู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ซ่านจากร่างกายของเขา ริมฝีปากของครูพีทก็จู่โจมลงมาบนริมฝีปากของฉัน
จูบนั้นไม่เหมือนจูบใดๆ ที่เคยสัมผัส มันเต็มไปด้วยความร้อนแรงและความปรารถนาที่ล้นเอ่อ ทุกสัมผัสของริมฝีปากเขาทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ฉันรู้สึกถึงเรียวลิ้นที่แทรกเข้ามาอย่างเร่าร้อน
มือของครูพีทเลื่อนลงมาที่เอวของฉัน ก่อนจะดึงตัวฉันเข้าใกล้เขามากยิ่งขึ้น ริมฝีปากของเรายังคงประสานกันอย่างแนบแน่น ลมหายใจของเราผสมผสานกันจนกลายเป็นหนึ่งเดียว ความรู้สึกที่ถูกปลุกปั่นขึ้นมาทำให้ฉันไม่สามารถต้านทานได้อีกต่อไป
ครูพีทค่อยๆ ผละริมฝีปากออก แต่ก่อนที่ฉันจะได้หายใจเต็มปอด เขาก็ช้อนตัวฉันขึ้นจากพื้น อุ้มฉันอย่างง่ายดาย ราวกับว่าฉันไร้น้ำหนักในอ้อมแขนของเขา ฉันโอบแขนรอบคอของเขา หัวใจเต้นแรงขณะที่เขาอุ้มฉันตรงไปยังห้องนอน
เมื่อเข้ามาในห้องนอน ครูพีทค่อยๆ วางฉันลงบนเตียงที่นุ่มนวล สายตาของเขาจ้องมองฉันอย่างไม่ละสายตา รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา ขณะที่เขาก้มลงมาใกล้ ฉันรู้สึกได้ถึงความเร่าร้อนที่เริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง
ครูพีทโน้มตัวลงมา ริมฝีปากของเขาสัมผัสกับผิวของฉันอีกครั้ง คราวนี้เขาจูบที่ลำคอของฉัน จูบที่แผ่วเบาแต่แฝงไปด้วยความร้อนแรง ปลายนิ้วของเขาลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของฉัน สัมผัสที่อ่อนโยนแต่ทำให้ฉันสั่นสะท้านไปทั่วร่างกาย
มือของเขาปลดเสื้อผ้าของฉันออกหมดตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เขาค่อยๆ ไล่พรมจูบตั้งแต่ซอกคอขาวลงไปยังเนินอกก่อนจะลากเรียวลิ้นระเลียดเป็นวงกลมที่ปลายถัน ลิ้นหนาตวัดเลียหยอกล้อ ก่อนจะเม้มดูดเป็นจังหวะทำให้ร่างกายฉันเสียวสะท้าน แอ่นอกสู้เรียวลิ้นอย่างไม่รู้ตัว
“อี๊อ...” ฉันครางประท้วงในลำคอ เผยอริมฝีปาก เริ่มหอบหายใจถี่
“สีหน้าของเธอดีมากเลยรู้มั้ย” ครูพีทกระซิบเสียงกระเส่า
“อ๊า..พี่พีท..อย่าแกล้งสิคะ..” ฉันร้องอุทธรณ์ เมื่อเขาใช้ปลายนิ้วเขี่ยปุ่มกระสันด้านล่าง และเพิ่มความถี่ระรัวของการตวัดลิ้นเลียปลายถันให้ถี่ยิบมากขึ้น
“น่ารักแบบนี้ไม่แกล้งได้ไง” ครูพีทยิ้มร้ายออกมา ก่อนจะใช้เข่าดันเพื่อแยกขาเรียวของฉันให้อ้าออกกว้าง จากนั้นก็แทรกแทรกกายเข้าไประหว่างขาของฉัน
“อื๊อ..” ฉันสะดุ้ง รู้สึกได้ถึงบางอย่างที่คับแน่นสอดใส่เข้ามาในร่างกาย เขาค่อยขยับร่างกายอย่างนุ่มนวลเป็นจังหวะ เพื่อสร้างความคุ้นชินกับฉัน ความจุกเจ็บเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่าน
“อ๊า..” ฉันครวญครางออกมาไม่เป็นภาษา เมื่อเขาเริ่มเร่งจังหวะที่ชวนให้ดิ้นพล่าน ยิ่งเขากระแทกฉันก็ยิ่งรัดแน่น ความวูบวาบแล่นไปทั่วแผ่นหลังและท้องน้อย ภายในอกปั่นป่วน อีกทั้งลมหายใจก็ติดขัด ท้องน้อยเริ่มบิดเกร็งเมื่อใกล้ถึงจุดหมาย ฉันกรีดร้องออกมาเกินต้านทาน มือของฉันจิกเกร็งไปที่แผ่นหลังของเขา ฉันรู้สึกถึงบางอย่างที่ระบายอัดเข้ามาในร่าง เขาปลดปล่อยความปรารถนาพลางกอดฉันไว้ในอ้อมแขน
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ในความมืดที่อบอุ่น ฉันรู้สึกถึงความสุขที่หลอมรวมกัน ความปรารถนาที่เร่าร้อนในค่ำคืนนี้จะกลายเป็นความทรงจำที่ฉันไม่อาจลืมเลือนได้
ขณะที่ฉันกำลังนอนซุกหน้าอยู่กับอกแกร่งของครูพีทภายใต้ผ้าห่มเดียวกัน ฉันก็เริ่มรู้สึกถึงมืออันซุกซนของเขาที่เริ่มลูบไล้ สัมผัสตามร่างกายของฉัน
อ่า...ครั้งเดียวคงไม่พอสำหรับเขาสินะ
ฉันชื่อ ลิลลี่ อายุ 18 ปี วันนี้เป็นวันที่ฉันรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบพังทลายลงมา เมื่อฉันต้องย้ายเข้ามาเรียนในโรงเรียนประจำที่ไม่เคยคิดฝันว่าจะต้องมาอยู่ที่นี่ โรงเรียนแห่งนี้ชื่อว่า "เซนต์เอมิลี่" โรงเรียนที่มีชื่อเสียงด้านความเข้มงวดและกฎระเบียบที่เคร่งครัดที่สุดในประเทศฉันยืนอยู่หน้าประตูโรงเรียนพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ หัวใจของฉันเต้นแรงจนรู้สึกถึงมันชัดเจน ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันเคยรู้จัก ทุกคนที่ฉันเคยสนิท ตอนนี้มันถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง"ลิลลี่ เธอต้องเข้มแข็ง" ฉันพยายามปลอบใจตัวเองก่อนที่จะก้าวเข้าไปในโรงเรียนแห่งนี้ฉันเดินผ่านประตูใหญ่ที่ทำจากเหล็กสีดำสนิท เสาสูงที่ตั้งอยู่สองข้างประตูให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเข้าสู่โลกที่ไม่คุ้นเคย เส้นทางที่ฉันเดินผ่านปูด้วยหินก้อนเล็กๆ เรียงตัวเป็นระเบียบ ข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่ให้ความร่มรื่น แต่กลับรู้สึกเย็นยะเยือกและว่างเปล่าทันทีที่ก้าวเข้าสู่ห้องโถงใหญ่ ฉันก็ถูกทักทายโดยหญิงสูงวัยในชุดสูทสีเข้ม หน้าตาของเธอดูเคร่งขรึมและเข้มงวด เธอคือ มาร์ธา หัวหน้าอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนนี้"ยินดีต้อนรับสู่เซนต์เอมิลี่" มาร์ธาเอ่ยทักทายด้วยน้ำเส
เช้าวันใหม่ที่เซนต์เอมิลี่มาถึงแล้ว ฉันตื่นขึ้นมาในห้องพักเล็กๆ ที่ยังคงรู้สึกไม่คุ้นเคยกับมันเลยสักนิด แสงแดดอ่อนๆ ที่ลอดผ่านม่านหน้าต่างทำให้ฉันรู้สึกสดชื่นขึ้นเล็กน้อย ฉันลุกขึ้นจากเตียงและเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการเตรียมตัวไปเรียน ฉันหยิบชุดนักเรียนที่เป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกระโปรงจีบสีเทาออกมาจากตู้เสื้อผ้า และจัดผมให้เรียบร้อยตามระเบียบของโรงเรียน ความเคร่งครัดที่นี่ทำให้ฉันต้องระมัดระวังทุกการกระทำ ทุกอย่างต้องถูกต้องตามกฎที่ถูกวางไว้ แต่บางอย่างในใจฉันก็ยังรู้สึกว่า มีบางสิ่งที่ฉันกำลังท้าทายมันอยู่เมื่อฉันเดินออกมาจากห้องพัก ฉันก็เจอกับซาร่าที่กำลังเตรียมตัวไปเรียนเหมือนกัน ซาร่าส่งยิ้มให้ฉันด้วยความเป็นมิตรเช่นเคย"พร้อมไปเรียนหรือยัง?" ซาร่าถามด้วยน้ำเสียงสดใส"พร้อมแล้วล่ะ" ฉันตอบกลับพร้อมกับยิ้ม "แต่ยังคงรู้สึกประหม่าอยู่บ้าง""ไม่ต้องกังวลหรอก เดี๋ยวเธอก็ชิน" ซาร่าพูดพร้อมกับพยักหน้าให้ฉัน "วันนี้มีเรียนวรรณคดีเป็นวิชาแรกด้วยนะ ฉันจำได้ว่าเธอสนใจวรรณคดีมากเลยใช่ไหม?""ใช่ ฉันชอบอ่านนิยาย มันทำให้ฉันได้หลบหนีจากความจริงบ้าง" ฉันตอบอย่างตรงไปตรงมา "แต่...ครูพีทเป็นครูสอนวรรณค
ฉันเดินออกจากห้องเรียนด้วยหัวใจที่เต้นระรัว เสียงฝีเท้าของครูพีทยังคงก้องอยู่ในหู ราวกับว่าทุกก้าวที่เขาเดินออกจากห้องนั้นฝากอะไรบางอย่างไว้ในใจฉัน ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน มันทั้งตื่นเต้นและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน ฉันพยายามสลัดความรู้สึกนี้ออกไป แต่ก็พบว่ามันติดแน่นอยู่ในหัวใจฉันเหมือนฝันร้ายที่ฉันไม่อาจหลีกหนีได้ฉันเดินไปตามทางเดินของโรงเรียนที่เงียบสงบเพราะยังเป็นช่วงพักกลางวัน นักเรียนส่วนใหญ่ยังคงอยู่ที่ห้องอาหาร ฉันพยายามทำตัวให้ปกติ แต่ภายในใจกลับว้าวุ่นจนฉันรู้สึกว่าใครๆ ก็คงมองออกว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับฉันในที่สุดฉันก็กลับมาถึงห้องเรียนและนั่งลงที่โต๊ะของฉัน ฉันหยิบหนังสือเรียนขึ้นมาเปิดอ่าน หวังว่าจะสามารถตั้งสมาธิได้ แต่ความคิดของฉันกลับพุ่งตรงไปยังครูพีทอีกครั้ง ความอบอุ่นจากการสัมผัสมือของเขายังคงติดอยู่ในความทรงจำ และฉันไม่อาจลบมันออกไปได้‘ทำไมฉันถึงรู้สึกแบบนี้?’ ฉันถามตัวเองในใจ แต่ไม่มีคำตอบใดที่สามารถตอบสนองความสงสัยของฉันได้ ฉันรู้ดีว่าครูและนักเรียนไม่ควรมีความสัมพันธ์เกินเลย แต่ทุกครั้งที่ฉันนึกถึงครูพีท ความรู้สึกที่ไม่ควรเกิดขึ้นกลับยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น
หลังจากบทเรียนที่ไม่ธรรมดาของวันก่อน ฉันได้สัมผัสครูพีทในแบบที่ไม่เคยคาดคิด ภาพของเขาและการจูบที่ลึกซึ้งนั้นก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของฉัน ฉันพยายามจะลืมมัน พยายามบอกตัวเองว่ามันไม่ควรเกิดขึ้น แต่ทุกครั้งที่ฉันหลับตา ภาพเหล่านั้นกลับชัดเจนยิ่งขึ้น ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่คอยกระซิบบอกฉันว่าความสัมพันธ์แบบนี้เป็นสิ่งที่ผิด กลับถูกบดบังด้วยความปรารถนาอันแรงกล้าที่ฉันไม่สามารถควบคุมได้เช้านี้ ฉันเดินเข้าสู่ห้องเรียนด้วยความรู้สึกสับสนในใจ ทันทีที่ฉันก้าวเข้าสู่ห้อง สายตาของฉันก็พบกับครูพีทที่ยืนอยู่หน้าชั้นเรียน เขามองฉันด้วยสายตาที่เข้มข้นและเต็มไปด้วยความหมาย เพียงเสี้ยววินาทีที่เขามองมาที่ฉัน หัวใจของฉันก็เต้นแรงขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว ร่างกายของฉันรู้สึกราวกับถูกไฟส่องผ่านเมื่อเขามองมา สายตาของเขาช่างคมกริบและเต็มไปด้วยความปรารถนาที่ฉันรู้สึกได้ว่ามันไม่ใช่เพียงแค่ฉันที่รู้สึกเช่นนั้น ฉันรู้สึกถึงความร้อนที่เริ่มก่อตัวในท้องของฉัน มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบายตลอดชั่วโมงเรียน ฉันพยายามจะมีสมาธิกับบทเรียน แต่ความคิดของฉันกลับวกวนไปที่ครูพีท และสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเราครั้งก่อน ความ
ทุกครั้งที่ฉันนึกถึงครูพีท ใจฉันก็เต้นรัวจนแทบจะหลุดออกมา ความสัมพันธ์ระหว่างเรามันไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่ทำไมฉันถึงหยุดคิดถึงเขาไม่ได้เลย ฉันรู้ดีว่าสิ่งที่เราทำคือการท้าทายกฎระเบียบที่โรงเรียนเคร่งครัดที่สุด แต่ยิ่งฉันคิดถึงมัน ฉันก็ยิ่งรู้สึกถึงความเร่าร้อนที่ซ่อนอยู่ในใจฉันเช้านี้ฉันตื่นขึ้นมาในหอพักเหมือนเช่นเคย แต่ความรู้สึกที่ติดค้างอยู่ในหัวใจทำให้ฉันไม่สามารถทำตัวเหมือนปกติได้ ฉันพยายามจะไม่คิดถึงเขา แต่ทุกครั้งที่ฉันปิดตา ภาพของครูพีทก็จะปรากฏขึ้นมาในหัว ความใกล้ชิดของเรามันผิด ฉันรู้ดี แต่ฉันก็ไม่สามารถหยุดความรู้สึกนี้ได้“เมื่อวานกลับดึกเหรอ” ซาร่าทักทายฉัน ขณะที่ฉันกำลังเดินไปยังห้องเรียน“เอ้อ...ก็นิดนึง” ฉันหน้าแดงเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวาน“ไม่สบายรึเปล่า?” ซาร่าจ้องมองฉัน ก่อนจะเอามือมาอังที่หน้าผาก“ปะ..เปล่า” ฉันรีบปฏิเสธทันที“ครูพีทใช้งานหนักเหรอ?” ซาร่าพึมพำด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ“ก็...ไม่นะ..”“วันนี้ต้องไปช่วยครูอีกมั้ยอะ?”“อะ..ไม่แน่ใจอะ” ฉันแบ่งรับแบ่งสู้“ฉันไปช่วยมั้ย?” ซาร่าเสนอตัวเอง“ไหวเหรอ มีแต่บทเรียนวรรณคดีทั้งนั้นเลยนะ” ฉันเอียงคอถามเพื่อน เพราะร
ฉันนั่งอยู่บนเตียงในห้องพักที่เงียบสงบ สายตาของฉันจับจ้องไปที่กระดาษแผ่นหนึ่งในมือ มันคือกฎระเบียบของโรงเรียนเซนต์เอมิลี่ ซึ่งฉันได้รับมาเมื่อตอนเข้ามาใหม่ ฉันควรจะอ่านมันตั้งแต่วันแรก แต่ด้วยเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้น ฉันกลับลืมไปเสียสนิท กระดาษแผ่นนี้เหมือนเป็นเตือนความจำของสิ่งที่ควรและไม่ควรทำฉันค่อยๆ พลิกกระดาษไปเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าสุดท้าย สายตาของฉันก็สะดุดกับกฎข้อที่ 10 ที่ถูกเขียนไว้ด้วยตัวหนังสือสีเข้มกว่าปกติ ฉันรู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นแรงขึ้นทันทีเมื่ออ่านมันกฎข้อที่ 10: ห้ามมิให้มีความสัมพันธ์ส่วนตัวที่เกินขอบเขตของความเป็นครูและนักเรียน หากพบว่ามีการกระทำเช่นนี้ จะมีการสอบสวนและลงโทษอย่างเคร่งครัดทั้งครูและนักเรียนที่เกี่ยวข้องฉันอ่านประโยคนั้นซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง ใจของฉันเริ่มเต้นแรงขึ้นเมื่อคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างฉันกับครูพีท ความสัมพันธ์ของเรานั้นข้ามเส้นที่ถูกเขียนไว้ในกฎระเบียบนี้อย่างชัดเจน และฉันก็รู้ดีว่าถ้ามีใครรู้เรื่องนี้ ผลที่ตามมาอาจจะไม่ดีเลยเสียงเปิดประตูดังขึ้น ฉันเงยหน้าขึ้นมองเห็นซาร่า เพื่อนร่วมห้องของฉันเดินเข้ามาพร้อมกับยิ้มกว้าง เธอเพิ่งกลับจา
ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ รู้สึกเหมือนหัวของฉันหนักอึ้งและร่างกายของฉันอ่อนล้าอย่างประหลาด ฉันขยับตัวเล็กน้อยเพื่อพยายามระลึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน แต่ในหัวกลับเต็มไปด้วยความงุนงงว่าฉันกลับมาถึงหอพักได้อย่างไรขณะที่ฉันกำลังพยายามเรียกสติกลับมา ประตูห้องพักก็เปิดออกอย่างเบามือ ฉันหันไปมองเห็นซาร่า เพื่อนร่วมห้องของฉันเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง“ลิลลี่ เธอโอเคหรือเปล่า?” ซาร่าถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล“ฉันเห็นเธอดูไม่ค่อยดีเลยเมื่อคืนนี้ ตอนที่ครูพีทอุ้มเธอกลับมาที่หอพัก”ฉันชะงักไปทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของซาร่า“ครูพีท... อุ้มฉันกลับมาที่หอพักงั้นเหรอ?”ฉันถามกลับด้วยเสียงที่ยังคงแหบพร่า หัวใจฉันเต้นแรงขึ้นทันทีเมื่อได้ยินคำว่า ‘ครูพีท’ ความทรงจำเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อวานค่อยๆ ทยอยกลับมาในหัวของฉันทีละเล็กทีละน้อย“ใช่ เธอสลบไป ฉันตกใจมากเลยอะ” ซาร่าพูดพลางนั่งลงข้างเตียงของฉัน“ฉัน... ฉันไม่ค่อยแน่ใจ” ฉันตอบกลับเสียงแผ่ว รู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วใบหน้าเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวาน“ฉันคงรู้สึกเหนื่อยมากน่ะ...”“เธอแน่ใจนะ เมื่อวานเธอ
เช้าวันนี้ ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องลอดผ่านหน้าต่างหอพัก เข้ามาทักทายฉันด้วยความอ่อนโยน ฉันรู้ดีว่าวันนี้จะไม่ใช่วันธรรมดา ครูพีทจะมารับฉันตอน 10 โมงเช้าเพื่อไปดูงานนิทรรศการภาพถ่ายวรรณคดีในเมือง และมันทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงทุกครั้งที่คิดถึงการได้ใช้เวลาทั้งวันกับเขาขณะที่ฉันกำลังนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ และซาร่า เพื่อนร่วมห้องของฉันก็เดินเข้ามาพร้อมกับใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนทุกครั้ง“ลิลลี่ ตื่นแล้วเหรอ? วันนี้ฉันต้องกลับบ้านนะ” ซาร่าพูดขึ้นพร้อมกับลากกระเป๋าเดินทางของเธอเข้ามา“ที่บ้านมีธุระที่ต้องจัดการ ฉันคงจะกลับมาเรียนอีกทีวันจันทร์เลย”“เอ๊ะ วันจันทร์เลยเหรอ?” ฉันเงยหน้ามองซาร่า ความรู้สึกหวาดหวั่นเกิดขึ้นเมื่อฉันต้องอยู่หอพักเพียงลำพังคนเดียว“ไม่เอาน่า อย่าทำหน้าเหงาแบบนั้นดิ วันจันทร์แค่แปปเดียวเอง” ซาร่ายื่นมือมาดึงแก้มฉัน“อื้อๆ รู้แล้ว” ฉันส่งยิ้มให้เธอหายกังวลใจ“ถ้ามีอะไรที่อยากคุย ก็โทรหาฉันนะ” ซาร่าย้ำ พร้อมกับลากกระเป๋าเดินทางขนาดเล็กไปหน้าประตูฉันพยักหน้าและส่งยิ้มให้เธอ ก่อนที่ซาร่าจะอ