Home / โรแมนติก / เศรษฐีสาวขอเอาคืน / บทที่ 16 เป็นทั้งเลขาและภรรยา

Share

บทที่ 16 เป็นทั้งเลขาและภรรยา

ภายในห้องโดยสารเฟิร์สคลาสของเครื่องบิน

ฮั่วจิ้นเฉิงหยิบแหวนสองวงนั้นที่เขาเอ่ยปากให้ ‘โยนทิ้ง’ ออกมา

ลังเลอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเลือกแหวนวงที่หนากว่าสวมลงบนนิ้วมือ เขาไม่เคยลองสวมมาก่อนและไม่คาดคิดว่าขนาดจะพอดีราวกับวัดมาอย่างไรอย่างนั้น

แต่ช่วงตลอดสามปีมานี้เขาปฏิเสธที่จะสวมแหวนแต่งงาน โดยใช้เรื่องงานมาอ้างเสมอ

หากเป็นคู่สามีภรรยาทั่วไปคงต้องทะเลาะกันแน่นอน

ทว่าหลี่เกอกลับไม่โวยวาย ทั้งยังโอนอ่อนตามและมีเหตุผล คอยตามใจเขาสารพัด

แต่เขาไม่คาดคิดว่าสามปีต่อมา หลังหย่ากัน เธอจะจากไปอย่างไร้เยื่อใย ไม่ต้องการกระทั่งแหวนแต่งงานด้วยซ้ำ

ฮั่วจิ้นเฉิงหมุนแหวนเงียบ ๆ หัวคิ้วขมวดมุ่น

อ่อนโยนว่าง่าย เด็ดขาดมุทะลุ

เธอเป็นแบบไหนกันแน่…

……

เครื่องบินเดินทางมาถึงดูไบ

ฮั่วจิ้นเฉิงตรงไปชั้นบนสุดของตึกระฟ้าตระกูลฉี ซึ่งเป็นห้องทำงานของซีอีโอ

ฉีอวิ๋นเทียนหรี่ตาดอกท้ออันงดงามลงมองบนคอมพิวเตอร์ครั้งหนึ่ง แล้วหยิบข้อเสนอโครงการมาตรวจตราให้มั่นใจอีกรอบ จากนั้นก็วางเอกสารลงพลางกล่าวอย่างจริงจัง “เพื่อน ฉันดูแล้วนะ ฮั่วกรุ๊ปของนายตรงตามเงื่อนไขการเข้าร่วมแน่นอน”

คิ้วเข้มของฉั่วจิ้นเฉิงกระตุก

เป็นทางตี้จิงกรุ๊ปขัดขวางดังคาด

ฉีอวิ๋นเทียนถาม “นายไปล่วงเกินอะไรหลี่หาน ประธานฝ่ายปฏิบัติการของตี้จิงกรุ๊ปมารึเปล่า? ฉันอ่านตามบันทึก ถึงได้เห็นว่าเขาใช้อำนาจขัดขวางไม่ให้ฮั่วกรุ๊ปเข้าร่วมโครงการ”

นัยน์ตาของฮั่วจิ้นเฉิงดำมืด ยากที่ใครจะเดาใจเขาออก

“ฉันไม่เคยเจอเขาเลย เลขาฉันเป็นคนเตรียมการเรื่องการเข้าร่วมนิทรรศการครั้งนี้มาตลอด ก่อนหน้านี้ในข้อเสนอก็ระบุว่าเงื่อนไขเหมาะสมมาตลอด เหลือแค่ขั้นตอนเซ็นสัญญาเท่านั้นเอง”

“แล้วเลขานายไปไหนแล้วล่ะ? ให้เธอจัดการต่อเลยสิ” ฉีอวิ๋นเทียนหมุนปากกาที่ปลายนิ้วด้วยหน้าเย้ยหยัน

ฮั่วจิ้นเฉิงหลุบตาลงโดยไม่รู้ตัว พูดด้วยความหงุดหงิดว่า “เธอลาออกแล้ว”

สีหน้าฉีอวิ๋นเทียนรู้แจ้งทันที “เลขาคนนั้นต้องเล่นสกปรกลับหลังแน่ พอลาออกก็เอาทรัพยากรไปด้วย นายเลยเสียงานใหญ่ไปแบบนี้”

“เธอต้องเซ็นสัญญาห้ามทำการค้าแข่งกับนายจ้างเดิมไว้แน่ รีบฟ้องร้องเธอซะสิ”

คำก็เล่นสกปรก สองคำก็บอกให้ฟ้องร้อง

สีหน้าฮั่วจิ้นเฉิงดำจนเหมือนหยดหมึก

ขณะนี้หลานหนีสังเกตุเห็นเจ้านายแปลกไปจากเดิมพลางหัวเราะกระอักกระอ่วน แทรกขึ้นอย่างถูกเวลา “ประธานฉี เลขาท่านนี้คือภรรยาของประธานฮั่วครับ”

นิ้วยาวของฉีอวิ๋นเทียนป้องปากไว้ นัยน์ตาดอกท้อเปี่ยมความแปลกใจ “เอาล่ะ เพื่อน นายแต่งงานกับยอดมนุษย์หญิงที่ไหนมา ใครจะสามารถเป็นทั้งเลขาทั้งภรรยาให้นายได้?”

“…”

ฮั่วจิ้นเฮิงคร้านจะเถียงกับฉีอวิ๋นเทียน เพื่อนเขาคนนี้พูดจาไม่รู้จักคิดอยู่เสมอ จนเขารู้สึกชินชาเสียแล้ว

ฉีอวิ๋นเทียนพูดไม่ผิดเลย

หลี่เกอยอดเยี่ยมจริง ๆ ยอดเยี่ยมอย่างกับหุ่นยนต์

หัวใจเขาดิ่งลง

ตระหนักได้ว่าตนมักไปเรียกร้องความสมบูรณ์แบบจากหลี่เกอให้เป็นเลขาในอุดมคติของเขาเสมอ จนลืมว่าเธอมีสถานะเป็นภรรยาของเขาด้วย

ฉีอวิ๋นเทียนลุกขึ้นตบบ่าฮั่วจิ้นเฉิงด้วยร้อยยิ้มเยาะบนหน้า “นายตั้งแต่งงานตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมฉันไม่รู้? ไม่แนะนำพี่สะใภ้ให้รู้จักบ้างเลย”

แม้ทั้งสองจะเป็นเพื่อนซี้กัน แต่เจอกันไม่บ่อยเพราะเรื่องต่างฝ่ายต่างก็ต้องพัฒนาธุรกิจของวงศ์ตระกูล

เดิมทีฮั่วจิ้นเฉิงแต่งงานกับหลี่เกออย่างลับ ๆ ไม่ได้จัดงานแต่งใหญ่โต

มีแค่โม่อี้เฟยกับเพื่อนไม่กี่คนในประเทศที่รู้ แต่คนไม่กี่คนเหล่านั้นดูถูกที่ฮั่วจิ้นเฉิงแต่งกับคนธรรมดาไม่มีชาติตระกูลต่างรู้สึกว่าฮั่วจิ้นเฉิงเสียเปรียบมาก เวลาออกไปข้างนอกจึงไม่เคยบอกเพื่อนว่าแต่งงานแล้ว จนทุกคนคิดว่าเขายังโสด

“เพิ่งจะหย่าไปครับ”

หลานหนีปากไวไปชั่วขณะ ก่อนจะรู้ตัวว่ามันสายไปแล้วที่จะตอบโต้

เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาดุดันของฮั่วจิ้นเฉิงที่มองมาที่ตน เขาก็ก้มหน้าลงทันควัน แอบด่าตัวเองในใจที่ปากเปราะเกินไป

ฉีอวิ๋นเทียนที่คิดจะพูดหยอก ละล่ำละลักพูดทันควัน

“ไม่เป็นไรนะเพื่อนยาก การแต่งงานเป็นสุสานแห่งรัก นายหย่าก็เป็นทางเลือกที่ถูกแล้ว”

ย้อนคิดถึงเรื่องตัวเอง ก้ได้แต่ทอดถอนใจ

“นายเป็นไงบ้าง?” ฮั่วจิ้นเฉิงถามอย่างสบาย ๆ

พูดตามความสัมพันธ์ฉันเพื่อน ฉีอวิ๋นเทียนระบายความในใจต่ออีก “ฉันไม่อยากแต่งงาน!”

“พ่อกดดันให้ฉันแต่งงานกับคุณหนูสี่แห่งตี้จิงกรุ๊ป ยัยอัปลักษณ์หน้าสิวนั่นน่ะสิ เมื่อก่อนคุณหนูสี่อยู่ต่างประเทศ ฉันยังมีข้ออ้างบ่ายเบี่ยงได้ ช่วงนี้ได้ยินว่าเจ้าเธอกลับประเทศแล้ว พ่อเลยเริ่มกดดันฉัน!”

“แม้แต่วันจัดงานยังหาให้ฉันแล้ว บอกให้ฉันรีบกลับบ้านไปแต่งกับยัยหน้าสิว”

“ฉันเครียดจนหงอกขึ้นหัวแล้ว!”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status