Beranda / โรแมนติก / เศรษฐีสาวขอเอาคืน / บทที่ 14 ฉันไปเปิดห้องกับเธอ

Share

บทที่ 14 ฉันไปเปิดห้องกับเธอ

Penulis: เกาลัดไม่หวาน
หลานหนีกัดฟันกดหมายเลขอีกสองสามหมายเลข ล้วนแล้วแต่สายไม่ว่าง

เมื่อเขาโทรไปครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ ฮั่วจิ้นเฉิงก็รับสายจากโทรศัพท์มือถือของเขาด้วยสีหน้านิ่งเฉย

“คุณนี่โทรมาไม่เลิกเลยนะหลานหนี บอกฮั่วจิ้นเฉิงด้วยว่าเขาพลาดนิทรรศการนี้ไปแล้ว”

หลี่เกอพูดอย่างไม่อดทน และอีกฝ่ายก็เงียบไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้นไม่นานก็มีคำสองคำสั้น ๆ ออกมาว่า “ผมเอง”

เมื่อได้ยินเสียงนี้ หลีเกอก็ใจหาย

ฮั่วจิ้นเฉิงไม่สนใจสิ่งที่เธอพูดก่อนหน้านี้เลย “ฮั่วกรุ๊ปได้เพิ่มส่วนแบ่งเงินทุนจากสามร้อยล้านเป็นห้าร้อย ล้าน มีคุณสมบัติพอที่จะเข้าร่วมในนิทรรศการนี้หรือยัง?”

ในขณะนี้ หลีเกอกำลังนั่งอยู่ในซุปเปอร์คาร์ของหลีหรานแล้ว “ฮั่วจิ้นเฉิง คุณคิดว่านี่สนุกมากไหม?”

เมื่อครู่เห็นเธอยุ่งมาก หลีหรานก็ยืนกรานที่จะลากเธอไปเดินเล่นที่ตลาดกลางคืนในดูไบให้ได้ เธอทนไม่ไหว จึงต้องขึ้นรถมากับเขา

“ถ้าห้าร้อยล้านไม่พอก็หนึ่งพันล้าน ถ้ายังไม่ได้ ผมจะรายงานต่อหอการค้าโลก ให้พวกเขารับผิดชอบในการตัดสินใจ พวกคุณไม่ใช่ผู้จัดงานเพียงคนเดียว”

“คุณ…”

หลีเกอพูดไม่ออกเมื่อได้ยินคำพูดของเขา หลีหราน ที่เป็นคนขับรถก็เริ่มใจร้อนและคว้าโทรศัพท์ไปจากมือหลีเกอ

“คุณนี่หน้าด้านจริง ๆ หย่ากับสุดที่รักของผมแล้วก็ยังมาพัวพันไม่เลิก ทำไม อยากแต่งงานใหม่รึไง ผมบอกเลยว่าไม่มีทาง! เธอเป็นของผม! ผมบอกคุณไว้เลยนะว่าผมกำลังจะพาเธอไปเปิดห้อง!”

หลังจากพูดจบ หลีหรานก็วางสายแล้วโยนโทรศัพท์ทิ้งไป ทำให้หลีเกอตกตะลึงอย่างยิ่ง

“เปิดห้อง?”

“เธอไม่เข้าใจเหรอ? บอกเลยนะ ที่พูดไปน่ะ สามารถทำให้คน ๆ นี้โกรธจนตายได้เลยเชื่อไหม?!”

“...”

หลังจากวางสายโทรศัพท์ สีหน้าของฮั่วจิ้นเฉิงก็ดูไม่ดีเอามาก ๆ

หลานหนียังไม่ทราบเหตุผลที่แน่ชัด เพียงแต่พึมพำว่า “เลขาหลีเป็นคนขอลาออกเอง แล้วทำไมเธอถึงมุ่งเป้ามาที่ฮั่วกรุ๊ปในทันทีแบบนี้ล่ะ? แถมยังไปเป็นผู้ช่วยของบริษัทข้ามชาติตี้เซิ่งอีก บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งนี้เป็นที่เลื่องลือว่าสมัครงานยากมาก แล้วเธอทำได้ยังไง?”

คำถามเดียวกันนี้วนเวียนอยู่ในใจของฮั่วจิ้นเฉิง ทำให้เขารู้สึกเศร้าหมองมากยิ่งขึ้น

“จองตั๋วไปดูไบสองใบเดี๋ยวนี้” เขาพูดอย่างเย็นชา “อีกอย่าง ถ้าจำไม่ผิด ประธานหอการค้าข้ามชาติแซ่ฉีใช่ไหม?”

“ใช่ครับประธานฮั่ว ในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุดคุณฉีก็ได้รับเลือกอีกครั้งแล้วครับ”

“บอกฉีอวิ๋นเทียนว่าเจอกันในอีกแปดชั่วโมง”

ฉีอวิ๋นเทียนเป็นลูกชายคนเดียวของคุณฉี เขาเป็นลูกชายคนโตของตระกูลฉีซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลหลักในต่างประเทศ เขาเป็นเพลย์บอยที่มีชื่อเสียง ทุกครั้งที่เขาเดินทางเขาก็จะถูกรายล้อมไปด้วยผู้หญิงสวย ๆ มากมาย

อีกทั้งเขายังเป็นหนึ่งในเพื่อนไม่กี่คนของฮั่วจิ้นเฉิงด้วย

เป็นเพราะอาศัยอยู่ต่างประเทศเป็นเวลานาน พวกเขาทั้งสองจึงติดต่อกันน้อย

ก่อนเดินทางไปดูไบ ฮั่วจิ้นเฉิงกลับบ้านเดิมก่อน เขาต้องเก็บสัมภาระและรีบไปเช็กอิน

แต่ทันทีที่เขาเข้าไป เขาก็เห็นคนจากบริษัทตกแต่งเดินออกมาจากลิฟต์

“จิ้นเฉิง คุณ...”

ลางสังหรณ์ที่เป็นลางร้ายทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้ว ก่อนที่ร่างทั้งสองบนโซฟาจะยืนขึ้นเพื่อทักทายเขา เขาเดินเข้าไปในลิฟต์และตรงไปยังห้องนอนใหญ่บนชั้นสาม

ในห้องนอน ผังทั้งหมดเป็นของใหม่ ตั้งแต่ผ้าม่านไปจนถึงผ้าปูที่นอน แม้แต่ตู้เสื้อผ้าก็ยังใหม่เอี่ยม ไม่มีร่องรอยของหลีเกออีกต่อไป

“ใครเป็นคนทำ” เขากวาดตามอง

แม่นมที่กำลังทำความสะอาดบนชั้นสามตัวสั่น “คะ คุณเฉียวค่ะ…”

สีหน้าของฮั่วจิ้นเฉิงขรึมลง และเขากำลังจะระเบิดอารมณ์

“จิ้นเฉิง!” ในเวลาเดียวกัน เฉียวซีอวิ๋นก็เดินเข้ามาตามท่าทางของหญิงตั้งครรภ์

เธอพูดด้วยใบหน้าออดอ้อน“ฉันรู้เรื่องของคุณกับเลขาหลีแล้ว ตอนนี้คุณหย่าแล้ว ทุกอย่างในครอบครัวก็ควรจะเป็นของใหม่ทั้งหมด ใช่ไหม? คุณจะไม่ตำหนิฉันที่ตัดสินใจด้วยตัวเองใช่ไหมคะ?”

ฮั่วจิ้นเฉิงไม่ตอบสนองต่อคำพูดของเธอ แต่มองตรงไปที่หลี่ซูฉินที่อยู่ข้าง ๆ เธอ

หลี่ซูฉินปฏิเสธทันทีว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับเธอ “เป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นทิ้งแหวนไว้ให้ซีอวิ๋นเห็น ดังนั้นแม่จึงต้องบอกความจริงกับซีอวิ๋น!”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เธอก็ยิ่งไม่พอใจเป็นอย่างมาก

เพราะนั่นเป็นผลให้เธอถูกเฉียวซีอวิ๋นสอบปากคำตลอดทั้งวัน “แม่ว่าผู้หญิงคนนั้นต้องจงใจแน่ ๆ! เธอแค่ไม่อยากให้ตระกูลฮั่วของเราอยู่กันอย่างสงบ!”

“แหวนอะไร?” ฮั่วจิ้นเฉิงถามพลางขมวดคิ้ว

เขาที่นอนห้องนอนนี้มาตลอดก็ยังไม่เห็น แต่เฉียวซีอวิ๋นดันไปเห็นเข้าเนี่ยนะ?

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 15 ทำทุกอย่างให้กลับเป็นเหมือนเดิม

    “นี่ไง!”เฉียวซีอวิ๋นยื่นมือออกมา เผยให้เห็นแหวนที่มีดีไซน์เรียบง่าย แต่มีแสงวาววับอันเป็นเอกลักษณ์วางอยู่บนฝ่ามือของเธอทันทีที่ฮั่วจิ้นเฉิงเห็นแหวน เขาก็จำได้ว่านี่เป็น 'ของขวัญ' ชิ้นเดียวที่เขามอบให้กับหลีเกอ ในช่วงสามปีของการแต่งงานหยิบมันมาจากมือของเฉียวซีอวิ๋น พลางใช้นิ้วหัวแม่มือถูด้านในของแหวนด้านในสลักอักษรย่อว่า 'H&L' ไว้ด้วยเขายังคงจำได้ว่าตอนที่หลีเกอขอให้เขาช่วยสวมแหวน เขาพูดว่า ‘เอาไว้ทีหลัง’ อย่างไม่แยแสแต่เธอยังคงสวมมันอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาสามปีและไม่เคยถอดเลยสักครั้งเฉียวซีอวิ๋นเห็นฮั่วจิ้นเฉิงถือแหวนด้วยความสับสน เธอก็ไม่พอใจ แต่ยังคงรักษารอยยิ้มที่ดีไว้ “ของสำคัญขนาดนี้แต่คุณหลีก็ดันทิ้งไว้ซะได้ จิ้นเฉิง จะเอาแหวนวงนี้คืนให้คุณเลขา หรือว่าจะ…”“จะไปทำอะไรให้เธออีก?” หลี่ซูฉินพูดด้วยความโกรธทันทีหลังจากได้ยินสิ่งนี้ “ผู้หญิงคนนี้มักจะแสร้งทำเป็นอ่อนโยนและเชื่อฟัง แต่พอนานวันเข้าเธอก็เสแสร้งไม่ไหว สุดท้ายก็ทำตามใจตัวเอง ไม่เห็นหัวใคร ช่างเป็นคนดีอะไรอย่างนี้!”“ใช่เลย! ตอนที่เธอมาที่บ้านของเราครั้งแรก ฉันก็คิดว่าเธอไม่ธรรมดา!” ฮั่วซินพูดเสริมอีกสองสามประ

  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 16 เป็นทั้งเลขาและภรรยา

    ภายในห้องโดยสารเฟิร์สคลาสของเครื่องบินฮั่วจิ้นเฉิงหยิบแหวนสองวงนั้นที่เขาเอ่ยปากให้ ‘โยนทิ้ง’ ออกมาลังเลอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเลือกแหวนวงที่หนากว่าสวมลงบนนิ้วมือ เขาไม่เคยลองสวมมาก่อนและไม่คาดคิดว่าขนาดจะพอดีราวกับวัดมาอย่างไรอย่างนั้นแต่ช่วงตลอดสามปีมานี้เขาปฏิเสธที่จะสวมแหวนแต่งงาน โดยใช้เรื่องงานมาอ้างเสมอหากเป็นคู่สามีภรรยาทั่วไปคงต้องทะเลาะกันแน่นอนทว่าหลี่เกอกลับไม่โวยวาย ทั้งยังโอนอ่อนตามและมีเหตุผล คอยตามใจเขาสารพัดแต่เขาไม่คาดคิดว่าสามปีต่อมา หลังหย่ากัน เธอจะจากไปอย่างไร้เยื่อใย ไม่ต้องการกระทั่งแหวนแต่งงานด้วยซ้ำฮั่วจิ้นเฉิงหมุนแหวนเงียบ ๆ หัวคิ้วขมวดมุ่นอ่อนโยนว่าง่าย เด็ดขาดมุทะลุเธอเป็นแบบไหนกันแน่………เครื่องบินเดินทางมาถึงดูไบฮั่วจิ้นเฉิงตรงไปชั้นบนสุดของตึกระฟ้าตระกูลฉี ซึ่งเป็นห้องทำงานของซีอีโอฉีอวิ๋นเทียนหรี่ตาดอกท้ออันงดงามลงมองบนคอมพิวเตอร์ครั้งหนึ่ง แล้วหยิบข้อเสนอโครงการมาตรวจตราให้มั่นใจอีกรอบ จากนั้นก็วางเอกสารลงพลางกล่าวอย่างจริงจัง “เพื่อน ฉันดูแล้วนะ ฮั่วกรุ๊ปของนายตรงตามเงื่อนไขการเข้าร่วมแน่นอน”คิ้วเข้มของฉั่วจิ้นเฉิงกระตุกเป็นทาง

  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 17 งานเลี้ยงต้อนรับ

    “แต่งงานเพื่อธุรกิจ ขอแค่ไม่ก้าวก่ายกัน แต่งไปก็ไม่ผิดอะไร” ฮั่วจิ้นเฉิงกล่าวตามตรง“มันก็จริง แต่ฉันทำไม่ได้”“ภรรยาในอุดมคติของฉันจะต้องเป็นผู้หญิงสวยสะดุดตาที่ทำให้หลงรักตั้งแต่แรกเห็น เธอจะต้องสวยไร้ที่ติมีสเน่ห์ควบคู่ไปกับการมีทัศนคติที่ดี ผู้หญิงแบบนี้แหละที่ฉันต้องการ”ฉีอวิ๋นเทียนโบกมือ “นายไม่ใช่ฉัน นายไม่เข้าใจหรอก”เมื่อเห็นกริยานี้ของเพื่อนซี้ ฮั่วจิ้นเฉิงก็ไม่ได้พูดอะไรอีก แต่กลับมาคุยเรื่องงานนิทรรศการต่อ“แล้วเรื่องนี้แก้ไขได้ไหม?”ฉีอวิ๋นเทียนตบหน้าอก “ตระกูลฉีร่วมจัดนิทรรศการกับบริษัทตี้จิงในครั้งนี้ ฉันจะโทรคุยกับเขาเอง หลีหานต้องรักษาหน้าฉันแน่”ขณะเขาพูดก็หยิบมือถือกดหมายเลขโทรออกแต่ทว่าเสียงรอสายดังสิบกว่าวินาทีแล้วก็ยังไม่มีคนรับ ฉีอวิ๋นเทียนไม่เชื่อพลางกดโทรใหม่อีกรอบคราวนี้…อีกฝ่ายตัดสายตรง ๆ ชัดเจนว่าไม่อยากเสวนาเพียงใดหลังถูกตัดสายโทรศัพท์ ใบหน้าหน้าฉีอวิ๋นเทียนก็เดี๋ยวแดงเดี๋ยวซีด ในใจรู้สึกขายหน้าอย่างยิ่งไม่บ่อยนักที่เพื่อนสนิทจะขอให้ตนช่วยทำธุระ แต่ตกปากรับคำแล้วกลับต้องมาเสียหน้าเขาลูบจมูกอยู่สักพัก รู้สึกประหม่าอย่างยิ่ง “เขายุ่งอยู่ล่ะม

  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 18 ถ้าไม่พอจะเอาอีกแก้วไหม

    ยามราตรีภายในรอยัลคลับชั้นสูงแห่งดูไบเจี่ยงอีอีจัดปาร์ตี้ครั้งยิ่งใหญ่เพื่อหลีเกอภายในบรรยากาศมีชีวิตชีวา เสียงเพลงคึกคักดังสนั่นเจี่ยงอีอีโอบแขนหลีเกอยืนบนเวทีพลางยกแก้วให้หนุ่มหล่อสาวสวยที่รวมตัวกันด้านล่าง “มา! ทุกคนหมดแก้ว! ฉลองที่หลีเกอเพื่อนฉันหลุดพ้นจากทะเลทุกข์! ได้ชีวิตใหม่คืนมา!”“หมดแก้ว!”“ยินดีด้วย!”หลีเกอดื่มสุราดีกรีสูงในมือรวดเดียวเกลี้ยง จากนั้นก็ถูกเจี่ยงอีอีดึงไปกลางฝูงชนทันที“ที่รัก นี่คือทายาทของเอชบีกรุ๊ป ซึ่งมีมูลค่านับแสนล้าน”“นี่คือเจ้าของบริษัทอุตสาหกรรมเทียนเซิง หุ่นเขาดีสุดยอด”หลีเกอยกแก้วสุราขึ้นทักทายพวกเขาทีละคน พอหันหน้าก็ไม่ระวัง ชนใครบางคนเข้าให้“ไม่มีตาเหรอ? เธอเหยียบเท้าฉันแล้วนะ!” เสียงแหลมเล็กแสบแก้วหูลอยมาจากข้างหลังหลีเกอเลิกคิ้ว ส่งเสียงเหอะอย่างเย็นชาเธอคุ้นเคยเสียงนี้ดี เป็นฮั่วซินน้องสามีผู้หยาบคายประจำตระกูลฮั่วครั้นเห็นมีคนด่าหลีเกอ เจี่ยงอีอีจึงขวางหน้าเธอไว้ “อะไรของเธอ? หยาบคายอะไรแบบนี้?!”ฮั่วซินยังเจ็บใจเพราะรองเท้าส้นสูงที่เพิ่งซื้อ เมื่อเธอเงยหน้ามองก็พบว่าหนึ่งในนั้นเป็นหลีเกอ อดีตพี่สะใภ้ของเธอ พลางพูดอย

  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 19 เอาคืนสองเท่า

    เมื่อเผชิญกับฝูงชนจำนวนมาก พฤติกรรมหาเรื่องชาวบ้านในที่สาธารณะของฮั่วซินน่าขายหน้ามากจริง ๆ เฉียวซีอวิ๋นถอยหลังโดยสัญชาตญาณ อยากตีตัวออกห่างจากเธอหลีเกอเขย่าแชมเปญในแก้ว เดินไปหาทั้งสองอีกครั้ง น้ำเสียงเธอฟังดูยั่วเย้า สายตาคมเย็นเฉียบมองออกไป “ทำไม? พอน้องสามีมีปัญหา เธอที่เป็นสะใภ้ใหญ่ก็เตรียมหนีแล้วเหรอ?”“พวกคุณกำลังทำอะไร?!” น้ำเสียงเดือดดาลดังขึ้นท่ามกลางฝูงชน ทุกคนหัยไปตามเสียงดังกล่าว พบเพียงฮั่วจิ้นเฉิงในชุดสูทสีเข้ม ดวงตามืดครึ้มราวกับกลางคืน เดินมาพร้อมรัศมีน่าเกรงขามเขาชายตามองหลีเกอห่างหายกันไปหลายวันดูเหมือนเธอจะมีน้ำมีนวลขึ้นหน่อย มีรูปร่างดีกว่าตอนผอมกะหร่องก่องเมื่อตอนอยู่บ้านตระกูลฮั่วมากเธอยืนท่ามกลางสปอร์ตไลท์ เปราะรอยยิ้มสวยจาง ๆ เธอสวมชุดเดรสสั่งตัดพิเศษขับให้ผิวขาวราวหิมะ ดูคล้ายเงาะถอดรูปแปลงร่างไปเป็นคนละคน ดึงดูดสายตาเขาอย่างลึกซึ้งเมื่อฮั่วซินเห็นพี่ชายมาถึง ความหยิ่งทะนงก็เพิ่มขึ้นทันใด พลางชี้หลีเกอกับเจี่ยงอีอี “พี่คะ พวกเธอรังแกหนูค่ะ”เมื่อพบว่าเครื่องสำอางค์บนหน้าของฮั่วซินไม่เหลือเค้าความสวยและเห็นท่าทีทำอะไรไม่ถูกของเฉียวซีอวิ๋น ดวงตาด

  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 20 ไม่พลาดอีกเด็ดขาด

    ดวงตาดำขลับของฮั่วจิ้นเฉิงเย็นชาถึงขีดสุด เขาไม่เคยเห็นกิริยาเช่นนี้ของหลีเกอมาก่อน หลังจากหย่ากัน พฤติกรรมของผู้หญิงคนนี้ก็ยิ่งเกินขอบเขตขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับม้าป่าพยศหลุดบังเหียน“ไม่คิดว่าคุณจะใจยักษ์ถึงขั้นลงมือกับคนท้อง ผมมองคุณผิดไป”หลีเกอเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงไม่ใยดี “ใช่แล้ว ฉันก็เป็นคนแบบนี้แหละ”เธอไม่ต้องการอธิบายอะไรทั้งนั้นเธอพูดอย่างเยือกเย็น “สร้างปัญหามากพอรึยัง? ไสหัวไปได้แล้ว”“หลีเกอ ระวังคำพูดของคุณด้วย” สีหน้าของฮั่วจิ้นเฉิงบึ้งตึง แววตาเปี่ยมไปด้วยความเคร่งขรึม“คุณจะทำไม? คิดว่าฉันจะโค้งคำนับ ขอโทษขอโพยพวกคุณงั้นเหรอ?” หลีเกอส่งเสียงเหอะแผ่ว ๆ มุมปากยิ้มเสียดสีเต็มที่ “ฝันไปเถอะ”“จิ้นเฉิง ฉันเจ็บจังเลย…”เสียงร้องละมุนเจือน้อยใจดังขึ้นข้างหู ฮั่วจิ้นเฉิงมองไปยังเฉียวซีอวิ๋นในอ้อมแขนหยาดน้ำตารินผ่านแก้มขวาแดงก่ำที่ถูกตบ ริมฝีปากเธอสีซีดและอ่อนแรง แต่มือกลับป้องท้องไว้ ดูคล้ายจะเป็นลมไปเดี๋ยวนั้นฮั่วจิ้นเฉิงขมวดคิ้ว “ผมจะส่งคุณไปโรงพยาบาล”เขาโอบเอวเฉียวซีอวิ๋นไว้มั่น ฝูงชนหลีกทางให้เขาทันทีหลังเดินไปไม่กี่ก้าว เขาก็หยุดฝีเท้าลง หันกลับไปพูดก

  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 21 ความสิ้นเปลืองของผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป

    หน้าจอมือถือแสดงคำพูดห้วนตามแบบปกติของฮั่วจิ้นเฉิง - เรื่องวันนี้เป็นซินซินผิดเอง ผมจะให้เธอขอโทษคุณนะ แต่คุณก็ต้องขอโทษซีอวิ๋นด้วย!หลีเกอโมโหสุดใจพลางสบถ “บ้าเอ๊ย ไอ้ทึ่ม!”พอด่าเสร็จก็บล็อกฮั่วจิ้นเฉิงเสียเลย ก่อนจะโยนโทรศัพท์ทิ้งไปด้านข้างเจี่ยงอีอีคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ “ที่รัก เธอจะไปงานประมูลกับพี่หลีหานวันมะรืนนี้รึเปล่า?”หลีเกอพยักหน้า “อื้ม ไปสิ”“ฉันจะช่วยเธอเลือกเดรส ขอฉันไปดูห้องเสื้อสุดหรูของเธอหน่อยสิ” เจี่ยงอีอีใบหน้าเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น“ได้อยู่แล้ว เลือกของด้านในได้ตามใจเลย” หลีเกอตกปากรับคำก่อนผลักประตูบานยักษ์ของห้องเสื้อให้เปิดออกเจี่ยงอีอีพลันร้อง “ว้าว”“เพื่อนจ๋า ที่นี่มันใหญ่เกินไปแล้ว ใหญ่กว่าร้านเสื้อผ้าที่อยู่เมืองปิงเฉิงของเราเสียอีก!”รวม ๆ แล้วห้องเสื้อมีขนาดสามชั้น ภายในเรียงรายไปด้วยอัญมณีและเสื้อผ้าแบรนด์หรูชั้นนำต่าง ๆหลังกลับมาคราวนี้หลีเกอสั่งปรับปรุงห้องใหม่ เพิ่งแล้วเสร็จเมื่อวานนี้เอง“ฉันคิดว่าห้องเสื้อของฉันใหญ่พอตัวแล้วนะ คิดไม่ถึงว่าของเธอจะใหญ่จน ‘น่าอิจฉา’ แบบนี้” สายตาของเจี่ยอีอีมองเดรสตัวงามอย่างไม่ละสายตา ชื่นชมไม่หยุด

  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 22 ต้องการกดราคา

    วันนี้หลีเกอสวยจนหาที่เปรียบไม่ได้ผมดำสลวยราวกับผ้าแพร ใบหน้าแต่งแต้มอย่างงดงาม บนตัวเธอสวมชุดทำมือแบรนด์ชั้นนำที่ยังไม่เคยออกสู่ตลาด ยิ่งขับรูปร่างได้รูปให้เด่น เปล่งประกายสะดุดตาความงามของเธอชวนคนไม่อยากละสายตา เย้ายวนราวกับดอกฝิ่นที่ยั่วยุรุนแรงเธอค่อย ๆ ย่างกรายไปทางฮั่วจิ้นเฉิง…สายตาของฮั่วจิ้นเฉิงที่มีต่อหลีเกอลุ่มลึกยิ่งขึ้น ซับซ้อนพลางเผยอารมณ์ที่ยากจะอธิบายจากความอ่อนโยนสุภาพสู่ความมีเสน่ห์หยิ่งทะนง…ผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนไปแล้วจริง ๆเธอกลายเป็นคนที่ต่างไปจากคนในความทรงจำของเขาโดยสิ้นเชิง“ประธานฮั่ว ดูท่าคุณจะไม่ล้มเลิกจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายสินะ” เมื่อเดินมาอยู่ตรงหน้าฮั่วจิ้นเฉิง ริมฝีปากแดงของหลีเกอก็กระตุก เส้นคิ้วเปี่ยมไปด้วยความหยอกเย้า“เจ้านายของคุณล่ะ?” ฮั่วจิ้นเฉิงถามเย็นชาหลีเกอยิ้มหยัน “ไม่เห็นเหรอ? ว่าฉันมาคนเดียว คุณผิดหวังหรือเปล่า?”เขาส่งข้อความบ้า ๆ ให้เธอ พอไม่ได้ผลก็เปลี่ยนเป้าหมายไปที่พี่ใหญ่อยากเจอพี่ก็ต้องถามความยินยอมเธอก่อน!ถูกเดาเจตนาออกยังไม่พอ ยังต้องถูกผู้หญิงคนนี้พูดจาฉีกหน้าอีก ใบหน้าฮั่วจิ้นเฉิงจึงยิ่งดำคร่ำเครียดทันใดนั้นพรี

Bab terbaru

  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 340 กุหลาบมีหนาม

    เมื่อได้ยินเช่นนั้นร่างกายของผู้หญิงกลุ่มนี้ก็สั่นเทาอย่างไม่รู้ตัว เห็นได้ชัดว่าพวกเธอเคยลิ้มรสความโหดเหี้ยมของแส้มาก่อนในเวลานี้ เฉวียนเย๋ หัวหน้ากลุ่มก็เดินออกมาดวงตาไร้ความรู้สึกจ้องมองหลีเกอ "ไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอจะเก่งขนาดนี้… ใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีก็หนีออกมาได้แล้ว"หลีเกอมองเขาอย่างเย็นชา น้ำเสียงไร้ความอบอุ่น"ปล่อยเราไป ไม่งั้นฉันจะถล่มที่นี่ให้ราบเป็นหน้ากลอง"ชายคนนั้นกลับหัวเราะราวกับได้ยินเรื่องตลก แล้วก็ตบมือ เดินเข้ามาหาหลีเกอต้องยอมรับว่าหลีเกอมีเครื่องหน้าที่สวยมาก แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมสมบุกสมบันแบบนี้ แต่ก็ยังคงมีความสวยที่แตกต่างออกไป นางฟ้านางสวรรค์แบบนี้ ถ้าพาไปขายในตลาดมืดคงจะได้ราคาดีไม่น้อยแต่ก็เท่านั้นแหละ สวยก็ส่วนสวย แต่กลับเป็นกุหลาบมีหนาม"ปล่อยพวกเธอไปเหรอ ฝันไปเถอะ"พูดจบ เขาก็โบกมือให้บอดี้การ์ดสองสามคนเดินเข้าไปแต่ในเวลานี้ลูกน้องอีกคนก็รีบวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา "พี่เฉวียน ไม่ดีแล้ว บาร์ของเราถูกปิดล้อมแล้ว"สีหน้าของพี่เฉวียนเปลี่ยนไปทันที ตะโกนด้วยความโกรธ “ได้ยังไงวะ?!""คำสั่งของตระกูลหลี ตระกูลหลีมหาเศรษฐีครับ"พี่เฉวียนคว้าค

  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 339 เอาชีวิตมาทิ้งหรือไง

    "จะทำยังไงดี พรุ่งนี้เช้าพวกเราจะถูกส่งตัวออกไปแล้ว… จะไม่มีวันได้เจอครอบครัวอีกแล้วใช่ไหม?""ฮือฮือฮือ ฉันไม่อยากตาย ใครก็ได้ช่วยเราที""..."พูดจบก็มีเสียงสะอื้นดังระงมหลีเกอเห็นภาพตรงหน้าแล้วรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างมาก ไม่เคยคิดมาก่อนว่าท่ามกลางสังคมที่เจริญแล้วเช่นนี้ จะยังมีเรื่องราวมืดดำแบบนี้ซุกซ่อนอยู่สายตาของเธอเหลือบมองไปตามเสียงสะอื้นแต่ในวินาทีถัดมา เธอกลับสบเข้ากับดวงตาคู่หนึ่งที่เย็นชาอย่างมาก ซึ่งขัดกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าหญิงสาวดังกล่าวดูอายุประมาณสิบเจ็ดหรือสิบแปดปี แต่กลับมีความเยือกเย็นและเฉลียวฉลาดเหมือนผู้ใหญ่ใบหน้าของเธอไร้อารมณ์ แต่ดวงตากลับจ้องมองหลีเกอราวกับต้องการจะมองให้ทะลุปรุโปร่งทั้งสองฝ่ายต่างเงียบ ไม่พูดอะไรผ่านไปครึ่งชั่วโมงหญิงสาวจึงเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจนัก "คุณจะช่วยเราออกไปได้จริง ๆ เหรอ?"หลีเกอตอบอย่างมั่นใจ "เชื่อฉันสิ เราต้องออกไปได้แน่นอน"ประโยคนี้เปรียบเสมือนผู้ไถ่บาปที่ทำให้บรรดาหญิงสาวมีความหวัง แต่ในวินาทีถัดมา หญิงสาวก็เห็นว่าหลีเกอถูกมัดมือมัดเท้าอยู่ความหวังที่เพิ่งผุดขึ้นดับวูบลงไปหลีเกอลดสายตาลง

  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 338 ธุรกิจมืด

    ชายในห้องเดินออกมาหลังจากนั้น เมื่อเห็นหลีเกอก็ตาเป็นประกาย "โอ้โห นี่มันของดีจากไหนกัน..."บางคนจำหลีเกอได้ว่าเป็นคนที่เข้ามาพร้อมกับฉีอวิ๋นเทียน จึงกระซิบบอกชายคนนั้นว่า "พี่เฉวียน คนนี้เป็นแขกที่คุณชายฉีพามาครับ"เมื่อชายคนนั้นได้ยินชื่อฉีอวิ๋นเทียน สีหน้าก็เปลี่ยนไปแล้วก็เดินเข้ามาหาหลีเกอ "เมื่อกี้เธอเห็นอะไร ได้ยินอะไรบ้าง?"หลีเกอจ้องเขม็งมองเขา ไม่มีแววความกลัวในดวงตา "พวกคุณทำธุรกิจอย่างเปิดเผย แต่ที่ไหนได้ กลับมีธุรกิจมืดอีกอย่างหนึ่งซ่อนอยู่ ผู้หญิงในห้องนั้น พวกคุณลักพาตัวมาใช่ไหม?"ชายคนนั้นยิ้ม แววตาแฝงไปด้วยความโหดเหี้ยม "ดูเหมือนวันนี้เธอคงไม่อยากออกไปจากที่นี่แล้ว...แต่ก็ดี ของดีแบบเธอน่ะหายาก"พูดจบก็โบกมือให้ลูกน้องเดินเข้ามาหลีเกอหัวเราะเยาะ "อยากจับฉัน ก็ลองดูสิว่าพวกนายมีปัญญาหรือเปล่า"ทันทีที่พูดจบ ชายร่างกำยำหลายคนก็กรูเข้ามา หลีเกอมีสีหน้าเคร่งขรึม ลงมือสวนกลับอย่างรวดเร็วและแม่นยำ เตะตัดขาของคู่ต่อสู้ทุกการออกแรงไม่มีความลังเลเลย เตะจนคู่ต่อสู้ถอยหลังไปหลายก้าวชายที่ถูกเรียกว่าพี่เฉวียนรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที "ดูเหมือนตั้งใจมาหาเรื่องสินะ"พูดจบ

  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 337 ค้นพบห้องลับ

    ฉีอวิ๋นเทียนพยักหน้ารัวเร็ว "แหงสิ นอกเหนือจากเรื่องนี้แล้ว เรื่องอื่นไม่สำคัญ""แต่ฉันสังหรณ์ใจว่าคุณน่าจะได้เจอกับเนื้อคู่ของคุณเร็ว ๆ นี้"เมื่อได้ยินแบบนั้น ฉีอวิ๋นเทียนก็ตกใจ "เทพธิดา ล้อกันเล่นหรือเปล่า?"หลีเกอขมวดคิ้ว "ทำไม ไม่เชื่อเหรอ?""ไม่ใช่ไม่เชื่อ แต่ในโลกนี้ นอกจากคุณแล้ว หายากมากที่จะมีใครทำให้หัวใจผมสั่นไหวอีก"ฉีอวิ๋นเทียนพูดจบก็ถอนหายใจ "แต่เมื่อเทียบกับตัวผมแล้ว ความสุขของเทพธิดาสำคัญกว่า..."เพราะอย่างนั้นเขาถึงได้ตัดสินใจลาออกจากตี้เซิ่งโดยไม่ลังเล เพื่อให้เธอมีความสุขส่วนความสุขของตัวเขาเองนั้นไม่สำคัญเลย"คืนนี้มีงานเลี้ยง คุณก็อยู่ร่วมด้วยสิ"หลีเกอเพิ่งจะปฏิเสธ ฉีอวิ๋นเทียนกลับทำหน้าตาอ้อนวอน "เทพธิดา มาเถอะนะ ไม่งั้นปู่ผมไม่ยอมปล่อยผมไปแน่ ๆ เลย..."หลีเกอหัวเราะคิกคัก เมื่อนึกว่าฉีอวิ๋นเทียนผู้ไม่เคยหวาดกลัวอะไรเลย กลับมีลาสบอสที่ทำให้เขากลัวหัวหดนับว่าเป็นเรื่องที่แปลกใหม่ดี ในที่สุดเธอก็ตอบตกลง "ได้"ฉีอวิ๋นเทียนดีใจมาก "ตกลงตามนั้นนะ ไว้เจอกันตอนเย็น"...ตกเย็นหลีเกอเปลี่ยนไปสวมชุดลำลองสบาย ๆ แล้วก็ออกจากบ้าน สถานที่ที่ฉีอวิ๋นเทียนจั

  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 336 คนที่ทำให้ขายหน้า

    เมื่อได้ยินคำพูดของคุณนายคนนั้น นิ้วของซ่งเซียงเซียงก็จิกเข้าไปในเนื้ออย่างเงียบ ๆ แต่กลับไม่รู้สึกเจ็บปวดเอาซะเลยในเวลานี้ ซ่งฟู่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหน เดินตรงมาหาซ่งเซียงเซียงได้ยินเสียงตบดัง ‘เผียะ’ ซ่งเซียงเซียงเอามือปิดหน้าตัวเองอย่างไม่เชื่อสายตา ปากก็พูดด้วยความน้อยใจ "พ่อ ตบฉันทำไมคะ!"ซ่งฟู่โกรธมากเมื่อครู่หลี่หานได้ส่งคนมาเตือนเขาแล้ว ว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพราะซ่งเซียงเซียงพยายามกลั่นแกล้งหลีเกอ"ซ่งเซียงเซียง แกนี่ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ ก่อนมาฉันเคยเตือนแกว่ายังไง? กล้าดียังไงถึงกล้าไปยุ่งกับคุณหนูหลี!"ซ่งเซียงเซียงปิดหน้าไม่น่าเชื่อว่าพ่อที่รักเธออย่างสุดหัวใจ กลับลงมือตบหน้าเธอต่อหน้าคนอื่นเพราะหลีเกอคนเดียวเธอหลุบตาลง ไม่พูดอะไร แต่ในใจกลับโทษทุกอย่างว่าเป็นความผิดของหลีเกอซ่งฟู่จ้องเธอด้วยสายตาโกรธเกรี้ยวสุดขีด แล้วพูดต่อว่า "ถ้าแกทำให้คุณหนูหลีขุ่นเคือง บริษัทเหม่ยห่าวอิเล็กทริคของเราต้องล่มสลายแน่ รู้ตัวไหมว่าแกทำอะไรลงไป!"ซ่งเซียงเซียงกัดริมฝีปากแน่น ไม่ยอมพูดอะไรซ่งฟู่เห็นว่าเธอยังไม่สำนึก จึงพูดตรง ๆ "อย่ามาทำให้ฉันขายหน้าอยู่ที่นี่ รีบกลับไปเดี๋ยวน

  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 335 ฉายแสงเจิดจ้า

    ในทันใดนั้นเอง หลีเกอก็เริ่มบอกเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์การบริหารของตัวเองอย่างคล่องแคล่วคำพูดของเธอทั้งแฝงอารมณ์ขันและดึงดูดความสนใจ ไม่โอ้อวดมากเกินไปและไม่ถ่อมตัวจนน่ารำคาญ จับจุดได้อย่างเหมาะเจาะการอธิบายง่าย ๆ สิบนาที ทุกคนในที่นั้นกลับพร้อมใจกันตั้งใจฟัง จนกระทั่งจบลง ห้องประชุมก็เงียบไปหลายวินาที ก่อนที่จะปรบมือกันอย่างกึกก้อง"คุณหนูหลีเป็นอัจฉริยะทางธุรกิจจริง ๆ!""มีหลักแนวคิดที่ชัดเจน ผ่อนคลายและเข้มงวดในเวลาเดียวกัน ไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอบริหารตี้เซิ่งให้เจริญรุ่งเรืองได้""คุณหนูหลีเป็นคนที่เราควรเรียนรู้เอาเป็นเยี่ยงอย่างจริง ๆ! ถึงเธอจะยังอายุน้อย แต่แนวคิดทางธุรกิจของเธอก็มมมีความเป็นปัจเจกสูงมาก""ถ้ามีโอกาสได้ร่วมงานกับคุณหนูหลี จะถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งเลยล่ะสำหรับพวกเรา!""..."เมื่อได้ยินเสียงสรรเสริญรอบข้าง ซ่งเซียงเซียงก็อึ้งงันไปเดิมทีเธอต้องการหาทางโจมตีหลีเกอแบบไม่ทันตั้งตัว แต่ไม่คาดคิดว่าจะทำให้เธอโด่งดังในครั้งนี้เป็นไปไม่ได้!เป็นไปได้ยังไงเนี่ย?"เดี๋ยวก่อน..."ซ่งเซียงเซียงส่งเสียงเรียกหลีเกอที่กำลังจะลงจากเวทีไว้ตอนนี้เธอไม่สนใจอะไรทั้งน

  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 334 ได้รับเชิญให้ขึ้นเวที

    เธอเดินหลังตรงไปที่หลังเวทีไม่นานนัก พิธีเปิดการประชุมสุดยอดทางธุรกิจก็เริ่มขึ้น พิธีกรยืนอยู่บนเวทีแล้วกล่าวเปิดงานอย่างคล่องแคล่วในไม่ช้า บรรยากาศของการประชุมสุดยอดทางธุรกิจก็ถึงจุดพีคของงาน"ผมเชื่อว่าทุกท่านที่อยู่ ณ ที่นี้ล้วนเป็นสุดยอดของสุดยอดในแวดวงธุรกิจของเรา ตามธรรมเนียมปฏิบัติเดิม เราจะสุ่มเลือกผู้โชคดีขึ้นมาแบ่งปันประสบการณ์การบริหารธุรกิจ"เมื่อพิธีกรพูดจบซ่งเซียงเซียงก็เดินออกมาจากหลังเวที หันไปมองหลีเกอด้วยสีหน้ามืดมนในใจก็คิดอะไรบางอย่างหลังจากนั้น เธอก็เดินไปหาคุณนายผู้ร่ำรวยกลุ่มนั้น แล้วก็แสดงสีหน้าเยาะเย้ย "เดี๋ยวรอดูได้เลย มีเรื่องสนุก ๆ เกิดขึ้นแน่"คุณนายผู้ร่ำรวยไม่เข้าใจว่าซ่งเซียงเซียงกำลังคิดจะทำอะไร จึงเตือนว่า "คุณหนูซ่ง อย่าหาเรื่องใส่ตัวดีกว่า"ซ่งเซียงเซียงเชิดหน้าขึ้นอย่างหยิ่งยโสโดยไม่พูดอะไรในใจคิดว่าต้องทำให้หลีเกออับอายขายหน้าให้ได้แต่ในเวลานี้ พิธีกรบนเวทีกลับหันไปมองหลีเกอที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน"วันนี้เรามีบุคคลสำคัญผู้ทรงอิทธิพลมากท่านหนึ่งมาร่วมงานของเรา นั่นก็คือประธานบริษัทตี้เซิ่ง คุณหนูหลีเกอ ทางเราขอเชิญคุณหนูหลีเกอขึ้นมาแ

  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 333 ตีงูต้องตีที่หัว

    หลีเกอจ้องเขม็งมองเธอ ซ่งเซียงเซียงรู้สึกผิดจึงหดคอลงตีงูต้องตีที่หัวหลีเกอรู้ว่าซ่งเซียงเซียงกังวลสิ่งใดมากที่สุดดังนั้น เธอจึงพูดด้วยเสียงแผ่วเบา"ถึงเวลาที่สมควรแก่การปฏิรูปบริษัทเหม่ยห่าวอิเล็กทริคแล้ว งานประชุมสุดยอดทางธุรกิจครั้งนี้ เธอถอนตัวไปเถอะ"เมื่อได้ยินแบบนั้นซ่งเซียงเซียงก็ร้อนรนขึ้นมาจริง ๆ"ไม่ได้"เธอโพล่งออกมาโดยไม่รู้ตัว เหม่ยห่าวอิเล็กทริคเป็นความหวังเดียวของครอบครัว ถ้าเธอถอนตัวออกจากการประชุมทางธุรกิจครั้งนี้ บริษัทก็จะได้รับความเสียหายอย่างมหาศาล"หลีเกอ ฉันจะยอมทำตามที่เธอต้องการทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องนี้ ฉันให้ไม่ได้จริง ๆ"หลีเกอพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ตอนนี้ถ้าถอนตัวไปซะเราก็ยังพอจะประนีประนอมกันได้ แต่ถ้าไม่ยอม เมื่อถึงเวลาที่ต้องถูกบีบให้ถอนตัว คราวนี้เหม่ยห่าวอิเล็กทริคจะถึงคราวพินาศของจริง"ซ่งเซียงเซียงรู้สึกเข่าอ่อนความกลัวจากภายในจู่โจมทั่วทั้งร่าง ไม่คิดเลยว่าหลีเกอจะมีความคิดและกลยุทธ์ที่เฉียบคมแบบนี้ในเวลานี้เธอเสียใจจนแทบจะกลั้นใจตาย แต่ก็ยังพยายามต่อรอง "หลีเกอ เหม่ยห่าวอิเล็กทริคเป็นความหวังของครอบครัวเรา อย่าทำลายมันเลยนะ""ฉ

  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 332 ต้องการอะไร

    "คุณหนูหลี ผมทำธุรกิจส่งออก หวังว่าจะมีโอกาสได้ร่วมมือกับคุณในอนาคตนะครับ""บริษัทของเราส่วนใหญ่ดำเนินธุรกิจด้านโลจิสติกส์ ฉันหวังว่าคุณหลีจะให้คำแนะนำแก่ฉันในอนาคต""..."เมื่อเผชิญกับการต้อนรับอย่างอบอุ่นของผู้คน หลีเกอก็ยิ้มตอบอย่างสุภาพ ไม่วางตนโอ้อวดและไม่ดูถูกใคร จึงได้รับความชื่นชมจากผู้คนจำนวนมากแม้แต่นักธุรกิจหลายรายก็เสนอความร่วมมือกับหลีเกอโดยตรง หลีเกอก็ใช้โอกาสนี้กอบโกยคำสั่งซื้อจำนวนมากให้กับบริษัทตี้เซิ่งซ่งเซียงเซียงก็เฝ้าดูเหตุการณ์เหล่านี้อยู่ตลอดโลกทัศน์ของเธอพังทลายลงตั้งแต่หลีหานแนะนำตัวตนของหลีเกอเธอรู้สึกมึนงงไปหมดเมื่อนึกย้อนไปถึงช่วงสมัยเรียน เธอกับเพื่อน ๆ ทั้งดูถูก เหยียดหยาม และพูดจาไม่ดีใส่หลีเกอสารพัดคิดแล้วก็ให้รู้สึกเสียใจจนแทบขาดใจทั้ง ๆ ที่มีทรัพยากรที่ดีขนาดนี้อยู่ใกล้ตัว แต่เธอกลับทำลายมันไปเอง"เซียงเซียง มัวยืนอยู่ตรงนี้ทำไม?""พ่อไม่ได้กำชับให้ลูกไปทำความรู้จักกับคุณหนูหลีหรอกเหรอ เพื่อจะได้หาคำสั่งซื้อเพิ่ม แล้วทำอะไรอยู่?"ซ่งฟู่ดึงซ่งเซียงเซียงมาตำหนิเบา ๆซ่งเซียงเซียงยังไม่รู้สึกตัว ตอนนี้เธอจิกเล็บลงไปในเนื้อตัวเองอย่างแ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status