เอี๊ยด!“ขึ้นมา”“ห๊ะ!? เอ่อ...”“บอกให้ขึ้นมา”ทางด้านธาราที่เดินออกมาเพื่อกลับหอพักกลับถูกรถคันหนึ่งขับมาจอดแทบจะเหยียบเท้าของเธอ และพอกระจกรถลดลงก็เป็นโรมันที่มาดักรอพบเธอ“เอ่อ นายมีอะไร...”พอขึ้นมาบนรถ ธาราก็ถามขึ้นทันที“ติวไง วันนี้เรามีติว หรือเธอไม่ต้องการแล้ว”และพอได้ยินแบบนั้น ธาราก็พูดอะไรไม่ออก เธอทั้งโกรธทั้งน้อยใจเขาแทบตายจนท้อแท้และหมดกำลังใจแต่เขากลับมารับเธอไปติว ทำให้เธออดที่จะรู้สึกผิดกับตัวเองไม่ได้“นายจะติวที่นี่อีกเหรอ...ฉันว่าเราไป...”“ลงไป”และโรมันก็พาเธอมาที่คอนโดของเขาอีกครั้ง ธาราถึงกับใจเต้นแรง เพราะเรื่องที่เคยเกิดขึ้นดันฉายชัดในหัวของเธอในตอนนี้ ก่อนจะลงรถแล้วเดินตามเขาเข้าไปนี่มันอะไรกัน...ขึ้นห้องกับผู้ชายได้อย่างหน้าไม่อายจริงๆยัยธารเอ้ย!ธาราอดคิดอย่างรู้สึกอายไม่ได้ ไม่นานเธอก็มายืนอยู่ในห้องของเขา“วางของสิ เดี๋ยวฉันเปลี่ยนชุดก่อน”“อื้อ...”ธาราเดินไปนั่งลงที่เดิมของเธอ ก่อนจะหยิบของในกระเป๋าออกมา รอไม่นานโรมันก็เดินออกมา และพอเงยหน้าขึ้นมองธาราถึงกับอ้าปากค้างโอ้วแม่เจ้า!! นี่มัน...นายแบบ...ไม่สิ โรมจริงๆเหรอเนี่ย ทำไมหล่อขั้นเทพ หล่อระเบิ
“เฮ้อ...จะเอายังไงดี...อีกแค่ 2 วัน...หรือจะถอดใจเรื่องเรียนแล้วไปทำงานกับเตี่ยกับม๊าดี...โอ๊ยๆๆๆๆ ทำไมฉันต้องเกิดมาโง่ๆๆๆ แถมอ้วนแล้วยังขี้เหร่สุดๆอีกเนี่ย! ฮือๆๆๆ เอาไงดีๆๆๆ”ทางด้านวารีที่เอาแต่นั่งมองกระดาษแผ่นเล็กที่ทั้งยับยู่ยี่และมีแต่รอยปะติดต่อกันเต็มไปหมดอย่างคิดหนัก เมื่อตอนนี้เธอยังหาทางออกเรื่องสอบซ่อมที่กำลังจะมาถึงไม่ได้เลย ก่อนหน้านี้เธอนั้นถึงกับถอดใจเรื่องเรียนหมอแล้วคิดจะกลับไปทำธุรกิจร้านอาหารกับบิดามารดา แต่ถ้าเทวายอมสอนเธอจริงๆ เธอก็ยังมีหวังในการเรียนหมอ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวันก่อนทำให้เธอคิดหนัก ขนาดแค่เจอหน้าเขาเธอยังอยากวิ่งหนีเลย นี่ให้ไปนั่งสอนตัวต่อตัวจะเกิดอะไรขึ้น“โอ๊ย!! ไม่รู้ด้วยแล้วโว๊ย!”และสุดท้ายเธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดเบอร์ที่อยู่ในกระดาษแล้วโทรออก“ฮัลโหล...ใครอ่ะ...”แต่กลับเป็นเสียงผู้หญิงรับสาย วารีถึงกับไปต่อไม่เป็น“เอ่อ คือว่า เอ่อ ฉัน...โทรผิดน่ะ”และสุดท้ายเธอก็ไม่กล้าพอที่จะพูดต่อเลยกดวางสายไป“อ๊าย! ตาบ้า! อยู่กับผู้หญิงก็ไม่บอก ฉันเกือบโดนตบแล้วไหมล่ะ!”วารีที่ก่นด่าเขาผ่านโทรศัพท์ได้แต่มองมันอย่างสิ้นหวัง ความหวังเดียวนั้นหลุดลอ
“ห๊ะ? ยัยธารไม่มาอีกแล้วเหรอ?...”“อื้ม เห็นส่งข้อความมาบอกว่าให้แล็กเชอร์เผื่อด้วย”“อะไรของยัยนั่น ยิ่งโง่ๆอยู่ ทำไมเดี๋ยวนี้ลาบ่อย เมื่อวันก่อนก็ไม่มา”“นั่นสิ เมื่อคืนก็ไม่กลับหอ บอกว่าติวดึกเลยไปเช่าห้องนอน...แต่แกว่ายัยธารมันแปลกๆไปไหม? ปกติแทบไม่เคยหยุดเรียน”“อืมแปลก...ไม่ใช่แค่ยัยธาร แกด้วย ตกลงเมื่อวันก่อนไปทำอะไรมาเห็นบอกไม่สบาย”“อ่าว ไม่สบายต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ! พอเลยๆ โน่น อาจารย์หมอมาแล้ว”เช้าวันต่อมา สองสาวแท้และเทียมกำลังคุยกันถึงเรื่องการลาหยุดของธารา ที่ส่งมาแค่ข้อความแล้วจากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีก จนพวกเธอเริ่มสงสัยและรู้สึกเป็นห่วง แต่พอพูดไปพูดมาก็เริ่มวนเข้าเรื่องของวารีจนเธอรีบบ่ายเบี่ยงไปทางอื่น“เอา นี่ยา กินข้าวแล้วกินยาซะนะ ฉันมีเรียนบ่าย ยังไงเธอก็พักที่นี่แหละ เรียนเสร็จแล้วเดี๋ยวฉันกลับมาติวให้”“อื้อ...”“ถ้าอยากได้อะไร นั่นเบอร์ฉัน จะส่งข้อความทิ้งเอาไว้ก็ได้”ทางด้านธารา พอส่งข้อความไปหาวารีเสร็จเธอก็ต้องล้มตัวลงนอนอีกครั้ง เมื่อร่างกายบอบช้ำจนแทบเดินไม่ได้ ยาเธอก็ลืมเอามาจากห้องเดือนร้อนโรมันต้องไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ดีที่คุณหมอที่ตรวจเธอนั้นเป็นน้าส
“ทำไมห้องเงียบแบบนี้ หรือว่ายัยนั่น...”ทางด้านโรมันที่พึ่งกลับมาถึงห้องด้วยสองมือเต็มไปด้วยถุงอาหารที่เขาแวะซื้อมา แต่ห้องกลับดูเงียบผิดปกติเขาเลยเดินเข้าไปมองหาอีกคนที่บอกให้อยู่ที่นี่ และก็มาเจอเธอนอนหลับอยู่ที่เตียงของเขา พลันความรู้สึกแปลกๆที่ไม่เคยมีกลับตีตื้นขึ้นมาอย่างหาสาเหตุไม่ได้เพียงเพราะมีคนนอนรอเขากลับมาอย่างนี้“ยังไม่ตื่นสินะ”เขาพูดขึ้นเมื่อเห็นธารานอนหลับอยู่ เธออาจหลับไปเพราะยาหรืออาจหลับเพราะเหนื่อยจากเมื่อคืน แต่เหนื่อยยังไงเขากลับรู้สึกดีเวลาเธอนอนอยู่บนเตียงของเขาอย่างนี้“อื้อ...นายกลับมาแล้วเหรอ...โทษที พอดีฉันรู้สึกเพลียๆ”ธาราที่รู้สึกตัวหลังจากได้นอนหลับอย่างเต็มอิ่ม เธอลุกขึ้นมองโรมันอย่างรู้สึกอายที่มานอนห้องเขาอย่างสบายใจแถมหลับสนิทยาวมาจนถึงตอนนี้“ยังเจ็บอยู่ไหม”“ห๊ะ? เอ่อ เจ็บ เฮ้ย! ไม่เจ็บ...แล้ว...”“งั้นคืนนี้คงต่อได้ ฉันซื้อของมา ออกมากินสิ”“...............”คำพูดของเขาทำเอาเธอถึงกับหน้าแดงแจ๋ และโรมันที่เดินหันหลังออกไปก็ได้แต่ยิ้มอย่างรู้สึกขำในความไร้เดียวสาของเธอส่วนธารา เธอหมดสภาพอย่างไม่น่าให้อภัย เธอพยุงร่างกายที่ดีขึ้นกว่าเมื่อเช้าอย่าง
“ธาร แกว่าวันนี้มันแปลกๆไหม...ฉันว่าเราดูเป็นจุดสนใจแปลกๆนะ...”วันต่อมา เมื่อพากันเตรียมพร้อมเต็มที่แล้วเรื่องการสอบซ่อม สองสาวก็รีบมาที่มหาวิทยาลัยแต่กลับมีแต่คนคอยจ้องและมองตามจนเริ่มไม่มั่นใจ“อือ ฉันรู้สึกมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว”ธาราบอกขึ้นพร้อมกับกอดแขนอ้วนๆของวารีแน่น“หรือว่าแกลืมใส่แว่นมา”วารีรีบก้มมอง“ไม่นี่...หลังใส่คอนแทคเลนส์ฉันก็รีบใส่เลย”“หรือว่าเราสองคนคิดไปเอง...ช่างเถอะๆๆรีบไปที่ห้องกัน จะได้ทบทวนอีกรอบก่อนสอบ”“อื้อ...”วารีบอกขึ้นแต่ไม่ได้ทำให้ธาราหมดกังวลได้เลย เมื่อตอนนี้สิ่งเดียวที่เธอกลัวคือเรื่องของเธอกับโรมันอาจเล็ดลอดออกไป แล้วพวกสาวๆของเขาอาจมาทำร้ายเธอนี่สิจากนั้นไม่นานสองสาวก็เริ่มสอบซ่อมโดยมีเพื่อนร่วมชะตาชีวิตอีกสิบกว่าคนที่สอบไม่ผ่าน ส่วนคนอื่นๆวันนี้เป็นวันหยุด“ลม! ฉันผ่านแล้ว!”“ใช่! ฉันก็ผ่านเหมือนกัน!”หลังจากผ่านไปกว่าชั่วโมง สองสาวก็เดินออกจากห้องสอบด้วยรอยยิ้มกว้าง เมื่อสิ่งที่พวกเธอพยายามมาเป็นอาทิตย์ประสบผลสำเร็จแล้ว นั่นแสดงว่าพวกเธอยังได้ก้าวเดินในสายอาชีพนี้ต่อไป“เย็นนี้เราไปฉลองกันเถอะ”“โอเค!”สองสาวได้แต่กอดกันด้วยความดีใจ ก่อนจะมีเ
“ปล่อยเลย...เพราะนายนั่นแหละฉันถึงถูกพวกนั้นเรียกไปตบ...อยากให้ทั้งมหาลัยเรียกฉันไปตบด้วยรึไง มองกันใหญ่แล้ว...”พอเดินออกมาเพื่อจะไปขึ้นรถ วารีรีบดันเขาออกจากการพยุง เพราะมีแต่คนมองมาที่เขาและเธอ แต่เทวาไม่สนใจกลับเข้าไปพยุงเธอต่อ“ช่างหัวพวกมันสิ รู้ก็รู้ไป จะได้ไม่กล้ามายุ่งกับเธออีก”“อีตาบ้า...งั้นก็ประกาศให้รู้กันให้หมดๆไปเลยสิ”“ไม่ต้องประกาศเขาก็รู้กันหมดแล้ว ไม่อย่างนั้นฉันจะรู้ว่าเธอถูกพวกนั้นเรียกไปได้ไงล่ะ”เวรแล้วไง...วารีได้แต่คิดในใจ เมื่อตอนนี้เธอรู้แล้วว่าทำไมทุกคนถึงมองเธอแปลกๆ ที่จริงก็รู้เรื่องระหว่างเธอกับเทวากันแล้วนี่เอง“ฉันไม่เป็นอะไร..แค่ถูกตบน่ะ ไม่ต้องไปโรงพยาบาลหรอก ไปเอายาแก้ปวดมาให้ก็พอแล้ว”“ไม่ได้ เธอต้องไปหาหมอ”“ไม่เอา ฉันอาย แค่นอนพักก็พอ”“งั้นไปห้องฉัน ฉันต้องแน่ใจว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ”และเทวาก็พาวารีไปที่ห้องของเขา เมื่อไม่สบายใจที่จะให้เธอกลับไปที่หอพักของเธอส่วนทางด้านโรมันกับธารา เขาพาเธอเดินหลบมาทางที่ไม่ค่อยมีคน ก่อนจะพามาที่รถ“เป็นอะไรมากไหม?”เขาถามขึ้นพร้อมกับมองร่างเล็กที่นั่งก้มหน้า สองตาบวมฉ่ำจากการร้องไห้อย่างหนัก“ไม่...ฉันไม
“เข้ามาสิ หรือจะไม่เปลี่ยน”“เอ่อ แต่...”หลังจากเล่นน้ำจนเปียกแฉะแถมเหนียวเหนอะจากน้ำทะเล โรมันก็พาธาราไปเดินซื้อเสื้อผ้าริมชายหาดซึ่งแต่ละตัวก็มีสีสันแสบตาเหลือเกิน และพอเลือกกันได้ โรมันก็พามาที่รีสอร์ทเล็กๆไม่ไกลจากรถที่จอดเอาไว้ แต่ดูท่าธาราไม่อยากเข้าไปทั้งๆที่แค่เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเท่านั้น“งั้นก็ตามใจ”โรมันทำเป็นไม่สนใจแล้วเดินเข้าไปด้านใน ส่วนธาราก็มองไปรอบๆรีสอร์ทหลังเล็กก่อนจะตัดสินใจเดินตามเขาเข้าไป“นาย...เอ่อ ไม่เข้าไปถอด เอ่อ ในห้องน้ำล่ะ...”พอเดินเข้ามาก็เจอโรมันกำลังถอดเสื้อออก เขาค่อยๆหันกลับมามองเธอ“เห็นหมดแล้วยังจะอายอีกรึไง”“...............”และธาราก็พูดไม่ออก หน้าขาวแดงเถือกอย่างเขินอาย ส่วนโรมันก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาก่อนจะค่อยๆเดินเข้ามาหาเธอที่ยืนสั่นกลัวเขาอยู่“หนีหน้าฉันทำไม?”และสิ่งที่เขาต้องการรู้ก็คือเรื่องนี้ เธอทั้งไม่รับโทรศัพท์ ทั้งพยายามหลบหน้าเขาจนเขาต้องขอความช่วยเหลือจากวารีเพื่อนสาวคนสนิทของเธอให้หลอกเธอออกมาเจอเขา“ฉัน...ฉันไม่ได้หนี ก็...ก็เราติวกันเสร็จแล้ว ข้อตกลงก็ควรจบด้วย...”“ใครบอกว่าจบ...ฉันเหรอ?”โรมันขยับเข้ามาใกล้จนชิด ส่ว
“ธาร...ทำไมสภาพแกถึง...”วันต่อมา ทันทีที่เดินเข้ามาในห้องเรียน วารีที่เห็นสภาพอิดโรยของธาราถึงกับทักขึ้น ก่อนจะหันไปมองยังโรมันที่นั่งสบายใจมองออกไปนอกหน้าต่างห้องเรียน“ฉันขอโทษนะธาร...รู้อย่างนี้ฉันไม่ช่วยนายนั่นซะก็ดี”วารีได้แต่เอ่ยขอโทษออกมาพร้อมกับมองเพื่อนอย่างเวทนา เพราะคงเจอมาหนักถึงมีสภาพแบบนี้“แกสองคน! ต่อไปนี้เราไม่ได้เป็นเพื่อนกัน!”บ๊อบบี้ที่พึ่งเดินเข้ามาพูดขึ้น พร้อมกับสะบัดตูดไปนั่งอีกฝั่งที่ห่างไกลจากเพื่อนสาวทั้งสอง เมื่อเรื่องที่เกิดขึ้นตลอด 1 อาทิตย์ตัวเองพึ่งมารู้จากเพื่อนสาขาอื่นเพราะมัวแต่ยุ่งกับงานศพที่ต่างจังหวัด พอกลับมาก็เจอเรื่องที่ชวนตะลึงเมื่อเพื่อนของเธอดันไปคบกับพวกลูกเทพโดยไม่คิดจะบอกเธอเลยสักนิดนี่สิ“เอายังไงดี บ๊อบบี้ยิ่งง้อยากด้วยสิ”สองสาวได้แต่มองหน้ากันอย่างหนักใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ในตอนนี้ เพราะอาจารย์เริ่มสอนแล้ว ส่วนโรมันก็เอาแต่แอบชำเลืองมองธาราจนศิวะที่เริ่มสังเกตเห็นต้องถามขึ้น“ที่แกเอาแต่มองไปตรงนั้น...”โรมันถึงกับต้องรีบหันหนีเมื่อคิดว่าศิวะจับได้ว่าเขาเอาแต่มองธารา“สงสัยเหมือนฉันใช่ไหมว่ายัยอ้วนนั่นทำยังไงไอ้เทพถึงตกหลุมพรางได้...ด
“ธาร! นี่แกไปไหนมา รู้ไหมว่าพยาบาลตามหากันให้วุ่น”วารีที่พึ่งกลับออกมาจากห้องของคนไข้แล้วเจอเข้ากับธารารีบถามขึ้นอย่างเป็นห่วง“เอ่อ ฉัน...พอดีฉันเผลอหลับ ว่าแต่มีเรื่องอะไรรึเปล่า?”ธาราอดรู้สึกผิดไม่ได้ เมื่อเธอเอาเวลางานมาทำเรื่องอย่างว่ากับคนไข้ของเธออีก“ตอนนี้ไม่มีแล้ว พอดีคนไข้ห้อง 5 อาการกำเริบ ว่าแต่แกได้นอนแน่เหรอ? ดูเหนื่อยๆนะ”วารีมองท่าทางอ่อนเพลียของธาราอย่างเป็นห่วง“อื้อ ห๊ะ? เอ่อ บ้าเหรอ นอนทั้งคืน”ซึ่งธาราก็ไม่ได้โกหกเมื่อเธอได้นอนมาทั้งคืนจริงๆ จนกระทั่งรุ่งสางที่ถูกปลุกนั่นแหละ“เหรอ งั้นกลับไปฝากซักเสื้อผ้าทีนะ”“ย่ะ...งั้นฉันไปเอากระเป๋าก่
“อ่าวหมอธาร วันนี้อยู่เวรเหรอคะ”“อื้อ วันนี้อยู่เวร”“งั้นดาขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ เจ้าตัวเล็กรออยู่ที่บ้าน”ธารามองตามหลังพยาบาลประจำของแผนกนี้ไปอย่างนึกอิจฉา เมื่อเธอดันถูกวางตารางให้เข้าเวรดึกทั้งอาทิตย์ทั้งๆที่ตอนนี้เธอเหนื่อยเหลือเกิน“หมอธารคะ ห้องวีไอพี 2 เรียกตัวน่ะค่ะ”“หือ?...เอ่อ มีอะไรรึเปล่าคะ”“ไม่ทราบค่ะ เดี๋ยวออมจะไปตรวจคนไข้ห้อง 7 เวรดึกส่วนมากไม่ค่อยมีอะไรให้ทำหรอกค่ะ สบายๆถ้าไม่มีเคสฉุกเฉินเข้ามาจริงๆ”“ค่ะ งั้นฝากนี่ไปให้คนไข้ห้อง 5 ด้วยนะคะ”พยาบาลออมเดินเข้ามาบอกก่อนจะเดินจากไปเมื่อพอเช็คคนไข้ครบทุกห้องก็แทบไม่มีงานให้ทำแล้ว ส่วนธาราถึงกับอยากขัดขำสั่งของโรมัน
“ห๊ะ!? ห้าหมื่นเจ็ด!...อาหารแค่นี้ ทำไม...”ทางด้านศิวะที่ตอนนี้กำลังช็อคกับใบเสร็จค่าอาหาร เมื่อมันเกินครึ่งแสนจนเขาตกใจ“ขอโทษนะคะ พอดีลืมบอกไปว่าฉันสั่งอาหารไปฝากเพื่อนๆกับพยาบาลที่โรงพยาบาลด้วย เห็นว่าอร่อยเลยเผลอสั่งเยอะไปหน่อย ถ้าคุณศิวะไม่สะดวกจ่าย เดี๋ยว...”วารีที่ในใจกำลังยิ้มเยาะแต่ภายนอกกลับทำหน้าออดอ้อน เมื่อเธอจงใจสั่งแต่อาหารแพงๆของร้านเพื่อแกล้งให้เขาจ่าย“เอ่อ ไม่เป็นไรครับ...”ศิวะที่กลัวเสียหน้ารีบยื่นบัตรเครดิตของตัวเองไปให้พนักงานเพื่อคิดเงินค่าอาหารด้วยสีหน้าท่าทางกระอักกระอ่วนกินมื้อเดียวเหมือนกับกินทั้งเดือนเลยเหรอวะเนี่ย! ค่าอาหารบ้าอะไรครึ่งแสน!ถึงจะยอมจ่ายแต่ในใจกำลังคิดหนัก เมื่อแค่วันแรกและอาหารมื้อ
“พยาบาลออม เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?”“คนไข้เจ้าปัญหาน่ะสิคะ ไม่ยอมทานอาหารอีกแล้ว ยาก็ด้วย แล้วช่วงบ่ายมีกายภาพอีก น่าจะไม่ได้ทำอีกตามเคย”ธารามองพยาบาลผู้ช่วยของเธออย่างเข้าใจ“งั้นเดี๋ยวธารเอาเข้าไปเอง พยาบาลออมช่วยไปดูคนไข้ห้อง 8 ให้หน่อยนะคะ”“ได้ค่ะ นี่ค่ะคุณหมอ”พยาบาลสาวรีบยื่นถาดในมือไปให้ ก่อนจะเดินจากไปปล่อยให้ธาราได้แต่มองถาดในมืออย่างเริ่มหนักใจ เมื่อเธอนั้นรู้ดีว่าคนไข้เจ้าปัญหานั้นคือโรมันเธอเปิดดูข้อมูลการรักษาของเขาตลอด 2 เดือนที่ผ่านมามันแทบไม่มีข้อมูลอะไรเลย เมื่อเหมือนกับว่าเขาปฏิเสธการรักษา ทั้งๆที่ถ้าเขาตั้งใจป่านนี้เขาคงเริ่มดีขึ้นแล้วแท้ๆ“ธาร ไปกินข้าวกันไหม วันนี้ฉันจองโต๊ะที่ร้านอาหารแถวนี้เอาไว้ แล้วนี่...ยัยอ้วนไปไหนล่ะ หรือยังทำงานอยู่”เทวาที่พึ่งเสร็จงานเดินเข้ามาหาธาราแล้วถามขึ้น เมื่อตอนนี้ถึงเวลาอาหารเที่ยงแล้ว“ยัยลมไม่อยู่หรอก ออกไปกินข้ากับหนุ่มหล่อ สงสัยนายคงต้องไปกินคนเดียวแล้วล่ะ พอดีฉันต้องทำงานอีก ขอตัวนะ”พอวางระเบิดเสร็จธาราก็เดินหนีออกไป ปล่อยให้เทวาได้แต่ยืนอึ้ง เมื่อทำงานวันแรกยัยอ้วนของเขาก็ถูกหมายตาเสียแล้วเหรอเนี่ย“อะไรวะเนี่ย...ขนาดพามาน
“โหหหหห นี่คือห้องที่เราจะได้พักตลอดเวลาที่อยู่นี่จริงๆเหรอ? ทำไม...ถ้าเป็นแบบนี้ฉันขออยู่ตลอดไปเลยได้ไหมแก”วันต่อมา พอมาถึงที่พัก วารีที่เดินเข้ามาก่อนถึงกับร้องออกมาอย่างไม่อยากเชื่อกับห้องพักที่โรงพยาบาลจัดให้กับเธอสองคน ซึ่งเป็นห้องชุดที่ทั้งใหญ่และหรูหราแถมยังมีวิวแม่น้ำเจ้าพระยาอันสวยงามอีก“งั้นแกก็อยู่ไปเลยสิ จะได้ไม่ต้องกลับไปเจอหมอคิมไง”ธาราที่เดินตามเข้ามาพูดขึ้น เมื่อเธอรู้เรื่องความสัมพันธ์ของวารีมาโดยตลอด“ได้ก็ดีสิ เฮ้อ ฉันจะทำยังไงกับหมอคิมดีอ่ะแก”“เอาน่า มีเวลาคิดตั้ง 1 เดือน ค่อยๆคิดไป งั้นเดี๋ยวฉันเอาของไปเก็บก่อน เห็นว่ามีสองห้อง เอาคนละห้องแล้วกัน”ธาราบอกขึ้นพร้อมกับลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ไปยังประตูที่ปิดสนิทอยู่ ส่วนวารีเองก็ไม่ต่างกันลากกระเป๋าเดินเข้าไปดูห้องนอนอีกห้องวันต่อมา สองสาวก็เดินไปทำงานเมื่อห้องของพวกเธออยู่ห่างจากโรงพยาบาลแค่ 5 นาทีเท่านั้น และพอไปถึง วารีถึงกับแทบลืมหายใจเมื่อคนที่ออกมารับพวกเธอนั้นคือคนที่ไม่อยากเจอที่สุดทำไมอีตานี่มาอยู่ที่นี่ล่ะ...เขาทำงานอยู่ที่เซนต์จอห์นไม่ใช่เหรอ?...เธอคิดขึ้นเมื่อยังไม่รู้เรื่องที่เทวาย้ายมาทำงานที่โรง
1 เดือนต่อมาเพล้ง! เพล้ง! ปึก! ปัก!“ออกไป! ฉันบอกให้ออกไปให้หมด! ออกไป!!”เสียงไล่ดังขึ้นพร้อมกับสิ่งของตกดังกระทบพื้นเมื่อเจ้าของห้องไม่ต้องการให้ใครเข้ามายุ่งวุ่นวายกับตัวเองจนทั้งหมอและพยาบาลต่างรีบหอบอุปกรณ์ต่างๆกลับออกไป เหลือก็เพียงแค่นนนน์ ที่ตอนนี้ยืนทำหน้าเศร้าอยู่ที่มุมห้อง“นายด้วย ออกไป”“แต่...เอ่อ ครับ...”และเขาก็ถูกไล่ออกมาไม่ต่างจากคนอื่น“เฮ้อ...ออกมาก็ถูกด่า อยู่ในนั้นก็ถูกไล่ เอาไงกับชีวิตดีวะเนี่ยเรา”พอเดินออกมานอกห้องของเจ้านายหนุ่ม นนนน์ถึงกับต้องถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจ เมื่อนี่ก็เป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้วหลังจากที่โรมันเข้ารับการรักษาจนอาการเริ่มดีขึ้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์ที่รอดมาได้ แต่หลังจากรอดมาได้โรมันกลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เมื่อสมองที่คาดว่าจะได้รับการกระทบกระเทือนและเสียหายอย่างหนักนั้นดูท่าจะเจาะจงไปที่ความเสียหายด้านอารมณ์มากกว่าด้านอื่นๆ เพราะตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาโรมันก็มีอารมณ์ฉุนเฉียวจนไม่มีใครเข้าหน้าติด เขาไม่ยอมให้ใครเข้ามารักษาแถมไม่ยอมทำกายภาพบำบัดในส่วนของขาข้างซ้ายที่หักจากอุบัติเหตุนั่นอีก“นายถูกไล่ออกมาอีกแล้วเหรอ?”“ครับ...คุณเทพช่วย
และจากนั้นไม่นานพ่อเลี้ยงสายชลก็ฟื้น แถมร่างกายยังปกติดีทุกอย่างเพียงต้องพักฟื้นต่ออีกสักหน่อยกว่าจะออกจากโรงพยาบาลได้ ทำเอาทั้งธาราและแม่เลี้ยงนาราอดโล่งใจไม่ได้“ฝากดูแลพ่อด้วยนะลูก เดี๋ยวแม่จัดการที่ไร่เสร็จจะรีบกลับมา”“ให้หนูไปดีไหมคะ แม่จะได้ดูแลพ่อ”“ลูกแหละอยู่ ยังไงลูกก็เป็นหมอ เผื่อจะได้ช่วยดูแลคนไข้คนอื่นถ้ามีเหตุฉุกเฉินจริงๆเข้ามาด้วย”หลังจากพ่อเลี้ยงสายชลฟื้นและดูท่าจะไม่มีอาการแทรกซ้อนใดใด แม่เลี้ยงนาราก็เลยขอกลับไปดูงานในไร่เมื่อร่วมเดือนแล้วที่ทิ้งมา ถึงแม้จะมีผู้จัดการคอยดูแลให้ แต่ก็ยังเกิดปัญหาอยู่ดี“ทำไมพึ่งมารายงานฉัน ส่งคนไปคอยดูแลก่อนจะเกิดเรื่องขึ้น”“ครับ...”
“อ่าว ลม มาถึงตั้งแต่ตอนไหน...แล้วนี่...”ทางด้านแม่เลี้ยงนาราที่พึ่งเดินเข้ามาในห้องพักฟื้นของสามีเอ่ยทักขึ้นอย่างนึกแปลกใจที่วารีนั่งอยู่ในห้องแถมมีชายหนุ่มหน้าตาดีอีกคนนั่งอยู่ไม่ไกล เมื่ออันที่จริงแล้วว่ารีคิดจะกลับบ้านก่อนแต่เป็นห่วงธาราจนเดินกลับมารอที่ห้องพักฟื้นเหมือนเดิม“สวัสดีครับ ผมเทวา เพื่อนของธารครับ”เทวารีบลุกขึ้นแนะนำตัวพร้อมรอยยิ้มอันแสนมีเสน่ห์จนแม่เลี้ยงนาราต้องยิ้มตอบอย่างนึกเอ็นดู“คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ หมอที่ผ่าตัดให้กับคุณพ่อน่ะเป็นหมอชื่อดังระดับโลก เขาไม่เคยผ่าตัดผิดพลาดเลยสักครั้ง”วารีรีบบอก เมื่อไม่อยากให้แม่เลี้ยงนารากังวล“จ๊ะ แม่รู้แล้ว แล้วนี่กินอะไรกันมารึยัง”“เรียบร้อยแล้วค่ะ”
ส่วนทางด้านธารา ตอนนี้เธอกำลังนั่งอยู่ในสถานการณ์ที่อึดอัดเป็นที่สุด พ่อเลี้ยงดนัยที่กำลังแนะนำและพรีเซนต์ตัวเองกับมารดาของเธอโดยไม่รู้กาลเทศะเมื่อบิดาเธอก็ยังนอนป่วยอยู่แท้ๆ“เฮ้อ กลับไปสักทีนะ ผู้ชายอะไรพูดเป็นต่อยหอยเลย”แม่เลี้ยงนาราอดที่จะเสียมารยาทไม่ได้เมื่อสุดท้ายก็สามารถไล่พ่อเลี้ยงดนัยกลับไปได้สักที หลังจากทนนั่งฟังเขาเล่าประสบการณ์ชีวิตตั้งแต่เด็กจนโตมาเป็นชั่วโมงๆ“ขอโทษนะคะ พอดีเขาบอกอยากมาเยี่ยมพ่อ...แล้วคุณหมอคนนั้น...เขาว่ายังไงบ้างคะ?”ธาราที่พึ่งหาคำพูดของตัวเองเจอถามขึ้น“เขาก็บอกว่าอาการคุณพ่อน่ะพร้อมผ่าตัด เขาเข้ามาเช็คดูโน่นนี่นั่นหลายอย่างเลยล่ะ เขาดูเก่งมากเลยนะลูก...แต่ว่าดูเงียบๆ แต่ไม่เคยเจอหมอคนไหนหล่อขนาดนี้มาก่อนเลยนะ แม่น่ะถึงกับหัวใจเต้นแรงเลยตอนเขาเดินเข้ามาหา”แม่เลี้