ตอนพิเศษ...ดาวดินอินบุพเพสันนิวาส การจราจรแน่นขนัดบนถนนในเวลาหกโมงครึ่ง ดาริกาที่นั่งบนรถดูกระสับกระส่ายมองถนนสลับกับมองนาฬิกาจนดูแล้วน่าเวียนหัว “เป็นอะไรดาว ฉันเห็นเธอมองไปมองมาหลายรอบแล้ว” คนขับรถสุดหล่อถามด้วยไม่เข้าใจ “วันนี้วันพุธ ต้องรีบกลับ” เดาถูกอย่างนี้ทำไมไม่ซื้อหวยถูกบ้างนะ พสุธาส่ายหน้าช้าๆ แล้วขยับรถทีละนิดจนถนนเริ่มโล่งจึงบึ่งรถให้ภรรยาที่ดูร้อนใจเสียเหลือเกิน “ขับช้า เร็วๆ หน่อย” หนึ่งทุ่มแล้วก็ยังไม่ถึงห้อง ไหนจะต้องทำอาหารเย็นอาบน้ำอีกเพราะหากไม่อาบก่อนละครเล่นอาบอีกทีคงเป็นห้าทุ่มกว่าจะนอนหลับอีกเธอวาดแผนไว้ในใจเงียบๆ รถยนต์เคลื่อนถึงคอนโดพอจอดเรียบร้อยดาริกาก็รีบลงโดยไม่รอพสุธา “อ้าว นี่เธอจะไม่รอฉันก่อนหรือไง” ร้องถามขณะเอาของลงจากหลังรถ ซึ่งของทั้งหมดก็แฟ้มเอกสารของคนตัวบางทั้งนั้น งานเขามีแค่นิดเดียวเอง “หายไปซะงั้น” เงยหน้ามาอีกทีก็ไม่เห็นแม้แต่หลังของดาริกาท่าทางจะรีบจริงหน้าที่ขนของจึงกลายเป็นของคุณสามี เขาหอบของขึ้นมาบนห้องเปิดประตูไม่เห็นภรรยาจึงเอางานเธอไปวางไว้ห้องทีวีซึ่งคือที่ประจ
ตอนพิเศษ...อย่าปล่อยลูกไว้กับพ่อเช้าวันเสาร์ที่แสนสดใสของพสุธา ร่างสูงตื่นมาด้วยใบหน้ายุ่งเหยิงเนื่องจากเมื่อวานทำงานหนักอีกทั้งกลับมาเมียยังล็อกประตูบ้านบอกกลับเกินหกทุ่มให้นอนข้างนอก สามีที่ประพฤติตัวดีมาตลอดสุดแสนจะช้ำหากให้ร้องเสียงดังก็ไม่กล้ากลัวลูกๆ ตื่นเขาเลยระเห็จไปนอนเต็นท์บนดาดฟ้าที่ปล่อยร้างมานานหลังจากทำประตูที่สองสำเร็จ “พ่อขา พ่อ” นั่งสะลึมสะลือสักพักก็ได้ยินเสียงลูกสาวมาร้องเรียก เปิดซิปออกเห็นใบหน้าหวานของเด็กหญิงพรรณนิกาจ้องมองคุณพ่อตาแป๋ว “เจ้าหญิงของพ่อ” โผจะกอดลูกแต่เด็กน้อยก็หลบเสียก่อนพร้อมปิดจมูก “คุณพ่อปากเหม็นต้องไปแปรงฟันก่อน” บอกเลยว่าตลอดระยะเวลาหกปีตั้งแต่ลูกเกิดคาดหวังว่าลูกสาวคนแรกจะต้องช่างออดช่างอ้อนเห็นดีงามตามพ่อแต่หาเป็นแบบนั้นไม่ แม่เป็นอย่างไรลูกสาวเป็นอย่างนั้นจนคิดว่าได้แม่คนที่สาม “จ้ะลูกรัก พ่อจะไปแปรงฟันเดี๋ยวนี้” หอบประเป๋าของตนเองได้ก็ลงไปพร้อมลูกสาวที่อยู่ในชุดกระโปรงบานสีฟ้าถักเปียน่ารักจนอยากพาลูกไปเทสต์หน้ากล้องแสดงละครให้โลกได้รู้ว่าลูกสาวหน้าตาดีขนาดไหน “พ่อค้าบ” ลูกชายคนท
ตอนพิเศษ...ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้“น้องดาวไหว้คุณอาสิลูก”เป็นครั้งแรกที่เธอได้มาบ้านของคุณอาพสุหลังจากที่ท่านแวะไปหาพ่อของเธอบ่อยๆ บ้านหลังใหญ่ที่มีความร่มรื่นจนเด็กหญิงอายุแปดขวบรู้สึกชอบ อีกทั้งขนมที่คุณอานิททำก็อร่อยจนวางไม่ลง “สวัสดีค่ะ” มือน้อยประนมแล้วก้มไหว้อย่างสวยงามจนคนเห็นเอ็นดู “ลูกมึงน่ารักดี ท่าจะว่านอนสอนง่าย” เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณเนติธรมักเอาไปอวดเพื่อนที่ลูกสาวของท่านเป็นเด็กดีเรียนเก่งความประพฤติเยี่ยม “พ่อแม่สอนมาดี”ยังไม่ทันจะได้คุยกันต่อลูกชายคนโตของครอบครัววิจิตรประภาก็วิ่งเข้ามาเสียก่อน เด็กน้อยตัวขาวแต่ตอนนี้หน้าตามอมแมมเพราะเล่นซุกซน “ตายแล้วดิน ทำไมหน้าเป็นอย่างนั้น” คนเป็นแม่หันมาเห็นลูกชายก็ตกใจ “ก็ดินไปเล่นดินมา ดินเลยเต็มหน้าดิน หน้าดินเลยมีแต่ดินไงครับแม่” ลูกชายตัวดีตอบอย่างไร้เดียงสาจนแขกทั้งสองหัวเราะออกมา ดาริกามองเพื่อนที่มาใหม่ด้วยแววตาเป็นประกาย “ไปล้างหน้าล้างตาแล้วมาไหว้คุณอาเขา” เอ็ดลูกชายเสียงเบาเด็กน้อยก็รับคำแข็งขันวิ่งไปล้างหน้าจนใสสะอาดเผยให้เห็นความหล่อตั้งแต่
ตอนพิเศษ...ลูกสาวข้าใครอย่าแตะ กาลเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนพสุธาไม่อยากจะเชื่อ จากชายหนุ่มวัยเลยเบญจเพสกลับกลายเป็นคุณพ่อลูกห้าที่ยังคงความหล่อและเฟี้ยวเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแม้ว่าจะอายุสี่สิบเอ็ดปีแล้วก็ตามไม่ต่างจากภรรยาที่ยังคงสวยราวกับหยุดใบหน้าไว้ที่อายุยี่สิบห้าปี “พ่อครับ วันนี้ผมเห็นใครก็ไม่รู้ให้ดอกไม้พี่วีด้วย” จากเด็กชายตัวน้อยที่ชอบเล่นรถแบคโฮกลับกลายเป็นหนุ่มตัวสูงโย่งกว่าเพื่อนในห้องเสียงเริ่มแตกหนุ่ม “จริงหรือลูก! มันเป็นใคร” คุณพ่อจากที่นั่งดูภาพในจอแมคบุ๊คเครื่องใหม่ที่เพิ่งถอยเพราะเครื่องเก่าตกน้ำแช่นานร่วมวันโดนเมียด่าจนหูชาขนาดซื้อเครื่องใหม่มายังโดนทุกวันจนเริ่มคิดแล้วว่าวางยาเมียซะดีไหม “ตัวสูงๆ ไม่ค่อยหล่อเลยนะพ่อ หน้าตาเหมือนโจรไม่น่าไว้ใจ” นั่งลงข้างบิดาที่โซฟากลางห้องรับแขก ชุดนักเรียนก็ยังไม่ถอดเพราะจะนำเรื่องราวเหล่านี้มาบอกพ่อให้ได้รู้ก่อน เด็กชายพชิราอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่หนึ่งเพิ่งสอบเข้าได้เรียนที่เดียวกับพี่สาวต่างจากน้องอีกสามคนที่เรียนนานาชาติแต่ปีหน้าเด็กแฝดก็คงไปสอบเข้าโรงเรียนเดียวกับพี่ทั้งสองคน
บทนำ หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อได้สัมผัสกับริมฝีปากหนาได้รูปของคนที่ครอบครองหัวใจเธอมานานแสนนาน อาจด้วยเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือเหตุผลกลใดก็ตาม ที่ทำให้ร่างสูงกระทำการอุกอาจแบบนี้เธอก็ไม่อาจทราบได้ “อึก”หายใจไม่ทันเพราะไม่ประสีประสากับเรื่องนี้ เธอยังอ่อนหัดกับภาษากาย ร่างสูงผละออกมองใบหน้าหวานที่ขึ้นสีแดงก่อนจะยิ้มมุมปาก เขาจูบเธออีกครั้งด้วยความร้อนแรงราวกับต้องการสูบวิญญาณของหญิงสาวในอ้อมกอดไป ลิ้นหนาทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมแม้เธอจะเงอะงะเพียงใด ชายหนุ่มก็ไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดตรงข้ามกลับเอ็นดูเมื่อเธอพยายามที่จะเรียนรู้และโต้ตอบกลับ ลิ้นเกี่ยวกระหวัดกันเนิ่นนานซึมซับความหวานของอีกคนไว้ “พอ พอก่อน”แขนเรียวที่คล้องคอคนตัวสูงค่อยๆ ลดลงมาจับเอวหนาเอาไว้ก่อนจะพยายามฝืนตนเองออกมาเพราะรู้ว่าไม่สมควร “อีกนิด”แต่มีหรือที่คนตัวใหญ่จะยอมกลับดึงเธอเข้ามาชิดสูดดมความหอมของลำคอขาวผ่องและประทับรอยสีแดงกุหลาบเอาไว้อย่างเป็นเจ้าของ คนเอาแต่ใจวกกลับมาชิมริมฝีปากบางอีกครั้งอย่างคนไม่รู้จักพอ แต่ครั้งนี้กลับจุมพิตเธออย่างอ่อนหวาน นุ่มนวลจนหญิงสาวได
บทที่หนึ่ง...ตั้งแต่เป็นสาวเต็มกายตั้งแต่ เป็นสาวเต็มกาย หาผู้ชายถูกใจไม่มีเมื่อคืน ฝันดีน่าตบ ฝันฝันว่าพบผู้ชายยอดดีพาไปเที่ยวดูหนัง พาไปนั่งจู๋จี๋แล้วพาไปเที่ยว ชมสวนเด็ดดอกลำดวนส่งให้ด้วยสิเสียบหูให้ตั้งหลายหนน่ะเสียบหล่น อ่ะเสียบหล่น ตั้งห้าหกทีต๊กใจ ตื่นตอน ตีสี่แหมเสีย ดายจัง เฮ่อ เสียดายจังเพลงผู้ชายในฝัน : คำร้อง/ทำนอง วิเชียร คำเจริญเสียงเพลงของนักร้องลูกทุ่งสาวผู้ล่วงลับไปแล้วดังขึ้นทั่วผับชื่อดังที่ถูกปิดชั่วคราว เนื่องจากต้องการฉลองให้กับลูกสาวของตนเองที่เรียนจบปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจจากประเทศสหรัฐอเมริกา อีกทั้งกลับมาเมืองไทยได้เพียงไม่นานก็ได้ตำแหน่งรองผู้จัดการแผนกโฆษณาของบริษัทจำหน่ายเครื่องสำอางแบรนด์ดัง ผู้คนที่เข้ามาในงานต่างก็เป็นเพื่อนที่รู้จักคุ้นเคยของลูกหรือเพื่อนของผู้เป็นบิดาที่ท่านชวนมาเพื่อสังสรรค์“เจ้าของงานมาแล้ว” พิธีกรประกาศใส่ไมค์ทำให้ทุกสายตาจ้องไปที่ประตูทางเข้าก่อนจะพบร่างบางในชุดราตรียาวสีครามมีคริสตัลประดับรอบกระโปรงต้องแสงไฟทำให้ส่องประกายระยิบระยับ ใบหน้าหวานประดับรอยยิ้มระหว่างเดินเข้ามาภายในงานของตนเอง“สวยขึ้นมากเลยดาว” ชนินาถเพื่อ
บทที่สอง…กะทันหันไปหมด ระหว่างที่นั่งรถมาด้วยกัน ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรกันเลยสักคำนอกจากร่างสูงจะนั่งฮัมเพลงราวกับมีความสุขนักหนา ซึ่งเธอไม่เข้าใจเลยทำไมจึงเป็นเช่นนั้น พสุธาหวงชีวิตโสดดูได้จากการที่เขาไม่เคยคบผู้หญิงคนไหนเลยนอกจาก...น้องเล็ก เด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มที่อยู่ข้างบ้านเธอ “แกไปส่งฉันที่คอนโดก็ได้” ดาริกาเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายมุ่งตรงไปยังบ้านของเธอ “ไปอยู่คอนโดตั้งแต่เมื่อไหร่” ถามด้วยความสงสัยเพราะปกติ ตลอดช่วงเวลาในการเรียนเธอก็อยู่ที่บ้านตลอดทั้งยังเป็นคนที่ค่อนข้างติดบ้านอีกด้วย ไม่นับรวมเวลาต้องมาสอนการบ้านหรือทำงานกลุ่มที่บ้านของเขาก็มักจะเห็นหญิงสาวอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน “ตั้งแต่กลับไทย บ้านไกลจากที่ทำงาน” แล้วทั้งรถก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้งโดยที่ดาริกาก็ไม่ได้ชวนคุยแต่อย่างใด สี่ปีที่ห่างกันทำให้ความเป็นเพื่อนของทั้งสองคนดูห่างออกไปเช่นเดียวกัน เพราะเธอรู้สึกเหมือนพสุธาเป็นคนแปลกหน้า หากเป็นเมื่อก่อนคงไม่มีความเงียบระหว่างกัน อาจจะเป็นพสุธาที่ชวนคุยหรือเธอที่เอ่ยถามว่าตลอดสี่ปีเขาทำอะไรบ้าง ร
บทที่สาม...เราจะตีป้อม ในที่สุดงานแต่งก็มาถึง ช่วงเช้าเป็นพิธีรดน้ำสังข์ง่ายๆ ที่บ้านของเจ้าสาว เชิญเพียงญาติและคนสนิทมาเท่านั้น ขบวนขันหมากเจ้าบ่าวแห่มาโดยมีเจ้าสาวแอบดูอยู่บนบ้าน วันนี้ดาริกาอยู่ในชุดไทยสีทองสง่างามขับผิวขาวให้ดูเนียนตา ผมยาวถูกรวบขึ้นมัดอย่างสวยงามพร้อมเสียบปิ่นปักผมไว้ด้วย ใบหน้าหวานแย้มยิ้มอย่างมีความสุขโดยมีเพื่อนยืนอยู่ด้วย “หน้าบานเลยนะ” กีรติผู้รู้ใจเพื่อนเอ่ยแซว หากไม่ท้องเธอคงได้ทำหน้าที่เพื่อนเจ้าสาวด้วย แต่เมื่อมีลูกจึงเป็นเพียงแขกมาร่วมงาน “อะไรกัน เราไม่ได้ยิ้มสักหน่อย” ปฏิเสธเสียงอ่อยแล้วปิดม่านลงเพราะกลัวโดนเพื่อนล้ออีก ในห้องนอนมีเพียงเจ้าสาวและกีรติสองคนเพราะคนที่เหลือลงไปรอกั้นประตูเงินประตูทองที่ด้านล่าง ช่างแต่งหน้าเดินมาสำรวจความเรียบร้อยครั้งสุดท้ายจึงลากลับ “ยินดีด้วยจริงๆ นะ ไม่คิดว่าจะเป็นเธอกับดิน” สมัยมัธยมแม้มีคนแซวอยู่บ้างแต่ก็ไม่มีใครคิดจริงจังเพราะพสุธาควงหญิงได้ไม่ซ้ำหน้า เจ้าชู้ประตูดิน รถไฟชนกันก็บ่อยใครจะคิดว่าจะได้แต่งงานกับเพื่อนสาวคนสนิททั้งที่ยังหนุ่มยังแน่นอยู่ในวัยเจริญพันธ์เลย