สิรินทร์มีไข้สูง เขานอนซมอยู่บนเตียงโดยมีคุณหมอพิพัฒน์เป็นคนดูแล พิพัฒน์ที่กำลังเช็ดตัวให้กับโอเมก้า เขาตะแคงหูฟังเพราะโอเมก้าพึมพำเบาๆอย่างคนไม่มีสติ
"ผมรักคุณอานะครับ" พิพัฒน์ได้ยินถึงกับอึ้งไป เขาไม่รู้เลยว่าหลานชายตัวน้อยของเขาแอบหลงรักเขา เขาคิดกับโอเมก้าเพียงแค่หลานมาตลอดระยะเวลาที่รู้จักกัน ตอนที่สิรินทร์เกิดเขาอยากได้ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล และได้อุ้มหนูน้อยของเขาด้วยซ้ำ "แล้วอาจะทำอย่างไรต่อไปนะเสือ อาควรทำยังไงดี" พิพัฒน์ยืนดูโอเมก้าที่ตอนนี้หลับสนิทเพราะฤทธิ์ยาที่เขาฉีดให้ เขาคิดไม่ตกเลย ไหนจะกลัวเพื่อนสนิทรู้ ไหนจากอนาคตของหลาน อายุที่ห่างกัน สิรินทร์กับเขาอายุห่างกันถึง35 ปีเลยทีเดียว มันไม่ใช่ระยะห่างที่น้อยๆ เขาสามารถเป็นพ่อของสิรินทร์ได้ พิพัฒน์นั่งอยู่ในห้องจนถึงเย็น กว่าที่โอเมก้าจะฟื้นขึ้น เขาก็ทำอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว สิรินทร์เดินออกจากห้องนอน เขานึกว่าคุณอากลับไปแล้ว แต่พอเขาออกมา ก็ได้กลิ่นอาหารลอยมาเตะจมูกทันที "ตื่นแล้วเหรอ อาทำข้าวต้มไว้ให้มาทานเร็วจะได้ทานยา" พิพัฒน์ยิ้มให้กับโอเมก้าที่เดินออกมาจาก ห้อง เขาถือวิสาสะใช้ห้องครัวของโอเมก้าในการทำอาหาร พิพัฒน์เดินมาที่สิรินทร์ที่ยืนอยู่หน้าประตูพร้อมกับก้มลงช้อนขาของโอเมก้าขึ้นในท่าอุ้มเจ้าสาวเหมือนเดิมแล้วอุ้มมาที่โต๊ะอาหาร "ผมเดินเองได้นะครับคุณอา" "เสือยังเจ็บอยู่ให้อาอุ้มเถอะ" สิรินทร๋ยิ้มทันทีอย่างน้อยๆคุณอาพิพัฒน์ก็ไม่ได้ใจร้ายกับเขา ยังดูแลเขาเหมือนเขาเป็นเจ้าหญิงคนหนึ่ง อย่างที่อาเคยพูดไว้ตอนที่เขายังเด็ก ว่าเขาเหมือนเจ้าหญิงที่น่าทะนุถนอม "ทานข้าวต้มก่อนนะ อาเพิ่งทำเสร็จเมื่อกี้ยังร้อนอยู่ เดี๋ยวอาไปเตรียมยาไว้ให้" อัลฟ่าวางถ้วยข้าวต้มลงตรงหน้าโอเมก้าพร้อมกับกำลังจะหันหลังแต่โดนดึงแขนเอาไว้ "ขอบคุณนะครับคุณอาที่ดูแลผม" "อาเป็นคนทำให้เสียเจ็บ ถึงอาจะไม่ได้ตั้งใจก็เถอะ มันเป็นสิ่งที่อาทำผิดพลาด อาก็ต้องรับผิดชอบ" คำพูดของพิพัฒน์ทำให้สิรินทร์ถึงกับอึ้งไป ก่อนที่น้ำตาจะค่อยๆไหลออกจากดวงตาของโอเมก้า "คุณอาทำไปเพราะหน้าที่สินะครับ" พิพัฒน์มองหน้าสิรินทร์ก่อนที่จะตกใจเพราะโอเมก้ากำลังร้องไห้ "เสือ!!! ร้องไห้ทำไม อย่าร้องไห้นะ อาทำผิดอะไรไหนบอกอาสิ" "คุณอากลับไปได้แล้วครับ ผมอยากอยู่คนเดียว" "ไม่!! อาไม่กลับ อาพูดอะไรผิด ทำไมเสือถึงร้องไห้!!!" "..." สิรินทร์ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาเลือกจะลุกจากโต๊ะอาหารก่อนที่จะเดินเข้าห้องของตัวเองและล็อคห้องทันที การกระทำของโอเมก้าทำให้พิพัฒน์ถึงกับงง จนถึงตอนนี้เขายังไม่รู้เลยว่าคำพูดไหนของเขาทำให้หลานชายถึงกับร้องไห้ "เสือ!!!เปิดประตูให้อาหน่อย ออกมาคุยกันก่อน" ภายในห้องยังคงเงียบสนิททำให้พิพัฒน์หนักใจ เขาไม่ได้คิดว่าคำพูดของเขาจะทำร้ายใจของสิรินทร์เลย เพราะสิ่งที่เขาพูดออกมามันเป็นความจริงทั้งนั้น "เสือ!!ออกมาคุยกับอาก่อน" สิรินทร์มองบานประตูที่ถูกเคาะ เขารู้ว่าสิ่งที่เขาทำมันผิด เขาเป็นคนเสนอตัวให้กับคุณอาพิพัฒน์เอง คุณอาไม่ได้ผิดอะไรเลย คนผิดคือเขาคนเดียว เขาก็ต้องรับกรรมที่ก่อด้วยตัวเอง พิพัฒน์กลับมานั่งที่โซฟาในห้องรับแขก เขามองไปยังบานประตูที่ถูกปิดสนิท เขาไม่เข้าใจโอเมก้าในสักนิด ทำไมถึงโกรธทั้งๆที่ไม่ได้มีอะไรน่าโกรธเลย เขาไม่ได้ออกไปไหนเลย ถึงแม้ว่าสิรินทร์จะไม่ได้ออกมาก็ตาม เขารู้สึกเป็นห่วงมากเพราะว่าสิรินทร์ยังไม่ยอมทานยา แถมยังขังตัวเองไว้ในห้องอีกต่างหาก เขาพยายามเคาะหลายครั้งแล้วแต่คนด้านไหนก็ยังคงเงียบสนิท เขาจึงทำได้เพียงนั่งเฝ้าอยู่ในห้องรับแขกเท่านั้น ภายในห้องสิรินทร์เองก็ไม่ได้หลับเลยแม้แต่นิดเดียว เขารู้สึกเสียใจกับคำพูดของอัลฟ่า ที่บอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่ความผิดพลาด ทั้งๆที่เขาตั้งใจให้มันเกิดขึ้น ตอนนี้เขาเริ่มคิดแล้วว่า เขาคิดถูกไหมที่มอบหัวใจให้กับคุณอาพิพัฒน์ ก็เหมือนว่าคุณอาจจะไม่ได้สนใจหรืออยากเป็นคู่พันธะกับเขาเลย สิรินทร์ซบหน้าลงกับหมอนพร้อมกับร้องไห้ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ เขาควรทำอย่างไรดี ควรจะหายไปจากชีวิตของคุณอาดีไหม เพราะถ้าเขายังฝืนต่อไป เขาอาจจะเจ็บมากกว่านี้ก็ได้ นี่ขนาดว่าได้กันแล้วคุณอายังไม่สนใจเขาเลย ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ที่ดีที่สุดแล้วว่า ต่อให้มีอะไรกันก็ดึงใจคุณอาไว้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เขาสมควรทำที่สุดตอนนี้คือถอยออกมา ถอยออกมาดูแลใจตัวเอง และสู้ใหม่อีกครั้งกับคนที่พร้อมจะเดินไปด้วยกันกับเขา ตอนนี้สิรินทร์สามารถตัดสินใจได้แล้วว่า เขาจะถอยใจออกจากคุณหมอพิพัฒน์ คนที่เขาหลงรักมาหลายปี ปล่อยเรื่องราวของคืนวันไนท์สแตนด์ ให้เป็นเพียง 1 คืนก็พอ ไม่อย่างนั้นแล้ว หัวใจเขาก็จะเจ็บอยู่แบบนี้ตลอดไปณ ผับแห่งหนึ่ง เสียงเพลงที่ทำให้แขกอยู่ในร้านต่างโยกย้ายสายสะโพกกันไปมา บรรยากาศในร้านดูครื้นเครง แล้วที่เป็นจุดเด่นมากก็คือ ที่ผับแห่งนี้ ทุกคนจะต้องอยู่ภายใต้หน้ากาก มันเป็นจุดเด่นของร้านนี้ แขกที่มาสามารถค้นหาคู่นอนแบบ one night stand โดยไม่จำเป็นต้องรู้จักกัน หลายคู่ที่เจอคู่นอนของตัวเองแล้วก็สามารถเปิดห้องชั้นบนทำกิจกรรมกันได้ทันทีเด็กหนุ่มสายพันธุ์โอเมก้า ภายใต้หน้ากากขนนกสีม่วง เขามีผมสีม่วง แววตาสีม่วง กลิ่นฟีโรโมนดอกลาเวนเดอร์ กำลังนั่งอยู่ในโซน VIP เขานั่งไขว่ห้างมองทุกคนที่อยู่ในร้านอย่างเรียบนิ่งโดยไม่คิดที่จะหาอัลฟ่ามาเป็นคู่นอน สายตาของเขาจับจ้องไปเพียงคนที่นั่งจิบเบียร์อยู่ที่เคาน์เตอร์โดยใส่หน้ากากมหาโจรสีดำ เขาจำได้ดีว่าคนที่อยู่ภายใต้หน้ากากนั้นเป็นใคร "สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าคุณมีคู่แล้วหรือยัง"สิรินทร์เงยหน้าจากแก้วไวน์ที่เขากำลังจิบก่อนจะมองไปยังอัลฟ่าที่ยืนอยู่ไม่ห่าง"มีแล้วครับ"สิรินทร์ตอบคำถามไปแบบไม่เร่งรีบอะไร คำตอบของโอเมก้าทำให้อัลฟ่าที่ถามถึงกับเดินหนีไปทันที ที่นี่มีกฏห้ามบังคับขืนใจกันโดยเด็ดขาดสิรินทร์ เลิศรัตนวรชัย อายุ 22 ปี โอเมก้าฟีโรโมนกลิ่นลาเ
ใช้เวลาเพียงไม่นานเสื้อผ้าของสิรินทร์ก็ถูกถอดออกจากเรือนร่าง พิพัฒน์เห็นความขาวผ่อง ฟีโรโมนกลิ่นลาเวนเดอร์ถูกปล่อยออกมาผสมไปกับฟีโรโมนกลิ่นมิ้นของเขา พิพัฒน์ลากลิ้นยาวตั้งแต่ต้นคอลงมาจนถึงยอดอกของโอเมก้า เนื้อตัวของโอเมก้าหอมมาจากข้างใน ไม่ได้มีกลิ่นของน้ำหอมผสมอยู่เลย"ผมไม่เคยเจอใครแบบคุณเลย"สิรินทร์ยิ้มกว้างภายใต้หน้ากาก หน้าตาของเขาเห็นเฉพาะดวงตาและปากเท่านั้น ทำให้สามารถจุมพิตกับอัลฟ่าได้"ทำไมหอมแบบนี้!"สิรินทร์ไม่ได้ตอบคำถามของอัลฟ่า ภายใต้เรือนร่างเปล่าเปลือยที่อยู่ต่อหน้าของพิพัฒน์ ตัวสิรินทร์เองก็มีความอาย เขาไม่ได้มีประสบการณ์ในเรื่องเซ็กซ์เลย แต่เพราะความรักล้วนๆทำให้เขายอมพิพัฒน์ใช้ลิ้นร้อนลากไปจนถึงหน้าท้องที่แบนราบ เรียกเสียงครางหวานๆจากโอเมก้าได้ไม่ขาดปาก"อือออ..อ๊ะ!"พิพัฒน์รู้สึกว่าโอเมก้าคนนี้กระตุ้นอารมณ์ของเขาได้ง่ายมาก ตอนนี้ลูกชายตัวน้อยของเขาตื่นเต็มที่ทั้งๆที่โอเมก้ายังไม่ได้แตะต้องเลยแม้แต่นิดเดียว"ผมขอเข้าเลยได้ไหม ผมรู้สึกไม่ไหว""....." ไร้เสียงตอบรับจากโอเมก้า แต่ใบหน้าขาวก็พยักหน้าให้เพียงเล็กน้อย เป็นเชิงว่าอนุญาตพิพัฒน์แหวกขาของโอเมก้าออกเพียงเล็
สิรินทร์นอนมองชายที่เขายอมมอบสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตให้ ถึงแม้ว่าชายตรงหน้าจะไม่ได้รู้สึกเช่นเดียวกันกับเขาก็ตาม สิรินทร์ค่อยๆถอดหน้ากากมหาโจรของคุณอาพิพัฒน์ออก ใบหน้าที่หล่อเหลาของคุณอาที่ทำให้เขาหลงรักมาตั้งแต่มหาวิทยาลัย รวมทั้งนิสัยใจคอและความเป็นผู้ใหญ่ สิรินทร์ถอดหน้ากากขนนกของตัวเองออกวางไว้ข้างเตียง ก่อนที่จะซุกเข้าหาอกกว้าง และหลับลงไปพร้อมกันเช้าวันต่อมา พิพัฒน์ตื่นขึ้นเขาขยับตัวอย่างเมื่อยขบ เมื่อคืนเป็นบทรักที่มีความสุขมาก เขาไม่เคยน็อทมาก่อน แต่เมื่อคืนเขาน็อทติดกับโอเมก้า จนหลับลงไปตอนไหนไม่รู้ พอพิพัฒน์ขยับตัวเขารู้สึกได้ว่ามีร่างหนึ่งนอนทับแขนเขาอยู่ เขาจึงเปิดผ้าห่มออกดู ก่อนที่จะชะงักไป"เฮ้ย!!!!"พิพัฒน์ถึงกับตะโกนลั่น เพราะภาพตรงหน้าที่เห็นคือหลานชายของเขา ลูกชายของไอ้สิงหลเพื่อนสนิทของเขาเอง"เสือ!!!!"ความเสียงดังทำให้สิรินทร์รู้สึกตัว เขาลืมตามองคุณพิพัฒน์ที่ตอนนี้เบิกตากว้าง "morning ครับคุณอา"เสือขยับตัวลุกขึ้นใช้หลังพิงกับหัวเตียงก่อนที่จะเอ่ยอรุณสวัสดิ์ตอนเช้ากับผู้เป็นอา"สะ ..เสือ!!มานอนในห้องอาได้ยังไง!!"พิพัฒน์ตะลึงงั้นกับภาพที่เห็นตรงหน้า เมื่อคืน
พิพัฒน์มาทำงานที่โรงพยาบาลด้วยจิตใจที่ว้าวุ่น วันนี้ทั้งวันเขาไม่มีสมาธิเลย พยายามมองหาโอเมก้าที่เป็นหลานของตัวเองแต่ก็ไม่เจอ"วันนี้คุณหมอสิรินทร์ มาทำงานหรือเปล่า"พิพัฒน์เคยถามนางพยาบาลที่ทำงานกับสิรินทร์"วันนี้คุณหมอสิรินทร์ลาป่วยนะคะคุณหมอ ถ้ามีอะไรจำเป็นโทรที่เบอร์ส่วนตัวได้เลยค่ะ"พิพัฒน์พยักหน้ารับ ก่อนที่จะกดเบอร์ออกไป เขารอเสียงอยู่ชั่วครู่ปลายสายจึงตอบกลับมา"ฮัลโหล!"เสียงแหบพล่าบ่งบอกปลายสายกำลังป่วย ทำให้พิพัฒน์ถึงกับขมวดคิ้ว"เสือป่วยเหรอ?!""ครับ"พิพัฒน์คิดถึงเรื่องของเมื่อคืน ถ้าเขาจำไม่ผิดโอเมก้าถูกเขากระทำเป็นคนแรก จึงไม่แปลกที่จะมีไข้ "ตอนนี้เสืออยู่ที่ไหน อยู่ที่คฤหาสน์เลิศรัตนวรชัยใช่ไหม""อยู่ที่คอนโดครับอา"พิพัฒน์ไม่สบายใจเลยเมื่อรู้ว่าสิรินทร์อยู่ที่คอนโด หลังจากที่วางสายแล้วเขาลางานทันที และตรงไปยังคอนโดของหลาน เขาเป็นคนทำให้หลานต้องป่วยเพราะฉะนั้นเขาจำเป็นต้องรับผิดชอบ พิพัฒน์เป็นคนที่ไม่ได้มีฐานะดีอะไรมากมาย เขามีกินมีใช้เพราะการทำงาน มีรถธรรมดาๆขับ 1 คันและไม่ได้มีหนี้สินอะไรแค่นี้ก็บุญแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะมีเพื่อนรวยอย่างสิงหล แต่เขาก็ไม่เคยที่จะไปเดือด
สิรินทร์มีไข้สูง เขานอนซมอยู่บนเตียงโดยมีคุณหมอพิพัฒน์เป็นคนดูแล พิพัฒน์ที่กำลังเช็ดตัวให้กับโอเมก้า เขาตะแคงหูฟังเพราะโอเมก้าพึมพำเบาๆอย่างคนไม่มีสติ"ผมรักคุณอานะครับ"พิพัฒน์ได้ยินถึงกับอึ้งไป เขาไม่รู้เลยว่าหลานชายตัวน้อยของเขาแอบหลงรักเขา เขาคิดกับโอเมก้าเพียงแค่หลานมาตลอดระยะเวลาที่รู้จักกัน ตอนที่สิรินทร์เกิดเขาอยากได้ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล และได้อุ้มหนูน้อยของเขาด้วยซ้ำ"แล้วอาจะทำอย่างไรต่อไปนะเสือ อาควรทำยังไงดี"พิพัฒน์ยืนดูโอเมก้าที่ตอนนี้หลับสนิทเพราะฤทธิ์ยาที่เขาฉีดให้ เขาคิดไม่ตกเลย ไหนจะกลัวเพื่อนสนิทรู้ ไหนจากอนาคตของหลาน อายุที่ห่างกัน สิรินทร์กับเขาอายุห่างกันถึง35 ปีเลยทีเดียว มันไม่ใช่ระยะห่างที่น้อยๆ เขาสามารถเป็นพ่อของสิรินทร์ได้ พิพัฒน์นั่งอยู่ในห้องจนถึงเย็น กว่าที่โอเมก้าจะฟื้นขึ้น เขาก็ทำอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว สิรินทร์เดินออกจากห้องนอน เขานึกว่าคุณอากลับไปแล้ว แต่พอเขาออกมา ก็ได้กลิ่นอาหารลอยมาเตะจมูกทันที "ตื่นแล้วเหรอ อาทำข้าวต้มไว้ให้มาทานเร็วจะได้ทานยา"พิพัฒน์ยิ้มให้กับโอเมก้าที่เดินออกมาจาก ห้อง เขาถือวิสาสะใช้ห้องครัวของโอเมก้าในการทำอาหาร พิพัฒน
พิพัฒน์มาทำงานที่โรงพยาบาลด้วยจิตใจที่ว้าวุ่น วันนี้ทั้งวันเขาไม่มีสมาธิเลย พยายามมองหาโอเมก้าที่เป็นหลานของตัวเองแต่ก็ไม่เจอ"วันนี้คุณหมอสิรินทร์ มาทำงานหรือเปล่า"พิพัฒน์เคยถามนางพยาบาลที่ทำงานกับสิรินทร์"วันนี้คุณหมอสิรินทร์ลาป่วยนะคะคุณหมอ ถ้ามีอะไรจำเป็นโทรที่เบอร์ส่วนตัวได้เลยค่ะ"พิพัฒน์พยักหน้ารับ ก่อนที่จะกดเบอร์ออกไป เขารอเสียงอยู่ชั่วครู่ปลายสายจึงตอบกลับมา"ฮัลโหล!"เสียงแหบพล่าบ่งบอกปลายสายกำลังป่วย ทำให้พิพัฒน์ถึงกับขมวดคิ้ว"เสือป่วยเหรอ?!""ครับ"พิพัฒน์คิดถึงเรื่องของเมื่อคืน ถ้าเขาจำไม่ผิดโอเมก้าถูกเขากระทำเป็นคนแรก จึงไม่แปลกที่จะมีไข้ "ตอนนี้เสืออยู่ที่ไหน อยู่ที่คฤหาสน์เลิศรัตนวรชัยใช่ไหม""อยู่ที่คอนโดครับอา"พิพัฒน์ไม่สบายใจเลยเมื่อรู้ว่าสิรินทร์อยู่ที่คอนโด หลังจากที่วางสายแล้วเขาลางานทันที และตรงไปยังคอนโดของหลาน เขาเป็นคนทำให้หลานต้องป่วยเพราะฉะนั้นเขาจำเป็นต้องรับผิดชอบ พิพัฒน์เป็นคนที่ไม่ได้มีฐานะดีอะไรมากมาย เขามีกินมีใช้เพราะการทำงาน มีรถธรรมดาๆขับ 1 คันและไม่ได้มีหนี้สินอะไรแค่นี้ก็บุญแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะมีเพื่อนรวยอย่างสิงหล แต่เขาก็ไม่เคยที่จะไปเดือด
สิรินทร์นอนมองชายที่เขายอมมอบสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตให้ ถึงแม้ว่าชายตรงหน้าจะไม่ได้รู้สึกเช่นเดียวกันกับเขาก็ตาม สิรินทร์ค่อยๆถอดหน้ากากมหาโจรของคุณอาพิพัฒน์ออก ใบหน้าที่หล่อเหลาของคุณอาที่ทำให้เขาหลงรักมาตั้งแต่มหาวิทยาลัย รวมทั้งนิสัยใจคอและความเป็นผู้ใหญ่ สิรินทร์ถอดหน้ากากขนนกของตัวเองออกวางไว้ข้างเตียง ก่อนที่จะซุกเข้าหาอกกว้าง และหลับลงไปพร้อมกันเช้าวันต่อมา พิพัฒน์ตื่นขึ้นเขาขยับตัวอย่างเมื่อยขบ เมื่อคืนเป็นบทรักที่มีความสุขมาก เขาไม่เคยน็อทมาก่อน แต่เมื่อคืนเขาน็อทติดกับโอเมก้า จนหลับลงไปตอนไหนไม่รู้ พอพิพัฒน์ขยับตัวเขารู้สึกได้ว่ามีร่างหนึ่งนอนทับแขนเขาอยู่ เขาจึงเปิดผ้าห่มออกดู ก่อนที่จะชะงักไป"เฮ้ย!!!!"พิพัฒน์ถึงกับตะโกนลั่น เพราะภาพตรงหน้าที่เห็นคือหลานชายของเขา ลูกชายของไอ้สิงหลเพื่อนสนิทของเขาเอง"เสือ!!!!"ความเสียงดังทำให้สิรินทร์รู้สึกตัว เขาลืมตามองคุณพิพัฒน์ที่ตอนนี้เบิกตากว้าง "morning ครับคุณอา"เสือขยับตัวลุกขึ้นใช้หลังพิงกับหัวเตียงก่อนที่จะเอ่ยอรุณสวัสดิ์ตอนเช้ากับผู้เป็นอา"สะ ..เสือ!!มานอนในห้องอาได้ยังไง!!"พิพัฒน์ตะลึงงั้นกับภาพที่เห็นตรงหน้า เมื่อคืน
ใช้เวลาเพียงไม่นานเสื้อผ้าของสิรินทร์ก็ถูกถอดออกจากเรือนร่าง พิพัฒน์เห็นความขาวผ่อง ฟีโรโมนกลิ่นลาเวนเดอร์ถูกปล่อยออกมาผสมไปกับฟีโรโมนกลิ่นมิ้นของเขา พิพัฒน์ลากลิ้นยาวตั้งแต่ต้นคอลงมาจนถึงยอดอกของโอเมก้า เนื้อตัวของโอเมก้าหอมมาจากข้างใน ไม่ได้มีกลิ่นของน้ำหอมผสมอยู่เลย"ผมไม่เคยเจอใครแบบคุณเลย"สิรินทร์ยิ้มกว้างภายใต้หน้ากาก หน้าตาของเขาเห็นเฉพาะดวงตาและปากเท่านั้น ทำให้สามารถจุมพิตกับอัลฟ่าได้"ทำไมหอมแบบนี้!"สิรินทร์ไม่ได้ตอบคำถามของอัลฟ่า ภายใต้เรือนร่างเปล่าเปลือยที่อยู่ต่อหน้าของพิพัฒน์ ตัวสิรินทร์เองก็มีความอาย เขาไม่ได้มีประสบการณ์ในเรื่องเซ็กซ์เลย แต่เพราะความรักล้วนๆทำให้เขายอมพิพัฒน์ใช้ลิ้นร้อนลากไปจนถึงหน้าท้องที่แบนราบ เรียกเสียงครางหวานๆจากโอเมก้าได้ไม่ขาดปาก"อือออ..อ๊ะ!"พิพัฒน์รู้สึกว่าโอเมก้าคนนี้กระตุ้นอารมณ์ของเขาได้ง่ายมาก ตอนนี้ลูกชายตัวน้อยของเขาตื่นเต็มที่ทั้งๆที่โอเมก้ายังไม่ได้แตะต้องเลยแม้แต่นิดเดียว"ผมขอเข้าเลยได้ไหม ผมรู้สึกไม่ไหว""....." ไร้เสียงตอบรับจากโอเมก้า แต่ใบหน้าขาวก็พยักหน้าให้เพียงเล็กน้อย เป็นเชิงว่าอนุญาตพิพัฒน์แหวกขาของโอเมก้าออกเพียงเล็
ณ ผับแห่งหนึ่ง เสียงเพลงที่ทำให้แขกอยู่ในร้านต่างโยกย้ายสายสะโพกกันไปมา บรรยากาศในร้านดูครื้นเครง แล้วที่เป็นจุดเด่นมากก็คือ ที่ผับแห่งนี้ ทุกคนจะต้องอยู่ภายใต้หน้ากาก มันเป็นจุดเด่นของร้านนี้ แขกที่มาสามารถค้นหาคู่นอนแบบ one night stand โดยไม่จำเป็นต้องรู้จักกัน หลายคู่ที่เจอคู่นอนของตัวเองแล้วก็สามารถเปิดห้องชั้นบนทำกิจกรรมกันได้ทันทีเด็กหนุ่มสายพันธุ์โอเมก้า ภายใต้หน้ากากขนนกสีม่วง เขามีผมสีม่วง แววตาสีม่วง กลิ่นฟีโรโมนดอกลาเวนเดอร์ กำลังนั่งอยู่ในโซน VIP เขานั่งไขว่ห้างมองทุกคนที่อยู่ในร้านอย่างเรียบนิ่งโดยไม่คิดที่จะหาอัลฟ่ามาเป็นคู่นอน สายตาของเขาจับจ้องไปเพียงคนที่นั่งจิบเบียร์อยู่ที่เคาน์เตอร์โดยใส่หน้ากากมหาโจรสีดำ เขาจำได้ดีว่าคนที่อยู่ภายใต้หน้ากากนั้นเป็นใคร "สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าคุณมีคู่แล้วหรือยัง"สิรินทร์เงยหน้าจากแก้วไวน์ที่เขากำลังจิบก่อนจะมองไปยังอัลฟ่าที่ยืนอยู่ไม่ห่าง"มีแล้วครับ"สิรินทร์ตอบคำถามไปแบบไม่เร่งรีบอะไร คำตอบของโอเมก้าทำให้อัลฟ่าที่ถามถึงกับเดินหนีไปทันที ที่นี่มีกฏห้ามบังคับขืนใจกันโดยเด็ดขาดสิรินทร์ เลิศรัตนวรชัย อายุ 22 ปี โอเมก้าฟีโรโมนกลิ่นลาเ