เกินคาดคิด ยัยเด็กปากร้ายนี้แท้จริงแล้วหวานฉ่ำจนเขาไม่อยากหยุด ฝ่ามือเลื่อนมาลูบไล้แผ่นหลัง ไม่เคยคิดเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะปั่นปวนอารมณ์เขาได้มากถึงเพียงนี้
“พอ...พอแล้ว..” บัวชมพูเบือนหน้าหนีก็พูดออกมาด้วยเสียงสั่น “พอได้แล้ว”
“พอแล้วจริงๆ เหรอ” เขายั่วแล้วงับติ่งหูของเธอเล่น ทำให้หญิงสาวย่นคอเหมือนเต่าตัวน้อย
บัวชมพูพยายามเรียกสติของตัวเอง เธอเคยคิด เคยจินตนาการเรื่องระหว่างชายหญิงกับผู้ชายที่เธอปลื้มนั้นก็คือเขา แต่ไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้จริง ไม่ว่าอย่างไร คนอย่างอลังการไม่มีวันสนใจผู้หญิงอย่างเธอแน่นอน มันเหมือนเธออยู่ผิดที่ผิดเวลา หากวันนั้นเธอไม่ได้ยืนอยู่ในระยะเอื้อมมือคว้า เขาจะโอบไหล่เธอแล้วบอกว่าเป็นเมียอย่างนั้นเหรอ
“คุณเล่นเลยเถิดไปแล้วนะ”
อลังการเลิกคิ้วประหลาดใจกับน้ำเสียงเย็นชาของหญิงสาว คราวนี้เธอไม่ได้แสดงสีหน้าหวั่นไหวใดๆ อีก ด้วยท่าทางของเธอเป็นอย่างนี้ทำให้ความมั่นใจในเสน่ห์ของตัวเองหายไปหมด
ไม่จริงน่า! นอกจากจูบไม่มัดใจแล้วยังยั่วผู้หญิงไม่สำเร็จอีกเหรอ?
“หนูต้องทำกับข้าวนะคะ ประเดี๋ยวเตรียมไม่ทันคุณอาปกรณ์มากินข้าว คุณใหญ่ไปอาบน้ำดีกว่าค่ะ อย่ามายุ่งในครัวเลย”
เพราะมัวแต่นิ่งอึ้งจึงไม่ได้รั้งร่างเล็กไว้ บัวชมพูหลุดจากอ้อมกอดง่ายดาย เธอเบี่ยงตัวเดินไปหยิบผักที่ซื้อมาออกมาล้างแล้วทำอย่างอื่นไม่สนใจคนตัวโตที่ยืนทำอะไรไม่ถูก เขาได้แต่ยกมือขึ้นเสยผมแก้เขินแล้วเดินขึ้นไปชั้นบน บัวชมพูถอนหายใจยาวเมื่อเห็นว่าเขาเดินขึ้นชั้นบนของบ้านไปแล้ว หญิงสาวยกมือลูบอกพยายามสงบใจแล้วบอกตัวเองว่า ‘เขาก็แค่แมวหนุ่มที่หยอกหนูตัวน้อยเล่นเท่านั้น’
บัวชมพูสลัดความคิดในหัวออกไปแล้วตั้งใจทำกับข้าวสามสี่รายการ ต้มยำกุ้งน้ำใสรสจัดจ้าน ผัดผักรวมมิตร กั้งทอดกระเทียมและ ยำทะเลรสเด็ด เธอเดาว่าทั้งสองชอบรสเผ็ดจัด ดูจากที่อลังการกับปกรณ์สั่งอาหารในวันก่อน และเพราะช่วยงานรุ่งรวีเป็นประจำ เรื่องทำอาหารเธอไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร ไม่อาจเรียกตัวเองว่าเก่งกาจ แต่รสมือเธอนั้นใครชิมก็ต้องติดใจ
อลังการขึ้นไปสงบสติอารมณ์ตัวเองอยู่ในห้องนอน นอนกลิ้งไปกลิ้งมาเหมือนหมีสมองตันคิดอะไรไม่ออก เขาติดใจยัยเด็กปากดีคนนั้น? เขาหงุดหงิดที่เธอไม่พูดคุย เขาสนุกที่ได้โต้เถียง เขาพอใจที่เห็นสองแก้มนั้นแดงระเรื่อ เขาหลงใหลรสชาติริมฝีปากและกลิ่นกายหอมละมุน
อะไรกัน? เขาหลงเด็กเข้าให้จริงๆเหรอ? บ้าไปแล้ว เขาอายุเท่าไหร่ ยัยเด็กนั้นบรรลุนิติภาวะหรือยัง เด็กน้อยแค่อยากได้เงินไปรักษาแม่ก็แค่นั้น ไม่ได้คิดอะไรจริงจังกับเขา แล้วเขาเล่า จริงจังกับเด็กที่เพิ่งเจอไม่นานนี่หรือ? ทำไมเขากลายเป็นคนแบบนี้ไปได้
คราวแรกเขาคิดจะแช่น้ำอุ่น ชั้นบนมีห้องอาบน้ำขนาดใหญ่ยากต่างหาก เป็นห้องอาบน้ำที่สามารถมองเห็นวิวทะเล เขาเปิดน้ำแล้วเปลี่ยนใจเดินกลับมาที่ห้องนอน ทิ้งตัวนอนบนเตียง
เพราะไม่อยากเผชิญหน้าทั้งที่ยังไม่เข้าใจอารมณ์ตัวเองจึงเลี่ยงที่จะเดินลงไปชั้นล่าง เขาขังตัวเองอยู่ในห้องจนกระทั่งใกล้สี่โมงเย็นจึงเดินลงมา แล้วพบว่าอาปกรณ์ยืนอยู่ในครัวส่งเสียงหัวเราะกับบัวชมพูอยู่ก่อนแล้ว
“อ้าว! อาปกรณ์มาเมื่อไหร่ครับ ไหนบอกจะมาถึงตอนสี่โมงไง”
“มาก่อนเวลานัดไม่ได้หรือไง พูดเหมือนเป็นคนอื่นคนไกล” ปกรณ์ส่ายหน้าไปมาแล้วยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่ม
“เฮ้ย! อาปกรณ์เปิดเบียร์!”
“เออ” ปกรณ์ขมวดคิ้ว “ทำไม หวงเบียร์ในตู้เย็นหรือไง เห็นมีตั้งหลายกระป๋อง”
“ไม่ใช่อย่างนั้น” เขาเดินเข้าไปใกล้บัวชมพูแล้วพูดขึ้น “ทำไมไม่ไปเรียกฉัน”
บัวชมพูยังไม่ทันพูดอะไร ปกรณ์ก็โบกมือห้ามไว้ก่อน
“ก็เมียแกทำกับข้าวอยู่ จะให้ไปตามแกทำไม อีกอย่าง นี่เมีย ไม่ใช่คนรับใช้ จะได้ทำตามที่สั่งทุกอย่าง”
คราวนี้บัวชมพูก้มหน้าซ่อนรอยยิ้มขบขัน เธอทำเป็นไม่สนใจใบหน้าดุดันที่จ้องมองอยู่แล้วเอ่ยขึ้นมาบ้าง
“ตั้งโต๊ะเสร็จแล้วค่ะ กำลังจะขึ้นไปตามคุณใหญ่” เธอยิ้มกว้างอารมณ์ดีที่เห็นอลังการถูกปกรณ์สั่งสอนเบาๆ “คิดว่าคุณใหญ่หลับอยู่เลยไม่ได้ขึ้นไปตามตั้งแต่แรกค่ะ”
อลังการได้แต่พยักหน้ารับส่งๆไป เขากับปกรณ์เดินมานั่งที่โต๊ะอาหาร กับข้าวหลายอย่างน่ากินจนเขาแปลกใจ หลุดปากถามออกไป
“ทำเองหมดนี่เลยเหรอ”
“เฮ้ย! ทำไมถามเหมือนไม่เคยอยู่กับเมียแบบนั้นเล่า” ปกรณ์หัวเราะเสียงดัง “อร่อยด้วยนะ รู้ว่าทำกับข้าวอร่อยขนาดนี้ ไม่กินข้าวที่โรงแรมหรอก มากินบ้านนี้ดีกว่า แกนี่มันร้ายจริงๆ ไอ้คุณใหญ่”
“อาปกรณ์ก็พูดไปเรื่อย” อลังการทำเป็นไม่สนใจ แต่พอได้ชิมอาหารที่บัวชมพูทำก็ต้องยอมรับว่าเธอทำได้อร่อยถูกปากเขามาก
หญิงสาวกินข้าวร่วมโต๊ะ เห็นสองหนุ่มกินอาหารได้มากก็ดีใจ นั่งกินอาหารในจานของตัวเองพลางนึกถึงเรื่องที่พูดคุยกับอาปกรณ์ก่อนที่อลังการจะลงมาจากห้อง
‘ให้หนูไปตามคุณใหญ่ให้นะคะ’
‘สักประเดี๋ยวก็ได้ ฉันมีเรื่องอยากคุยกับหนูบัวอยู่พอดี’
‘ค่ะ คุณอาปกรณ์มีเรื่องอะไรคะ’
‘ตกลงหนูบัวกับไอ้ใหญ่เป็นอะไรกันแน่’
บัวชมพูเห็นสีหน้าจริงจังของปกรณ์แล้วก็คิดได้ว่าไม่ควรโกหก เพราะถึงอย่างไร ก็ต้องรู้ความจริงกันอยู่ดี จึงไม่คิดปิดบัง
‘คุณใหญ่จ้างหนูให้เป็นเมียปลอมๆ ตบตาคุณอาปกรณ์ค่ะ’
‘อืม’ ปกรณ์พยักหน้ารับ ‘แล้วหนูบัวคิดยังไง’
‘คิดยังไง? คุณอาปกรณ์หมายถึงอะไรคะ’
‘หนูบัวคิดกับไอ้ใหญ่ยังไงล่ะ’
‘คุณใหญ่เป็นคนดีค่ะ เขาไม่เคยล่วงเกินหนู’
‘แค่นั้น?’
‘ค่ะ คุณอาปกรณ์ไม่ต้องกังวลว่าหนูจะมาหลอกจับคุณใหญ่ได้ค่ะ คุณใหญ่เป็นคนที่มีความคิดเป็นของตัวเอง ยังไงไม่มีทางให้ใครมาจูงจมูกได้ง่ายๆ หรอกค่ะ’
‘หนูบัวนี่ดีนะ พูดจาตรงไปตรงมา แล้วไม่ชอบหลานของอาบ้างเหรอ มันก็ไม่ได้คนเลวร้ายอะไรนักหรอก’
คราวนี้บัวชมพูนิ่งไป ‘หนูชื่นชอบคุณใหญ่ค่ะ นับถือเพราะเขาเป็นเก่ง ส่วนเรื่องอื่นนั้น หนูบัวรู้ฐานะของตัวเองค่ะ’
‘ตอบไม่ตรงคำถาม’ ปกรณ์โคลงศีรษะไปมา ‘ที่บ้านไม่มีใครถือเรื่องไร้สาระพวกชาติตระกูลหรือฐานะหรอกนะ ตระกูลของอาหรือไอ้ใหญ่ร่ำรวยเพราะขายหยาดเหงื่อแรงงาน ถ้ารักกันจริง ยากดีมีจนยังไงก็สนับสนุน ขอให้เป็นคนดีก็พอ’
‘หนูไม่รู้ว่าคำว่าคนดีของคุณอาคืออะไร ต้องดีแค่ไหนถึงจะเรียกว่าดีพอ’ บัวชมพูยิ้ม
‘เอาเป็นว่า อาเชื่อใจว่าหนูบัวไม่ได้คิดมาปอกลอกไอ้ใหญ่หรือมาหลอกลวงอะไร อาก็อายุไม่น้อยพอจะดูคนออก เรื่องของหนูบัวกับไอ้ใหญ่ อาเป็นคนนอก แต่อาแค่อยากบอกว่า ถ้าหนูบัวชอบไอ้ใหญ่จริงๆ อาก็ไม่ขัดขวางอะไร’
‘หมายความว่ายังไงคะ’
‘ขอโทษนะ อาสืบประวัติหนูบัวแล้ว ถ้ามีปัญหาอะไรอยากให้อาช่วยก็บอกแล้วกัน อาถือป้ายไฟเชียร์หนูก็แล้วกัน’
ยังไม่ทันทีที่เธอจะอธิบายอะไรเพิ่ม ปกรณ์ก็บุ้ยปากเป็นเชิงบอกให้รู้ว่าอลังการออกมาจากห้องชั้นบนแล้ว ทั้งสองจึงเปลี่ยนเรื่องคุย เธอควรรู้สึกดีใจเหรอที่ปกรณ์กดไฟเขียวให้ทั้งที่เพิ่งรู้จักกัน เขาสืบประวัติเธอ อาจเห็นว่าน่าสงสารก็ได้
อาหารเย็นผ่านไปอย่างราบรื่น เธอเก็บจานชามมาล้าง ได้ยินเพียงสองหนุ่มใหญ่พูดคุยกัน ไม่นานปกรณ์ก็เดินเข้ามาแล้วพูดขึ้น
“อาหารเย็นอร่อยมาก ยังไงเจอกันที่กรุงเทพฯนะ อาต้องเดินทางก่อนมีธุระที่อื่นอีก”
“เดินทางปลอดภัยค่ะ”
“อืม” ปกรณ์ยิ้มรับแล้วตบไหล่หลานชาย “ดูแลหนูบัวดีๆ ถ้ารู้ว่าทำให้หนูบัวเสียใจ อาไม่ไว้หน้าแกแน่”
“อ้าว! ผมเป็นหลานอานะครับ”ปกรณ์หัวเราะแล้วเดินออกไป อลังการตามไปส่งที่หน้าบ้าน พูดคุยกันอีกเล็กน้อย เขายืนมองรถของอาปกรณ์เคลื่อนออกไปสุดสายตาแล้วจะเดินกลับเข้ามาในบ้าน บัวชมพูเคลียร์ห้องครัวเสร็จพอดี เมื่อเห็นมาก็เห็นอลังการยืนยกมือขึ้นกอดอกจ้องมองเธออยู่ก่อนแล้ว “มีอะไรหรือคะ” “ฉันน่าจะถามเธอมากกว่าว่าไปทำอะไรให้อาปกรณ์ชื่นชอบถึงขนาดนี้” “คุณใหญ่คิดอย่างนั้นเหรอคะ” เธอเอียงคอมองเขา “หนูมีเสน่ห์ขนาดนั้นเชียว” “เฮอะ! อย่างเธอเนี้ยนะ ใครจะมาสนใจ” เขาเบ้ปากใส่ “อ้าว! ก็คุณใหญ่พูดเหมือนอาปกรณ์หลงเสน่ห์หนูเองนี่” เธอแสร้งทำเป็นงุนงง “นั้นอาของฉัน แต่งงานมีเมียมีลูกแล้ว ห้ามยุ่งเด็ดขาด!” บัวชมพูเช็ดมือกับผ้าสะอาดแล้วปลดผ้ากันเปื้อนออก “หนูไม่ได้ทำอะไรเสียหน่อย มีแต่คนเข้ามาหาเอง” “นี่ๆ อย่ามาเถียงนะ” “หนูไม่ได้เถียง” เธอเบ้ปากใส่ “หนูเหนื่อยแล้ว ขอไปพักผ่อนก่อนนะคะ” “เดี๋ยวสิ! จะเดินหนีกันแบบนี้ไม่ได้” “คุณใหญ่! หนูบัวเหนื่อยแล้วค่ะ! อยากอาบน้ำพักผ่อน”
ทั้งที่ทั้งสองยังเปียกชุ่มแต่ร่างกายกับเร่าร้อนขยับกายเข้าหากัน บัวชมพูหลงใหลที่ร่างกายได้แนบชิดกันถึงเพียงนี้ เขาพรมจูบที่หน้าท้อง ลากเรียวลิ้นลงไปถึงกึ่งกลางของกายสาว แยกสองขาออกกว้างแล้วแทรกลิ้นร้อนไปแทนนิ้วกร้าน “อ๊า! คุณใหญ่! คุณใหญ่ขา!” บัวชมพูเสียวซ่านได้แต่พร่ำเรียกชื่อของเขา หยัดสะโพกเข้าหาเรียวลิ้นที่ทำให้เธอแทบคลั่ง “หอม” เขาพูดเสียงแหบพร่า “หวานมาก ฉ่ำไปทั้งตัว” เขาเร่งเร้าด้วยปากและนิ้วร้าย มือเล็กขยุ้มเส้นผมของเขาอย่างไม่รู้ตัว เหงื่อไหลโทรมกายแอ่นตัวขึ้นอย่างอดไม่อยู่ ส่งตัวเองเข้าไปในปากอันร้ายกาจของเขาจนกระทั่งร่างกายเกร็งกระตุกและหวีดร้องออกมาด้วยไปถึงจุดสุขสม อลังการไม่รอให้ร่างกายเธอได้หยุดพัก เขาหยัดตัวขึ้นแล้วคุกเข่าบนเตียง แยกเรียวขาสวยออกกว้างกว่าเดิม จับแก่นกายที่แข็งขันราวเสาหินเข้าไปในช่องรักที่หลั่งน้ำหวานจนฉ่ำชื้น “อร๊ายยย ...อึก...คุณใหญ่ขา..ลึก...มันลึก...” “ซี๊ดดด เก่งมาก หนูรับของฉันได้หมด อ่า แน่นมาก หนูบัวรัดของฉันแน่นมาก” อลังการครางอย่างพอใจ เขาดุนดันเข้าไปที่ละนิด ถอยอ
“ผู้ใหญ่รังแกเด็ก” เธอต่อว่าเขาแล้วเอนตัวพิงแผ่นอกอย่างไร้เรี่ยวแรง ถ้าเขาไม่ประคองไว้เธอคงลงไปกองกับพื้นแล้ว “ฉันไม่ได้รังแก” เขาหัวเราะในลำคอแล้วจับแก่นกายที่แข็งขันคลอเคลียเนื้ออ่อนนุ่มที่ฉ่ำแฉะ “ฉันเอาจริง” “อร๊ายยย” บัวชมพูหวีดร้องเมื่อท่อนเนื้อร้อนระอุมุดเข้ามาในร่องรัก เขายกขาข้างหนึ่งของเธอเกี่ยวเอวเขาไว้แล้วขยับดุนดันแก่นกายเข้ามาที่ละนิดจนสุดโคน “โอ้ว!ชิบ! แน่นจริงๆ” เขาคำรามเสียงทุ่มต่ำกดแก่นกายไว้ในร่องรักที่โอบรัดจนเขาหายใจลำบาก มือใหญ่เลื่อนมาเคล้นคลึงทรวงอก สะกดปลายยอดสีชมพูจนหญิงสาวสะบัดหน้าไปมาเพราะเสียวซ่าน “คุณใหญ่” เธอเรียกเขาเสียงพร่าไม่แพ้กัน ร่างกายร้อนผ่าว เธอขยับสะโพกเข้าหาอย่างเรียกร้องแต่เขินอายเกินกว่าจะพูดสิ่งที่ต้องการออกมา “บอกฉันสิว่าเธออยากได้มัน” เขายังคงฝืนแข็งใจไม่ขยับตัว ท่อนเอ็นเต้นตุบๆ ในร่องรักของหญิงสาว ความเสียวซ่านวาบหวิวก่อตัวขึ้นมาอีกระลอก เดิมทีคิดว่าจะมาดูแล แต่พอเห็นร่างเปลือยเปล่าแล้วก็อดใจไม่ได้ “หนู...หนู...” เธอรู้ว่าต้องการเขามากแค่ไหน แต่ปากคอสั่นไปหมดได้แต
“ยังไม่ชินอีกเหรอ” เขาถามเสียงพร่า หน้าอกกลมกลึงดุนดันผ้ากันเปื้อนลายลูกไม้ เขาวางมือลงบนทรวงอกของหญิงสาวเพียงนวดเบาๆ ก็เรียกเสียงครางหวานออกมาได้ “อื้อ...คุณใหญ่...” “น่ารักจริงๆ”เขาชมแล้วจูบริมฝีปากที่เผยอขึ้น คราวนี้ไม่มีจูบเงอะงะอีกแล้ว เพียงริมฝีปากทาบทับ ลิ้นน้อยๆ ก็พร้อมเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นของเขา บางครั้งเธอเป็นฝ่ายขบกัดริมฝีปากของเขา แทรกลิ้นเข้ามาในโพรงปากดูดกลืนเสียงครางของเขา สะโพกสวยขยับกระสับกระส่ายบนตัก ส่วนที่แข็งแกร่งที่สุดแข็งขึ้นขึ้นชูชันจนกางเกงผ้าฝ้ายที่เขาสวมอยู่โป่งนูน มือนุ่มแตะที่แผ่นอกกำยำ สะกิดยอดอกของเขาอย่างหยอกล้อแต่เรียกเสียงครางซี๊ดออกมา ทำให้บัวชมพูหัวเราะคิกคัก“กล้าแกล้งฉันเหรอ” เขาคำราม“เปล่าเสียหน่อย” บัวชมพูแลบลิ้นทะเล้นใส่ แสร้งบดเนิ่นเนื้อกับส่วนที่อยากโผล่ออกจากกางเกงเต็มทีแล้ว เขาไม่ได้สวมเสื้อ สวมเพียงกางเกงผ้าฝ้ายเบาสบาย แต่ยามนี้กลับกลายเป็นสิ่งที่เขาอยากกำจัดออกไปจากตัวเองให้เร็วที่สุด “เด็กดื้อต้องถูกทำโทษ” เขาจับร่างเธอนอนคว่ำลงไป ก้นงามงอนอวดสายตา แผ่นหลังเนียนมีเพียงสายเชือกผ้ากันเปื้อนผูกไว้ เขาฟาดฝ่ามือใส่
“ดูสิ หนูบัวของฉันน่ารักขนาดไหน”“ไม่เอา” เธอส่ายหน้าไปมา อับอายจนหน้าแดงไปหมด“โอ้ววว เสียวลำ”“คุณใหญ่ อย่ากระแทก อร๊ายยย หนูจุก”“จุกหรือเสียวเอาให้แน่” เขาโยกร่างเล็กรัวแรงอย่างลืมตัวว่าร่องก้นของเธอมีหางจิ้งจอกเสียบอยู่ ตอนนี้เธอเสียวคูณสอง น้ำรักไหลอาบลำเอ็น เหงื่อไหลโทรมกายทั้งที่อยู่ในห้องแอร์บัวชมพูเห็นตัวเองถูกกระแทกกระทั้น เจ้าหางสีขาวสั่นไหว เธอขมิบมันไว้อย่างไม่รู้ตัวและทำให้อลังการยิ่งเสียวซ่านขยับโยกสะโพกสอบเร็วขึ้น “โอ้ว! ชิป! แน่นอะไรอย่างนี้ เสียวมากหรือหนูบัว”“คุณใหญ่ขา เสร็จเถอะ หนูไม่ไหวแล้ว” เธออ้อนวอนเขา หัวใจเต้นรัว เขากระแทกเธอหนักขึ้น แรงขึ้น และถี่กระชั้น สองร่างสอดประสานล้ำลึก ร่างเล็กสั่นสะท้าน ความเร้าร้อนรุนแรงทำให้หญิงสาวหวีดร้องอีกครั้งร่างเกร็งกระตุกทำให้ช่องรักขมิบรัดรึงแก่นกายร้อนที่ปลดปล่อยตัวเองเมื่อถึงขีดสุด“อา...ยอดเยี่ยมเลย หนูบัวของฉัน”บัวชมพูหมดเรี่ยวแรง ได้แต่หอบหายใจปล่อยให้เขาอุ้มเธอลงมานอนบนเตียง เธอครางออกมาเมื่อเขาถอนแก่นกายออกพร้อมกับดึงเจ้าหางจิ้งจอกออกจากร่องก้นของเธอริมฝีปากหนาพรมจูบทั่วใบหน้า หญิงสาวได้แต่ระบายลมหายใจเบาๆ แ
“ฉันดูเป็นคนเลวนักหรือไง” เขาพึมพำ เคาะปลายนิ้วกับพวงมาลัยรถ“ใครไปว่าอะไรคุณใหญ่คะ” บัวชมพูถามกลับ“แล้วฉันเป็นคนดีพอให้ใครสักคนรักได้ไหม”บัวชมพูไม่แน่ใจว่าเขาหมายถึงเรื่องอะไร ระหว่างเขากับเธอ? คงไม่ใช่ละมั้ง เพราะเขาแค่...จ้างเธอเป็นเมียปลอมๆ ส่วนความสัมพันธ์ที่มันเกินเลย ก็ถือเสียว่าเธอยินยอมพร้อมใจเองหรือว่า...เขาจะเจอคนถูกใจแล้วจริงๆ“ถ้าคุณบอกหนูว่าจะมาพาห้าง หนูไม่ซื้อขนมเค้กมาหรอก” เธอเปลี่ยนเรื่อง อลังการถอนหายใจเบาๆ เธอคงไม่คิดอะไรกับเขาจริงๆ ขนาดเพื่อนสนิทของเขายังการันตีว่าบัวชมพูเป็นเด็กดี บัวชมพูอายุแค่ยี่สิบ ยังมีอนาคตอีกไกล ยังได้มีโอกาสเจอผู้คนอีกมาก เอาตามจริงเขาก็รู้สึกว่าบัวชมพูเป็นคนฉลาด และรู้ว่าทำอะไรอยู่ ความฉลาดของเธอทำให้เขาสบายใจ แต่ที่ทุกข์ใจคือเขาอยากได้เด็กคนนี้เป็นเมียจริงๆบัวชมพูลอบมองอลังการที่มีท่าทีเหนื่อยๆ “ถ้าคุณใหญ่เหนื่อย เรากลับบ้านกันเถอะค่ะ”“กลับบ้าน”“อืม” บัวชมพูพยักหน้ารับ รู้สึกว่าอีกฝ่ายผิดปกติ ยื่นหลังมือไปแตะหน้าผากของอลังการ “ตัวก็ไม่ร้อนนี่ หรือคุณใหญ่ปวดหัวไมเกรนหรือเปล่าคะ”แต่ก่อนคำว่า ‘บ้าน’ของอลังการคือที่ซุกหัวนอน แต่พ
หญิงสาวอยู่ในชุดเดรสสีครีมเรียบง่ายแต่ขับเน้นให้ดูงดงามน่ามอง ผมยาวที่มักถูกรวบเป็นหางม้า เวลานี้ปล่อยยาวสลายประดับด้วยกิ๊ปติดผมทำจากไข่มุกสวยหรูเข้ากับต่างหูและสร้อยคอ บัวชมพูเผลอยกมือแตะที่สร้อยคอบ่อยๆ ทำเอาอลังการอดหัวเราะไม่ได้ “เส้นเล็กไปเหรอ คราวหน้าจะเลือกให้ใหม่” “เปล่าค่ะ หนูกลัวทำสร้อยคุณใหญ่หาย ไม่มีตังค์มาใช้หนี้คุณ” หญิงสาวพูดไปตามที่คิด เธอชอบเครื่องประดับชุดนี้มาก รวมทั้งสร้อยข้อมือ อลังการสวมให้เธอเอง แม้เขาจะบอกว่า “ให้” แต่เธอก็กังวลอยู่ดี “ก็ฉันบอกว่าให้ไง” เขาทำเสียงหงุดหงิด ประสานมือกับหญิงสาวแล้วบีบเบาๆ “ตื่นเต้นหรือเปล่า” บัวชมพูมองใบหน้าคมเข้ม อันที่จริงเธอไม่เข้าใจความหมายของคำถามนี้เท่าไหร่นัก ตื่นเต้นเพราะจะได้เจอครอบครัวของเขานะหรือ? หรือตื่นเต้นที่ต้องเล่นเป็นเมียกำมะลอ เรื่องให้เตรียมใจมาพบคนในครอบครัวเขาในฐานะเมียก็เตรียมใจมาเป็นเดือนแล้ว จนเผลอคิดไปว่าเขาคงไม่ต้องการให้เธอเล่นเป็นเมียของเขาอีก เธอไม่ได้เรียกร้องเรื่องเงินกับเขาอีก แต่เขาโอนเงินให้เธออยู่เรื่อยๆ นับๆ ดูก็หลักแสนเข้าไปแล้ว
มือเล็กอยู่ในอุ้งมือใหญ่ทำให้บัวชมพูไม่รู้สึกโดดเดี่ยวเกินไปนัก ทุกอย่างดีไปหมดจนเหมือนเป็นแค่ความฝัน ปกรณ์เปิดไวน์แดงแล้วรินให้ทุกคนด้วยตัวเอง อลังการส่งแก้วไวน์ให้บัวชมพู “ดื่มเป็นไหม ค่อยๆจิบไม่เมาหรอก” “เป็นค่ะ” เธอแอบแลบลิ้นใส่ อลังการเห็นหญิงสาวอารมณ์ดีขึ้นไม่เกร็งเหมือนตอนกินข้าวก็โล่งใจ โน้มหน้าลงจูบหน้าผากของเธอเบาๆ โดยไม่สนใจสายตาของคนในครอบครัว บัวชมพูผงะถอยหลังยกมือขึ้นแตะหน้าผากราวกับโดนของร้อนเข้าให้ เธอขึงตาดุคนตัวโตแต่เขากลับหัวเราะออกมา “เห็นไหม ยัยหนูนี่ปราบตาใหญ่อยู่” ปกรณ์พูดกับพี่ชาย มารดาของอลังการที่มองอยู่ก็ยิ้มกว้าง ดีใจที่ลูกชายมีคนดูแลเสียที “เจอกันยังไงละนี่” พ่อของอลังการถาม ไม่ได้ร่วมดื่มไวน์กับลูกๆ แต่จิบน้ำขิงร้อนแทน อลังการมองบัวชมพู ไม่เตรียมตัวกับคำถามนี้ แต่บัวชมพูกลับยิ้มแววตาหวานทั้งที่เพิ่งจิบไวน์ไปเล็กน้อยเท่านั้น “คุณใหญ่เคยมาบรรยายพิเศษที่มหา’ลัยค่ะ ในชั่วโมงเรียนของอาจารย์วิชิต” เธอพูดแต่สายตาจับจ้องที่อลังการ“ตอนนั้นอาจารย์วิชิตให้นักศึกษาที่สนใจมาเข้าฟังได้ ไม่จำก