เขาไม่มีท่าทีจะก่อกวนในที่ทำงานอย่างที่เขาชอบขู่เอาไว้ ทำให้หญิงสาววางใจทำงานอย่างสบายใจ ส่วนเรื่องเสียงนินทานั้น เธอชินแล้ว แต่ก่อนที่จะมาอยู่ดูแลคุณลออ เธอเองเคยถูกเพื่อนร่วมชั้นเรียนไม่ชอบหน้า เบ้ปากมองบนใส่จนเคยชิน บางคนชอบพูดว่าเธอทำตัวเป็นลูกรักของครู-อาจารย์ แต่เธอเพียงแค่ต้องเรียนอย่างหนัก ไม่มีเงินไปลงเรียนพิเศษ และต้องหาทุนให้ตัวเองเรียน การเข้าหาอาจารย์เพื่อติดตามเรื่องขอทุนรวมทั้งหางานพิเศษทำ จึงเป็นเรื่องปกติสำหรับเธอ แต่ที่ไม่ปกติสำหรับเธอก็คือ ทุกวันทำงานหนักหัวหมุนแค่ไหน เรื่องบนเตียงของเขาไม่เคยหยุดพัก ไม่รู้เขาไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนมากมายขนาดนี้ ‘คนอะไรกินดุ กินจุ ตะกระตะกรามที่สุด!’ “เดหลี” “คะ” “เหม่ออะไร ฉันใช้งานเธอหนักไปเหรอ” มังกรกัณฐ์ถามแล้วดีดนิ้วใส่หน้าผากเธอเบาๆ “เก็บกระเป๋ากลับบ้านได้แล้ว จะหกโมงเย็นแล้ว” “ค่ะ” เดหลียกมือลูบหน้าผากตัวเอง เมื่อไม่มีคนอื่น เขาชอบแกล้งเธอแบบนี้ หญิงสาวปิดคอมพิวเตอร์แล้วหยิบกระเป๋าขึ้นคล้องไหล่ ทั้งสองเข้าไปในลิฟต์แล้ว มังกรกัณฐ์จึงเอ่ยถาม
“อย่างไรเราก็คนครอบครัวเดียวกัน หรือคุณอาคิดว่าคนอื่นจะดีกับคุณอาเท่ากับผมหรือเดหลีละครับ แต่ถ้าคุณอาไม่เห็นผมเป็นลูกเขยก็ไม่เป็นไร ผมส่งคุณอาให้เสี่ยศักดิ์ชัยดีไหมครับ ได้ยินว่าเสี่ยศักดิ์ชัยตามหาคุณอาอยู่เหมือนกัน” “ไม่ต้องๆ” พ่อของเดหลีรีบร้อนเอ่ยขึ้น เผลอมองไปทางด้านนอกซึ่งมีรถเก๋งคันหนึ่งจอดอยู่ และเหมือนคนในรถจะรู้ตัว รีบขับออกไปทันที ทำให้พ่อของเดหลีอึกอักทำอะไรไม่ถูก “เอาอย่างนี้นะครับ ประเดี๋ยวผมให้คุณปกรณ์มารับคุณอา หาที่พักสะดวกๆ เข้าโครงการบำบัดยาเสพติด ถ้าคุณอาเชื่อฟังดีๆ หนี้สินต่างๆ ผมเป็นลูกเขยจะจัดการให้เอง” รอยยิ้มของมังกรกัณฐ์เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่กดดันอีกฝ่าย “แต่ถ้าคุณอาไม่ยินดี ผมคงไม่สามารถช่วยอะไรคุณอาได้ รวมทั้งเรื่องเสี่ยศักดิ์ชัยด้วย หรืออย่างน้อยก็เห็นแก่หน้าลูกสาวของคุณอา ทำตัวให้สมกับเป็นพ่อที่ดีสักครั้ง” คราวนี้ทำให้พ่อของเดหลีสงบลงไปได้ มังกรกัณฐ์ถอนหายใจเบาๆ หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจะโทรหาปกรณ์ แต่คนทนายประจำตระกูลก้าวเท้ายาวๆ เข้ามาพอดี “จัดการเรียบร้อยแล้วเหรอ” ปกรณ์ทักแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อ เพรา
“ก็ฉันหวงเธอ อยากให้เธอเป็นเมียฉัน เป็นแม่ของลูก เรื่องแค่นี้คิดไม่ได้จริงๆ เหรอเดหลี” เพราะปลดปล่อยไปแล้วรอบหนึ่ง รอบสองจึงยาวนานกว่าครั้งแรก เขาขยับตัวเปลี่ยนท่านจับหญิงสาวนอนตะแคงแล้วยกเรียวขาแยกออกสอดใส่จากด้านหลัง มือหนึ่งก็ขยี้จุดเสียวซ่าน อีกมือบีบเคล้นหน้าอกเพิ่มความเสียวกระสัน เขาฟังเสียงครางของหญิงสาวอย่างพอใจ แล้วกระซิบข้างหู “ฉันบอกแล้ว ต่อไปนี้เรื่องของเธอคือเรื่องของฉัน ไม่ว่าปัญหาอะไรของเธอ ที่ฉันพูดกับพ่อเธอวันนี้ก็พูดจากใจจริง ไม่ได้แค่พูดเอาใจใคร” “คุณยักษ์” เธอเอี้ยวหน้าหันมามองเขา วันนี้เธอรู้สึก “รัก” เขามากกว่าทุกวัน รักมากเสียจนอยากกักเก็บเขาไว้เป็นของเธอคนเดียว ไม่ว่าเขาจะทำไปเผื่อรักษาหน้าเขาเองหรือเพราะพูดด้วยความจริงใจ เธออยากรักษาห้วงเวลาพิเศษนี้ไว้ให้เนิ่นนาน “แล้วเลิกคิดเรื่องหย่าไปได้เลย” เขาขบติ่งหูของเธออย่างมันเขี้ยว “โอ๊ย เสียว ขอกระแทกแรงๆนะเมียจ๋า” “อะ..อะ ..อร๊ายยย” “โอ้วว” ชายหนุ่มปลดปล่อยอีกระลอกพร้อมหญิงสาวที่ไปถึงจุดสุดยอดอีกครา คราวนี้เขายอมถอนแก่นกายออกจากร่องรัก เขาโน้มหน้าลงจูบหน้าผากชื้นเหงื่อเบาๆ เขาลุกขึ้นจากเตียง ดึงผ้
พนักงานในบริษัทต่างลอบมองหญิงสาว แต่เดหลีทำเป็นไม่ใส่ใจ เธอยังคงทำงานของเธอ พูดคุยกับทุกคนเช่นที่เคยผ่านมา ในเมื่อมังกรกัณฐ์ประกาศออกไปอย่างนั้นแล้ว เธอจะก้มหน้าอายอะไรอยู่ ฐานะชาติกำเนิดของเธอเปลี่ยนแปลงไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือยอมรับความจริงและเผชิญหน้ากับมัน “นี่ๆ เลิกงานแล้วไปซื้อของกันนะ” มังกรกัณฐ์ทักเดหลี ท่าทางของเขาผ่อนคลายลงมาก คิดว่าต่อไปนี้คงไม่มีเรื่องอะไรมารบกวน ‘ชีวิตคู่’ ของเขาอีกแล้ว “ซื้ออะไรคะ” เธอถามสายตายังคงอยู่กับเอกสารตรงหน้า “แหวนไง” “แหวน?” คราวนี้หญิงสาวเงยหน้าขึ้น “แหวนอะไรคะ” มังกรกัณฐ์เบ้ปาก เดินมาจับมือซ้ายของหญิงสาวขึ้น “มือเธอยังไม่มีแหวนแต่งงานเลย” “แหวนแต่งงาน” ใบหน้าหวานขับสีแดงระเรื่อขึ้นมาทันที “เพราะไม่ได้ใส่แหวนแต่งงานละมั้ง คนอื่นถึงไม่รู้ว่าเธอมีเจ้าของแล้ว” เขาหัวเราะออกมา “ถ้าอย่างนั้นคุณยักษ์ก็ต้องใส่ด้วย คนอื่นจะได้รู้ว่าคุณยักษ์มีเจ้าของแล้ว” เธอพูดใส่เขา แต่อีกฝ่ายกลับยิ้มกว้าง “มันต้องอย่างนั้นอยู่แล้ว” เขายกมือข้างซ้ายของเธอขึ้นมาจูบเบาๆ “เรื่องพิธีแต่งงาน ฉันพูดจริงนะ ฉันอยากจัดงานแต่งงาน อยากให้เธอสวมชุดเจ้าสาว” “ไ
“ก็ยังต้องรอดูนั้นแหละ ถ้าใช้วิธีของผมนะจบง่ายกว่านี้” ราชันยักไหล่ “ก็เดหลีเป็นคนดีนี่ค่ะ” ลลิน ได้ยินเสียงร้องกรี๊ดๆ ดังลั่นมาถึงด้านนอก คงขู่ให้กลัวได้อยู่บ้าง “คนห่วงหน้าตาอย่างเบลล่า คงไม่กล้าทำอะไรอีกแน่ๆ ค่ะ” “ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น เอาล่ะ กลับบ้านเราเถอะ” “อ้าว! แล้วไม่ไปเยี่ยมคุณยักษ์แล้วหรือคะ” “ไปทำไม เจ็บแค่นิดเดียวเอง ให้เมียมันดูแลเถอะ” หญิงสาวหัวเราะเสียงใส แสดงว่าที่นอนอยู่นั้นคงตั้งใจ ‘ออเซาะ’สินะ ราชันบีบปลายจมูกของคนรักอย่างหยอกล้อ ที่เขายอมมาช่วยก็เพราะเป็นห่วงเดหลีหรอก ไม่ใช่เพราะอยากมาช่วยเจ้ายักษ์ แต่เอาเถอะ ถึงตอนนี้แล้ว คงจัดการตัวเองได้แล้วล่ะ…………มังกรกัณฐ์ชะเง้อมองไปทางประตู เขารอให้คนรักกลับเข้ามาจะได้แกล้งเจ็บออดอ้อนให้สมใจอยาก แค่โดนรถเฉี่ยวนิดเดียว แต่เดหลีหวีดร้องอย่างกับเขาแขนขาขาดกระเด็น แต่ไหนๆ ก็มาถึงขั้นนั้นแล้ว เขาจึงสวมบทคนเจ็บให้เต็มที่“โตขนาดนี้แล้วยังเล่นเป็นเด็กอีก” คุณบุรินทร์อดดุหลานชายไม่ได้ ทีแรกได้ยินว่าประสบอุบัติเหตุก็นึกว่าอาการหนัก ยิ่งเห็นเดหลีร้องไห้ต
“อลังการ” เดินโซเซล้วงมือหากุญแจบ้านหน้าบ้านพักริมทะเล ถ้ามีใครสักคนอยู่ตรงที่เขายืนอยู่...จะเห็นทะเลสีครามอยู่ตรงหน้า นกนางนวลโผบินอย่างเสรี ริ้วคลื่นแตกกระจายยามเมื่อจูบหาดทรายที่ทอดตัวยาวไปไกลสุดสายตา...อลังการขยับตัวมองนาฬิกาที่ข้อมือ เมื่อคืนฉลองกับให้กับคนงานที่เพิ่งได้ลูกชายคนแรก เขาเป็นคอเหล้าก็จริงแต่ไม่ค่อยกับพวกคนงาน แต่นานๆจะสังสรรค์กันทีก็เลยได้เมายาวจนเพิ่งจะได้กลับเอาตอนนี้ ชายหนุ่มไขกุญแจเข้าบ้านแล้ว ถอดรองเท้าออกง่ายๆ แตะรองเท้าไปให้พ้นปลายเท้าแล้วเดินไปทิ้งตัวนอนบนโซฟา “น้าสารภีอยู่มั้ยครับ” เขาส่งเสียงออกไป “ขอน้ำให้ผมสักแก้ว”เงียบไปอึดใจใหญ่ๆ อลังการยกมือนวดขมับและหลับตาอย่างเหนื่อยล้า นานแค่ไหนที่ไม่ได้เมามายขนาดนี้ เขารับรู้การเคลื่อนไหวตามมาด้วยเสียงวางแก้วน้ำเบาๆ เขาลืมตาขึ้นเห็นเพียงแก้วน้ำเย็น เขายันกายขึ้นนั่ง ยื่นมือไปคว้าแก้วน้ำดื่มไปจนหมดแล้วทิ้งตัวลงนอนต่อ“ถ้าน้าสารภีจะกลับแล้วล็อกประตูให้ด้วยนะครับ วันนี้ผมไม่ออกไปไหน” เขาพูดทั้งที่หลับตา ครู่หนึ่งผ้าขนหนูชุบน้ำเจือกลิ่นหอมเย็นวางบนหน้าผากของเขาเบาๆ มันสบายเสียงจนเขาเผลอครางออกมา“ขอบคุณครับ”
บัวชมพูถอนหายใจเบาๆ ยกหลังมือขึ้นปาดเหงื่อหลังจากถูบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอกวาดตามองดูความเรียบร้อยอีกครั้ง เมื่อไม่พบอะไรที่ต้องทำเพิ่มอีกจึงเก็บอุปกรณ์เข้าที่ ล้างมือแล้วปลดผ้ากันเปื้อนออก เตรียมตัวกลับบ้าน หญิงสาวลังเลอยู่เล็กน้อย ควรบอกเจ้าของบ้านก่อนดีไหมว่าเธอจะกลับแล้ว หรือออกไปเลยไม่ต้องบอกเขา สองสามครั้งที่เคยมาทำงานก่อนหน้านี้ เธอไม่ได้พบกับเขาตรงๆ ปกติคุณใหญ่หรือคุณอลังการ จะยุ่งกับงานในฟาร์มไข่มุก เธอมาทำงานแทนแม่ มือเล็กพับผ้ากันเปื้อนใส่ถุงผ้า ในถุงมีกล่องอาหารที่เธอทำมาจากบ้านด้วย ตั้งแต่จำความได้ พ่อทุบตีทำลายแม่อยู่เสมอ จนกระทั่งแม่ทนไม่ไหว อาศัยช่วงจังหวะที่พ่อเมาหลับหอบหิ้วเสื้อผ้าติดตัวมาไม่กี่ชิ้นแล้วจูงแขนเธอออกมาจากบ้านหลังนั้น แม่เคยพาเธอไปไหว้ตากับยายแต่ทั้งสองก็ไม่พอใจที่เห็นแม่กลับมาในสภาพนี้ ผัวทิ้ง ไม่มีเงิน มีลูกติด แม่พยายามทำงานหลายอย่าง ทำข้าวแกงขายตลาดนัด รับจ้างซ่อมแซมเสื้อผ้า จนแม่ตัดสินใจจะไปทำงานที่โรงงาน เธอกับแม่จึงได้ย้ายบ้านกันอีกหน เธอเองก็ช่วยแม่ทำงานมาตลอด งานเล็กๆ น้อยๆ พอได้เงินห้าบาทสิบบาทก็เอาทั้งนั้น การเรียนของเธอแค
บัวชมพูยังคงมาทำงานบ้านแทนมารดาที่บ้านคุณอลังการตามปกติ เขาไม่ร้องเรียนกับบริษัทของแม่ นั้นแสดงว่ายอมรับให้เธอมาทำงานแทนแม่ได้ เธอได้กุญแจสำรองจากรปภ.ไขเข้าบ้านของอลังการเพื่อทำความสะอาดบ้าน หญิงสาวผงะไปเล็กน้อย ในห้องรับแขกอย่างกับมีสงครามเกิดขึ้น ขวดเบียร์เกลือนพื้นห้อง แก้วที่ล้มคว่ำน้ำเจิ่งนอง ข้าวของกระจัดกระจาย หรือว่า “ขโมยขึ้นบ้าน...” บัวชมพูพึมพำพอได้สติก็หันซ้ายหันขวาหาอาวุธ จะหยิบมีดก็กลัวเลยคว้าไม้กวาดขึ้นมาชูไว้ เสียงกุกกักดังจากชั้นสองของบ้าน เธอคิดจะโทรศัพท์แจ้งตำรวจ แต่เสียงเคลื่อนไหวเข้ามาใกล้ทำให้ไม่กล้าส่งเสียง ได้แต่กำไม้กวาดแน่น จนกระทั้งร่างสูงใหญ่เดินลงบันไดผ่านหน้าเธอ ชายหนุ่มถึงกับชะงัก ดวงตาคมจ้องมองไม้กวาดในมือหญิงสาวที่ชูขึ้นเหนือศีรษะทำท่าจะฟาดลง เขารีบยกมือกำด้ามไม้กวาดไว้ก่อน “เฮ้ย! จะทำอะไร! จะฆาตกรรมเจ้าของบ้านเรอะ!” “คุณใหญ่!” บัวชมพูตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะอยู่ในบ้านเวลานี้ อลังการไม่วางใจ กระชากไม้กวาดออกจากมือของหญิงสาว แต่เพราะเธอไม่ทันตั้งตัวยังไม่ได้ปล่อยมือจากด้ามไม้กวาดร่างบางจึงเซถลาเข้าไปปะทะก