แชร์

ตอนที่ 2 พรข้อที่สอง

ผู้เขียน: หลี่จินผิง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-02 17:10:05

ระหว่างที่ลมหนาวนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงนอนเก่าผุพัง ลมหายใจเข้าออกที่สม่ำเสมอในทีแรกเริ่มติดขัดรุนแรงขึ้นเพราะความรู้สึกบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นภายใต้ความฝันอันยาวนาน

เปลือกตาบางปิดแน่น คิ้วคู่งามขมวดเข้าหากัน เหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายตามกรอบหน้ารูปไข่ ภาพในความฝันที่ยาวนานราวกับกำลังถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของใครบางคนให้เธอได้รับรู้…

ในความฝันลมหนาวเห็นวิถีชีวิตของเด็กสาวที่มีหน้าตาเหมือนเธอราวกับแกะ แม้ในตอนเด็กเธอจะยังคงรูปลักษณ์ของเด็กชาย แต่ผิวพรรณและใบหน้าหวานที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีนั้นไม่ได้ทำให้เธอแตกต่างจากเด็กผู้หญิงมากนัก

ภาพในฝันการแต่งกายย้อนยุคและสถานที่ต่าง ๆ ที่ไม่คุ้นตา ราวกับว่านั่นเป็นภาพเหตุการณ์ในอดีตของตนเองอย่างไรอย่างนั้น

หญิงสาวเฝ้ามองเหตุการณ์ต่าง ๆ ในความฝันอย่างตั้งใจ ภาพตรงหน้าฉายชัดเป็นฉาก ๆ ราวกับกำลังอยู่ในโรงภาพยนตร์ มีทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายถูกถ่ายทอดออกมา มันชัดเจนเสียจนเธออดคิดไม่ได้ว่านี่อาจจะเป็นตัวเธอเอง แต่จะเป็นไปได้อย่างไร ความรู้สึกนึกคิดในฝันนั้นขัดแย้งกันไปมาจนยุ่งเหยิง

ร่างบางกระสับกระส่ายอยู่นานในที่สุดเธอก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยอาการเหนื่อยหอบ ภายในหัวใจบีบรัดเข้าหากันจนปวดหนึบ เสียงของเด็กสาวคนนั้นที่พูดขึ้นก่อนเธอจะตื่นทำให้เธอพอจะเข้าใจเรื่องราวบางอย่างได้บ้างแล้ว

‘ฉันฝากชีวิตที่เหลือไว้กับเธอนะ ลาก่อน…’

นั่นคือเสียงสุดท้ายของ จางซิ่วอิง ซึ่งก็คือชื่อเจ้าของร่างนี้ ซึ่งก่อนที่เธอจะเข้ามาอยู่ในร่างของจางซิ่วอิง เธอคนนี้นอนป่วยอยู่ในบ้านหลังเล็กแห่งนี้เพียงลำพัง เพราะร่างกายอ่อนแอค่อนไปทางขาดสารอาหาร เมื่อป่วยไข้จึงทนพิษไข้ไม่ไหว สิ้นใจตายไปทั้งที่อายุยังน้อย

ครุ่นคิดสิ่งต่าง ๆ เพียงลำพังอย่างปลดปลงไม่นานก็ทำใจได้ ดวงตาคู่เรียวทอดมองไปยังนอกหน้าต่าง ดวงจันทร์กลมโตนั้นค่อย ๆ จางหายจนมองเห็นเพียงเลือนลาง ท้องฟ้าเริ่มสว่างเพราะดวงอาทิตย์เริ่มเคลื่อนมาแทนที่

ลมหนาวในร่างของหญิงสาวชนบทนามว่าจางซิ่วอิงทอดถอนหายใจยืดยาว แม้เธอจะดีใจที่ได้เกิดอีกครั้งในร่างของผู้หญิงเต็มตัว แถมยังหน้าตาสะสวยไม่แพ้เธอในยุคปัจจุบันที่จากมา แต่ก็อดสงสารจางซิ่วอิงตัวจริงไม่ได้ที่ต้องตายจากไปอย่างโดดเดี่ยว ภายในบ้านหลังเล็กท้ายหมู่บ้านที่ไร้ผู้คนเหลียวแล

และอีกสิ่งหนึ่งที่เธอหวั่นใจคือ ที่นี่คือประเทศจีนในยุค 1984 แม้จะเคยศึกษาประวัติศาสตร์ของประเทศนี้มาบ้างแต่ก็เพียงผิวเผิน เธอที่เป็นคนไทยแท้จะใช้ชีวิตให้รอดอย่างไรต่อไป พลันคิดมาถึงตรงนี้ใบหน้าได้รูปก็เคร่งเครียดขึ้นมา

หากจำไม่ผิดช่วงเวลานี้หลายอย่างนั้นคลี่คลายไปพอสมควร ประชาชนส่วนใหญ่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ยกเว้นเสียแต่ครอบครัวของชาวนาที่การฟื้นฟูภายในเวลาไม่กี่ปีคงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมาก ซึ่งคนแถบชนบทมักจะได้รับสวัสดิการจากรัฐในลำดับท้ายสุดเลยก็ว่าได้

นับเป็นความโชคดีของจางซิ่วอิงที่เกิดมาในครอบครัวชนชั้นแรงงาน พ่อทำงานในโรงงานยาสูบ ส่วนแม่ของเธอเสียไปตั้งแต่เธออายุเพียงห้าขวบ  หลังจากนั้นเจ็ดปีพ่อก็แต่งงานใหม่กับแม่หม้ายลูกติดซึ่งเธอคนนั้นคือรักแรกของพ่อ

พ่อของจางซิ่วอิงนั้นหลงภรรยาใหม่ของเขาจนละเลยลูกสาวในไส้เพียงคนเดียว เจ้าของร่างเดิมทำงานรองมือรองเท้าสองแม่ลูกนั่นอยู่หลายปี จนในที่สุดตอนอายุสิบหกแม่เลี้ยงก็จับเธอแต่งงานกับลูกชายบ้านสามของตระกูลหยาง

ซึ่งสำหรับหยางซีห่าวพ่อแม่ของเขาป่วยตายจากโรคระบาด ทิ้งเขาไว้ให้อยู่เพียงลำพังโดยปู่กับย่ารับเลี้ยง แต่ชีวิตของหยางซีห่าวหลังจากสิ้นผู้เป็นปู่ก็ไม่ได้ราบรื่นนัก เพราะย่าไม่ชอบพ่อของเขา กอปรกับแม่ของเขาก็เป็นสะไภ้ที่ท่านไม่เต็มใจให้แต่งเข้ามาเลยพาลให้เกลียดขี้หน้าของลูกชายเพียงคนเดียวไปด้วย

หลังจากวันแต่งงานเพียงไม่กี่วันทางบ้านจางก็ทำหนังสือตัดขาดจากจางซิ่วอิงโดยจงใจไม่ให้เธอกลับไปที่นั่นอีกชั่วชีวิต คงจะกลัวว่าเธอจะกลับไปเป็นภาระอีกน่ะสิ แต่เดิมร่างนี้ก็ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าใดนัก มักจะเจ็บป่วยออด ๆ แอด ๆ อยู่เป็นประจำ และนี่คงเป็นสิ่งที่แม่เลี้ยงเธอกังวลจนต้องรีบตัดขาดหญิงขี้โรคอย่างเธอโดยเร็วที่สุด

ส่วนสามีเธอแม้จะแต่งงานกันโดยไร้รัก ทว่าชีวิตหลังแต่งงานก็ไม่ได้ย่ำแย่เสียทีเดียว หยางซีห่าวนั้นแม้จะเฉยชาแต่สิ่งที่สามีควรปฎิบัติในฐานะหัวหน้าครอบครัวเขาก็ทำได้เป็นอย่างดี ไม่เว้นแม้แต่เรื่องอย่างว่า

แต่จนแล้วจนรอดแต่งงานกันมาร่วมปีก็ยังไม่มีเจ้าหัวผักกาดน้อยออกมา จางซิ่วอิงจึงถูกชาวบ้านนินทาว่าเป็นแม่ไก่ที่ออกไข่ไม่ได้ ซึ่งทำให้หญิงสาวเองรู้สึกอับอายจนเก็บตัวอยู่เพียงในบ้าน หลีกเลี่ยงการพบเจอผู้คนโดยสิ้นเชิง

ทางบ้านใหญ่ของสามีก็ไม่น้อยหน้า เมื่อลูกชายที่ลูกชังทิ้งไว้ให้นั้นได้แต่งงานกับหญิงสาวขี้โรคประจำหมู่บ้านมีหรือจะนิ่งดูดาย เพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากแต่งงานหยางซีห่าวก็ได้รับหนังสือแยกบ้าน โดยให้ทั้งคู่ไปอยู่บ้านหลังเล็กท้ายหมู่บ้านที่มีสภาพไม่ต่างจากบ้านผีสิง

หลังจากแยกบ้านมาค่าใช้จ่ายที่เพียงแค่ทำงานในแปลงนาก็ไม่เพียงพอ หยางซีห่าวต้องหาเลี้ยงภรรยาและไหนจะต้องส่งเข้าบ้านใหญ่เพื่อแสดงความกตัญญู หยางซีห่าวจึงตัดสินใจสมัครเข้าร่วมกองทัพซึ่งตำแหน่งที่ได้รับก็คงไม่พ้นพลทหารชั้นผู้น้อย

เขาเข้าร่วมกองทัพโดยทิ้งภรรยาไว้ที่บ้านเพียงลำพัง แต่จางซิ่วอิงก็ไม่ได้ห้ามปรามแต่อย่างใด แม้จะอยู่ร่วมบ้านแต่ความห่างเหินระหว่างคนของทั้งคู่ก็คงไม่ต่างจากแยกกันอยู่ ฉะนั้นสามีจะอยู่หรือไม่อยู่เธอก็ไม่ได้รู้สึกอะไร

กลับมาที่ปัจจุบันร่างบางสูดลมหายใจเข้าออกลึก ๆ สองสามครั้ง เอาล่ะ! คงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วลมหนาว เธอจะอยู่แบบสามีไม่รัก ร่างกายอ่อนแอค่อนไปทางขาดสารอาหาร แถมยังอดอยากแร้นแค้นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้เด็ดขาด

ดวงตาคู่เรียวมองสำรวจสีของท้องฟ้า เมื่อรู้สึกว่าอีกไม่นานก็สว่างแล้วหญิงสาวจัดการพับผ้าห่มจัดที่นอนให้เป็นระเบียบ ก่อนจะอาศัยแสงจากดวงอาทิตย์ที่ค่อย ๆ โผล่ขึ้นมาเดินออกไปนอกห้องเพื่อสำรวจสิ่งต่าง ๆ เมื่อสำรวจมาถึงห้องน้ำจึงล้างหน้าล้างตาแปรงฟันด้วยความคุ้นเคยจนน่าแปลกใจ

จากในความทรงจำเก่าเจ้าของร่างนั้นพักอยู่ที่บ้านหลังน้อยท้ายหมู่บ้านนี้เพียงลำพังคนเดียว สามีที่เป็นทหารนั้นจะกลับบ้านอีกครั้งก็ราวอีกสองเดือนข้างหน้า ทุกเดือนเขาจะส่งเงินเดือนมาให้เธอ โดยที่จางซิ่วอิงจะเป็นคนจัดการแบ่งเงินส่วนนี้ไปให้บ้านใหญ่ของสามีเพื่อแสดงความกตัญญู อีกส่วนที่เหลือไม่มากนักก็เก็บไว้สำหรับประทังชีวิตระหว่างเฝ้ารอเงินจากเดือนถัดไป

จางซิ่วอิงไม่ได้มีอาชีพอย่างสาวยุคสองพันที่เธอจากมา แต่ละวันเธอทำเพียงดูแลแปลงผักเล็ก ๆ ข้างบ้าน ออกไปซื้อของในตัวอำเภอบ้าง จากนั้นก็กลับมาเข้าบ้าน ใช้ชีวิตจำเจเช่นนี้อยู่เพียงลำพังไปวัน ๆ เพื่อรอสามีกลับบ้านโดยไม่ได้สุงสิงกับใคร

บ้านหลังนี้เป็นบ้านไม้เก่าผุพังที่แทบจะกันลมไม่ได้ด้วยซ้ำ ตัวบ้านมีเพียงหนึ่งห้องนอน หนึ่งห้องครัว มีโถงกลางรับแขกพื้นที่ไม่มากนัก ห้องน้ำนั้นอยู่แยกออกจากตัวบ้านแต่ก็ไม่ได้ไกลกันมาก หญิงสาวเดินลัดเลาะไปข้างบ้าน ในยามนี้แสงสว่างของเช้าวันใหม่ทำให้เธอมองเห็นสิ่งรอบตัวได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

บริเวณนอกตัวบ้านมีพื้นที่ไม่มากนัก ล้อมด้วยรั้วไม้ผุพังที่คาดว่าหากเตะแรง ๆ เพียงครั้งเดียวคงพังครืนลงมา แปลงผักที่สามารถเก็บกินได้ในตอนนี้พอดี จางซิ่วอิงตรงไปยังผักกาดขาวหัวใหญ่ ก่อนจะเก็บมันเพื่อนำไปทำอาหารเช้าทาน

ต้องอิ่มท้อง…สมองจะได้ทำงานเต็มที่

นี่คือสิ่งที่เธอคิดได้ในตอนนี้ หญิงสาวเดินกลับเข้ามาในตัวบ้านมุ่งหน้าไปยังห้องครัวขนาดเล็ก เมื่อกวาดตามองสำรวจแล้วก็พบว่ามันแทบไม่มีอะไรเลย ข้าวสารที่มีอยู่เพียงก้นถัง แป้งหยาบอีกเล็กน้อย ไม่มีเนื้อ มีเพียงไข่ไก่หนึ่งฟองที่วางอยู่ในตู้อย่างโดดเดี่ยว เครื่องปรุงรสที่มีเพียงแค่เกลือไม่กี่หยิบมือ และน้ำมันติดก้นขวดเพียงเล็กน้อย

ยิ่งมองยิ่งรู้สึกปวดใจ เธอคิดถึงเครื่องปรุงมากมายที่สามารถรังสรรอาหารรสเลิศให้เธอได้ในโลกที่จากมา

นี่ฉันต้องกินอาหารจืด ๆ มัน ๆ อยู่ที่นี่ต่อไปน่ะหรือ?

กล่าวตัดพ้อกับตัวเองเสียงเบา ก่อนจะเดินเอาหัวผักกาดไปล้างทำความสะอาดเพื่อทำผัดผักกาดใส่ไข่ง่าย ๆ เป็นมื้อเช้า ทว่าระหว่างกำลังใช้มือค่อย ๆ ล้างดินออกทีละนิด นัยน์ตาเรียวก็เบิกกว้างราวกับคิดสิ่งใดออกมาอย่างกะทันหัน

‘พรข้อที่สองหนูขอห้างสรรพสินค้ายุค 2024 แบบจัดเต็มค่ะคุณยาย’

พลันสิ้นเสียงหวานใสสายลมเย็นก็พัดมาปะทะกับใบหน้าของเธออย่างจังราวกับคนที่เธอนึกถึงนั้นรับรู้แล้ว ก่อนจะรู้สึกเย็นที่ข้อมือข้างซ้าย

กำไลหยกเนื้อดีชิ้นนี้อยู่บนข้อมือเธอตั้งแต่ตอนไหนกัน…

ความเย็นของมันทำให้มือเรียวอดสัมผัสมันไม่ได้ ทันทีที่ปลายนิ้วแตะลงบนผิวของหยก หญิงสาวเหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่งภายในเวลาเพียงเสี้ยวลมหายใจ และสิ่งที่เห็นตรงหน้าทำเอาจางซิ่วอิงถึงกับกรีดร้องออกมาด้วยความดีใจสุดขีด นัยน์ตาใสกระจ่างมองสิ่งตรงหน้าด้วยความตื่นเต้น

ที่นี่คือห้างสรรพสินค้าที่เธอขอ…เธอได้มันมาแล้ว ทั้งที่ในใจก็อดตั้งคำถามกับตัวตนของคุณยายใจดีไม่ได้ ทว่าเมื่อคำนึงถึงสถานการณ์ตอนนี้ เธอจึงทำได้เพียงกล่าวขอบคุณไปตามสายลมเย็นสบายที่พัดผ่าน

นัยน์ตาสีน้ำหมึกมองสำรวจสินค้ามากมายตรงหน้าที่ถูกจัดเรียงในแบบของยุคที่เธอจากมา ทุกสิ่งที่ที่นั่นมีในกำไลหยกวงนี้ล้วนมีมันทั้งสิ้น

หญิงสาวจากโลกอนาคตเดินตรงไปยังโซนเครื่องปรุงรส ก่อนจะเลือกหยิบออกมาทีละอย่างพร้อมกับคลี่ยิ้มกว้างจนตาหยี เมื่อได้เครื่องปรุงที่ต้องการหญิงสาวจึงเลือกหยิบเนื้อและผักสดอีกจำนวนหนึ่งแล้วหลับตาลง เพียงชั่วอึดใจเธอก็ยืนอยู่ในห้องครัวของบ้านหลังน้อยเรียบร้อย

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 3 กล่องเหล็กใบน้อย

    จางซิ่วอิงง่วนอยู่กับการทำอาหารมื้อแรกของวัน เครื่องปรุงหลากหลายชนิดที่เธอสามารถหยิบใช้ได้เท่าที่ต้องการทำให้เธออารมณ์ดีที่ไม่ต้องทนกินอาหารรสชาติจืดชืดหลังจากนี้ริมฝีปากอิ่มปรากฏรอยยิ้มเบาบาง มือเรียวควงตะหลิวไปพลาง ปากก็ฮัมเพลงในยุคอนาคตไปพลาง เพียงไม่นานกลิ่นหอมฉุยของอาหารจานเนื้อหนึ่งจานและผัดผักก็อบอวลชวนให้น้ำย่อยในกระเพาะทำงานหลังจากมื้อเช้าจบลงด้วยความเอร็ดอร่อย หญิงสาวเก็บจานชามไปล้างทำความสะอาด ก่อนจะเริ่มเก็บกวาดบ้านเก่าหลังน้อยให้อยู่ในสภาพที่สบายตาและน่าอยู่โดยเริ่มจากห้องครัวที่เธอเดาไม่ออกจริง ๆ ว่าครั้งสุดท้ายที่ได้เก็บกวาดห้องนี้คือกี่ปีมาแล้วมือเล็กปาดเม็ดเหงื่อที่ผุดพรายตามกรอบหน้าครั้งหนึ่ง ก่อนจะมองห้องครัวที่ผ่านการเก็บกวาดจนเป็นระเบียบอย่างพึงพอใจ ตู้หลังน้อยที่เดิมมีเพียงแค่ไข่ไก่ฟองเดียวก็ถูกเติมจนเต็มโดยสินค้าจากห้างสรรพสินค้ายุค 2024 รวมถึงถังข้าวสาร แป้ง เครื่องปรุง และอุปกรณ์ทำครัวด้วยเช่นกันห้องนอนเป็นพื้นที่ต่อไปที่จะได้รับการเก็บกวาด จางซิ่วอิงรื้อเครื่องนอนเก่าทิ้งทั้งหมด ซึ่งจากที่สำรวจอย่างถี่ถ้วนแล้วมันเก่ามากจริง ๆ แถมผ้าห่มก็เบาบางจนตอนห่มนั้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-02
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 4 ทำการค้าครั้งแรก

    จางซิ่วอิงมารอขึ้นเกวียนก่อนเวลาราวสิบห้านาที ระหว่างนั้นเธอยืนรอเวลาอยู่เพียงเงียบ ๆ สายตารอบข้างที่มองมาราวกับพบเจอสิ่งแปลกประหลาด เสียงตินนินทาลอยแว่วมาตามลมเป็นระยะ หญิงสาวเพียงรับรู้ทว่าไม่ได้ให้ความสนใจเอาความแม้แต่น้อยจากความทรงจำเดิม เจ้าของร่างมักจะถูกมองและนินทาซึ่งหน้าแบบนี้อยู่เป็นประจำ เธออ่อนแอเกินกว่าจะตอบโต้คนเหล่านั้น ในที่สุดจึงทำได้แค่เพียงเดินก้มหน้าอย่างยอมรับชะตากรรมเท่านั้น ต่างจากเธอคนนี้ที่เป็นวิญญาณจากยุคอนาคต แม้จะไม่ได้โต้ตอบแต่ก็ไม่ยอมจำนนอย่างที่แล้วมาพลันดวงตาคู่เรียวตวัดมองเจ้าของเสียงนินทาเหล่านั้นอย่างไม่ยินยอม ก่อนจะเดินเชิดหน้าขึ้นด้วยท่าทางมั่นใจ ไม่ต่างจากคุณหนูตระกูลใหญ่ในเมืองหลังจากรอจนได้เวลา เกวียนสภาพกลางเก่ากลางใหม่ก็เคลื่อนตัวออกไปยังจุดหมายปลายทางทันที เธอสังเกตเห็นว่าเพื่อนร่วมทางมีไม่มาก ส่วนใหญ่จะคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี ซึ่งสำหรับเธอในความทรงจำเดิมคนเหล่านี้นั้นไม่ได้น่าคบหาสักเท่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-04
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 5 ตั้งแผงขายในตลาดมืด

    เสียงเรียกของเถ้าแก่เนี๊ยของร้านช่วยฉุดรั้งเธอออกจากภาพฝันในอนาคต จางซิ่วอิงเดินเข้าไปหาลูกค้ารายแรกของเธอทันทีอย่างไม่ลังเล ก่อนจะวางสินค้าตามรายการสั่งซื้อลงบนโต๊ะตรงหน้าให้คุณป้าฟางอิงได้ตรวจสอบ“ดี ๆ ของดีทั้งนั้น นี่ค่าของนับดูก่อนสิ!”หลังจากตรวจนับของที่สั่งไปจนครบถ้วนแล้ว หญิงวัยกลางคนจึงกล่าวขึ้นอย่างพึงพอใจ ในมือนั้นถือขาหมูที่แพ็คมาอย่างดีดูสะอาดน่าทำอาหารมากกว่าหลายร้านที่ซื้อมาก่อนหน้าเป็นอย่างมาก พลันยื่นถุงเงินใบเล็กที่มีเงินอัดแน่นอยู่ในนั้นให้กับหญิงสาวตรงหน้าจางซิ่วอิงรับถุงเงินใบเล็กมา ก่อนจะโยนไว้ในกระเป๋าผ้าคู่กายอย่างไม่คิดมาก แล้วตอบคุณป้าไปด้วยรอยยิ้มใสซื่อ “ไม่เป็นไรค่ะ คุณป้าว่าเท่าไหร่ก็ตามนั้น”“เธอนี่นะ ไม่กลัวฉันโกงหรืออย่างไร?”แม้จะพูดไปอย่างนั้น แต่แววตาที่มองหญิงสาวคราวลูกก็อ่อนลงไม่น้อย พลันเกิดความรู้สึกเอ็นดูอยู่เล็ก ๆ หลังจากได้เห็นรอยยิ้มใสซื่อนั่นแม้จะไม่อยากเช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-05
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 6 พี่สาวเยว่

    หลังจากสินค้าถูกขายหมดเกลี้ยงแผงภายในเวลาอันรวดเร็ว จางซิ่วอิงจึงพับเก็บผ้าปูไว้ในกระเป๋าผ้าอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเดินดูสินค้าอื่นที่ขายอยู่ภายในตลาดมืดแห่งนี้สักเล็กน้อยแล้วเดินออกมาร่างบางเดินตรงไปยังร้านขายผ้าที่อยู่ไม่ไกล ซึ่งเป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่ เสื้อผ้าสำเร็จรูปรวมถึงผ้าม้วนมากมายวางเรียงรายละลานตาเต็มไปหมด“สวัสดีค่ะ ฉันมาดูชุดสำเร็จรูปสักสองชุด พอจะแนะนำให้ได้หรือไม่คะ?”เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เปล่งออกไปไม่ดังไม่เบา ทั้งใบหน้าของหญิงสาวยังค่อนข้างเป็นมิตรไม่ต่างจากตอนขายของในตลาดมืด ไม่มีคำไหนที่เธอพูดไม่ดีกับพนักงานคนนี้ด้วยซ้ำ เธอมั่นใจแต่ทว่าคำตอบที่ได้รับจากพนักงานของร้านและท่าทางเหยียดหยามของพนักงานที่มีต่อเธอนั้นทำให้จางซิ่วอิงกรุ่นโกรธจนแทบพ่นไฟออกมาเผาหญิงร่างใหญ่ตรงหน้าให้มอดไหม้“นั่นน่ะ! ดูเอาสิ!!!”พนักงานร่างท้วมตอบค่อนข้างห้วน ขณะนิ้วเรียวชี้มั่ว ๆ ไปยังกองผ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-06
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 7 ทำสัญญาการค้า

    จางซิ่วอิงกลับมาถึงบ้านก็ใกล้เวลาอาหารเย็นเต็มที หญิงสาวเลยเลือกทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ได้จากในมิติมาต้มใส่ผักและเนื้อง่าย ๆ เพื่อเพิ่มสารอาหาร ก่อนจะทานจนหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่กี่นาทีร่างบอบบางอาบน้ำชำระร่างกายด้วยด้วยของใช้ที่นำมาจากในมิติ ซึ่งทำให้ห้องน้ำนั้นหอมฟุ้งไม่ต่างจากกลิ่นกายก่อนนอนไม่ลืมตรวจตราความเรียบร้อยรอบบ้านเช่นเคย ก่อนจะนำเงินที่ขายสินค้าในวันนี้ออกมานับ ซึ่งจำนวนที่ได้ในวันนี้ก็นับว่าเป็นที่น่าพอใจนัก อย่างนี้ความฝันเรื่องบ้านหลังใหม่คงอีกไม่ไกลแล้วในคืนนี้จึงเป็นอีกคืนที่สาวสองในร่างของจางซิ่วอิงหลับไปด้วยความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ แม้จะเหนื่อยยากลำบากไปสักหน่อยกับการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ แต่ด้วยหนึ่งสมองและสองมือนี้ลมหนาวจะทำให้ชีวิตของจางซิ่วอิงดีขึ้นให้ได้ ในหัวนั้นวาดฝันอนาคตไปพลาง กระทั่งปิดเปลือกตาลงมุมปากยังคงมีรอยยิ้มเบาบางเช้าวันต่อมาจางซิ่วอิงยังคงทำอาหารง่าย ๆ ทาน ก่อนจะออกจากบ้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 8 วางแผนซื้อบ้าน

    จางซิ่วอิงเดินออกมาจากร้านขายผ้าด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า ภายในกระเป๋าผ้ามีสัญญาการค้าที่พึ่งเซ็นไป โดยหลังจากนี้เธอจำต้องนำกิ๊บติดผมในมิติออกมารอไว้ทุกวัน เพื่อรวบรวมส่งให้กับพี่สาวเยว่ทุกเจ็ดวันระหว่างทางเดินไปขึ้นเกวียนหญิงสาวเดินผ่านสำนักงานขายที่ดินพอดีพอคำนวนเวลาที่เหลือแล้วคิดว่าพอมีเวลาอยู่นิดหน่อยกว่าเกวียนรอบหน้าจะออก จึงตัดสินใจเข้าไปติดต่อสอบถามเพื่อจะได้รู้ว่าหากต้องการบ้านดี ๆ สักหลังเธอจำต้องทำงานเก็บเงินอีกเท่าไหร่“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าต้องการซื้อที่ดิน บ้าน หรือร้านค้าคะ?”พนักงานสาวที่ยืนรอต้อนรับอยู่ประตูเอ่ยทักทันทีที่จางซิ่วอิงเดินเข้ามา โดยไม่ลืมสอบถามความต้องการของลูกค้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ฉันต้องการดูราคาบ้านพร้อมที่ดินค่ะ ขอสอบถามราคาก่อนได้ไหมคะ?”เธอตั้งใจบอกเจตนาของการมาในครั้งนี้ให้กับพนักงานได้ทราบต้งแต่เนิ่น ๆ เพราะวันนี้เธอยังไม่พร้อมจะซื้อจริง ๆ เพียงแค่ต้องการสอบถามราคาไว้ก่อนเพื่อประกอบการตัด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-08
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 9 สามีไร้ประโยชน์

    หยางซีห่าวมองภรรยาที่ทรุดกายร่ำไห้อยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกเจ็บปวด ก่อนนี้เขาตัดสินใจเข้ากรมเพื่อเป็นทหารก็เพราะอยากให้ภรรยาอยู่อย่างสุขสบาย ไม่ต้องไปทนลำบากทำงานตากแดดในแปลงนาแต่ดูสภาพเขาตอนนี้สิ แม้หมอที่ค่ายจะไม่ได้วินิจฉัยว่าเขาจะพิการเสียทีเดียว แต่ก็ไม่แน่ว่าจะกลับมาเดินได้เหมือนเดิม จางซิ่วอิงคงเสียใจมากที่สุดท้ายแล้วสามีอย่างเขาก็ไม่อาจทำให้ชีวิตของเธอนั้นสุขสบายได้ตลอด แถมยังเจ็บหนักเข้าขั้นพิการกลับมาให้เธอดูแลต่อ สามีเช่นเขานี่มันไร้ประโยชน์เสียจริงเสียงเอะอะโวยวายและถ้อยคำด่าทอรุนแรงของย่าสามีนั้นเรียกสติในตัวเธอให้กลับมาได้ทันเวลา มือเรียวยกขึ้นปาดน้ำตาบนแก้มออก พลางตวัดตามองย่าของสามีด้วยความไม่พอใจ“ซีห่าว!! แก!! แกมันตัวไร้ประโยชน์!”เหยียนเพ่ยแสดงท่าทีเกรี้ยวกราดตีอกชกหัวทันทีที่ได้เห็นสภาพหลานชายที่เคยเป็นคนหาเงินเข้าบ้านมากที่สุด ตอนนี้หยางซีห่าวไม่ใช่ว่าคนไร้ประโยชน์ไปแล้วหรือ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-09
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 10 ตัดขาดเสียที

    น้ำเสียงตวาดกร้าวของผู้เป็นย่าเรียกร้องให้ตัดขาดจากหลานชายดังขึ้นจนทุกคนที่ยืนห้อมล้อมเหตุการณ์อยู่ได้ยินและรับรู้ถึงความใจดำของย่าที่มีต่อหลานชายได้อย่างชัดเจนจางซิ่วอิงเหยียดยิ้มเมื่อสิ่งที่เธอต้องการนั้นได้หลุดออกมาจากปากของหญิงชราเห็นแก่ตัวอย่างง่ายดาย ก่อนจะหันไปสบตากับสามีอีกครั้งหยางซีห่าวสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างอดกลั้น สถานการณ์ตรงหน้าไม่ได้กำลังตอกย้ำความสำคัญของเขาที่มีต่อครอบครัวนี้หรอกหรือ เมื่อหาเงินเขาบ้านไม่ได้แล้ว หลานชังอย่างเขานับเป็นตัวอะไรกัน“จัดการตามที่ย่าว่าเถอะครับ ผมรบกวนด้วย”เสียงทุ้มกล่าวกับผู้นำหมู่บ้านในทันที ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อะไรอีกต่อไปแล้ว เท่านี้ก็ชัดเจนมากพอแล้วโจวเหวินมองชายหนุ่มที่เขาเห็นมาแต่เด็กด้วยแววตาเวทนาสงสาร เขาค่อนข้างสนิทกับพ่อของซีห่าว ฉะนั้นลูกของสหายก็ไม่ต่างจากลูกหลานที่เขาจะต้องให้ความช่วยเหลือเท่าที่พอจะทำได้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-10

บทล่าสุด

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 39 ทายาทที่เหลืออยู่

    จ้าวคุนยื่นมือไปรับรูปถ่ายขนาดเล็กกว่าฝ่ามือจากผู้เป็นพ่อมาดู หากมองผิวเผินรูปนี้อาจจะเป็นเพียงรูปครอบครัวทั่ว ๆ ไป ซึ่งฉากหลังของรูปถ่ายเขาจดจำได้ดีว่าตรงนั้นคือลานน้ำพุหน้าคฤหาสน์หลังนี้นี่เอง แม้การเวลาผันเปลี่ยน สวนดอกไม้อาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่เขาที่อยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิดมีหรือจะจำไม่ได้ในรูปถ่ายมีบรรดาเครือญาติทั้งสายหลักสายรองของตระกูลจ้าวนับคร่าว ๆ เกือบร้อยชีวิต เดาว่าในรูปน่าจะเป็นวันรวมญาติของตระกูลที่จัดขึ้นทุกปีมาอย่างยาวนาน แต่ทุกคนในรูปล้วนไม่ได้สลักสำคัญเท่าใดนักสำหรับจ้าวคุนในตอนนี้ที่กำลังไล่สายตาหาตำแหน่งที่พ่อของตนยืนอยู่รูปคุณปู่คุณย่าที่มีเด็กชายหญิงอายุราวสิบห้าปียืนซ้อนอยู่ด้านหน้า ซึ่งก็เดาได้ไม่ยากว่าเด็กหนุ่มคนนี้คือพ่อของเขานั่นเอง แต่เด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างกันกับพ่อคือคนที่ทำให้จ้าวคุนเริ่มเข้าใจเรื่องราวบางอย่างขึ้นมาบ้างแล้วเด็กสาวผมเปียคนนั้นยืนจับมือเคียงข้างกับพ่อของเขา ขนาดตัวที่เล็กกว่าเด็กหนุ่มเพียงเล็กน้อย แ

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 38 ตระกูลจ้าวแห่งปักกิ่ง

    เสียงรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดที่ถูกขับเคลื่อนเข้ามาภายในคฤหาสน์ตระกูลจ้าวในช่วงเย็นย่ำ ก่อนที่คุณชายจ้าวคุนทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลจะก้าวลงจากรถและเดินเข้าไปในคฤหาสน์อย่างอารมณ์ดีคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลจ้าวตั้งอยู่ใจกลางย่านสำคัญของปักกิ่ง ภายนอกรายล้อมไปด้วยสวนไม้ดอกและไม้ยืนต้นที่ถูกดูแลเป็นอย่างดีกินเนื้อที่กว่าสามไร่ ภายในคฤหาสน์ถูกตกแต่งด้วยเครื่องเรือนเก่าแก่ที่เป็นมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น บางชิ้นไม่อาจประเมินค่าเพราะมีเพียงแค่ชิ้นเดียวบนโลกก็ว่าได้ร่างสูงโปร่งของคุณชายจ้าวเดินเข้ามาในตัวคฤหาสน์ ใบหน้าหล่อเหลาที่ถอดแบบมาจากผู้เป็นพ่อแทบทุกระเบียดนิ้วนั้นประดับรอยยิ้มอย่างคุณชายเจ้าสำราญอยู่ตลอด นัยน์ตาคมทอดมองไปยังข้าวของที่วางเรียงรายกินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของห้องโถง พลางนึกไปถึงเงินจำนวนมากที่คุณพ่อจ่ายออกไปสำหรับของเหล่านี้เพื่อความสุขของคุณแม่ ครั้งนี้คุณพ่อจ่ายหนักเสียจริง…“สวัสดีครับคุ

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 37 แผนงานขั้นต่อไป

    หญิงสาวพยายามเก็บสีหน้าและรักษาท่าทีให้กลับมาสงบดังเดิม ก่อนจะครุ่นคิดถึงสิ่งที่กำลังทำอยู่ในขณะนี้ เธอสังเกตเห็นท่าทีสงสัยของผู้จัดการเผยคนนี้ ก็ไม่แปลกใจนักกับความคิดของคนในยุคนี้ยุคที่เศรษฐกิจภายในประเทศผันผวนตลอดเวลาเช่นนี้ จะมีใครใจกล้าเช่าหน้าร้านระยะยาวด้วยเงินก้อนโตอย่างเธอบ้าง หรือแม้แต่การเช่าที่ดินทำการเกษตรเธอก็เชื่อว่าคงไม่มีใครเช่าระยะยาวหลายปีเช่นที่เธอกำลังทำอยู่อย่างแน่นอนแต่สำหรับโลกก่อนการเช่าร้านใหญ่ในห้างมีใครบ้างอยากจะเช่าเพียงแค่สามเดือน ถ้าหากเธอขายดีขึ้นมาแล้วเกิดหมดสัญญาเช่าก่อน อย่างนั้นจะไม่เสียเวลาต่อสัญญาหรืออาจจะต้องหาหน้าร้านใหม่หรอกหรือ“อย่างนั้นฉันสนใจเช่าห้าปีทั้งสองร้านค่ะ ทางผู้จัดการเผยเขียนสัญญาและคำนวนค่าเช่าล่วงหน้ามาได้เลยนะคะ”น้ำเสียงจริงจังกล่าวออกไปอย่างไม่ลังเล แม้จะเป็นสีหน้าไม่เข้าใจของพี่สาวเยว่แต่จางซิ่วอิงกลับคิดว่าเธอได้คำนวนมาเป็นอย่างดีแล้วต่างหาก

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 36 สัญญาเช่าระยะยาว

    เนื่องจากห้างสรรพสินค้ายังปรับปรุงไม่เสร็จดีและไม่มีพื้นที่สำหรับการต้อนรับหรือพูดคุย เยว่ผิงอันจึงตกลงนัดหมายการทำสัญญาในวันนี้ที่สำนักงานแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กันกับห้างสรรพสินค้าแทนสำนักงานแห่งนี้เป็นสถานที่ดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบส่วนของงานปรับปรุงซ่อมแซมและใช้สำหรับพูดคุยเรื่องสำคัญที่ห้างสรรพสินค้าสร้างขึ้นมาแยกจากตัวห้างสำหรับใช้งานชั่วคราวระหว่างรอสำนักงานที่อยู่บนชั้นบนสุดของห้างสรรพสินค้าปรับปรุงเสร็จอาคารสำนักงานแห่งนี้มีขนาดสี่สิบตารางวานับว่ากว้างขวางพอสมควร ทั้งยังตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันกับห้างสรรพสินค้า ถือว่านายทุนของที่แห่งนี้นอกจากมีกำลังทรัพย์มหาศาลแล้วยังมีอิทธิพลค่อนข้างมากระยะทางจากบ้านของเธอมาถึงสำนักงานแห่งนี้นับว่าใกล้กันมาก จางซิ่วอิงจึงนัดหมายกับพี่สาวเยว่มาเจอกันที่นี่แทน สองสามีภรรยาเผื่อเวลาไว้พอสมควร ระหว่างทางจึงไม่ได้รีบร้อน ทั้งคู่เดินไปหยอกล้อกันไปราวกับคู่รักหนุ่มสาวที่พึ่งแต่งงานกันใหม่ ๆ ก็ไม่ปา

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 35 คนหลงภรรยา

    ในทันทีที่แผ่นหลังบอบบางสัมผัสกับพื้นผิวของเตียงเตาหลังกว้าง ร่างหนาของหยางซีห่าวก็ทิ้งกายลงคร่อมทับภรรยาเอาไว้ สองสายตาสบประสานกันอย่างสื่อความหมายกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากกายของหญิงสาวโชยขึ้นมาเตะจมูกของคนเป็นสามีจนรู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งกายหนา กอปรกับดวงตาคู่เรียวที่ปรือขึ้นมองเขาอย่างยั่วเย้านั้นทำเอาหยางซีห่าวแทบคลั่งพลันริมฝีปากหยักจรดลงบนแก้มนิ่มอย่างอ่อนโยน ช่างขัดกับลมหายใจอุ่นร้อนที่เริ่มติดขัด มือหนาทั้งบีบทั้งเคล้นไปเสียทุกส่วนโค้งเว้าใบหน้าเรียวเล็กเชิดขึ้นเล็กน้อยเมื่อถูกสัมผัสอุ่นจูบซับไปตามกรอบหน้า ริมฝีปากบางเผยออ้าราวกับรู้อยู่ก่อนแล้วว่าชายหนุ่มจะประกบจูบลงมาเรียวลิ้นชื้นสอดแทรกเข้าไปตักตวงความหวานในโพรงปากของภรรยา ก่อนจะถูกร่างบางจูบตอบกลับมาอย่างเร่าร้อนไม่แพ้กัน สองแขนเรียวเล็กยกขึ้นโอบกอดรอบลำคอหนา พลางเอียงใบหน้าเพื่อสอดรับเรียวลิ้นได้ถนัดถนี่หยางซีห่าวค

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 34 สามีปากหวาน

    หลังจากพูดคุยกันต่ออีกราวสามสิบนาทีจางซิ่วอิงเห็นว่าใกล้เวลามื้อเย็นแล้วจึงชวนสหายรุ่นพี่ให้อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนค่อยกลับซึ่งในทีแรกเยว่ผิงอันมีท่าทีปฏิเสธ แต่ทว่ากลับถูกคะยั้นคะยอจากคู่ค้าคนสำคัญ หนักเข้าจึงตกปากรับคำในเวลาต่อมาด้วยความเกรงใจในยุคนี้ข้าวปลาอาหารล้วนขาดแคลน การซื้อหานับว่าต้องใช้เงิน สินค้าบางอย่างมีการยกเลิกการใช้คูปองไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังต้องใช้เงินจำนวนมากในการซื้ออยู่ดี การทานอาหารบ้านคนอื่นนับเป็นเรื่องที่ต้องเกรงใจให้มากคุณแม่เธอสอนมาอย่างนั้น จึงค่อนข้างเกรงใจสหายไม่อาจรับปากง่าย ๆ ได้จางซิ่วอิงปลีกตัวเข้ามาทำอาหารในครัว โดยปล่อยสหายให้นั่งดูแผนงานรอไปก่อน ซึ่งหยางซีห่าวสบโอกาสใกล้ชิดในทันที ร่างหนาเร่งเดินตามภรรยารักเข้ามาในครัวพร้อมกับออกปากว่าจะช่วยทำกับข้าวในวันนี้หญิงสาวนึกอยากทานไก่คั่วพริกเกลือขึ้นมาจึงเริ่มหยิบเนื้อไก่ขึ้นมาหั่นชิ้นพอดีคำ ก่อนจะเตรียมวัตถุดิบอื่น ๆ จากนั้นจึ

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 33 วางแผนธุรกิจใหม่

    เยว่ผิงอันยิ้มกว้างเมื่อเห็นสหายรุ่นน้องและสามีกลับบ้านมาพอดีหลังจากมายืนรออยู่เกือบสิบห้านาทีเธอเคยมาที่บ้านหลังนี้ครั้งหนึ่งแล้วจึงได้รู้ว่าสามีของอิงอิงนั้นเป็นทหารที่กำลังพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บ แต่ทว่าตอนนี้ชายหนุ่มกลับยืนเคียงข้างภรรยาอย่างมั่นคง นี่นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากไม่ใช่เหรอ“ฉันจะมาคุยเรื่องร้านใหม่ของเราน่ะสิ!”เยว่ผิงอันตอบอย่างกระตือรือร้นขึ้นมาในทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ถึงเหตุผลของการมาที่บ้านหลังนี้ ใบหน้าเรียวแม้จะดูเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อธุระสำคัญของวันนี้จางซิ่วอิงยิ้มรับพลางพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะหยิบลูกกุญแจขึ้นมาไขรั้วบ้านแต่ก็ถูกมือหนาของสามีแย่งไปเสียก่อน เธอจึงทำได้เพียงส่งยิ้มขอบคุณเขาและหันมาให้ความสนใจกับสหายคู่ค้าก่อนเยว่ผิงอันมามองท่าทีสองสามีภรรยาคู่นี้ก็ยิ้มกริ่มขึ้นมา พลางส่งสายตาล้อเลียนไปให้สหาย จนหญิงสาวที่ถูกมองแบบนั้นถึงกับขวยเขิ

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 32 หาหมอครั้งสุดท้าย

    เสื้อผ้าเนื้อละเอียดสีเดียวกัน ฝีเข็มปราณีตบ่งบอกถึงราคาที่ไม่ใช่ชาวชนบททั่วไปจะจับต้องได้ ชุดคู่นี้ถูกสวมลงบนกายของทั้งคู่ หากใครเห็นไม่บอกก็พอจะรู้ได้ว่าชายหญิงคู่นี้คือคนรักกันอย่างแน่นอน หลังจากประทินโฉมเพียงเล็กน้อยจางซิ่วอิงก็ได้เวลาออกจากห้องนอน ซึ่งมีสามีมายืนรออยู่ก่อนแล้วจางซิ่วอิงนั่งลงบนเก้าอี้ประจำตำแหน่งโดยมีสามีเลื่อนให้ ใบหน้าเรียวเล็กวาดยิ้มจนตาหยีก่อนจะกล่าวขอบคุณสามีเสียงหวานความสุขที่อัดแน่นอยู่ในอกถูกแสดงออกผ่านสีหน้าและแววตา ภาพตรงหน้าที่เกิดขึ้นนั้นราวกับความฝันที่เธอไม่อยากจะตื่น พลันหวนนึกถึงที่ที่จากมา ในตอนนั้นชีวิตคู่ของเธอกับพี่ซีห่าวก็นับได้ว่าหวานชื่นไม่แพ้ตอนนี้ แม้จะไม่ได้ตบแต่งกันเช่นชีวิตนี้ แต่เขาก็ดูแลเอาใจใส่เธอเป็นอย่างดีในทุกวันเขาและเธอจะต่างคนต่างทำหน้าที่การงานของตนเอง อาจมีแวะเวียนมาทานมื้อกลางวันด้วยกันบ้าง ทานมื้อเย็นด้วยกันเป็นประจำ ไม่ว่าเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตจะยากเย็นสักแค่ไหน เขาไม่เคยปล่อย

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 31 บอกรักที่ไม่มีคำว่า “รัก”

    รุ่งเช้าของวันใหม่ดวงอาทิตย์เริ่มโผล่พ้นขอบฟ้าจนเกิดแสงสีแดงอมส้มที่ลอดผ่านเข้ามาผ่านช่องหน้าต่างเล็ก ๆ ตามมาด้วยเสียงเคลื่อนไหวของบ้านหลังอื่น ๆ ที่อยู่รอบพื้นที่เปลือกตาสีไข่ปรือขึ้นพลางกระพริบขี้นลงถี่รัวเพื่อปรับให้คุ้นชินกับแสงที่กระทบเข้ากับดวงตา ทันทีที่ตื่นเต็มตาเธอหันไปมองร่างหนาที่หลับสนิทอยู่ข้างกาย ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอบ่งบอกว่าเขากำลังหลับสนิท ท่อนแขนแข็งแกร่งยังคงกอดรัดเอวคอดกิ่วเอาไว้เช่นทุกวันแต่ที่ต่างออกไปเพราะระหว่างทั้งคู่ไม่ได้เพียงแค่หลับไหลอยู่ในอ้อมกอดของกันและกันอย่างเช่นทุกคืน…จางซิ่วอิงเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ดวงตาคู่เรียวไล่สำรวจใบหน้าหล่อเหลาของสามี สันจมูกคมเด่น กรามได้รูป และลูกกระเดือกใหญ่ที่ข้างกันมีร่องรอยสีแดงจาง ๆ ติดอยู่ พลันใบหน้างามรู้สึกเห่อร้อนขึ้นมาเมื่อนึกไปถึงที่มาของรอยนั้น ทั้งลำคอหนา ไหปลาร้า หรือแม้แต่หน้าอกแกร่ง ล้วนมีรอยที่เธอเป็นคนทำขึ้นทั้งสิ้นคล้ายว

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status