วันนี้ที่บ้านของวิชิตมีงานเลี้ยงต้อนรับเล็กๆ
ถูกจัดขึ้นที่บริเวณริมสระน้ำในคฤหาสน์หลังใหญ่โต มีเพียงญาติสนิทมิตรสหายที่คุ้นเคยกันเท่านั้นที่มางานนี้ จริงๆ แล้ววิชิตไม่ได้อยากให้จัดงานนี้ขึ้นมาเลย แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้เมื่อเป็นคำสั่งของท่านเจ้าสัวโชติ เกียรติกุล บิดาของเขา "เฮ้อ....น่าเบื่อชะมัด" วิชิตถอนหายใจออกมาอย่างหนัก เมื่อเขามีโอกาสได้มานั่งดื่มกับเพื่อนสนิทอย่างชานนท์ในอีกโต๊ะหนึ่ง งานเลี้ยงนี้มีเพียงคนสนิทเพียงไม่กี่คน และหนึ่งในนั้นก็คือครอบครัวของว่าที่เจ้าสาวของเขา แพรวา ผู้หญิงคนที่ทำให้อะไรๆ ในชีวิตเขาดูน่าเบื่อไปหมด "ไม่รู้จัดงานนี้ขึ้นมาทำไม เบื่อหน้าคนบางคนชะมัด " วิชิตพึมพำให้ชานนท์ฟัง "เอ่อน่า..อย่าคิดมาก น้องวาก็น่ารักดีนี่หว่า ถึงว่าไม่ยอมพาไปไหนด้วยเลย " ชานนท์แซววิชิต เขารู้สึกว่าแพรวา ไม่ได้เลวร้ายอะไร ทำไมเพื่อนของเขาถึงได้ปากร้ายว่าเธอได้ทุกวินาทีขนาดนี้ "นายไม่รู้อะไร เห็นใสๆ แบบนี้นะไม่เคยยอมสงบปากสงบคำเลยสักครั้ง ฉันเบื่อต่อล้อต่อเถียงกับเธอ พูดสอนอะไรก็ทำหน้ามึนไม่ยอมฟังสักอย่าง" "เอ่อๆ แล้วแต่นาย ว่าแต่กลับมาครั้งนี้คิดจะทำอะไรที่ไหนยัง " " ยังไม่รู้เหมือนกัน พ่อบอกให้ไปช่วยงานที่บริษัทเหมือนกัน แต่เบื่อหน้าคนบางคนคิดว่าคงไม่ไปทำหรอก " " ฮ่า ฮ่า ฮ่า เป็นเอามากนะนาย น้องวาเขาก็อยู่ของเขา มีแต่นายนั่นแหละ แซะอะไรเขานักหนาวะ " ชานนท์ถึงกับขำออกมาเมื่อเห็นท่าทางของวิชิตที่ดูจะไม่ชอบแพรวา จนออกนอกหน้าขนาดนั้น " ว่าแต่นายเถอะเป็นยังบ้าง เมื่อไหร่จะแต่งสักทีละ " วิชิตสวนกลับชานนท์บ้าง "กำลังคิดอยู่เหมือนกัน คงอีกไม่นานเกินรอหรอก " " ขอน้องกวางแต่งงานแล้วเหรอถึงกล้าพูดว่าเขาจะแต่งด้วย" "อ้าวๆ...ทำไมมาแช่งกันละเพื่อนเลิฟ... ยังไม่ขอ แต่เดี๋ยวค่อยขอ ไม่มีทางหลุดมือไปหรอกคนนี้นะ " ชานนท์ทำท่ามั่นใจ จนวิชิตนึกหมั่นไส้ "พี่ชิตคะ พาวาไปเดินเล่นตรงโน้นหน่อยสิคะ " แพรวาเดินนวยนาดมาหาวิชิต วิชิตทำหน้าเซ็งแล้วตอบไปว่า " นำไปสิ อยากไปตรงไหนก็เดินไปเลย " แล้วเขาก็มองหน้าชานนท์ ชานนท์พยักหน้าให้วิชิต "ตามสบายเลยเพื่อนเทคแคร์ว่าที่เจ้าสาวดีๆ ละ " คำพูดของชานนท์ทำวิชิตจ้องเขาเขม็ง ชานนท์นั่งกลั้นขำกับท่าทีขึงขังของวิชิต ตลกเพื่อนรักที่ทำอะไรมากไม่ได้ ได้แต่ต้องแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าพ่อแม่ของทั้งสองฝ่าย แพรวาเดินมาอีกฟากของริมสระน้ำอยู่ติดกับสวนหย่อมมีไม้ดอกไม้ประดับนาๆ ชนิดผลิดอกบานส่งกลิ่นหอมอ่อนแบบธรรมชาติ อยู่ติดด้านข้างของคฤหาสน์หลังใหญ่ แสงไฟจากแสงนีออนส่องกระทบผิวน้ำส่องประกายวิบวับ สะท้อนกลับมา " อากาศดีจังเลยคะ " แพรวาพูดขึ้นเมื่อเธอนั่งลงตรงขอบสระว่าย แล้วเอาเท้าเรียวหย่อนลงตีน้ำเป็นคลื่น "อืม..." วิชิตตอบสั้นๆ "เมื่อไรจะยอมพูดดีๆ กับวาสักครั้งคะ " วันนี้แพรวาเธอมาแปลกดูเรียบร้อยผิดปกติ วิชิตสังเกตว่าแพรว่าเธอพูดเพราะขึ้น ไม่ค่อยเอาแต่ใจเหมือนเมื่อก่อน วิชิตไม่ยอมตอบอะไร เพราะเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมชอบหาเรื่องแกล้งแพรวานัก รู้แค่ว่าสะใจดีเวลาเห็นแพรวาโวยวาย แล้วเขาก็นึกสนุกขึ้นมาได้ แต่รอเวลาก่อน "หึๆ" วิชิตขำในลำคอ แค่คิดก็สนุกแล้ว แพรวานั่งเล่นได้สักพักก็รู้สึกเบื่อเธออยากคุยอะไรกับวิชิตมากมาย แต่พอถามอะไรเขาไป เขาก็ตอบ " อืม " คำเดียว เธอเลยลุกขึ้นหมายจะกลับ แต่ชนเข้ากับอกแกร่งของวิชิต เต็มแรง เธอเลยคว้าร่างของเขาไว้ แต่วิชิตกลับผลักเธอเต็มแรง จนแพรวาเธอหงายหลังตกน้ำ ว้าย.../ ตูม!!... เสียงแพรวาร้องเสียงหลง ตามด้วยเสียงสิ่งของตกน้ำ ทำผู้ใหญ่พากันลุกขึ้นมองตามเสียง ชานนท์รีบวิ่งมาตามเสียงนั้น และก็เป็นเหมือนที่ชานนท์คิดไว้ วิชิตแกล้งแพรวาอีกแล้ว เพราะตอนนี้วิชิตยืนกอดอกมองแพรวาทีลอยคอตุบป๋อง อยู่ในสระ ปากกลั้นขำเอาไว้ แต่ใครเห็นก็มองออกว่าเขาสะใจแค่ไหน "นายทำอะไรชิต " ชานนท์อดตำหนิเพื่อนไม่ได้ ดูแล้วเกินกว่าเหตุไปหน่อย "พี่ชิตจับมือวาขึ้นหน่อย " พอเห็นชานนท์ว่าให้วิชิต แพรวาเธอเลยขอความช่วยเหลือจากวิชิตโดยการ เกาะขอบสระแล้วยื่นมือให้เขา วิชิตลังเลครู่หนึ่งก่อนจะยื่นมือให้แพรวา เฮ้ย!!..../ ตูม!!.... แพรวาเธอไม่ยอมเปียกคนเดียวแน่ แก้เผ็ดวิชิตได้ทันควัน "ฮ่า ฮ่า ฮ่า " แพรวาขำเสียงดังลั่น วิชิตมองคนตัวเล็กตาเขียวปั๊ด ว่ายไล่จับแพรวาในน้ำ แต่แพรวาเธอไหวตัวทันรีบขึ้นจากสระได้ก่อนที่วิชิตจะจับได้ พอเธอขึ้นจากสระได้ สายตาของวิชิตถึงกับตะลึงงัน กลืนน้ำลายอึกใหญ่ แพรวาเธอซ่อนรูป เธอไม่เคยใส่ชุดเปิดเนื้อผิวให้ใครเห็น แต่ครั้งนี้เธอตกน้ำชุดที่เธอสวดใส่แนบชิดกับเนื้อจนเห็นสัดส่วนทั้งหมด ชานนท์ก็มองเช่นกัน วิชิตรีบขึ้นจากสระแล้วเอาเสื้อคลุมที่ชานนท์ใส่อยู่คลุมให้แพรวาทันที "จะยืนอ่อยอยู่ตรงนี้อีกนานไหม" "หึ" ชานนท์ขำวิชิตอีกครั้งปากบอกเกลียดแต่การกระทำบางอย่างมันไม่ใช่ วิชิตพาแพรวามาหาชุดใส่ ซึ่งตอนนี้เธอใส่เสือยืดตัวที่เล็กที่สุดของวิชิตแต่ความยาวของเสื้อเขาพอดีกับเข่าของเธอเลย ส่วนกางเกงเป็นกางเกงเอวยืดที่ต้องเอายางมารัดไว้ไม่งั้นมันจะหลุด ที่ปลายก็ต้องพับอีกหลายทบจึงจะอยู่ที่ขอเท้าของแพรววาได้ " ฮ่า ฮ่า ฮ่า" วิชิตขำแพรวาใส่ชุดเขาจนท้องแข็ง "ไม่ต้องมาขำเลย ชอบนักเหรอคะ ที่เห็นวาโมโหนะ" วิชิตพยักหน้าแบบลืมตัว พอนึกได้ "เฮ้ย!! ไม่ใช่ ไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นเลยน่ะ" แต่ปากก็ยังอมยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่ "งั้นวากลับแล้วนะคะ ไม่อยากให้อยู่ก็บอกกันดีๆ ก็ได้ ไม่เห็นต้องแกล้งพลักวาตกน้ำให้อายเลยนี่ค่ะ" แพรวาต่อว่าวิชิต แล้วเธอก็ไปลาผู้ใหญ่เพื่อจะลากลับบ้าน คอมเมนต์+กดถูกใจเป็นกำลังให้ด้วยนะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะหลายวันผ่านไป....วันนี้คุณหญิงชวนชมบังคับวิชิตมารับแพรวาไปทานมื้อเที่ยงเป็นการไถ่โทษ ที่วิชิต แกล้งแพรวาให้เธอไปรอเก้อที่สนามบินทั้งวัน และเรื่องที่วิชิตแกล้งพลักหญิงสาวตกน้ำด้วยวิชิตขัดไม่ได้เลยต้องยอมเพราะแม่เขาขู่ไว้หลายอย่าง ชายหนุ่มเลยต้องยอมรับนัดกับแพรวาแพรวาเธอดีใจมาก คิดว่าวิชิตเห็นความสำคัญของตัวเองมากขึ้น ถึงขั้นยอมมากินข้าวด้วยแล้วเพราะเธอไม่ค่อยได้ใกล้ชิดกับเขาสักเท่าไหร่ ถ้าเธอไม่ไปตามตื๊อเขา ก็อย่าหวังว่าเขาจะมาให้เธอเห็นแม้เงาวันนี้แพรวาแต่งตัวสวย ด้วยชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อน ดูสดใสตามวัย เพียงแค่ไม่ใช่ตัวตนของเธอเท่าไรเธอชอบกางเกงยีน เสื้อยืด รองเท้าผ้าใบมากกว่าแต่เธอก็พอรู้ว่าวิชิตชอบสาวหวานเรียบร้อย เธอจึงยอมใส่ชุดนี้ในวันนี้ แม้จะรู้สึกเขินมากแค่ไหนพอถึงเวลานัดวิชิตก็มารับเธอตรงเวลา แพรวาดีใจมาก เพราะในใจลึกๆ ของเธอก็กลัวว่าเขาจะปล่อยให้เธอแต่งตัวรอเก้อเหมือนเมื่อครั้งก่อนๆ และมันก็เกิดขึ้นบ่อยๆ จนเป็นเรื่องปกติสำหรับเธอไปแล้วแต่นี่เขามารับเธอ เธอไม่ได้ฝันไป... แพรวาหัวใจพอโต รู้สึกสุขใจจนบอกเป็นคำพูดไม่ได้ ได้แต่ยิ้มจนเหมือนคนบ้าในระหว่างทางที่อยู่บนรถในขณะ
ผับแห่งหนึ่ง"ว่าไงเพื่อนรัก ทำไมทำหน้าแบบนั้น "ชานนท์ทักทายวิชิต เมื่อเขามาถึงผับที่นัดกันไว้ และเห็นวิชิตนั่งทำหน้าเซ็งสร้อย"ก็วันนี้มีนัดกับน้องมาย แต่แม่ก็ดันไปนัดกับยายเด็กนั่น และก็ยังบังคับให้ไปทานข้าวให้ได้ด้วย ไม่งั้นจะยึดของรักเลยต้องทำตาม "" ก็ไม่น่าเป็นอะไรนี่ นายก็ไปแล้วไม่ใช่เหรอ"แล้วชานนท์ก็เดินมานั่งที่เก้าอี้ข้างวิชิต"เป็นสิก็น้องมาย โกรธมากแล้วยังไปรู้มาอีกว่าฉันมีคู่หมั้นแล้ว ตัดสัมพันธ์กันทันทีเลย ยังไม่ได้อธิบายอะไรเลย""แล้วนายจะอธิบายว่าอะไรละ ""ก็...นั่นสิวะ โอ๊ยปวดหัว ก็เลยมานั่งดื่มอยู่นี่ไงแก้เครียด "วิชิตนึกถึงคำของชานนท์ จะแก้ตัวยังไงเขาก็มีคู่หมั้นแล้วจริงๆ คงมีทางเดียวคือ หาทางยกเลิกงานแต่ง แค่นี้เขาก็จะโสด และก็ไม่ต้องมียายตัวยุ่งมาคอยขวางหูขวางตาด้วยแค่คิดก็รู้สึกดีขึ้นมาทันที วิชิตยกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก" มีแผนอะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น "ชานนท์อดสงสัยไม่ได้"ไม่มีอะไรแค่อยากโสดก็เท่านั้น ฮ่า ฮ่า ฮ่า "วิชิตหัวเราะร่าอย่างมีความสุขเมื่อนึกแผนออกว่าจะทำอย่างไรให้ถูกยกเลิกงานแต่ง"เอ่อ...ชิตตอนนี้ว่างอยู่ใช่ไหม "ชานนท์ถามเพื่อนรัก"อืม...ว่างยัง
หลายวันผ่านไป..... " มีอะไรวะนนท์ ถึงได้นัดมาผับตั้งแต่หัววัน " พอวิชิตเข้ามาในผับประจำของพวกเขา ก็เริ่มถามชานนท์จนตอบแทบไม่ทัน "อกหัก..." ชานนท์ตอบสั้นๆ แต่น้ำเสียงเศร้าจนวิชิตชะงักเงียบมองหน้าเพื่อนรักอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน แล้วเดินไปตบบ่าเพื่อนเบาๆ สองสามที " อยากเล่าไหม""อืม เราผิดเอง เรามันเลวไง "ชานนท์ตอบด้วยน้ำเสียงตัดพ้อตัวเอง แล้วชานนท์ก็เล่าเรื่องที่แฟนสาวไปเห็นหลักฐานที่เขาเพิ่งร่วมรักกับแม่เลขาสุดเอ็กซ์แต่ชอบแต่งตัวเรียบร้อยปกปิดทุกอย่างแต่เวลาปลดผ้าออก คุณเธอทำชานนท์หลงใหลได้ไม่ยากจนทำให้แอบกินกันมาได้พักใหญ่แล้วพอแฟนของเขาเห็นหลักฐานนั้นก็บอกเลิกเขาทันทีชานนท์ไม่คิดว่าแฟนสาวจะใจเด็ด เลิกเขาไปทันทีขนาดนั้น โดยไม่ฟังคำอธิบายใดๆ เลยเขาไปตามง้อเธอแล้วแต่ ยังไม่เจอตัวเลย ชานนท์ระบายความในใจอยู่ไม่นานก็หยุดเมื่อสายตาไปสะดุดกับสาวสวยที่เดินเข้ามาในผับพร้อมเพื่อนๆ ของเธอชานนท์เริ่มส่องและส่งสายตาให้หญิงสาวคนสวยอย่างเปิดเผยใช่...เวลานี้เขาต้องหาสาวๆ เพื่อผ่อนคลายอารมณ์ที่เพิ่งโดนบอกเลิกมามาดๆ "อะไรวะ นี่เพิ่งอกหักจะหาสาวมาดามอกเลยเหรอว่ะ ""ไม่ได้เอามา
วิชิตเดินตามแพรวามาทางห้องน้ำ เขารู้สึกคิดหนัก เมื่อนึกถึงแววตานั้นของแพรวา เขาแค่สนุกที่ได้แกล้งเธอแต่กลับเป็นสิ่งที่ดูจะรุนแรงเกินไปสำหรับครั้งนี้ วิชิตถอนหายใจออกมาเบาๆ " เฮ้อ.... ทำไงได้เธออยากวุ่นวายกับฉันนัก จะได้จำ " จากที่คิดว่าตัวเองผิด อยู่ ๆ เขากลับคิดว่าตัวเองทำถูกแล้ว และเขาก็ไม่สนใจที่จะไปขอโทษแพรวาด้วย วิชิตเดินเข้าไปในงานหน้าตาเฉย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สาวๆ พากันเสนอตัวด้วยสายตา และด้วยท่าทาง ตลอดทางที่วิชิตเดินผ่าน และชายหนุ่มก็ส่งยิ้มหวานให้หญิงสาวทุกคนที่มองเขา เพื่อแสดงว่าเขาสามารถ ทักทายพูดคุยกับใครก็ได้ โดยที่คู่หมั้นของเขาไม่มีสิทธิ์จะห้ามปรามอะไรเลย และถึงห้าม เขาก็คงไม่ฟังเธอเช่นกัน มีแต่จะทำให้ตัวเองเสียหน้ามากกว่า แพรวาตัดสินใจกลับบ้านทันทีที่ออกจากห้องน้ำ เธอรออยู่นานพอสมควร ถึงได้ออกจากห้องน้ำ เธอไม่อยากเจอสายตาของผู้คนที่มองเธอเลย เหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นเหตุการณ์ที่น่าอายที่สุดในชีวิตของเธอ แพรวาเธอเจ็บปวดกว่าครั้งไหนๆ วิชิตทำสำเร็จแล้ว เขาทำเธอยอมแล้ว แค่คิดเธอก็น้ำตาซึม แต่...เพียงไม่นานเธอก็สลัดมันทิ้งได้ เธอจัดการกับความผิดหวังเรื่องของวิช
วิชิตช่วยงานชานนท์อย่างเต็มที่เพราะเขาก็มีหุ้นส่วนอยู่ที่นี่ด้วย อาจไม่มากมายถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แต่ก็สำหรับคนทั่วไปนั่นหมายถึงอยู่สบายไปทั้งชาติ วิชิตได้รับการมอบหมายงานหลายอย่างเพราะชานนท์จะไปดูงานที่ต่างจังหวัด หนึ่งอาทิตย์วิชิตรับงานไว้โดยไม่เกี่ยงงอนใด ช่วงนี้แม่เขารบเร้าให้ไปรับคู่หมั้นมาทานข้าว ดูหนัง ชอปปิงตามประสาผู้หญิงแม่เขาบอกว่า สิ่งเหล่านี้คือความสุขของผู้หญิง แต่ตัวเขากลับไม่รู้สึกมีความสุขด้วยเลยเขาจึงรับงานทุกอย่างที่ชานนท์คั่งค้างไว้มาทำทั้งหมด เพื่อเป็นเกราะในการโดนแม่บังคับบริษัท....ในอาทิตย์นี้เองที่มีนักศึกษาเข้ามาฝึกงานที่บริษัท วิชิตเป็นคนดูแลเรื่องนี้ด้วย เพราะมีเด็กฝึกงานด้านเลขามาด้วยหนึ่งคน เขาจึงให้เธออยู่ในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาจริงๆ แล้วก็เป็นเด็กฝากของชานนท์นั่นแหละ เป็นหลานสาวของคู่ขาเก่าของชานนท์ เธอชื่อเดือนฉายวิชิตได้พบและสอนงานเธอ เพราะช่วงนี้ชานนท์ไม่อยู่ ถ้ามีผู้ช่วยมาช่วยงานเขา ก็ถือได้ว่ามีคนช่วยแบ่งเบาภาระเล็กๆ น้อยๆ ได้เดือนฉายเธอเป็นเด็กสาวหน้าใส นิสัยเรียบร้อย พูดจาไพเราะ ที่สำคัญเธอเป็นอดีตดาวมหาลัยด้วยเรื่องความสวยก็ไม่ธรรมดาอยู่แ
วิชิตเริ่มเดินหน้ารุกจีบเดือนฉายอย่างเปิดเผยโดยในวันนี้พอเลิกงานวิชิตก็พาเดือนฉายไปเดินห้าง และเดินซื้อของที่เดือนฉายอยากได้ไม่ว่าสิ่งนั้นจะราคาเท่าไหร่ วิชิตสามารถเปย์ ให้หญิงสาวได้ทุกอย่างสร้างความพึงพอใจให้เธอเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าในใจลึกๆ แล้วเธอไม่ได้สนใจวิชิตมากเท่าวิชิตสนใจเธอก็ตามเธอตกลงยอมลองคบกับเขาเพียงเพราะความเป็นคนใจป๊าของวิชิตเท่านั้นเพราะในตอนนี้เขาสามารถให้เธอมากกว่าผู้ชายคนอื่นของเธอในตอนนี้เดือนฉายที่กำลังมองวิชิต ที่ถือของพะรุงพะรังแล้วยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม และในขณะเดียวกันเขาก็ยิ้มหวานให้เธอเช่นกัน"วันนี้พี่มีความสุขจังเลยครับ ที่ได้พาน้องเดือนมาเดินเล่น "วิชิตรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมากที่ได้ใกล้ชิดกับเดือนฉาย ถึงแม้ว่าทุกอย่างจะดูเร็วเกินไป แต่เขาก็คิดว่าเธอคือคนที่เขาพร้อมที่จะดูแลทั้งสองเดินเคียงคู่กัน หยอกล้อกันอย่าง มีความสุข โดยไม่ได้เห็นว่าใครกำลังมองพวกเขาอยู่ในร้านอาหารหรู....แพรวามีนัดกินอาหารกับลูกค้ารายสุดท้ายของการทำงาน เพราะเธอจะไม่เข้าไปช่วยงานที่บริษัทของวิชิตอีกแล้วในขณะที่เธอคุยกับลูกค้าอยู่ เธอก็ได้เห็นวิชิตเดินซื้อของอยู่กับเด็กนักศึ
โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง..... ร่างเปล่าเปลือยสองร่างกำลังนัวเนียกันอย่างเร่าร้อน ไฟแห่งแรงปรารถนากำลัง แผดเผ่ากายาของทั้งสองให้มอดไหม้ตรงนั้นเสียให้ได้ ปั๊บ...ปั๊บ...ปั๊บ...ปั๊บ เสียงแรงกระแทกของเอวสอบยังดังไม่หยุดเป็นเวลาหลายสิบนาทีเสียงหวานครางกระเส่า ยิ่งกระตุ้นอารมณ์กระสันให้คนกระทำด้านบน อดกระทำรุนแรงกับร่างเปลือยอรชรตรงหน้าไม่ได้ยิ่งเขาถาโถมเข้าใส่เธอแรงมากเท่าไหร่ เธอยิ่งแอ่นรับสัมผัสนั้น และตอบสนองอารมณ์ให้เขาอย่างเร้าใจชายหนุ่มปรนเปรอบทรักให้หญิงสาวตรงหน้าให้มีความสุขจนแทบสำลัก"อ๊ายยย...อ๊าสส...คุณชิตขา... อ๊าสสส เดือนไม่ไหวแล้วค่ะ "ส่วนเนื้อในที่ถูกความเป็นชายเสียดสีอย่างหนักหน่วงทำให้ก่อเกิดความเสียวซ่านจนเกินต้านทำให้ร่องสาวขมิบตอดรัดลำยักษ์เป็นจังหวะถี่ เพิ่มความเสียวซ่านให้ชายหนุ่มเพิ่มมากขึ้น" อ๊าสสส น้องเดือนอย่ารัดพี่แน่นเกินไป พี่จะไม่ไหวแล้ว อ๊าสสส "ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นซี๊ดปาก พร้อมออกปากร้องครวญครางเมื่อความเป็นสาวกำลังนำพาเขาถึงจุดสูงสุด"อ๊าสส เดือนก็ไม่ไหวแล้วค่ะ อะ...อ๊ายย..""งะ..งั้นพร้อมกันครับ "เสียงแหบพร่าของชายหนุ่มเอ่ยขึ้น เขาเองก็ทนกับความรัญจวนที
พอแพรววกับหนึ่งนารายณ์ออกไป ทินกรก็ยืนสูบบุหรี่ต่อจนหมดมวนจึงเดินกลับโต๊ะ ที่มีเพื่อนๆกำลังสังสรรค์รอเขาอยู่ระหว่างทางเขาเจอเข้ากับวิชิต ซึ่งเดินมากับหญิงสาวหน้าสะสวยคนหนึ่งระหว่างที่เขาคุยกับวิชิต เขาเห็นสายตาของหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังของวิชิตพยายามสบตาเขาอย่างเปิดเผยจนเขารู้สึกข้องใจกับกริยาท่าทางแบบนั้นของเธอมาก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปเพราะตอนนี้เขารู้สึกโมโหวิชิตมากกว่า ที่ทำอะไรไม่ไว้หน้าแพรวาเลยสักนิด แต่เขาก็ต้องทำเป็นเฉยแต่สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะถามถึงแพรวากับตัวของวิชิต"ชิตนายไม่ไปส่งน้องวาหละ ทำไมให้หนึ่งไปส่ง "คำถามของทินกรทำวิชิตถึงกับหยุดนิ่ง แล้วเขาก็มองสบตากับทินกร"ผมยังไม่เจอวาครับ "วิชิตไม่รู้จะตอบยังไงดี เขาเลยตัดสินใจตอบความจริงออกไป"น้องวาเมามาก ตอนแรกนึกว่ามีงานฉลองอะไร ตอนนี้พอเข้าใจแล้ว "ทินกรตอบกลับด้วยอาการหงุดหงิดถ้าแพรวาเลือกเขา เขาจะไม่มีวันทำให้เธอเสียใจเลย แต่นี่เธอเลือกคนตรงหน้าที่เวลาเขาเจอทีไรอยากจะตะบันหน้าเข้าให้ทุกครั้งที่เห็นหน้าเฮ้อ!!ทินกรหายใจออกมาหนักๆ เมื่อไม่ได้รับคำตอบใดๆจากปากของวิชิตอีก นอกความเงียบและนั่นเหมือนเป็นคำตอบในต
สองวันแล้วที่วิชิตใช้รถคันเก่า ในวันแรกที่เดือนฉายได้นั่งรถคันนี้ สีหน้าของเธอนั้นดูไม่ค่อยพอใจเท่าไร แต่เธอก็ไม่ได้แสดงออกมามากนักแต่วันนี้เดือนฉายเธอออกอาการหงุดหงิดให้เห็นอย่างชัดเจนเมื่อรถที่ขับอยู่ดีๆ แอร์ก็ดันไม่เย็นขึ้นมาดื้อๆ จากที่อารมณ์ดีอยู่กลายร่างเป็นนางร้ายทันที"คุณชิตค่ะ เดือนไม่ไหวแล้วนะคะ อากาศร้อนมากขนาดนี้ แล้วแอร์ยังมาเสียอีก ""ครับ เดี๋ยวพี่จะรีบจัดการเลยครับ "ชายหนุ่มรีบกดลดกระจกลงให้ลมยามเย็นได้พัดเข้ามาภายในรถจะได้ช่วยระบายความร้อนออกจากรถ ซึ่งก็ช่วยได้เพียงเล็กน้อยระหว่างทางวิชิตหันมองข้างทางเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ขายอยู่เขาเลยแวะจอดรถข้างทางตรงร้านนั้น หวังอยากจะจอดพักให้เดือนฉายอารมณ์ดีขึ้นแต่เขาคิดผิดเมื่อเดือนฉายเธอยิ่งทำหน้าบึ้งตึงใส่เขา และไม่ยอมพูดจาใดๆ ได้แต่นั่งมองเขาแบบไม่พอใจ"กินก๋วยเตี๋ยวสักถ้วยก่อนนะ เดี๋ยวพี่ค่อยไปส่งที่บ้าน "วิชิตชวนเดือนฉายคุยด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลเพราะหญิงสาวแสดงออกมาว่าไม่พอใจมาก"เดือนว่าวันนี้เดือนกลับเองดีกว่าค่ะ ถ้าคุณชิตอยากกินก็กินเลย เดี๋ยวเดือนจะเรียกแท็กซี่กลับเองค่ะ "พูดจบเดือนฉายก็ลุกพรวดออกจากโต๊ะที่ร้านก๋
"วันนี้ฉันจะต้องจัดการแกให้รู้เรื่อง ตาชิต "หลังจากที่คุณหญิงชวนชมได้อ่านข่าวของลูกชายที่ควงผู้หญิงเที่ยวห้างออกหน้าออกตาทั้งที่ตัวเองมีคู่หมั้นคู่หมายเป็นถึงลูกสาวนายพล มีหน้ามีตาระดับประเทศพอมีข่าวออกมาแบบนี้ก็ยิ่งทำให้ฝ่ายหญิงเสียหาย และนี่คือเหตุผลที่ทำคุณหญิงชวนชมกังวลใจข่าวที่เกิดขึ้น เกิดจากความจงใจของวิชิต ทำให้ที่มีคนตาดีถ่ายรูปเขาลงโซเชียลไว้ได้คุณหญิงชวนชมยิ่งมีอาการโมโหมากขึ้นเพราะเธอโทรหาลูกชายตัวดีแล้วแต่เขาไม่ยอมรับโทรศัพท์"อย่าให้ฉันอดไม่ได้น่ะ ฉันจะตัดแกออกจากกองมรดกจริงๆด้วยคอยดู "คุณหญิงชวนชมบ่นให้กับลูกชายพอตั้งสติได้คุณหญิงชวนชมก็กดโทรศัพท์หาแพรวาทันทีแต่แพรวาเองก็ไม่รับสายคุณหญิงชวนชมเช่นกันยิ่งทำคุณหญิงชวนชมกระวนกระวายใจเข้าไปใหญ่"เป็นอะไรอีกหละคุณหญิง "เสียงทุมแหบแห้งของเจ้าสัวโชติ เอ่ยถามภรรยาด้วยความเป็นห่วงเพราะคุณหญิงเธอเล่นเดินไปเดินมาไม่ยอมหยุดนั่งสักที จนเจ้าสัวที่นั่งจิบชาอยู่รู้สึกสงสัย"ไม่มีอะไรหรอกค่ะ "เธอตอบกลับเสียงหวานแต่ภายในใจนั้นร้อนรุ่มเป็นไฟก่อนจะยอมหยุดเดินวนไปมา เพราะไม่อยากให้เจ้าสัวโชติเป็นกังวลกับข่าวของวิชิตมากไปกว่านี้
พอแพรววกับหนึ่งนารายณ์ออกไป ทินกรก็ยืนสูบบุหรี่ต่อจนหมดมวนจึงเดินกลับโต๊ะ ที่มีเพื่อนๆกำลังสังสรรค์รอเขาอยู่ระหว่างทางเขาเจอเข้ากับวิชิต ซึ่งเดินมากับหญิงสาวหน้าสะสวยคนหนึ่งระหว่างที่เขาคุยกับวิชิต เขาเห็นสายตาของหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังของวิชิตพยายามสบตาเขาอย่างเปิดเผยจนเขารู้สึกข้องใจกับกริยาท่าทางแบบนั้นของเธอมาก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปเพราะตอนนี้เขารู้สึกโมโหวิชิตมากกว่า ที่ทำอะไรไม่ไว้หน้าแพรวาเลยสักนิด แต่เขาก็ต้องทำเป็นเฉยแต่สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะถามถึงแพรวากับตัวของวิชิต"ชิตนายไม่ไปส่งน้องวาหละ ทำไมให้หนึ่งไปส่ง "คำถามของทินกรทำวิชิตถึงกับหยุดนิ่ง แล้วเขาก็มองสบตากับทินกร"ผมยังไม่เจอวาครับ "วิชิตไม่รู้จะตอบยังไงดี เขาเลยตัดสินใจตอบความจริงออกไป"น้องวาเมามาก ตอนแรกนึกว่ามีงานฉลองอะไร ตอนนี้พอเข้าใจแล้ว "ทินกรตอบกลับด้วยอาการหงุดหงิดถ้าแพรวาเลือกเขา เขาจะไม่มีวันทำให้เธอเสียใจเลย แต่นี่เธอเลือกคนตรงหน้าที่เวลาเขาเจอทีไรอยากจะตะบันหน้าเข้าให้ทุกครั้งที่เห็นหน้าเฮ้อ!!ทินกรหายใจออกมาหนักๆ เมื่อไม่ได้รับคำตอบใดๆจากปากของวิชิตอีก นอกความเงียบและนั่นเหมือนเป็นคำตอบในต
โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง..... ร่างเปล่าเปลือยสองร่างกำลังนัวเนียกันอย่างเร่าร้อน ไฟแห่งแรงปรารถนากำลัง แผดเผ่ากายาของทั้งสองให้มอดไหม้ตรงนั้นเสียให้ได้ ปั๊บ...ปั๊บ...ปั๊บ...ปั๊บ เสียงแรงกระแทกของเอวสอบยังดังไม่หยุดเป็นเวลาหลายสิบนาทีเสียงหวานครางกระเส่า ยิ่งกระตุ้นอารมณ์กระสันให้คนกระทำด้านบน อดกระทำรุนแรงกับร่างเปลือยอรชรตรงหน้าไม่ได้ยิ่งเขาถาโถมเข้าใส่เธอแรงมากเท่าไหร่ เธอยิ่งแอ่นรับสัมผัสนั้น และตอบสนองอารมณ์ให้เขาอย่างเร้าใจชายหนุ่มปรนเปรอบทรักให้หญิงสาวตรงหน้าให้มีความสุขจนแทบสำลัก"อ๊ายยย...อ๊าสส...คุณชิตขา... อ๊าสสส เดือนไม่ไหวแล้วค่ะ "ส่วนเนื้อในที่ถูกความเป็นชายเสียดสีอย่างหนักหน่วงทำให้ก่อเกิดความเสียวซ่านจนเกินต้านทำให้ร่องสาวขมิบตอดรัดลำยักษ์เป็นจังหวะถี่ เพิ่มความเสียวซ่านให้ชายหนุ่มเพิ่มมากขึ้น" อ๊าสสส น้องเดือนอย่ารัดพี่แน่นเกินไป พี่จะไม่ไหวแล้ว อ๊าสสส "ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นซี๊ดปาก พร้อมออกปากร้องครวญครางเมื่อความเป็นสาวกำลังนำพาเขาถึงจุดสูงสุด"อ๊าสส เดือนก็ไม่ไหวแล้วค่ะ อะ...อ๊ายย..""งะ..งั้นพร้อมกันครับ "เสียงแหบพร่าของชายหนุ่มเอ่ยขึ้น เขาเองก็ทนกับความรัญจวนที
วิชิตเริ่มเดินหน้ารุกจีบเดือนฉายอย่างเปิดเผยโดยในวันนี้พอเลิกงานวิชิตก็พาเดือนฉายไปเดินห้าง และเดินซื้อของที่เดือนฉายอยากได้ไม่ว่าสิ่งนั้นจะราคาเท่าไหร่ วิชิตสามารถเปย์ ให้หญิงสาวได้ทุกอย่างสร้างความพึงพอใจให้เธอเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าในใจลึกๆ แล้วเธอไม่ได้สนใจวิชิตมากเท่าวิชิตสนใจเธอก็ตามเธอตกลงยอมลองคบกับเขาเพียงเพราะความเป็นคนใจป๊าของวิชิตเท่านั้นเพราะในตอนนี้เขาสามารถให้เธอมากกว่าผู้ชายคนอื่นของเธอในตอนนี้เดือนฉายที่กำลังมองวิชิต ที่ถือของพะรุงพะรังแล้วยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม และในขณะเดียวกันเขาก็ยิ้มหวานให้เธอเช่นกัน"วันนี้พี่มีความสุขจังเลยครับ ที่ได้พาน้องเดือนมาเดินเล่น "วิชิตรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมากที่ได้ใกล้ชิดกับเดือนฉาย ถึงแม้ว่าทุกอย่างจะดูเร็วเกินไป แต่เขาก็คิดว่าเธอคือคนที่เขาพร้อมที่จะดูแลทั้งสองเดินเคียงคู่กัน หยอกล้อกันอย่าง มีความสุข โดยไม่ได้เห็นว่าใครกำลังมองพวกเขาอยู่ในร้านอาหารหรู....แพรวามีนัดกินอาหารกับลูกค้ารายสุดท้ายของการทำงาน เพราะเธอจะไม่เข้าไปช่วยงานที่บริษัทของวิชิตอีกแล้วในขณะที่เธอคุยกับลูกค้าอยู่ เธอก็ได้เห็นวิชิตเดินซื้อของอยู่กับเด็กนักศึ
วิชิตช่วยงานชานนท์อย่างเต็มที่เพราะเขาก็มีหุ้นส่วนอยู่ที่นี่ด้วย อาจไม่มากมายถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แต่ก็สำหรับคนทั่วไปนั่นหมายถึงอยู่สบายไปทั้งชาติ วิชิตได้รับการมอบหมายงานหลายอย่างเพราะชานนท์จะไปดูงานที่ต่างจังหวัด หนึ่งอาทิตย์วิชิตรับงานไว้โดยไม่เกี่ยงงอนใด ช่วงนี้แม่เขารบเร้าให้ไปรับคู่หมั้นมาทานข้าว ดูหนัง ชอปปิงตามประสาผู้หญิงแม่เขาบอกว่า สิ่งเหล่านี้คือความสุขของผู้หญิง แต่ตัวเขากลับไม่รู้สึกมีความสุขด้วยเลยเขาจึงรับงานทุกอย่างที่ชานนท์คั่งค้างไว้มาทำทั้งหมด เพื่อเป็นเกราะในการโดนแม่บังคับบริษัท....ในอาทิตย์นี้เองที่มีนักศึกษาเข้ามาฝึกงานที่บริษัท วิชิตเป็นคนดูแลเรื่องนี้ด้วย เพราะมีเด็กฝึกงานด้านเลขามาด้วยหนึ่งคน เขาจึงให้เธออยู่ในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาจริงๆ แล้วก็เป็นเด็กฝากของชานนท์นั่นแหละ เป็นหลานสาวของคู่ขาเก่าของชานนท์ เธอชื่อเดือนฉายวิชิตได้พบและสอนงานเธอ เพราะช่วงนี้ชานนท์ไม่อยู่ ถ้ามีผู้ช่วยมาช่วยงานเขา ก็ถือได้ว่ามีคนช่วยแบ่งเบาภาระเล็กๆ น้อยๆ ได้เดือนฉายเธอเป็นเด็กสาวหน้าใส นิสัยเรียบร้อย พูดจาไพเราะ ที่สำคัญเธอเป็นอดีตดาวมหาลัยด้วยเรื่องความสวยก็ไม่ธรรมดาอยู่แ
วิชิตเดินตามแพรวามาทางห้องน้ำ เขารู้สึกคิดหนัก เมื่อนึกถึงแววตานั้นของแพรวา เขาแค่สนุกที่ได้แกล้งเธอแต่กลับเป็นสิ่งที่ดูจะรุนแรงเกินไปสำหรับครั้งนี้ วิชิตถอนหายใจออกมาเบาๆ " เฮ้อ.... ทำไงได้เธออยากวุ่นวายกับฉันนัก จะได้จำ " จากที่คิดว่าตัวเองผิด อยู่ ๆ เขากลับคิดว่าตัวเองทำถูกแล้ว และเขาก็ไม่สนใจที่จะไปขอโทษแพรวาด้วย วิชิตเดินเข้าไปในงานหน้าตาเฉย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สาวๆ พากันเสนอตัวด้วยสายตา และด้วยท่าทาง ตลอดทางที่วิชิตเดินผ่าน และชายหนุ่มก็ส่งยิ้มหวานให้หญิงสาวทุกคนที่มองเขา เพื่อแสดงว่าเขาสามารถ ทักทายพูดคุยกับใครก็ได้ โดยที่คู่หมั้นของเขาไม่มีสิทธิ์จะห้ามปรามอะไรเลย และถึงห้าม เขาก็คงไม่ฟังเธอเช่นกัน มีแต่จะทำให้ตัวเองเสียหน้ามากกว่า แพรวาตัดสินใจกลับบ้านทันทีที่ออกจากห้องน้ำ เธอรออยู่นานพอสมควร ถึงได้ออกจากห้องน้ำ เธอไม่อยากเจอสายตาของผู้คนที่มองเธอเลย เหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นเหตุการณ์ที่น่าอายที่สุดในชีวิตของเธอ แพรวาเธอเจ็บปวดกว่าครั้งไหนๆ วิชิตทำสำเร็จแล้ว เขาทำเธอยอมแล้ว แค่คิดเธอก็น้ำตาซึม แต่...เพียงไม่นานเธอก็สลัดมันทิ้งได้ เธอจัดการกับความผิดหวังเรื่องของวิช
หลายวันผ่านไป..... " มีอะไรวะนนท์ ถึงได้นัดมาผับตั้งแต่หัววัน " พอวิชิตเข้ามาในผับประจำของพวกเขา ก็เริ่มถามชานนท์จนตอบแทบไม่ทัน "อกหัก..." ชานนท์ตอบสั้นๆ แต่น้ำเสียงเศร้าจนวิชิตชะงักเงียบมองหน้าเพื่อนรักอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน แล้วเดินไปตบบ่าเพื่อนเบาๆ สองสามที " อยากเล่าไหม""อืม เราผิดเอง เรามันเลวไง "ชานนท์ตอบด้วยน้ำเสียงตัดพ้อตัวเอง แล้วชานนท์ก็เล่าเรื่องที่แฟนสาวไปเห็นหลักฐานที่เขาเพิ่งร่วมรักกับแม่เลขาสุดเอ็กซ์แต่ชอบแต่งตัวเรียบร้อยปกปิดทุกอย่างแต่เวลาปลดผ้าออก คุณเธอทำชานนท์หลงใหลได้ไม่ยากจนทำให้แอบกินกันมาได้พักใหญ่แล้วพอแฟนของเขาเห็นหลักฐานนั้นก็บอกเลิกเขาทันทีชานนท์ไม่คิดว่าแฟนสาวจะใจเด็ด เลิกเขาไปทันทีขนาดนั้น โดยไม่ฟังคำอธิบายใดๆ เลยเขาไปตามง้อเธอแล้วแต่ ยังไม่เจอตัวเลย ชานนท์ระบายความในใจอยู่ไม่นานก็หยุดเมื่อสายตาไปสะดุดกับสาวสวยที่เดินเข้ามาในผับพร้อมเพื่อนๆ ของเธอชานนท์เริ่มส่องและส่งสายตาให้หญิงสาวคนสวยอย่างเปิดเผยใช่...เวลานี้เขาต้องหาสาวๆ เพื่อผ่อนคลายอารมณ์ที่เพิ่งโดนบอกเลิกมามาดๆ "อะไรวะ นี่เพิ่งอกหักจะหาสาวมาดามอกเลยเหรอว่ะ ""ไม่ได้เอามา
ผับแห่งหนึ่ง"ว่าไงเพื่อนรัก ทำไมทำหน้าแบบนั้น "ชานนท์ทักทายวิชิต เมื่อเขามาถึงผับที่นัดกันไว้ และเห็นวิชิตนั่งทำหน้าเซ็งสร้อย"ก็วันนี้มีนัดกับน้องมาย แต่แม่ก็ดันไปนัดกับยายเด็กนั่น และก็ยังบังคับให้ไปทานข้าวให้ได้ด้วย ไม่งั้นจะยึดของรักเลยต้องทำตาม "" ก็ไม่น่าเป็นอะไรนี่ นายก็ไปแล้วไม่ใช่เหรอ"แล้วชานนท์ก็เดินมานั่งที่เก้าอี้ข้างวิชิต"เป็นสิก็น้องมาย โกรธมากแล้วยังไปรู้มาอีกว่าฉันมีคู่หมั้นแล้ว ตัดสัมพันธ์กันทันทีเลย ยังไม่ได้อธิบายอะไรเลย""แล้วนายจะอธิบายว่าอะไรละ ""ก็...นั่นสิวะ โอ๊ยปวดหัว ก็เลยมานั่งดื่มอยู่นี่ไงแก้เครียด "วิชิตนึกถึงคำของชานนท์ จะแก้ตัวยังไงเขาก็มีคู่หมั้นแล้วจริงๆ คงมีทางเดียวคือ หาทางยกเลิกงานแต่ง แค่นี้เขาก็จะโสด และก็ไม่ต้องมียายตัวยุ่งมาคอยขวางหูขวางตาด้วยแค่คิดก็รู้สึกดีขึ้นมาทันที วิชิตยกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก" มีแผนอะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น "ชานนท์อดสงสัยไม่ได้"ไม่มีอะไรแค่อยากโสดก็เท่านั้น ฮ่า ฮ่า ฮ่า "วิชิตหัวเราะร่าอย่างมีความสุขเมื่อนึกแผนออกว่าจะทำอย่างไรให้ถูกยกเลิกงานแต่ง"เอ่อ...ชิตตอนนี้ว่างอยู่ใช่ไหม "ชานนท์ถามเพื่อนรัก"อืม...ว่างยัง