ผับแห่งหนึ่ง
"ว่าไงเพื่อนรัก ทำไมทำหน้าแบบนั้น " ชานนท์ทักทายวิชิต เมื่อเขามาถึงผับที่นัดกันไว้ และเห็นวิชิตนั่งทำหน้าเซ็งสร้อย "ก็วันนี้มีนัดกับน้องมาย แต่แม่ก็ดันไปนัดกับยายเด็กนั่น และก็ยังบังคับให้ไปทานข้าวให้ได้ด้วย ไม่งั้นจะยึดของรักเลยต้องทำตาม " " ก็ไม่น่าเป็นอะไรนี่ นายก็ไปแล้วไม่ใช่เหรอ" แล้วชานนท์ก็เดินมานั่งที่เก้าอี้ข้างวิชิต "เป็นสิก็น้องมาย โกรธมากแล้วยังไปรู้มาอีกว่าฉันมีคู่หมั้นแล้ว ตัดสัมพันธ์กันทันทีเลย ยังไม่ได้อธิบายอะไรเลย" "แล้วนายจะอธิบายว่าอะไรละ " "ก็...นั่นสิวะ โอ๊ยปวดหัว ก็เลยมานั่งดื่มอยู่นี่ไงแก้เครียด " วิชิตนึกถึงคำของชานนท์ จะแก้ตัวยังไงเขาก็มีคู่หมั้นแล้วจริงๆ คงมีทางเดียวคือ หาทางยกเลิกงานแต่ง แค่นี้เขาก็จะโสด และก็ไม่ต้องมียายตัวยุ่งมาคอยขวางหูขวางตาด้วย แค่คิดก็รู้สึกดีขึ้นมาทันที วิชิตยกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก " มีแผนอะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น " ชานนท์อดสงสัยไม่ได้ "ไม่มีอะไรแค่อยากโสดก็เท่านั้น ฮ่า ฮ่า ฮ่า " วิชิตหัวเราะร่าอย่างมีความสุขเมื่อนึกแผนออกว่าจะทำอย่างไรให้ถูกยกเลิกงานแต่ง "เอ่อ...ชิตตอนนี้ว่างอยู่ใช่ไหม " ชานนท์ถามเพื่อนรัก "อืม...ว่างยังไม่ได้ทำอะไร " "ว่าจะให้ไปช่วยงานที่บริษัทหน่อย ว่าจะหาเลขาเป็นผู้ชาย รู้สึกเหนื่อยที่ต้องเปลี่ยนเลขาบ่อยๆ " ชานนท์พูดออกมาหน้าตาเฉย "ก็กินไม่เลือก ก็แบบนี้แหละ คราวนี้เป็นอะไรอีกละ " "ผัวเริ่มสงสัย และเหมือนน้องกวางก็เริ่มสงสัยเหมือนกัน " "เดี๋ยวก็โดนทิ้งอีก กี่คนแล้วละ" "อย่าแช่ง...ก็มันยังอยากสนุกอยู่นี่หว่า ไม่มีอะไรสนุกเท่า...สุรากับนารีแล้ว " ชานนท์พูดถึงความต้องการของตัวเองออกมา ใช่ว่าจะเป็นแต่ชานนท์วิชิตเองก็ใช่ย่อย ขนาดมีคู่หมั้นคู่หมายก็ไม่เคยไว้ลายสักที ยังคงหาความสุขกับเรือนร่างของหญิงสาวไปเรื่อยเหมือนกัน ทั้งสองจึงคบกันได้ไง ก็เพราะนิสัยเหมือนกันนี่แหละ เพียงแค่พวกเขารู้จักป้องกันและจะเลือกเฉพาะคนที่รับข้อตกลงของเขาได้เท่านั้น " ว่าแล้วก็หาสาวๆ มาคลายเครียดหน่อยไหม" ชานนท์เริ่มก่อน เขามันพวกไม่รู้จักพอ " ก็ดีเหมือนกันวันนี้โดนขัดใจทั้งวันเลย หาคนมาเอา...ใจหน่อยก็ดี " วิชิตพูดเว้นวรรคที่เข้าใจกับชานนท์แล้วเขาสองคนก็หัวเราะร่าออกมาพร้อมกันอย่างมีความสุข สายตาเริ่มสอดส่องหาเหยื่อ สาวๆ ที่มาเที่ยวกลางคืน ทุกคนต่างแต่งตัวสวยๆ เปิดนั่นนิดนี่หน่อย พอได้เรียกน้ำลายจากผู้ชายที่คอยจับจ้องมอง บางคนตั้งใจมาหาจับผู้รวยๆ หวังให้เขาเลี้ยงดู จะได้อยู่สบายมีเงินใช้จ่าย ถ้าโชคดีเจอคนดี แล้วแต่โชคชะตา หญิงสาวกลุ่มหนึ่งท่าทางดูดีมีทีเด็ด พากันส่งสายตามาทางวิชิต และชานนท์ และแน่นอนพวกเขาก็ส่งสายตาเชิญชวนให้พวกเธอเข้าหาพวกเขาเช่นกัน แค่มองตาก็รู้ถึงไหน เพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่ทำแบบนี้ แต่สายตาของวิชิตก็พลันไปมองเห็นหญิงสาวคุ้นหน้า "นั่นมันยายเด็กจอมจุ้นนี่หว่า " วิชิตบ่นพึมพำอยู่คนเดียว เพราะตอนนี้ชานนท์กำลังคุยกับสาวที่เดินเข้ามาทักทายเขาอยู่ กลายเป็นตอนนี้วิชิต ไม่มีอารมณ์เหล่หญิงแล้ว เพราะคู่หมั้นของเขากำลังนั่งหัวเราะร่าอยู่กับกลุ่มฝังตรงข้าม แล้วก็มีผู้ชายมากกว่าผู้หญิง แล้วไอ้ชุดกระโปรงที่เธอใส่มากินข้าวกับเขาเธอก็ยังไม่ได้เปลี่ยน แปลว่าเธอยังไม่เข้าบ้าน ใช่แล้วสุดท้ายวิชิตก็ทิ้งแพรวาไว้ที่ร้านอาหารเมื่อเธออยากจะกินของหวานต่อ เขาคิดว่าเธอคงจะกลับบ้านไปแล้ว นี่อะไรมานั่งเสนอตัวให้หนุ่มๆ แทะด้วยสายตาให้เขาเห็น เธอกำลังคิดอะไรอยู่ "เฮ้อ..." วิชิตถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย เมื่อไรจะหมดเวรหมดกรรมกับยายนี่เสียที แล้วเขาก็ลุกขึ้นเดินไปหาแพรวาทันที วิชิตเข้าไปกระชากแขนคนตัวเล็กจนเต็มแรงจนตัวเธอลอยออกจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ เพื่อนๆ ในกลุ่มต่างพากันตกใจเมื่อมีคนมาทำกับเพื่อนเขาแบบนั้น "เฮ้ย...คุณทำอะไรเพื่อนผม " วิชิตหันมองเสียงนั้นด้วยท่าที่นิ่งขรึมส่งสายตาเดือดดาด กลับทันที "อ้าว...พี่ชิตนั่นเอง...คิกๆ" ตอนนี้แพรวาเริ่มเมาแล้ว พอโดนกระชากตัวเธอก็ลอย เกือบหล่นลงพื้นแต่เพื่อนเธอช่วยจับไว้ " ไม่เป็นไรๆ คนนี้พี่ชายเราเอง " แพรวารีบยกมือห้ามปรามเพื่อนเมื่อรู้ว่าคนที่มากระชากเธอคือวิชิต "พี่ชายเหรอ " วิชิตกัดกรามแน่น พูดลอดไรฟันที่ข้างหูของแพรวา "อืม... " แพรวาเธอมองหน้าวิชิตแล้วตอบออกไปทันที เธอรู้ว่าวิชิตไม่ชอบให้เธอแสดงความเป็นเจ้าของ และตอนนี้เหมือนเธอก็อยากจะปล่อยเขาไปแล้ว มันก็เจ็บอยู่น่ะ แต่ก็ไม่ทำให้ถึงตายหรอก แพรวาเธอเริ่มยอมแล้ว เพราะเหตุการณ์เมื่อกลางวัน เธอก็รู้สึกเจ็บไม่น้อยกับคำพูดที่ไม่เคยรักษาน้ำใจกันของชายหนุ่ม " ทำไมยังไม่กลับบ้าน " แพรวามองหน้าวิชิต แบบอะไรคะ ดวงตากลมโตมองหน้าคนตรงหน้า แล้วยิ้ม " แค่มาฉลอง....คิกๆ เดี๋ยววากลับเองพี่ชายไม่ต้องห่วงนะคะ เชิญพี่ชายตามสบายค่ะ " แล้วแพรวาเธอก็ผายมือส่งแขก เธอมองไปที่โต๊ะก็เห็นชานนท์นั่งอยู่กับหญิงสาวสุดเซ็กซี่ที่นั่งอยู่บนตักของชานนท์ เธอโบกมือให้เขาเป็นการทักทาย วิชิตจับมือนั้นไว้แล้วลากแพรวาออกมาจากผับ "กลับ เดี๋ยวฉันไปส่ง " แพรวารีบสะบัดมือออก ถอนหายใจออกมาเบาๆ "ค่ะ เดียววากลับเองค่ะ พี่ชิตไปสนุกต่อเถอะ" แล้วแพรวาเธอก็เดินเข้าไปในผับอีกครั้ง วิชิตไม่ยอมดึงแขนแพรวาออกมาแล้วลากไปที่รถ แต่แพรวาเธอพยายามดึงมือออก "ปล่อยค่ะ เดี๋ยววากลับเอง " แพรวาสะบัดมือออกจากการจับของวิชิต แล้วเธอก็เดินออกไปที่ถนนเพื่อโบกแท็กซี่ วิชิตมองตามอย่างเหนื่อยหน่าย "ทำไมชอบดื้อกับฉัน " "ถามตัวเองเถอะทำไมวาต้องดื้อ แต่อีกหน่อยก็อาจไม่ดื้อแล้ว หึๆ " แท็กซี่จอดรับพอดี แพรวาเธอขึ้นรถไปโดยไม่ได้หันมองวิชิตด้วยซ้ำ เธอกะว่าจะมาเที่ยวให้สบายใจสักหน่อย เธอตัดสินใจจะปล่อยเขาไปแล้วเธอจะไม่รักเขาอีกแล้ว เธอยอมแพ้แล้ว วิชิตได้แต่มองตามรถคันนั้นไป จนลับตา อ่านจบแล้วคอมเมนต์+กดถูกใจเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ รักน๊า❤❤❤หลายวันผ่านไป..... " มีอะไรวะนนท์ ถึงได้นัดมาผับตั้งแต่หัววัน " พอวิชิตเข้ามาในผับประจำของพวกเขา ก็เริ่มถามชานนท์จนตอบแทบไม่ทัน "อกหัก..." ชานนท์ตอบสั้นๆ แต่น้ำเสียงเศร้าจนวิชิตชะงักเงียบมองหน้าเพื่อนรักอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน แล้วเดินไปตบบ่าเพื่อนเบาๆ สองสามที " อยากเล่าไหม""อืม เราผิดเอง เรามันเลวไง "ชานนท์ตอบด้วยน้ำเสียงตัดพ้อตัวเอง แล้วชานนท์ก็เล่าเรื่องที่แฟนสาวไปเห็นหลักฐานที่เขาเพิ่งร่วมรักกับแม่เลขาสุดเอ็กซ์แต่ชอบแต่งตัวเรียบร้อยปกปิดทุกอย่างแต่เวลาปลดผ้าออก คุณเธอทำชานนท์หลงใหลได้ไม่ยากจนทำให้แอบกินกันมาได้พักใหญ่แล้วพอแฟนของเขาเห็นหลักฐานนั้นก็บอกเลิกเขาทันทีชานนท์ไม่คิดว่าแฟนสาวจะใจเด็ด เลิกเขาไปทันทีขนาดนั้น โดยไม่ฟังคำอธิบายใดๆ เลยเขาไปตามง้อเธอแล้วแต่ ยังไม่เจอตัวเลย ชานนท์ระบายความในใจอยู่ไม่นานก็หยุดเมื่อสายตาไปสะดุดกับสาวสวยที่เดินเข้ามาในผับพร้อมเพื่อนๆ ของเธอชานนท์เริ่มส่องและส่งสายตาให้หญิงสาวคนสวยอย่างเปิดเผยใช่...เวลานี้เขาต้องหาสาวๆ เพื่อผ่อนคลายอารมณ์ที่เพิ่งโดนบอกเลิกมามาดๆ "อะไรวะ นี่เพิ่งอกหักจะหาสาวมาดามอกเลยเหรอว่ะ ""ไม่ได้เอามา
วิชิตเดินตามแพรวามาทางห้องน้ำ เขารู้สึกคิดหนัก เมื่อนึกถึงแววตานั้นของแพรวา เขาแค่สนุกที่ได้แกล้งเธอแต่กลับเป็นสิ่งที่ดูจะรุนแรงเกินไปสำหรับครั้งนี้ วิชิตถอนหายใจออกมาเบาๆ " เฮ้อ.... ทำไงได้เธออยากวุ่นวายกับฉันนัก จะได้จำ " จากที่คิดว่าตัวเองผิด อยู่ ๆ เขากลับคิดว่าตัวเองทำถูกแล้ว และเขาก็ไม่สนใจที่จะไปขอโทษแพรวาด้วย วิชิตเดินเข้าไปในงานหน้าตาเฉย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สาวๆ พากันเสนอตัวด้วยสายตา และด้วยท่าทาง ตลอดทางที่วิชิตเดินผ่าน และชายหนุ่มก็ส่งยิ้มหวานให้หญิงสาวทุกคนที่มองเขา เพื่อแสดงว่าเขาสามารถ ทักทายพูดคุยกับใครก็ได้ โดยที่คู่หมั้นของเขาไม่มีสิทธิ์จะห้ามปรามอะไรเลย และถึงห้าม เขาก็คงไม่ฟังเธอเช่นกัน มีแต่จะทำให้ตัวเองเสียหน้ามากกว่า แพรวาตัดสินใจกลับบ้านทันทีที่ออกจากห้องน้ำ เธอรออยู่นานพอสมควร ถึงได้ออกจากห้องน้ำ เธอไม่อยากเจอสายตาของผู้คนที่มองเธอเลย เหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นเหตุการณ์ที่น่าอายที่สุดในชีวิตของเธอ แพรวาเธอเจ็บปวดกว่าครั้งไหนๆ วิชิตทำสำเร็จแล้ว เขาทำเธอยอมแล้ว แค่คิดเธอก็น้ำตาซึม แต่...เพียงไม่นานเธอก็สลัดมันทิ้งได้ เธอจัดการกับความผิดหวังเรื่องของวิช
วิชิตช่วยงานชานนท์อย่างเต็มที่เพราะเขาก็มีหุ้นส่วนอยู่ที่นี่ด้วย อาจไม่มากมายถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แต่ก็สำหรับคนทั่วไปนั่นหมายถึงอยู่สบายไปทั้งชาติ วิชิตได้รับการมอบหมายงานหลายอย่างเพราะชานนท์จะไปดูงานที่ต่างจังหวัด หนึ่งอาทิตย์วิชิตรับงานไว้โดยไม่เกี่ยงงอนใด ช่วงนี้แม่เขารบเร้าให้ไปรับคู่หมั้นมาทานข้าว ดูหนัง ชอปปิงตามประสาผู้หญิงแม่เขาบอกว่า สิ่งเหล่านี้คือความสุขของผู้หญิง แต่ตัวเขากลับไม่รู้สึกมีความสุขด้วยเลยเขาจึงรับงานทุกอย่างที่ชานนท์คั่งค้างไว้มาทำทั้งหมด เพื่อเป็นเกราะในการโดนแม่บังคับบริษัท....ในอาทิตย์นี้เองที่มีนักศึกษาเข้ามาฝึกงานที่บริษัท วิชิตเป็นคนดูแลเรื่องนี้ด้วย เพราะมีเด็กฝึกงานด้านเลขามาด้วยหนึ่งคน เขาจึงให้เธออยู่ในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาจริงๆ แล้วก็เป็นเด็กฝากของชานนท์นั่นแหละ เป็นหลานสาวของคู่ขาเก่าของชานนท์ เธอชื่อเดือนฉายวิชิตได้พบและสอนงานเธอ เพราะช่วงนี้ชานนท์ไม่อยู่ ถ้ามีผู้ช่วยมาช่วยงานเขา ก็ถือได้ว่ามีคนช่วยแบ่งเบาภาระเล็กๆ น้อยๆ ได้เดือนฉายเธอเป็นเด็กสาวหน้าใส นิสัยเรียบร้อย พูดจาไพเราะ ที่สำคัญเธอเป็นอดีตดาวมหาลัยด้วยเรื่องความสวยก็ไม่ธรรมดาอยู่แ
วิชิตเริ่มเดินหน้ารุกจีบเดือนฉายอย่างเปิดเผยโดยในวันนี้พอเลิกงานวิชิตก็พาเดือนฉายไปเดินห้าง และเดินซื้อของที่เดือนฉายอยากได้ไม่ว่าสิ่งนั้นจะราคาเท่าไหร่ วิชิตสามารถเปย์ ให้หญิงสาวได้ทุกอย่างสร้างความพึงพอใจให้เธอเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าในใจลึกๆ แล้วเธอไม่ได้สนใจวิชิตมากเท่าวิชิตสนใจเธอก็ตามเธอตกลงยอมลองคบกับเขาเพียงเพราะความเป็นคนใจป๊าของวิชิตเท่านั้นเพราะในตอนนี้เขาสามารถให้เธอมากกว่าผู้ชายคนอื่นของเธอในตอนนี้เดือนฉายที่กำลังมองวิชิต ที่ถือของพะรุงพะรังแล้วยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม และในขณะเดียวกันเขาก็ยิ้มหวานให้เธอเช่นกัน"วันนี้พี่มีความสุขจังเลยครับ ที่ได้พาน้องเดือนมาเดินเล่น "วิชิตรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมากที่ได้ใกล้ชิดกับเดือนฉาย ถึงแม้ว่าทุกอย่างจะดูเร็วเกินไป แต่เขาก็คิดว่าเธอคือคนที่เขาพร้อมที่จะดูแลทั้งสองเดินเคียงคู่กัน หยอกล้อกันอย่าง มีความสุข โดยไม่ได้เห็นว่าใครกำลังมองพวกเขาอยู่ในร้านอาหารหรู....แพรวามีนัดกินอาหารกับลูกค้ารายสุดท้ายของการทำงาน เพราะเธอจะไม่เข้าไปช่วยงานที่บริษัทของวิชิตอีกแล้วในขณะที่เธอคุยกับลูกค้าอยู่ เธอก็ได้เห็นวิชิตเดินซื้อของอยู่กับเด็กนักศึ
โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง..... ร่างเปล่าเปลือยสองร่างกำลังนัวเนียกันอย่างเร่าร้อน ไฟแห่งแรงปรารถนากำลัง แผดเผ่ากายาของทั้งสองให้มอดไหม้ตรงนั้นเสียให้ได้ ปั๊บ...ปั๊บ...ปั๊บ...ปั๊บ เสียงแรงกระแทกของเอวสอบยังดังไม่หยุดเป็นเวลาหลายสิบนาทีเสียงหวานครางกระเส่า ยิ่งกระตุ้นอารมณ์กระสันให้คนกระทำด้านบน อดกระทำรุนแรงกับร่างเปลือยอรชรตรงหน้าไม่ได้ยิ่งเขาถาโถมเข้าใส่เธอแรงมากเท่าไหร่ เธอยิ่งแอ่นรับสัมผัสนั้น และตอบสนองอารมณ์ให้เขาอย่างเร้าใจชายหนุ่มปรนเปรอบทรักให้หญิงสาวตรงหน้าให้มีความสุขจนแทบสำลัก"อ๊ายยย...อ๊าสส...คุณชิตขา... อ๊าสสส เดือนไม่ไหวแล้วค่ะ "ส่วนเนื้อในที่ถูกความเป็นชายเสียดสีอย่างหนักหน่วงทำให้ก่อเกิดความเสียวซ่านจนเกินต้านทำให้ร่องสาวขมิบตอดรัดลำยักษ์เป็นจังหวะถี่ เพิ่มความเสียวซ่านให้ชายหนุ่มเพิ่มมากขึ้น" อ๊าสสส น้องเดือนอย่ารัดพี่แน่นเกินไป พี่จะไม่ไหวแล้ว อ๊าสสส "ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นซี๊ดปาก พร้อมออกปากร้องครวญครางเมื่อความเป็นสาวกำลังนำพาเขาถึงจุดสูงสุด"อ๊าสส เดือนก็ไม่ไหวแล้วค่ะ อะ...อ๊ายย..""งะ..งั้นพร้อมกันครับ "เสียงแหบพร่าของชายหนุ่มเอ่ยขึ้น เขาเองก็ทนกับความรัญจวนที
พอแพรววกับหนึ่งนารายณ์ออกไป ทินกรก็ยืนสูบบุหรี่ต่อจนหมดมวนจึงเดินกลับโต๊ะ ที่มีเพื่อนๆกำลังสังสรรค์รอเขาอยู่ระหว่างทางเขาเจอเข้ากับวิชิต ซึ่งเดินมากับหญิงสาวหน้าสะสวยคนหนึ่งระหว่างที่เขาคุยกับวิชิต เขาเห็นสายตาของหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังของวิชิตพยายามสบตาเขาอย่างเปิดเผยจนเขารู้สึกข้องใจกับกริยาท่าทางแบบนั้นของเธอมาก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปเพราะตอนนี้เขารู้สึกโมโหวิชิตมากกว่า ที่ทำอะไรไม่ไว้หน้าแพรวาเลยสักนิด แต่เขาก็ต้องทำเป็นเฉยแต่สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะถามถึงแพรวากับตัวของวิชิต"ชิตนายไม่ไปส่งน้องวาหละ ทำไมให้หนึ่งไปส่ง "คำถามของทินกรทำวิชิตถึงกับหยุดนิ่ง แล้วเขาก็มองสบตากับทินกร"ผมยังไม่เจอวาครับ "วิชิตไม่รู้จะตอบยังไงดี เขาเลยตัดสินใจตอบความจริงออกไป"น้องวาเมามาก ตอนแรกนึกว่ามีงานฉลองอะไร ตอนนี้พอเข้าใจแล้ว "ทินกรตอบกลับด้วยอาการหงุดหงิดถ้าแพรวาเลือกเขา เขาจะไม่มีวันทำให้เธอเสียใจเลย แต่นี่เธอเลือกคนตรงหน้าที่เวลาเขาเจอทีไรอยากจะตะบันหน้าเข้าให้ทุกครั้งที่เห็นหน้าเฮ้อ!!ทินกรหายใจออกมาหนักๆ เมื่อไม่ได้รับคำตอบใดๆจากปากของวิชิตอีก นอกความเงียบและนั่นเหมือนเป็นคำตอบในต
"วันนี้ฉันจะต้องจัดการแกให้รู้เรื่อง ตาชิต "หลังจากที่คุณหญิงชวนชมได้อ่านข่าวของลูกชายที่ควงผู้หญิงเที่ยวห้างออกหน้าออกตาทั้งที่ตัวเองมีคู่หมั้นคู่หมายเป็นถึงลูกสาวนายพล มีหน้ามีตาระดับประเทศพอมีข่าวออกมาแบบนี้ก็ยิ่งทำให้ฝ่ายหญิงเสียหาย และนี่คือเหตุผลที่ทำคุณหญิงชวนชมกังวลใจข่าวที่เกิดขึ้น เกิดจากความจงใจของวิชิต ทำให้ที่มีคนตาดีถ่ายรูปเขาลงโซเชียลไว้ได้คุณหญิงชวนชมยิ่งมีอาการโมโหมากขึ้นเพราะเธอโทรหาลูกชายตัวดีแล้วแต่เขาไม่ยอมรับโทรศัพท์"อย่าให้ฉันอดไม่ได้น่ะ ฉันจะตัดแกออกจากกองมรดกจริงๆด้วยคอยดู "คุณหญิงชวนชมบ่นให้กับลูกชายพอตั้งสติได้คุณหญิงชวนชมก็กดโทรศัพท์หาแพรวาทันทีแต่แพรวาเองก็ไม่รับสายคุณหญิงชวนชมเช่นกันยิ่งทำคุณหญิงชวนชมกระวนกระวายใจเข้าไปใหญ่"เป็นอะไรอีกหละคุณหญิง "เสียงทุมแหบแห้งของเจ้าสัวโชติ เอ่ยถามภรรยาด้วยความเป็นห่วงเพราะคุณหญิงเธอเล่นเดินไปเดินมาไม่ยอมหยุดนั่งสักที จนเจ้าสัวที่นั่งจิบชาอยู่รู้สึกสงสัย"ไม่มีอะไรหรอกค่ะ "เธอตอบกลับเสียงหวานแต่ภายในใจนั้นร้อนรุ่มเป็นไฟก่อนจะยอมหยุดเดินวนไปมา เพราะไม่อยากให้เจ้าสัวโชติเป็นกังวลกับข่าวของวิชิตมากไปกว่านี้
สองวันแล้วที่วิชิตใช้รถคันเก่า ในวันแรกที่เดือนฉายได้นั่งรถคันนี้ สีหน้าของเธอนั้นดูไม่ค่อยพอใจเท่าไร แต่เธอก็ไม่ได้แสดงออกมามากนักแต่วันนี้เดือนฉายเธอออกอาการหงุดหงิดให้เห็นอย่างชัดเจนเมื่อรถที่ขับอยู่ดีๆ แอร์ก็ดันไม่เย็นขึ้นมาดื้อๆ จากที่อารมณ์ดีอยู่กลายร่างเป็นนางร้ายทันที"คุณชิตค่ะ เดือนไม่ไหวแล้วนะคะ อากาศร้อนมากขนาดนี้ แล้วแอร์ยังมาเสียอีก ""ครับ เดี๋ยวพี่จะรีบจัดการเลยครับ "ชายหนุ่มรีบกดลดกระจกลงให้ลมยามเย็นได้พัดเข้ามาภายในรถจะได้ช่วยระบายความร้อนออกจากรถ ซึ่งก็ช่วยได้เพียงเล็กน้อยระหว่างทางวิชิตหันมองข้างทางเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ขายอยู่เขาเลยแวะจอดรถข้างทางตรงร้านนั้น หวังอยากจะจอดพักให้เดือนฉายอารมณ์ดีขึ้นแต่เขาคิดผิดเมื่อเดือนฉายเธอยิ่งทำหน้าบึ้งตึงใส่เขา และไม่ยอมพูดจาใดๆ ได้แต่นั่งมองเขาแบบไม่พอใจ"กินก๋วยเตี๋ยวสักถ้วยก่อนนะ เดี๋ยวพี่ค่อยไปส่งที่บ้าน "วิชิตชวนเดือนฉายคุยด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลเพราะหญิงสาวแสดงออกมาว่าไม่พอใจมาก"เดือนว่าวันนี้เดือนกลับเองดีกว่าค่ะ ถ้าคุณชิตอยากกินก็กินเลย เดี๋ยวเดือนจะเรียกแท็กซี่กลับเองค่ะ "พูดจบเดือนฉายก็ลุกพรวดออกจากโต๊ะที่ร้านก๋
สองวันแล้วที่วิชิตใช้รถคันเก่า ในวันแรกที่เดือนฉายได้นั่งรถคันนี้ สีหน้าของเธอนั้นดูไม่ค่อยพอใจเท่าไร แต่เธอก็ไม่ได้แสดงออกมามากนักแต่วันนี้เดือนฉายเธอออกอาการหงุดหงิดให้เห็นอย่างชัดเจนเมื่อรถที่ขับอยู่ดีๆ แอร์ก็ดันไม่เย็นขึ้นมาดื้อๆ จากที่อารมณ์ดีอยู่กลายร่างเป็นนางร้ายทันที"คุณชิตค่ะ เดือนไม่ไหวแล้วนะคะ อากาศร้อนมากขนาดนี้ แล้วแอร์ยังมาเสียอีก ""ครับ เดี๋ยวพี่จะรีบจัดการเลยครับ "ชายหนุ่มรีบกดลดกระจกลงให้ลมยามเย็นได้พัดเข้ามาภายในรถจะได้ช่วยระบายความร้อนออกจากรถ ซึ่งก็ช่วยได้เพียงเล็กน้อยระหว่างทางวิชิตหันมองข้างทางเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ขายอยู่เขาเลยแวะจอดรถข้างทางตรงร้านนั้น หวังอยากจะจอดพักให้เดือนฉายอารมณ์ดีขึ้นแต่เขาคิดผิดเมื่อเดือนฉายเธอยิ่งทำหน้าบึ้งตึงใส่เขา และไม่ยอมพูดจาใดๆ ได้แต่นั่งมองเขาแบบไม่พอใจ"กินก๋วยเตี๋ยวสักถ้วยก่อนนะ เดี๋ยวพี่ค่อยไปส่งที่บ้าน "วิชิตชวนเดือนฉายคุยด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลเพราะหญิงสาวแสดงออกมาว่าไม่พอใจมาก"เดือนว่าวันนี้เดือนกลับเองดีกว่าค่ะ ถ้าคุณชิตอยากกินก็กินเลย เดี๋ยวเดือนจะเรียกแท็กซี่กลับเองค่ะ "พูดจบเดือนฉายก็ลุกพรวดออกจากโต๊ะที่ร้านก๋
"วันนี้ฉันจะต้องจัดการแกให้รู้เรื่อง ตาชิต "หลังจากที่คุณหญิงชวนชมได้อ่านข่าวของลูกชายที่ควงผู้หญิงเที่ยวห้างออกหน้าออกตาทั้งที่ตัวเองมีคู่หมั้นคู่หมายเป็นถึงลูกสาวนายพล มีหน้ามีตาระดับประเทศพอมีข่าวออกมาแบบนี้ก็ยิ่งทำให้ฝ่ายหญิงเสียหาย และนี่คือเหตุผลที่ทำคุณหญิงชวนชมกังวลใจข่าวที่เกิดขึ้น เกิดจากความจงใจของวิชิต ทำให้ที่มีคนตาดีถ่ายรูปเขาลงโซเชียลไว้ได้คุณหญิงชวนชมยิ่งมีอาการโมโหมากขึ้นเพราะเธอโทรหาลูกชายตัวดีแล้วแต่เขาไม่ยอมรับโทรศัพท์"อย่าให้ฉันอดไม่ได้น่ะ ฉันจะตัดแกออกจากกองมรดกจริงๆด้วยคอยดู "คุณหญิงชวนชมบ่นให้กับลูกชายพอตั้งสติได้คุณหญิงชวนชมก็กดโทรศัพท์หาแพรวาทันทีแต่แพรวาเองก็ไม่รับสายคุณหญิงชวนชมเช่นกันยิ่งทำคุณหญิงชวนชมกระวนกระวายใจเข้าไปใหญ่"เป็นอะไรอีกหละคุณหญิง "เสียงทุมแหบแห้งของเจ้าสัวโชติ เอ่ยถามภรรยาด้วยความเป็นห่วงเพราะคุณหญิงเธอเล่นเดินไปเดินมาไม่ยอมหยุดนั่งสักที จนเจ้าสัวที่นั่งจิบชาอยู่รู้สึกสงสัย"ไม่มีอะไรหรอกค่ะ "เธอตอบกลับเสียงหวานแต่ภายในใจนั้นร้อนรุ่มเป็นไฟก่อนจะยอมหยุดเดินวนไปมา เพราะไม่อยากให้เจ้าสัวโชติเป็นกังวลกับข่าวของวิชิตมากไปกว่านี้
พอแพรววกับหนึ่งนารายณ์ออกไป ทินกรก็ยืนสูบบุหรี่ต่อจนหมดมวนจึงเดินกลับโต๊ะ ที่มีเพื่อนๆกำลังสังสรรค์รอเขาอยู่ระหว่างทางเขาเจอเข้ากับวิชิต ซึ่งเดินมากับหญิงสาวหน้าสะสวยคนหนึ่งระหว่างที่เขาคุยกับวิชิต เขาเห็นสายตาของหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังของวิชิตพยายามสบตาเขาอย่างเปิดเผยจนเขารู้สึกข้องใจกับกริยาท่าทางแบบนั้นของเธอมาก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปเพราะตอนนี้เขารู้สึกโมโหวิชิตมากกว่า ที่ทำอะไรไม่ไว้หน้าแพรวาเลยสักนิด แต่เขาก็ต้องทำเป็นเฉยแต่สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะถามถึงแพรวากับตัวของวิชิต"ชิตนายไม่ไปส่งน้องวาหละ ทำไมให้หนึ่งไปส่ง "คำถามของทินกรทำวิชิตถึงกับหยุดนิ่ง แล้วเขาก็มองสบตากับทินกร"ผมยังไม่เจอวาครับ "วิชิตไม่รู้จะตอบยังไงดี เขาเลยตัดสินใจตอบความจริงออกไป"น้องวาเมามาก ตอนแรกนึกว่ามีงานฉลองอะไร ตอนนี้พอเข้าใจแล้ว "ทินกรตอบกลับด้วยอาการหงุดหงิดถ้าแพรวาเลือกเขา เขาจะไม่มีวันทำให้เธอเสียใจเลย แต่นี่เธอเลือกคนตรงหน้าที่เวลาเขาเจอทีไรอยากจะตะบันหน้าเข้าให้ทุกครั้งที่เห็นหน้าเฮ้อ!!ทินกรหายใจออกมาหนักๆ เมื่อไม่ได้รับคำตอบใดๆจากปากของวิชิตอีก นอกความเงียบและนั่นเหมือนเป็นคำตอบในต
โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง..... ร่างเปล่าเปลือยสองร่างกำลังนัวเนียกันอย่างเร่าร้อน ไฟแห่งแรงปรารถนากำลัง แผดเผ่ากายาของทั้งสองให้มอดไหม้ตรงนั้นเสียให้ได้ ปั๊บ...ปั๊บ...ปั๊บ...ปั๊บ เสียงแรงกระแทกของเอวสอบยังดังไม่หยุดเป็นเวลาหลายสิบนาทีเสียงหวานครางกระเส่า ยิ่งกระตุ้นอารมณ์กระสันให้คนกระทำด้านบน อดกระทำรุนแรงกับร่างเปลือยอรชรตรงหน้าไม่ได้ยิ่งเขาถาโถมเข้าใส่เธอแรงมากเท่าไหร่ เธอยิ่งแอ่นรับสัมผัสนั้น และตอบสนองอารมณ์ให้เขาอย่างเร้าใจชายหนุ่มปรนเปรอบทรักให้หญิงสาวตรงหน้าให้มีความสุขจนแทบสำลัก"อ๊ายยย...อ๊าสส...คุณชิตขา... อ๊าสสส เดือนไม่ไหวแล้วค่ะ "ส่วนเนื้อในที่ถูกความเป็นชายเสียดสีอย่างหนักหน่วงทำให้ก่อเกิดความเสียวซ่านจนเกินต้านทำให้ร่องสาวขมิบตอดรัดลำยักษ์เป็นจังหวะถี่ เพิ่มความเสียวซ่านให้ชายหนุ่มเพิ่มมากขึ้น" อ๊าสสส น้องเดือนอย่ารัดพี่แน่นเกินไป พี่จะไม่ไหวแล้ว อ๊าสสส "ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นซี๊ดปาก พร้อมออกปากร้องครวญครางเมื่อความเป็นสาวกำลังนำพาเขาถึงจุดสูงสุด"อ๊าสส เดือนก็ไม่ไหวแล้วค่ะ อะ...อ๊ายย..""งะ..งั้นพร้อมกันครับ "เสียงแหบพร่าของชายหนุ่มเอ่ยขึ้น เขาเองก็ทนกับความรัญจวนที
วิชิตเริ่มเดินหน้ารุกจีบเดือนฉายอย่างเปิดเผยโดยในวันนี้พอเลิกงานวิชิตก็พาเดือนฉายไปเดินห้าง และเดินซื้อของที่เดือนฉายอยากได้ไม่ว่าสิ่งนั้นจะราคาเท่าไหร่ วิชิตสามารถเปย์ ให้หญิงสาวได้ทุกอย่างสร้างความพึงพอใจให้เธอเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าในใจลึกๆ แล้วเธอไม่ได้สนใจวิชิตมากเท่าวิชิตสนใจเธอก็ตามเธอตกลงยอมลองคบกับเขาเพียงเพราะความเป็นคนใจป๊าของวิชิตเท่านั้นเพราะในตอนนี้เขาสามารถให้เธอมากกว่าผู้ชายคนอื่นของเธอในตอนนี้เดือนฉายที่กำลังมองวิชิต ที่ถือของพะรุงพะรังแล้วยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม และในขณะเดียวกันเขาก็ยิ้มหวานให้เธอเช่นกัน"วันนี้พี่มีความสุขจังเลยครับ ที่ได้พาน้องเดือนมาเดินเล่น "วิชิตรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมากที่ได้ใกล้ชิดกับเดือนฉาย ถึงแม้ว่าทุกอย่างจะดูเร็วเกินไป แต่เขาก็คิดว่าเธอคือคนที่เขาพร้อมที่จะดูแลทั้งสองเดินเคียงคู่กัน หยอกล้อกันอย่าง มีความสุข โดยไม่ได้เห็นว่าใครกำลังมองพวกเขาอยู่ในร้านอาหารหรู....แพรวามีนัดกินอาหารกับลูกค้ารายสุดท้ายของการทำงาน เพราะเธอจะไม่เข้าไปช่วยงานที่บริษัทของวิชิตอีกแล้วในขณะที่เธอคุยกับลูกค้าอยู่ เธอก็ได้เห็นวิชิตเดินซื้อของอยู่กับเด็กนักศึ
วิชิตช่วยงานชานนท์อย่างเต็มที่เพราะเขาก็มีหุ้นส่วนอยู่ที่นี่ด้วย อาจไม่มากมายถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แต่ก็สำหรับคนทั่วไปนั่นหมายถึงอยู่สบายไปทั้งชาติ วิชิตได้รับการมอบหมายงานหลายอย่างเพราะชานนท์จะไปดูงานที่ต่างจังหวัด หนึ่งอาทิตย์วิชิตรับงานไว้โดยไม่เกี่ยงงอนใด ช่วงนี้แม่เขารบเร้าให้ไปรับคู่หมั้นมาทานข้าว ดูหนัง ชอปปิงตามประสาผู้หญิงแม่เขาบอกว่า สิ่งเหล่านี้คือความสุขของผู้หญิง แต่ตัวเขากลับไม่รู้สึกมีความสุขด้วยเลยเขาจึงรับงานทุกอย่างที่ชานนท์คั่งค้างไว้มาทำทั้งหมด เพื่อเป็นเกราะในการโดนแม่บังคับบริษัท....ในอาทิตย์นี้เองที่มีนักศึกษาเข้ามาฝึกงานที่บริษัท วิชิตเป็นคนดูแลเรื่องนี้ด้วย เพราะมีเด็กฝึกงานด้านเลขามาด้วยหนึ่งคน เขาจึงให้เธออยู่ในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาจริงๆ แล้วก็เป็นเด็กฝากของชานนท์นั่นแหละ เป็นหลานสาวของคู่ขาเก่าของชานนท์ เธอชื่อเดือนฉายวิชิตได้พบและสอนงานเธอ เพราะช่วงนี้ชานนท์ไม่อยู่ ถ้ามีผู้ช่วยมาช่วยงานเขา ก็ถือได้ว่ามีคนช่วยแบ่งเบาภาระเล็กๆ น้อยๆ ได้เดือนฉายเธอเป็นเด็กสาวหน้าใส นิสัยเรียบร้อย พูดจาไพเราะ ที่สำคัญเธอเป็นอดีตดาวมหาลัยด้วยเรื่องความสวยก็ไม่ธรรมดาอยู่แ
วิชิตเดินตามแพรวามาทางห้องน้ำ เขารู้สึกคิดหนัก เมื่อนึกถึงแววตานั้นของแพรวา เขาแค่สนุกที่ได้แกล้งเธอแต่กลับเป็นสิ่งที่ดูจะรุนแรงเกินไปสำหรับครั้งนี้ วิชิตถอนหายใจออกมาเบาๆ " เฮ้อ.... ทำไงได้เธออยากวุ่นวายกับฉันนัก จะได้จำ " จากที่คิดว่าตัวเองผิด อยู่ ๆ เขากลับคิดว่าตัวเองทำถูกแล้ว และเขาก็ไม่สนใจที่จะไปขอโทษแพรวาด้วย วิชิตเดินเข้าไปในงานหน้าตาเฉย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สาวๆ พากันเสนอตัวด้วยสายตา และด้วยท่าทาง ตลอดทางที่วิชิตเดินผ่าน และชายหนุ่มก็ส่งยิ้มหวานให้หญิงสาวทุกคนที่มองเขา เพื่อแสดงว่าเขาสามารถ ทักทายพูดคุยกับใครก็ได้ โดยที่คู่หมั้นของเขาไม่มีสิทธิ์จะห้ามปรามอะไรเลย และถึงห้าม เขาก็คงไม่ฟังเธอเช่นกัน มีแต่จะทำให้ตัวเองเสียหน้ามากกว่า แพรวาตัดสินใจกลับบ้านทันทีที่ออกจากห้องน้ำ เธอรออยู่นานพอสมควร ถึงได้ออกจากห้องน้ำ เธอไม่อยากเจอสายตาของผู้คนที่มองเธอเลย เหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นเหตุการณ์ที่น่าอายที่สุดในชีวิตของเธอ แพรวาเธอเจ็บปวดกว่าครั้งไหนๆ วิชิตทำสำเร็จแล้ว เขาทำเธอยอมแล้ว แค่คิดเธอก็น้ำตาซึม แต่...เพียงไม่นานเธอก็สลัดมันทิ้งได้ เธอจัดการกับความผิดหวังเรื่องของวิช
หลายวันผ่านไป..... " มีอะไรวะนนท์ ถึงได้นัดมาผับตั้งแต่หัววัน " พอวิชิตเข้ามาในผับประจำของพวกเขา ก็เริ่มถามชานนท์จนตอบแทบไม่ทัน "อกหัก..." ชานนท์ตอบสั้นๆ แต่น้ำเสียงเศร้าจนวิชิตชะงักเงียบมองหน้าเพื่อนรักอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน แล้วเดินไปตบบ่าเพื่อนเบาๆ สองสามที " อยากเล่าไหม""อืม เราผิดเอง เรามันเลวไง "ชานนท์ตอบด้วยน้ำเสียงตัดพ้อตัวเอง แล้วชานนท์ก็เล่าเรื่องที่แฟนสาวไปเห็นหลักฐานที่เขาเพิ่งร่วมรักกับแม่เลขาสุดเอ็กซ์แต่ชอบแต่งตัวเรียบร้อยปกปิดทุกอย่างแต่เวลาปลดผ้าออก คุณเธอทำชานนท์หลงใหลได้ไม่ยากจนทำให้แอบกินกันมาได้พักใหญ่แล้วพอแฟนของเขาเห็นหลักฐานนั้นก็บอกเลิกเขาทันทีชานนท์ไม่คิดว่าแฟนสาวจะใจเด็ด เลิกเขาไปทันทีขนาดนั้น โดยไม่ฟังคำอธิบายใดๆ เลยเขาไปตามง้อเธอแล้วแต่ ยังไม่เจอตัวเลย ชานนท์ระบายความในใจอยู่ไม่นานก็หยุดเมื่อสายตาไปสะดุดกับสาวสวยที่เดินเข้ามาในผับพร้อมเพื่อนๆ ของเธอชานนท์เริ่มส่องและส่งสายตาให้หญิงสาวคนสวยอย่างเปิดเผยใช่...เวลานี้เขาต้องหาสาวๆ เพื่อผ่อนคลายอารมณ์ที่เพิ่งโดนบอกเลิกมามาดๆ "อะไรวะ นี่เพิ่งอกหักจะหาสาวมาดามอกเลยเหรอว่ะ ""ไม่ได้เอามา
ผับแห่งหนึ่ง"ว่าไงเพื่อนรัก ทำไมทำหน้าแบบนั้น "ชานนท์ทักทายวิชิต เมื่อเขามาถึงผับที่นัดกันไว้ และเห็นวิชิตนั่งทำหน้าเซ็งสร้อย"ก็วันนี้มีนัดกับน้องมาย แต่แม่ก็ดันไปนัดกับยายเด็กนั่น และก็ยังบังคับให้ไปทานข้าวให้ได้ด้วย ไม่งั้นจะยึดของรักเลยต้องทำตาม "" ก็ไม่น่าเป็นอะไรนี่ นายก็ไปแล้วไม่ใช่เหรอ"แล้วชานนท์ก็เดินมานั่งที่เก้าอี้ข้างวิชิต"เป็นสิก็น้องมาย โกรธมากแล้วยังไปรู้มาอีกว่าฉันมีคู่หมั้นแล้ว ตัดสัมพันธ์กันทันทีเลย ยังไม่ได้อธิบายอะไรเลย""แล้วนายจะอธิบายว่าอะไรละ ""ก็...นั่นสิวะ โอ๊ยปวดหัว ก็เลยมานั่งดื่มอยู่นี่ไงแก้เครียด "วิชิตนึกถึงคำของชานนท์ จะแก้ตัวยังไงเขาก็มีคู่หมั้นแล้วจริงๆ คงมีทางเดียวคือ หาทางยกเลิกงานแต่ง แค่นี้เขาก็จะโสด และก็ไม่ต้องมียายตัวยุ่งมาคอยขวางหูขวางตาด้วยแค่คิดก็รู้สึกดีขึ้นมาทันที วิชิตยกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก" มีแผนอะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น "ชานนท์อดสงสัยไม่ได้"ไม่มีอะไรแค่อยากโสดก็เท่านั้น ฮ่า ฮ่า ฮ่า "วิชิตหัวเราะร่าอย่างมีความสุขเมื่อนึกแผนออกว่าจะทำอย่างไรให้ถูกยกเลิกงานแต่ง"เอ่อ...ชิตตอนนี้ว่างอยู่ใช่ไหม "ชานนท์ถามเพื่อนรัก"อืม...ว่างยัง