บทที่ 2 อาจารย์โดเบอร์แมน
วันต่อมา
ขนมตื่นเช้ามาราวน์กับพี่เอ็กซ์เทิร์นตั้งแต่หกโมงเช้า กว่าจะราวน์เสร็จก็ตอนเก้าโมงกว่า พอมีเวลาว่างนิดหน่อยเธอก็เลยหยิบไอแพดขึ้นมาอ่าน สายตาจดจ้องจอไอแพดและปากก็กัดขนมปังไส้แยมส้มคำโต
“นี่”
“หือ อ้าวอาโป”
“กินไม่ห่วงสวยเลยนะ”
“พอมีเวลาก็ต้องรีบกินอะ ว่าแต่โปไปไหนมาเหรอ”
“เพิ่งราวน์เสร็จเหมือนกัน”
“อ๋อ กินไรยัง”
“แล้ว แล้วนี่มานั่งทำไมตรงนี้อะ ไม่ไปพักห้องพักนักศึกษา”
“หนมอยากอ่านสไลด์น่ะ ตรงนี้เงียบดีเลยมานั่งอ่าน”
“ว่าแต่หนมได้เจอกับอาจารย์คนนั้นแล้วใช่ปะ”
“หือ?” เธอไม่เข้าใจว่าเพื่อนหมายถึงอาจารย์คนไหน ในวอน์ดมีอาจารย์ตั้งหลายคนแน่ะ “ใครเหรอ”
“ก็อาจารย์โดเบอร์แมนไง”
“อาจารย์โดเบอร์แมน เอ่อ…คนที่ดุๆ ปะ”
“อืม”
“ยังหรอก” ไม่ได้พิศวาสอยากเจออาจารย์ขนาดนั้น หากแต่เธอเลี่ยงไม่ได้เลยต่างหาก ไม่เจอวันนี้พรุ่งนี้ก็ต้องเจออยู่ดี ได้ข่าวมาว่าอาจารย์เข้าติดเคสเลยไม่ว่างมาสอนสักที “แล้ว…อาจารย์โหดมากเหรอ”
“ไม่รู้สิ เราไม่เคยเจอน่ะ แต่เห็นพี่เอ็กซ์เทิร์นพูดมางั้นนะ” อาโปทำหน้าสยดสยองจนขนมขนลุกตามไปด้วย “ล้อเล่นหรอกยายขนม นี่เราขี้กลัวเกินไปหรือเปล่า อย่าลืมว่าเรียนให้รู้เรื่องน่ากลัวกว่าถูกอาจารย์ด่านะ”
“อืม” ทำไงได้ล่ะ คนมันมีปมในใจนี่นา เวลาโดนด่าทีหนึ่งก็เลยกลัวจนหางตกน่ะสิ “ขอบใจนะที่มานั่งเล่าอะไรให้เครียดกว่าเดิม” เธอเย้าหยอกอาโป
“อืม แล้วยิ้มเป็นไงอะ ไม่ได้เจอหน้าเลย” ด้วยยิ้มกับเธออยู่คนละกลุ่มกันเลยไม่ค่อยได้เจอกันหรอก
“เห็นว่าอาทิตย์หน้าออกหน่วยกับอาจารย์อะ เออว่างปะอาทิตย์หน้าน่ะ”
“ไม่น่าจะว่างนะ”
“อ๋อย...อดเลย”
“อะไร ทำหน้าเสียดายทำไม”
“ก็ว่าจะชวนโปมานอนทำงานที่ห้องอะ”
“หืม...”
“อะไรเล่า ไม่ได้กลัวผีนะ แต่มันเหงาๆ ไม่อยากอยู่คนเดียวน่ะ อยากมีเพื่อนคุย”
“ไม่คุยแล้ว โปมีงานต้องทำ ไปก่อนนะ”
“อืมๆ” ขนมโบกมือลาเพื่อนสนิทแล้วรีบกัดขนมปังกินจนหมดแล้วหอบงานไปที่ห้องพักนักศึกษาแพทย์ ในห้องว่างและเงียบอย่างน่าแปลกใจ “ก็ดี จะได้อ่านสไลด์”
ผ่านไปหลายนาที รุ่นพี่ก็เดินเข้ามาในห้อง ทั้งสองชะงักใส่กันเล็กน้อย
“ทำไมมาอยู่นี่คนเดียว พี่นึกว่าเราพักแล้ว”
“หนมอ่านสไลด์อยู่ค่ะ”
“อ๋อ ได้ข่าวว่าอินเทิร์นจะได้ราวน์กับอาจารย์ศิวกรเหรอ”
“ค่ะ”
“ระวังนะ...”
“เนี่ย พี่เอ็มมาพูดแบบนี้หนมใจเสียแล้วเนี่ย” ไม่รู้ว่าในสายตาคนอื่นเธอดูน่าแกล้งมากหรือไงนะ ถึงได้มีแต่คนมาพูดให้ขวัญหนีดีฝ่อแบบนี้น่ะ “อย่ามาแกล้งน้องเลยค่ะ น้องคนนี้ใจบางมาก”
“หึหึ พี่ล้อเล่น”
“สรุปยังไงเหรอคะ อาจารย์ศิวกรดุจริงๆ ไหม”
“เดี๋ยวก็รู้เองว่าดุไหม”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะที่ไม่ได้ช่วยให้เบาใจเลยน่ะ” พี่เอ็มหัวเราะแล้วเดินไปทิ้งตัวนอนบนโซฟา สงสัยเพิ่งออกจากโออาร์มามั้ง หน้าถึงได้ดูเพลียๆ ขนาดนั้นน่ะ แต่ก็ยังมีแรงมาแกล้งกันให้กลัวนะพี่เอ็ม
หลังจากอ่านสไลด์เสร็จขนมก็เดินออกมาจากห้องพักนักศึกษาแพทย์เพราะไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อนของรุ่นพี่
“น้องหนมๆ มานี่ค่ะ”
“ขาพี่แก้ม”
“พี่ทำขนมใส่ไส้มา เอาไปชิมให้หน่อย”
“อ๋อ ขอบคุณนะคะ”
“รสชาติเป็นไงแล้วมาบอกด้วยนะ พอดีว่าพี่จะรับจ็อบทำขายในโรงพยาบาลน่ะ”
“พี่แก้มนี่มีเวลาเหลือเยอะจัง แบ่งมาให้หนมบ้างสิคะ”
“เปล่าหรอก พี่สาวพี่มาเยี่ยมน่ะ เลยจะหารายได้เสริมหน่อย”
“อ๋อค่ะ” ก็นั่นแหละ เดี๋ยวนี้พี่พยาบาลชอบทำกับข้าวมาขายในวอร์ดกันเยอะ แต่ต้องรับออร์เดอร์ก่อน ทำตามออร์เดอร์ที่สั่งน่ะ ก็เป็นรายได้เล็กๆ น้อยๆ เธอยังคิดอยากจะทำขนมขายเลย แต่ยังจัดการกับเวลาไม่ค่อยได้เท่าไร ก็เลยพับเรื่องนี้ไปก่อน
ขนมเดินมาตามทางเดินเชื่อมต่อกับอาคาร เธอสอดสายตามองไปโดยรอบ
ฟึบ!
“หือ...” เหมือนมีอะไรวิ่งผ่านเร็วมาก จนเธอมองแทบไม่ทันแน่ะ “โห วิ่งไวขนาดนั้นต้องเคสหนักแน่”
@ในห้องคลอด
“อาจารย์คะ คนไข้ตกเลือดมากค่ะ ชีพจรต่ำมากด้วย”
“เตรียมอุปกรณ์เปิดช่องคลอดครับ”
“ค่ะ”
คนไข้หญิงอายุสิบห้าปีมาโรงพยาบาลด้วยภาวะตกเลือดและอ่อนเพลียจากการเสียเลือดมากจนเกิดภาวะช็อกระหว่างช่วยชีวิต
ผ่านไปหลายชั่วโมง ศิวกรเดินออกมาจากห้องผ่าตัดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง เขามองหน้าพยาบาลสาวที่เดินตามออกมา
“พ่อแม่เด็กอยู่ไหนครับ”
“พ่อแม่เด็กไม่มีใครมาเลยคะอาจารย์”
“แล้วน้องมากับใคร”
“มากับแฟนค่ะ”
“งั้นขอเบอร์โทร. ติดต่อพ่อแม่น้องไว้หน่อยนะ”
“ค่ะ”
ศิวกรมองไปยังม้านั่งหน้าห้องผ่าตัด เขาเลยเดินไปหาเด็กหนุ่มที่กำลังนั่งรอแฟนอยู่
“ไงเรา”
“ครับ แฟนผมเป็นยังไงบ้างครับ”
“อยากฟังเหรอ แล้วจะรับได้ไหมล่ะ”
“ผม...”
นายแพทย์หนุ่มยกแขนขึ้นไปกอดคอเด็กหนุ่ม
“พี่รู้นะว่าวัยเรากำลังอยากรู้อยากลอง พี่ก็เคยผ่านช่วงเวลานั้นมาก่อน แต่ว่าพี่จะเตือนอะไรเราอย่างหนึ่ง”
“ครับ” เด็กหนุ่มหน้าสลดแล้วก้มหน้ารับฟัง
“จะทำอะไรก็คิดให้ดีๆ นึกถึงอนาคตให้เยอะๆ พี่ไม่รู้หรอกว่าน้องสองคนจะยังรักกันจนถึงวันแต่งงานไหม แต่ถ้าเลิกกันระหว่างทางมันก็เป็นความเสียหายที่เอากลับมาไม่ได้แล้ว เพราะงั้นจะทำอะไรก็อย่าลืมป้องกัน ป้องกันดีที่สุดนะ”
“ครับ ผมขอโทษครับ”
“ไม่ต้องขอโทษพี่หรอก เดี๋ยวแฟนเราก็ออกมาจากห้องผ่าตัด แต่ต้องอยู่ดูอาการในไอซียูก่อน เพราะเสียเลือดมาก”
“ลูกผม...”
“เสียใจด้วย ลูกเราเขาไปดีแล้ว แต่เราควรจะดีใจที่แฟนเรายังอยู่นะ”
“ครับ ขอบคุณครับ”
นายแพทย์หนุ่มตบบ่าเด็กหนุ่มสองครั้งก่อนจะเดินออกมา
“อาจารย์เนี่ยสุดยอดเลยนะคะ เก่งรอบด้านจริงๆ”
“หึหึ วันนี้ผมเลี้ยงพิซซ่านะ สั่งได้เลยเดี๋ยวให้ตัดบัตรผม”
“ขอบคุณค่ะอาจารย์กร”
ชายหนุ่มมานั่งในห้องพักอาจารย์แพทย์ พลางเหลือบมองเวลาที่ข้อมือ วันนี้คงไม่ได้ไปหาหลานสาว แต่น่าจะได้เข้าคลินิกเลยเพราะเวลาไม่พอ
17:20
ขนมนั่งเท้าคางมองจอไอแพดอยู่ในห้องพัก วันนี้รูมเมตกลับดึกหน่อย ยิ้มเพิ่งไลน์มาบอกว่าจะแวะกินข้าวก่อนกลับด้วย ก็แปลว่าเธอต้องกินข้าวคนเดียวน่ะสิ
“เฮ้อ...อยากกลับบ้านจัง” ด้วยบ้านอยู่ไกลกว่าเพื่อน ก็เลยไม่ค่อยได้กลับ ป้าก็บ่นคิดถึงทุกวัน อยากให้กลับไปเยี่ยมบ้างเพราะช่วงนี้ที่บ้านเธอเพิ่งลงแขกเกี่ยวข้าวไปน่ะ ป้าเลยอยากให้กลับไปกินข้าวใหม่ ซึ่งเป็นธรรมเนียมของเราสองคนป้าหลานแหละ “ปิดเทอมนี้หนมจะกลับไปกอดนะคะป้า คิดถึงมากเลย”
เสียงถอนหายใจดังขึ้นภายในรถหรูขณะจอดติดไฟจราจรอยู่ทางแยกจะเลี้ยวไปคลินิก ศิวกรมองดูเวลาบนข้อมือ
“วันอะไรว้า รถติดเป็นบ้าเลย” ปกติรถก็ติดเช่นนี้ แต่วันนี้เขาเข้าคลินิกช้ากว่าปกติเพราะติดเคสผู้ป่วยตกเลือดนั่นแหละ ป่านนี้คนไข้ที่นัดเอาไว้คงบ่นแย่แล้ว
พอสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียวเขาก็รีบเหยียบคันเร่งไปทันที มาถึงคลินิกผู้ช่วยถึงกับยิ้มหน้าบ้าน ทั้งคนไข้เก่าและคนไข้ใหม่ที่มารอตรวจด้วย
“ขอโทษที่มาสายนะครับคนสวย พอดีหมอติดเคสฉุกเฉินอยู่น่ะครับ” เขารีบหยิบเสื้อกาวน์มาสวมแล้วเข้าห้องตรวจทันที กว่าคนไข้จะบางตาก็ปาไปสองทุ่มกว่า เหลือคนสุดท้ายที่รอตรวจ ศิวกรก็เลยให้ผู้ช่วยกลับไปก่อนและให้ค่าเสียเวลาเธอด้วย “ขอบคุณมากนะครับ ไม่ทราบว่ามีคนแนะนำมาไหมครับ หรือว่ามาเอง”
“มีคนแนะนำมาค่ะ หลานสาวบอกว่าหมอหล่อและพูดเพราะ ก็เลยอยากมาตรวจบ้าง”
“อ๋อครับ ถ้าอย่างนั้นหมอไม่นัดแล้วนะครับ อาการดีขึ้นมากแล้ว กินยาตามที่หมอให้ให้หมดเลยนะ อย่าคิดว่ามันหายนะครับ ต้องกินให้หมดเลยนะ”
“ค่ะๆ”
เมื่อคนไข้คนสุดท้ายออกไปแล้ว เขาก็เปิดคลินิกทันที ตอนนี้ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย ออกจากโออาร์มาว่าจะแวะไปกินข้าวเสียหน่อย แต่ผู้ช่วยก็ไลน์มาตามก่อนจึงต้องรีบเข้าคลินิก
ศิวกรจอดรถชิดฟุตพาทแล้วลงไปสั่งบะหมี่ปูกับเกี๊ยวแห้งปู นึกอยากกินมาหลายวัน ขับมาเจอร้านก็เลยแวะกินก่อนกลับคอนโดฯ ร้านอาหารแถวโรงพยาบาลมหา'ลัยค่อนข้างเยอะ เยอะจนไม่รู้จะกินอะไรดี ตัวเลือกเยอะก็ปวดหัว
“ป้าขา เอาบะหมี่หมูแดงหนึ่ง หมี่ขาวแห้งเพิ่มกระเทียมเจียวเยอะๆ หนึ่ง ขอน้ำซุปหอมๆ ด้วยนะคะ”
“ได้เลยลูก ไปนั่งรอๆ เดี๋ยวป้าทำให้ลูกค้าคนนั้นแป๊บหนึ่ง”
“อ๋อค่ะ”
ขนมเหลียวมองแผ่นหลังกว้างของชายหนุ่มในชุดสครับ เธอพยักพเยิดหน้าเบาๆ แล้วหาโต๊ะนั่ง วันนี้นึกอยากกินก๋วยเตี๋ยวแล้วซดน้ำร้อนๆ เลยลงมาหาของกินหน้าโรงพยาบาลมา'ลัย แล้วร้านนี้ก็เป็นร้านประจำของเธอกับรูมเมตด้วย
“มาแล้วค่า ทานให้อร่อยนะคะ”
“ครับ”
ขนมชะเง้อมองชายหนุ่ม อยากเห็นหน้าเขาเหลือเกิน คอยาวยางกับยีราฟแต่ก็ต้องหดคอเพราะป้าเอาของมาเสิร์ฟพอดี พอออกมาข้างนอกก็ได้เมาท์มอยแก้เหงาบ้าง กินเสร็จก็ไม่เห็นผู้ชายคนนั้นแล้ว ด้วยเพราะเธอนั่งอยู่หลังโต๊ะวางกระติกน้ำด้วยแหละ เลยไม่ค่อยเห็นอะไร
“ทำไมวันนี้ยิ้มไม่มาล่ะลูก”
“ยิ้มออกงานค่ะ หนมนอนคนเดียวเลยลงมาหาอะไรกินก่อน”
“อ๋อ หาแฟนสักคนสิลูกจะได้ไม่เหงา”
ขนมหัวเราะคิกๆ เธอยิ้มหวานแล้วส่งตาหวานวิบ ๆ ให้ป้า
“ป้า ถ้าหนูมีแฟนนะ หนูจะพาแฟนมาเปิดตัวกับป้าคนแรกเลย”
“หึหึ ป้าจะรอดูหน้าแฟนเรา”
“สาธุค่ะ ขอให้มีแฟนเร็วๆ เถอะ” พอจ่ายเงินแล้วขนมก็เดินออกมาจากร้านป้า เธอแวะซื้อข้าวโพดหวานต้มติดมือมาด้วย แต่ระหว่างทางอดใจไม่ไหวเลยหยิบออกมากัดกินซะเลย
กึก!
เท้าเรียวหยุดชะงักค้างตรงประตูด้านหลังหอพัก
“อะ อ้าว…” ประตูล็อกเรียบร้อยแล้วเธอก็ต้องเดินอ้อมไปเข้าอีกทางหนึ่ง ซึ่งไกลมากด้วย ความอร่อยของข้าวโพดในมือเธอลดลงนิดหน่อย แต่ก็ยอมเดินไปได้เพราะวันนี้ซิล ๆ ไม่รีบเท่าไร เดินมาได้สักพักก็เพิ่งจะรู้สึกว่าทางเปลี่ยวและเงียบมาก ขนมจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดเพลงกลบบรรยากาศแสนน่ากลัวนี้
หญิงสาวเดินฮัมเพลงมาจนถึงลานจอดรถ ยิ่งเงียบเข้าไปใหญ่ เธอก็เลยเปิดไฟฉายในโทรศัพท์ส่องทางเดิน
หมับ!
“กรี๊ด!!!”
ยิ้มรีบเอามือปิดปากขนมไว้แน่นพร้อมส่งเสียงให้ขนมหยุดกรี๊ดแล้วลืมตาดูเธอ
“หนม! นี่ยิ้มเอง”
“ยิ้ม! ไอบ้า!” ขนมตีแขนรูมเมตไปทีหนึ่ง “ทำอะไรเนี่ย ข้าวโพดหลุดมือเลย”
“ตกลงจะเสียดายข้าวโพดหรือตกใจเรา”
“ก็ทั้งสอง เล่นอะไรของแกฮะ”
“เห็นเดินเปิดเพลงมาคนเดียวอะ”
“ไม่ต้องเลย แล้วไหนบอกจะกลับดึกไง”
“เปลี่ยนใจ กลัวหนมนอนไม่ได้เลยรีบกลับมา แล้วกินข้าวยังเราซื่อกระเพาะปลามาฝาก” ยิ้มยกถุงกระเพาะปลาให้ขนมดู
“เรียบร้อย เพิ่งเดินไปกินบะหมี่มาเนี่ย หิวเลยเบิ้ลสองชามเลย”
“กินเก่งนะเรา ปะขึ้นห้อง” ยิ้มกอดคอขนมเดินขึ้นห้องพัก พอเข้ามาในห้องพักแล้วทั้งสองก็นอนเมาท์มอยกันก่อนจะไปอาบน้ำ “เจอยังอาจารย์กร”
“ไม่ ยังไม่เจอนะ แต่ไม่ช้าก็เร็วอะ”
“อย่าไปกลัว อาจารย์ไม่ได้ดุเราคนเดียวหรอกเชื่อสิ คนถูกอาจารย์วอร์ดไหนด่า แสดงว่าอาจารย์รักมาก”
“รักมากมั้ง เกิดแต่กับกูเนี่ย”
“หึหึ” ยิ้มหัวเราะร่วน “ก็หนมน่ารักอะ”
“ไม่ต้องมาปลอบใจเลย ไปอาบน้ำได้แล้วค่ะ” ยิ้มเอาไหล่มาชนกับไหล่ขนม “อะไร ยิ้มแปลกๆ”
“หยุดนี้ไปเที่ยวไหม”
“เที่ยวไหนก่อน”
“ก็แถวๆ นี้แหละ ไปหาคาเฟนั่งถ่ายรูปเล่นไง”
“ก็ดีนะ ไปหาอะไรหวานๆ กินหน่อย หนมรู้สึกช่วงนี้น้ำตาลตก” ไม่ได้กินของหวานหรือน้ำหวานนานแล้วอะ เป็นเพราะช่วงนี้นอนดึกแล้วต้องขึ้นเวรด้วย เลยติดกินกาแฟดำทุกวัน “งั้นเย็นนี้ไปนั่งร้านน้ำเต้าหู้ปะ อยากกินเต้าทึงน้ำลำไย”
“อืม ถ้าเราสองคนว่างน่ะนะ”
“เฮ้อ” คุยกันพอหอมปากหอมคอ เพราะต้องนอนให้เต็มอิ่ม พรุ่งนี้ราวน์เช้ากับอาจารย์ เรียนทุกวันเหมือนสุ่มกล่องอาร์ตทอยอาจารย์เลย ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะได้ราวน์กับคนไหน เพื่อนในกลุ่มก็ยังไม่มีใครว่าอะไรด้วย
วันต่อมา
ขนมหอบกระเป๋าผ้าใบโปรดเดินเข้าวอร์ดตั้งแต่หกโมงเช้า ดีหน่อยที่ตื่นเช้าเลยมีเวลาเดินไปซื้อกาแฟมาจิบระหว่างรอเพื่อนด้วย
“ขอกินด้วยสิ” อาโปเดินลากเท้ามานั่งแหมะลงข้างๆ อ้อนกันด้วยน้ำเสียงเอื่อยๆ คล้ายคนหมดแรง
“กินจริงปะ”
“คำหนึ่ง”
ขนมเลยยื่นแก้วกาแฟให้เพื่อนจิบเสียหน่อย จะได้ตื่นเต็มตา
“เวรดึกเหรอ”
“อืม”
“ตาโบ๋เชียว” นอกจากนอนไม่เป็นเวลาแล้วนั้น เรื่องขอบตาก็น่าเป็นห่วงเช่นกัน หากมีเวลาว่างก็อยากเข้าคลินิกเสริมความงามเหมือนกัน จะเป็นหมีแพนด้ากันหมดแล้ว
“อืม แล้วทำไมมาเช้าจัง เพื่อนคนอื่นยังไม่มาสักคนเลย”
“ตื่นเต้น เลยออกมาเช้าหน่อย”
“อ๋อ”
“กินขนมปะ หนมซื้อโรลส้มมาสองอัน”
“ไม่ล่ะ กลัวอิ่มก่อนออกไปกินข้าวน่ะ”
“อืม”
“ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีนะหนม ขอให้เพื่อนไม่โดนอาจารย์ไล่ออกจากวอร์ด”
“อาโป!”
“ล้อเล่นจ้า ไปละ”
“เพื่อนบ้า” ยังมีคำด่าให้ได้ยินแม้อาโปจะเดินออกมาไกลพอสมควรแล้ว
ขนมถอนหายใจพรืดใหญ่ มองขนมในมือตัวเองก่อนจะวางลงบนกระเป๋าผ้า กินไม่ลงเลยทีนี้
“เรามันน่าแกล้งขนาดนั้นเหรอวะ” เพื่อเช็กความมั่นใจเลยหยิบกระจกพกพาเล็กๆ ออกมาส่องหน้าตัวเอง “อ๋อ เราน่ารักทุกคนเลยอยากแกล้งนี่เอง”
“อะไรนะ ใครน่ารักนะ”
“ก็หนมไงคะ ขนมคนน่ารัก” เธอทำหน้าแบ๊วๆ ใส่รุ่นพี่ที่เพิ่งเดินมานั่งลงข้างกัน “แล้วน่ารักไหม ถ้าหนมไว้หน้าม้าจะเป็นไง”
“ก็น่ารักดี แต่ว่านะ”
“อะไรคะ”
“เรามันน่าแกล้งว่ะ”
“อ้าวพี่เอ็ม”
“จริงนะ หน้าเล็กๆ ตาโตๆ เวลาโดนแกล้งทำหน้าเหมือนจะร้องไห้น่าเอ็นดูเชียว”
“อ๋อ ถึงว่าทุกคนอยากแกล้งหนมกันจัง” ขนมทำหน้าแบ๊วใส่รุ่นพี่อีกครั้ง “พี่เอ็ม หนมถามจริงๆ เถอะ”
“ว่า”
“พี่เอ็มเคยสนใจคนในสายงานเดียวกับตัวเองบ้างปะ”
“ไม่อะ ไม่พิศวาสขนาดนั้น เวลาเจอหน้ากันในที่ทำงานพี่ทำตัวไม่ถูก”
“ก็จริง” ขนมพยักหน้าเออออตามความคิดเห็นรุ่นพี่ เป็นเธอคงอยู่ไม่สุขแน่ ยิ่งเจอหน้ากันทุกวันด้วยนะ คงน่าเบื่อแย่เลย “หนมไปเตรียมตัวก่อน วันนี้มีราวน์กับอาจารย์”
“อืม ขอให้เป็นวันที่ดีนะน้อง”
“ขอบคุณค่า เอาไว้จะเลี้ยงกาแฟนะคะ”
“อืม ดีลเลย”
“หึหึ”
แยกจากพี่เอ็กซ์เทิร์นสุดหล่อแล้วขนมก็มารอเพื่อนอยู่ห้องพักนักศึกษาแพทย์ ไม่นานเพื่อนๆ ก็ทยอยมาจนครบคน
ขนมถือชาร์ตคนไข้เดินตามกลุ่มเพื่อนมารออาจารย์หมออยู่หน้าวอร์ด ขนมก้มมองชาร์ตคนไข้อยู่ครู่หนึ่ง ศอกของเพื่อนคนข้างๆ ก็สะกิดแขนเธอให้มองอาจารย์
“อาจารย์มาแล้วๆ”
“อืม” ขนมเงยหน้ามองอาจารย์
ตึกตัก ตึกตัก
หัวใจคล้ายจะหลุดออกมาเต้นนอกเบ้า ใบหน้าผ่าวร้อนแดงปลั่ง คำพูด น้ำเสียง แววตา ใบหน้าคมสันของผู้ชายในคืนนั้นหลั่งไหลเข้ามาในหัวอีกครั้ง
'เหี้ยแล้ว เหี้ยสุดๆ เลย'
“สวัสดีครับนักศึกษา ผมอาจารย์ศิวกรครับ” นักศึกษาคนอื่นต่างกล่าวคำทักทายและไหว้สวัสดีอาจารย์ผู้มาใหม่ “จากนี้อีกหนึ่งเดือนเราคงได้เจอหน้ากันทุกเช้า” ทว่าขนมกลับยืนอึ้งอ้าปากค้างเติ่ง
คุณเค อาจารย์ศิวกร อาจารย์กร เคย่อมาจาก…กร ขะ เขา…คือคนคนเดียวกันเหรอ!
“เหี้ย….”
บทที่ 3 โลกกลมเกินไป มือสั่น ปากสั่นราวกับเจ้าเข้า ขนมรีบหลบหลังเพื่อนตัวเอง ก้มหน้าจ้องชาร์ตคนไข้'เชี่ย…นี่ฉันเยเย่กับ…อะ อาจารย์เหรอวะ ยายขนมตายแน่!''ตะกี้เขาทันได้เห็นฉันไหม คงไม่หรอกนะ'“หนมแกทำไรเนี่ย มาหลบหลังฉันทำไม”“แป๊บหนึ่ง”“ถ้าจะคุยกันก็ออกไป” น้ำเสียงติดดุดังขึ้น แน่นอนล่ะว่าเขาเพ่งสายตามาทางนี้“ขอโทษค่ะอาจารย์” เพื่อนจับแขนขนมไว้แน่น ดึงเธอออกมาจากด้านหลังจนสำเร็จ แต่กลับชะงักเพราะขนมปล่อยผมมาปิดหน้าปิดตาตัวเองแถมเอาแมกส์มาสวมอีก “อะไรของแกเนี่ย” เพื่อนขยับปากถามแบบไม่ออกเสียง ทั้งงงว่าขนมทำแบบนี้ทำไม ราวกับกลัวใครจำหน้าได้อย่างนั้นแหละ“เดินไปๆ อย่าสนใจฉัน” ตอนนี้เธอต้องทำตัวไม่ให้เป็นที่สนใจของอาจารย์ เลยเดินไปแฝงตัวกับเพื่อนคนนั้นที คนนี้ที พอเดินเข้ามาถึงตึกผู้ป่วยโอพีดีอาจารย์ก็พาตรวจตั้งแต่เตียงแรก สลับให้นักศึกษาแพทย์ทุกคนได้ตรวจและซักถามอาการผู้ป่วยทุกคน จนมาถึงคิวขนม“สวัสดีค่ะคุณแม่ อาการเป็นยังไงบ้างคะวันนี้”“ถอดแมสก์ออกก่อน เสียงอู้อี้ขนาดนี้คนป่วยจะรู้เรื่องได้ยังไง” น้ำเสียงติดดุดังมาจากด้านหลัง เขาไม่รู้หรอกว่าเธออยากวิ่งหนีมากแค่ไหน ยิ่งกว่ากดดันก็ก
บทที่ 4 ราวิโอลีรสขนมขนมนั่งรออยู่บนม้านั่ง เทียวมองเวลาบนข้อมือตัวเอง นี่ก็สี่โมงแล้ว เธอยังไม่รู้เลยว่าต้องเอาร่มไปคืนเขาที่ร้านกาแฟไหน“เห็นเราเป็นหมอดูหรือไง ถึงจะได้เดาใจถูกว่าไปนั่งร้านไหนน่ะ” ขนมบ่นพึมพำ พอนึกอะไรออกก็รีบก้าวเท้าให้ทันพี่พยาบาลแล้วคว้าแขนไว้ “พี่เพ็ญคะ หนมขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ”“ว่ามาเลยลูก”“อาจารย์ศิวกรแกชอบไปนั่งร้านกาแฟแถวไหนเหรอคะ แบบหน้าโรงพยาบาลหรือว่าในโรงพยาบาลเรา”“น่าจะเป็นร้านกาแฟหน้าตึกนี้นะลูก พี่เห็นหมอไปนั่งกันเยอะนี่”“อ๋อ…” ขนมร้องอ๋อ ใกล้ๆ นี้เองนี่นา “ขอบคุณมากๆ ค่ะ”“จ้า”พอรู้พิกัดแล้วก็มุ่งหน้าไปยังร้านกาแฟทันที เป็นร้านเล็กๆ ซึ่งมีหมอและนักศึกษาแพทย์ทุกชั้นปีไปหาขนมและกาแฟกินบ่อยๆ ซึ่งเธอก็เป็นหนึ่งในนั้น ชอบไปนั่งอ่านหนังสือน่ะ“ขอให้เขาอยู่ที่นี่เถอะ”เดินมาถึงหน้าร้าน ขนมก็กวาดสายตามองหาชายหนุ่มจนเห็นแผ่นหลังกำยำในเสื้อเชิ้ตสีกรมท่านั่งยกแก้วกาแฟจิบด้วยท่าทางสบายใจเฉิบ“สบายใจเลยนะ ให้เรารอเนี่ย” ขนมจิ๊ปาก แต่พอผลักประตูเข้ามาด้านใน ใบหน้าบูดบึ้งก็พลันเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้ม “สวัสดีค่ะ นี่ค่ะร่มของอาจารย์ แล้วก็ขอบคุณมากๆ นะคะที่ให้ยืมร
บทที่ 5 กาแฟใส่นม “มั้ง”“หมายความว่ายังไงเหรอคะ เคยมั้ง?”“เจอหน้าคนเยอะแยะ จำไม่ได้หรอก”อย่างนั้นก็แปลว่าเขาจำกันไม่ได้จริงๆ เพราะนี่ถือว่าเป็นคำยืนยันจากศิวกรแล้ว ขนมลอบถอนหายใจแล้วยกแก้วน้ำขึ้นมาจิบเล็กน้อยแก้เขิน“หรือว่าเคยเจอ”พรวด!น้ำพุ่งออกจากปากเธอทันที“ขะ ขอโทษค่ะ ขอโทษ” ขนมรีบหยิบทิชชูไปซับน้ำออกจากแขนให้ชายหนุ่ม “ขอโทษนะคะ หนมไม่ได้ตั้งใจ”“แทนตัวเองว่าอะไรนะ”“เอ่อ…หนมค่ะ ขนมน่ะ”“อ๋อ ขนม…รสอะไร”“ว่าอะไรนะคะ”“เปล่า นั่งเถอะ” ศิวกรหยิบทิชชูมาเช็ดน้ำออกจากแขนเอง และความเงียบในโต๊ะอาหารก็เกิดขึ้น ขนมนั่งหลังตรง เสสายตามองไปรอบๆ ไม่ใช่อะไร เธอไม่อยากโฟกัสคนตรงหน้า ขนาดที่ว่าไม่ได้โฟกัสเขามากนัก หน้าเธอยังผ่าวร้อนขนาดนี้ ถ้าได้สบตากับเขานะ อื้ย!“หมอให้ยาอะไรมาบ้าง”“ก็ยาทาค่ะ”“ใช้ของอะไรก็ระวังหน่อย ผิวตรงนั้นมันอ่อนไหวง่าย”“เอ่อ จะคุยเรื่องนี้ในโต๊ะอาหารจริงๆ เหรอคะ” บรรยากาศกร่อยแย่เลย แล้วมีอย่างที่ไหนคุยเรื่องแบบนี้ในโต๊ะอาหารน่ะ เข้าใจว่าเป็นหมอมันไม่รู้สึกเขินหรืออะไร แต่เธอไม่ชินนี่นา“โอเค” ชายหนุ่มทำท่ารูดซิปปากแล้วหันไปมองพนักงาน “อยากกินน้ำอะไร นอกจากน้ำเป
บทที่ 6 เกมถามตอบ ขนมหน้าเหวอไปเมื่อเห็นศิวกรเดินถือถุงกระดาษเดินเข้ามาในกลุ่ม เขาส่งถุงนั้นให้เจ้าของวันเกิดพร้อมกับอวยพร“ขอบคุณนะครับที่อาจารย์เจียดเวลามา”“ว่างพอดี”ว่างเหรอ แล้วทำไมเขาไม่บอกสักคำว่าจะมางานวันเกิดพี่เอ็มด้วยน่ะ ทำเฉยอย่างกับไม่สนใจแน่ะศิวกรละสายตาจากเจ้าของวันเกิดมองไปโดยรอบ เล็งเห็นที่นั่งเหมาะๆ แล้วเขาจึงก้าวไปหย่อนตัวนั่งลง ซึ่งก็ข้างกับขนมอีกนั่นแหละ“อาจารย์ไม่บอกสักคำว่าจะมา”“ก็เราไม่ถาม”“ต้องให้ถามเหรอคะ” ใครจะไปกล้าถามเขาขนาดนั้นล่ะ ถ้าเอ่ยถามตรงๆ แบบนั้นมันเสียมารยาทไป ขนมพรูลมหายใจออกอีกครั้ง รุ่นพี่รินเครื่องดื่มมาให้แต่เธอกับยิ้มปฏิเสธพร้อมกัน “หนมขอน้ำหวานได้ไหม ไม่ก็อะไรเบาๆ แบบค็อกเทล”“ได้ เดี๋ยวพี่สั่งให้”พูดคำว่าค็อกเทลปุ๊บ สมองพลันนึกถึงเรื่องวันนั้นทันที ใบหน้าขนมผ่าวร้อน เธอเหลือบตามองคนข้างกายแล้วเสยม้วนผมออกจากใบหน้า“เอาไดคิวรีแก้วหนึ่ง” เสียงเข้มของคนข้างๆ ดังขึ้น มันเป็นเมนูเดียวกับที่เขาสั่งให้เธอวันนั้นเลย“เปลี่ยนใจแล้วค่ะ เอาเหล้าก็ได้ แต่หนมจิบน้อยๆ เอา”“ไม่ต้องเกร็งนะ ตามสบายเลย”“ไม่ได้เกร็งค่ะ” ขนมโพล่งขึ้น ทำให้ทุกคนหันมาม
บทที่ 7 ปิ่นโตสีชมพู ขนมมองหน้ารุ่นพี่ตาปริบๆ จนพี่เอ็มต้องยกมือขึ้นมาจับศีรษะเธอโยกไปมาเป็นการหยอกล้อ“ตาค้างแล้ว ทึ่งในความหล่อพี่เหรอ”“เปล่าค่ะ กำลังอึ้งว่ากินจนเมาขนาดนั้นแล้วตื่นมาทำงานได้ยังไง สุดยอดค่ะแต่ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง”คนถูกชมอยู่ดีๆ ถูกเบรกด้วยประโยคเจ็บจี๊ดสุดท้าย“ค่าคนสวย ดีแล้วที่เราไม่เมามากน่ะ” พี่เอ็มเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ แต่ขนมยังยืนอยู่ที่เดิมเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรสักอย่าง “มานั่งตรงนี้ก่อน มีเรื่องอะไรน่าคิดขนาดนั้น”“เปล่าๆ ค่ะ”“เออ เมื่อวานยิ้มจะพูดอะไรนะ พี่ฟังไม่ค่อยชัดเท่าไร ตอนเล่มเกมถามตอบอะ”“อย่าไปถือสาคนเมาเลยค่ะ ยิ้มก็เป็นแบบนั้นแหละเวลาเมา” กลับไปนี้โดนสวดแน่ยายยิ้ม ดีนะที่เธอเอามือปิดปากไว้ก่อน ไม่งั้นซวยแน่ “งั้นหนมขอตัวก่อนนะคะ”“อืม”ขนมเดินเกาหัวออกมาจากตรงนั้นแล้วเลี้ยวไปทางเดินไปยังตึกผู้ป่วยโอพีดี“ซีด…” หญิงสาวซีดปากระบายความเจ็บแสบ เธอหยุดเดินแล้วนั่งลง รีบถอดรองเท้าดูแผลรองเท้ากัดเมื่อคืน “หนักเอาการอยู่นะเนี่ย” ตอนแรกคิดว่าแค่เป็นแผลถลอกเล็กๆ เท่านั้น แต่ตอนนี้มันแดงและยังมีบางจุดพองมีน้ำใสๆ อีก พอเพื่อนคนอื่นเดินมาเธอจึงรีบลุกขึ้นแ
บทที่ 8 ผู้ปกครองพิเศษ “นี่หลอกกันเหรอคะ” น้ำเสียงและใบหน้าบึ้งตึงบอกได้ชัดว่าเธอไม่พอใจมาก“หลอก?” อีกฝ่ายเลิกคิ้วสูงเชิงถามเขาตีมึนทำไมในเมื่อเขาเองนั่นแหละหลอกให้มาที่นี่“ก็อาจารย์บอกจะนัดหมอให้หนม แล้วทำไมเป็นอาจารย์ได้ล่ะ”“ก็นี่คลินิกพี่เอง”“ฮะ! เดี๋ยวๆ เดี๋ยวก่อน” ขนมหันรีหันขวางจนสายตาปะทะกับชื่อคลินิกและชื่อนายแพทย์ผู้เป็นเจ้าของคลินิกแห่งนี้ “อาจารย์เป็นเจ้าของคลินิกเหรอคะ”“อืม”ขนมรีบลงจากเตียงแล้วเปิดประตูเดินออกมาทันที ยิ้มสะดุ้งตกใจที่เพื่อนรีบมาดึงแขนเธอลุก“ไปไหนหนม เดี๋ยวๆ หนมยังไม่ได้เปลี่ยนชุดเลยนะ”“ไม่ได้ ตรวจที่นี่ไม่ได้”“ทำไม เกิดอะไรขึ้น”“…”! ขนมบุ้ยปากไปด้านหลังตัวเอง ยิ้มเลยมองตามสายตาเพื่อนไปจนเห็นร่างสูงใหญ่ยืนกอดอกอยู่หน้าเคาน์เตอร์ซักประวัติ“หา!! อะ อาจารย์ศิวกร?”“ใช่ นี่คลินิกเขา” ยิ้มสะบัดมือเพื่อนออกจากแขน เดินออกไปหน้าคลินิกโดยไม่ใส่รองเท้าแล้วเงยหน้าอ่านป้ายคลินิก“เชี่ย….” หญิงสาวอุทานคำหยาบออกมา จากนั้นก็เดินมาสวมรองเท้า แต่ขนมดันถูกอาจารย์จับแขนไว้เนี่ยสิ“เป็นอะไรกัน แล้วจะไปไหน”“อาจารย์หลอกหนมมาที่นี่ ทั้งที่รู้ว่าเป็นคลินิกตัวเอง แบบน
บทที่ 9 สุขสันต์วันเกิด หลายวันต่อมา00:00“หนม” ยิ้มลุกขึ้นมาเปิดไฟในห้องสว่างจ้า เมื่อเห็นว่าขนมยังไม่เอาผ้าออกจากการคลุมโปงเธอก็รีบไปเอาเค้กในตู้เย็นมาจุดเทียน เค้กไม่ได้ก้อนใหญ่มากแต่เป็นเค้กที่ตั้งใจซื้อมาให้เพื่อนในวันคล้ายวันเกิดวันนี้ “หนมลุกมาดูนี่”“อืม…” การนอนหลับลึกหลับสนิทเป็นสิ่งที่นักศึกษาแพทย์ทไม่เคยได้สัมผัส และถ้าได้นอนหลับไปแล้วแล้วถูกปลุกแบบนี้ การนอนให้หลับอีกจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่เธอถูกยิ้มปลุกมาในเวลาเที่ยงคืนเนี่ยนะขนมลุกขึ้นมานั่งโดยที่เปลือกตายังปิดสนิท หญิงสาวลูบม้วนผมออกจากใบหน้า ค่อยๆ เปิดเปลือกตามองแสงสีส้มทองตรงหน้า นัยน์ตาเริ่มโฟกัสสิ่งที่ยิ้มทำให้“สุขสันต์วันคล้ายวันเกิดนะรูมเมตของฉัน ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีของเธอ ขอให้มีแต่คนรัก และขอให้ผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้อย่างราบรื่นนะ รักหนมนะ”“ขอบคุณมากนะ หนมขอให้พรที่ยิ้มให้ย้อนกลับไปหายิ้มเหมือนกัน เป็นเพื่อนคิด เป็นเพื่อนกิน เพื่อนนอนและเพื่อนรักของกันและกันตลอดไปนะ” ขนมเป่าเทียนดับแล้วก็ลุกขึ้นมาสวมกอดยิ้ม ความอบอุ่นที่ได้รับจากเพื่อนคนนี้ทำให้ขนมไม่รู้สึกเหงาจนเกินไปจริงๆ“กินเค้กไหม”“ไม่เอา เอาไ
บทที่ 10 มีคนคิดถึง สองชั่วโมงต่อมาอาการปวดท้องน้อยของขนมทุเลาลงอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้แทบไม่หลงเหลืออาการเจ็บปวดตรงไหนแล้ว และเธอก็ผล็อยหลับไปแล้วด้วย“อาจารย์คะ น้องหมอหลับยังไม่ตื่นเลยค่ะ”“ครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง”“ได้ค่ะ แล้วกระเป๋ากับของน้องหมอนกเอาไว้บนโต๊ะในห้องแล้วนะคะ”“ครับ ขอบคุณครับ”ศิวกรเดินไปหาขนมในห้อง แล้วค่อยๆ ถอดน้ำเกลือออกให้หญิงสาว ปลาสเตอร์สีชมพูลายการ์ตูนน่ารักแปะลงบนหลังมือของเธอ ถึงกระนั้นขนมก็ไม่ตื่น“บอกกลัวผี แต่นอนหลับปุ๋ยเชียวนะ” ปลายนิ้วชี้เกลี่ยไรผมออกจากหน้าให้ จากนั้นจึงเลื่อนเก้าอี้มานั่งกอดอกมองสำรวจใบหน้านวลใส เมื่อชั่วโมงก่อนหน้าเธอซีดเหลืองอยู่เลย ตอนนี้เริ่มมีเลือดฝาดแล้ว คงหายปวดท้องแล้วสินะทว่าสัมผัสอุ่นจากฝ่ามือหนาทำให้ขนมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เธอค่อยๆ ดันตัวเองลุกขึ้นนั่งพลางกะพริบตาปรับโฟกัสใบหน้าคมสัน“อาจารย์”“หายปวดท้องแล้ว?”“ค่ะ ดีขึ้นมากแล้ว ขอบคุณนะคะ” เธอไหว้ขอบคุณชายหนุ่ม แล้วก้าวลงจากเตียง“หิวหรือเปล่า”“ตอนนี้เหรอคะ” เธอเลิกคิ้วสูงและจ้องมองใบหน้าเขา ท้องร้องเสียงดังน่าอายชะมัด กำลังจะปฏิเสธเขาแล้วแท้ๆ “หิวก็หิว” ขนมยิ้มเจื่อนแ
Special : 5ผ่านวันรับใบวุฒิบัตรมาได้หนึ่งอาทิตย์ ขนมกับศิวกรก็เข้าพิธีหมั้นหมายกันโดยมีญาติผู้ใหญ่และเพื่อนของทั้งสองฝ่ายมาร่วมงานด้วย“นี่ไปแอบคบกันตอนไหนวะ พี่งงหมดแล้วเนี่ย” พี่เอ็มนั่งดื่มไปตั้งข้อสงสัยไปด้วย เขาเกาหัวเบาๆ มองขนมกับศิวกร “อา! หรือว่าจะเป็นตอนนั้น” นึกกลับไปเมื่อปีก่อนๆ โน้น เขายังจำได้อยู่ว่าอาจารย์กรชอบทำเสียงดุใส่เขาเมื่อถามถึงขนม ซ้ำยังทักมาถามหาขนมกับเขาบ่อยมาก “ทำไมไม่เอะใจบ้างวะ”“อะไรพี่เอ็ม” ยิ้มสะกิดแขนพี่ชาย“ก็พี่โง่อะยิ้ม ไม่รู้ว่ายายน้องสาวตัวดีคบกับอาจารย์กร”“เหรอ”“ยิ้ม อย่าบอกนะว่ายิ้มรู้เห็นเป็นใจ”ยิ้มไม่ได้ตอบกลับเพียงคำพูด แต่เธอยังสะบัดผมใส่รุ่นพี่อย่างผู้ชนะด้วย“รู้มาตลอดค่ะ และเป็นผู้กุมความลับดีมาโดยตลอด”“โห” พี่เอ็มปรบมือและยกนิ้วให้รุ่นน้อง “หรือว่าที่อาจารย์แกย้ายไปทำงานโรงพยาบาลเอกชนก็เพราะยายหนม”“ถูกค่ะ อาจารย์แกไม่อยากให้เพื่อนยิ้มกังวลใจเรื่องเพื่อนในที่ทำงาน แกเลยย้ายไปทำงานที่อื่นเอง เพราะอยากเห็นแฟนยิ้มมากกว่าหัวคิ้วชนกัน”“โห พ่อหนุ่มคลั่งรัก ยายหนมโชคดีเป็นบ้า”ทั้งยิ้มและพี่เอ็มมองไปที่สองหนุ่มสาวซึ่งกำลังนั่งร่วมพิธีหมั้น
Special : 4กลับจากเชียงคานแล้วศิวกรก็พาขนมไปหาเพื่อนเขาที่โรงพยาบาล และได้อยู่พูดคุยกันประมาณหนึ่งชั่วโมงศิวกรก็พาเธอกลับเพราะเพื่อนมีเคสด่วนเข้ามาพอดี“พี่หมอใจดีจังเลยนะคะ พูดก็เพราะ หล่อมากด้วย”“หล่อๆ แบบนั้นยังหาแฟนไม่ได้เลยนะ”“ใช่เหรอคะ พี่หมอเนี่ยนะหาแฟนไม่ได้ ไม่น่าเชื่อเลย”“เพราะความหล่อเป็นเหตุไง”“จริงอะ”“จริง สมัยเรียนมันมีสาวสวยมาขอเฟซเยอะนะ แต่มันจีบสาวไม่เป็นไง เลยได้กินแห้วตลอด พอมีสาวมาจีบเยอะหน่อยคนอื่นก็มองว่ามันเจ้าชู้ สรุปก็คือโสดไม่มีคนกล้าจีบและมันไม่จีบใคร”“โห…ความหล่อเป็นเหตุนะเนี่ย แล้วคุณหมอกรล่ะคะ มีสาวสวยมาจีบเยอะไหม” ขนมหันตัวมามองเขาด้วยรอยยิ้ม“สมัยเรียนก็พอตัวอยู่ แต่ช่วงนั้นเรียนหนักไปหน่อย เลยไม่ได้คุยกับใครแบบจริงจัง"“ดีนะเนี่ย ถ้าพี่กรคุยกับสาวแบบจริงจังหนมคงไม่มีโอกาสได้เป็นแฟนพี่แน่ๆ”“ไม่แน่นะ” อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ขนาดว่าโลกใบนี้กลมและใหญ่มากแค่ไหนเขาและเธอยังมาเจอกันได้เลย “แต่จะยังไงก็ช่างเถอะ มันเป็นอดีตไปแล้วครับ เพราะตอนนี้พี่มีเราแล้ว ไม่ต้องการอะไรแล้วจริงๆ”คำพูดแสนหวานพานพาให้หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะ พวงแก้มทั้งสองข้างแดง
Special : 3ตกเย็นขนมก็เข้าครัวทำกับข้าวให้ทุกคนได้กิน และวันนี้เธอมีลูกมือคือศิวกร เขานั่งพับเพียบเด็กยอดผักให้เธอเอาไปผัดกินกับน้ำพริก ท่าทางน่าเอ็นดูของศิวกรทำเอาขนมอดที่จะยิ้มไม่ได้ และเธอได้แอบถ่ายรูปเขาส่งให้แม่เปรมดูด้วย“พี่กร”“ครับ?” ชายหนุ่มเงยหน้ามอง “ว่าไง เรียกพี่แล้วไม่พูด”“เอ็นดูอา…พ่อหนุ่มเมืองกรุงเข้าครัว นั่งเด็ดผักเรียบร้อยมาก”“หึหึ แล้วเย็นนี้พี่จะได้กินอะไร”“กับข้าวง่ายๆ ค่ะ มีน้ำพริกปลาทูแมงดานา ผัดผักของพี่กร แล้วก็ไข่เจียวของป้า มีหมูแดดเดียวทอดด้วย แล้วก็ผักสดกินกับน้ำพริกค่ะ”“โห แต่ละอย่างน่ากินทั้งนั้นเลย”“จะทำให้สุดฝีมือเลยค่ะ” ขนมมองซ้ายมองขวา เมื่อไม่เห็นป้าอยู่บริเวณนี้เธอจึงโน้มหน้าลงไปหอมแก้มแฟนหนุ่มอย่างอดใจไม่ไหว “น่ารัก” ภาพผู้ชายตัวโตๆ ผิวขาวเนียนนั่งพับเพียบเด็ดผักมันน่ารักน่าเอ็นดูจริงๆ ขนาดแม่เขายังเอ่ยปากเลยว่าน่าเอ็นดูลูกตัวเอง “ไหนๆ ก็มาเที่ยวเลยแล้ว พี่กรอยากไปเที่ยวไหนไหมคะ เช่นเชียงคานกับภูเรือ”“มันมีที่เที่ยวอะไรบ้าง ที่เราพูดมาน่ะ”“ถ้าไปเชียงคานก็ไปเดินเล่นถนนคนเดินค่ะ ไปพักที่นั่นได้ ที่พักริมน้ำโขงเลย ส่วนภูเรือก็คงไปเที่ยวดูดอ
Special : 2มาถึงสนามบินแล้วศิวกรก็ลากกระเป๋าพาขนมไปเช็กอินหน้าเคาน์เตอร์ เพราะไม่มีของโหลดใต้เครื่องจึงง่ายต่อการเช็กอิน“พี่กลับเลยก็ได้ค่ะ เดี๋ยวหนมเข้าไปข้างในแล้ว”“เดี๋ยวก่อน” ขนมโดนรั้งไว้จนตัวเธอถลากลับมาหาแฟนหนุ่ม ศิวกรยกมือขึ้นมาลูบผมเบาๆ มองสบตากับเธอนานนับนาทีโดยไม่เอื้อนเอ่ยคำใดออกจากปาก หากแต่ใช้ภาษากายสื่อสารกับเธอเท่านั้น และเขารู้ว่าขนมเข้าใจในสิ่งที่เขาสื่อกับเธอ“ไม่ต้องห่วงหนมนะ ถึงบ้านแล้วจะรีบโทร. หาพี่กรคนแรกเลยค่ะ”“โอเค มีสติตลอดล่ะ เดินไปไหนมาไหนก็ระวังด้วย อย่าเผลอเอากระเป๋าสะพายวางไว้ทั่ว เดี๋ยวของสำคัญหายเข้าใจไหม”“ค่ะ ไปแล้วนะคะ” ขนมโบกมือให้เขา “แล้วเจอกันนะคะ”“ครับผม เดินทางปลอดภัยครับ”หลังจากส่งขนมที่สนามบินเสร็จเขาก็ขับรถตรงไปยังโรงพยาบาลมหา'ลัยทันที แม้ยังเช้าอยู่แต่ก็มาหาอะไรรองท้องก่อนเข้าประชุมยาวๆ จนถึงเที่ยง“สวัสดีครับอาจารย์” เอ็มเดินสวนออกมาจากวอร์ดพอดีจึงกล่าวทักทายศิวกรพร้อมกับยกมือไหว้“หวัดดีครับ เพิ่งออกจากโออาร์เหรอเรา”“ครับอาจารย์ ยายขนมไม่อยู่ผมเวรเยินมาก”“เกี่ยวอะไรกับขนม” ศิวกรหรี่ตาถามชายหนุ่ม เอ็มจึงรีบอธิบายให้กว้างขึ้น“ก็น
Special : 1สามเดือนต่อมา ขนมนั่งพับเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางเตรียมกลับไปหาป้าในช่วงปิดเทอม แม้เป็นการปิดเทอมสั้นๆ แต่เธอก็อยากกลับไปเยี่ยมป้า หลังจากไม่ได้กลับไปเยี่ยมท่านนานเกือบปี ซึ่งตอนนี้ยิ้มก็กลับบ้านแล้ว เธอกับศิวกรไปส่งขึ้นรถเมื่อช่วงตีห้านี้เองครืด~โทรศัพท์เธอสั่นเพียงหนึ่งครืดขนมก็เลื่อนจอรับสายแฟนหนุ่ม“กำลังเก็บกระเป๋าค่ะ แล้วพี่กรราวน์เสร็จแล้วเหรอคะ”(เพิ่งราวน์เสร็จตะกี้เลย แล้วเราเลือกได้หรือยังว่าจะนั่งรถหรือว่าขึ้นเครื่องไปดี)“พี่กรจองตั๋วเครื่องบินไว้ให้แล้วนี่นา หนมไม่เปลี่ยนไปนั่งรถหรอกค่ะ หนมเสียดายเงิน”(อยากเจอแล้วเนี่ย ขายเวรให้ไอ้ณุดีไหมนะ)“ไม่ต้องเลยค่ะ แต่ว่าพี่กรบอกจะตามหนมไปทีหลังนี่นา หนมไปอยู่ตั้งหลายวันไม่ต้องรับหรอกค่ะ”(ก็มันคิดถึงเรานี่ ไม่เคยห่างกันนานขนาดนี้เลย กว่าพี่จะตามเราไปก็เป็นอาทิตย์เลย)“หึหึ เป็นเอามากนะคะแดดดี้”(เอาไว้เจอกันนะ เดี๋ยวพี่ลงเวรแล้วจะรีบไปรับนะครับ)“ค่ะๆ เดี๋ยวหนมเก็บกระเป๋าก่อนค่ะ” เธอวางสายจากศิวกรแล้วจึงเร่งเก็บกระเป๋าให้เสร็จ แล้วจะออกไปซื้อของฝากไปฝากป้าหลังจากศิวกรลงเวรแล้วเขาก็รีบมารับแฟนสาวที่หอใน เอากระเป๋า
บทที่ 25 บทส่งท้ายย่างเข้าสู่เดือนที่สองของสถานะแฟน ศิวกรทำหน้าที่แฟนได้ดีมากๆ ไม่ขาดตกบกพร่องสักเรื่องเลย และความสัมพันธ์ของเขาและเธอก็ยังเป็นความลับที่มีคนรู้แค่สามคนเท่านั้นครืด..โทรศัพท์สั่นอยู่ในกระเป๋าเสื้อทำให้ขนมหยุดฝีเท้าแสนจะเร่งรีบแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดอ่านข้อความจากศิวกร ในข้อความบอกเอาไว้ว่าเขาจะรอเธออยู่ร้านกาแฟในช่วงบ่าย ซึ่งเธอก็ตอบกลับไปว่าโอเคแล้วรีบไปดูเคสกับรุ่นพี่พอเสร็จจากเคสแต่ว่าเลยเวลาที่ศิวกรนัดเอาไว้เธอจึงรีบสาวเท้าเดินไปร้านกาแฟ ในใจก็ภาวนาให้ศิวกรไม่รอเธออยู่ในร้านกาแฟเถอะ ขอให้เขากลับไปก่อน เพราะมันนานมาก ทว่าพอเปิดประตูเข้ามากลับเห็นชายหนุ่มนั่งกอดอกยกแก้วกาแฟร้อนจิบอยู่ในโต๊ะประจำของเขากับเธอด้านในสุด“พี่กร”“มาแล้วเหรอ พี่สั่งเค้กไว้ให้เราด้วย กินเลยไหมคะ”“ทำไมยังนั่งรออีกเนี่ย น่าจะกลับห้องพักไปนะคะ”“ไม่เป็นไร พี่ว่างเลยสั่งกาแฟมากินรอเรา”“กี่แก้วแล้วเนี่ย”“แก้วเดียว เพิ่งสั่งครับ”“พอดีหนมติดเคสค่ะ ไม่เสร็จง่ายเลยกินเวลาไปนานเลย” เธอรีบบอกเขาพร้อมกับวางโทรศัพท์มือถือไว้บนโต๊ะ “เสร็จแล้วก็รีบมาหาพี่กร ทีแรกหนมคิดเอาไว้ว่าพี่คงกลับไปแล้วเสี
บทที่ 24 เปิดตัว เช้าของอีกวัน ขนมยังงัวเงียอยู่บนเตียงเพราะยังไม่อยากลุกออกจากใต้ผ้าห่ม แต่เสียงศิวกรก็ทำให้เธอต้องลุกขึ้นมองเขา“ไหนบอกเวรบ่ายไงคะ ทำไมแต่งตัวเร็วจัง”“พี่มีเคสด่วนน่ะ เรานอนต่อเลยเดี๋ยวเที่ยงพี่กลับมาหา”“ให้หนมอยู่ห้องคนเดียวเหรอ”“แล้วเราอยู่ได้ไหม หรืออยากกลับหอ?” เขาถามเธอขณะที่ติดกระดุมแขนเสื้อเชิ้ตอยู่ ขนมส่ายหน้าแล้วลุกขึ้นจากเตียงนอน“เมื่อคืนใครผิดสัญญาคะ หนมต้องลงโทษคนผิดสัญญาไหมเนี่ย”“หึหึ ก็เห็นเราชอบนี่ แถมพี่ยังถามแล้วว่าต่อไหม เราไม่ตอบพี่ก็เลยเดาเอาว่าเราอยากต่อ ก็เลยจัดเต็ม”“พี่หิวโหยมาจากไหนก่อน”“ไม่รู้สิ”“งั้นหนมรอพี่กรอยู่ห้องนะคะ แล้วก็ขอให้เป็นเคสด่วนที่ง่ายและราบรื่นนะ”“ขอบคุณครับ” เขาหอมหน้าผากเธอแล้วก็รีบออกไปเลย ขนมยืนนิ่งทั้งอยากยิ้มทั้งจะอมยิ้มเขินอาย ปลายนิ้วแตะลงบนรอยจูบเขาเมื่อครู่นี้“คนบ้า…” ยิ่งหันไปเห็นร่องรอยของเมื่อคืนนี้เธอยิ่งเขินอายหนักมาก เมื่อตื่นเต็มตาแล้วเธอก็เลยเก็บกวาดห้องให้เขาจนเรียบร้อยเหมือนเดิม แล้วค่อยไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่ ซึ่งเป็นชุดลำลองของศิวกรที่เตรียมไว้ให้เธอนั่นแหละขณะที่ขนมนั่งเช็ดผมตัวเองอยู่บนโซฟา
บทที่ 23 รื้อฟื้นความทรงจำ รอยยิ้มหวานบนใบหน้าสวยบ่งบอกถึงความรู้สึกทั้งหมดที่ขนมมีต่อศิวกร เธอขยับเข้าไปใกล้แล้วเอียงตัวไปสวมกอดเขาไว้“ขอบคุณนะคะที่ชัดเจนกับหนม”“เราอาจมองว่าทุกอย่างเร็วไป ที่พี่ขอเป็นแฟน” ชายหนุ่มเงยหน้าสบตากับหญิงสาว “สำหรับพี่มันไม่เร็วเลย เราสามารถใช้สถานะแฟนดูแลกันและเรียนรู้กันไปได้เรื่อยๆ และพี่เต็มใจให้เราแค่คนเดียว”ขนมยิ้มขบขัน เธอไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนมาสารภาพต่อหน้าแบบนี้เลย และไม่มีความกลัวถ้าวันหนึ่งต้องเลิกกับเขา“เราสองคนจับมือเดินไปด้วยกันนะ ไปให้ถึงวันนั้นเลย”“ค่ะ”หัวใจเธอเต้นเร็วแทบผิดจังหวะ ซึ้งใจกับคำพูดของศิวกรมากๆ ในขณะเดียวกันแววตาเขาก็แสดงออกว่าจริงจังและอยากให้เธอมั่นใจในตัวเขาหลายวันต่อมาศิวกรเปิดประตูลงจากรถก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วโทร. หาขนม เช้านี้เขามีเคสผ่าตัดตอนเก้าโมงเช้าส่วนขนมวันนี้มีเรียนเลคเชอร์กับราวน์ในเช้าเดียว เขาเลยจะบอกให้เธอไปรออยู่ร้านกาแฟเหมือนเดิม และขนมก็ตอบตกลงอย่างว่าง่ายพอถึงเวลานัดหมายคนที่เพิ่งออกจากโออาร์ก็รีบเดินไปหาแฟนสาว ยิ่งเห็นขนมนั่งรออยู่ในร้านกาแฟเขายิ่งเร่งฝีเท้ากระทั่งมาถึงโต๊ะด
บทที่ 22 ขอเป็นแฟนขนมเดินออกมาจากหลังเสาแต่คนสายตาไวอย่างศิวกรกลับมองเห็นเธอพอดี จึงหันมองตามร่างเล็กจนศรุตอดถามไม่ได้และเขาก็มองตามน้องชายไปจนเห็นว่ามีหมอผู้หญิงเดินหายไปแล้ว เห็นแค่หลังไวๆ เท่านั้น“ใคร เพื่อนเหรอ” ศรุตถามผู้เป็นน้องชาย แล้วชะเง้อมองอีกรอบหนึ่ง“เปล่า”“เปล่า? เปล่าเป็นเพื่อนแต่เป็นแฟน”“บ้าเหรอ ยังไม่ได้ขอ”“อ๋อ ฮะ! เมื่อกี้แกพูดว่าอะไรนะ ยังไม่ได้ขอเป็นแฟน?” มุมปากหนาคนเป็นพี่ยกยิ้มร้าย ก่อนที่ศรุตจะเอาไหล่สะกิดภรรยาตัวเอง “อิงเตรียมโทร. ไปบอกแม่เลยว่าเจ้ากรมันซุ่มคบสาวในโรงพยาบาล”“พี่รุตก็อย่าแซวพี่กรมาก ยังไม่ได้สรุปเลยนะคะ แล้วสรุปพี่กรมีคนคุยจริงๆ เหรอ”“แหมคุณอิงก็ร้ายไม่เบานะครับ”“หึหึ อิงก็อยากรู้เหมือนกับพี่รุตค่ะ”“ก็ยังหรอก” เขาตอบแบบเลี่ยงๆ เพราะยังไม่ได้ขอขนมเป็นแฟนไง คิดเอาไว้ว่าชัวร์กว่านี้ค่อยจะพาเธอไปพบแม่กับพ่อ แต่วันนี้พี่ชายดันมาหาที่โรงพยาบาลซะได้ ความลับจะแตกก็เพราะพี่ยิงคำถามใส่เนี่ยแหละ“สรุปยังไงเจ้ากร แกไม่ได้ไปหลอกเขาใช่ไหม”“มองน้องในแง่ดีบ้างได้ไหมพี่ชาย”“ก็แกมันร้ายอะ เห็นยิ้มๆ แบบนี้ร้ายลึก” ตั้งแต่เด็กแล้ว ความเจ้าเล่ห์กับความร้า