บทที่ 1 เนื้อเข้าปากเสือ
“เดี๋ยวค่ะ” ขนมชะงักแล้วก้มมองร่างกายตัวเอง “คุณหิวมากจากไหนเนี่ย ดูหิวมากนะ” ไม่ใช่ว่าอยากเล่นตัวหรอก แต่เขาดูหิวโหยมากจนเธอหวั่นใจอยู่ลึกๆ
“เราก็ต้องการในสิ่งเดียวไม่ใช่เหรอครับ”
“ก็ใช่ค่ะ แต่หนมแค่สงสัยว่าทำไมคุณเคถึงดูหิวมากขนาดนี้” เหมือนของขาดมานานแรมเดือนเลยอะ แต่จะอะไรก็ช่างเถอะ เขาปลุกความกระสันให้แล้วนี่นา เธอจะปฏิเสธได้อย่างไร
“ก็ปกติ” ชายหนุ่มเอียงหน้ามองอย่างสงสัย ดวงตาเรียวคมจดจ้องริมฝีปากหญิงสาวก่อนจะยกฝ่ามือหนาขึ้นมาประคองใบหน้าเรียวรีของอีกฝ่ายไว้ “พอดีผมไม่ค่อยชอบละเมียดละไมน่ะ” แค่รู้จุดประสงค์เดียวกันก็พอแล้ว ถึงอีกฝ่ายจะส่งสายตาออดอ้อนกันก็เถอะ เวลาเขามีน้อย เลยไม่อยากเสียเวลามาเล้าโลมให้มาก “ก็แฉะมากแล้วนี่ครับ”
ร่างแน่งน้อยถูกบดเบียดด้วยร่างกำยำ เพียงพริบตาเดียวชุดชั้นในน้อยชิ้นก็ถูกชายหนุ่มจัดการ ทั้งสองอยู่ในสภาพเปลือยกายเหมือนกัน มันรู้สึกเขินนิดหน่อย ในขณะที่คุณเคกำลังสวมเครื่องป้องกันอยู่ ขนมจึงได้มองสำรวจร่างกายและใบหน้าเขา
'หล่อขนาดนี้หลุดมือคนอื่นมาได้ไงเนี่ย หรือว่าเขายังไม่อยากจริงจังกับใครอย่างที่พูดเอาไว้'
ขนมขมวดคิ้วมองหน้าชายหนุ่ม
“ถ้าสงสัยขนาดนั้นก็ถามได้นะครับ”
“อ๋อ เปล่าค่ะ อ๊ะ…อ๊า~ คุณเค” ไม่ทันได้ตั้งตัวเขาก็สอดใส่เครื่องเพศเข้ามาในกายเธอ น้ำหล่อลื่นมันน่าจะไม่เพียงพอสำหรับความใหญ่โต เธอถึงได้รู้สึกเจ็บแสบอยู่นิดหน่อย ทว่าเขากลับเบนความสนใจเธอมาที่คำถาม
“ไม่ได้มีอะไรกับใครมานานแค่ไหนแล้วครับ ของคุณมันฟิตมาก” ไม่เพียงแต่ถามกันตรงๆ เขายังเม้มปากพลางเปล่งเสียงครางกระเส่าเบาๆ ข้างใบหูขนม “อ๊า~ ถ้าคุณเกร็งคุณจะเจ็บนะ”
“ปะ เปล่าเกร็งนะคะ”
“ก็ผมบอกอยู่ว่าคุณเกร็ง อืม~”
สันกรามขึ้นเด่นชัด เขาดูทรมานมากที่ช่องทางรักเธอตอดรัด แต่พยายามไม่เกร็งแล้วนี่นา ใครจะเก่งควบคุมร่างกายได้ขนาดนั้นล่ะ ยอมรับว่าไม่ได้เยเย่มารุโกะกับใครนานแล้ว มันก็ต้องฟิตเป็นธรรมดา
“อ๊ะ! ยะ อย่าเพิ่งขยับได้ไหมคะ”
“คุณก็เลิกเกร็ง มันตอดของผม” ใบหน้าที่แสดงออกถึงความเจ็บทำให้ขนมเห็นใจเขามาก
“ให้หนมทำไหม เผื่อมันจะหายเจ็บ”
“จะออนท็อป?”
“อะ อืม” ขนมหลบสายตาชายหนุ่ม มองไปยังโคมไฟตั้งโต๊ะ นานนับนาทีเสียงระบายลมหายใจก็ดังขึ้น คุณเคโอบกอดขนมไว้แล้วพลิกตัวเธอขึ้นมาด้านบน ผิวเผือดขาวเป็นรอยริ้วแดงๆ จากการนอนทับขอบผ้านวมผืนหนา
“ลองขยับ เผื่อคุณจะไม่เจ็บ”
“ค่ะ” ขนมกัดปากแน่น ก้มหน้ามองหน้าท้องแกร่งของคุณเค เธอวางฝ่ามือไว้แล้วออกแรงกดลงเบาๆ เพื่อแอ่นหยัดสะโพกขึ้นเล็กน้อย หญิงสาวเม้มปากกลั้นเสียงครางแล้วเริ่มเคลื่อนไหวร่างกายช่วงล่าง “อื้อ~ สะ เสียวจังเลยค่ะ” เมื่อความเจ็บเริ่มหายไป ความเสียวซ่านที่ไม่ได้สัมผัสมานานก็ค่อยๆ เล่นงานขนม ไม่เพียงเท่านั้น คุณเคยังบีบบั้นท้ายงอนงามจนเกิดรอยแดง
“อ๊า~ แบบนั้น” เขาจะปล่อยให้ตัวเองนอนนิ่งให้อีกฝ่ายปรนเปรอได้อย่างไร เมื่อเล่นกับความเสียวหญิงสาวเสร็จ เขาก็ยกมือขึ้นไปบีบหน้าอกขนาดพอดีมือ เล่นเอาขนมหดตัวหนีสัมผัสเสียวซ่าน แต่ถูกเขารั้งเอาไว้ก่อน
บทรักสุดเร่าร้อนของทั้งสองไม่ได้จบเพียงรอบเดียว เมื่อนึกเสียดายถุงยางอนามัยก็เลยจัดกันอีกหลายรอบด้วยกัน ทว่าไม่มีครั้งไหนเลยที่คุณเคจะให้เธอจูบปากน่ะ เขาเบนความสนใจไปที่อื่นบนร่างกายเธอตลอด
“อื้อ~ คุณเคหนมขอพัก” ขนมเปิดปากขอร้องเขาในขณะที่อีกฝ่ายกำลังเคลิ้ม คำขอของเธอได้ผล เขาหยุดการกระทำชั่วขณะหนึ่งพร้อมกับเขยิบขึ้นมานั่งพิงหัวเตียง “ปกติคุณเคเอ่อ…ทำกี่รอบเหรอคะ”
“ก็จนกว่าจะหายอยากครับ”
“หายอยาก? ก็แสดงว่าคุณเก็บกดน่ะสิ หึหึ หนมเห็นคุณไม่พักเลย”
“ไม่ได้เก็บกด”
“ยังไงคะ”
“ไม่ต้องรู้หรอกครับ เอาเป็นว่าผมพอใจ คุณพอใจก็พอแล้ว”
ก็จริงอย่างที่เขาว่า เธอไม่ควรหาคำตอบจากเขา เพราะอย่างไรก็จบบนเตียงอยู่แล้วนี่นา เพียงเราสองคนพึงพอใจในการร่วมรักกันก็พอแล้ว
“ต่อไหม” เขายังหอบหายใจอยู่เลย ดวงตาเรียวจดจ้องใบหน้าเธอแล้วเขาก็โถมกายเข้าหาขนมอีกครั้ง คราวนี้บทรักมันเร่าร้อนและเสียวซ่านกว่าเดิม เหมือนเขาได้ชาร์จพลังเต็มที่ทั้งที่พักไปคนละไม่กี่นาทีเอง
ขนมมัวเมากับรสสวาทที่เธอและคุณเคต่างมอบให้กันจนผล็อยหลับไปในเวลาเท่าไรก็ไม่อาจรู้ได้ เธอรู้สึกตัวตื่นอีกทีหนึ่งก็ตอนหกโมงเช้าเพราะนาฬิกาปลุกน่ะ ลืมตาขึ้นมาก็พบกับห้องว่างเปล่า ไร้เงาคุณเค เขาคงกลับไปตั้งนานแล้วแน่เลย แต่หางตาเหลือบเห็นกระดาษโน้ตแผ่นหนึ่งแปะไว้บนโต๊ะตั้งโคมไฟข้างเตียง
'ตื่นแล้วก็กินยานี่ด้วยนะครับ'
ขนมมองเม็ดยาในแก้ว คิ้วสวยยกสูงเชิงตั้งคำถาม
“เอาเวลาไหนไปซื้อยาคลายกล้ามเนื้อมาให้เนี่ย” ช่างเป็นผู้ชายที่น่าสนใจจริงๆ แต่เธอกับเขาคงจบกันแค่นี้ ความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนไม่ควรเอาความรู้สึกลงไปเล่น “ตายห่า!” ขนมอุทานคำหยาบออกมาเมื่อพบว่าสายไม่ได้รับจากรูมเมตมากกว่าสิบสาย ยังมีข้อความในไลน์อีกเป็นสิบๆ
06:30
ขนมเดินย่องเข้ามาในห้องอย่างกับโจรย่องมาขโมยของแน่ะ เธอชะเง้อมองไปที่เตียงของยิ้มแล้วถอนหายใจอย่างโล่งอก
“นี่!”
“เอ๊ย! ยิ้ม…มาอยู่ตรงนี้ได้ไงเนี่ย”
“ไม่ต้องมาเฉไฉเลย ตอบมาว่าไปไหนมาทั้งคืน นี่ยิ้มโทร. ไปหาก็ไม่รับสาย นี่เป็นห่วงมากนะหนม”
“เอ่อ…”
“ตอบมา”
“ไป…ยิ้มมา”
“อะ อะไรนะ?” ยิ้มเงี่ยหูฟังอีกรอบ
“เออนั่นแหละ หนมไปนั่งดื่มมา เลยเจอคนคุยถูกคอ”
“ก็นึกว่าหายไปไหนมา แล้วป้องกันปะ”
“ป้องกันสิ” ที่ยิ้มไม่ตกใจเพราะเราสองคนต่างรู้กันไง ยิ้มก็เคยมีคนคุยแบบเดียวกับเธอ ก็เลยไม่มีปัญหาเรื่องพวกนี้เท่าไร แล้วสเปกของเราก็ต่างกันสุดขั้วเลยไม่มีปัญหาเรื่องผู้ชายน่ะ
“คิดไงไปดื่มคนเดียวเนี่ย ชวนไปกินหมูทะด้วยกันก็ไม่ไป”
“เครียดอะ”
“อ๋อ แล้วเป็นไง เขาคนนั้นหล่อปะ” อย่างไรเรื่องลามกกับเรื่องผู้ชายก็น่าสนใจกว่าการแต่งหน้าไปเรียนแน่ แต่ขนมยังไม่ตอบหรอก เธอยิ้มแล้วยื่นหน้าไปใกล้ยิ้มทำทะเล้นล้อเลียนเธอ “เอาดีๆ ตกลงหล่อไหม”
“มาก หล่อเหมือนไม่มีอยู่จริงอะ หล่อมาก หุ่นดีมาก”
“เจอของดีเข้าแล้วสิเรา แล้วเขาชื่ออะไรเหรอ ได้ถามปะ”
“ถามสิ”
“ชื่อ?”
“เขาชื่อคุณเค”
คิ้วมนยกสูง ริมฝีปากขยับเปล่งเสียงทวนชื่อที่เพื่อนเอ่ยบอก “ชื่อเคเหรอ”
“อืม คุณเค เออหนมมีไอจีเขาด้วยนะ แต่ไม่มีรูปหรอก” ว่าพร้อมเปิดหน้าไอจีของคุณเคให้เพื่อนสาวดู ยิ้มอ่านข้อความแนะนำตัวก็เผลอยิ้มแล้วแค่นหัวเราะ
“ชัดเจนดีเนอะ เขียนโชว์ไว้ขนาดนั้นคงสร้างไอจีขึ้นมาเอาไว้ทักหาสาวๆ แหละ”
“จริงเหรอ”
“จริงมาก จากประสบการณ์ส่วนตัวค่ะ”
“เฮ้อ…ติดใจอะ อยากนัดซ้ำ”
“พอก่อน หยุดคิดเรื่องเยเย่แล้วไปเปลี่ยนชุดเลยค่ะ สายแล้ว”
“เออเนอะ”
“เออ อาทิตย์หน้าก็ขึ้นวอร์ดกับอาจารย์แล้วอะ หนมเตรียมใจแล้วเหรอ”
“ยัง กลัวโดนอาจารย์เฉ่งอยู่เนี่ย หนมยิ่งโง่ๆ อยู่ด้วย”
“ได้ข่าวว่าอาจารย์วอร์ดสูน่ากลัวมาก”
“เหรอ ตาย…แบบนี้หนมจะไม่โดนอาจารย์กินหัวใช่ไหม”
“สาธุเอาเด้อ”
“ฮือ…ไม่อยากราวน์เช้าเจออาจารย์โหดๆ เลย กลัว” ผ่านมาหลายวอร์ดแล้ว โดนด่าต่อหน้าคนเยอะๆ ก็เคยมาแล้ว แต่ไม่เคยชินสักครั้งเลย “วันนี้หนมมีอ่านสไลด์แล้วก็ราวน์กับรุ่นพี่อะ”
“ลืมบอกไปเลย อาทิตย์หน้ายิ้มมีออกหน่วยสามวันนะ กลับจากออกหน่วยก็จะกลับบ้านเลย หนมอยู่คนเดียวได้ใช่ปะ”
“ได้สิ” ขนมเดินออกมาจากห้องน้ำ เธอสวมชุดสครับสีชมพู “ตายๆ แต่งหน้าตอนนี้คงไม่ทันแล้ว” แต่ถึงจะแต่งหรือไม่แต่งก็ไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้ว เพราะเธอหน้าสดไปราวน์บ่อยมากจนพี่พยาบาลจำหน้าสดได้แล้วมั้ง วันไหนแต่งหน้าไปเรียนจึงเป็นเรื่องแปลก “ใส่แมสก์เอาแล้วกัน” เมื่อได้ของครบแล้วขนมกับยิ้มก็รีบออกจากห้อง ด้วยอยู่หอในเลยใช้เวลาพอสมควรกว่าจะไปถึงโรงพยาบาลมหา'ลัย
หลายชั่วโมงต่อมา ขนมเดินมานั่งลงบนม้านั่งระหว่างทางเดิน สองมือกวาดผมออกจากใบหน้าคร่ำเคร่ง สายตาเพ่งมองจอไอแพด
“เฮ้อ” วันนี้อาจไม่ใช่วันของเธอก็ได้ โดนอาจารย์เฉ่งแต่เช้า ดีหน่อยที่รุ่นพี่ช่วยพูดให้น่ะ พอนั่งสงบสติอารมณ์ได้แล้วเธอจึงลุกพร้อมกับหยิบแมสก์มาใส่
ปึก!
“ขะ ขอโทษค่ะๆ” เธอชนกับใครเข้าก็ไม่รู้ แต่ไม่ได้เงยหน้ามองเพราะทำปากกาหล่นพื้นพอดี จึงก้มลงเก็บ พอเงยหน้ามองอีกทีคนคนนั้นก็เดินไปไกลแล้ว “หมอเหรอ ดูข้างหลังยังหล่อดูดีเลยอะ” ทว่าก็คุ้นอยู่นิดหน่อย แต่เธอปัดตกเรื่องคุ้นตาแล้วหันมาโฟกัสที่งานในไอแพดแทน พอมีเวลาว่างเลยไลน์ไปชวนรุ่นพี่ไปนั่งร้านกาแฟ
“ไหน ตรงไหนที่เราโดนอาจารย์เฉ่งมาน่ะ”
“ตรงนี้ค่ะ” เธอใช้ด้ามปากกาวงจุดที่มีปัญหาให้รุ่นพี่ดู “ช่วยทำให้กระจ่างที และ…อย่าทำเสียงดุได้ไหม หนมโดนอาจารย์ดุมาทั้งวันแล้วอะ ใจบางหมดแล้ว”
“เฮ้อ เราเนี่ยนะ” ฝ่ามืออุ่นๆ ยื่นมาลูบผมเธอ พี่ไมค์เป็นพี่เอ็กซ์เทิร์นที่หล่อ ใจดีและสายเปย์มาก และด้วยพี่ไมค์เป็นคนอัธยาศัยดีเธอจึงหอบหิ้วเอาความงวยงงมาให้เขาสอน
“ตรงนี้น่ะ” ปลายปากกาแตะลงตรงจุดที่มีปัญหา “เขียนวกไปวนมาทำไมในเมื่อความหมายมันสั้นเท่าหางอึ่ง”
“พี่อยากกินอะไร เดี๋ยวหนมเลี้ยง”
“ไม่ต้องมาติดสินบนพี่เลย เก็บเงินไว้กินขนมเถอะ”
“ก็อยากตอบแทนบุญคุณพี่อะ ถ้าไม่ได้พี่นะหนมคงยืนร้องไห้อยู่ในวอร์ดแน่ๆ”
“ไปสั่งกาแฟให้พี่ เอาขนมมาด้วยชิ้นหนึ่ง”
“ค่ะ”
ขนมเดินมาสั่งกาแฟให้รุ่นพี่พลางหันกลับไปยิ้มทำหน้าทะเล้นใส่เขาด้วย
'ถ้าจบไปได้คงต้องเอาพวงมาลัยมาไหว้พี่ไมค์แล้วแหละ จบได้เพราะพี่เอ็กซ์เทิร์นช่วยแท้ๆ'
“กาแฟดำคั่วกลางไม่หวานมาแล้วค่ะ แล้วก็นี่เค้กแคร์รอตหอมๆ หวานน้อยค่ะ”
“รู้ใจนะเรา แล้วไหนของหนมล่ะ ไม่สั่งเหรอ”
“ไม่ค่ะ หนมจะเลิกเรียนแล้วกลัวนอนไม่หลับน่ะ”
“งั้นกินเค้กช่วยพี่”
ขนมยิ้มแป้น เธอตั้งใจฟังและแก้ไขใบงานจนเสร็จสมบูรณ์
“สาธุ หวังว่าการพรีเซนต์พรุ่งนี้จะผ่านไปด้วยดีนะ”
“หึหึ”
“เออพี่ไมค์ หนมได้ยินพี่พยาบาลในวอร์ดพูดกันว่าอาจารย์ในวอร์ดสูดุมาก จริงไหมคะ”
“ไม่รู้สิ พี่ไม่เคยโดนอาจารย์ดุ”
ก็แหงสิ พี่ไมค์ทั้งเก่งและฉลาดมากขนาดนี้ ไม่โดนดุก็คงไม่แปลกอะไร แต่เธอเนี่ยสิ
“กลัวโดนดุ” ท่าทางกลัวเหมือนแมวน้อยของเธอเรียกสายตาเอ็นดูจากรุ่นพี่ได้เป็นอย่างดี
“กลัวอะไร ถ้าตั้งใจเรียนตั้งใจฟังก็ไม่มีปัญหาหรอก”
“ก็จริง…”
“เอาล่ะ ทีนี้ก็รู้แล้วนะว่าโดนอาจารย์ดุตรงไหน ทีหลังก็ดูให้ละเอียดหน่อย จะได้ไม่โดนด่าอีก”
“กราบ…” ขนมทำท่ากราบอีกฝ่าย “ถ้าหนมเรียนจบแล้วจะเอาพวงมาลัยมาไหว้พี่นะ ผู้มีพระคุณของหนม” พี่ไมค์หัวเราะขบขันแล้วหยิบแก้วกาแฟที่ยังกินไม่หมดเดินออกมาจากคาเฟ
“รีบกลับไปนอนพัก”
“ครับผม” ขนมทำหน้าแป้นแล้นใส่รุ่นพี่แล้วก้มลงเก็บไอแพดพร้อมใบงานเจ้าปัญหาใส่กระเป๋าผ้าใบโปรด
“เอาอเมริกาโนเย็นแก้วหนึ่งครับ”
น้ำเสียงคุ้นหูทำให้คนที่เพิ่งเก็บของเสร็จถึงกับหันไปมองอย่างไว
“หูฝาดไปไหมเนี่ย” ขนมขยับแมสก์ปิดจมูกแล้วเดินออกมาจากคาเฟ ดีหน่อยวันนี้เลิกเร็ว เธอจะได้มีเวลาดูสไลด์งานอีก แต่พรุ่งนี้ก็มีราวน์เช้ากับพี่เอ็กซ์เทิร์นอีก เวลานอนนี่ไม่ต้องพูดถึง ล้มตัวลงนอนแป๊บๆ ก็ต้องตื่นแล้ว
“หนมไปด้วยกันปะ”
“ไปๆ รอด้วย” อาโปเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งตะโกนเรียกขนมมาซ้อนท้ายรถจักรยานกลับหอด้วยกัน ขนมจึงไม่ปฏิเสธพร้อมกับรีบวิ่งไปหาเพื่อนทันที
ในร้านกาแฟไม่มีคนพลุกพล่าน มีเพียงชายหนุ่มในชุดสครับสีดำนั่งไขว่ห้างดื่มกาแฟเย็นอยู่ในโต๊ะมุมกระจกข้างร้าน
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะการดื่มกาแฟ ทว่าคิ้วหนากลับคลายออก มุมปากหนายกโค้งเป็นรอยยิ้มพร้อมกับจรดปลายนิ้วเลื่อนจอรับสายวิดีโอคลอจากพี่ชาย
(จุนอากอง)
“ครับเบบี๋ ทำไมวันนี้หนูโทร. มาหาอาเร็วจังเลยครับ อยากได้อะไรเอ่ย”
(อยากได้อะไรที่ไหนล่ะ พี่บอกว่าวันนี้อากรจะมาหาทอฝันก็เอาแต่จะโทร. หาเรา พี่เลยต้องโทร. มาหาให้คุยกันเนี่ย)
“อ๋อ หนูรออาก่อนนะครับ อาติดคนไข้อยู่ ตรวจเสร็จแล้วจะรีบไปหาเลยครับ”
(ยีบๆ มาเยยนะกะ) เด็กน้อยส่งจุ๊บและรอยยิ้มหวานๆ เติมกำลังใจให้คุณอาของเธอ
“งั้นอาไปทำงานก่อนนะคะ แล้วจะรีบไปหา”
(ขับรถดีๆ ไม่ต้องรีบก็ได้) เสียงของผู้เป็นพี่แทรกเข้ามาในสาย จากนั้นชายหนุ่มก็วางสายหลานสาวไป เขารีบดูดกาแฟจนหมดแก้วในอึกเดียวแล้วไปทำงานต่อ เพื่อจะได้ไปหาหลานสาวเร็วๆ หน่อย
บทที่ 2 อาจารย์โดเบอร์แมน วันต่อมาขนมตื่นเช้ามาราวน์กับพี่เอ็กซ์เทิร์นตั้งแต่หกโมงเช้า กว่าจะราวน์เสร็จก็ตอนเก้าโมงกว่า พอมีเวลาว่างนิดหน่อยเธอก็เลยหยิบไอแพดขึ้นมาอ่าน สายตาจดจ้องจอไอแพดและปากก็กัดขนมปังไส้แยมส้มคำโต“นี่”“หือ อ้าวอาโป”“กินไม่ห่วงสวยเลยนะ”“พอมีเวลาก็ต้องรีบกินอะ ว่าแต่โปไปไหนมาเหรอ”“เพิ่งราวน์เสร็จเหมือนกัน”“อ๋อ กินไรยัง”“แล้ว แล้วนี่มานั่งทำไมตรงนี้อะ ไม่ไปพักห้องพักนักศึกษา”“หนมอยากอ่านสไลด์น่ะ ตรงนี้เงียบดีเลยมานั่งอ่าน”“ว่าแต่หนมได้เจอกับอาจารย์คนนั้นแล้วใช่ปะ”“หือ?” เธอไม่เข้าใจว่าเพื่อนหมายถึงอาจารย์คนไหน ในวอน์ดมีอาจารย์ตั้งหลายคนแน่ะ “ใครเหรอ”“ก็อาจารย์โดเบอร์แมนไง”“อาจารย์โดเบอร์แมน เอ่อ…คนที่ดุๆ ปะ”“อืม”“ยังหรอก” ไม่ได้พิศวาสอยากเจออาจารย์ขนาดนั้น หากแต่เธอเลี่ยงไม่ได้เลยต่างหาก ไม่เจอวันนี้พรุ่งนี้ก็ต้องเจออยู่ดี ได้ข่าวมาว่าอาจารย์เข้าติดเคสเลยไม่ว่างมาสอนสักที “แล้ว…อาจารย์โหดมากเหรอ”“ไม่รู้สิ เราไม่เคยเจอน่ะ แต่เห็นพี่เอ็กซ์เทิร์นพูดมางั้นนะ” อาโปทำหน้าสยดสยองจนขนมขนลุกตามไปด้วย “ล้อเล่นหรอกยายขนม นี่เราขี้กลัวเกินไปหรือเปล่า อย่าลืมว่าเร
บทที่ 3 โลกกลมเกินไป มือสั่น ปากสั่นราวกับเจ้าเข้า ขนมรีบหลบหลังเพื่อนตัวเอง ก้มหน้าจ้องชาร์ตคนไข้'เชี่ย…นี่ฉันเยเย่กับ…อะ อาจารย์เหรอวะ ยายขนมตายแน่!''ตะกี้เขาทันได้เห็นฉันไหม คงไม่หรอกนะ'“หนมแกทำไรเนี่ย มาหลบหลังฉันทำไม”“แป๊บหนึ่ง”“ถ้าจะคุยกันก็ออกไป” น้ำเสียงติดดุดังขึ้น แน่นอนล่ะว่าเขาเพ่งสายตามาทางนี้“ขอโทษค่ะอาจารย์” เพื่อนจับแขนขนมไว้แน่น ดึงเธอออกมาจากด้านหลังจนสำเร็จ แต่กลับชะงักเพราะขนมปล่อยผมมาปิดหน้าปิดตาตัวเองแถมเอาแมกส์มาสวมอีก “อะไรของแกเนี่ย” เพื่อนขยับปากถามแบบไม่ออกเสียง ทั้งงงว่าขนมทำแบบนี้ทำไม ราวกับกลัวใครจำหน้าได้อย่างนั้นแหละ“เดินไปๆ อย่าสนใจฉัน” ตอนนี้เธอต้องทำตัวไม่ให้เป็นที่สนใจของอาจารย์ เลยเดินไปแฝงตัวกับเพื่อนคนนั้นที คนนี้ที พอเดินเข้ามาถึงตึกผู้ป่วยโอพีดีอาจารย์ก็พาตรวจตั้งแต่เตียงแรก สลับให้นักศึกษาแพทย์ทุกคนได้ตรวจและซักถามอาการผู้ป่วยทุกคน จนมาถึงคิวขนม“สวัสดีค่ะคุณแม่ อาการเป็นยังไงบ้างคะวันนี้”“ถอดแมสก์ออกก่อน เสียงอู้อี้ขนาดนี้คนป่วยจะรู้เรื่องได้ยังไง” น้ำเสียงติดดุดังมาจากด้านหลัง เขาไม่รู้หรอกว่าเธออยากวิ่งหนีมากแค่ไหน ยิ่งกว่ากดดันก็ก
บทที่ 4 ราวิโอลีรสขนมขนมนั่งรออยู่บนม้านั่ง เทียวมองเวลาบนข้อมือตัวเอง นี่ก็สี่โมงแล้ว เธอยังไม่รู้เลยว่าต้องเอาร่มไปคืนเขาที่ร้านกาแฟไหน“เห็นเราเป็นหมอดูหรือไง ถึงจะได้เดาใจถูกว่าไปนั่งร้านไหนน่ะ” ขนมบ่นพึมพำ พอนึกอะไรออกก็รีบก้าวเท้าให้ทันพี่พยาบาลแล้วคว้าแขนไว้ “พี่เพ็ญคะ หนมขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ”“ว่ามาเลยลูก”“อาจารย์ศิวกรแกชอบไปนั่งร้านกาแฟแถวไหนเหรอคะ แบบหน้าโรงพยาบาลหรือว่าในโรงพยาบาลเรา”“น่าจะเป็นร้านกาแฟหน้าตึกนี้นะลูก พี่เห็นหมอไปนั่งกันเยอะนี่”“อ๋อ…” ขนมร้องอ๋อ ใกล้ๆ นี้เองนี่นา “ขอบคุณมากๆ ค่ะ”“จ้า”พอรู้พิกัดแล้วก็มุ่งหน้าไปยังร้านกาแฟทันที เป็นร้านเล็กๆ ซึ่งมีหมอและนักศึกษาแพทย์ทุกชั้นปีไปหาขนมและกาแฟกินบ่อยๆ ซึ่งเธอก็เป็นหนึ่งในนั้น ชอบไปนั่งอ่านหนังสือน่ะ“ขอให้เขาอยู่ที่นี่เถอะ”เดินมาถึงหน้าร้าน ขนมก็กวาดสายตามองหาชายหนุ่มจนเห็นแผ่นหลังกำยำในเสื้อเชิ้ตสีกรมท่านั่งยกแก้วกาแฟจิบด้วยท่าทางสบายใจเฉิบ“สบายใจเลยนะ ให้เรารอเนี่ย” ขนมจิ๊ปาก แต่พอผลักประตูเข้ามาด้านใน ใบหน้าบูดบึ้งก็พลันเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้ม “สวัสดีค่ะ นี่ค่ะร่มของอาจารย์ แล้วก็ขอบคุณมากๆ นะคะที่ให้ยืมร
บทที่ 5 กาแฟใส่นม “มั้ง”“หมายความว่ายังไงเหรอคะ เคยมั้ง?”“เจอหน้าคนเยอะแยะ จำไม่ได้หรอก”อย่างนั้นก็แปลว่าเขาจำกันไม่ได้จริงๆ เพราะนี่ถือว่าเป็นคำยืนยันจากศิวกรแล้ว ขนมลอบถอนหายใจแล้วยกแก้วน้ำขึ้นมาจิบเล็กน้อยแก้เขิน“หรือว่าเคยเจอ”พรวด!น้ำพุ่งออกจากปากเธอทันที“ขะ ขอโทษค่ะ ขอโทษ” ขนมรีบหยิบทิชชูไปซับน้ำออกจากแขนให้ชายหนุ่ม “ขอโทษนะคะ หนมไม่ได้ตั้งใจ”“แทนตัวเองว่าอะไรนะ”“เอ่อ…หนมค่ะ ขนมน่ะ”“อ๋อ ขนม…รสอะไร”“ว่าอะไรนะคะ”“เปล่า นั่งเถอะ” ศิวกรหยิบทิชชูมาเช็ดน้ำออกจากแขนเอง และความเงียบในโต๊ะอาหารก็เกิดขึ้น ขนมนั่งหลังตรง เสสายตามองไปรอบๆ ไม่ใช่อะไร เธอไม่อยากโฟกัสคนตรงหน้า ขนาดที่ว่าไม่ได้โฟกัสเขามากนัก หน้าเธอยังผ่าวร้อนขนาดนี้ ถ้าได้สบตากับเขานะ อื้ย!“หมอให้ยาอะไรมาบ้าง”“ก็ยาทาค่ะ”“ใช้ของอะไรก็ระวังหน่อย ผิวตรงนั้นมันอ่อนไหวง่าย”“เอ่อ จะคุยเรื่องนี้ในโต๊ะอาหารจริงๆ เหรอคะ” บรรยากาศกร่อยแย่เลย แล้วมีอย่างที่ไหนคุยเรื่องแบบนี้ในโต๊ะอาหารน่ะ เข้าใจว่าเป็นหมอมันไม่รู้สึกเขินหรืออะไร แต่เธอไม่ชินนี่นา“โอเค” ชายหนุ่มทำท่ารูดซิปปากแล้วหันไปมองพนักงาน “อยากกินน้ำอะไร นอกจากน้ำเป
บทที่ 6 เกมถามตอบ ขนมหน้าเหวอไปเมื่อเห็นศิวกรเดินถือถุงกระดาษเดินเข้ามาในกลุ่ม เขาส่งถุงนั้นให้เจ้าของวันเกิดพร้อมกับอวยพร“ขอบคุณนะครับที่อาจารย์เจียดเวลามา”“ว่างพอดี”ว่างเหรอ แล้วทำไมเขาไม่บอกสักคำว่าจะมางานวันเกิดพี่เอ็มด้วยน่ะ ทำเฉยอย่างกับไม่สนใจแน่ะศิวกรละสายตาจากเจ้าของวันเกิดมองไปโดยรอบ เล็งเห็นที่นั่งเหมาะๆ แล้วเขาจึงก้าวไปหย่อนตัวนั่งลง ซึ่งก็ข้างกับขนมอีกนั่นแหละ“อาจารย์ไม่บอกสักคำว่าจะมา”“ก็เราไม่ถาม”“ต้องให้ถามเหรอคะ” ใครจะไปกล้าถามเขาขนาดนั้นล่ะ ถ้าเอ่ยถามตรงๆ แบบนั้นมันเสียมารยาทไป ขนมพรูลมหายใจออกอีกครั้ง รุ่นพี่รินเครื่องดื่มมาให้แต่เธอกับยิ้มปฏิเสธพร้อมกัน “หนมขอน้ำหวานได้ไหม ไม่ก็อะไรเบาๆ แบบค็อกเทล”“ได้ เดี๋ยวพี่สั่งให้”พูดคำว่าค็อกเทลปุ๊บ สมองพลันนึกถึงเรื่องวันนั้นทันที ใบหน้าขนมผ่าวร้อน เธอเหลือบตามองคนข้างกายแล้วเสยม้วนผมออกจากใบหน้า“เอาไดคิวรีแก้วหนึ่ง” เสียงเข้มของคนข้างๆ ดังขึ้น มันเป็นเมนูเดียวกับที่เขาสั่งให้เธอวันนั้นเลย“เปลี่ยนใจแล้วค่ะ เอาเหล้าก็ได้ แต่หนมจิบน้อยๆ เอา”“ไม่ต้องเกร็งนะ ตามสบายเลย”“ไม่ได้เกร็งค่ะ” ขนมโพล่งขึ้น ทำให้ทุกคนหันมาม
บทที่ 7 ปิ่นโตสีชมพู ขนมมองหน้ารุ่นพี่ตาปริบๆ จนพี่เอ็มต้องยกมือขึ้นมาจับศีรษะเธอโยกไปมาเป็นการหยอกล้อ“ตาค้างแล้ว ทึ่งในความหล่อพี่เหรอ”“เปล่าค่ะ กำลังอึ้งว่ากินจนเมาขนาดนั้นแล้วตื่นมาทำงานได้ยังไง สุดยอดค่ะแต่ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง”คนถูกชมอยู่ดีๆ ถูกเบรกด้วยประโยคเจ็บจี๊ดสุดท้าย“ค่าคนสวย ดีแล้วที่เราไม่เมามากน่ะ” พี่เอ็มเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ แต่ขนมยังยืนอยู่ที่เดิมเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรสักอย่าง “มานั่งตรงนี้ก่อน มีเรื่องอะไรน่าคิดขนาดนั้น”“เปล่าๆ ค่ะ”“เออ เมื่อวานยิ้มจะพูดอะไรนะ พี่ฟังไม่ค่อยชัดเท่าไร ตอนเล่มเกมถามตอบอะ”“อย่าไปถือสาคนเมาเลยค่ะ ยิ้มก็เป็นแบบนั้นแหละเวลาเมา” กลับไปนี้โดนสวดแน่ยายยิ้ม ดีนะที่เธอเอามือปิดปากไว้ก่อน ไม่งั้นซวยแน่ “งั้นหนมขอตัวก่อนนะคะ”“อืม”ขนมเดินเกาหัวออกมาจากตรงนั้นแล้วเลี้ยวไปทางเดินไปยังตึกผู้ป่วยโอพีดี“ซีด…” หญิงสาวซีดปากระบายความเจ็บแสบ เธอหยุดเดินแล้วนั่งลง รีบถอดรองเท้าดูแผลรองเท้ากัดเมื่อคืน “หนักเอาการอยู่นะเนี่ย” ตอนแรกคิดว่าแค่เป็นแผลถลอกเล็กๆ เท่านั้น แต่ตอนนี้มันแดงและยังมีบางจุดพองมีน้ำใสๆ อีก พอเพื่อนคนอื่นเดินมาเธอจึงรีบลุกขึ้นแ
บทที่ 8 ผู้ปกครองพิเศษ “นี่หลอกกันเหรอคะ” น้ำเสียงและใบหน้าบึ้งตึงบอกได้ชัดว่าเธอไม่พอใจมาก“หลอก?” อีกฝ่ายเลิกคิ้วสูงเชิงถามเขาตีมึนทำไมในเมื่อเขาเองนั่นแหละหลอกให้มาที่นี่“ก็อาจารย์บอกจะนัดหมอให้หนม แล้วทำไมเป็นอาจารย์ได้ล่ะ”“ก็นี่คลินิกพี่เอง”“ฮะ! เดี๋ยวๆ เดี๋ยวก่อน” ขนมหันรีหันขวางจนสายตาปะทะกับชื่อคลินิกและชื่อนายแพทย์ผู้เป็นเจ้าของคลินิกแห่งนี้ “อาจารย์เป็นเจ้าของคลินิกเหรอคะ”“อืม”ขนมรีบลงจากเตียงแล้วเปิดประตูเดินออกมาทันที ยิ้มสะดุ้งตกใจที่เพื่อนรีบมาดึงแขนเธอลุก“ไปไหนหนม เดี๋ยวๆ หนมยังไม่ได้เปลี่ยนชุดเลยนะ”“ไม่ได้ ตรวจที่นี่ไม่ได้”“ทำไม เกิดอะไรขึ้น”“…”! ขนมบุ้ยปากไปด้านหลังตัวเอง ยิ้มเลยมองตามสายตาเพื่อนไปจนเห็นร่างสูงใหญ่ยืนกอดอกอยู่หน้าเคาน์เตอร์ซักประวัติ“หา!! อะ อาจารย์ศิวกร?”“ใช่ นี่คลินิกเขา” ยิ้มสะบัดมือเพื่อนออกจากแขน เดินออกไปหน้าคลินิกโดยไม่ใส่รองเท้าแล้วเงยหน้าอ่านป้ายคลินิก“เชี่ย….” หญิงสาวอุทานคำหยาบออกมา จากนั้นก็เดินมาสวมรองเท้า แต่ขนมดันถูกอาจารย์จับแขนไว้เนี่ยสิ“เป็นอะไรกัน แล้วจะไปไหน”“อาจารย์หลอกหนมมาที่นี่ ทั้งที่รู้ว่าเป็นคลินิกตัวเอง แบบน
บทที่ 9 สุขสันต์วันเกิด หลายวันต่อมา00:00“หนม” ยิ้มลุกขึ้นมาเปิดไฟในห้องสว่างจ้า เมื่อเห็นว่าขนมยังไม่เอาผ้าออกจากการคลุมโปงเธอก็รีบไปเอาเค้กในตู้เย็นมาจุดเทียน เค้กไม่ได้ก้อนใหญ่มากแต่เป็นเค้กที่ตั้งใจซื้อมาให้เพื่อนในวันคล้ายวันเกิดวันนี้ “หนมลุกมาดูนี่”“อืม…” การนอนหลับลึกหลับสนิทเป็นสิ่งที่นักศึกษาแพทย์ทไม่เคยได้สัมผัส และถ้าได้นอนหลับไปแล้วแล้วถูกปลุกแบบนี้ การนอนให้หลับอีกจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่เธอถูกยิ้มปลุกมาในเวลาเที่ยงคืนเนี่ยนะขนมลุกขึ้นมานั่งโดยที่เปลือกตายังปิดสนิท หญิงสาวลูบม้วนผมออกจากใบหน้า ค่อยๆ เปิดเปลือกตามองแสงสีส้มทองตรงหน้า นัยน์ตาเริ่มโฟกัสสิ่งที่ยิ้มทำให้“สุขสันต์วันคล้ายวันเกิดนะรูมเมตของฉัน ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีของเธอ ขอให้มีแต่คนรัก และขอให้ผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้อย่างราบรื่นนะ รักหนมนะ”“ขอบคุณมากนะ หนมขอให้พรที่ยิ้มให้ย้อนกลับไปหายิ้มเหมือนกัน เป็นเพื่อนคิด เป็นเพื่อนกิน เพื่อนนอนและเพื่อนรักของกันและกันตลอดไปนะ” ขนมเป่าเทียนดับแล้วก็ลุกขึ้นมาสวมกอดยิ้ม ความอบอุ่นที่ได้รับจากเพื่อนคนนี้ทำให้ขนมไม่รู้สึกเหงาจนเกินไปจริงๆ“กินเค้กไหม”“ไม่เอา เอาไ
Special : 5ผ่านวันรับใบวุฒิบัตรมาได้หนึ่งอาทิตย์ ขนมกับศิวกรก็เข้าพิธีหมั้นหมายกันโดยมีญาติผู้ใหญ่และเพื่อนของทั้งสองฝ่ายมาร่วมงานด้วย“นี่ไปแอบคบกันตอนไหนวะ พี่งงหมดแล้วเนี่ย” พี่เอ็มนั่งดื่มไปตั้งข้อสงสัยไปด้วย เขาเกาหัวเบาๆ มองขนมกับศิวกร “อา! หรือว่าจะเป็นตอนนั้น” นึกกลับไปเมื่อปีก่อนๆ โน้น เขายังจำได้อยู่ว่าอาจารย์กรชอบทำเสียงดุใส่เขาเมื่อถามถึงขนม ซ้ำยังทักมาถามหาขนมกับเขาบ่อยมาก “ทำไมไม่เอะใจบ้างวะ”“อะไรพี่เอ็ม” ยิ้มสะกิดแขนพี่ชาย“ก็พี่โง่อะยิ้ม ไม่รู้ว่ายายน้องสาวตัวดีคบกับอาจารย์กร”“เหรอ”“ยิ้ม อย่าบอกนะว่ายิ้มรู้เห็นเป็นใจ”ยิ้มไม่ได้ตอบกลับเพียงคำพูด แต่เธอยังสะบัดผมใส่รุ่นพี่อย่างผู้ชนะด้วย“รู้มาตลอดค่ะ และเป็นผู้กุมความลับดีมาโดยตลอด”“โห” พี่เอ็มปรบมือและยกนิ้วให้รุ่นน้อง “หรือว่าที่อาจารย์แกย้ายไปทำงานโรงพยาบาลเอกชนก็เพราะยายหนม”“ถูกค่ะ อาจารย์แกไม่อยากให้เพื่อนยิ้มกังวลใจเรื่องเพื่อนในที่ทำงาน แกเลยย้ายไปทำงานที่อื่นเอง เพราะอยากเห็นแฟนยิ้มมากกว่าหัวคิ้วชนกัน”“โห พ่อหนุ่มคลั่งรัก ยายหนมโชคดีเป็นบ้า”ทั้งยิ้มและพี่เอ็มมองไปที่สองหนุ่มสาวซึ่งกำลังนั่งร่วมพิธีหมั้น
Special : 4กลับจากเชียงคานแล้วศิวกรก็พาขนมไปหาเพื่อนเขาที่โรงพยาบาล และได้อยู่พูดคุยกันประมาณหนึ่งชั่วโมงศิวกรก็พาเธอกลับเพราะเพื่อนมีเคสด่วนเข้ามาพอดี“พี่หมอใจดีจังเลยนะคะ พูดก็เพราะ หล่อมากด้วย”“หล่อๆ แบบนั้นยังหาแฟนไม่ได้เลยนะ”“ใช่เหรอคะ พี่หมอเนี่ยนะหาแฟนไม่ได้ ไม่น่าเชื่อเลย”“เพราะความหล่อเป็นเหตุไง”“จริงอะ”“จริง สมัยเรียนมันมีสาวสวยมาขอเฟซเยอะนะ แต่มันจีบสาวไม่เป็นไง เลยได้กินแห้วตลอด พอมีสาวมาจีบเยอะหน่อยคนอื่นก็มองว่ามันเจ้าชู้ สรุปก็คือโสดไม่มีคนกล้าจีบและมันไม่จีบใคร”“โห…ความหล่อเป็นเหตุนะเนี่ย แล้วคุณหมอกรล่ะคะ มีสาวสวยมาจีบเยอะไหม” ขนมหันตัวมามองเขาด้วยรอยยิ้ม“สมัยเรียนก็พอตัวอยู่ แต่ช่วงนั้นเรียนหนักไปหน่อย เลยไม่ได้คุยกับใครแบบจริงจัง"“ดีนะเนี่ย ถ้าพี่กรคุยกับสาวแบบจริงจังหนมคงไม่มีโอกาสได้เป็นแฟนพี่แน่ๆ”“ไม่แน่นะ” อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ขนาดว่าโลกใบนี้กลมและใหญ่มากแค่ไหนเขาและเธอยังมาเจอกันได้เลย “แต่จะยังไงก็ช่างเถอะ มันเป็นอดีตไปแล้วครับ เพราะตอนนี้พี่มีเราแล้ว ไม่ต้องการอะไรแล้วจริงๆ”คำพูดแสนหวานพานพาให้หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะ พวงแก้มทั้งสองข้างแดง
Special : 3ตกเย็นขนมก็เข้าครัวทำกับข้าวให้ทุกคนได้กิน และวันนี้เธอมีลูกมือคือศิวกร เขานั่งพับเพียบเด็กยอดผักให้เธอเอาไปผัดกินกับน้ำพริก ท่าทางน่าเอ็นดูของศิวกรทำเอาขนมอดที่จะยิ้มไม่ได้ และเธอได้แอบถ่ายรูปเขาส่งให้แม่เปรมดูด้วย“พี่กร”“ครับ?” ชายหนุ่มเงยหน้ามอง “ว่าไง เรียกพี่แล้วไม่พูด”“เอ็นดูอา…พ่อหนุ่มเมืองกรุงเข้าครัว นั่งเด็ดผักเรียบร้อยมาก”“หึหึ แล้วเย็นนี้พี่จะได้กินอะไร”“กับข้าวง่ายๆ ค่ะ มีน้ำพริกปลาทูแมงดานา ผัดผักของพี่กร แล้วก็ไข่เจียวของป้า มีหมูแดดเดียวทอดด้วย แล้วก็ผักสดกินกับน้ำพริกค่ะ”“โห แต่ละอย่างน่ากินทั้งนั้นเลย”“จะทำให้สุดฝีมือเลยค่ะ” ขนมมองซ้ายมองขวา เมื่อไม่เห็นป้าอยู่บริเวณนี้เธอจึงโน้มหน้าลงไปหอมแก้มแฟนหนุ่มอย่างอดใจไม่ไหว “น่ารัก” ภาพผู้ชายตัวโตๆ ผิวขาวเนียนนั่งพับเพียบเด็ดผักมันน่ารักน่าเอ็นดูจริงๆ ขนาดแม่เขายังเอ่ยปากเลยว่าน่าเอ็นดูลูกตัวเอง “ไหนๆ ก็มาเที่ยวเลยแล้ว พี่กรอยากไปเที่ยวไหนไหมคะ เช่นเชียงคานกับภูเรือ”“มันมีที่เที่ยวอะไรบ้าง ที่เราพูดมาน่ะ”“ถ้าไปเชียงคานก็ไปเดินเล่นถนนคนเดินค่ะ ไปพักที่นั่นได้ ที่พักริมน้ำโขงเลย ส่วนภูเรือก็คงไปเที่ยวดูดอ
Special : 2มาถึงสนามบินแล้วศิวกรก็ลากกระเป๋าพาขนมไปเช็กอินหน้าเคาน์เตอร์ เพราะไม่มีของโหลดใต้เครื่องจึงง่ายต่อการเช็กอิน“พี่กลับเลยก็ได้ค่ะ เดี๋ยวหนมเข้าไปข้างในแล้ว”“เดี๋ยวก่อน” ขนมโดนรั้งไว้จนตัวเธอถลากลับมาหาแฟนหนุ่ม ศิวกรยกมือขึ้นมาลูบผมเบาๆ มองสบตากับเธอนานนับนาทีโดยไม่เอื้อนเอ่ยคำใดออกจากปาก หากแต่ใช้ภาษากายสื่อสารกับเธอเท่านั้น และเขารู้ว่าขนมเข้าใจในสิ่งที่เขาสื่อกับเธอ“ไม่ต้องห่วงหนมนะ ถึงบ้านแล้วจะรีบโทร. หาพี่กรคนแรกเลยค่ะ”“โอเค มีสติตลอดล่ะ เดินไปไหนมาไหนก็ระวังด้วย อย่าเผลอเอากระเป๋าสะพายวางไว้ทั่ว เดี๋ยวของสำคัญหายเข้าใจไหม”“ค่ะ ไปแล้วนะคะ” ขนมโบกมือให้เขา “แล้วเจอกันนะคะ”“ครับผม เดินทางปลอดภัยครับ”หลังจากส่งขนมที่สนามบินเสร็จเขาก็ขับรถตรงไปยังโรงพยาบาลมหา'ลัยทันที แม้ยังเช้าอยู่แต่ก็มาหาอะไรรองท้องก่อนเข้าประชุมยาวๆ จนถึงเที่ยง“สวัสดีครับอาจารย์” เอ็มเดินสวนออกมาจากวอร์ดพอดีจึงกล่าวทักทายศิวกรพร้อมกับยกมือไหว้“หวัดดีครับ เพิ่งออกจากโออาร์เหรอเรา”“ครับอาจารย์ ยายขนมไม่อยู่ผมเวรเยินมาก”“เกี่ยวอะไรกับขนม” ศิวกรหรี่ตาถามชายหนุ่ม เอ็มจึงรีบอธิบายให้กว้างขึ้น“ก็น
Special : 1สามเดือนต่อมา ขนมนั่งพับเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางเตรียมกลับไปหาป้าในช่วงปิดเทอม แม้เป็นการปิดเทอมสั้นๆ แต่เธอก็อยากกลับไปเยี่ยมป้า หลังจากไม่ได้กลับไปเยี่ยมท่านนานเกือบปี ซึ่งตอนนี้ยิ้มก็กลับบ้านแล้ว เธอกับศิวกรไปส่งขึ้นรถเมื่อช่วงตีห้านี้เองครืด~โทรศัพท์เธอสั่นเพียงหนึ่งครืดขนมก็เลื่อนจอรับสายแฟนหนุ่ม“กำลังเก็บกระเป๋าค่ะ แล้วพี่กรราวน์เสร็จแล้วเหรอคะ”(เพิ่งราวน์เสร็จตะกี้เลย แล้วเราเลือกได้หรือยังว่าจะนั่งรถหรือว่าขึ้นเครื่องไปดี)“พี่กรจองตั๋วเครื่องบินไว้ให้แล้วนี่นา หนมไม่เปลี่ยนไปนั่งรถหรอกค่ะ หนมเสียดายเงิน”(อยากเจอแล้วเนี่ย ขายเวรให้ไอ้ณุดีไหมนะ)“ไม่ต้องเลยค่ะ แต่ว่าพี่กรบอกจะตามหนมไปทีหลังนี่นา หนมไปอยู่ตั้งหลายวันไม่ต้องรับหรอกค่ะ”(ก็มันคิดถึงเรานี่ ไม่เคยห่างกันนานขนาดนี้เลย กว่าพี่จะตามเราไปก็เป็นอาทิตย์เลย)“หึหึ เป็นเอามากนะคะแดดดี้”(เอาไว้เจอกันนะ เดี๋ยวพี่ลงเวรแล้วจะรีบไปรับนะครับ)“ค่ะๆ เดี๋ยวหนมเก็บกระเป๋าก่อนค่ะ” เธอวางสายจากศิวกรแล้วจึงเร่งเก็บกระเป๋าให้เสร็จ แล้วจะออกไปซื้อของฝากไปฝากป้าหลังจากศิวกรลงเวรแล้วเขาก็รีบมารับแฟนสาวที่หอใน เอากระเป๋า
บทที่ 25 บทส่งท้ายย่างเข้าสู่เดือนที่สองของสถานะแฟน ศิวกรทำหน้าที่แฟนได้ดีมากๆ ไม่ขาดตกบกพร่องสักเรื่องเลย และความสัมพันธ์ของเขาและเธอก็ยังเป็นความลับที่มีคนรู้แค่สามคนเท่านั้นครืด..โทรศัพท์สั่นอยู่ในกระเป๋าเสื้อทำให้ขนมหยุดฝีเท้าแสนจะเร่งรีบแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดอ่านข้อความจากศิวกร ในข้อความบอกเอาไว้ว่าเขาจะรอเธออยู่ร้านกาแฟในช่วงบ่าย ซึ่งเธอก็ตอบกลับไปว่าโอเคแล้วรีบไปดูเคสกับรุ่นพี่พอเสร็จจากเคสแต่ว่าเลยเวลาที่ศิวกรนัดเอาไว้เธอจึงรีบสาวเท้าเดินไปร้านกาแฟ ในใจก็ภาวนาให้ศิวกรไม่รอเธออยู่ในร้านกาแฟเถอะ ขอให้เขากลับไปก่อน เพราะมันนานมาก ทว่าพอเปิดประตูเข้ามากลับเห็นชายหนุ่มนั่งกอดอกยกแก้วกาแฟร้อนจิบอยู่ในโต๊ะประจำของเขากับเธอด้านในสุด“พี่กร”“มาแล้วเหรอ พี่สั่งเค้กไว้ให้เราด้วย กินเลยไหมคะ”“ทำไมยังนั่งรออีกเนี่ย น่าจะกลับห้องพักไปนะคะ”“ไม่เป็นไร พี่ว่างเลยสั่งกาแฟมากินรอเรา”“กี่แก้วแล้วเนี่ย”“แก้วเดียว เพิ่งสั่งครับ”“พอดีหนมติดเคสค่ะ ไม่เสร็จง่ายเลยกินเวลาไปนานเลย” เธอรีบบอกเขาพร้อมกับวางโทรศัพท์มือถือไว้บนโต๊ะ “เสร็จแล้วก็รีบมาหาพี่กร ทีแรกหนมคิดเอาไว้ว่าพี่คงกลับไปแล้วเสี
บทที่ 24 เปิดตัว เช้าของอีกวัน ขนมยังงัวเงียอยู่บนเตียงเพราะยังไม่อยากลุกออกจากใต้ผ้าห่ม แต่เสียงศิวกรก็ทำให้เธอต้องลุกขึ้นมองเขา“ไหนบอกเวรบ่ายไงคะ ทำไมแต่งตัวเร็วจัง”“พี่มีเคสด่วนน่ะ เรานอนต่อเลยเดี๋ยวเที่ยงพี่กลับมาหา”“ให้หนมอยู่ห้องคนเดียวเหรอ”“แล้วเราอยู่ได้ไหม หรืออยากกลับหอ?” เขาถามเธอขณะที่ติดกระดุมแขนเสื้อเชิ้ตอยู่ ขนมส่ายหน้าแล้วลุกขึ้นจากเตียงนอน“เมื่อคืนใครผิดสัญญาคะ หนมต้องลงโทษคนผิดสัญญาไหมเนี่ย”“หึหึ ก็เห็นเราชอบนี่ แถมพี่ยังถามแล้วว่าต่อไหม เราไม่ตอบพี่ก็เลยเดาเอาว่าเราอยากต่อ ก็เลยจัดเต็ม”“พี่หิวโหยมาจากไหนก่อน”“ไม่รู้สิ”“งั้นหนมรอพี่กรอยู่ห้องนะคะ แล้วก็ขอให้เป็นเคสด่วนที่ง่ายและราบรื่นนะ”“ขอบคุณครับ” เขาหอมหน้าผากเธอแล้วก็รีบออกไปเลย ขนมยืนนิ่งทั้งอยากยิ้มทั้งจะอมยิ้มเขินอาย ปลายนิ้วแตะลงบนรอยจูบเขาเมื่อครู่นี้“คนบ้า…” ยิ่งหันไปเห็นร่องรอยของเมื่อคืนนี้เธอยิ่งเขินอายหนักมาก เมื่อตื่นเต็มตาแล้วเธอก็เลยเก็บกวาดห้องให้เขาจนเรียบร้อยเหมือนเดิม แล้วค่อยไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่ ซึ่งเป็นชุดลำลองของศิวกรที่เตรียมไว้ให้เธอนั่นแหละขณะที่ขนมนั่งเช็ดผมตัวเองอยู่บนโซฟา
บทที่ 23 รื้อฟื้นความทรงจำ รอยยิ้มหวานบนใบหน้าสวยบ่งบอกถึงความรู้สึกทั้งหมดที่ขนมมีต่อศิวกร เธอขยับเข้าไปใกล้แล้วเอียงตัวไปสวมกอดเขาไว้“ขอบคุณนะคะที่ชัดเจนกับหนม”“เราอาจมองว่าทุกอย่างเร็วไป ที่พี่ขอเป็นแฟน” ชายหนุ่มเงยหน้าสบตากับหญิงสาว “สำหรับพี่มันไม่เร็วเลย เราสามารถใช้สถานะแฟนดูแลกันและเรียนรู้กันไปได้เรื่อยๆ และพี่เต็มใจให้เราแค่คนเดียว”ขนมยิ้มขบขัน เธอไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนมาสารภาพต่อหน้าแบบนี้เลย และไม่มีความกลัวถ้าวันหนึ่งต้องเลิกกับเขา“เราสองคนจับมือเดินไปด้วยกันนะ ไปให้ถึงวันนั้นเลย”“ค่ะ”หัวใจเธอเต้นเร็วแทบผิดจังหวะ ซึ้งใจกับคำพูดของศิวกรมากๆ ในขณะเดียวกันแววตาเขาก็แสดงออกว่าจริงจังและอยากให้เธอมั่นใจในตัวเขาหลายวันต่อมาศิวกรเปิดประตูลงจากรถก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วโทร. หาขนม เช้านี้เขามีเคสผ่าตัดตอนเก้าโมงเช้าส่วนขนมวันนี้มีเรียนเลคเชอร์กับราวน์ในเช้าเดียว เขาเลยจะบอกให้เธอไปรออยู่ร้านกาแฟเหมือนเดิม และขนมก็ตอบตกลงอย่างว่าง่ายพอถึงเวลานัดหมายคนที่เพิ่งออกจากโออาร์ก็รีบเดินไปหาแฟนสาว ยิ่งเห็นขนมนั่งรออยู่ในร้านกาแฟเขายิ่งเร่งฝีเท้ากระทั่งมาถึงโต๊ะด
บทที่ 22 ขอเป็นแฟนขนมเดินออกมาจากหลังเสาแต่คนสายตาไวอย่างศิวกรกลับมองเห็นเธอพอดี จึงหันมองตามร่างเล็กจนศรุตอดถามไม่ได้และเขาก็มองตามน้องชายไปจนเห็นว่ามีหมอผู้หญิงเดินหายไปแล้ว เห็นแค่หลังไวๆ เท่านั้น“ใคร เพื่อนเหรอ” ศรุตถามผู้เป็นน้องชาย แล้วชะเง้อมองอีกรอบหนึ่ง“เปล่า”“เปล่า? เปล่าเป็นเพื่อนแต่เป็นแฟน”“บ้าเหรอ ยังไม่ได้ขอ”“อ๋อ ฮะ! เมื่อกี้แกพูดว่าอะไรนะ ยังไม่ได้ขอเป็นแฟน?” มุมปากหนาคนเป็นพี่ยกยิ้มร้าย ก่อนที่ศรุตจะเอาไหล่สะกิดภรรยาตัวเอง “อิงเตรียมโทร. ไปบอกแม่เลยว่าเจ้ากรมันซุ่มคบสาวในโรงพยาบาล”“พี่รุตก็อย่าแซวพี่กรมาก ยังไม่ได้สรุปเลยนะคะ แล้วสรุปพี่กรมีคนคุยจริงๆ เหรอ”“แหมคุณอิงก็ร้ายไม่เบานะครับ”“หึหึ อิงก็อยากรู้เหมือนกับพี่รุตค่ะ”“ก็ยังหรอก” เขาตอบแบบเลี่ยงๆ เพราะยังไม่ได้ขอขนมเป็นแฟนไง คิดเอาไว้ว่าชัวร์กว่านี้ค่อยจะพาเธอไปพบแม่กับพ่อ แต่วันนี้พี่ชายดันมาหาที่โรงพยาบาลซะได้ ความลับจะแตกก็เพราะพี่ยิงคำถามใส่เนี่ยแหละ“สรุปยังไงเจ้ากร แกไม่ได้ไปหลอกเขาใช่ไหม”“มองน้องในแง่ดีบ้างได้ไหมพี่ชาย”“ก็แกมันร้ายอะ เห็นยิ้มๆ แบบนี้ร้ายลึก” ตั้งแต่เด็กแล้ว ความเจ้าเล่ห์กับความร้า