อลันค่อยๆ ยกหัวขึ้นมามองหน้าฉัน สภาพของเขาตอนนี้เหมือนคนใกล้จะหลับเต็มที “รอย ?” อลันถามก่อนจะซบหน้าลงเพราะความเมาและความง่วง “ที่หลังของนายมันมีรอยแดงอยู่ คล้ายเล็บผู้หญิง!!” หัวคิ้วหนาขมวดชนกันยุ่งเหยิงเมื่อได้ยินคำพูดของฉัน แต่แล้วอลันก็เงียบไม่ได้ตอบอะไร ผ่านไปครู่หนึ่งเสียงกรนของเขาก็ดังขึ้น !!!!!!! ฉันแทบอยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ เขาจะมาหลับเวลาแบบนี้ไม่ได้ ฉันใช้มือเขย่าแขนของอลันจนตัวเขาสั่นคลอนแต่ก็ไร้วี่แววว่าจะตื่นขึ้น นอนทั้งที่ยังเปลือยเปล่าอยู่แบบนี้มันทุเรศจริงๆ เลย ยิ่งเห็นรอยแดงยาวบนแผ่นหลังของอลันฉันก็ยิ่งหงุดหงิด ไม่รู้ว่าที่หลับนี่เป็นแค่การแสดงเพราะหาคำแก้ตัวไม่ได้ หรือง่วงจนไม่ไหวจริงๆ ฉันลุกขึ้นหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่ก่อนจะเอาผ้าห่มคลุมตัวอลันไว้แล้วเดินไปหยิบผ้าห่มอีกผืนที่พับไว้ในตู้เสื้อผ้ามา จากนั้นก็เดินออกไปจากห้อง ไม่อยากจะนอนร่วมเตียงกับผู้ชายมักมากอย่างอลัน ถ้าเกิดว่าฉันเห็นรอยนั่นเร็วกว่านี้หน่อยก็คงไม่ยอมให้เขาทำเรื่องแบบนั้นหรอก คืนนี้เขาหลับไม่เป็นไร แต่พรุ่งนี้ฉันต้องรู้ให้ได้ว่ารอยบนแผ่นหลังของอลันเกิดจากอะไร ถ้าเป็นอย่างที่คิดจริงๆ ครั้งนี้ฉันค
อลันขบกรามแน่น เขาพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ อย่างเดือดดาล ใบหน้าหล่อเหลาปะปนไปด้วยความอำมหิต “หายไปทั้งคืนกลับมาคอแดง ?” น้ำเสียงอำมหิตเอ่ยถามฉันพร้อมกับใบหน้าคมคายที่ก้มลงมามองใกล้ๆ คออย่างพิจารณา “คอฉันแดงหรอ อ่า! ไปโดนอะไรมานะ โอ้ย!!” จู่ๆ อลันก็กระชากร่างของฉันให้เดินตามตัวเองมาที่โซฟา จากนั้นเขาก็เหวี่ยงร่างฉันกระแทกลงที่โซฟาตัวใหญ่อย่างแรง “ไปเอากับใครมา!!” เขาตวาดถาม ขนาดว่าฉันไม่เคยไปยุ่งกับใคร ไม่เคยขึ้นเตียงกับใครนอกจากเขา ยังคิดได้ว่าฉันไปทำอะไรกับผู้ชายมา สิ้นคิดจริงๆ ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วก้มหน้าตอบ “…ฉันจำไม่ได้”“มันเป็นใคร!!” “ไม่รู้ ฉันจำไม่ได้” “จำไม่ได้หรือตั้งใจไม่พูด!!” “ทำไมต้องโกรธขนาดนั้นด้วยล่ะ ฉันก็ทำเหมือนอย่างที่นายทำไง” หลังจากที่ก้มหน้าครู่หนึ่งฉันก็เชิดหน้าขึ้นจ้องมองอลันอย่างไม่เกรงกลัว “ทำบ้าอะไรวะรู้ตัวไหม!!” เป็นอีกครั้งที่อลันตวาดออกมาอย่างหัวเสีย เขาแทบจะควบคุมสติของตัวเองไม่ได้ “รู้สิ มันรู้สึกดีมากกว่าตอนทำกับนายซะอีก” พูดจบฉันก็แสยะยิ้มให้ แต่การตอบกลับไปแบบนั้นยิ่งทำให้อลันเดือดดาลขึ้น “ไหนบอกจำไม่ได้ ?”“ฉันจำไม่ได้ว่าเป็นใคร แต่จำความร
หูมันอื้อเมื่อได้ยินคำพูดของอลัน สมองเหมือนหยุดทำงานอัตโนมัติ คำว่า ฟะ แฟน เขากำลังพูดถึงเรื่องอะไร “นะ นายไม่ได้นอนหรือเปล่า พักผ่อนก่อนไหมดูเบลอๆ นะ” อลันคงนอนน้อยถึงได้พูดอะไรแบบนั้นออกมา จู่ๆ เขาจะมาพูดว่าแฟนเป็นไปไม่ได้หรอก “เป็นไหม ?” “ปะ เป็นอะไรของนาย” อลันพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ เขาเบือนหน้าหนีก่อนจะพูด “เป็นแฟน” “…….” ชัดเจน! ตอนนี้อลันกำลังขอฉันเป็นแฟนอยู่ แทบไม่เชื่อหูตัวเองว่าจะได้ยินคำพูดนี้จากปากเขา ก่อนหน้านี้เรามีปากเสียงกันแทบตาย แต่ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงฉันกลับถูกขอเป็นแฟนซะงั้น “มันตอบยากขนาดนั้น ?”“ฉันไม่เข้าใจทำไมจู่ๆ นายถึงขอฉันเป็นแบบกระทันหันแบบนี้ล่ะ”“อยากเป็นเจ้าของ” เด็กนี่! ชอบตอบอะไรที่คลุมเครืออยู่เรื่อย “ที่ผ่านมานายก็ทำตัวเป็นเจ้าของชีวิตฉันนะ ไม่รู้ตัวหรอ” ฉันกำลังหาเหตุผลมาถามหาความมั่นใจให้ตัวเอง “ที่พูดเรื่องสถานะแต่พอเอาเข้าจริงไม่อยากคบ ?” แววตาของอลันบ่งบอกว่าเขาไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่ฉันเอาแต่ถาม“มะ ไม่ใช่แบบนั้น คือฉันปรับอารมณ์ไม่ทัน” “แล้วคบไม่คบ” อลันถามย้ำอีก ฉันมองหน้าอลันอย่างชั่งใจ ในความดีใจมันมีความกลัวซ่อนอยู่ “ถ้าตอบตกลงนายจะ
อลันถอนจูบออกแล้วอุ้มฉันขึ้นจากนั้นก็เดินเข้ามายังห้องนอน ก่อนจะวางตัวของฉันลงบนเตียงอย่างเบามือ ทำไมมันรู้สึกเขินจนทำตัวไม่ถูกแบบนี้นะ ทั้งที่ไม่ใช่ครั้งแรกของเรา “ถอด” อลันบอกก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก ส่วนฉันก็จัดการเสื้อผ้าของตัวเองเช่นกัน เมื่อเราต่างเปลือยกายกันทั้งคู่อลันก็คลานเข่าขึ้นมาคร่อมบนตัวฉัน ใบหน้าคมคายก้มลงมาใช้อุ้งปากร้อนๆ ตะโบมดูดดุนหน้าอกและตวัดลิ้นเลียหยอกล้อกับเม็ดไตสีชมพูอ่อนบนเนินหน้าอกสองเต้าสลับกัน“อ๊า~” “ชอบไหม” อลันมักจะถามคำนี้กับฉันบ่อยครั้งเวลาทำเรื่องบนเตียง“อื้อ ชอบสิ อ๊ะ~” “ชอบให้ดูดแรงๆ ไหม” “ชะ ชอบแต่ถ้าแรงมากมันจะเจ็บ” อลันยิ้มมุมปากก่อนจะก้มลงตะโบมดูดเลียที่หน้าอกต่อ เขาดูดแรงๆ เพื่อให้ฉันสะดุ้งแล้วแอ่นกายขึ้น มือของฉันยกขึ้นมากำเส้นผมสีดำขลับของอลันแน่น แล้วร้องครางออกมาเสียงกระเส่า “อ๊า~อลัน” ฉันเปล่งเสียงครางออกมาพร้อมกับเรียกชื่ออลันเสียงหวาน “อันตรายนะ”“อันตรายอะไร ?” ฉันถามกลับอย่างงุนงง “ใครให้พี่แพรครางชื่อผมเสียงหวานขนาดนี้ หื้ม” “นายไม่ชอบหรอ ?” ฉันคิดว่าอลันชอบซะอีก เพราะเขาชอบให้ฉันครางเรียกชื่อตัวเองนี่
“ของขวัญ ?” ฉันพูดออกมาพร้อมกับมองอลันอย่างหาเรื่อง แต่เขาเงียบไม่คิดจะพูดอะไรเลย“แม้ๆ เค้กกับอลันก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล แค่ให้ของขวัญไม่เห็นต้องทำตาดุแบบนั้นเลยค่ะ” ฉันจ้องอลันเขม็งอยากจะลุกขึ้นเดินหนีไปสงบสติอารมณ์อารมณ์แต่ถูกเขารั้งไว้ “จะไปไหน ?” “ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ” ฉันพยายามข่มอารมณ์เอาไว้แล้วบอกไปอย่างใจเย็น “ถ้าพี่แพรลุกขึ้นไปเค้กขอนั่งแทนที่ได้ไหมคะ เดี๋ยวพอพี่แพรกลับมาเค้กจะคืนที่นั่งให้” เธอแสยะยิ้มที่น่าเกลียดให้ฉัน“……” ฉันกำหมัดแน่น วอนนักนะยัยเด็กนี่!! “เค้กมีเรื่องจะคุยกับอลันหน่อยน่ะ” “มากับใคร” อลันถามเค้ก “กับเพื่อนน่ะ ^_^” “งั้นก็กลับไปโต๊ะตัวเอง ไม่ได้ชวนจะยืนอยู่ทำไม” ฉันยิ้มเย้ยเมื่ออลันพูดคำนั้นต่อหน้ายัยเค้ก เป็นไงล่ะเจ็บจนจุกเลยละสิ “พาฉันไปห้องน้ำหน่อย” ฉันบอกอลัน เขาพยักหน้าก่อนที่เราจะลุกขึ้นพร้อมกัน ทิ้งให้ยัยเค้กยืนหน้าแตกอยู่ที่โต๊ะนี่แหละ ฉันจูงมืออลันพาเดินออกมาจากคลับ ไม่ได้ไปห้องน้ำอย่างที่ว่า “ไหนจะเข้าห้องน้ำ ?” “เรามีเรื่องต้องคุยกัน”ฉันพาอลันมาที่รถ ตรงลานจอดรถค่อนข้างมืดและไม่มีคนเดินผ่าน พอมาถึงฉันก็กอดอกจ้องหน้าเขาเขม็ง “ไม่พูดอะ
หลังจากกินข้าวเสร็จบาสก็ติดรถมาที่คอนโดของฉันด้วย เหตุผลเพราะไม่อยากนั่งรถกลับพร้อมพ่อของเขา คงกลัวจะพูดกันไม่ลงลอยอีก “จอดเดี๋ยวผมนั่งรถไปห้องเพื่อนเอง” บาสบอกขณะที่ขับรถอยู่กลางถนนใหญ่“ไหนบอกว่าจะไปห้องพี่ไง” “พูดให้พ่อสบายใจไปงั้น” “เดี๋ยวไปห้องพี่แล้วนายค่อยให้เพื่อนมารับดีกว่า”“จะทำตัวเป็นพ่อผมอีกคนหรือไง” “อย่าดื้อรั้นนักสิบาส” “พี่แพรไม่เป็นผมไม่เข้าใจหรอก” ฉันหันมองบาสที่พูดออกมาแบบตัดพ้อ เด็กวัยนี้ไม่ควรกดดันอะไรมาก เพราะยิ่งถูกกดดันมากๆ ก็ยิ่งเตลิด #คอนโดของฉัน สุดท้ายฉันก็พาบาสมาที่คอนโดอยู่ดี “จะกลับไปนอนบ้านไหม ?” ฉันถามบาสที่กำลังหย่อนก้นนั่งลงบนโซฟา“ผมจะไปนอนห้องเพื่อน พี่ไม่ต้องห่วงหรอกพรุ่งนี้เดี๋ยวผมก็กลับบ้าน”“จะไปนอนห้องเพื่อนทำไมห้องพี่ก็นอนได้ คืนนี้พี่ไม่ได้นอนคอนโด” “ยังไงผมก็ต้องได้มาอยู่ที่นี่อยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง” “รู้ใช่ไหมว่าคุณลุงกับพ่อพี่กำลังพยายามจับคู่เราอยู่” ฉันเปิดประเด็นถามบาส เราสองคนควรคุยกันเรื่องนี้ “รู้” “แล้วจะทำยังไง ?”“ไม่รู้” ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ รู้สึกเหนื่อยใจจริงๆ ที่ถูกจับคู่แบบนี้ “คบกับมันทำไม ?” บาสถามขึ้น “ไอ้อล
ฉันลุกขึ้นยืนแล้วค่อยๆ ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองต่อหน้าอลัน ทำให้เขายิ้มมุมปากอย่างพอใจที่วันนี้ฉันว่าง่าย อลันปลดกางเกงที่สวมใส่อยู่ออกให้พ่นจากท่อนขา จากนั้นเขาก็ใช้มือกำรูดแก่นกายใหญ่ของตัวเองรอฉันที่กำลังถอดเสื้อผ้าอยู่ เมื่อถอดเสื้อผ้าหมดทุกชิ้นแล้วฉันก็ขึ้นมาบนตักของอลัน ค่อยๆ หย่อนก้นลงโดยมีอลันเป็นคนจับแก่นกายตั้งไว้ให้ตรงกับร่องแคบของฉัน เมื่อกดสะโพกลงช้าๆ ช่อทางคับแคบก็ค่อยๆ กลืนแก่นกายใหญ่ของอลันจนมิดด้าม “อ๊า~” ทั้งฉันและอลันเราต่างครางกระเส่าออกมาพร้อมๆ กัน “เป็นอะไรทำไมวันนี้แปลกๆ” อลันถามก่อนจะก้มลงมาตะโบมดูดเลียยอดปทุมถันบนเนินหน้าอกอย่างหื่นกระหาย “ฉันต้องการนาย อ๊า~” ฉันพูดเสียงหวานแล้วเริ่มขยับสะโพกช้าๆ การเสียดสีมันทำให้ฉันเสียวซ่านขึ้นเรื่อยๆ แถมตอนนี้อลันยังเอาแต่ดูดเลียและบีบเคล้นหน้าของของฉันอย่างบ้าคลั่ง มันยิ่งทำให้ร่างกายแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ “อย่าพูดว่าต้องการ อืมซี๊ด~”“ทะ ทำไม อ๊าง~” “พี่แพรอาจจะไม่ได้นอนทั้งคืนเพราะคำพูดนั้นนะ ซี๊ด~” ฉันเริ่มยกสะโพกขึ้นลงถี่ขึ้นโดยไม่รู้สึกเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย ยิ่งทำเร็วๆ เท่าไหร่มันก็ยิ่งเสียวซ่านมากเท่านั้น
“อะ…อลิช” ฉันเรียกชื่อเพื่อนสนิทเบาๆ เป็นอลิชที่กำลังนั่งอยู่กับอลันในตอนนี้ เราทั้งคู่ต่างตกใจไม่แพ้กัน มีแค่อลันที่ดูเหมือนไม่ตกใจอะไรเลย “ยัยแพร” อลิชเรียกชื่อฉันก่อนจะมองสลับกับอลัน “บอกพี่ว่าให้มาหาที่คอนโดมีเรื่องสำคัญจะบอก อย่าบอกนะว่า….” “ผมกับเพื่อนพี่ได้กันนานแล้ว” “อลัน!!” ฉันเรียกอลันเสียงดุเพราะเขาพูดอะไรที่ไม่เข้าท่าออกไปหน้าตาเฉย “เมื่อไหร่ทำไมพี่ไม่รู้เรื่องเลย” พอถามอลันแล้วอลิชก็หันมามองฉัน “ยัยแพร! นี่แกตั้งใจปิดฉันงั้นหรอ”“ปะ เปล่านะ คือฉัน….” อลิชลุกขึ้นเดินมาหาฉันก่อนจะจับมือพาเดินมานั่งที่โซฟา “ฉันตั้งใจจะบอกแกแต่ยังไม่มีจังหวะ” “รู้ไหมว่าฉันดีใจมากที่เป็นแก อลันไม่เคยเปิดตัวกับผู้หญิงคนไหนแปลว่ากับเพื่อนพี่คนนี้จริงจังใช่ไหม?” ประโยคหลังอลิชถามน้องชายตัวเอง “อืม” อลันพยักหน้าตอบ แค่คำตอบสั้นๆ มันก็ทำให้ฉันดีใจเอามากๆ “นี่ถ้าพ่อรู้ต้องดีใจมากแน่ๆ พอฉันชอบแกมากเลยนะยัยแพร ชอบบ่นว่าอยากได้แกมาเป็นสะไภ้ให้ฉันฟังอยู่บ่อยๆ” “ระ….หรอ” “อื้อ โอ้ยฉันดีใจจริงๆ ที่แกเอาอลันอยู่หมัด” อลิชพูดด้วยรอยยิ้มบ่งบอกว่าเธอดีใจมากที่รู้ว่าฉันกับอลันคบกัน ฉันกับอลิชคุยกั