“ของขวัญ ?” ฉันพูดออกมาพร้อมกับมองอลันอย่างหาเรื่อง แต่เขาเงียบไม่คิดจะพูดอะไรเลย“แม้ๆ เค้กกับอลันก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล แค่ให้ของขวัญไม่เห็นต้องทำตาดุแบบนั้นเลยค่ะ” ฉันจ้องอลันเขม็งอยากจะลุกขึ้นเดินหนีไปสงบสติอารมณ์อารมณ์แต่ถูกเขารั้งไว้ “จะไปไหน ?” “ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ” ฉันพยายามข่มอารมณ์เอาไว้แล้วบอกไปอย่างใจเย็น “ถ้าพี่แพรลุกขึ้นไปเค้กขอนั่งแทนที่ได้ไหมคะ เดี๋ยวพอพี่แพรกลับมาเค้กจะคืนที่นั่งให้” เธอแสยะยิ้มที่น่าเกลียดให้ฉัน“……” ฉันกำหมัดแน่น วอนนักนะยัยเด็กนี่!! “เค้กมีเรื่องจะคุยกับอลันหน่อยน่ะ” “มากับใคร” อลันถามเค้ก “กับเพื่อนน่ะ ^_^” “งั้นก็กลับไปโต๊ะตัวเอง ไม่ได้ชวนจะยืนอยู่ทำไม” ฉันยิ้มเย้ยเมื่ออลันพูดคำนั้นต่อหน้ายัยเค้ก เป็นไงล่ะเจ็บจนจุกเลยละสิ “พาฉันไปห้องน้ำหน่อย” ฉันบอกอลัน เขาพยักหน้าก่อนที่เราจะลุกขึ้นพร้อมกัน ทิ้งให้ยัยเค้กยืนหน้าแตกอยู่ที่โต๊ะนี่แหละ ฉันจูงมืออลันพาเดินออกมาจากคลับ ไม่ได้ไปห้องน้ำอย่างที่ว่า “ไหนจะเข้าห้องน้ำ ?” “เรามีเรื่องต้องคุยกัน”ฉันพาอลันมาที่รถ ตรงลานจอดรถค่อนข้างมืดและไม่มีคนเดินผ่าน พอมาถึงฉันก็กอดอกจ้องหน้าเขาเขม็ง “ไม่พูดอะ
หลังจากกินข้าวเสร็จบาสก็ติดรถมาที่คอนโดของฉันด้วย เหตุผลเพราะไม่อยากนั่งรถกลับพร้อมพ่อของเขา คงกลัวจะพูดกันไม่ลงลอยอีก “จอดเดี๋ยวผมนั่งรถไปห้องเพื่อนเอง” บาสบอกขณะที่ขับรถอยู่กลางถนนใหญ่“ไหนบอกว่าจะไปห้องพี่ไง” “พูดให้พ่อสบายใจไปงั้น” “เดี๋ยวไปห้องพี่แล้วนายค่อยให้เพื่อนมารับดีกว่า”“จะทำตัวเป็นพ่อผมอีกคนหรือไง” “อย่าดื้อรั้นนักสิบาส” “พี่แพรไม่เป็นผมไม่เข้าใจหรอก” ฉันหันมองบาสที่พูดออกมาแบบตัดพ้อ เด็กวัยนี้ไม่ควรกดดันอะไรมาก เพราะยิ่งถูกกดดันมากๆ ก็ยิ่งเตลิด #คอนโดของฉัน สุดท้ายฉันก็พาบาสมาที่คอนโดอยู่ดี “จะกลับไปนอนบ้านไหม ?” ฉันถามบาสที่กำลังหย่อนก้นนั่งลงบนโซฟา“ผมจะไปนอนห้องเพื่อน พี่ไม่ต้องห่วงหรอกพรุ่งนี้เดี๋ยวผมก็กลับบ้าน”“จะไปนอนห้องเพื่อนทำไมห้องพี่ก็นอนได้ คืนนี้พี่ไม่ได้นอนคอนโด” “ยังไงผมก็ต้องได้มาอยู่ที่นี่อยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง” “รู้ใช่ไหมว่าคุณลุงกับพ่อพี่กำลังพยายามจับคู่เราอยู่” ฉันเปิดประเด็นถามบาส เราสองคนควรคุยกันเรื่องนี้ “รู้” “แล้วจะทำยังไง ?”“ไม่รู้” ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ รู้สึกเหนื่อยใจจริงๆ ที่ถูกจับคู่แบบนี้ “คบกับมันทำไม ?” บาสถามขึ้น “ไอ้อล
ฉันลุกขึ้นยืนแล้วค่อยๆ ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองต่อหน้าอลัน ทำให้เขายิ้มมุมปากอย่างพอใจที่วันนี้ฉันว่าง่าย อลันปลดกางเกงที่สวมใส่อยู่ออกให้พ่นจากท่อนขา จากนั้นเขาก็ใช้มือกำรูดแก่นกายใหญ่ของตัวเองรอฉันที่กำลังถอดเสื้อผ้าอยู่ เมื่อถอดเสื้อผ้าหมดทุกชิ้นแล้วฉันก็ขึ้นมาบนตักของอลัน ค่อยๆ หย่อนก้นลงโดยมีอลันเป็นคนจับแก่นกายตั้งไว้ให้ตรงกับร่องแคบของฉัน เมื่อกดสะโพกลงช้าๆ ช่อทางคับแคบก็ค่อยๆ กลืนแก่นกายใหญ่ของอลันจนมิดด้าม “อ๊า~” ทั้งฉันและอลันเราต่างครางกระเส่าออกมาพร้อมๆ กัน “เป็นอะไรทำไมวันนี้แปลกๆ” อลันถามก่อนจะก้มลงมาตะโบมดูดเลียยอดปทุมถันบนเนินหน้าอกอย่างหื่นกระหาย “ฉันต้องการนาย อ๊า~” ฉันพูดเสียงหวานแล้วเริ่มขยับสะโพกช้าๆ การเสียดสีมันทำให้ฉันเสียวซ่านขึ้นเรื่อยๆ แถมตอนนี้อลันยังเอาแต่ดูดเลียและบีบเคล้นหน้าของของฉันอย่างบ้าคลั่ง มันยิ่งทำให้ร่างกายแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ “อย่าพูดว่าต้องการ อืมซี๊ด~”“ทะ ทำไม อ๊าง~” “พี่แพรอาจจะไม่ได้นอนทั้งคืนเพราะคำพูดนั้นนะ ซี๊ด~” ฉันเริ่มยกสะโพกขึ้นลงถี่ขึ้นโดยไม่รู้สึกเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย ยิ่งทำเร็วๆ เท่าไหร่มันก็ยิ่งเสียวซ่านมากเท่านั้น
“อะ…อลิช” ฉันเรียกชื่อเพื่อนสนิทเบาๆ เป็นอลิชที่กำลังนั่งอยู่กับอลันในตอนนี้ เราทั้งคู่ต่างตกใจไม่แพ้กัน มีแค่อลันที่ดูเหมือนไม่ตกใจอะไรเลย “ยัยแพร” อลิชเรียกชื่อฉันก่อนจะมองสลับกับอลัน “บอกพี่ว่าให้มาหาที่คอนโดมีเรื่องสำคัญจะบอก อย่าบอกนะว่า….” “ผมกับเพื่อนพี่ได้กันนานแล้ว” “อลัน!!” ฉันเรียกอลันเสียงดุเพราะเขาพูดอะไรที่ไม่เข้าท่าออกไปหน้าตาเฉย “เมื่อไหร่ทำไมพี่ไม่รู้เรื่องเลย” พอถามอลันแล้วอลิชก็หันมามองฉัน “ยัยแพร! นี่แกตั้งใจปิดฉันงั้นหรอ”“ปะ เปล่านะ คือฉัน….” อลิชลุกขึ้นเดินมาหาฉันก่อนจะจับมือพาเดินมานั่งที่โซฟา “ฉันตั้งใจจะบอกแกแต่ยังไม่มีจังหวะ” “รู้ไหมว่าฉันดีใจมากที่เป็นแก อลันไม่เคยเปิดตัวกับผู้หญิงคนไหนแปลว่ากับเพื่อนพี่คนนี้จริงจังใช่ไหม?” ประโยคหลังอลิชถามน้องชายตัวเอง “อืม” อลันพยักหน้าตอบ แค่คำตอบสั้นๆ มันก็ทำให้ฉันดีใจเอามากๆ “นี่ถ้าพ่อรู้ต้องดีใจมากแน่ๆ พอฉันชอบแกมากเลยนะยัยแพร ชอบบ่นว่าอยากได้แกมาเป็นสะไภ้ให้ฉันฟังอยู่บ่อยๆ” “ระ….หรอ” “อื้อ โอ้ยฉันดีใจจริงๆ ที่แกเอาอลันอยู่หมัด” อลิชพูดด้วยรอยยิ้มบ่งบอกว่าเธอดีใจมากที่รู้ว่าฉันกับอลันคบกัน ฉันกับอลิชคุยกั
“อย่านะบาส” ฉันรีบขัดก่อนที่บาสจะพูดอะไรบ้าๆ ออกไป “กลัวว่ามันจะพูดอะไร ?” อลันถามเสียงเย็น น้ำเสียงแบบนี้ของเขานี่แหละที่น่ากลัวที่สุด “อลันฉันเจ็บ” เพราะความโกรธทำให้เขาบีบแขนฉันแรงขึ้น “ปิดบังอะไรอยู่” อลันถามอย่างคาดคั้น แต่ในตอนนี้ฉันกลับลังเลที่จะพูดความจริงออกไป “มะ ไม่มี” “โกหก!!” อลันตวาดขึ้นมาเสียงดังพร้อมกับฉุดลากฉัน “อลันปล่อยก่อนได้ไหมฉันขอร้อง” การที่ถูกฉุดลากแบบนี้มันเจ็บจนแทบอยากจะร้องไห้ออกมา เขาไม่คิดว่าฉันจะเจ็บบ้างเลยหรือไง “กลับไปเคลียร์กันที่ห้อง” ยังไม่ทันจะได้เดินไปไกลบาสก็จับอีกแขนของฉันเอาไว้ แล้วพูดกับอลัน “โทษทีว่ะ วันนี้พี่แพรต้องกลับกับกูไม่ใช่มึง” “เมียกู กูจะพากลับมึงมาเสือกเหี้ยอะไร!!” อลันตะคอกใส่บาสเสียงดังลั่น “เมียมึงแต่เป็นคู่หมั้นกู กูมีสิทธิ์มากกว่ามึงอีกนะไอ้อลัน หึ!!” ในที่สุด! ในที่สุดบาสก็พูดคำนี้ออกมา สิ่งที่ฉันไม่พร้อมจะให้อลันรับรู้ตอนนี้ “คู่หมั้น” อลันทวนคำพูดของบาส เขาหยุดนิ่งไม่ขยับราวกับถูกแช่แข็งไว้ “อ…อลัน” กำลังจะอธิบายแต่อลันผลักฉันออก เขาถอยหนีเหมือนว่าฉันมันน่ารังเกียจ “จะหมั้นกับมัน ?” “ม…ไม่มันไม่ใช่แบบนั้นนะ
“พะ พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง” ในขณะที่ถามหยดน้ำตามันก็ค่อยๆ ไหลลงมาอาบแก้ม ฉันไม่สนใจคนที่เดินผ่านไปมาเลยว่าเขาจะมองยังไง ตอนนี้ฉันสนใจแค่อลันคนเดียว “ต้องให้พูดจริงๆ ?” ฉันรู้แล้วว่าอลันต้องการจะบอกอะไร เขาแค่ไม่พูดคำนั้นออกมาแค่นั้นเอง แววตาที่เย็นชาคู่นั้นทำให้ฉันเจ็บเจียนตาย “ไม่อยากฟังฉันอธิบายหรอ อึก~ ฟังสักหน่อยก็ไม่ได้เลยหรอ”“กลับไปหาเพื่อนเหอะ! อย่ามาทำตัวแบบนี้”“ล…แล้วนายจะกลับห้องไหม” “เก็บเสื้อผ้าออกไปเมื่อไหร่จะกลับ” “จะเลิกกับฉันหรอ อึก” มันเจ็บจนไม่รู้จะเจ็บยังไงแล้วจริงๆ ทำไมอลันถึงไม่ฟังเหตุผลของฉันบ้าง “ยังจะถามทำไมอีก ในเมื่อรู้คำตอบดีอยู่แล้ว” “ไหนบอกว่ารักฉันไง รักแล้วมันเลิกกันง่ายๆ แบบนี้เลยหรอ อึก~”“…….” ครั้งนี้อลันเงียบ เขาทำเหมือนเบื่อฉันเต็มทน “พ่อฉันบังคับ พยายามจับคู่แต่ฉันไม่ได้ยอม แต่ที่ฉันไม่บอกนาย ที่ฉันยอมบาสเพราะ….” “ไม่อยากฟัง” อลันพลักฉันจนแผ่นหลังกระแทกกับผนัง ก่อนที่เขาจะรีบเดินหนี ฉันไม่รู้จะทำอะไรสมองมันอื้อไปหมดจึงวิ่งไปรั้งอลันไว้โดยการสวมกอดเขาจากด้านหลัง “อึก~ กลับห้องกันนะ กลับไปคุยกันด้วยเหตุผล ถ้าจะต้องเลิกกันจริงๆ ฉันจะป
อลันเช็ดน้ำตาออกจากแก้มให้ฉัน ก่อนที่เขาจะพูด “หยุดร้องไห้” “อึก~ มันหยุดไม่ได้” “หยุดร้องแล้วมาช่วยกันคิดแก้ปัญหา” “แก้ปัญหายังไง อึก~” “บอกให้หยุดร้องก่อน” ฉันเม้มปากแน่นพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้มันไหลออกมาอีก ส่วนอลันก็เอากระเป๋าไปเก็บในห้องให้ ฉันจึงเดินมานั่งรอเขาที่โซฟา ไม่นานนักอลันก็เดินออกมาจากห้อง เขานั่งลงข้างๆ ฉันมองเห็นนาฬิกาที่ซื้อให้เป็นของขวัญถูกถอดวางไว้จึงหยิบขึ้นมาใส่ข้อมือให้เขาเหมือนเดิม “ห้ามถอดนะ”“คิดอยู่ว่าจะเอาไปขายแล้วเอาเงินมาใช้” “นายไม่ทำแบบนั้นหรอก” ฉันมั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เลยว่าอลันไม่มีทางเอานาฬิกาเรือนนี้ที่ฉันให้ไปขายแน่ๆ “ไม่คิดจะหมั้นกับมันจริงๆ หรือแค่พูดให้สบายใจ” อลันพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล เขากลัวว่าฉันจะหมั้นกับบาสจริงๆ งั้นหรอ “ทำไมถามแบบนั้น ฉันเป็นแฟนนายนะ”“ถ้าเห็นว่าเป็นแฟนแล้วทำไมต้องโกหก บอกว่าพ่อป่วยเพื่อจะไปอยู่กับมัน รู้ไหมว่าตอนรู้ความจริงแม่งโคตรเจ็บ” “…ฉันอธิบายไปแล้วไง นายเองก็ใจร้ายที่หายไปแบบนั้น”“ไม่อยากเจอหน้า ไม่อยากพูดคุยอะไร อยากอยู่เงียบๆ คนเดียว” อลันพูดโดยไม่มองหน้าฉัน ก่อนที่เขาจะถอนหายใจออกมาหนักๆ ฉั
อลันถอยตัวออกไปตั้งใจอ่านคู่มือติดตั้งกล้องวงจรปิดต่อ จากนั้นก็เริ่มติดมันไว้ในแต่ละจุดของห้อง ติดแทบจะทุกมุมเลยก็ว่าได้ ไม่เว้นแม้กระทั่งภายในห้องนอนของฉัน และที่น่าตกใจคือติดในห้องน้ำด้วย “ดะ เดี๋ยวนะ ทำไมต้องติดในห้องน้ำด้วย” ฉันรีบเบรคอลันเอาไว้ “ความชอบส่วนตัว อยากเห็นเมียอาบน้ำ” อลันตอบแบบกวนๆ มันน่าตีจริงๆ เลย “ทะลึ่ง!!” ฉันมองค้อนอลันที่กำลังเอากล้องวงจรปิดติดในห้องน้ำ หลังจากติดกล้องหมกทุกตัวแล้วเขาก็เอาโทรศัพท์มาเชื่อมต่อ เพื่อเช็คว่ากล้องทุกตัวใช้งานได้ดี “อย่าทำให้มันสงสัย” อลันปิดจอโทรศัพท์แล้วพูดขึ้น “อื้อรู้แล้วน่า” กริ้ง~ โทรศัพท์ของอลันมีสายเรียกเข้า เขากดรับสายแล้วคุยต่อหน้าฉัน“มีอะไร” ไม่รู้ว่าปลายสายคือใครเหมือนกัน เขาไม่ได้เปิดลำโพงคุย “อืม” พูดแค่นั้นอลันก็กดวางสายแล้วเก็บโทรศัพท์ใส่ในกระเป๋ากางเกง “ไอ้กันโทรมาบอกว่าไอ้บาสกำลังจะกลับ” “นายต้องไปแล้วหรอ” “อื้อ” “ก่อนไปขออะไรสักอย่างได้ไหม ?” ฉันเดินมาใกล้ๆ อลันแล้วยิ้มหวานให้เขา “ขออะไร ?” “พูดคำว่า ผมไปก่อนนะครับพี่แพรก่อนสิ”พอฉันขอแบบนั้นอลันก็เงียบ ที่ผ่านมาเขาไม่เคยพูดอะไรทำนองนี้ในเวลาปกติเล