“อย่านะบาส” ฉันรีบขัดก่อนที่บาสจะพูดอะไรบ้าๆ ออกไป “กลัวว่ามันจะพูดอะไร ?” อลันถามเสียงเย็น น้ำเสียงแบบนี้ของเขานี่แหละที่น่ากลัวที่สุด “อลันฉันเจ็บ” เพราะความโกรธทำให้เขาบีบแขนฉันแรงขึ้น “ปิดบังอะไรอยู่” อลันถามอย่างคาดคั้น แต่ในตอนนี้ฉันกลับลังเลที่จะพูดความจริงออกไป “มะ ไม่มี” “โกหก!!” อลันตวาดขึ้นมาเสียงดังพร้อมกับฉุดลากฉัน “อลันปล่อยก่อนได้ไหมฉันขอร้อง” การที่ถูกฉุดลากแบบนี้มันเจ็บจนแทบอยากจะร้องไห้ออกมา เขาไม่คิดว่าฉันจะเจ็บบ้างเลยหรือไง “กลับไปเคลียร์กันที่ห้อง” ยังไม่ทันจะได้เดินไปไกลบาสก็จับอีกแขนของฉันเอาไว้ แล้วพูดกับอลัน “โทษทีว่ะ วันนี้พี่แพรต้องกลับกับกูไม่ใช่มึง” “เมียกู กูจะพากลับมึงมาเสือกเหี้ยอะไร!!” อลันตะคอกใส่บาสเสียงดังลั่น “เมียมึงแต่เป็นคู่หมั้นกู กูมีสิทธิ์มากกว่ามึงอีกนะไอ้อลัน หึ!!” ในที่สุด! ในที่สุดบาสก็พูดคำนี้ออกมา สิ่งที่ฉันไม่พร้อมจะให้อลันรับรู้ตอนนี้ “คู่หมั้น” อลันทวนคำพูดของบาส เขาหยุดนิ่งไม่ขยับราวกับถูกแช่แข็งไว้ “อ…อลัน” กำลังจะอธิบายแต่อลันผลักฉันออก เขาถอยหนีเหมือนว่าฉันมันน่ารังเกียจ “จะหมั้นกับมัน ?” “ม…ไม่มันไม่ใช่แบบนั้นนะ
“พะ พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง” ในขณะที่ถามหยดน้ำตามันก็ค่อยๆ ไหลลงมาอาบแก้ม ฉันไม่สนใจคนที่เดินผ่านไปมาเลยว่าเขาจะมองยังไง ตอนนี้ฉันสนใจแค่อลันคนเดียว “ต้องให้พูดจริงๆ ?” ฉันรู้แล้วว่าอลันต้องการจะบอกอะไร เขาแค่ไม่พูดคำนั้นออกมาแค่นั้นเอง แววตาที่เย็นชาคู่นั้นทำให้ฉันเจ็บเจียนตาย “ไม่อยากฟังฉันอธิบายหรอ อึก~ ฟังสักหน่อยก็ไม่ได้เลยหรอ”“กลับไปหาเพื่อนเหอะ! อย่ามาทำตัวแบบนี้”“ล…แล้วนายจะกลับห้องไหม” “เก็บเสื้อผ้าออกไปเมื่อไหร่จะกลับ” “จะเลิกกับฉันหรอ อึก” มันเจ็บจนไม่รู้จะเจ็บยังไงแล้วจริงๆ ทำไมอลันถึงไม่ฟังเหตุผลของฉันบ้าง “ยังจะถามทำไมอีก ในเมื่อรู้คำตอบดีอยู่แล้ว” “ไหนบอกว่ารักฉันไง รักแล้วมันเลิกกันง่ายๆ แบบนี้เลยหรอ อึก~”“…….” ครั้งนี้อลันเงียบ เขาทำเหมือนเบื่อฉันเต็มทน “พ่อฉันบังคับ พยายามจับคู่แต่ฉันไม่ได้ยอม แต่ที่ฉันไม่บอกนาย ที่ฉันยอมบาสเพราะ….” “ไม่อยากฟัง” อลันพลักฉันจนแผ่นหลังกระแทกกับผนัง ก่อนที่เขาจะรีบเดินหนี ฉันไม่รู้จะทำอะไรสมองมันอื้อไปหมดจึงวิ่งไปรั้งอลันไว้โดยการสวมกอดเขาจากด้านหลัง “อึก~ กลับห้องกันนะ กลับไปคุยกันด้วยเหตุผล ถ้าจะต้องเลิกกันจริงๆ ฉันจะป
อลันเช็ดน้ำตาออกจากแก้มให้ฉัน ก่อนที่เขาจะพูด “หยุดร้องไห้” “อึก~ มันหยุดไม่ได้” “หยุดร้องแล้วมาช่วยกันคิดแก้ปัญหา” “แก้ปัญหายังไง อึก~” “บอกให้หยุดร้องก่อน” ฉันเม้มปากแน่นพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้มันไหลออกมาอีก ส่วนอลันก็เอากระเป๋าไปเก็บในห้องให้ ฉันจึงเดินมานั่งรอเขาที่โซฟา ไม่นานนักอลันก็เดินออกมาจากห้อง เขานั่งลงข้างๆ ฉันมองเห็นนาฬิกาที่ซื้อให้เป็นของขวัญถูกถอดวางไว้จึงหยิบขึ้นมาใส่ข้อมือให้เขาเหมือนเดิม “ห้ามถอดนะ”“คิดอยู่ว่าจะเอาไปขายแล้วเอาเงินมาใช้” “นายไม่ทำแบบนั้นหรอก” ฉันมั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เลยว่าอลันไม่มีทางเอานาฬิกาเรือนนี้ที่ฉันให้ไปขายแน่ๆ “ไม่คิดจะหมั้นกับมันจริงๆ หรือแค่พูดให้สบายใจ” อลันพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล เขากลัวว่าฉันจะหมั้นกับบาสจริงๆ งั้นหรอ “ทำไมถามแบบนั้น ฉันเป็นแฟนนายนะ”“ถ้าเห็นว่าเป็นแฟนแล้วทำไมต้องโกหก บอกว่าพ่อป่วยเพื่อจะไปอยู่กับมัน รู้ไหมว่าตอนรู้ความจริงแม่งโคตรเจ็บ” “…ฉันอธิบายไปแล้วไง นายเองก็ใจร้ายที่หายไปแบบนั้น”“ไม่อยากเจอหน้า ไม่อยากพูดคุยอะไร อยากอยู่เงียบๆ คนเดียว” อลันพูดโดยไม่มองหน้าฉัน ก่อนที่เขาจะถอนหายใจออกมาหนักๆ ฉั
อลันถอยตัวออกไปตั้งใจอ่านคู่มือติดตั้งกล้องวงจรปิดต่อ จากนั้นก็เริ่มติดมันไว้ในแต่ละจุดของห้อง ติดแทบจะทุกมุมเลยก็ว่าได้ ไม่เว้นแม้กระทั่งภายในห้องนอนของฉัน และที่น่าตกใจคือติดในห้องน้ำด้วย “ดะ เดี๋ยวนะ ทำไมต้องติดในห้องน้ำด้วย” ฉันรีบเบรคอลันเอาไว้ “ความชอบส่วนตัว อยากเห็นเมียอาบน้ำ” อลันตอบแบบกวนๆ มันน่าตีจริงๆ เลย “ทะลึ่ง!!” ฉันมองค้อนอลันที่กำลังเอากล้องวงจรปิดติดในห้องน้ำ หลังจากติดกล้องหมกทุกตัวแล้วเขาก็เอาโทรศัพท์มาเชื่อมต่อ เพื่อเช็คว่ากล้องทุกตัวใช้งานได้ดี “อย่าทำให้มันสงสัย” อลันปิดจอโทรศัพท์แล้วพูดขึ้น “อื้อรู้แล้วน่า” กริ้ง~ โทรศัพท์ของอลันมีสายเรียกเข้า เขากดรับสายแล้วคุยต่อหน้าฉัน“มีอะไร” ไม่รู้ว่าปลายสายคือใครเหมือนกัน เขาไม่ได้เปิดลำโพงคุย “อืม” พูดแค่นั้นอลันก็กดวางสายแล้วเก็บโทรศัพท์ใส่ในกระเป๋ากางเกง “ไอ้กันโทรมาบอกว่าไอ้บาสกำลังจะกลับ” “นายต้องไปแล้วหรอ” “อื้อ” “ก่อนไปขออะไรสักอย่างได้ไหม ?” ฉันเดินมาใกล้ๆ อลันแล้วยิ้มหวานให้เขา “ขออะไร ?” “พูดคำว่า ผมไปก่อนนะครับพี่แพรก่อนสิ”พอฉันขอแบบนั้นอลันก็เงียบ ที่ผ่านมาเขาไม่เคยพูดอะไรทำนองนี้ในเวลาปกติเล
ไม่รู้ว่าตอนนี้ฉันควรทำตัวยังไงเมื่อได้ยินสิ่งที่บาสพูด เขาโหดร้ายมากเกินไปแล้ว มันก็แค่เรื่องผู้หญิงทำไมต้องเอากันถึงตาย ทำไมต้องเล่นงานไปอลันแทนที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นด้วย “พี่แพร” บาสหันมาเห็นฉันเขาจึงรีบเก็บโทรศัพท์ก่อนจะเดินมาหยุดตรงหน้าฉัน “มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ?”“พะ พี่เพิ่งมา พอดีพี่คิดได้ว่าลืมของไว้ที่รถ ดะ เดี๋ยวพี่ไปเอาของก่อนนะ” ยังไม่ทันจะได้ก้าวขาเดินไปไหนบาสก็รั้งแขนฉันเอาไว้ ก่อนที่เขาจะถาม “เมื่อกี้พี่แพรได้ยินอะไรหรือเปล่า ?” “มะ ไม่พี่ไม่ได้ยินอะไรเลย” ฉันรีบตอบแต่ไม่กล้าสบตา “แน่ใจนะว่าไม่ได้ยิน”“แน่ใจสิพี่เพิ่งเข้ามาในห้องนี่เอง”“ถ้ามันรู้แปลว่าพี่แพรยังไม่เลิกกับมัน” คำพูดที่เหมือนกำลังขู่ของบาสมันทำให้ฉันรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ “พูดเรื่องอะไรหรอบาส” ฉันแสร้งถาม“ผมจะเล่นมันให้หนักถ้าเกิดว่าทั้งหมดนี้เป็นแค่เรื่องตบตา” “……” ฉันจะทำยังไงดีถ้าไม่บอกอลันต้องเจ็บตัวแน่ๆ ถ้าลงแข่ง แต่ถ้าบอกมันก็มีค่าเท่ากัน “ในเมื่อผมเชื่อใจพี่ก็อย่าทำให้ผมผิดหวัง รู้ไหมว่าผมไม่ชอบการถูกมองเป็นคนโง่” บาสขยับใบหน้าเข้ามาใกล้ๆ ฉันเอามากๆ ใกล้ซะจนฉันสัมผัสได้ถึงไอร้อนจากลมหายใจขอ
ฉันรีบโทรไปยกเลิกเพื่อนที่ว่าจะไปคลับ แล้วบอกให้มินนี่มาหาที่ห้องแทน ให้เธอแสร้งเอาของมาให้บาสกินบอกว่าของชิ้นนั้นเธอทำเองกับมือเลยถือมาฝากก่อนจะไปคลับ และในของนั้นจะใส่ยาไว้พอบาสกินก็จะท้องเสียเข้าห้องน้ำทั้งคืนจนไม่สามารถไปไหนได้ คิดว่าบาสไม่สงสัยอะไรเพราะกับมินนี่ก็รู้จักกันอยู่แล้ว เพื่อนของฉันบาสรู้จักทุกคนยกเว้นอลิช เพราะกับอลิชบาสไม่เคยเจอกันมาก่อนนี่แหละแผนของฉัน ที่เลือกมินนี่เพราะเธอน่าจะแสดงเก่งที่สุดแล้ว หลังจากวางแผนกับมินนี่แล้วฉันก็อาบน้ำแต่งตัวเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ได้ยินเสียงมินนี่มาที่ห้อง เธอกำลังพูดคุยอยู่กับบาส ตอนนี้ฉันจะยังไม่ออกไปเพราะถ้าเจอหน้าฉันบาสอาจจะจับพิรุธได้ ผ่านไปสิบนาทีได้มินนี่นางก็ส่งแชตมา มินนี่ : เรียบร้อยแล้วค่ะเพื่อนพออ่านข้อความแล้วฉันก็เปิดประตูห้องเดินออกมา ทำแสร้งว่าไม่รู้เรื่องอะไร “บาสล่ะแก เขาบอกว่าจะไปด้วย” “ไม่รู้สิเห็นบอกจะไปเข้าห้องน้ำ นี่หายไปสักพักแล้ว” เราสองคนพูดกันเสียงดังหน่อยหวังจะให้บาสได้ยิน ฉันเดินไปที่ห้องบาส ประตูห้องน้ำปิดเอาไว้อยู่ฉันจึงเดินไปเคาะเรียก “บาสเสร็จหรือยังพี่เสร็จแล้วนะ” “เพื
ฉันลุกขึ้นจากเตียงวิ่งไปที่ประตูแต่มันไม่ทันเพราะถูกบาสคว้าตัวเอาไว้ได้ทัน ทำให้ร่างของฉันถูกเหวี่ยงมากระแทกกับเตียงอีกครั้ง “ผมไม่อยากทำให้พี่เจ็บตัวนะ” บาสบอกเสียงแข็ง “แค่ผู้หญิงคนเดียวถึงกับต้องทำกับแบบนี้เลยหรือไง” ฉันกำลังเตือนสติว่าสิ่งที่บาสทำมันผิด แต่เขาขาดสติไปแล้วไม่รับฟังอะไรที่พูดทั้งนั้น“ใช่แค่ผู้หญิงคนเดียว แต่ดันเป็นผู้หญิงที่ผมรักมากซะด้วยสิ” ร้อยยิ้มชั่วร้ายผุดขึ้นมาที่มุมปากของเขาบาสขึ้นมาคร่อมบนตัวของฉัน ฉันทั้งดิ้นและหยิกๆ ที่แขนเขาจนถูกรวบแขนทั้งสองข้างขึ้นมาขึงตรึงไว้เหนือศีรษะด้วยมือเพียงข้างเดียวของเขา“บาส ตั้งสติอย่าทำแบบนี้กับพี่นะ!!” ฉันพยายามร้องบอก แต่ต่อให้พูดจนไม่มีเสียงก็ไม่ได้รับความเห็นใจ “เคยมีอะไรกับไอ้อลันแล้วนี่ ไม่ต้องกลัวพี่แพรไม่เจ็บหรอก” “อย่านะบาส กรี๊ด!!” ฉันร้องกรี๊ดออกมาเสียงดังเมื่อใบหน้าคมคายของบาสก้มลงมาซุกไซร้ที่ซอกคอ ใจมันแทบแหลกสลายถ้าหากวันนี้ฉันมีอะไรกับบาสจริงๆ คงไม่สามารถยอมรับได้ “อย่าดิ้นเดี๋ยวจะเจ็บเอานะ” บาสพูดอู้อี้อยู่ตรงซอกคอของฉัน จากนั้นมันก็รู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ในตอนที่ริมฝีปากหน่กดทับหนักๆ “ปล่อยนะ ฉันบอกให้
เวลาผ่านไปเป็นชั่วโมงๆ ยังไม่มีวี่แววว่าอลันจะกลับขึ้นมาบนห้อง เขารู้บ้างไหมว่าฉันรอ รอให้เขามาปลอบใจ ในตอนนี้ฉันต้องการเขามากที่สุด ผ่านไปครู่ใหญ่ฉันตัดสินใจค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงหยิบผ้าขนหนูมาอาบน้ำ ฉันใช้มือถูตัวเองจนแดงเพื่อลบรอยที่น่ารังเกียจ สัมผัสที่น่าขยะแขยงทั้งน้ำตา “อึก~” ฉันทรุดตัวนั่งลงกับพื้นในห้องน้ำแล้วก้มหน้าร้องไห้ ไม่เคยมีครั้งไหนที่มันรู้สึกอยากจบชีวิตตัวเองมากเท่าครั้งนี้มาก่อน บาสทำกับฉันได้ยังไง ฉันรักและเอ็นดูเขาเหมือนน้องชายแท้ๆ คนหนึ่ง แต่นี่หรอคือสิ่งที่ได้ตอบแทน ผู้หญิงคนนั้นทำให้บาสเป็นบ้าได้ขนาดนี้เชียวหรอ ทำร้ายแม้กระทั่งฉัน ฉันใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานนับชั่วโมง แต่อลันก็ยังไม่มา จะโทรไปก็ไม่กล้า ทั้งที่เรายังเป็นแฟนกันอยู่แต่ จู่ๆ ทำไมฉันถึงรู้สึกห่างไกลจากคำนั้น…จะโทรไปหาเพื่อนก็ไม่กล้า ไม่อยากเล่าอะไรตอนนี้ ฉันได้แต่นั่งรอที่โซฟา เปิดทีวีทิ้งไว้แต่ไม่ได้สนใจ สายตามันเอาแต่จ้องมองดูเบอร์ของอลันในโทรศัพท์ เวลาผ่านไปจนถึงตีสอง ในขณะที่ฉันถอดใจและคิดว่าอลันคงไปแบบไม่กลับมาแล้ว เขารังเกียจฉันไปแล้วจริงๆ แต่จู่ๆ ประตูห้องก็เปิดเข้ามา ฉันค่อยๆ ยิ้มได้เม
5 เดือนผ่านไป ชีวิตหลังแต่งงาน “ทำให้มันดีๆ หน่อยสิอลัน” “ก็ทำดีๆ อยู่นี่ไง” “แล้วนายเอาหมูไปผัดแบบนั้นได้ยังไง ทำไมไม่ผัดหมูก่อน”“แล้วทำไมไม่บอกก่อนก็รู้ว่าทำอาหารไม่เป็น”“ทำไม่เป็นก็ถอยไปฉันจะทำเอง”“ไม่ต้องยุ่งออกไปนั่งรอเลยไป” ฉันมองสามีของตัวเองทำอาหารด้วยความเหนื่อยใจ ทำไม่เป็นยังจะเสนอตัวอวดเก่งอยากจะโชว์ฝีมือ ชีวิตคู่ของเราไม่ได้โปรยด้วยกลีบกุหลาบ ไม่ได้รักกันจนหวานชื่น เรามีปากเสียงกันในบางครั้งไม่เข้าใจกันบ้าง แต่ความรักที่มีให้กันมันก็ยังคงอยู่และเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ฉันว่ามันคงเป็นธรรมดาของชีวิตคู่ จะให้รักกันปานจะกลืนกินคงไม่ใช่ คนที่อยู่ด้วยกันการทะเลาะและปรับความเข้าใจเป็นเรื่องปกติ “เสร็จแล้วครับคุณเมีย ^_^” อลันถือจานอาหารที่ตัวเองทำมาวางไว้ที่โต๊ะด้วยสีหน้าที่ปลื้มอกปลื้มใจกับฝีมือตัวเอง “ผัดผักยังไงให้ผักไม่สุก แบบนี้จะกินยังไง” “ผักต้องสุก ?” เขาถามอย่างกับไม่เคยกินผัดผักมาก่อนในชีวิตถึงไม่รู้ว่ามันต้องสุกประมาณไหน “ถ้าลูกคลอดออกมาฉันคงไม่ไว้ใจให้นายทำอาหารให้ลูกกินแน่ๆ” “ของแบบนี้มันพัฒนากันได้ ตอนนี้ทำไม่เป็นอีกสิบปีข้างหน้าอาจจะได้เป็นเชฟกระทะเหล็กก็ไ
#บ้านของฉันฉันกับอลันมาที่บ้านด้วยกันเพื่อจะมาบอกพ่อว่าเรากำลังจะมีลูก ก่อนมาเขาได้โทรบอกพ่อกำนันแล้วเห็นว่าดีใจยกใหญ่เลย พรุ่งนี้คงจะขึ้นมากรุงเทพมาคุยเรื่องงานแต่ง “จะมาทำไมไม่บอกก่อนจะได้ให้คนจัดเตรียมอาหารเพิ่ม” พอพ่อเห็นอลันเดินมาพร้อมกับฉันก็รีบท้วงทันที ถึงก่อนหน้านี้จะใจร้ายไปบ้างแต่ตอนนี้พ่อตากับลูกเขยเริ่มเข้ากันได้แล้วนะ “หนูมีเรื่องสำคัญจะบอกพ่อค่ะ ^_^” ฉันยิ้มให้พ่อแล้วก็หันมายิ้มให้อลัน จากนั้นเราสามคนก็พากันเดินมาที่ห้องขับแขก“มีอะไรทำไมถึงต้องคุยเป็นทางการขนาดนี้ ?” พ่อถาม “พ่ออยากมีหลานคือเปล่าคะ” “อยากสิ พ่อแก่แล้วอยากจะรีบอุ้มหลานเร็วๆ” “งั้นคุณลุงก็สมหวังแล้วครับ” อลันพูดแทรก “หมายความว่ายังไง ?” พ่อขมวดคิ้วมองเราทั้งคู่สลับกัน ฉันคลี่ยิ้มก่อนจะตอบ “หนูท้องค่ะ ^_^” พอบอกว่าท้องพ่อก็เงียบไปเหมือนตกใจ ทำเอาฉันใจหาย ไหนบอกว่าอยากอุ้มหลานเร็วๆ ไง ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้น“คุณลุงไม่ดีใจหรอครับ” อลันรีบถามเพราะเห็นพ่อเงียบไป “ลง ลุงอะไรกัน เรียกพ่อได้แล้วไอ้ลูกเขย” พ่อพูดออกมาพร้อใกับรอยยิ้มบนใบหน้า ทำเอาฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกนึกว่าพ่อจะเสียใจซะอีก อีกหนึ่งเรื่องร
โรงพยาบาลตอนนี้ฉันกับอลันอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนอลิชเธอกลับไปที่บ้านแล้วเพราะต้องไปดูลูก ทั้งฉันและอลันได้รับการตรวจร่างกายอย่างละเอียดทั้งคู่ แต่ที่ต่างออกไปคือหมอให้ฉันตรวจเลือดและตรวจปัสสาวะ ตอนนี้เรากำลังนั่งรอผลตรวจอยู่อาการของอลันดีขึ้น ตอนนี้เขานั่งจนแทบจะสิงร่างฉันอยู่แล้ว “ขยับไปหน่อยได้ไหม ดูสิคนมองเยอะเลยนะ” ฉันกระซิบบอกอลัน “ขยับออกก็อ้วก จะเอาแบบนั้นไหมล่ะ” “แล้วอยู่ใกล้ฉันไม่อยากอ้วกหรือไง” เขาส่ายหน้าแทนคำตอบ ถึงอาการของเขาจะดีขึ้นแต่ร่างกายยังอิดโรย ไม่นานเท่าไหร่คุณหมอก็เรียกให้เราสองคนไปฟังผลตรวจ “ผลตรวจของคุณผู้ชายเป็นปกติดีนะคะ” “แต่เขาทั้งเวียนหัวทั้งอ้วกเลยนะคะคุณหมอ” ฉันรีบพูดแย้งขึ้นทันที “คงจะเป็นอาการแพ้ท้องแทนภรรยาค่ะ ยินดีด้วยนะคะตอนนี้คุณกำลังตั้งครรภ์ ^_^” หมอพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่คำพูดนั้นยังวนอยู่ในหัวของฉัน ยินดีด้วยนะคะคุณกำลังตั้งครรภ์ มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเราไม่เคยพลาด อลันปล่อยนอกหรือไม่ก็ใส่ถุงยางอนามัยตลอด ตอนนั้นที่ปล่อยในฉันก็กินนาคุมฉุกเฉินแล้ว คิดไม่ออกเลยว่าจะท้องได้ยังไง “จริงหรอครับคุณหมอ ผมกำลังจะมีลูกหรอคร
อลันเดินออกมาจากห้องน้ำทั้งที่ยังเอามือปิดจมูกอยู่ เขาทำท่าเหมือนขยะแขยงอาหารที่ฉันเตรียมให้มากๆ มันรู้สึกเฟลนิดๆ นะ อุตส่าห์ตั้งใจเตรียมให้แท้ๆ “ไปหาหมอไหม”“ไม่เป็นไรแค่เวียนหัวนิดหน่อย” ฉันเดินมาหาอลันแล้วยกมือขึ้นทาบบนหน้าผากของเขาเพื่อเช็คว่าตัวร้อนหรือเปล่า “ตัวก็ไม่ร้อนนี่ ทำไมจู่ๆ ถึงเป็นแบบนี้ล่ะ ฉันว่าไปหาหมอดีกว่านะอลัน”อลันสวมกอดฉันเอาไว้แน่นแล้วบอกด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “แค่กอดเมียแป๊บเดียวเดี๋ยวก็หาย” แปะ! ฉันฟาดมือลงบนแขนของอลันเบาๆ แล้วพูดค้อน “ฉันเป็นห่วงนะยังจะมาพูดเล่นอีก”“ไม่ได้พูดเล่นมันดีขึ้นจริงๆ นะ” พูดจับอลันก็เอาใบหน้ามาซุกลงบนซอกคอของฉัน “หอมจัง” “…นายคงกินไม่ได้แล้วใช่ไหมฉันจะได้เก็บ” ฉันถามเสียงเศร้า “มันเหม็น” อลันพูดกระซิบบอกที่หูเสียงเบา “อยากกินเมียแทนข้าว” ฝ่ามือสากเริ่มเลื้อยไปมาเป็นปลาหมึก ริมฝีปากหนาพรมจูบไปจนทั่วซอกคอของฉันก่อนจะขยับขึ้นมาที่พวงแก้มและประกบจูบที่ริมฝีปาก “อืม~” เสียงครางในลำคออย่างพึงพอใจของอลันทำให้ฉันรู้สึกวาบหวิว แควก! เสียงนี้คือเสียงชุดซีทรูตัวบางของฉันถูกฉีกอย่างไร้ความปรานี “อลัน!!” ฉันดันตัวออกแล้วจ้องอลันเขม็ง เข
วันต่อมา หลังจากที่อลันเลิกเรียนเราก็มาเจอเฮียเฟย นัดเจอกันที่ร้านอาหารในห้าง ฉันโทรนัดเฮียเอาไว้แล้ว #ภายในร้านอาหาร “เฮียสั่งจะกินอะไรไหมคะเดี๋ยวแพรสั่งให้” ฉันรีบถามเมื่อเฮียเฟยมาถึง มันรู้สึกเกร็งเอามากๆ สาเหตุก็เพราะอลันที่เอาแต่จ้องมองตลอดเวลา “ไม่เป็นไรเดี๋ยวเฮียต้องเข้าบริษัทไปกินที่บริษัทก็ได้”“งานยุ่งหรอคะช่วงนี้”“ก็….”“มีอะไรจะพูดก็รีบๆ พูด เอาแต่เนื้อ น้ำไม่ต้อง” อลันพูดแทรกขึ้นมาอย่างเสียมารยาท ฉันจึงหันมามองค้อนเขาด้วยสายตาที่ตำหนิ แต่เขาก็ทำท่าเหมือนทองไม่รู้ร้อน“ทีหลังถ้าจะนัดคุยมาคนเดียวดีกว่านะ แฟนแพรคงไม่สะดวก” เฮียเฟยบอก “ถ้าคุยสองต่อสองคงไม่ปล่อยให้มา” อบันตอบกลับทันควัน “นายช่วยอยู่เงียบๆ ได้ไหมอลัน” ฉันบอกเขาเสียงดุ ใจคอจะหาเรื่องให้ได้เลยหรือไง “แพรขอโทษแทนอลันด้วยนะคะ”“ไม่เป็นไรเฮียเข้าใจ แฟนแพรยังเด็ก….”“เด็กแล้วยังไง ?” เป็นอีกครั้งที่อลันถามอย่างไม่สบอารมณ์ “อลัน!!” ฉันจ้องเขาเขม็งจึงยอมปิดปากเงียบ มันน่าดีดหน้าผากแรงๆ สักทีให้เข็ดหลาบ “ที่นัดมาวันนี้แพรอยากจะมาขอโทษที่เคยพูดให้ความหวังเฮีย อยากขอโทษที่เคยดึงเฮียเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งที่แพรไม่ไ
ทางผู้ใหญ่พูดคุยกันครั้งนี้พ่อฉันยินยอมไม่ได้ขัดอย่างที่เคยลั่นวาจาเอาไว้ คุณคานส์สามีของอลิชเสนอตัวจะออกค่าใช้จ่าย ส่วนค่าสินสอดวันแต่งพ่อของอลันจะเป็นคนออกเอง โดยงานหมั้นจะจัดหลังจากที่มหาวิทยาลัยของอลันปิดเทอม ซึ่งก็คืออีกไม่นานนี้แล้ว หลังจากคุยธุระเสร็จเรียบร้อยเราก็นั่งกินข้าวด้วยกัน ฉันเองก็ยังเกร็งไม่หาย แต่ก็ดีใจที่พ่อของอลันเอ็นดูฉันมากขนาดนี้ ตอนนี้ฉันกำลังเดินเล่นกับอลิชอยู่ที่สนามหน้าบ้าน ส่วนพ่อฉันกับพ่อของอลันคุยกันเรื่องธุรกิจ พ่อของอลันสนใจอยากจะเปิดธุรกิจเล็กๆ ที่บ้านต่างจังหวัดเลยขอคำปรึกษากับพ่อ ดีใจที่ทั้งสองคุยกันถูกคอ “แกไม่กลับบ้านพร้อมสามีหรออลิช” ที่ถามแบบนี้ก็เพราะว่าฉันเห็นคุณคานส์กลับไปก่อนแล้ว “ฉันกลับพร้อมพ่อน่ะ คุณคานส์รีบไปดูลูก” “สามีดีเด่นนะเนี่ย” “แกก็เถอะ ดีใจด้วยนะ รู้ไหมฉันแทบจะกรี๊ดลั่นบ้านตอนที่รู้ว่าอลันจะจอแกหมั้น” อลิชดีใจจนออกนอกหน้า “แกไม่ห้ามน้องหน่อยหรอ หมั้นทั้งๆ ที่ยังเรียนไม่จบ” “แพร อลันเป็นผู้ชายไม่มีอะไรเสียหายหรอกนะ ดีซะอีกน้องฉันตั้งใจทำงานมากๆ แถมยังไปเรียนทุกวัน ฉันละนับถือแกจริงๆ เลยที่เอาอลันอยู่หมัดขนาดนี้” “พี่อลิช
วันต่อมา เป็นอีกวันที่ฉันอยากจะไปดูร้านของตัวเองแต่พ่อห้ามเอาไว้ บอกเหตุผลว่าตั้งแต่แม่เสียพ่อทำแต่งานไม่มีเวลาให้ฉันเลย วันนี้จึงอยากให้เราอยู่ด้วยกัน ตอนนี้ฉันกับพ่อกำลังนั่งอยู่ที่สวนหลังบ้าน สวนนี้แม่เป็นคนอยากได้พ่อก็ตามใจแม่ทุกอย่าง “พ่อสัญญากับแม่เอาไว้ว่าจะดูแลลูกสาวคนเดียวของเราให้ดีที่สุด” พ่อพูดพร้อมกับสายตาที่มองไปยังสวนดอกไม้ต้นไม้ “ลูกโกรธหรือเปล่าที่ก่อนหน้านี้พ่อเคยห้ามไม่ให้รักกับผู้ชายที่ลูกเลือก” “โกรธสิคะ หนูโกรธพ่อมากที่ไม่ยอมฟังอะไรเอาแต่ยึดติดเรื่องฐานะ” “ถึงตอนนี้พ่อเริ่มเข้าใจแล้วว่าฐานะมันไม่สำคัญขนาดนั้น” ฉันยิ้มหวานให้พ่อ “ขอบคุณนะคะที่เปิดโอกาสให้อลัน” “ถ้าลูกรักมันมากขนาดนี้มันคงจะมีอะไรดีบ้างนั่นแหละ ไม่อยากนั้นลูกสาวของพ่อคงไม่หลงหัวปักหัวปำ” “หนูไม่ได้หลงขนาดนั้นสักหน่อย” “ไอ้เรื่องแข่งรถก็บอกเตือนให้เบาลงบ้าง จะดูแลลูกสาวของพ่อได้ยังไงถ้ายังเอาชีวิตไปเสี่ยงอันตรายอยู่แบบนั้น”“ตอนนี้เขาไม่ค่อยได้แข่งแล้วค่ะเพราะต้องดูแลคลับ”“ส่วนเรื่องตาบาสพ่อมองคนผิดไปจริงๆ ตอนนี้พ่อก็ยังรู้สึกผิดที่เคยบังคับลูก” “มันผ่านไปแล้วพ่ออย่าคิดมากเลยนะคะ ตอนนี้บา
#ภายในห้องทำงาน อลันเหวี่ยงร่างของฉันให้กระแทกกับโซฟาตัวใหญ่แรงๆ ไร้คำว่าปราณี ขนาดเป็นแฟนกันนะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่ไม่ใช่สถานะแฟนฉันไม่เจอบีบคอตายเลยหรอ แต่ถึงจะเจอเหวี่ยงกระแทกโซฟาแบบนี้ฉันก็ยังยิ้มหวานให้อลัน “วันนี้แฟนฉันหล่อเป็นพิเศษเลยนะ ^_^” ฉันลุกขึ้นจากโซฟาเดินมายกมือขึ้นคล้องคออลันแล้วพูดเสียงหวาน สายตาของอลันในตอนนี้กำลังจ้องชุดที่ฉันใส่เขม็งบ่งบอกถึงอารมณ์ไม่พอใจสุดๆ ก่อนที่เขาจะแกะมือฉันออกจากต้นคอ “อะไรกันจับนิดจับหน่อยก็ไม่ได้” “ทำไมถึงใส่ชุดแบบนี้มา” เขาถามเสียงเข้ม “รู้ใช่ไหมว่าไม่ชอบ รู้ใช่ไหมว่าถ้าเห็นใส่แล้วจะเป็นยังไง” “รู้สิ ^_^” “แล้วใส่มาทำไมวะห๊ะ!! ชอบให้โมโหว่างั้น ?”“ก็นายน่ะโกรธอะไรก็ไม่รู้ไร้สาระ ก็แค่ไปคุยกับพ่อเรื่องหมั้นเอง พอฉันตอบตกลงก็กล่าวหาว่าประชด”เขาไม่โต้ตอบอะไรแต่กลับพ่นลมหายใจร้อนผ่าวออกมาแรงๆ “สรุปจะไปคุยกับพ่อนายเรื่องหมั้นหรือเปล่า ?”“ไม่ไป!! ไม่อยากหมั้นก็ไม่ต้องไป ก็ดีแยกกันอยู่อิสระดี ชอบไม่ใช่ ? ได้แต่งตัวโป๊ๆ โชว์ผู้ชายไปทั่ว” “พูดอะไรออกมารู้ตัวไหมอลัน!! นายกำลังดูถูกฉันอยู่นะ” จากที่อารมณ์ดีพอได้ยินคำพูดเมื่อครู่ของอลันมัน
“พ่อไม่ห้ามหนูกับอลันแล้วงั้นหรอคะ” ถึงจะรู้สึกผิดแต่ฉันก็ต้องถามย้ำเพื่อความแน่ใจ พ่อพยักหน้าแทนคำตอบ “พ่อจะไม่ใจร้ายกับคนที่หนูรักใช่ไหม” ฉันจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้นของพ่อ รับรู้ได้ถึงความเศร้าจากสิ่งที่ฉันเลือกเมื่อครู่ “พ่อจะไม่ขัดขวางความรักของลูกอีก ขอให้ลูกมั่นใจพ่อพูดคำไหนคำนั้น”ฉันยิ้มออกมาก่อนจะโผล่เข้ากอดพ่อแน่น เป็นอีกครั้งที่ความรู้สึกอึดอัดในใจได้ปลดล็อก ในที่สุดพ่อก็ลดคติลงได้ “ขอบคุณที่ให้โอกาสผมได้รักกับลูกสาวของคุณลุงนะครับ” อลันพูดขึ้นพ่อจึงค่อยๆ ผละกอดออกแล้วเพ่งสายตามองอลันแทน “ถึงฉันจะไม่เต็มใจแต่ลูกสาวของฉันเลือกแล้ว อย่าทำให้ผิดหวังก็แล้วกัน”“ครับ ผมจะไม่ทำให้คุณลุงผิดหวัง” “หนูไม่อยากให้พ่อคาดหวังอะไรมากมายกับอลันนะคะ” ฉันพูดแทรกขึ้นพ่อจึงตวัดสายตาหันมา “ทำไมลูกถึงพูดแบบนั้น พ่อจะคาดหวังกับผู้ชายที่ลูกเลือกไม่ได้เลยหรือไง” “ไม่มีใครเป็นอย่างที่หวังได้อย่างสมบูรณ์แบบหรอกนะคะ ไม่เว้นแม้แต่หนูที่เป็นลูกสาวของพ่อ” “…….” พ่อถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบศีรษะของฉัน “หนูอยากให้พ่อเปิดใจให้อลันจริงๆ อย่างที่หนูเปิดใจให้เขานะคะ ถ้าแม่ยังอยู่หนูเชื่