วันต่อมา หลังจากที่อลันเลิกเรียนเราก็มาเจอเฮียเฟย นัดเจอกันที่ร้านอาหารในห้าง ฉันโทรนัดเฮียเอาไว้แล้ว #ภายในร้านอาหาร “เฮียสั่งจะกินอะไรไหมคะเดี๋ยวแพรสั่งให้” ฉันรีบถามเมื่อเฮียเฟยมาถึง มันรู้สึกเกร็งเอามากๆ สาเหตุก็เพราะอลันที่เอาแต่จ้องมองตลอดเวลา “ไม่เป็นไรเดี๋ยวเฮียต้องเข้าบริษัทไปกินที่บริษัทก็ได้”“งานยุ่งหรอคะช่วงนี้”“ก็….”“มีอะไรจะพูดก็รีบๆ พูด เอาแต่เนื้อ น้ำไม่ต้อง” อลันพูดแทรกขึ้นมาอย่างเสียมารยาท ฉันจึงหันมามองค้อนเขาด้วยสายตาที่ตำหนิ แต่เขาก็ทำท่าเหมือนทองไม่รู้ร้อน“ทีหลังถ้าจะนัดคุยมาคนเดียวดีกว่านะ แฟนแพรคงไม่สะดวก” เฮียเฟยบอก “ถ้าคุยสองต่อสองคงไม่ปล่อยให้มา” อบันตอบกลับทันควัน “นายช่วยอยู่เงียบๆ ได้ไหมอลัน” ฉันบอกเขาเสียงดุ ใจคอจะหาเรื่องให้ได้เลยหรือไง “แพรขอโทษแทนอลันด้วยนะคะ”“ไม่เป็นไรเฮียเข้าใจ แฟนแพรยังเด็ก….”“เด็กแล้วยังไง ?” เป็นอีกครั้งที่อลันถามอย่างไม่สบอารมณ์ “อลัน!!” ฉันจ้องเขาเขม็งจึงยอมปิดปากเงียบ มันน่าดีดหน้าผากแรงๆ สักทีให้เข็ดหลาบ “ที่นัดมาวันนี้แพรอยากจะมาขอโทษที่เคยพูดให้ความหวังเฮีย อยากขอโทษที่เคยดึงเฮียเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งที่แพรไม่ไ
อลันเดินออกมาจากห้องน้ำทั้งที่ยังเอามือปิดจมูกอยู่ เขาทำท่าเหมือนขยะแขยงอาหารที่ฉันเตรียมให้มากๆ มันรู้สึกเฟลนิดๆ นะ อุตส่าห์ตั้งใจเตรียมให้แท้ๆ “ไปหาหมอไหม”“ไม่เป็นไรแค่เวียนหัวนิดหน่อย” ฉันเดินมาหาอลันแล้วยกมือขึ้นทาบบนหน้าผากของเขาเพื่อเช็คว่าตัวร้อนหรือเปล่า “ตัวก็ไม่ร้อนนี่ ทำไมจู่ๆ ถึงเป็นแบบนี้ล่ะ ฉันว่าไปหาหมอดีกว่านะอลัน”อลันสวมกอดฉันเอาไว้แน่นแล้วบอกด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “แค่กอดเมียแป๊บเดียวเดี๋ยวก็หาย” แปะ! ฉันฟาดมือลงบนแขนของอลันเบาๆ แล้วพูดค้อน “ฉันเป็นห่วงนะยังจะมาพูดเล่นอีก”“ไม่ได้พูดเล่นมันดีขึ้นจริงๆ นะ” พูดจับอลันก็เอาใบหน้ามาซุกลงบนซอกคอของฉัน “หอมจัง” “…นายคงกินไม่ได้แล้วใช่ไหมฉันจะได้เก็บ” ฉันถามเสียงเศร้า “มันเหม็น” อลันพูดกระซิบบอกที่หูเสียงเบา “อยากกินเมียแทนข้าว” ฝ่ามือสากเริ่มเลื้อยไปมาเป็นปลาหมึก ริมฝีปากหนาพรมจูบไปจนทั่วซอกคอของฉันก่อนจะขยับขึ้นมาที่พวงแก้มและประกบจูบที่ริมฝีปาก “อืม~” เสียงครางในลำคออย่างพึงพอใจของอลันทำให้ฉันรู้สึกวาบหวิว แควก! เสียงนี้คือเสียงชุดซีทรูตัวบางของฉันถูกฉีกอย่างไร้ความปรานี “อลัน!!” ฉันดันตัวออกแล้วจ้องอลันเขม็ง เข
โรงพยาบาลตอนนี้ฉันกับอลันอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนอลิชเธอกลับไปที่บ้านแล้วเพราะต้องไปดูลูก ทั้งฉันและอลันได้รับการตรวจร่างกายอย่างละเอียดทั้งคู่ แต่ที่ต่างออกไปคือหมอให้ฉันตรวจเลือดและตรวจปัสสาวะ ตอนนี้เรากำลังนั่งรอผลตรวจอยู่อาการของอลันดีขึ้น ตอนนี้เขานั่งจนแทบจะสิงร่างฉันอยู่แล้ว “ขยับไปหน่อยได้ไหม ดูสิคนมองเยอะเลยนะ” ฉันกระซิบบอกอลัน “ขยับออกก็อ้วก จะเอาแบบนั้นไหมล่ะ” “แล้วอยู่ใกล้ฉันไม่อยากอ้วกหรือไง” เขาส่ายหน้าแทนคำตอบ ถึงอาการของเขาจะดีขึ้นแต่ร่างกายยังอิดโรย ไม่นานเท่าไหร่คุณหมอก็เรียกให้เราสองคนไปฟังผลตรวจ “ผลตรวจของคุณผู้ชายเป็นปกติดีนะคะ” “แต่เขาทั้งเวียนหัวทั้งอ้วกเลยนะคะคุณหมอ” ฉันรีบพูดแย้งขึ้นทันที “คงจะเป็นอาการแพ้ท้องแทนภรรยาค่ะ ยินดีด้วยนะคะตอนนี้คุณกำลังตั้งครรภ์ ^_^” หมอพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่คำพูดนั้นยังวนอยู่ในหัวของฉัน ยินดีด้วยนะคะคุณกำลังตั้งครรภ์ มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเราไม่เคยพลาด อลันปล่อยนอกหรือไม่ก็ใส่ถุงยางอนามัยตลอด ตอนนั้นที่ปล่อยในฉันก็กินนาคุมฉุกเฉินแล้ว คิดไม่ออกเลยว่าจะท้องได้ยังไง “จริงหรอครับคุณหมอ ผมกำลังจะมีลูกหรอคร
#บ้านของฉันฉันกับอลันมาที่บ้านด้วยกันเพื่อจะมาบอกพ่อว่าเรากำลังจะมีลูก ก่อนมาเขาได้โทรบอกพ่อกำนันแล้วเห็นว่าดีใจยกใหญ่เลย พรุ่งนี้คงจะขึ้นมากรุงเทพมาคุยเรื่องงานแต่ง “จะมาทำไมไม่บอกก่อนจะได้ให้คนจัดเตรียมอาหารเพิ่ม” พอพ่อเห็นอลันเดินมาพร้อมกับฉันก็รีบท้วงทันที ถึงก่อนหน้านี้จะใจร้ายไปบ้างแต่ตอนนี้พ่อตากับลูกเขยเริ่มเข้ากันได้แล้วนะ “หนูมีเรื่องสำคัญจะบอกพ่อค่ะ ^_^” ฉันยิ้มให้พ่อแล้วก็หันมายิ้มให้อลัน จากนั้นเราสามคนก็พากันเดินมาที่ห้องขับแขก“มีอะไรทำไมถึงต้องคุยเป็นทางการขนาดนี้ ?” พ่อถาม “พ่ออยากมีหลานคือเปล่าคะ” “อยากสิ พ่อแก่แล้วอยากจะรีบอุ้มหลานเร็วๆ” “งั้นคุณลุงก็สมหวังแล้วครับ” อลันพูดแทรก “หมายความว่ายังไง ?” พ่อขมวดคิ้วมองเราทั้งคู่สลับกัน ฉันคลี่ยิ้มก่อนจะตอบ “หนูท้องค่ะ ^_^” พอบอกว่าท้องพ่อก็เงียบไปเหมือนตกใจ ทำเอาฉันใจหาย ไหนบอกว่าอยากอุ้มหลานเร็วๆ ไง ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้น“คุณลุงไม่ดีใจหรอครับ” อลันรีบถามเพราะเห็นพ่อเงียบไป “ลง ลุงอะไรกัน เรียกพ่อได้แล้วไอ้ลูกเขย” พ่อพูดออกมาพร้อใกับรอยยิ้มบนใบหน้า ทำเอาฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกนึกว่าพ่อจะเสียใจซะอีก อีกหนึ่งเรื่องร
5 เดือนผ่านไป ชีวิตหลังแต่งงาน “ทำให้มันดีๆ หน่อยสิอลัน” “ก็ทำดีๆ อยู่นี่ไง” “แล้วนายเอาหมูไปผัดแบบนั้นได้ยังไง ทำไมไม่ผัดหมูก่อน”“แล้วทำไมไม่บอกก่อนก็รู้ว่าทำอาหารไม่เป็น”“ทำไม่เป็นก็ถอยไปฉันจะทำเอง”“ไม่ต้องยุ่งออกไปนั่งรอเลยไป” ฉันมองสามีของตัวเองทำอาหารด้วยความเหนื่อยใจ ทำไม่เป็นยังจะเสนอตัวอวดเก่งอยากจะโชว์ฝีมือ ชีวิตคู่ของเราไม่ได้โปรยด้วยกลีบกุหลาบ ไม่ได้รักกันจนหวานชื่น เรามีปากเสียงกันในบางครั้งไม่เข้าใจกันบ้าง แต่ความรักที่มีให้กันมันก็ยังคงอยู่และเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ฉันว่ามันคงเป็นธรรมดาของชีวิตคู่ จะให้รักกันปานจะกลืนกินคงไม่ใช่ คนที่อยู่ด้วยกันการทะเลาะและปรับความเข้าใจเป็นเรื่องปกติ “เสร็จแล้วครับคุณเมีย ^_^” อลันถือจานอาหารที่ตัวเองทำมาวางไว้ที่โต๊ะด้วยสีหน้าที่ปลื้มอกปลื้มใจกับฝีมือตัวเอง “ผัดผักยังไงให้ผักไม่สุก แบบนี้จะกินยังไง” “ผักต้องสุก ?” เขาถามอย่างกับไม่เคยกินผัดผักมาก่อนในชีวิตถึงไม่รู้ว่ามันต้องสุกประมาณไหน “ถ้าลูกคลอดออกมาฉันคงไม่ไว้ใจให้นายทำอาหารให้ลูกกินแน่ๆ” “ของแบบนี้มันพัฒนากันได้ ตอนนี้ทำไม่เป็นอีกสิบปีข้างหน้าอาจจะได้เป็นเชฟกระทะเหล็กก็ไ
Talk แพร@คลับ เสียงเพลงที่ดังกระหึ่มท่ามกลางแสงไฟหลากสี ผู้หญิงผู้ชายที่มาในที่แห่งนี้ต่างสนุกและเมามาย ต่างกับฉันที่กำลังนั่งอมทุกข์อยู่ “ชวนฉันมานั่งดูแกอมทุกข์แบบนี้หรือไง” เสียงมินนี่เพื่อนของฉันเอ่ยถามแข่งกับเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มจนแสบแก้วหู “…ฉันก็อยากจะมีความสุขอยู่หรอกนะ” ตอบแค่นั้นฉันก็ยกเหล้าขึ้นมากระดกจนหมดแก้ว ที่ฉันต้องมาเศร้าอยู่แบบนี้ก็เพราะความรักที่ไม่รักดี ฉันดันไปเผลอใจรักผู้ชายคนหนึ่งมากๆ แต่เขากลับบอกเลิกด้วยเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพียงเพราะฉันยังไม่พร้อมจะมีอะไรด้วยแค่นั้น ฉันไม่คิดว่าการที่ตัวเองยังไม่พร้อมในเรื่องแบบนั้นจะใช้มาเป็นเหตุผลบอกเลิกกันได้ จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังไม่เข้าใจว่าเซ็กส์มันสำคัญมากกว่าความรู้สึกดีๆ ที่ฉันให้เขาอย่างนั้นหรอ ถึงได้เลือกจบความสัมพันธ์แบบนั้น สายตาของฉันสำรวจมองไปรอบๆ คลับอย่างเหม่อลอย จนกระทั่งไปหยุดโฟกัสที่ชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังนั่งดื่มด้วยกันอย่างสนิทสนม ริมฝีปากของฉันค่อยๆ ขยับเอ่ยชื่อผู้ชายคนนั้นออกมาด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวด “…พี่เพิร์ท” เขาคือผู้ชายที่ทำให้ผู้หญิงอย่างฉันยอมเปิดใจ ทั้งๆ ที่ฉันไม่สนใจเรื่องความรัก
หลายวันผ่านไปฉันไม่ได้ออกไปไหนที่ร้านกาแฟก็ฝากลูกน้องดูแลแทน เพื่อนของฉันแวะมาเยี่ยมบ้างแต่พวกมันก็มาไม่บ่อย บอกว่าอยากให้ฉันอยู่กับตัวเองและตอนนี้ฉันก็โอเคขึ้นบ้างแล้ว คงเป็นเพราะฉันห่างจากความรักมานาน พอมาเปิดใจรับใครแล้วต้องเจอกับความเจ็บปวดก็เลยเสียใจมาก แต่ต่อไปนี้ฉันจะพยายามเข้มแข็ง จะไม่อ่อนแอแบบที่ผ่านมาอีก แล้วก็จะไม่ทำตัวโง่ๆ ขอร้องให้พี่เพิร์ทกลับมาด้วย กริ้ง~เสียงโทรศัพท์ในมือของฉันดังขึ้น เบอร์ที่โทรมาคือเบอร์ของอลิช ฉันจึงรีบกดรับสาย( ว่าไงแก ) ฉันถาม ( แกโอเคขึ้นหรือยัง พอดีฉันอยากจะให้ไปดูอลันที่คอนโดให้หน่อยน่ะ โทรไปไม่รับสายเลย ) ( อื้อฉันอยากออกไปข้างนอกอยู่เหมือนกัน เดี๋ยวจะแวะไปดูให้นะ )จริงๆ ฉันก็ไม่ได้อยากจะรับปาก แต่เพราะเพื่อนขอร้องจึงปฏิเสธไม่ได้ น้ำเสียงของอลิชเหมือนจะกังวลไม่น้อยที่น้องชายตัวเองเงียบไป ( ขอบคุณมากนะแก ยังไงก็บอกให้อลันโทรกลับมาหาฉันด้วยนะ ห้องอลันอยู่ตรงข้ามกับห้องฉันที่คอนโดเก่านั่นแหละ ) ( อื้อๆ ) หลังจากกดรับสายแล้วฉันก็ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว วันนี้จะเป็นวันแรกที่ได้ออกไปข้างนอกหลังจากที่อุดอู้อยู่แต่ในห้องมาหลายวัน #คอนโดฉันขึ
#คอนโดหลังจากไปตรวจงานที่ร้าน Coffee เป็นร้านเล็กๆ ของฉันเอง กลับมาถึงคอนโดก็ช่วงเย็นๆ คงเป็นเพราะว่าอยู่ที่ห้องมานานหลายวันมันถึงทำให้ฉันรู้สึกเบื่อแบบนี้ จะไปหาอลิชก็ไม่ได้ ตอนนี้นางใจอ่อนให้สามีแล้วคงอยากมีเวลาส่วนตัว ฉันหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าแล้วพิมพ์แชตกลุ่มไปหาเพื่อน ฉัน: วันนี้ไปดื่มกัน พอฉันพิมพ์บอกไปทั้งขวัญและมินนี่ก็พิมพ์ตอบกลับมาเร็วมากๆ ขวัญ: เย้!! ในที่สุดเพื่อนคนเดิมของฉันก็กลับมาสักที รู้ไหมไม่ได้ยินแกชวนไปดื่มตั้งนานโคตรเหงาเลย ฉัน: ขนาดนั้นเชียว ?มินนี่: แล้วแกโอเคขึ้นหรือยังเรื่องผู้ชายคนนั้น ฉัน: อื้อ โอเคขวัญ: ตอบแบบนี้แปลว่าไม่ชัวร์ มินนี่: ไปแล้วทำหน้าหงอยแบบรอบที่แล้วตบนะคะ ฉัน: สามทุ่มครึ่งเจอกันที่หน้าคลับแล้วกัน พวกนางรู้ดีว่าฉันหมายถึงคลับไหน เพราะเราจะมีคลับที่ไปดื่มกันประจำพิมพ์บอกเสร็จฉันก็กดปิดแชตแล้วถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย ชีวิตตอนนี้รู้สึกว่ามันไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น มันว่างเปล่าจริงๆ เมื่อไหร่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมสักทีนะ เวลา 21:30 น. #คลับหรูใจกลางเมือง ทั้งที่ฉันนัดสองคนนั้นเวลานี้แท้ๆ แต่ไม่เห็นจะมีใครโผล่หัวมาเลย พอฉันโทรถาม