Talk แพร@คลับ เสียงเพลงที่ดังกระหึ่มท่ามกลางแสงไฟหลากสี ผู้หญิงผู้ชายที่มาในที่แห่งนี้ต่างสนุกและเมามาย ต่างกับฉันที่กำลังนั่งอมทุกข์อยู่ “ชวนฉันมานั่งดูแกอมทุกข์แบบนี้หรือไง” เสียงมินนี่เพื่อนของฉันเอ่ยถามแข่งกับเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มจนแสบแก้วหู “…ฉันก็อยากจะมีความสุขอยู่หรอกนะ” ตอบแค่นั้นฉันก็ยกเหล้าขึ้นมากระดกจนหมดแก้ว ที่ฉันต้องมาเศร้าอยู่แบบนี้ก็เพราะความรักที่ไม่รักดี ฉันดันไปเผลอใจรักผู้ชายคนหนึ่งมากๆ แต่เขากลับบอกเลิกด้วยเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพียงเพราะฉันยังไม่พร้อมจะมีอะไรด้วยแค่นั้น ฉันไม่คิดว่าการที่ตัวเองยังไม่พร้อมในเรื่องแบบนั้นจะใช้มาเป็นเหตุผลบอกเลิกกันได้ จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังไม่เข้าใจว่าเซ็กส์มันสำคัญมากกว่าความรู้สึกดีๆ ที่ฉันให้เขาอย่างนั้นหรอ ถึงได้เลือกจบความสัมพันธ์แบบนั้น สายตาของฉันสำรวจมองไปรอบๆ คลับอย่างเหม่อลอย จนกระทั่งไปหยุดโฟกัสที่ชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังนั่งดื่มด้วยกันอย่างสนิทสนม ริมฝีปากของฉันค่อยๆ ขยับเอ่ยชื่อผู้ชายคนนั้นออกมาด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวด “…พี่เพิร์ท” เขาคือผู้ชายที่ทำให้ผู้หญิงอย่างฉันยอมเปิดใจ ทั้งๆ ที่ฉันไม่สนใจเรื่องความรัก
หลายวันผ่านไปฉันไม่ได้ออกไปไหนที่ร้านกาแฟก็ฝากลูกน้องดูแลแทน เพื่อนของฉันแวะมาเยี่ยมบ้างแต่พวกมันก็มาไม่บ่อย บอกว่าอยากให้ฉันอยู่กับตัวเองและตอนนี้ฉันก็โอเคขึ้นบ้างแล้ว คงเป็นเพราะฉันห่างจากความรักมานาน พอมาเปิดใจรับใครแล้วต้องเจอกับความเจ็บปวดก็เลยเสียใจมาก แต่ต่อไปนี้ฉันจะพยายามเข้มแข็ง จะไม่อ่อนแอแบบที่ผ่านมาอีก แล้วก็จะไม่ทำตัวโง่ๆ ขอร้องให้พี่เพิร์ทกลับมาด้วย กริ้ง~เสียงโทรศัพท์ในมือของฉันดังขึ้น เบอร์ที่โทรมาคือเบอร์ของอลิช ฉันจึงรีบกดรับสาย( ว่าไงแก ) ฉันถาม ( แกโอเคขึ้นหรือยัง พอดีฉันอยากจะให้ไปดูอลันที่คอนโดให้หน่อยน่ะ โทรไปไม่รับสายเลย ) ( อื้อฉันอยากออกไปข้างนอกอยู่เหมือนกัน เดี๋ยวจะแวะไปดูให้นะ )จริงๆ ฉันก็ไม่ได้อยากจะรับปาก แต่เพราะเพื่อนขอร้องจึงปฏิเสธไม่ได้ น้ำเสียงของอลิชเหมือนจะกังวลไม่น้อยที่น้องชายตัวเองเงียบไป ( ขอบคุณมากนะแก ยังไงก็บอกให้อลันโทรกลับมาหาฉันด้วยนะ ห้องอลันอยู่ตรงข้ามกับห้องฉันที่คอนโดเก่านั่นแหละ ) ( อื้อๆ ) หลังจากกดรับสายแล้วฉันก็ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว วันนี้จะเป็นวันแรกที่ได้ออกไปข้างนอกหลังจากที่อุดอู้อยู่แต่ในห้องมาหลายวัน #คอนโดฉันขึ
#คอนโดหลังจากไปตรวจงานที่ร้าน Coffee เป็นร้านเล็กๆ ของฉันเอง กลับมาถึงคอนโดก็ช่วงเย็นๆ คงเป็นเพราะว่าอยู่ที่ห้องมานานหลายวันมันถึงทำให้ฉันรู้สึกเบื่อแบบนี้ จะไปหาอลิชก็ไม่ได้ ตอนนี้นางใจอ่อนให้สามีแล้วคงอยากมีเวลาส่วนตัว ฉันหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าแล้วพิมพ์แชตกลุ่มไปหาเพื่อน ฉัน: วันนี้ไปดื่มกัน พอฉันพิมพ์บอกไปทั้งขวัญและมินนี่ก็พิมพ์ตอบกลับมาเร็วมากๆ ขวัญ: เย้!! ในที่สุดเพื่อนคนเดิมของฉันก็กลับมาสักที รู้ไหมไม่ได้ยินแกชวนไปดื่มตั้งนานโคตรเหงาเลย ฉัน: ขนาดนั้นเชียว ?มินนี่: แล้วแกโอเคขึ้นหรือยังเรื่องผู้ชายคนนั้น ฉัน: อื้อ โอเคขวัญ: ตอบแบบนี้แปลว่าไม่ชัวร์ มินนี่: ไปแล้วทำหน้าหงอยแบบรอบที่แล้วตบนะคะ ฉัน: สามทุ่มครึ่งเจอกันที่หน้าคลับแล้วกัน พวกนางรู้ดีว่าฉันหมายถึงคลับไหน เพราะเราจะมีคลับที่ไปดื่มกันประจำพิมพ์บอกเสร็จฉันก็กดปิดแชตแล้วถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย ชีวิตตอนนี้รู้สึกว่ามันไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น มันว่างเปล่าจริงๆ เมื่อไหร่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมสักทีนะ เวลา 21:30 น. #คลับหรูใจกลางเมือง ทั้งที่ฉันนัดสองคนนั้นเวลานี้แท้ๆ แต่ไม่เห็นจะมีใครโผล่หัวมาเลย พอฉันโทรถาม
“ฉันเล่นเกมกับเพื่อน ตอนนี้ไม่มีเวลาอธิบายไปกับฉันก่อน” “ไม่ไป” เขาตอบแบบไม่ทันได้คิดเลยด้วยซ้ำ แถมยังพูดต่ออีกด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก “ยืนอยู่ทำไมเกะกะ” เป็นการไล่ที่ไม่มีคำหยาบแต่พอมันออกมาจากปากของอลัน ทำเอาฉันสะอึกแทบพูดไม่ออก “ถ้านายไม่ไปฉันจะบอกอลิชว่านายมาดื่ม แล้ววันนี้ก็มีผู้หญิงไปหานายที่ห้องด้วย” ฉันหาข้ออ้างเพื่อให้ตัวเองถือไพ่เหนือกว่า “เชิญ” คำตอบสั้นๆ ไม่สนใจในสิ่งที่ฉันยกมาเป็นข้ออ้างทำให้ฉันหมดหนทาง“ใครวะอลัน ?” เพื่อนอลันคงจะสงสัยว่าฉันเป็นใครถึงได้ถามเขา แต่คนถูกถามไม่ยอมตอบเอาแต่นั่งดื่ม ฉันจึงตอบแทน “ฉันเป็นเพื่อนพี่สาวเขาน่ะ” พอฉันบอกแบบนั้นผู้ชายที่โต๊ะก็พยักหน้าเข้าใจ มีแค่อลันที่ยังเงียบ หรือฉันควรจะยอมแพ้แล้วเดินกลับไปที่โต๊ะคนเดียวดีนะ ไม่สิ! เลี้ยงเหล้าหนึ่งเดือนหมดเงินเยอะเหมือนกันนะ ยิ่งดื่มเก่งกันด้วย ถึงบ้านฉันจะมีฐานะแต่ฉันก็ไม่อยากเสียเงินมากมายแบบนั้นไปกับค่าเหล้า ฉันเปิดกระเป๋าแล้วหยิบเงินออกมาสองพันยื่นให้อลัน “ฉันจ้างนายก็ได้ไปกับฉันแค่สองสามนาทีได้ไปสองพันคุ้มเกินคุ้มอีกนะ” “ไม่ได้เห็นแก่เงิน” อลันตอบโดยไม่สนใจหันมามองเงินที่ฉันยื่นให
Talk อลัน “รถจอดไว้ตรงไหน ?” ผมถามผู้หญิงน่ารำคาญที่อยู่ในอ้อมแขน “ม่ายรู้ลองกดกุญแจดูสิ” เธอพูดในลำคอ รู้ตัวว่าดื่มแล้วจะเมาก็ยังจะดื่ม จริงๆ เธออายุมากกว่าผม แต่ผมมันพวกไม่ค่อยมีมารยาทเลยไม่อยากจะใช้คำนำหน้าว่าพี่สักเท่าไหร่ อีกอย่างตัวเล็กแค่นี้มายืนคู่กับผมใครก็ดูไม่ออกว่าเธออายุมากกว่า ผมซุ่มกดปลดล็อกกุญแจดูว่ารถอยู่ตรงไหน เมื่อมองเห็นไฟที่รถคันหนึ่งกระพริบจึงรีบเดินไปที่รถคันนั้น “นั่งเฉยๆ จะคาดเข็มขัดให้” ผมบอกอย่างหงุดหงิด ถ้าไม่ใช่เพราะเธอเป็นเพื่อนของพี่สาวคงไม่มีทางยอมขับรถไปส่งแบบนี้แน่ๆ “อื้อ~” เสียงเล็กครางออกมาในลำคอเบาๆ แล้วถามอย่างเหม่อลอย “ทามมายผู้ชายถึงคิดแต่จะทำเรื่องนั้น” “เรื่องไหน” ผมถามก่อนจะสตาร์ทรถ “…เรื่องบนเตียง” “จะคิดมากทำไมใครๆ เขาก็เอากันทั้งนั้น” “มัน อึก เป็นเรื่องปกติหรอ ?” เธอหันหน้ามาถามเหมือนไม่รู้ว่าเรื่องบนเตียงใครเขาก็ทำกัน ความซื่อบื้อแบบนี้มันขัดกับอายุจริงๆ แกล้งทำตัวใสซื้อหรือเปล่าวะ“ไม่เคยเอากับใครเลยว่างั้น ?” “ฉันม่ายด้ายมั่วสักหน่อย”“อืม” ผมตอบปัดรำคาญ ไม่ชอบผู้หญิงที่พูดมากเท่าไหร่ ยิ่งผู้หญิงที่พูดไม่รู้เรื่องแบบนี้ทำให
Talk แพร แสงแดดยามเช้าสาดส่องมากระทบกับในหน้า ทำให้ฉันที่กำลังนอนหลับอยู่ค่อยๆ รู้สึกตัวปรือตาขึ้น สัมผัสแรกที่ได้รับหลังจากที่ตื่นนอนคืออาการหนักอึ้งไปทั้งหัว พยายามจะคิดทบทวนเรื่องราวเมื่อคืน หลังจากออกมาจากห้องน้ำแล้วจำได้ว่าเจออลัน เจอพี่เพิร์ท แต่ฉันกลับไปที่โต๊ะยังไง กลับมาที่ห้องได้ยังไงแต่ก็คิดไม่ออก “อ่า! ทำไมเตียงมันแข็งแบบนี้นะ” ฉันบ่นพึมพำก่อนจะค่อยๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งยกมือขึ้นมาขยี้ตา พลางมองไปรอบๆ แล้วก็ต้องตกใจ“นะ นี่ฉันอยู่ที่ไหน” ฉันอุทานออกมาหัวใจดวงน้อยเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ เพราะในตอนนี้ฉันอยู่ในห้องของใครก็ไม่รู้ ตัวฉันนอนอยู่ที่พื้นพรมข้างๆ กับโซฟา บนโต๊ะกระจกที่วางของเล็กๆ มีชามโจ๊กวางอยู่ด้วย พยายามคิดว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นทำไมภาพมันถึงตัดไปแบบนั้น หลังจากที่ถูกอลันดึงตัวออกมาจากพี่เพิร์ทฉันก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย แต่จะว่าไปพอมองไปรอบๆ อีกครั้งก็รู้สึกคุ้นๆ กับห้องนี้ พร้อมกับคิดขึ้นมาได้“หะ ห้องอลัน” ฉันอุทานออกมาอีกครั้งแล้วยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองอย่างตกใจสุดขีด แกร็ก! เสียงประตูห้องเปิดออก ร่างของอลันที่แต่งตัวด้วยชุดนักศึกษาไม่ค่อยจะเรียบร้อยเท่าไหร่เ
#คอนโด ฉันกลับมาคอนโดด้วยความรู้สึกที่เหนื่อยล้า ตั้งแต่ตื่นยังไม่ได้หยิบโทรศัพท์มาเช็ค มาถึงห้องฉันจึงเปิดโทรศัพท์ดูข้อความและก็ได้เห็นว่าเพื่อนของฉันแชตมารัวๆ แชตกลุ่ม ขวัญ: ยัยแพรแกหายไปไหน ขวัญ: ทำไมฉันโทรหาแกถึงไม่รับสาย มีใครทำอะไรแกหรือเปล่ามินนี่: รถแกก็ไม่อยู่จะออกไปไหนทำไมไม่บอกพวกฉัน รู้ไหมว่าเพื่อนเป็นห่วง มินนี่: แกนี่มันจริงๆ เลยนะ ถ้าครบยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้วยังไม่ติดต่อกลับมาฉันกับยัยขวัญจะไปแจ้งความคนหายจริงๆ ด้วย ฉันอ่านข้อความที่เพื่อนส่งมายาวเหยียด ก่อนจะตอบกลับฉัน: เมื่อคืนเมามากฉันกลับมาที่ห้อง ขอโทษที่ไม่ได้บอกแกสองคนนะ ฉันตอบไปไม่ถึงห้าวินาทีขวัญกับมินนี่ก็อ่านข้อความพร้อมกัน มินนี่: เมื่อคืนฉันไปหาแกที่ห้องแต่แกไม่อยู่หนิ เคาะประตูเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมเปิดขวัญ: แล้วแกเมาได้ยังไง ฉัน: พวกแกขี้สงสัยกันจังเลยนะ ฉันไม่ได้หนีไปอยู่กับผู้ชายที่ไหนหรอก บอกว่ากลับห้องก็คือกลับ ตอนไปเข้าห้องน้ำมีคนยื่นเหล้าเพียวให้กิน ฉันรำคาญก็เลยกินไปหมดแก้ว มึนหัวเลยกลับมาคอนโด มินนี่: แต่แกก็ใจร้ายอยู่ดีนั่นแหละทิ้งฉันกับยัยขวัญให้เป็นห่วง ฉัน: ขอโทษค่า! จะให้ทำอะไรไถ่โ
#คอนโดอลัน อลันเงียบมาตลอดทางมันยิ่งตอกย้ำให้ฉันรู้สึกผิดมากกว่าเดิม อุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นฉันก็พยายามจะรับผิดชอบเต็มที่ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ไม่ใช่แค่รถของเขาที่เสียหาย รถฉันก็เหมือนกัน“พรุ่งนี้ฉันจะให้คนเอารถมาให้นายนะ….”“ไม่ต้อง” อลันตอบกลับเสียงเย็นก่อนจะหันหน้ามามองฉันด้วยสายตาที่ไร้ความรู้สึก “ไม่ได้อยากได้รถใหม่” “แต่รถนายเอาไปซ่อมคงใช้เวลาเป็นเดือนๆ เลยนะ” “อืม” “เดี๋ยวฉันโทรปรึกษากับอลิชก่อนดีกว่า” ฉันก้มหน้าลงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแต่ยังไม่ทันจะได้กดโทรออกโทรศัพท์ในมือก็ถูกอลันแย่งไป “จะโทรบอกพี่อลิชเพื่อ ?”“ก็….” “ยุ่ง!!” ยังไม่ทันที่จะตอบอะไรอลันก็พูดสวนขึ้นมาอย่างหงุดหงิด เวลาฉันอยู่กับเด็กคนนี้รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ถูกเขากดขี่ตลอดเวลา ฉันไม่มีความรู้สึกว่าตัวเองอายุเยอะกว่าผู้ชายคนนี้เลย“โอเคฉันจะไม่บอกอลิช ถ้านายไม่อยากให้ฉันเอารถมาทิ้งไว้ให้ในระหว่างที่รถของนายซ่อมอยู่ก็ได้ ฉันจะรับผิดชอบค่าซ่อมรถทั้งหมดให้ แค่นี้ใช่ไหมที่นายต้องการ ถ้าอย่างนั้นฉันขอโทรศัพท์คืนด้วย” ฉันแบมือขอโทรศัพท์ตัวเองคืนจากอลัน แต่เขากลับนิ่งเฉยไม่ยอมค