#คลับหรูใจกลางเมือง
“ยัยแพร ชนแก้วค่ะ” ขวัญยกแก้วขึ้นมาชนกับฉันที่นั่งนิ่งๆ เหมือนไม่มีอารมณ์ร่วมกับการมาดื่มในครั้งนี้ “บอกแล้วใช่ไหมว่าถ้ามาดื่มอย่าเศร้า เมื่อไหร่ฉันจะได้เพื่อนคนเดิมกลับมาสักที” มินนี่บ่นพร้อมกับทำหน้าบึ้ง “ฉันไม่ได้เศร้าสักหน่อย” ฉันค้านเพื่อน “หรอออออ!!” ทั้งมินนี่แหละขวัญต่างแย้งขึ้นมาพร้อมๆ กัน “แกเฮียเฟยมา” มินนี่สะกิดฉันก่อนที่เธอกับขวัญจะยกมือไหว้เฮียเฟยผู้ที่เป็นเจ้าของคลับ “วันนี้มาดื่มไม่เห็นบอกเฮียก่อนเลย” “ยุ่งๆ น่ะค่ะแพรเลยไม่ได้ทักบอก” “ขอเฮียนั่งดื่มด้วยคนนะ” “นี่คลับเฮียหนิ แพรห้ามได้หรอ ?” ฉันถามกลับอย่างยียวนทำให้เฮียเฟยหัวเราะในลำคอเบาๆ “ยัยแพรเดี๋ยวฉันกับขวัญไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” มินนี่บอกจากนั้นก็รีบดึงตัวขวัญออกไป “อื้อ ฉันไม่ได้จะไปห้องน้ำสักหน่อย” ขวัญปัดมือมินนี่ออกแต่ถูกมินนี่ลากตัวไปอยู่ดี ทำไมฉันจะมองไม่ออกว่าเพื่อนของตัวเองกำลังเปิดทางให้ฉันนั่งอยู่กับเฮียเฟยสองต่อสอง “แพรชอบผู้ชายแบบไหน ?” ผ่านไปครู่หนึ่งเฮียเฟยก็ถามขึ้น “ชอบคนที่อายุเยอะกว่าค่ะ” พอได้ฟังคำตอบของฉันเฮียเฟยก็คลี่ยิ้มออกมา แล้วถามฉันต่อ “ชอบตรงไหน ?” “ชอบที่เขาเรียกเราว่าน้องแล้วแทนตัวเองว่าพี่ค่ะน่ารักดี เป็นพี่น้องกันก็ดีแล้วเนอะ ^_^” “อืม ชัดเจนดี” เฮียเฟยเบ้บปากใส่ฉัน ครืด~ ขณะที่นั่งคุยกับเฮียเฟยอยู่โทรศัพท์ในมือของฉันก็สั่นแรงๆ เพราะมีสายเรียกเข้า “เดี๋ยวแพรขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ” “ตามสบายครับ” ฉันก้มมองเบอร์ที่ไม่รู้จักอย่างแปลกใจก่อนจะเดินออกมาจากคลับ ปกติฉันไม่รับสายเบอร์แปลกเท่าไหร่ แต่ช่วงหลังๆ มานี้ฉันมักจะรับเบอร์แปลกบ่อยๆ เพราะคิดว่าคนที่โทรมาอาจจะเป็นพี่เพิร์ทก็ได้ ( ฮัลโหลค่ะ ) ฉันกดรับสายด้วยหัวใจที่เต้นรัว ( หิวข้าว ) เสียงของปลายสายไม่ใช่เสียงของพี่เพิร์ท แล้วเป็นใครกัน ( นั่นใครหรอคะ ) ( อลัน ) พอได้ยินชื่อของปลายสายที่โทรเข้ามาฉันก็เงียบไปครู่ใหญ่ ( อยากออกไปหาอะไรกินข้างนอก มารับหน่อยดิ ) นี่ไม่ใช่ประโยคขอร้องแต่เป็นประโยคคำสั่ง ฉันถึงกับถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่เมื่อได้ฟังคำสั่งจากอลัน ( มันดึกแล้วนะ ทำไมนายไม่สั่งแกร๊ปจะออกไปซื้อกินเองทำไม ) ( ให้เวลาสิบนาที ) เขาพูดสั้นๆ ก่อนที่สายจะถูกตัดไป อยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ ให้เวลาสิบนาทีฉันจะไปทันได้ยังไง บ้าหรือเปล่า!!ฉันกดส่งข้อความไปบอกเพื่อนว่าขอเวลาออกไปทำธุระหนึ่งชั่วโมงเดี๋ยวจะกลับมา จากนั้นก็ขับรถตรงมาที่คอนโดอลัน
ครืด~ โทรศัพท์ของฉันสั่นขึ้นอีกครั้ง เป็นเบอร์ของอลันที่โทรมา ฉันจำได้ไม่ผิดแน่ ( อื้อ ฉันกำลังไปตอนนี้ติดไฟแดงอยู่ ) ฉันกรอกเสียงออกไปอย่างเบื่อหน่าย ( ไม่ต้องมา ) ( วะ ว่าไงนะ แต่ฉันใกล้จะถึงคอนโดนายแล้วนะ แกล้งกันอย่างนั้นหรอ ) ฉันตะเบ็งเสียงถามออกไปอย่างหัวเสีย คนอุตส่าห์รีบขับรถมาแท้ๆ ( หรืออยากจะมานอนรอที่ห้องก็ได้นะ เดี๋ยวเอาคีการ์ดไว้ให้ ) ( บะ บ้าหรอ! ใครอยากจะนอนห้องนายกันไอ้เด็กโรคจิต!!) ฉันรีบกดตัดสายทิ้งทันที คิดแล้วก็หงุดหงิดที่ถูกหลอกให้ขับรถออกมาแบบนี้ ทำไมฉันต้องเสียท่าให้กับอลันบ่อยๆ แบบนี้ด้วย คงต้องรีบเร่งให้ช่างจัดการซ่อมรถของอลันให้เสร็จเร็วๆ แล้วแหละ ไม่อย่างนั้นชีวิตของฉันคงไม่สงบสุขแน่ๆเช้าวันต่อมาครืด ครืด~ เสียงโทรศัพท์บนหัวเสียงที่กำลังสั่นเหมือนเป็นนาฬิกาปลุกให้ฉันตื่นขึ้น “อื้อ ใครโทรมาแต่เช้าเนี่ย” ฉันที่ยังหลับตาอยู่ควานมือคลำหาโทรศัพท์พร้อมกับบ่นไปด้วย เมื่อคลำเจอโทรศัพท์แล้วก็กดรับสายแล้วกรอกเสียงพูดออกไปอย่างงัวเงีย( ฮัลโหล อีกสองชั่วโมงค่อยโทรมาได้ไหม ฉัน…)( มารับ จะไปเรียน ) เสียงทุ้มเข้มเอ่ยบอกสั้นๆ ทำให้ฉันที่หลับตาอยู่เปิดเปลือกตาขึ้นมองเบอร์ที่โทรเข้ามา ‘อลัน’ อยากจะกรี๊ดดังๆ ถ้ารู้ว่าเป็นเบอร์เขาฉันคงไม่รับสายแน่ๆ แล้วนี่มันเพิ่งจะหนึ่งโมงเช้า ทำไมเขาถึงไปเรียนเช้าขนาดนี้กัน ( นายเรียกแท็กซี่ไปได้ไหมเดี๋ยวฉันจ่ายค่ารถให้ ) ( ไม่ได้ ) อลันตอบกลันมาเสียงแข็ง ( ถ้าอย่างนั้นก็ให้เพื่อนนายไปรับก่อน ฉันตื่นไม่ไหวหรอกนะเมื่อคืนกว่าจะได้นอน )( โทรไปให้มารับไม่ได้ถามว่าตื่นไหวหรือเปล่า ) อลันตอบกลับมาอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ทำให้ฉันที่นอนอยู่ดีดตัวลุกขึ้นนั่งอย่างหงุดหงิด ( เออ! จะไปเดี๋ยวนี้แหละ ) ฉันตอบกลับไปอย่างหัวเสียก่อนจะลุกขึ้นไปล้างหน้าแปลงฟันไม่ได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ชุดที่ใส่ก็เป็นชุดที่ใส่เที่ยวเมื่อคืนนั่นแหละ #คอนโดอลันพอขับร
#คอนโดของฉันเบอร์ของพี่เพิร์ทยังคงโทรมาอยู่เรื่อยๆ ไม่รู้ว่าเขามีปัญหาอะไรหรือเปล่า ฉันเองก็อยากจะเมินเฉยอย่างที่เขาเคยทำ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ฉันก็ไม่ได้ใจแข็งขนาดนั้น ในที่สุดฉันก็ใจอ่อนยอมกดรับสาย( ว่าไงคะ ) ฉันพยายามถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่ใส่ใจ( พี่คิดว่าจะไม่รับสายกันแล้วซะอีก ) ( มีอะไรก็รีบๆ พูดมาเถอะค่ะ ) ( คืนนี้มาดื่มด้วยกันไหม ) ( ต้องการแค่ให้แพรไปดื่มเป็นเพื่อนแค่นั้นหรอคะ ) ( พี่อยากจบด้วยดีนะ ไม่อยากให้แพรเกลียดพี่ ) เหมือนพี่เพิร์ทจะไม่รู้ว่าตัวเองผิดอะไร เหตุผลที่เขาใช้บอกเลิกฉันมันโคตรจะเห็นแก่ตัว ฉันอยากจะตัดเขาออกไปจากชีวิต ไม่อยากคิดถึง ไม่อยากรู้สึก ฉันควรจะทำยังไงดีให้ตัวเองเข้มแข็งกว่านี้ ( แพรไม่ว่างค่ะ ) ฉันใจแข็งปฏิเสธออกไปและกำลังจะกดวางสาย แต่เสียงของพี่เพิร์ทพูดขัดขึ้นมาซะก่อน ( ขอเวลาแค่แป๊บเดียวเองนะครับ )( แพรเลิกยุ่งกับพี่เพิร์ทแล้วนะคะ แพรปล่อยพี่เพิร์ทไปแล้วทำไมพี่ยังไม่ปล่อยแพร ตอนแรกพี่เพิร์ทเมินแพรขนาดไหนรู้ตัวบ้างไหมคะ แล้วตอนนี้จะอยากเจอกันอีกทำไม…..อึก~) ฉันก้มหน้าร้องไห้สะอื้นออกมา อุตส่าห์เข้มแข็งมาได้ตั้งนาน สุดท้ายฉันก็กลับไป
หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบเมื่อเห็นสายตาเอาผิดของอลัน เขาเดินหนีไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ“อะ เอ่อคือเขาคงจะโกรธที่แพรมาเจอพี่เพิร์ท แพรขอตัวนะคะ” ฉันบอกพี่เพิร์ทจากนั้นก็รีบเดินตามอลัน เขาไม่ได้กลับไปโต๊ะเพื่อนแต่เดินออกไปจากคลับ “อลันรอฉันด้วยสิ” ฉันตามมาเพราะจะขอโทษเพราะเหมือนเขาจะไม่พอใจที่ฉันใช้เขาเป็นเครื่องมือโดยไม่ได้บอกอะไรก่อน อลันเดินไปนั่งที่เก้าอี้ไม้ด้านหน้าคลับ จากนั้นก็หยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ ฉันเดินมาหยุดตรงหน้าเขาถึงแม้จะไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ก็ตาม อลันพ่นขวัญสีขาวคลุ้งออกมาก่อนจะเงยขึ้นมองฉัน แล้วพูด “จะตามมาเพื่อ ?” “ฉันจะมาขอโทษที่ไม่ได้บอกนายก่อน ฉันเองก็ไม่รู้จะหาใครมาเป็นข้ออ้างมีแค่นายคนเดียวที่รู้จัก”“ไหนบอกจะกลับแล้วมาเจอมันทำไม” “ฉันแค่อยากจบ…..” พูดไม่ทันจบอลันก็เอ่ยสวนขึ้นมาทันควัน “ข้ออ้าง” ฉันเม้มปากแน่น “…นายจะคิดแบบนั้นก็ได้ ฉันกำลังหาข้ออ้างอยู่ ความจริงแล้วฉันอยากเจอเขาแต่เขาหวังกับฉันแค่เรื่องเดียว” อลันพ่นควันบุหรี่ออกมาเหมือนไม่ใส่ใจคำพูดของฉันเท่าไหร่ ฉันเองก็ไม่ได้หวังให้เขามาใส่ใจหรอก บางครั้งก็แค่อยากระบายมันออกมา…. “ฉันขอดื่มที่โต๊ะนายด้วยได้ไหม ?
“กุญแจ” เมื่อเดินออกมาด้านนอกคลับอลันก็ยื่นมือมาขอกุญแจรถจากฉัน ฉันที่เมาจนโลกมันกำลังมุนไปรอบๆ ตัวเองในตอนนี้แทบจะยืนไม่อยู่ แต่ก็ยังทำเป็นเก่งเพราะไม่อยากให้เขามาสนใจ อยากให้ไปสนุกกับเพื่อนกับผู้หญิงที่เขาจะไปนอนด้วย “ฉันขับรถกลับเองได้” พูดจบฉันก็เดินเซซ้ายทีขวาทีตรงมาที่รถ เมื่อเดินมาถึงรถแล้วฉันก้มหน้าเปิดกระเป๋าสะพายของตัวเองหยิบกุญแจขึ้นมา แต่ทว่ากุญแจในมือถูกอลันแย่งไป “เอามานะ!!”“เมาจนแทบจะเดินไม่ไหวอย่ามาทำเป็นอวดเก่ง อยากตายหรือไง” ร่างของฉันถูกอลันดันออกจากประตูรถทางฝั่งคนขับ ฉันจิ๊ปากใส่เขาไปหนึ่งทีก่อนจะเดินอ้อมไปขึ้นรถอีกฝั่งอย่างทุลักทุเล #ภายในรถ“นายไม่ต้องไปนอนกับผู้หญิงคนนั้นหรอ” ถึงจะเมาตอนนี้ฉันก็ยังจำได้นะว่าอลันบอกกับยัยผู้หญิงคนนั้นว่าจะไปนอนด้วย “ถ้าบอกว่าไม่ จะไปนอนด้วยกันหรอ ?”“นายให้ฉันนอนพื้น” ฉันมองหน้าอลัน ตอนนี้สายตามันเริ่มพร่ามัวแต่ก็เห็นได้ลางๆ ว่าเขาขยับหน้าเข้ามาใกล้ๆ “อยากนอนบนเตียงหรอ ?” ฝ่ามือใหญ่วางลงมาบนต้นขาอ่อนของฉัน พร้อมกับลูบไล้ไปมาช้าๆ “นายอยากได้ฉันหรอ แต่ฉันเป็นเพื่อนพี่สาวนายนะ” ถึงจะเมาแต่ฉันยังมีสติอยู่บ้าง “เพื่อนพี่สา
อลันเดินตามฉันเข้ามาในห้องพร้อมกับปิดประตูเขาปิดไฟแล้วเปิดไฟที่เป็นแสงสีส้มให้มองเห็นแบบสรัวๆ แทน ส่วนฉันก็นั่งอยู่บนเตียงคินถึงภาพนั้นด้วยความเจ็บปวด…. “ที่ทำแบบนี้เพราะประชดชีวิต ?” อลันถามขึ้นพร้อมกับถอดเสื้อออกเผยให้เห็นกล้ามแขนและซิกแพ๊คที่เรียงรายอยู่บริเวณหน้าท้องของเขา “ทำไมนายถึงอยากได้ฉัน”“ของที่ไม่เคย ใครก็อยากลอง” “ทำไมผู้ชายถึงมักมาก” “ความต้องการมันมีในตัวทุกคน” อลันเดินตรงมาหยุดตรงหน้าของฉัน จากนั้นเขาก็พูดคำๆ หนึ่งออกมา “เข้ามาในห้องแล้วรู้ไหมว่าไม่มีโอกาสเปลี่ยนใจ” ฉันเม้มปากแน่นรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง อาการมึนหัวเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์มันกลับมาเล่นงานอีกครั้ง ร่างหนาของอลันคร่อมมาบนตัวของฉันแล้วกดให้ฉันนอนราบไปกับเตียง สายตาคู่นั้นของเขามันทำให้ฉันร้อนรุ่มราวกับอยู่ในกองเพลิง “นายช่วยทำให้ฉันลืมภาพที่เจ็บปวดพวกนั้นได้ไหม” ฉันขอร้องพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อล้นเต็มสองตา อลันมองฉันด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์เขาไม่ตอบอะไรก่อนที่จะกดริมฝีปากลงมาบดขยี้ริมฝีปากของฉันหนักๆ นี่ไม่ใช่จูบแรกของฉัน เรื่องจูบฉันเคยผ่านมาบ้างแต่ไม่เคยทำอะไรเกินเลยไปมากกว่านี้ แต่ฉันก็ไม่ใช่ผู้
เช้าวันใหม่ ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาภายในห้องนอนที่ไม่คุ้นตา สมองรีบประมวลผลว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่ใบหน้าของฉันจะร้อนผ่าวเมื่อหันมามองเห็นอลันที่กำลังนอนหลับอยู่ข้างๆ “อ่ะ~” เมื่อขยับตัวฉันก็ต้องร้องอุทานออกมาเบาๆ เพราะรู้สึกเจ็บที่ตรงนั้น ทีเรื่องที่ฉันอยากจำกลับลืมมันง่ายดาย พอเรื่องที่ฉันอยากลืมทำไมถึงจำมันได้แม่น เมื่อคืนฉันเมาแต่กลับจำทุกอย่างได้ มันบ้าที่สุด! ฉันคิดทำอะไรบ้าๆ แบบนั้นได้ยังไง ทำไมถึงยอมให้อลันทำ…ถึงแม้มันจะไม่ใช่การสอดใส่ แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไรฉันก็ไม่ควรยอมทั้งนั้น ฉันค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงให้เงียบที่สุดเพราะไม่อยากให้อลันตื่นขึ้นมาแล้วเห็น พูดง่ายๆ ก็คือฉันอับอายมากหากถ้าเขาตื่นมาตอนนี้ ก่อนจะออกไปจากห้องฉันได้ทิ้งกุญแจรถไว้ให้อลัน ที่ทำแบบนี้ก็เพราะฉันจะได้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับเขาอีก ไม่ต้องมาเจอหน้ากันบ่อยๆ ส่วนฉันก็จะให้พ่อเอารถที่บ้านมาให้ใช้แทนคันนี้เรื่องน่าอับอายมันเกิดขึ้นแบบนั้นฉันจะกล้าสู้หน้าเขาได้ยังไง…. ฉันแค่ต้องลืมอย่างนั้นใช่ไหม ต่อไปจะไม่ทำตัวแบบนี้อีก ฉันจะไม่ทำตัวง่ายๆ อีกแล้ว มันจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ฉันตัดสินใจบ้าๆ แบบนั้
“ฉันขยะแขยงที่นายไปจูบคนอื่นมาแล้วมาจูบฉัน” ฉันพูดบอกพลางใช้มือถูริมฝีปากตัวเองจนแดงเถือก เขาคิดได้ยังไงที่คิดว่าฉันจะโกรธเพราะว่าฉันเห็นเขาจูบกับคนอื่น อลันมองหน้าฉันครู่หนึ่ง เขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของตัวเองจากนั้นก็หยิบกุญแจรถมายัดใส่มือฉัน “รถนายซ่อมเสร็จแล้วหรอ ?” “ยัง”“ยังแล้วเอากุญแจรถมาคืนฉันทำไม” ฉันขมวดคิ้วมองอลันอย่างแปลกใจ “น่าจะรู้ดี” ขะ เขาพูดแบบนี้หมายความว่าจะให้ฉันคอยไปรับไปส่งเหมือนเดิมอีกหรอ แค่เจอกันตรงนี้ฉันก็อยากจะหมุดแผ่นหนีไปไกลๆ หรืออลันลืมเรื่องคืนนั้นไปแล้ว ฉันล่ะทั้งที่พยายามจะลืมแต่จนถึงตอนนี้ก็ยังจำได้แม่น อลันยกมือขึ้นมายีผมฉันเบาๆ ก่อนจะเปิดประตูออกไปจากห้องน้ำ ทิ้งให้ฉันยืนตัวแข็งราวกับหินเพราะการกระทำเมื่อครู่ของเขา เขาเด็กกว่าฉันตั้งหลายปีนะ มาเล่นหัวแบบนี้ได้ยังไงไอ้เด็กไม่มีมารยาทเอ้ย! หลังจากทำธุระในห้องน้ำเสร็จฉันก็พยายามจะลืมเรื่องที่เพิ่งจูบกับอลันไปให้ได้ ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเด็กคนนี้อยากจะลืมมันให้หมดเลยจริงๆ! ฉันเดินกลับมาที่โต๊ะอย่างเหม่อลอย ด้วยความคิดฟุ้งซ่านในหัวทำให้ไม่ทันระวังเผลอเดินมาจนกับใครเข้าก็ไม่รู้ “ขอโทษนะค
ทั้งที่ไม่ควรข้องเกี่ยวแต่สุดท้ายฉันก็ตกหลุมพลางจนได้ ยังไงก็ช่างเถอะ พรุ่งนี้ฉันต้องคอยไปรับไปส่งอลันเหมือนเดิมอยู่แล้วนี่ ควรจะยอมรับแล้วทำตัวให้ชินสินะ ฉัยแยกกับอลันต่างกลับมาที่โต๊ะของตัวเอง เพื่อนๆ ของฉันบ่นยกใหญ่ว่าไปนาน “ไปแอบเจอผู้มาหรือไง ฉันกับยัยขวัญรอจนสร่างเมาแล้วค่ะ” มินนี่รีบบ่นเมื่อฉันวางขวดเหล้าลง “แกก็พูดไปยัยมิน นี่ยัยแพรไม่ใช่แกที่จะได้นัดเจอผู้ชาย” “มันร้ายเงียบนะ ขนาดมีแฟนยังไม่บอกเราเลย” “อย่าไปพูดถึงเรื่องนั้นเดี๋ยวมันก็เงียบไปอีกหรอก” ขวัญรีบสะกิดมินนี่ “มาๆ ดื่มกันดีกว่า พวกแกหยุดพูดไร้สาระสักที” ฉันบอกเพื่อนสองคนก่อนจะเทเหล้าดื่ม ระหว่างดื่มเหล้าก็พยายามไม่คิดเรื่องที่ทำให้ฟุ้งซ่าน เมื่อเวลาผ่านไปครู่ใหญ่ความสนุกก็เริ่มกลับมาอีกครั้งเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ในร่างกาย เราสามคนดื่มกันจนกระทั่งคลับปิด มันเมาแค่พอมึนๆ หัว ไม่ได้เมาอะไรมากมายเพราะต้องขับรถกลับด้วย “ยัยมินแกขับรถไหวแน่นะ” ฉันถามเพื่อนเพราะตอนนี้มินนี่เมาหนัก “คงไม่ไหวแน่เดี๋ยวฉันไปส่งเอง แกไม่ต้องห่วง” ขวัญบอก “ให้ฉันไปด้วยไหม ?”“ไม่เป็นไรคอนโดอยู่คนละทางเสียเวลาแกเปล่าๆ กลับห้องไปนอนเถ