#คลับหรูใจกลางเมือง
“ยัยแพร ชนแก้วค่ะ” ขวัญยกแก้วขึ้นมาชนกับฉันที่นั่งนิ่งๆ เหมือนไม่มีอารมณ์ร่วมกับการมาดื่มในครั้งนี้ “บอกแล้วใช่ไหมว่าถ้ามาดื่มอย่าเศร้า เมื่อไหร่ฉันจะได้เพื่อนคนเดิมกลับมาสักที” มินนี่บ่นพร้อมกับทำหน้าบึ้ง “ฉันไม่ได้เศร้าสักหน่อย” ฉันค้านเพื่อน “หรอออออ!!” ทั้งมินนี่แหละขวัญต่างแย้งขึ้นมาพร้อมๆ กัน “แกเฮียเฟยมา” มินนี่สะกิดฉันก่อนที่เธอกับขวัญจะยกมือไหว้เฮียเฟยผู้ที่เป็นเจ้าของคลับ “วันนี้มาดื่มไม่เห็นบอกเฮียก่อนเลย” “ยุ่งๆ น่ะค่ะแพรเลยไม่ได้ทักบอก” “ขอเฮียนั่งดื่มด้วยคนนะ” “นี่คลับเฮียหนิ แพรห้ามได้หรอ ?” ฉันถามกลับอย่างยียวนทำให้เฮียเฟยหัวเราะในลำคอเบาๆ “ยัยแพรเดี๋ยวฉันกับขวัญไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” มินนี่บอกจากนั้นก็รีบดึงตัวขวัญออกไป “อื้อ ฉันไม่ได้จะไปห้องน้ำสักหน่อย” ขวัญปัดมือมินนี่ออกแต่ถูกมินนี่ลากตัวไปอยู่ดี ทำไมฉันจะมองไม่ออกว่าเพื่อนของตัวเองกำลังเปิดทางให้ฉันนั่งอยู่กับเฮียเฟยสองต่อสอง “แพรชอบผู้ชายแบบไหน ?” ผ่านไปครู่หนึ่งเฮียเฟยก็ถามขึ้น “ชอบคนที่อายุเยอะกว่าค่ะ” พอได้ฟังคำตอบของฉันเฮียเฟยก็คลี่ยิ้มออกมา แล้วถามฉันต่อ “ชอบตรงไหน ?” “ชอบที่เขาเรียกเราว่าน้องแล้วแทนตัวเองว่าพี่ค่ะน่ารักดี เป็นพี่น้องกันก็ดีแล้วเนอะ ^_^” “อืม ชัดเจนดี” เฮียเฟยเบ้บปากใส่ฉัน ครืด~ ขณะที่นั่งคุยกับเฮียเฟยอยู่โทรศัพท์ในมือของฉันก็สั่นแรงๆ เพราะมีสายเรียกเข้า “เดี๋ยวแพรขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ” “ตามสบายครับ” ฉันก้มมองเบอร์ที่ไม่รู้จักอย่างแปลกใจก่อนจะเดินออกมาจากคลับ ปกติฉันไม่รับสายเบอร์แปลกเท่าไหร่ แต่ช่วงหลังๆ มานี้ฉันมักจะรับเบอร์แปลกบ่อยๆ เพราะคิดว่าคนที่โทรมาอาจจะเป็นพี่เพิร์ทก็ได้ ( ฮัลโหลค่ะ ) ฉันกดรับสายด้วยหัวใจที่เต้นรัว ( หิวข้าว ) เสียงของปลายสายไม่ใช่เสียงของพี่เพิร์ท แล้วเป็นใครกัน ( นั่นใครหรอคะ ) ( อลัน ) พอได้ยินชื่อของปลายสายที่โทรเข้ามาฉันก็เงียบไปครู่ใหญ่ ( อยากออกไปหาอะไรกินข้างนอก มารับหน่อยดิ ) นี่ไม่ใช่ประโยคขอร้องแต่เป็นประโยคคำสั่ง ฉันถึงกับถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่เมื่อได้ฟังคำสั่งจากอลัน ( มันดึกแล้วนะ ทำไมนายไม่สั่งแกร๊ปจะออกไปซื้อกินเองทำไม ) ( ให้เวลาสิบนาที ) เขาพูดสั้นๆ ก่อนที่สายจะถูกตัดไป อยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ ให้เวลาสิบนาทีฉันจะไปทันได้ยังไง บ้าหรือเปล่า!!ฉันกดส่งข้อความไปบอกเพื่อนว่าขอเวลาออกไปทำธุระหนึ่งชั่วโมงเดี๋ยวจะกลับมา จากนั้นก็ขับรถตรงมาที่คอนโดอลัน
ครืด~ โทรศัพท์ของฉันสั่นขึ้นอีกครั้ง เป็นเบอร์ของอลันที่โทรมา ฉันจำได้ไม่ผิดแน่ ( อื้อ ฉันกำลังไปตอนนี้ติดไฟแดงอยู่ ) ฉันกรอกเสียงออกไปอย่างเบื่อหน่าย ( ไม่ต้องมา ) ( วะ ว่าไงนะ แต่ฉันใกล้จะถึงคอนโดนายแล้วนะ แกล้งกันอย่างนั้นหรอ ) ฉันตะเบ็งเสียงถามออกไปอย่างหัวเสีย คนอุตส่าห์รีบขับรถมาแท้ๆ ( หรืออยากจะมานอนรอที่ห้องก็ได้นะ เดี๋ยวเอาคีการ์ดไว้ให้ ) ( บะ บ้าหรอ! ใครอยากจะนอนห้องนายกันไอ้เด็กโรคจิต!!) ฉันรีบกดตัดสายทิ้งทันที คิดแล้วก็หงุดหงิดที่ถูกหลอกให้ขับรถออกมาแบบนี้ ทำไมฉันต้องเสียท่าให้กับอลันบ่อยๆ แบบนี้ด้วย คงต้องรีบเร่งให้ช่างจัดการซ่อมรถของอลันให้เสร็จเร็วๆ แล้วแหละ ไม่อย่างนั้นชีวิตของฉันคงไม่สงบสุขแน่ๆเช้าวันต่อมาครืด ครืด~ เสียงโทรศัพท์บนหัวเสียงที่กำลังสั่นเหมือนเป็นนาฬิกาปลุกให้ฉันตื่นขึ้น “อื้อ ใครโทรมาแต่เช้าเนี่ย” ฉันที่ยังหลับตาอยู่ควานมือคลำหาโทรศัพท์พร้อมกับบ่นไปด้วย เมื่อคลำเจอโทรศัพท์แล้วก็กดรับสายแล้วกรอกเสียงพูดออกไปอย่างงัวเงีย( ฮัลโหล อีกสองชั่วโมงค่อยโทรมาได้ไหม ฉัน…)( มารับ จะไปเรียน ) เสียงทุ้มเข้มเอ่ยบอกสั้นๆ ทำให้ฉันที่หลับตาอยู่เปิดเปลือกตาขึ้นมองเบอร์ที่โทรเข้ามา ‘อลัน’ อยากจะกรี๊ดดังๆ ถ้ารู้ว่าเป็นเบอร์เขาฉันคงไม่รับสายแน่ๆ แล้วนี่มันเพิ่งจะหนึ่งโมงเช้า ทำไมเขาถึงไปเรียนเช้าขนาดนี้กัน ( นายเรียกแท็กซี่ไปได้ไหมเดี๋ยวฉันจ่ายค่ารถให้ ) ( ไม่ได้ ) อลันตอบกลันมาเสียงแข็ง ( ถ้าอย่างนั้นก็ให้เพื่อนนายไปรับก่อน ฉันตื่นไม่ไหวหรอกนะเมื่อคืนกว่าจะได้นอน )( โทรไปให้มารับไม่ได้ถามว่าตื่นไหวหรือเปล่า ) อลันตอบกลับมาอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ทำให้ฉันที่นอนอยู่ดีดตัวลุกขึ้นนั่งอย่างหงุดหงิด ( เออ! จะไปเดี๋ยวนี้แหละ ) ฉันตอบกลับไปอย่างหัวเสียก่อนจะลุกขึ้นไปล้างหน้าแปลงฟันไม่ได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ชุดที่ใส่ก็เป็นชุดที่ใส่เที่ยวเมื่อคืนนั่นแหละ #คอนโดอลันพอขับร
#คอนโดของฉันเบอร์ของพี่เพิร์ทยังคงโทรมาอยู่เรื่อยๆ ไม่รู้ว่าเขามีปัญหาอะไรหรือเปล่า ฉันเองก็อยากจะเมินเฉยอย่างที่เขาเคยทำ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ฉันก็ไม่ได้ใจแข็งขนาดนั้น ในที่สุดฉันก็ใจอ่อนยอมกดรับสาย( ว่าไงคะ ) ฉันพยายามถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่ใส่ใจ( พี่คิดว่าจะไม่รับสายกันแล้วซะอีก ) ( มีอะไรก็รีบๆ พูดมาเถอะค่ะ ) ( คืนนี้มาดื่มด้วยกันไหม ) ( ต้องการแค่ให้แพรไปดื่มเป็นเพื่อนแค่นั้นหรอคะ ) ( พี่อยากจบด้วยดีนะ ไม่อยากให้แพรเกลียดพี่ ) เหมือนพี่เพิร์ทจะไม่รู้ว่าตัวเองผิดอะไร เหตุผลที่เขาใช้บอกเลิกฉันมันโคตรจะเห็นแก่ตัว ฉันอยากจะตัดเขาออกไปจากชีวิต ไม่อยากคิดถึง ไม่อยากรู้สึก ฉันควรจะทำยังไงดีให้ตัวเองเข้มแข็งกว่านี้ ( แพรไม่ว่างค่ะ ) ฉันใจแข็งปฏิเสธออกไปและกำลังจะกดวางสาย แต่เสียงของพี่เพิร์ทพูดขัดขึ้นมาซะก่อน ( ขอเวลาแค่แป๊บเดียวเองนะครับ )( แพรเลิกยุ่งกับพี่เพิร์ทแล้วนะคะ แพรปล่อยพี่เพิร์ทไปแล้วทำไมพี่ยังไม่ปล่อยแพร ตอนแรกพี่เพิร์ทเมินแพรขนาดไหนรู้ตัวบ้างไหมคะ แล้วตอนนี้จะอยากเจอกันอีกทำไม…..อึก~) ฉันก้มหน้าร้องไห้สะอื้นออกมา อุตส่าห์เข้มแข็งมาได้ตั้งนาน สุดท้ายฉันก็กลับไป
หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบเมื่อเห็นสายตาเอาผิดของอลัน เขาเดินหนีไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ“อะ เอ่อคือเขาคงจะโกรธที่แพรมาเจอพี่เพิร์ท แพรขอตัวนะคะ” ฉันบอกพี่เพิร์ทจากนั้นก็รีบเดินตามอลัน เขาไม่ได้กลับไปโต๊ะเพื่อนแต่เดินออกไปจากคลับ “อลันรอฉันด้วยสิ” ฉันตามมาเพราะจะขอโทษเพราะเหมือนเขาจะไม่พอใจที่ฉันใช้เขาเป็นเครื่องมือโดยไม่ได้บอกอะไรก่อน อลันเดินไปนั่งที่เก้าอี้ไม้ด้านหน้าคลับ จากนั้นก็หยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ ฉันเดินมาหยุดตรงหน้าเขาถึงแม้จะไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ก็ตาม อลันพ่นขวัญสีขาวคลุ้งออกมาก่อนจะเงยขึ้นมองฉัน แล้วพูด “จะตามมาเพื่อ ?” “ฉันจะมาขอโทษที่ไม่ได้บอกนายก่อน ฉันเองก็ไม่รู้จะหาใครมาเป็นข้ออ้างมีแค่นายคนเดียวที่รู้จัก”“ไหนบอกจะกลับแล้วมาเจอมันทำไม” “ฉันแค่อยากจบ…..” พูดไม่ทันจบอลันก็เอ่ยสวนขึ้นมาทันควัน “ข้ออ้าง” ฉันเม้มปากแน่น “…นายจะคิดแบบนั้นก็ได้ ฉันกำลังหาข้ออ้างอยู่ ความจริงแล้วฉันอยากเจอเขาแต่เขาหวังกับฉันแค่เรื่องเดียว” อลันพ่นควันบุหรี่ออกมาเหมือนไม่ใส่ใจคำพูดของฉันเท่าไหร่ ฉันเองก็ไม่ได้หวังให้เขามาใส่ใจหรอก บางครั้งก็แค่อยากระบายมันออกมา…. “ฉันขอดื่มที่โต๊ะนายด้วยได้ไหม ?
“กุญแจ” เมื่อเดินออกมาด้านนอกคลับอลันก็ยื่นมือมาขอกุญแจรถจากฉัน ฉันที่เมาจนโลกมันกำลังมุนไปรอบๆ ตัวเองในตอนนี้แทบจะยืนไม่อยู่ แต่ก็ยังทำเป็นเก่งเพราะไม่อยากให้เขามาสนใจ อยากให้ไปสนุกกับเพื่อนกับผู้หญิงที่เขาจะไปนอนด้วย “ฉันขับรถกลับเองได้” พูดจบฉันก็เดินเซซ้ายทีขวาทีตรงมาที่รถ เมื่อเดินมาถึงรถแล้วฉันก้มหน้าเปิดกระเป๋าสะพายของตัวเองหยิบกุญแจขึ้นมา แต่ทว่ากุญแจในมือถูกอลันแย่งไป “เอามานะ!!”“เมาจนแทบจะเดินไม่ไหวอย่ามาทำเป็นอวดเก่ง อยากตายหรือไง” ร่างของฉันถูกอลันดันออกจากประตูรถทางฝั่งคนขับ ฉันจิ๊ปากใส่เขาไปหนึ่งทีก่อนจะเดินอ้อมไปขึ้นรถอีกฝั่งอย่างทุลักทุเล #ภายในรถ“นายไม่ต้องไปนอนกับผู้หญิงคนนั้นหรอ” ถึงจะเมาตอนนี้ฉันก็ยังจำได้นะว่าอลันบอกกับยัยผู้หญิงคนนั้นว่าจะไปนอนด้วย “ถ้าบอกว่าไม่ จะไปนอนด้วยกันหรอ ?”“นายให้ฉันนอนพื้น” ฉันมองหน้าอลัน ตอนนี้สายตามันเริ่มพร่ามัวแต่ก็เห็นได้ลางๆ ว่าเขาขยับหน้าเข้ามาใกล้ๆ “อยากนอนบนเตียงหรอ ?” ฝ่ามือใหญ่วางลงมาบนต้นขาอ่อนของฉัน พร้อมกับลูบไล้ไปมาช้าๆ “นายอยากได้ฉันหรอ แต่ฉันเป็นเพื่อนพี่สาวนายนะ” ถึงจะเมาแต่ฉันยังมีสติอยู่บ้าง “เพื่อนพี่สา
อลันเดินตามฉันเข้ามาในห้องพร้อมกับปิดประตูเขาปิดไฟแล้วเปิดไฟที่เป็นแสงสีส้มให้มองเห็นแบบสรัวๆ แทน ส่วนฉันก็นั่งอยู่บนเตียงคินถึงภาพนั้นด้วยความเจ็บปวด…. “ที่ทำแบบนี้เพราะประชดชีวิต ?” อลันถามขึ้นพร้อมกับถอดเสื้อออกเผยให้เห็นกล้ามแขนและซิกแพ๊คที่เรียงรายอยู่บริเวณหน้าท้องของเขา “ทำไมนายถึงอยากได้ฉัน”“ของที่ไม่เคย ใครก็อยากลอง” “ทำไมผู้ชายถึงมักมาก” “ความต้องการมันมีในตัวทุกคน” อลันเดินตรงมาหยุดตรงหน้าของฉัน จากนั้นเขาก็พูดคำๆ หนึ่งออกมา “เข้ามาในห้องแล้วรู้ไหมว่าไม่มีโอกาสเปลี่ยนใจ” ฉันเม้มปากแน่นรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง อาการมึนหัวเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์มันกลับมาเล่นงานอีกครั้ง ร่างหนาของอลันคร่อมมาบนตัวของฉันแล้วกดให้ฉันนอนราบไปกับเตียง สายตาคู่นั้นของเขามันทำให้ฉันร้อนรุ่มราวกับอยู่ในกองเพลิง “นายช่วยทำให้ฉันลืมภาพที่เจ็บปวดพวกนั้นได้ไหม” ฉันขอร้องพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อล้นเต็มสองตา อลันมองฉันด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์เขาไม่ตอบอะไรก่อนที่จะกดริมฝีปากลงมาบดขยี้ริมฝีปากของฉันหนักๆ นี่ไม่ใช่จูบแรกของฉัน เรื่องจูบฉันเคยผ่านมาบ้างแต่ไม่เคยทำอะไรเกินเลยไปมากกว่านี้ แต่ฉันก็ไม่ใช่ผู้
เช้าวันใหม่ ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาภายในห้องนอนที่ไม่คุ้นตา สมองรีบประมวลผลว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่ใบหน้าของฉันจะร้อนผ่าวเมื่อหันมามองเห็นอลันที่กำลังนอนหลับอยู่ข้างๆ “อ่ะ~” เมื่อขยับตัวฉันก็ต้องร้องอุทานออกมาเบาๆ เพราะรู้สึกเจ็บที่ตรงนั้น ทีเรื่องที่ฉันอยากจำกลับลืมมันง่ายดาย พอเรื่องที่ฉันอยากลืมทำไมถึงจำมันได้แม่น เมื่อคืนฉันเมาแต่กลับจำทุกอย่างได้ มันบ้าที่สุด! ฉันคิดทำอะไรบ้าๆ แบบนั้นได้ยังไง ทำไมถึงยอมให้อลันทำ…ถึงแม้มันจะไม่ใช่การสอดใส่ แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไรฉันก็ไม่ควรยอมทั้งนั้น ฉันค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงให้เงียบที่สุดเพราะไม่อยากให้อลันตื่นขึ้นมาแล้วเห็น พูดง่ายๆ ก็คือฉันอับอายมากหากถ้าเขาตื่นมาตอนนี้ ก่อนจะออกไปจากห้องฉันได้ทิ้งกุญแจรถไว้ให้อลัน ที่ทำแบบนี้ก็เพราะฉันจะได้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับเขาอีก ไม่ต้องมาเจอหน้ากันบ่อยๆ ส่วนฉันก็จะให้พ่อเอารถที่บ้านมาให้ใช้แทนคันนี้เรื่องน่าอับอายมันเกิดขึ้นแบบนั้นฉันจะกล้าสู้หน้าเขาได้ยังไง…. ฉันแค่ต้องลืมอย่างนั้นใช่ไหม ต่อไปจะไม่ทำตัวแบบนี้อีก ฉันจะไม่ทำตัวง่ายๆ อีกแล้ว มันจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ฉันตัดสินใจบ้าๆ แบบนั้
“ฉันขยะแขยงที่นายไปจูบคนอื่นมาแล้วมาจูบฉัน” ฉันพูดบอกพลางใช้มือถูริมฝีปากตัวเองจนแดงเถือก เขาคิดได้ยังไงที่คิดว่าฉันจะโกรธเพราะว่าฉันเห็นเขาจูบกับคนอื่น อลันมองหน้าฉันครู่หนึ่ง เขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของตัวเองจากนั้นก็หยิบกุญแจรถมายัดใส่มือฉัน “รถนายซ่อมเสร็จแล้วหรอ ?” “ยัง”“ยังแล้วเอากุญแจรถมาคืนฉันทำไม” ฉันขมวดคิ้วมองอลันอย่างแปลกใจ “น่าจะรู้ดี” ขะ เขาพูดแบบนี้หมายความว่าจะให้ฉันคอยไปรับไปส่งเหมือนเดิมอีกหรอ แค่เจอกันตรงนี้ฉันก็อยากจะหมุดแผ่นหนีไปไกลๆ หรืออลันลืมเรื่องคืนนั้นไปแล้ว ฉันล่ะทั้งที่พยายามจะลืมแต่จนถึงตอนนี้ก็ยังจำได้แม่น อลันยกมือขึ้นมายีผมฉันเบาๆ ก่อนจะเปิดประตูออกไปจากห้องน้ำ ทิ้งให้ฉันยืนตัวแข็งราวกับหินเพราะการกระทำเมื่อครู่ของเขา เขาเด็กกว่าฉันตั้งหลายปีนะ มาเล่นหัวแบบนี้ได้ยังไงไอ้เด็กไม่มีมารยาทเอ้ย! หลังจากทำธุระในห้องน้ำเสร็จฉันก็พยายามจะลืมเรื่องที่เพิ่งจูบกับอลันไปให้ได้ ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเด็กคนนี้อยากจะลืมมันให้หมดเลยจริงๆ! ฉันเดินกลับมาที่โต๊ะอย่างเหม่อลอย ด้วยความคิดฟุ้งซ่านในหัวทำให้ไม่ทันระวังเผลอเดินมาจนกับใครเข้าก็ไม่รู้ “ขอโทษนะค
ทั้งที่ไม่ควรข้องเกี่ยวแต่สุดท้ายฉันก็ตกหลุมพลางจนได้ ยังไงก็ช่างเถอะ พรุ่งนี้ฉันต้องคอยไปรับไปส่งอลันเหมือนเดิมอยู่แล้วนี่ ควรจะยอมรับแล้วทำตัวให้ชินสินะ ฉัยแยกกับอลันต่างกลับมาที่โต๊ะของตัวเอง เพื่อนๆ ของฉันบ่นยกใหญ่ว่าไปนาน “ไปแอบเจอผู้มาหรือไง ฉันกับยัยขวัญรอจนสร่างเมาแล้วค่ะ” มินนี่รีบบ่นเมื่อฉันวางขวดเหล้าลง “แกก็พูดไปยัยมิน นี่ยัยแพรไม่ใช่แกที่จะได้นัดเจอผู้ชาย” “มันร้ายเงียบนะ ขนาดมีแฟนยังไม่บอกเราเลย” “อย่าไปพูดถึงเรื่องนั้นเดี๋ยวมันก็เงียบไปอีกหรอก” ขวัญรีบสะกิดมินนี่ “มาๆ ดื่มกันดีกว่า พวกแกหยุดพูดไร้สาระสักที” ฉันบอกเพื่อนสองคนก่อนจะเทเหล้าดื่ม ระหว่างดื่มเหล้าก็พยายามไม่คิดเรื่องที่ทำให้ฟุ้งซ่าน เมื่อเวลาผ่านไปครู่ใหญ่ความสนุกก็เริ่มกลับมาอีกครั้งเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ในร่างกาย เราสามคนดื่มกันจนกระทั่งคลับปิด มันเมาแค่พอมึนๆ หัว ไม่ได้เมาอะไรมากมายเพราะต้องขับรถกลับด้วย “ยัยมินแกขับรถไหวแน่นะ” ฉันถามเพื่อนเพราะตอนนี้มินนี่เมาหนัก “คงไม่ไหวแน่เดี๋ยวฉันไปส่งเอง แกไม่ต้องห่วง” ขวัญบอก “ให้ฉันไปด้วยไหม ?”“ไม่เป็นไรคอนโดอยู่คนละทางเสียเวลาแกเปล่าๆ กลับห้องไปนอนเถ
5 เดือนผ่านไป ชีวิตหลังแต่งงาน “ทำให้มันดีๆ หน่อยสิอลัน” “ก็ทำดีๆ อยู่นี่ไง” “แล้วนายเอาหมูไปผัดแบบนั้นได้ยังไง ทำไมไม่ผัดหมูก่อน”“แล้วทำไมไม่บอกก่อนก็รู้ว่าทำอาหารไม่เป็น”“ทำไม่เป็นก็ถอยไปฉันจะทำเอง”“ไม่ต้องยุ่งออกไปนั่งรอเลยไป” ฉันมองสามีของตัวเองทำอาหารด้วยความเหนื่อยใจ ทำไม่เป็นยังจะเสนอตัวอวดเก่งอยากจะโชว์ฝีมือ ชีวิตคู่ของเราไม่ได้โปรยด้วยกลีบกุหลาบ ไม่ได้รักกันจนหวานชื่น เรามีปากเสียงกันในบางครั้งไม่เข้าใจกันบ้าง แต่ความรักที่มีให้กันมันก็ยังคงอยู่และเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ฉันว่ามันคงเป็นธรรมดาของชีวิตคู่ จะให้รักกันปานจะกลืนกินคงไม่ใช่ คนที่อยู่ด้วยกันการทะเลาะและปรับความเข้าใจเป็นเรื่องปกติ “เสร็จแล้วครับคุณเมีย ^_^” อลันถือจานอาหารที่ตัวเองทำมาวางไว้ที่โต๊ะด้วยสีหน้าที่ปลื้มอกปลื้มใจกับฝีมือตัวเอง “ผัดผักยังไงให้ผักไม่สุก แบบนี้จะกินยังไง” “ผักต้องสุก ?” เขาถามอย่างกับไม่เคยกินผัดผักมาก่อนในชีวิตถึงไม่รู้ว่ามันต้องสุกประมาณไหน “ถ้าลูกคลอดออกมาฉันคงไม่ไว้ใจให้นายทำอาหารให้ลูกกินแน่ๆ” “ของแบบนี้มันพัฒนากันได้ ตอนนี้ทำไม่เป็นอีกสิบปีข้างหน้าอาจจะได้เป็นเชฟกระทะเหล็กก็ไ
#บ้านของฉันฉันกับอลันมาที่บ้านด้วยกันเพื่อจะมาบอกพ่อว่าเรากำลังจะมีลูก ก่อนมาเขาได้โทรบอกพ่อกำนันแล้วเห็นว่าดีใจยกใหญ่เลย พรุ่งนี้คงจะขึ้นมากรุงเทพมาคุยเรื่องงานแต่ง “จะมาทำไมไม่บอกก่อนจะได้ให้คนจัดเตรียมอาหารเพิ่ม” พอพ่อเห็นอลันเดินมาพร้อมกับฉันก็รีบท้วงทันที ถึงก่อนหน้านี้จะใจร้ายไปบ้างแต่ตอนนี้พ่อตากับลูกเขยเริ่มเข้ากันได้แล้วนะ “หนูมีเรื่องสำคัญจะบอกพ่อค่ะ ^_^” ฉันยิ้มให้พ่อแล้วก็หันมายิ้มให้อลัน จากนั้นเราสามคนก็พากันเดินมาที่ห้องขับแขก“มีอะไรทำไมถึงต้องคุยเป็นทางการขนาดนี้ ?” พ่อถาม “พ่ออยากมีหลานคือเปล่าคะ” “อยากสิ พ่อแก่แล้วอยากจะรีบอุ้มหลานเร็วๆ” “งั้นคุณลุงก็สมหวังแล้วครับ” อลันพูดแทรก “หมายความว่ายังไง ?” พ่อขมวดคิ้วมองเราทั้งคู่สลับกัน ฉันคลี่ยิ้มก่อนจะตอบ “หนูท้องค่ะ ^_^” พอบอกว่าท้องพ่อก็เงียบไปเหมือนตกใจ ทำเอาฉันใจหาย ไหนบอกว่าอยากอุ้มหลานเร็วๆ ไง ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้น“คุณลุงไม่ดีใจหรอครับ” อลันรีบถามเพราะเห็นพ่อเงียบไป “ลง ลุงอะไรกัน เรียกพ่อได้แล้วไอ้ลูกเขย” พ่อพูดออกมาพร้อใกับรอยยิ้มบนใบหน้า ทำเอาฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกนึกว่าพ่อจะเสียใจซะอีก อีกหนึ่งเรื่องร
โรงพยาบาลตอนนี้ฉันกับอลันอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนอลิชเธอกลับไปที่บ้านแล้วเพราะต้องไปดูลูก ทั้งฉันและอลันได้รับการตรวจร่างกายอย่างละเอียดทั้งคู่ แต่ที่ต่างออกไปคือหมอให้ฉันตรวจเลือดและตรวจปัสสาวะ ตอนนี้เรากำลังนั่งรอผลตรวจอยู่อาการของอลันดีขึ้น ตอนนี้เขานั่งจนแทบจะสิงร่างฉันอยู่แล้ว “ขยับไปหน่อยได้ไหม ดูสิคนมองเยอะเลยนะ” ฉันกระซิบบอกอลัน “ขยับออกก็อ้วก จะเอาแบบนั้นไหมล่ะ” “แล้วอยู่ใกล้ฉันไม่อยากอ้วกหรือไง” เขาส่ายหน้าแทนคำตอบ ถึงอาการของเขาจะดีขึ้นแต่ร่างกายยังอิดโรย ไม่นานเท่าไหร่คุณหมอก็เรียกให้เราสองคนไปฟังผลตรวจ “ผลตรวจของคุณผู้ชายเป็นปกติดีนะคะ” “แต่เขาทั้งเวียนหัวทั้งอ้วกเลยนะคะคุณหมอ” ฉันรีบพูดแย้งขึ้นทันที “คงจะเป็นอาการแพ้ท้องแทนภรรยาค่ะ ยินดีด้วยนะคะตอนนี้คุณกำลังตั้งครรภ์ ^_^” หมอพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่คำพูดนั้นยังวนอยู่ในหัวของฉัน ยินดีด้วยนะคะคุณกำลังตั้งครรภ์ มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเราไม่เคยพลาด อลันปล่อยนอกหรือไม่ก็ใส่ถุงยางอนามัยตลอด ตอนนั้นที่ปล่อยในฉันก็กินนาคุมฉุกเฉินแล้ว คิดไม่ออกเลยว่าจะท้องได้ยังไง “จริงหรอครับคุณหมอ ผมกำลังจะมีลูกหรอคร
อลันเดินออกมาจากห้องน้ำทั้งที่ยังเอามือปิดจมูกอยู่ เขาทำท่าเหมือนขยะแขยงอาหารที่ฉันเตรียมให้มากๆ มันรู้สึกเฟลนิดๆ นะ อุตส่าห์ตั้งใจเตรียมให้แท้ๆ “ไปหาหมอไหม”“ไม่เป็นไรแค่เวียนหัวนิดหน่อย” ฉันเดินมาหาอลันแล้วยกมือขึ้นทาบบนหน้าผากของเขาเพื่อเช็คว่าตัวร้อนหรือเปล่า “ตัวก็ไม่ร้อนนี่ ทำไมจู่ๆ ถึงเป็นแบบนี้ล่ะ ฉันว่าไปหาหมอดีกว่านะอลัน”อลันสวมกอดฉันเอาไว้แน่นแล้วบอกด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “แค่กอดเมียแป๊บเดียวเดี๋ยวก็หาย” แปะ! ฉันฟาดมือลงบนแขนของอลันเบาๆ แล้วพูดค้อน “ฉันเป็นห่วงนะยังจะมาพูดเล่นอีก”“ไม่ได้พูดเล่นมันดีขึ้นจริงๆ นะ” พูดจับอลันก็เอาใบหน้ามาซุกลงบนซอกคอของฉัน “หอมจัง” “…นายคงกินไม่ได้แล้วใช่ไหมฉันจะได้เก็บ” ฉันถามเสียงเศร้า “มันเหม็น” อลันพูดกระซิบบอกที่หูเสียงเบา “อยากกินเมียแทนข้าว” ฝ่ามือสากเริ่มเลื้อยไปมาเป็นปลาหมึก ริมฝีปากหนาพรมจูบไปจนทั่วซอกคอของฉันก่อนจะขยับขึ้นมาที่พวงแก้มและประกบจูบที่ริมฝีปาก “อืม~” เสียงครางในลำคออย่างพึงพอใจของอลันทำให้ฉันรู้สึกวาบหวิว แควก! เสียงนี้คือเสียงชุดซีทรูตัวบางของฉันถูกฉีกอย่างไร้ความปรานี “อลัน!!” ฉันดันตัวออกแล้วจ้องอลันเขม็ง เข
วันต่อมา หลังจากที่อลันเลิกเรียนเราก็มาเจอเฮียเฟย นัดเจอกันที่ร้านอาหารในห้าง ฉันโทรนัดเฮียเอาไว้แล้ว #ภายในร้านอาหาร “เฮียสั่งจะกินอะไรไหมคะเดี๋ยวแพรสั่งให้” ฉันรีบถามเมื่อเฮียเฟยมาถึง มันรู้สึกเกร็งเอามากๆ สาเหตุก็เพราะอลันที่เอาแต่จ้องมองตลอดเวลา “ไม่เป็นไรเดี๋ยวเฮียต้องเข้าบริษัทไปกินที่บริษัทก็ได้”“งานยุ่งหรอคะช่วงนี้”“ก็….”“มีอะไรจะพูดก็รีบๆ พูด เอาแต่เนื้อ น้ำไม่ต้อง” อลันพูดแทรกขึ้นมาอย่างเสียมารยาท ฉันจึงหันมามองค้อนเขาด้วยสายตาที่ตำหนิ แต่เขาก็ทำท่าเหมือนทองไม่รู้ร้อน“ทีหลังถ้าจะนัดคุยมาคนเดียวดีกว่านะ แฟนแพรคงไม่สะดวก” เฮียเฟยบอก “ถ้าคุยสองต่อสองคงไม่ปล่อยให้มา” อบันตอบกลับทันควัน “นายช่วยอยู่เงียบๆ ได้ไหมอลัน” ฉันบอกเขาเสียงดุ ใจคอจะหาเรื่องให้ได้เลยหรือไง “แพรขอโทษแทนอลันด้วยนะคะ”“ไม่เป็นไรเฮียเข้าใจ แฟนแพรยังเด็ก….”“เด็กแล้วยังไง ?” เป็นอีกครั้งที่อลันถามอย่างไม่สบอารมณ์ “อลัน!!” ฉันจ้องเขาเขม็งจึงยอมปิดปากเงียบ มันน่าดีดหน้าผากแรงๆ สักทีให้เข็ดหลาบ “ที่นัดมาวันนี้แพรอยากจะมาขอโทษที่เคยพูดให้ความหวังเฮีย อยากขอโทษที่เคยดึงเฮียเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งที่แพรไม่ไ
ทางผู้ใหญ่พูดคุยกันครั้งนี้พ่อฉันยินยอมไม่ได้ขัดอย่างที่เคยลั่นวาจาเอาไว้ คุณคานส์สามีของอลิชเสนอตัวจะออกค่าใช้จ่าย ส่วนค่าสินสอดวันแต่งพ่อของอลันจะเป็นคนออกเอง โดยงานหมั้นจะจัดหลังจากที่มหาวิทยาลัยของอลันปิดเทอม ซึ่งก็คืออีกไม่นานนี้แล้ว หลังจากคุยธุระเสร็จเรียบร้อยเราก็นั่งกินข้าวด้วยกัน ฉันเองก็ยังเกร็งไม่หาย แต่ก็ดีใจที่พ่อของอลันเอ็นดูฉันมากขนาดนี้ ตอนนี้ฉันกำลังเดินเล่นกับอลิชอยู่ที่สนามหน้าบ้าน ส่วนพ่อฉันกับพ่อของอลันคุยกันเรื่องธุรกิจ พ่อของอลันสนใจอยากจะเปิดธุรกิจเล็กๆ ที่บ้านต่างจังหวัดเลยขอคำปรึกษากับพ่อ ดีใจที่ทั้งสองคุยกันถูกคอ “แกไม่กลับบ้านพร้อมสามีหรออลิช” ที่ถามแบบนี้ก็เพราะว่าฉันเห็นคุณคานส์กลับไปก่อนแล้ว “ฉันกลับพร้อมพ่อน่ะ คุณคานส์รีบไปดูลูก” “สามีดีเด่นนะเนี่ย” “แกก็เถอะ ดีใจด้วยนะ รู้ไหมฉันแทบจะกรี๊ดลั่นบ้านตอนที่รู้ว่าอลันจะจอแกหมั้น” อลิชดีใจจนออกนอกหน้า “แกไม่ห้ามน้องหน่อยหรอ หมั้นทั้งๆ ที่ยังเรียนไม่จบ” “แพร อลันเป็นผู้ชายไม่มีอะไรเสียหายหรอกนะ ดีซะอีกน้องฉันตั้งใจทำงานมากๆ แถมยังไปเรียนทุกวัน ฉันละนับถือแกจริงๆ เลยที่เอาอลันอยู่หมัดขนาดนี้” “พี่อลิช
วันต่อมา เป็นอีกวันที่ฉันอยากจะไปดูร้านของตัวเองแต่พ่อห้ามเอาไว้ บอกเหตุผลว่าตั้งแต่แม่เสียพ่อทำแต่งานไม่มีเวลาให้ฉันเลย วันนี้จึงอยากให้เราอยู่ด้วยกัน ตอนนี้ฉันกับพ่อกำลังนั่งอยู่ที่สวนหลังบ้าน สวนนี้แม่เป็นคนอยากได้พ่อก็ตามใจแม่ทุกอย่าง “พ่อสัญญากับแม่เอาไว้ว่าจะดูแลลูกสาวคนเดียวของเราให้ดีที่สุด” พ่อพูดพร้อมกับสายตาที่มองไปยังสวนดอกไม้ต้นไม้ “ลูกโกรธหรือเปล่าที่ก่อนหน้านี้พ่อเคยห้ามไม่ให้รักกับผู้ชายที่ลูกเลือก” “โกรธสิคะ หนูโกรธพ่อมากที่ไม่ยอมฟังอะไรเอาแต่ยึดติดเรื่องฐานะ” “ถึงตอนนี้พ่อเริ่มเข้าใจแล้วว่าฐานะมันไม่สำคัญขนาดนั้น” ฉันยิ้มหวานให้พ่อ “ขอบคุณนะคะที่เปิดโอกาสให้อลัน” “ถ้าลูกรักมันมากขนาดนี้มันคงจะมีอะไรดีบ้างนั่นแหละ ไม่อยากนั้นลูกสาวของพ่อคงไม่หลงหัวปักหัวปำ” “หนูไม่ได้หลงขนาดนั้นสักหน่อย” “ไอ้เรื่องแข่งรถก็บอกเตือนให้เบาลงบ้าง จะดูแลลูกสาวของพ่อได้ยังไงถ้ายังเอาชีวิตไปเสี่ยงอันตรายอยู่แบบนั้น”“ตอนนี้เขาไม่ค่อยได้แข่งแล้วค่ะเพราะต้องดูแลคลับ”“ส่วนเรื่องตาบาสพ่อมองคนผิดไปจริงๆ ตอนนี้พ่อก็ยังรู้สึกผิดที่เคยบังคับลูก” “มันผ่านไปแล้วพ่ออย่าคิดมากเลยนะคะ ตอนนี้บา
#ภายในห้องทำงาน อลันเหวี่ยงร่างของฉันให้กระแทกกับโซฟาตัวใหญ่แรงๆ ไร้คำว่าปราณี ขนาดเป็นแฟนกันนะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่ไม่ใช่สถานะแฟนฉันไม่เจอบีบคอตายเลยหรอ แต่ถึงจะเจอเหวี่ยงกระแทกโซฟาแบบนี้ฉันก็ยังยิ้มหวานให้อลัน “วันนี้แฟนฉันหล่อเป็นพิเศษเลยนะ ^_^” ฉันลุกขึ้นจากโซฟาเดินมายกมือขึ้นคล้องคออลันแล้วพูดเสียงหวาน สายตาของอลันในตอนนี้กำลังจ้องชุดที่ฉันใส่เขม็งบ่งบอกถึงอารมณ์ไม่พอใจสุดๆ ก่อนที่เขาจะแกะมือฉันออกจากต้นคอ “อะไรกันจับนิดจับหน่อยก็ไม่ได้” “ทำไมถึงใส่ชุดแบบนี้มา” เขาถามเสียงเข้ม “รู้ใช่ไหมว่าไม่ชอบ รู้ใช่ไหมว่าถ้าเห็นใส่แล้วจะเป็นยังไง” “รู้สิ ^_^” “แล้วใส่มาทำไมวะห๊ะ!! ชอบให้โมโหว่างั้น ?”“ก็นายน่ะโกรธอะไรก็ไม่รู้ไร้สาระ ก็แค่ไปคุยกับพ่อเรื่องหมั้นเอง พอฉันตอบตกลงก็กล่าวหาว่าประชด”เขาไม่โต้ตอบอะไรแต่กลับพ่นลมหายใจร้อนผ่าวออกมาแรงๆ “สรุปจะไปคุยกับพ่อนายเรื่องหมั้นหรือเปล่า ?”“ไม่ไป!! ไม่อยากหมั้นก็ไม่ต้องไป ก็ดีแยกกันอยู่อิสระดี ชอบไม่ใช่ ? ได้แต่งตัวโป๊ๆ โชว์ผู้ชายไปทั่ว” “พูดอะไรออกมารู้ตัวไหมอลัน!! นายกำลังดูถูกฉันอยู่นะ” จากที่อารมณ์ดีพอได้ยินคำพูดเมื่อครู่ของอลันมัน
“พ่อไม่ห้ามหนูกับอลันแล้วงั้นหรอคะ” ถึงจะรู้สึกผิดแต่ฉันก็ต้องถามย้ำเพื่อความแน่ใจ พ่อพยักหน้าแทนคำตอบ “พ่อจะไม่ใจร้ายกับคนที่หนูรักใช่ไหม” ฉันจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้นของพ่อ รับรู้ได้ถึงความเศร้าจากสิ่งที่ฉันเลือกเมื่อครู่ “พ่อจะไม่ขัดขวางความรักของลูกอีก ขอให้ลูกมั่นใจพ่อพูดคำไหนคำนั้น”ฉันยิ้มออกมาก่อนจะโผล่เข้ากอดพ่อแน่น เป็นอีกครั้งที่ความรู้สึกอึดอัดในใจได้ปลดล็อก ในที่สุดพ่อก็ลดคติลงได้ “ขอบคุณที่ให้โอกาสผมได้รักกับลูกสาวของคุณลุงนะครับ” อลันพูดขึ้นพ่อจึงค่อยๆ ผละกอดออกแล้วเพ่งสายตามองอลันแทน “ถึงฉันจะไม่เต็มใจแต่ลูกสาวของฉันเลือกแล้ว อย่าทำให้ผิดหวังก็แล้วกัน”“ครับ ผมจะไม่ทำให้คุณลุงผิดหวัง” “หนูไม่อยากให้พ่อคาดหวังอะไรมากมายกับอลันนะคะ” ฉันพูดแทรกขึ้นพ่อจึงตวัดสายตาหันมา “ทำไมลูกถึงพูดแบบนั้น พ่อจะคาดหวังกับผู้ชายที่ลูกเลือกไม่ได้เลยหรือไง” “ไม่มีใครเป็นอย่างที่หวังได้อย่างสมบูรณ์แบบหรอกนะคะ ไม่เว้นแม้แต่หนูที่เป็นลูกสาวของพ่อ” “…….” พ่อถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบศีรษะของฉัน “หนูอยากให้พ่อเปิดใจให้อลันจริงๆ อย่างที่หนูเปิดใจให้เขานะคะ ถ้าแม่ยังอยู่หนูเชื่