ฉันเป็นฝ่ายลุกขึ้นแล้วเดิยมาหยิบเหล้าด้วยตัวเอง ที่ห้องของฉันมีครบทุกอย่างทั้งเหล้าโซดาและเครื่องทำน้ำแข็ง วันไหนเบื่อๆ ก็ดื่มที่ห้อง อย่างช่วงที่เสียใจเพราะพี่เพิร์ทหนักๆ ฉันก็ดื่มที่ห้องคนเดียว ไม่รู้ว่าพี่เพิร์ทไปหรือยัง ฉันไม่กล้าแม้แต่จะเปิดประตูออกไปเจอเขาด้วยซ้ำ เพราะเจอแค่แป๊บเดียวอาการของฉันก็เป็นอย่างที่เห็น “ก็แค่ผู้ชายคนเดียวมันจะอะไรนักหนา” อลันพูดขึ้นพร้อมกับชงเหล้าแก้วของเขาและฉัน “นายไม่เคยรักใครจะไปรู้อะไร” “คงงั้น” เขาตอบเสียงเรียบก่อนจะพูดต่อ “แล้วทำไมไม่ใช้ชีวิตให้มีความสุข จะจมอยู่กับความทุกข์เพื่อ ?” “ความสุขที่นายหมายถึงคือเซ็กส์งั้นหรอ…” “ก็มีส่วน” อลันไหวไหล่ แก้วเหล้าถูกวางลงตรงหน้าของฉัน “ถ้านายรู้สึกรักใครสักคนขึ้นมาแล้วถูกเขาทิ้งนายจะเข้าใจฉันเอง” “คงไม่มีวันนั้น ความรักมันเป็นแค่เรื่องไร้สาระ” ฉันยกเหล้าดื่มแล้วมองอลันอย่างไม่เข้าใจ “นายจะใช้ชีวิตแบบนี้ไปจนแก่เลยหรือไง ?”“ประมาณนั้น” นี่สินะความคิดของผู้ชายเจ้าชู้ “อลิชรู้หรือเปล่าว่านายเป็นแบบนี้ ?”“รู้”“แล้วอลิชไม่เตือนอะไรบ้างหรอ ?”“ก็ไม่ คงมีแค่คนแถวนี้ที่เอาแต่วุ่นวายไม่เลิก ถามมากน่ารำ
ฉันใช้มือดันหน้าท้องแกร่งของอลันเอาไว้เมื่อเขาพยายามจะดันเจ้าสิ่งนั้นเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า ความเจ็บปวดตรงจุดหวงแหนมันทำให้ฉันน้ำตาคลอเบ้า ทั้งเสียใจที่ถูกพรากความบริสุทธิ์ไปแล้ว อยากให้เรื่องแบบนี้มันเป็นแค่ความฝัน แต่ความเจ็บปวดที่ได้รับมันทำให้ฉันต้องยอมรับความจริงว่าอลันกำลังทำอะไรอยู่ “อลันฉันเจ็บ…อ๊ะ~” ฉันพยายามดันตัวเองออกห่างจากอลัน แต่ถูกเขารั้งสะโพกไว้แล้วกระแทกเอวสอบเข้ามาหนักๆ “อ๊า~” อลันครางออกมาในลำคอเบาๆ เขาก้มหน้าลงมาใช้ลิ้นตวัดเลียหน้าอกของฉัน สองมือหนาประคองหน้าอกทั้งสองเข้าไว้ ก่อนที่อลันจะตะโบมดูดเลียมันอย่างหื่นกระหาย เขาผ่อนจังหวะกระแทกกระทั้นให้เบาลง “อื้อ อ๊า~” ฉันครางออกมาพร้อมกับค่อยๆ กัดริมฝีปากตัวเองแน่นเมื่อถูกเล้าโลมแบบนี้จู่ๆ ความเจ็บปวดเมื่อครู่มันก็ค่อยๆ เลือนหายไป แปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกบางอย่างที่ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเอง พออลันเห็นว่าฉันเริ่มครางเขาก็ดูดเลียยอดปทุมถันหนักขึ้น สลับเต้าซ้ายและขวา พร้อมกับกระแทกเอวสอบหนักขึ้น แต่ฉันกลับไม่ได้รู้สึกเจ็บกับจังหวะที่หนักหน่วงมากเท่าตอนก่อนหน้า “ข้างในลื่นแบบนี้แปลว่าพี่กำลังมีอารมณ์ใช่ไหม” อลันถามกร
ฉันเงียบมองอลันที่กำลังหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่ เด็กคนนี้ทำไมถึงได้ใจร้ายกับฉันขนาดนี้นะ หลังจากใส่เสื้อผ้าแล้วอลันเดินมาหาฉันที่นอนอยู่บนเตียง ฉันกำชับผ้าห่มในมือแน่นเพราะกลัว สายตาคมกริบของอลันมองใบหน้าฉันนิ่งๆ อยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะพูดขึ้น “ก็แค่ทำตัวเหมือนปกติ มันคงไม่ยากอะไรใช่ไหม ?” “ฉันคิดว่าเราไม่ควรเจอกันอีก” ฉันพูดสวนกลับไป ไม่ใช่ว่าไม่อยากได้ยินคำว่าจะรับผิดชอบ แต่เขาเลือกที่จะเมินเฉยฉันเองจะทำอะไรได้ จะให้ฉันทำตัวปกติได้ยังไง “เอาไว้รถซ่อมเสร็จเมื่อไหร่ก็ทางใครทางมัน” อลันบอก “แล้วเมื่อไหร่ ?”“ไม่รู้”“ถ้าอย่างนั้นนายก็เอารถฉันไปขับสิ” มันเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ที่ฉันบอกอลันแบบนี้ “ขี้เกียจ” อลันบอกเสียงเย็นก่อนจะหยิบเสื้อแจ็คเก็ตขึ้นมาสวมใส่ “ไม่ต้องไปส่งเดี๋ยวนั่งแท็กซี่กลับเอง” “รีบๆ ออกไปจากห้องฉันสักที” “อยากให้รับผิดชอบหรือไง ?” อลันเหลือบตามาถามเพราะคงสังเกตอาการของฉันอยู่“มันเป็นสิ่งที่นายควรทำไม่ใช่มาถามฉัน”“อ่า! จะให้รับผิดชอบยังไงดี ขอเป็นแฟน ?” “ฉันไม่ชอบนาย” “ก็ไม่ได้ชอบเหมือนกัน” อลันถอนหายใจออกมาหนักๆ แล้วพูดต่อ “มันก็แค่เซ็กส์จะคิดมากทำไม
“ฉันไปอ่อยเพื่อนนายตั้งแต่เมื่อไหร่ เพื่อนนายแค่เอาน้ำมาให้” ฉันตั้งคำถามกับอลันเพราะไม่เข้าใจกับคำว่า ‘อ่อย’ ที่เขากำลังกล่าวหา อลันมองหน้าฉันด้วยแววตานิ่งๆ ก่อนจะเดินหนีไป บทจะเงียบก็เงียบไปดื้อๆ บทจะพูดมากก็พูดมากจนน่ารำคาญ “ประสาท” ฉันบ่นตามหลังอลันที่เดินหายไปอย่างไม่สบอารมณ์ ถึงเขาจะได้ยินก็ไม่สนใจหรอกเพราะมาว่าฉันเอง ฉันนั่งรออลันต่ออีกประมาณเกือบจะสองชั่วโมงได้จนตอนนี้มันเริ่มจะค่ำแล้ว เขายังไม่มีท่าทีว่าจะกลับ ไอ้เรื่องเมื่อคืนที่เกิดขึ้นมันถูกความโกรธของฉันครอบงำไปจนหมด ตอนนี้มันโกรธที่อลันปล่อยให้ฉันรอเขานานขนาดนี้ ฉันตัดสินใจลุกขึ้นเดินไปหาอลันกับกลุ่มเพื่อน ซึ่งตอนแรกคิดว่าพวกเขากำลังซ่อมรถกันอยู่ แต่เปล่าเลยตอนนี้พวกเขากำลังนั่งดื่มกัน “ถ้าจะดื่มก็ไม่ควรบอกให้ฉันรอนะ” ฉันยืนข้างๆ ตัวของอลันแล้วพูด “กลับไปดิ” อลันตอบพร้อมกับยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่ม ไม่หันมามองกันด้วยซ้ำ “แล้วทำไมไม่พูดคำนี้ตั้งแต่แรก!!” “ก็ไม่ถาม” “นายตั้งใจจะยั่วประสาทฉันชัดๆ !!” ฉันบอกออกไปอย่างหัวเสียก่อนจะรีบเดินกลับมาที่รถ รู้แบบนี้ไม่มานั่งรอให้เสียเวลาหรอก #คอนโดฉันทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาแร
หลังจากวางสายฉันก็กำโทรศัพท์แน่น ในหัวมันกำลังคิดว่าควรจะไปเจออลันที่ห้องน้ำหรือเปล่า แต่ถ้าฉันไม่ไปเจอเขาแล้วเขาลงแข่งล่ะ ถ้าเกิดมีอุบัติเหตุขึ้นมาฉันก็จะรู้สึกผิดอีก อ่า! ทำไมจู่ๆ ฉันถึงได้เป็นคนดีขนาดนี้นะ ฉันเดินมาหาบาทที่อยู่รวมกลุ่มกับเพื่อนๆ แล้วถามเขาว่าห้องน้ำอยู่ไหน “บาสห้องน้ำอยู่ตรงไหนหรอ ?” “พี่จะไปห้องน้ำหรอ เดี๋ยวผมพาไปมันอยู่ไกลนะ” “ไม่เป็นไรๆ บอกทางมาก็พอ” ฉันรีบค้านเมื่อได้ยินว่าบาสจะพาไป ขืนให้พาไปคงได้รู้แน่ๆ ว่าฉันนัดเจอกับอลัน เพราะทั้งคู่ไม่ถูกชะตากัน“มั่นใจจะไปคนเดียว มันอันตรายนะ” บาสแสดงสีหน้าเป็นห่วงออกมา “ไปเข้าห้องน้ำใครจะให้คนอื่นไปด้วยล่ะ ทำธุระส่วนตัวนะ ถ้ามีอันตรายพี่จะรีบโทรหาโอเคไหม”“อ่าๆ ก็ได้ๆ”บาสพยักหน้าตอบจากนั้นก็บอกทางไปห้องน้ำกับฉัน ซึ่งมันก็อยู่ไกลอย่างที่ว่าเพราะอยู่หลังตึกนู้นเลย “นี่พวกแกฉันไปห้องน้ำก่อนนะ เดี๋ยวมา” “อื้อๆ รีบๆ กลับมาล่ะ” มินนี่กับขวัญไม่สนใจฉันเท่าไหร่หรอกตอนนี้นางกำลังเมาท์กันเรื่องผู้ชายอยู่ฉันเดินแยกตัวออกมามาจากผู้คนเดินมาตามทางที่บาสบอก แถวนี้มันค่อนข้างเปลี่ยวและน่ากลัวอย่างที่ว่าไม่มีผิด ดีที่พอดีไฟเปิด
ดีที่ตอนนี้ฉันใส่กางเกงยีนขายาวอยู่ หากเป็นกระโปรงหรือกางเกงขาสั้นคงจะถูกอลันล้วงไปแล้ว “อลันพอได้ อื้อ~” เสียงท้วงมันขาดหายไปเมื่ออลันก้มลงมาจูบริมฝีปากของฉัน เขาบดขยี้ริมฝีปากอย่างหนักจนรู้สึกเจ็บจี๊ด และด้วยความไม่ทันระวังตัวฉันก็ถูกอลันล้วงมือเข้ามาในเสื้อ ตอนนี้ทำได้แค่พยายามจะรั้งมืออลันไว้พร้อมๆ กับทุบที่แผงอกของเขา แต่ทว่าอลันกลับไม่ได้เห็นใจ ตะขอเสื้อชั้นในหลุดออกจากกันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ตอนนี้ฝ่ามือใหญ่กำหน้าอกของฉันแล้วขยำมันเบาๆ ฉันกัดริมฝีปากแน่นพยายามห้ามปรามความรู้สึกบ้าๆ เอาไว้ “นมใหญ่จนกำไม่รอบ ซ่อนรูปเก่งจริงๆ” อลันถอนจูบออกแถวพูดขึ้นทั้งที่ริมฝีปากยังอยู่ใกล้ๆ กับริมฝีปากของฉัน จึงรีบดันเขาออก“ฉะ ฉันมานานแล้วเดี๋ยวเพื่อนจะสงสัยเอา”“กลัวเพื่อนสงสัยหรือกลัวไอ้บาสสงสัย ?” จู่ๆ อลันก็มองหน้าฉันอย่างหาเรื่อง “เกี่ยวอะไรกับบาส” “หึ!!” ฉันไม่รู้ว่าอลันเป็นอะไร ทำไมต้องทำเหมือนว่าหงุดหงิดขนาดนี้“อ๊ะ ดะ เดี๋ยว หยุดก่อนฉันบอกว่าพอไง” ฉันเบิกตากว้างเมื่ออลันจับชายเสื้อของฉันเลิกขึ้นมากองไว้บนเนินหน้าอก อลันก้มใบหน้าคมคายลงมาใช้ริมฝีปากตะโบมดูดดุนหน้าอกโดยไม่ส
ฉันรีบผลักอลันออกจากนั้นก็ก้มลงเก็บกางเกงของตัวเองแล้ววิ่งเข้ามาในห้องน้ำพร้อมกับล็อกกลอน ในที่สุดมันก็เกิดขึ้นอีกจนได้! ทำไมฉันถึงเป็นผู้หญิงที่ใจง่ายขนาดนี้นะ! “รถจอดอยู่ตรงไหน” เสียงอลันถามขึ้น “ถะ ถามทำไม” “ถ้าไม่อยากให้ลงแข่งก็ไปส่ง” “จะ จอดอยู่ที่ลานจอดรถ” “เอากุญแจมาจะไปรอที่รถ” ฉันหยิบกุญแจรถออกจากกระเป๋าจากนั้นก็ยื่นผ่านช่องด้านล่างของประตูให้อลัน เมื่อเอากุญแจรถให้อลันแล้วทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบสะงัด จนกระทั่งได้ยินเสียงเปิดประตูห้องน้ำ ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อรับรู้ว่าอลันออกไปแล้ว จากนั้นจึงรีบจัดการล้างทำความสะอาดตรงนั้นแล้วสวมใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย ฉันยืนมองตัวเองอยู่ในกระจกนานสองนาน ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำบ้าอะไรอยู่ แล้วเหตุการณ์แบบเมื่อครู่มันจะเกิดขึ้นอีกหรือเปล่า มันจะวนลูบไปแบบนี้เลยๆ อย่างนั้นหรอ แล้วถ้าวันหนึ่งฉันเกิดหวั่นไหวขึ้นมาล่ะ….ไม่! ต้องไม่มีความรู้สึกแบบนั้น ฉันจะไม่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก ฉันไม่ใช่ของที่อลันอยากจะได้เมื่อไหร่ก็ได้ ฉันพูดกับตัวเองอย่างหนักแน่นก่อนจะออกไปจากห้องน้ำ ทำตัวให้เหมือนปกติพยายามไม่ใส่ใจกับเรื่อง
ฉันถึงกับเบิกตากว้างเมื่ออลันพูดคำเมียออกไปอย่างโจ่งแจ้ง ไม่ต่างอะไรกับพี่เพิร์ทที่พอได้ยินก็ถึงกับขมวดคิ้วชนกันจ้องอลันเขม็ง “เมีย ?” พี่เพิร์ททวนคำพูดของอลันอีกครั้ง ก่อนจะถามต่อ “หมายถึงแพร ?”“ใช่….”“ไม่ใช่ค่ะ” ฉันรีบค้านขึ้นเสียงดัง ด้วยความที่ร้านมันเป็นแบบนั่งชิวเพลงไม่ดังมากทำให้โต๊ะข้างๆ หันมามองเมื่อได้ยินเสียงของฉันแล้วพอฉันตอบว่าไม่ใช่อลันก็หันควับมาจ้องหน้าจ้องฉันแทน ก่อนที่เขาจะพูดประโยคน่าอายออกมา “เมื่อวานเพิ่งจะเอากันไปลืมแล้วหรือไง ?”“อลัน!!” เป็นอีกครั้งที่ฉันตวาดเสียงดังลั่นจากนั้นก็ผลักอลันให้ออกห่าง อย่างน้อยเขาควรให้เกียรติฉันบ้างสิ ไม่ใช่พูดอะไรที่มันน่าอับอายแบบนี้ออกมา “ไหนแพรเคยกับพี่ว่าบอกว่ายังไม่พร้อมไงครับ แล้วที่เด็กคนนี้พูดคืออะไร ?” พี่เพิร์ทถาม สีหน้าของเขาดูตกใจกับคำพูดของอลันไม่น้อย “แพรยังไม่มีอะไรกับเขาค่ะ เราแค่คบหาดูใจกันยังไม่เลยเถิดถึงขั้นนั้น” ฉันรีบพูดแก้ต่างให้ตัวเอง ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่คำโกหกแต่มันก็ยังดีว่าพูดให้ตัวเองเสียหาย “หึ!” อลันหัวเราะในลำคอออกมาพร้อมกับใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มด้วยท่าทางที่ไม่สบอารมณ์ “นายไม่ควรพูดให้แพรเสีย