ฉันเงียบมองอลันที่กำลังหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่ เด็กคนนี้ทำไมถึงได้ใจร้ายกับฉันขนาดนี้นะ หลังจากใส่เสื้อผ้าแล้วอลันเดินมาหาฉันที่นอนอยู่บนเตียง ฉันกำชับผ้าห่มในมือแน่นเพราะกลัว สายตาคมกริบของอลันมองใบหน้าฉันนิ่งๆ อยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะพูดขึ้น “ก็แค่ทำตัวเหมือนปกติ มันคงไม่ยากอะไรใช่ไหม ?” “ฉันคิดว่าเราไม่ควรเจอกันอีก” ฉันพูดสวนกลับไป ไม่ใช่ว่าไม่อยากได้ยินคำว่าจะรับผิดชอบ แต่เขาเลือกที่จะเมินเฉยฉันเองจะทำอะไรได้ จะให้ฉันทำตัวปกติได้ยังไง “เอาไว้รถซ่อมเสร็จเมื่อไหร่ก็ทางใครทางมัน” อลันบอก “แล้วเมื่อไหร่ ?”“ไม่รู้”“ถ้าอย่างนั้นนายก็เอารถฉันไปขับสิ” มันเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ที่ฉันบอกอลันแบบนี้ “ขี้เกียจ” อลันบอกเสียงเย็นก่อนจะหยิบเสื้อแจ็คเก็ตขึ้นมาสวมใส่ “ไม่ต้องไปส่งเดี๋ยวนั่งแท็กซี่กลับเอง” “รีบๆ ออกไปจากห้องฉันสักที” “อยากให้รับผิดชอบหรือไง ?” อลันเหลือบตามาถามเพราะคงสังเกตอาการของฉันอยู่“มันเป็นสิ่งที่นายควรทำไม่ใช่มาถามฉัน”“อ่า! จะให้รับผิดชอบยังไงดี ขอเป็นแฟน ?” “ฉันไม่ชอบนาย” “ก็ไม่ได้ชอบเหมือนกัน” อลันถอนหายใจออกมาหนักๆ แล้วพูดต่อ “มันก็แค่เซ็กส์จะคิดมากทำไม
“ฉันไปอ่อยเพื่อนนายตั้งแต่เมื่อไหร่ เพื่อนนายแค่เอาน้ำมาให้” ฉันตั้งคำถามกับอลันเพราะไม่เข้าใจกับคำว่า ‘อ่อย’ ที่เขากำลังกล่าวหา อลันมองหน้าฉันด้วยแววตานิ่งๆ ก่อนจะเดินหนีไป บทจะเงียบก็เงียบไปดื้อๆ บทจะพูดมากก็พูดมากจนน่ารำคาญ “ประสาท” ฉันบ่นตามหลังอลันที่เดินหายไปอย่างไม่สบอารมณ์ ถึงเขาจะได้ยินก็ไม่สนใจหรอกเพราะมาว่าฉันเอง ฉันนั่งรออลันต่ออีกประมาณเกือบจะสองชั่วโมงได้จนตอนนี้มันเริ่มจะค่ำแล้ว เขายังไม่มีท่าทีว่าจะกลับ ไอ้เรื่องเมื่อคืนที่เกิดขึ้นมันถูกความโกรธของฉันครอบงำไปจนหมด ตอนนี้มันโกรธที่อลันปล่อยให้ฉันรอเขานานขนาดนี้ ฉันตัดสินใจลุกขึ้นเดินไปหาอลันกับกลุ่มเพื่อน ซึ่งตอนแรกคิดว่าพวกเขากำลังซ่อมรถกันอยู่ แต่เปล่าเลยตอนนี้พวกเขากำลังนั่งดื่มกัน “ถ้าจะดื่มก็ไม่ควรบอกให้ฉันรอนะ” ฉันยืนข้างๆ ตัวของอลันแล้วพูด “กลับไปดิ” อลันตอบพร้อมกับยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่ม ไม่หันมามองกันด้วยซ้ำ “แล้วทำไมไม่พูดคำนี้ตั้งแต่แรก!!” “ก็ไม่ถาม” “นายตั้งใจจะยั่วประสาทฉันชัดๆ !!” ฉันบอกออกไปอย่างหัวเสียก่อนจะรีบเดินกลับมาที่รถ รู้แบบนี้ไม่มานั่งรอให้เสียเวลาหรอก #คอนโดฉันทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาแร
หลังจากวางสายฉันก็กำโทรศัพท์แน่น ในหัวมันกำลังคิดว่าควรจะไปเจออลันที่ห้องน้ำหรือเปล่า แต่ถ้าฉันไม่ไปเจอเขาแล้วเขาลงแข่งล่ะ ถ้าเกิดมีอุบัติเหตุขึ้นมาฉันก็จะรู้สึกผิดอีก อ่า! ทำไมจู่ๆ ฉันถึงได้เป็นคนดีขนาดนี้นะ ฉันเดินมาหาบาทที่อยู่รวมกลุ่มกับเพื่อนๆ แล้วถามเขาว่าห้องน้ำอยู่ไหน “บาสห้องน้ำอยู่ตรงไหนหรอ ?” “พี่จะไปห้องน้ำหรอ เดี๋ยวผมพาไปมันอยู่ไกลนะ” “ไม่เป็นไรๆ บอกทางมาก็พอ” ฉันรีบค้านเมื่อได้ยินว่าบาสจะพาไป ขืนให้พาไปคงได้รู้แน่ๆ ว่าฉันนัดเจอกับอลัน เพราะทั้งคู่ไม่ถูกชะตากัน“มั่นใจจะไปคนเดียว มันอันตรายนะ” บาสแสดงสีหน้าเป็นห่วงออกมา “ไปเข้าห้องน้ำใครจะให้คนอื่นไปด้วยล่ะ ทำธุระส่วนตัวนะ ถ้ามีอันตรายพี่จะรีบโทรหาโอเคไหม”“อ่าๆ ก็ได้ๆ”บาสพยักหน้าตอบจากนั้นก็บอกทางไปห้องน้ำกับฉัน ซึ่งมันก็อยู่ไกลอย่างที่ว่าเพราะอยู่หลังตึกนู้นเลย “นี่พวกแกฉันไปห้องน้ำก่อนนะ เดี๋ยวมา” “อื้อๆ รีบๆ กลับมาล่ะ” มินนี่กับขวัญไม่สนใจฉันเท่าไหร่หรอกตอนนี้นางกำลังเมาท์กันเรื่องผู้ชายอยู่ฉันเดินแยกตัวออกมามาจากผู้คนเดินมาตามทางที่บาสบอก แถวนี้มันค่อนข้างเปลี่ยวและน่ากลัวอย่างที่ว่าไม่มีผิด ดีที่พอดีไฟเปิด
ดีที่ตอนนี้ฉันใส่กางเกงยีนขายาวอยู่ หากเป็นกระโปรงหรือกางเกงขาสั้นคงจะถูกอลันล้วงไปแล้ว “อลันพอได้ อื้อ~” เสียงท้วงมันขาดหายไปเมื่ออลันก้มลงมาจูบริมฝีปากของฉัน เขาบดขยี้ริมฝีปากอย่างหนักจนรู้สึกเจ็บจี๊ด และด้วยความไม่ทันระวังตัวฉันก็ถูกอลันล้วงมือเข้ามาในเสื้อ ตอนนี้ทำได้แค่พยายามจะรั้งมืออลันไว้พร้อมๆ กับทุบที่แผงอกของเขา แต่ทว่าอลันกลับไม่ได้เห็นใจ ตะขอเสื้อชั้นในหลุดออกจากกันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ตอนนี้ฝ่ามือใหญ่กำหน้าอกของฉันแล้วขยำมันเบาๆ ฉันกัดริมฝีปากแน่นพยายามห้ามปรามความรู้สึกบ้าๆ เอาไว้ “นมใหญ่จนกำไม่รอบ ซ่อนรูปเก่งจริงๆ” อลันถอนจูบออกแถวพูดขึ้นทั้งที่ริมฝีปากยังอยู่ใกล้ๆ กับริมฝีปากของฉัน จึงรีบดันเขาออก“ฉะ ฉันมานานแล้วเดี๋ยวเพื่อนจะสงสัยเอา”“กลัวเพื่อนสงสัยหรือกลัวไอ้บาสสงสัย ?” จู่ๆ อลันก็มองหน้าฉันอย่างหาเรื่อง “เกี่ยวอะไรกับบาส” “หึ!!” ฉันไม่รู้ว่าอลันเป็นอะไร ทำไมต้องทำเหมือนว่าหงุดหงิดขนาดนี้“อ๊ะ ดะ เดี๋ยว หยุดก่อนฉันบอกว่าพอไง” ฉันเบิกตากว้างเมื่ออลันจับชายเสื้อของฉันเลิกขึ้นมากองไว้บนเนินหน้าอก อลันก้มใบหน้าคมคายลงมาใช้ริมฝีปากตะโบมดูดดุนหน้าอกโดยไม่ส
ฉันรีบผลักอลันออกจากนั้นก็ก้มลงเก็บกางเกงของตัวเองแล้ววิ่งเข้ามาในห้องน้ำพร้อมกับล็อกกลอน ในที่สุดมันก็เกิดขึ้นอีกจนได้! ทำไมฉันถึงเป็นผู้หญิงที่ใจง่ายขนาดนี้นะ! “รถจอดอยู่ตรงไหน” เสียงอลันถามขึ้น “ถะ ถามทำไม” “ถ้าไม่อยากให้ลงแข่งก็ไปส่ง” “จะ จอดอยู่ที่ลานจอดรถ” “เอากุญแจมาจะไปรอที่รถ” ฉันหยิบกุญแจรถออกจากกระเป๋าจากนั้นก็ยื่นผ่านช่องด้านล่างของประตูให้อลัน เมื่อเอากุญแจรถให้อลันแล้วทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบสะงัด จนกระทั่งได้ยินเสียงเปิดประตูห้องน้ำ ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อรับรู้ว่าอลันออกไปแล้ว จากนั้นจึงรีบจัดการล้างทำความสะอาดตรงนั้นแล้วสวมใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย ฉันยืนมองตัวเองอยู่ในกระจกนานสองนาน ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำบ้าอะไรอยู่ แล้วเหตุการณ์แบบเมื่อครู่มันจะเกิดขึ้นอีกหรือเปล่า มันจะวนลูบไปแบบนี้เลยๆ อย่างนั้นหรอ แล้วถ้าวันหนึ่งฉันเกิดหวั่นไหวขึ้นมาล่ะ….ไม่! ต้องไม่มีความรู้สึกแบบนั้น ฉันจะไม่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก ฉันไม่ใช่ของที่อลันอยากจะได้เมื่อไหร่ก็ได้ ฉันพูดกับตัวเองอย่างหนักแน่นก่อนจะออกไปจากห้องน้ำ ทำตัวให้เหมือนปกติพยายามไม่ใส่ใจกับเรื่อง
ฉันถึงกับเบิกตากว้างเมื่ออลันพูดคำเมียออกไปอย่างโจ่งแจ้ง ไม่ต่างอะไรกับพี่เพิร์ทที่พอได้ยินก็ถึงกับขมวดคิ้วชนกันจ้องอลันเขม็ง “เมีย ?” พี่เพิร์ททวนคำพูดของอลันอีกครั้ง ก่อนจะถามต่อ “หมายถึงแพร ?”“ใช่….”“ไม่ใช่ค่ะ” ฉันรีบค้านขึ้นเสียงดัง ด้วยความที่ร้านมันเป็นแบบนั่งชิวเพลงไม่ดังมากทำให้โต๊ะข้างๆ หันมามองเมื่อได้ยินเสียงของฉันแล้วพอฉันตอบว่าไม่ใช่อลันก็หันควับมาจ้องหน้าจ้องฉันแทน ก่อนที่เขาจะพูดประโยคน่าอายออกมา “เมื่อวานเพิ่งจะเอากันไปลืมแล้วหรือไง ?”“อลัน!!” เป็นอีกครั้งที่ฉันตวาดเสียงดังลั่นจากนั้นก็ผลักอลันให้ออกห่าง อย่างน้อยเขาควรให้เกียรติฉันบ้างสิ ไม่ใช่พูดอะไรที่มันน่าอับอายแบบนี้ออกมา “ไหนแพรเคยกับพี่ว่าบอกว่ายังไม่พร้อมไงครับ แล้วที่เด็กคนนี้พูดคืออะไร ?” พี่เพิร์ทถาม สีหน้าของเขาดูตกใจกับคำพูดของอลันไม่น้อย “แพรยังไม่มีอะไรกับเขาค่ะ เราแค่คบหาดูใจกันยังไม่เลยเถิดถึงขั้นนั้น” ฉันรีบพูดแก้ต่างให้ตัวเอง ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่คำโกหกแต่มันก็ยังดีว่าพูดให้ตัวเองเสียหาย “หึ!” อลันหัวเราะในลำคอออกมาพร้อมกับใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มด้วยท่าทางที่ไม่สบอารมณ์ “นายไม่ควรพูดให้แพรเสีย
“หนูทดลอง?” อลันทวนคำพูดของฉันพร้อมกับจ้องมองด้วยสายตาที่ดุดัน“ใช่!!” ฉันผลักอลันออกแล้วเดินมาที่รถต่อโดยไม่สนใจพรึบ!! เป็นอีกครั้งที่แขนของฉันถูกกระชาก จากนั้นร่างก็ถูกลากมาที่หน้ากระโปรงรถ ก่อนจะถูกอลันกดให้เอนหลังราบลง มือทั้งสองข้างของฉันถูกอลันรวบขึ้นมาขึงตรึงเอาไว้เหนือศีรษะ มันจึงทำให้ฉันไม่สามารถดิ้นไปไหนได้“ปล่อยนะ เดี๋ยวมีคนเห็นขึ้นมาจะทำยังไง”“หมายถึงไอ้แฟนเก่าที่ชื่อแพมเพิร์สอะไรนั่นน่ะหรอ?”“เพิร์ท! ไม่ใช่แพมเพิร์ส” ทำไมจะดูไม่ออกว่าอลันตั้งใจเรียกพี่เพิร์ทแบบนั้น“แพมเพิร์สเหมาะกับมันดี”“ก็แล้วแต่นายจะเรียก” ฉันตอบพลางดิ้นไปมาทว่าเมื่อเริ่มดิ้นอลันก็โน้มใบหน้าลงมาใกล้ๆ ใกล้จนริมฝีปากแทบจะชิดกัน ด้วยความที่ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นในที่สาธารณะฉันจึงเบือนหน้าหนี“อย่าทำอะไรต่ำๆ กับฉันอีก”“ไหนบอกว่าหนูทดลอง?”“ใช่! ก็แค่ทดลอง นายเข้าใจคำว่าทดลองหรือเปล่าล่ะ” ครั้งนี้ฉันหันหน้ามาจ้องตากับอลัน ทั้งฉันและเขาต่างจ้องกันเขม็ง ใบหน้าอยู่ใกล้กันแค่คืบ“ทดลองไปเรื่อยๆ อะหรอ?” อลันเลิกคิ้วขึ้น ไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าหนูทดลองคือทดลองไปเรื่อยๆ“ปล่อยสิฉันจะ
“ยัยแพร ไปนานจังแล้วไหนพาวเวอร์แบงค์ล่ะ” พอได้ยินขวัญถามแบบนั้นฉันก็เพิ่งรู้ตัวเองว่าลืมหยิบมา เพราะรีบเดินหนีอลัน “ฉะ ฉันหาแล้วแต่ไม่เจอ”“อื้อๆ ช่างเถอะ” ขวัญตอบปัดๆ แล้วยกเหล้าดื่ม ฉันนั่งลงที่เดิมพร้อมกับดื่มเหล้าติดกันหลายแก้วเพราะเหตุการณ์เมื่อครู่ที่มันเกิดขึ้น ความอับอายที่ทำอะไรแบบนั้นในที่โจ่งแจ้งมันประเดประดังเข้ามาในหัว“ฉันอยากให้น้องอลันมานั่งคุยที่โต๊ะเราด้วยจัง แค่แป๊บเดียวก็ยังดี” มินนี่พูด “ยัยมิน แกดูเพ้อถึงน้องมันเกินไปแล้วนะ”“นี่! แกว่าฉันกับน้องเขาจะเป็นเนื้อคู่กันหรือเปล่าเจอกันหลายครั้งแล้วนะ” “เพ้อเจ้อค่ะ” ขวัญบอกมินนี่อย่างเอือมละอาในความมโน “น้องอลันหล่อนี่นา ใบหน้าหวานๆ แต่สายตาคู่นั้นมันดุดัน รอยยิ้มมุมปากที่แสนร้ายกาจ ลองจินตนาการถ้าฉันได้อยู่ใต้ร่างน้องมันนะ….”“ก็งั้นๆ มันน่าตื่นเต้นตรงไหน” ฉันเผลอพูดขัดขึ้นออกมา ทำให้ถูกขวัญกับมินนี่หันควับมามองเป็นตาเดียว “แกพูดเหมือนเคยนอนอยู่ใต้ร่างน้องมันแล้วอย่างนั้นแหละ” มินนี่จ้องฉันเหมือนกำลังจับผิด “บะ บ้าหรอฉันจะไปทำอะไรแบบนั้นได้ยังไง” ฉันรีบปฏิเสธออกไปทันที“นั่นสิ ยัยแพรยังบริสุทธิ์อยู่นะแกลืมไปแล้