หลังจากวางสายฉันก็กำโทรศัพท์แน่น ในหัวมันกำลังคิดว่าควรจะไปเจออลันที่ห้องน้ำหรือเปล่า แต่ถ้าฉันไม่ไปเจอเขาแล้วเขาลงแข่งล่ะ ถ้าเกิดมีอุบัติเหตุขึ้นมาฉันก็จะรู้สึกผิดอีก อ่า! ทำไมจู่ๆ ฉันถึงได้เป็นคนดีขนาดนี้นะ ฉันเดินมาหาบาทที่อยู่รวมกลุ่มกับเพื่อนๆ แล้วถามเขาว่าห้องน้ำอยู่ไหน “บาสห้องน้ำอยู่ตรงไหนหรอ ?” “พี่จะไปห้องน้ำหรอ เดี๋ยวผมพาไปมันอยู่ไกลนะ” “ไม่เป็นไรๆ บอกทางมาก็พอ” ฉันรีบค้านเมื่อได้ยินว่าบาสจะพาไป ขืนให้พาไปคงได้รู้แน่ๆ ว่าฉันนัดเจอกับอลัน เพราะทั้งคู่ไม่ถูกชะตากัน“มั่นใจจะไปคนเดียว มันอันตรายนะ” บาสแสดงสีหน้าเป็นห่วงออกมา “ไปเข้าห้องน้ำใครจะให้คนอื่นไปด้วยล่ะ ทำธุระส่วนตัวนะ ถ้ามีอันตรายพี่จะรีบโทรหาโอเคไหม”“อ่าๆ ก็ได้ๆ”บาสพยักหน้าตอบจากนั้นก็บอกทางไปห้องน้ำกับฉัน ซึ่งมันก็อยู่ไกลอย่างที่ว่าเพราะอยู่หลังตึกนู้นเลย “นี่พวกแกฉันไปห้องน้ำก่อนนะ เดี๋ยวมา” “อื้อๆ รีบๆ กลับมาล่ะ” มินนี่กับขวัญไม่สนใจฉันเท่าไหร่หรอกตอนนี้นางกำลังเมาท์กันเรื่องผู้ชายอยู่ฉันเดินแยกตัวออกมามาจากผู้คนเดินมาตามทางที่บาสบอก แถวนี้มันค่อนข้างเปลี่ยวและน่ากลัวอย่างที่ว่าไม่มีผิด ดีที่พอดีไฟเปิด
ดีที่ตอนนี้ฉันใส่กางเกงยีนขายาวอยู่ หากเป็นกระโปรงหรือกางเกงขาสั้นคงจะถูกอลันล้วงไปแล้ว “อลันพอได้ อื้อ~” เสียงท้วงมันขาดหายไปเมื่ออลันก้มลงมาจูบริมฝีปากของฉัน เขาบดขยี้ริมฝีปากอย่างหนักจนรู้สึกเจ็บจี๊ด และด้วยความไม่ทันระวังตัวฉันก็ถูกอลันล้วงมือเข้ามาในเสื้อ ตอนนี้ทำได้แค่พยายามจะรั้งมืออลันไว้พร้อมๆ กับทุบที่แผงอกของเขา แต่ทว่าอลันกลับไม่ได้เห็นใจ ตะขอเสื้อชั้นในหลุดออกจากกันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ตอนนี้ฝ่ามือใหญ่กำหน้าอกของฉันแล้วขยำมันเบาๆ ฉันกัดริมฝีปากแน่นพยายามห้ามปรามความรู้สึกบ้าๆ เอาไว้ “นมใหญ่จนกำไม่รอบ ซ่อนรูปเก่งจริงๆ” อลันถอนจูบออกแถวพูดขึ้นทั้งที่ริมฝีปากยังอยู่ใกล้ๆ กับริมฝีปากของฉัน จึงรีบดันเขาออก“ฉะ ฉันมานานแล้วเดี๋ยวเพื่อนจะสงสัยเอา”“กลัวเพื่อนสงสัยหรือกลัวไอ้บาสสงสัย ?” จู่ๆ อลันก็มองหน้าฉันอย่างหาเรื่อง “เกี่ยวอะไรกับบาส” “หึ!!” ฉันไม่รู้ว่าอลันเป็นอะไร ทำไมต้องทำเหมือนว่าหงุดหงิดขนาดนี้“อ๊ะ ดะ เดี๋ยว หยุดก่อนฉันบอกว่าพอไง” ฉันเบิกตากว้างเมื่ออลันจับชายเสื้อของฉันเลิกขึ้นมากองไว้บนเนินหน้าอก อลันก้มใบหน้าคมคายลงมาใช้ริมฝีปากตะโบมดูดดุนหน้าอกโดยไม่ส
ฉันรีบผลักอลันออกจากนั้นก็ก้มลงเก็บกางเกงของตัวเองแล้ววิ่งเข้ามาในห้องน้ำพร้อมกับล็อกกลอน ในที่สุดมันก็เกิดขึ้นอีกจนได้! ทำไมฉันถึงเป็นผู้หญิงที่ใจง่ายขนาดนี้นะ! “รถจอดอยู่ตรงไหน” เสียงอลันถามขึ้น “ถะ ถามทำไม” “ถ้าไม่อยากให้ลงแข่งก็ไปส่ง” “จะ จอดอยู่ที่ลานจอดรถ” “เอากุญแจมาจะไปรอที่รถ” ฉันหยิบกุญแจรถออกจากกระเป๋าจากนั้นก็ยื่นผ่านช่องด้านล่างของประตูให้อลัน เมื่อเอากุญแจรถให้อลันแล้วทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบสะงัด จนกระทั่งได้ยินเสียงเปิดประตูห้องน้ำ ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อรับรู้ว่าอลันออกไปแล้ว จากนั้นจึงรีบจัดการล้างทำความสะอาดตรงนั้นแล้วสวมใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย ฉันยืนมองตัวเองอยู่ในกระจกนานสองนาน ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำบ้าอะไรอยู่ แล้วเหตุการณ์แบบเมื่อครู่มันจะเกิดขึ้นอีกหรือเปล่า มันจะวนลูบไปแบบนี้เลยๆ อย่างนั้นหรอ แล้วถ้าวันหนึ่งฉันเกิดหวั่นไหวขึ้นมาล่ะ….ไม่! ต้องไม่มีความรู้สึกแบบนั้น ฉันจะไม่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก ฉันไม่ใช่ของที่อลันอยากจะได้เมื่อไหร่ก็ได้ ฉันพูดกับตัวเองอย่างหนักแน่นก่อนจะออกไปจากห้องน้ำ ทำตัวให้เหมือนปกติพยายามไม่ใส่ใจกับเรื่อง
ฉันถึงกับเบิกตากว้างเมื่ออลันพูดคำเมียออกไปอย่างโจ่งแจ้ง ไม่ต่างอะไรกับพี่เพิร์ทที่พอได้ยินก็ถึงกับขมวดคิ้วชนกันจ้องอลันเขม็ง “เมีย ?” พี่เพิร์ททวนคำพูดของอลันอีกครั้ง ก่อนจะถามต่อ “หมายถึงแพร ?”“ใช่….”“ไม่ใช่ค่ะ” ฉันรีบค้านขึ้นเสียงดัง ด้วยความที่ร้านมันเป็นแบบนั่งชิวเพลงไม่ดังมากทำให้โต๊ะข้างๆ หันมามองเมื่อได้ยินเสียงของฉันแล้วพอฉันตอบว่าไม่ใช่อลันก็หันควับมาจ้องหน้าจ้องฉันแทน ก่อนที่เขาจะพูดประโยคน่าอายออกมา “เมื่อวานเพิ่งจะเอากันไปลืมแล้วหรือไง ?”“อลัน!!” เป็นอีกครั้งที่ฉันตวาดเสียงดังลั่นจากนั้นก็ผลักอลันให้ออกห่าง อย่างน้อยเขาควรให้เกียรติฉันบ้างสิ ไม่ใช่พูดอะไรที่มันน่าอับอายแบบนี้ออกมา “ไหนแพรเคยกับพี่ว่าบอกว่ายังไม่พร้อมไงครับ แล้วที่เด็กคนนี้พูดคืออะไร ?” พี่เพิร์ทถาม สีหน้าของเขาดูตกใจกับคำพูดของอลันไม่น้อย “แพรยังไม่มีอะไรกับเขาค่ะ เราแค่คบหาดูใจกันยังไม่เลยเถิดถึงขั้นนั้น” ฉันรีบพูดแก้ต่างให้ตัวเอง ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่คำโกหกแต่มันก็ยังดีว่าพูดให้ตัวเองเสียหาย “หึ!” อลันหัวเราะในลำคอออกมาพร้อมกับใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มด้วยท่าทางที่ไม่สบอารมณ์ “นายไม่ควรพูดให้แพรเสีย
“หนูทดลอง?” อลันทวนคำพูดของฉันพร้อมกับจ้องมองด้วยสายตาที่ดุดัน“ใช่!!” ฉันผลักอลันออกแล้วเดินมาที่รถต่อโดยไม่สนใจพรึบ!! เป็นอีกครั้งที่แขนของฉันถูกกระชาก จากนั้นร่างก็ถูกลากมาที่หน้ากระโปรงรถ ก่อนจะถูกอลันกดให้เอนหลังราบลง มือทั้งสองข้างของฉันถูกอลันรวบขึ้นมาขึงตรึงเอาไว้เหนือศีรษะ มันจึงทำให้ฉันไม่สามารถดิ้นไปไหนได้“ปล่อยนะ เดี๋ยวมีคนเห็นขึ้นมาจะทำยังไง”“หมายถึงไอ้แฟนเก่าที่ชื่อแพมเพิร์สอะไรนั่นน่ะหรอ?”“เพิร์ท! ไม่ใช่แพมเพิร์ส” ทำไมจะดูไม่ออกว่าอลันตั้งใจเรียกพี่เพิร์ทแบบนั้น“แพมเพิร์สเหมาะกับมันดี”“ก็แล้วแต่นายจะเรียก” ฉันตอบพลางดิ้นไปมาทว่าเมื่อเริ่มดิ้นอลันก็โน้มใบหน้าลงมาใกล้ๆ ใกล้จนริมฝีปากแทบจะชิดกัน ด้วยความที่ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นในที่สาธารณะฉันจึงเบือนหน้าหนี“อย่าทำอะไรต่ำๆ กับฉันอีก”“ไหนบอกว่าหนูทดลอง?”“ใช่! ก็แค่ทดลอง นายเข้าใจคำว่าทดลองหรือเปล่าล่ะ” ครั้งนี้ฉันหันหน้ามาจ้องตากับอลัน ทั้งฉันและเขาต่างจ้องกันเขม็ง ใบหน้าอยู่ใกล้กันแค่คืบ“ทดลองไปเรื่อยๆ อะหรอ?” อลันเลิกคิ้วขึ้น ไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าหนูทดลองคือทดลองไปเรื่อยๆ“ปล่อยสิฉันจะ
“ยัยแพร ไปนานจังแล้วไหนพาวเวอร์แบงค์ล่ะ” พอได้ยินขวัญถามแบบนั้นฉันก็เพิ่งรู้ตัวเองว่าลืมหยิบมา เพราะรีบเดินหนีอลัน “ฉะ ฉันหาแล้วแต่ไม่เจอ”“อื้อๆ ช่างเถอะ” ขวัญตอบปัดๆ แล้วยกเหล้าดื่ม ฉันนั่งลงที่เดิมพร้อมกับดื่มเหล้าติดกันหลายแก้วเพราะเหตุการณ์เมื่อครู่ที่มันเกิดขึ้น ความอับอายที่ทำอะไรแบบนั้นในที่โจ่งแจ้งมันประเดประดังเข้ามาในหัว“ฉันอยากให้น้องอลันมานั่งคุยที่โต๊ะเราด้วยจัง แค่แป๊บเดียวก็ยังดี” มินนี่พูด “ยัยมิน แกดูเพ้อถึงน้องมันเกินไปแล้วนะ”“นี่! แกว่าฉันกับน้องเขาจะเป็นเนื้อคู่กันหรือเปล่าเจอกันหลายครั้งแล้วนะ” “เพ้อเจ้อค่ะ” ขวัญบอกมินนี่อย่างเอือมละอาในความมโน “น้องอลันหล่อนี่นา ใบหน้าหวานๆ แต่สายตาคู่นั้นมันดุดัน รอยยิ้มมุมปากที่แสนร้ายกาจ ลองจินตนาการถ้าฉันได้อยู่ใต้ร่างน้องมันนะ….”“ก็งั้นๆ มันน่าตื่นเต้นตรงไหน” ฉันเผลอพูดขัดขึ้นออกมา ทำให้ถูกขวัญกับมินนี่หันควับมามองเป็นตาเดียว “แกพูดเหมือนเคยนอนอยู่ใต้ร่างน้องมันแล้วอย่างนั้นแหละ” มินนี่จ้องฉันเหมือนกำลังจับผิด “บะ บ้าหรอฉันจะไปทำอะไรแบบนั้นได้ยังไง” ฉันรีบปฏิเสธออกไปทันที“นั่นสิ ยัยแพรยังบริสุทธิ์อยู่นะแกลืมไปแล้
อลันก้มหน้าลงมาใกล้ๆ ใบหูของฉันแล้วกระซิบบอก “ถ้าอยากรู้ก็ลองท้าทายดูสิ” บางครั้งเขาก็เป็นผู้ชายที่น่ากลัว เข้าถึงยาก ฉันไม่รู้เลยว่านิสัยจริงๆ ของอลันเป็นยังไงกันแน่ อลันจับแขนฉันดึงมายังที่นอน ก่อนที่เขาจะผลักตัวของฉันให้นอนราบลงไปบนเตียง รับรู้ได้ทันทีว่าเรื่องแบบนั้นมันจะเกิดขึ้นอีกครั้ง “อยากทำมากเลยใช่ไหม” ฉันถามอลันเสียงสั่น ก่อนจะลุกขึ้นยืนผลักเขาออกห่าง จากนั้นก็เริ่มถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกทีละชิ้นๆ โดยมีสายตาของอลันจับจ้องอยู่ “ฉันเป็นเบี้ยล่างของนายอยู่แล้วนี่ เอาเลย อยากทำอะไรก็เชิญ” เมื่อถอดเสื้อผ้าเสร็จฉันก็กลับขึ้นมานอนรออลันบนเตียงเหมือนเดิม “รีบๆ จัดการซะสิ เสร็จแล้วก็รีบกลับไปฉันไม่อยากให้นายนอนค้างที่นี่” ฉันพูดขึ้นอีกครั้งเพราะอลันเอาแต่เงียบ ไม่ใช่ว่าไม่อายที่แก้ผ้าต่อหน้าต่อตาเขาแบบนี้ แต่เพราะความโกรธมันทำให้ฉันกล้า “หิวข้าว” อลันบอกแล้วก้มลงดึงผ้าหุ่มมาปิดตัวฉันไว้แบบลวกๆ คำพูดของเขามันทำให้ฉันงุนงง ทั้งที่ยอมง่ายๆ แบบนี้แล้วทำไมจู่ๆ เขาถึงเพิกเฉย “มีมาม่าไหม ?” อลันถาม“มี” “ไปต้มมาม่าให้กินหน่อย”“ถ้าอยากกินก็ไปต้มกินเองฉันไม่ใช่…..”“เดี๋ยวดูทีวีร
อลันยังคงเอาแต่กระแทกเอวสอบเข้ามาหนักๆ เขาใช้นิ้วบดขยี้ติ่งเกสรของฉันเพื่อให้หลุดครางออกมา มันทรมานยิ่งกว่าทรมานซะอีกที่ต้องอดกลั้นเสียงห้ามเล็ดลอดออกมาแบบนี้ ปัก ปัก ปัก~ เสียงกระแทกกระทั้นมันยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าหวานของอลันมันดุดัน สายตาของเขากำลังจ้องฉันเขม็ง เมื่อไม่มีทางเลือก สิ่งที่ตัดสินใจทำคือเอื้อมมือไปหวังจะหยิบโทรศัพท์แต่ทว่าอลันกลับปัดโทรศัพท์ให้ห่างออกไปจากมือฉัน “อึก อื้อ~” ฉันกัดริมฝีปากตัวเองแน่นจนห้อเลือดเมื่อถูกแก่นกายใหญ่รุกล้ำเข้ามาอย่างป่าเถื่อน“ครางให้มันฟังหน่อยสิ ซี๊ด” อลันบอก ฉันยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองแล้วส่ายหน้ารัวๆ การที่ฉันปฏิเสธมันยิ่งทำให้เขาไม่พอใจ ตอนนี้อลันเร่งจังหวะอัดกระแทกให้รุนแรงและเร็วมากขึ้นจนแทบหายใจไม่ทัน จากนั้นไม่นานเขาก็ดึงแก่นกายใหญ่ออกมารีดน้ำสีขุ่นลงบนหน้าท้องที่แบนราบของฉัน อลันก้มหน้าบงมามองแล้วพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ ก่อนที่เขาจะเก็บแก่นกายใหญ่ของตัวเองไว้ในกางเกงเหมือนเดิมแล้วลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำ พอเห็นว่าอลันเดินไปแล้วฉันรีบลุกขึ้นหยิบโทรศัพท์มาดูโดยไม่สนใจคราบน้ำกามที่มันเปรอะเปื้อนอยู่ที่หน้าท้องของตัวเอง แต่เมื่อหยิ