โรงพยาบาลตอนนี้ฉันกับอลันอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนอลิชเธอกลับไปที่บ้านแล้วเพราะต้องไปดูลูก ทั้งฉันและอลันได้รับการตรวจร่างกายอย่างละเอียดทั้งคู่ แต่ที่ต่างออกไปคือหมอให้ฉันตรวจเลือดและตรวจปัสสาวะ ตอนนี้เรากำลังนั่งรอผลตรวจอยู่อาการของอลันดีขึ้น ตอนนี้เขานั่งจนแทบจะสิงร่างฉันอยู่แล้ว “ขยับไปหน่อยได้ไหม ดูสิคนมองเยอะเลยนะ” ฉันกระซิบบอกอลัน “ขยับออกก็อ้วก จะเอาแบบนั้นไหมล่ะ” “แล้วอยู่ใกล้ฉันไม่อยากอ้วกหรือไง” เขาส่ายหน้าแทนคำตอบ ถึงอาการของเขาจะดีขึ้นแต่ร่างกายยังอิดโรย ไม่นานเท่าไหร่คุณหมอก็เรียกให้เราสองคนไปฟังผลตรวจ “ผลตรวจของคุณผู้ชายเป็นปกติดีนะคะ” “แต่เขาทั้งเวียนหัวทั้งอ้วกเลยนะคะคุณหมอ” ฉันรีบพูดแย้งขึ้นทันที “คงจะเป็นอาการแพ้ท้องแทนภรรยาค่ะ ยินดีด้วยนะคะตอนนี้คุณกำลังตั้งครรภ์ ^_^” หมอพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่คำพูดนั้นยังวนอยู่ในหัวของฉัน ยินดีด้วยนะคะคุณกำลังตั้งครรภ์ มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเราไม่เคยพลาด อลันปล่อยนอกหรือไม่ก็ใส่ถุงยางอนามัยตลอด ตอนนั้นที่ปล่อยในฉันก็กินนาคุมฉุกเฉินแล้ว คิดไม่ออกเลยว่าจะท้องได้ยังไง “จริงหรอครับคุณหมอ ผมกำลังจะมีลูกหรอคร
#บ้านของฉันฉันกับอลันมาที่บ้านด้วยกันเพื่อจะมาบอกพ่อว่าเรากำลังจะมีลูก ก่อนมาเขาได้โทรบอกพ่อกำนันแล้วเห็นว่าดีใจยกใหญ่เลย พรุ่งนี้คงจะขึ้นมากรุงเทพมาคุยเรื่องงานแต่ง “จะมาทำไมไม่บอกก่อนจะได้ให้คนจัดเตรียมอาหารเพิ่ม” พอพ่อเห็นอลันเดินมาพร้อมกับฉันก็รีบท้วงทันที ถึงก่อนหน้านี้จะใจร้ายไปบ้างแต่ตอนนี้พ่อตากับลูกเขยเริ่มเข้ากันได้แล้วนะ “หนูมีเรื่องสำคัญจะบอกพ่อค่ะ ^_^” ฉันยิ้มให้พ่อแล้วก็หันมายิ้มให้อลัน จากนั้นเราสามคนก็พากันเดินมาที่ห้องขับแขก“มีอะไรทำไมถึงต้องคุยเป็นทางการขนาดนี้ ?” พ่อถาม “พ่ออยากมีหลานคือเปล่าคะ” “อยากสิ พ่อแก่แล้วอยากจะรีบอุ้มหลานเร็วๆ” “งั้นคุณลุงก็สมหวังแล้วครับ” อลันพูดแทรก “หมายความว่ายังไง ?” พ่อขมวดคิ้วมองเราทั้งคู่สลับกัน ฉันคลี่ยิ้มก่อนจะตอบ “หนูท้องค่ะ ^_^” พอบอกว่าท้องพ่อก็เงียบไปเหมือนตกใจ ทำเอาฉันใจหาย ไหนบอกว่าอยากอุ้มหลานเร็วๆ ไง ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้น“คุณลุงไม่ดีใจหรอครับ” อลันรีบถามเพราะเห็นพ่อเงียบไป “ลง ลุงอะไรกัน เรียกพ่อได้แล้วไอ้ลูกเขย” พ่อพูดออกมาพร้อใกับรอยยิ้มบนใบหน้า ทำเอาฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกนึกว่าพ่อจะเสียใจซะอีก อีกหนึ่งเรื่องร
5 เดือนผ่านไป ชีวิตหลังแต่งงาน “ทำให้มันดีๆ หน่อยสิอลัน” “ก็ทำดีๆ อยู่นี่ไง” “แล้วนายเอาหมูไปผัดแบบนั้นได้ยังไง ทำไมไม่ผัดหมูก่อน”“แล้วทำไมไม่บอกก่อนก็รู้ว่าทำอาหารไม่เป็น”“ทำไม่เป็นก็ถอยไปฉันจะทำเอง”“ไม่ต้องยุ่งออกไปนั่งรอเลยไป” ฉันมองสามีของตัวเองทำอาหารด้วยความเหนื่อยใจ ทำไม่เป็นยังจะเสนอตัวอวดเก่งอยากจะโชว์ฝีมือ ชีวิตคู่ของเราไม่ได้โปรยด้วยกลีบกุหลาบ ไม่ได้รักกันจนหวานชื่น เรามีปากเสียงกันในบางครั้งไม่เข้าใจกันบ้าง แต่ความรักที่มีให้กันมันก็ยังคงอยู่และเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ฉันว่ามันคงเป็นธรรมดาของชีวิตคู่ จะให้รักกันปานจะกลืนกินคงไม่ใช่ คนที่อยู่ด้วยกันการทะเลาะและปรับความเข้าใจเป็นเรื่องปกติ “เสร็จแล้วครับคุณเมีย ^_^” อลันถือจานอาหารที่ตัวเองทำมาวางไว้ที่โต๊ะด้วยสีหน้าที่ปลื้มอกปลื้มใจกับฝีมือตัวเอง “ผัดผักยังไงให้ผักไม่สุก แบบนี้จะกินยังไง” “ผักต้องสุก ?” เขาถามอย่างกับไม่เคยกินผัดผักมาก่อนในชีวิตถึงไม่รู้ว่ามันต้องสุกประมาณไหน “ถ้าลูกคลอดออกมาฉันคงไม่ไว้ใจให้นายทำอาหารให้ลูกกินแน่ๆ” “ของแบบนี้มันพัฒนากันได้ ตอนนี้ทำไม่เป็นอีกสิบปีข้างหน้าอาจจะได้เป็นเชฟกระทะเหล็กก็ไ
Talk แพร@คลับ เสียงเพลงที่ดังกระหึ่มท่ามกลางแสงไฟหลากสี ผู้หญิงผู้ชายที่มาในที่แห่งนี้ต่างสนุกและเมามาย ต่างกับฉันที่กำลังนั่งอมทุกข์อยู่ “ชวนฉันมานั่งดูแกอมทุกข์แบบนี้หรือไง” เสียงมินนี่เพื่อนของฉันเอ่ยถามแข่งกับเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มจนแสบแก้วหู “…ฉันก็อยากจะมีความสุขอยู่หรอกนะ” ตอบแค่นั้นฉันก็ยกเหล้าขึ้นมากระดกจนหมดแก้ว ที่ฉันต้องมาเศร้าอยู่แบบนี้ก็เพราะความรักที่ไม่รักดี ฉันดันไปเผลอใจรักผู้ชายคนหนึ่งมากๆ แต่เขากลับบอกเลิกด้วยเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพียงเพราะฉันยังไม่พร้อมจะมีอะไรด้วยแค่นั้น ฉันไม่คิดว่าการที่ตัวเองยังไม่พร้อมในเรื่องแบบนั้นจะใช้มาเป็นเหตุผลบอกเลิกกันได้ จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังไม่เข้าใจว่าเซ็กส์มันสำคัญมากกว่าความรู้สึกดีๆ ที่ฉันให้เขาอย่างนั้นหรอ ถึงได้เลือกจบความสัมพันธ์แบบนั้น สายตาของฉันสำรวจมองไปรอบๆ คลับอย่างเหม่อลอย จนกระทั่งไปหยุดโฟกัสที่ชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังนั่งดื่มด้วยกันอย่างสนิทสนม ริมฝีปากของฉันค่อยๆ ขยับเอ่ยชื่อผู้ชายคนนั้นออกมาด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวด “…พี่เพิร์ท” เขาคือผู้ชายที่ทำให้ผู้หญิงอย่างฉันยอมเปิดใจ ทั้งๆ ที่ฉันไม่สนใจเรื่องความรัก
หลายวันผ่านไปฉันไม่ได้ออกไปไหนที่ร้านกาแฟก็ฝากลูกน้องดูแลแทน เพื่อนของฉันแวะมาเยี่ยมบ้างแต่พวกมันก็มาไม่บ่อย บอกว่าอยากให้ฉันอยู่กับตัวเองและตอนนี้ฉันก็โอเคขึ้นบ้างแล้ว คงเป็นเพราะฉันห่างจากความรักมานาน พอมาเปิดใจรับใครแล้วต้องเจอกับความเจ็บปวดก็เลยเสียใจมาก แต่ต่อไปนี้ฉันจะพยายามเข้มแข็ง จะไม่อ่อนแอแบบที่ผ่านมาอีก แล้วก็จะไม่ทำตัวโง่ๆ ขอร้องให้พี่เพิร์ทกลับมาด้วย กริ้ง~เสียงโทรศัพท์ในมือของฉันดังขึ้น เบอร์ที่โทรมาคือเบอร์ของอลิช ฉันจึงรีบกดรับสาย( ว่าไงแก ) ฉันถาม ( แกโอเคขึ้นหรือยัง พอดีฉันอยากจะให้ไปดูอลันที่คอนโดให้หน่อยน่ะ โทรไปไม่รับสายเลย ) ( อื้อฉันอยากออกไปข้างนอกอยู่เหมือนกัน เดี๋ยวจะแวะไปดูให้นะ )จริงๆ ฉันก็ไม่ได้อยากจะรับปาก แต่เพราะเพื่อนขอร้องจึงปฏิเสธไม่ได้ น้ำเสียงของอลิชเหมือนจะกังวลไม่น้อยที่น้องชายตัวเองเงียบไป ( ขอบคุณมากนะแก ยังไงก็บอกให้อลันโทรกลับมาหาฉันด้วยนะ ห้องอลันอยู่ตรงข้ามกับห้องฉันที่คอนโดเก่านั่นแหละ ) ( อื้อๆ ) หลังจากกดรับสายแล้วฉันก็ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว วันนี้จะเป็นวันแรกที่ได้ออกไปข้างนอกหลังจากที่อุดอู้อยู่แต่ในห้องมาหลายวัน #คอนโดฉันขึ
#คอนโดหลังจากไปตรวจงานที่ร้าน Coffee เป็นร้านเล็กๆ ของฉันเอง กลับมาถึงคอนโดก็ช่วงเย็นๆ คงเป็นเพราะว่าอยู่ที่ห้องมานานหลายวันมันถึงทำให้ฉันรู้สึกเบื่อแบบนี้ จะไปหาอลิชก็ไม่ได้ ตอนนี้นางใจอ่อนให้สามีแล้วคงอยากมีเวลาส่วนตัว ฉันหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าแล้วพิมพ์แชตกลุ่มไปหาเพื่อน ฉัน: วันนี้ไปดื่มกัน พอฉันพิมพ์บอกไปทั้งขวัญและมินนี่ก็พิมพ์ตอบกลับมาเร็วมากๆ ขวัญ: เย้!! ในที่สุดเพื่อนคนเดิมของฉันก็กลับมาสักที รู้ไหมไม่ได้ยินแกชวนไปดื่มตั้งนานโคตรเหงาเลย ฉัน: ขนาดนั้นเชียว ?มินนี่: แล้วแกโอเคขึ้นหรือยังเรื่องผู้ชายคนนั้น ฉัน: อื้อ โอเคขวัญ: ตอบแบบนี้แปลว่าไม่ชัวร์ มินนี่: ไปแล้วทำหน้าหงอยแบบรอบที่แล้วตบนะคะ ฉัน: สามทุ่มครึ่งเจอกันที่หน้าคลับแล้วกัน พวกนางรู้ดีว่าฉันหมายถึงคลับไหน เพราะเราจะมีคลับที่ไปดื่มกันประจำพิมพ์บอกเสร็จฉันก็กดปิดแชตแล้วถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย ชีวิตตอนนี้รู้สึกว่ามันไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น มันว่างเปล่าจริงๆ เมื่อไหร่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมสักทีนะ เวลา 21:30 น. #คลับหรูใจกลางเมือง ทั้งที่ฉันนัดสองคนนั้นเวลานี้แท้ๆ แต่ไม่เห็นจะมีใครโผล่หัวมาเลย พอฉันโทรถาม
“ฉันเล่นเกมกับเพื่อน ตอนนี้ไม่มีเวลาอธิบายไปกับฉันก่อน” “ไม่ไป” เขาตอบแบบไม่ทันได้คิดเลยด้วยซ้ำ แถมยังพูดต่ออีกด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก “ยืนอยู่ทำไมเกะกะ” เป็นการไล่ที่ไม่มีคำหยาบแต่พอมันออกมาจากปากของอลัน ทำเอาฉันสะอึกแทบพูดไม่ออก “ถ้านายไม่ไปฉันจะบอกอลิชว่านายมาดื่ม แล้ววันนี้ก็มีผู้หญิงไปหานายที่ห้องด้วย” ฉันหาข้ออ้างเพื่อให้ตัวเองถือไพ่เหนือกว่า “เชิญ” คำตอบสั้นๆ ไม่สนใจในสิ่งที่ฉันยกมาเป็นข้ออ้างทำให้ฉันหมดหนทาง“ใครวะอลัน ?” เพื่อนอลันคงจะสงสัยว่าฉันเป็นใครถึงได้ถามเขา แต่คนถูกถามไม่ยอมตอบเอาแต่นั่งดื่ม ฉันจึงตอบแทน “ฉันเป็นเพื่อนพี่สาวเขาน่ะ” พอฉันบอกแบบนั้นผู้ชายที่โต๊ะก็พยักหน้าเข้าใจ มีแค่อลันที่ยังเงียบ หรือฉันควรจะยอมแพ้แล้วเดินกลับไปที่โต๊ะคนเดียวดีนะ ไม่สิ! เลี้ยงเหล้าหนึ่งเดือนหมดเงินเยอะเหมือนกันนะ ยิ่งดื่มเก่งกันด้วย ถึงบ้านฉันจะมีฐานะแต่ฉันก็ไม่อยากเสียเงินมากมายแบบนั้นไปกับค่าเหล้า ฉันเปิดกระเป๋าแล้วหยิบเงินออกมาสองพันยื่นให้อลัน “ฉันจ้างนายก็ได้ไปกับฉันแค่สองสามนาทีได้ไปสองพันคุ้มเกินคุ้มอีกนะ” “ไม่ได้เห็นแก่เงิน” อลันตอบโดยไม่สนใจหันมามองเงินที่ฉันยื่นให
Talk อลัน “รถจอดไว้ตรงไหน ?” ผมถามผู้หญิงน่ารำคาญที่อยู่ในอ้อมแขน “ม่ายรู้ลองกดกุญแจดูสิ” เธอพูดในลำคอ รู้ตัวว่าดื่มแล้วจะเมาก็ยังจะดื่ม จริงๆ เธออายุมากกว่าผม แต่ผมมันพวกไม่ค่อยมีมารยาทเลยไม่อยากจะใช้คำนำหน้าว่าพี่สักเท่าไหร่ อีกอย่างตัวเล็กแค่นี้มายืนคู่กับผมใครก็ดูไม่ออกว่าเธออายุมากกว่า ผมซุ่มกดปลดล็อกกุญแจดูว่ารถอยู่ตรงไหน เมื่อมองเห็นไฟที่รถคันหนึ่งกระพริบจึงรีบเดินไปที่รถคันนั้น “นั่งเฉยๆ จะคาดเข็มขัดให้” ผมบอกอย่างหงุดหงิด ถ้าไม่ใช่เพราะเธอเป็นเพื่อนของพี่สาวคงไม่มีทางยอมขับรถไปส่งแบบนี้แน่ๆ “อื้อ~” เสียงเล็กครางออกมาในลำคอเบาๆ แล้วถามอย่างเหม่อลอย “ทามมายผู้ชายถึงคิดแต่จะทำเรื่องนั้น” “เรื่องไหน” ผมถามก่อนจะสตาร์ทรถ “…เรื่องบนเตียง” “จะคิดมากทำไมใครๆ เขาก็เอากันทั้งนั้น” “มัน อึก เป็นเรื่องปกติหรอ ?” เธอหันหน้ามาถามเหมือนไม่รู้ว่าเรื่องบนเตียงใครเขาก็ทำกัน ความซื่อบื้อแบบนี้มันขัดกับอายุจริงๆ แกล้งทำตัวใสซื้อหรือเปล่าวะ“ไม่เคยเอากับใครเลยว่างั้น ?” “ฉันม่ายด้ายมั่วสักหน่อย”“อืม” ผมตอบปัดรำคาญ ไม่ชอบผู้หญิงที่พูดมากเท่าไหร่ ยิ่งผู้หญิงที่พูดไม่รู้เรื่องแบบนี้ทำให