ให้หลังจากที่อลันออกไปจากห้องฉันก็ต้องถอนหายใจออกมาหนักๆ เขาไม่มีท่าทีว่าจะเลิกยุ่งง่ายๆ ชอบทำให้ฉันหวั่นไหว ทำเหมือนฉันสำคัญในบางครั้ง แต่ไม่มีความชัดเจนเลยสักครั้ง อลันกำลังเล่นกับความรู้สึกของฉันอยู่เขากำลังทำให้ฉันเป็นบ้า!!! ขู่มาแบบนั้นแล้วฉันจะกล้าเปลี่ยนรหัสห้องได้ยังไง ถ้าเปลี่ยนประตูคงได้พังจริงๆ แทบจะครึ่งค่อนวันที่ฉันเอาแต่คิดมากเรื่องอลัน ไม่รู้ว่าคิดอะไรมากมายแต่ความรู้สึกทั้งหมดมันอัดแน่นแทบจะระเบิดออกมา แค่คิดว่าถ้าต่อจากนี้เขาจะมีใครหรือมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นฉันก็รู้สึกหงุดหงิดจนแทบจะเป็นบ้า ฉันคงทนไม่ได้แน่ๆ เพราะถ้ารู้สึกกับใคร ฉันจะเป็นผู้หญิงที่ขี้หึงมากๆตอนนี้ฉันติดกับดักเสือร้ายตัวนี้แล้วสินะ เฮ้อ! กริ้ง~ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาทำให้ฉันหลุดออกจากวังวนความคิดของตัวเอง ก่อนจะหยิบขึ้นมาดูว่าใครโทรมา เมื่อเห็นสายที่โทรมามันก็ทำให้แปลกใจ เพราะว่าเป็นอลัน แถมยังโทรวิดีโอคอลมาด้วย ทำเอาฉันลังเลอยู่พักใหญ่จนสายตัดไป แต่อลันก็โทรมาอีกครั้ง ฉันจึงกดรับ พอรับสายภาพหน้าจอก็ขึ้นโชว์ให้เห็นว่าตอนนี้อลันกำลังนอนอยู่บนเตียง ถึงจะไปแค่ไม่กี่ครั้งแต่ฉันก็จำสีผ้าปูที่นอนของ
“ผมไม่ได้เห็นแก่เงินนะพี่” ผู้ชายที่ยืนขวางหน้าฉันอยู่รีบแย้งขึ้นมา “ฉันไม่ได้คิดว่านายเห็นแก่เงิน ฉันแค่อยากไปด้านใน” “ไอ้อลันมัน….เฮ้ย!พี่” ฉันไม่รอให้เขาพูดจบพอหาจังหวะได้ก็รีบวิ่งเข้ามาในอู่ทันที แต่วิ่งมาไม่เท่าไหร่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นว่าอลันเดินสวนมาพอดี ด้านหลังของเขามีผู้หญิงคนหนึ่งเดินตามมาด้วย นั่นยิ่งทำให้ฉันเดือดดาล ในใจมันร้อนรุ่มราวกับเปลวไฟ ไม่รู้ว่าอะไรเข้าสิงทำให้ฉันเดินไปตบหน้าอลัน มันโกรธ อารมณ์เดือด ฉันไม่สามารถควบคุมตัวเองได้จริงๆ “ตบทำไม ?” อลันถาม เขาไม่มีท่าทีตกใจเลยทั้งที่โดนฉันตบเต็มแรงขนาดนั้น เพียงแค่ถามเสียงเย็นเท่านั้น “ผู้หญิงคนนี้เป็นอะไรกับนาย” “ถามทำไม” “ฉันไม่มีสิทธิ์รู้เลยงั้นหรอ” บ้า มันบ้ามากจริงๆ ฉันไม่ควรมาหาเขาตั้งแต่แรก ทำไมฉันถึงไม่เลือกกลับไปสงบสติอารมณ์อารมณ์ที่คอนโด“ก็แค่ถามว่าจะถามทำไม” “ถ้านายแค่รักสนุกก็อย่ามายุ่งกับฉันสิ นายจะมายุ่งกับฉันทำไม!!” “ไปกันใหญ่” อลันพูดออกมาปนรำคาญ ใช่! ฉันรู้ตัวเองดีว่าน่ารำคาญขนาดไหน เขามาทำให้รู้สึกเองไม่ใช่หรือไง “ถ้าฉันมันน่ารำคาญมากนายก็เลิกยุ่งซะสิ น่ารำคาญไม่ใช่หรือไงแล้วจะมามีอะไร
ฉันใช้มือดันแผงอกแกร่งของอลันไว้แล้วพยายามดิ้นเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้น แต่ยิ่งดิ้นเข้าก็ยิ่งกอดรัดฉันแน่นขึ้น “ไปเข้าห้องน้ำเอาโทรศัพท์วางไว้ข้างนอก เด็กไอ้กันเลยรับสายให้” “เพิ่งรู้ว่าไม่ได้เป็นอะไรกันแต่มีสิทธิ์รับโทรศัพท์แทนด้วย” “พูดความจริงจะเชื่อไม่เชื่อก็ตามใจ” “เดินออกมาพร้อมกับแบบนั้นจะให้ฉันเชื่ออะไรไม่ทราบ นายก็แค่แก้ตัว” “สำหรับคนที่ไม่สำคัญไม่จำเป็นต้องแก้ตัวอะไร” “…….” จากที่ดิ้นๆ อยู่ ฉันก็ต้องหยุดอัตโนมัติเมื่อได้ยินคำนี้หลุดออกมาจากปากของอลัน “จะหึงจนหน้ามืดตามัวเลยหรือไง ไหนบอกไม่ชอบเด็ก ?” อลันขยับหน้ามาใกล้ๆ แล้วพูดต่อ “เมื่อกี้สารภาพมาหมดแล้วนะ” “นายมาทำกับฉันแบบนี้ทำไมล่ะ ฉันก็มีความรู้สึกเหมือนกัน” ในเมื่อพูดความรู้สึกของตัวเองออกไปแล้วฉันก็ไม่จำเป็นต้องแก้ตัวอะไร ถึงจะอายที่ตัวเองเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปชอบเขาก่อนก็ตาม “ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ก็บอกแล้วไงว่าคิดไปเอง” “ปล่อยฉัน” ฉันเริ่มดิ้นอีกครั้ง “วันนี้ไปเก็บเสื้อผ้ามาที่ห้อง” พูดจบเขาก็ล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกงของตัวเองแล้วหยิบคีย์การ์ดขึ้นมาเอาให้ฉัน “ห้องรกฝากเก็บด้วยแล้วกัน” อลันปล่อยตัวฉันให้เป
ฉันดันอกแกร่งของอลันออกห่างพร้อมกับเอนศีรษะหนี เพราะตอนนี้เราอยู่ใกล้กันมากเกินไปแล้ว “ฉะ ฉันไม่มี” “ไม่มีอะไร ?” อลันเค้นถามในสิ่งที่ฉันไม่อยากพูดถึง แถมยังขยับหน้ามาใกล้ๆ ทำให้ฉันยอมพูด “ผะ ผัวไง” “หึ” เขาหยัดตัวขึ้นตรงแล้วหัวเราะในลำคอ ถึงแม้จะอายุห่างกันหลายปีแต่เวลาที่อยู่ด้วยกันมันทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ “ฉันกล้บห้องก่อนนะ” “คืนนี้กลับมานอนที่นี่”“เอาไว้พรุ่งนี้ก็ได้” ฉันแย้งขัดทำให้อลันแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา “คืนนี้” เขาพูดย้ำอีกครั้ง ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะพยักหน้าตอบ “อื้อ” “อย่าทำให้หงุดหงิด” “นายล่ะ จะควงผู้หญิงไปที่โต๊ะหรือเปล่า ?” “ปกติมีผู้หญิงมาหาที่โต๊ะ ไม่เคยไปควงใครมา”“แล้วนายจะเล่นด้วยงั้นหรอถ้ามีผู้หญิงเข้าหา” ฉันเผลอเม้มปากแน่นเมื่อถามจบ เพราะลุ้นคำตอบของอลัน“อยากให้ทำแบบนั้นหรือเปล่า ?” “คิดดูสิว่านายควรทำหรือเปล่า” ฉันเลือกที่จะตอบแบบให้อลันกลับไปคิดทบทวนดู ฉันหยิบกระเป๋าลุกขึ้นยืนแล้วเดินผ่านหน้าอลันไปยังประตูห้อง ก่อนจะเปิดประตูออกมีเสียงของอลันดังขึ้นมาตามหลัง “แต่งตัวให้มันดีๆ อย่าท้าทาย”ฉันหันกลับมาถามอลัน “ถ้าท้า
ตอนนี้ทุกคนในคลับต่างให้ความสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น กลัวก็กลัวอายก็อาย “มีอะไรกัน” เสียงทุ้มของเฮียเฟยท้วงขึ้นก่อนจะเดินมาหยุดตรงโต๊ะฉัน แล้วมองอลันที่จับแขนฉันอยู่ด้วยสีหน้าที่เข้มขรึม “ไอ้นี่มันเอาขวดฟาดหัวผมครับเสี่ย” นักร้องหนุ่มรีบฟ้องเฮียเฟยทันที เฮียเฟยมองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินมาหาอลัน ฉันรู้ดีว่าเฮียเฟยเวลาโกรธนั้นน่ากลัวขนาดไหนจึงรีบมายืนบังอลันไว้เพราะถ้าเป็นฉันเฮียคงไม่กล้าทำอะไร“มึงมีปัญหาอะไรกับคนของกู” เสียงทุ้มของเฮียเฟยถามอลัน อลันไม่ได้ตอบอะไรเพื่อนๆ ของเขาก็เงียบ ไม่มีใครปริปากพูดรวมถึงเพื่อนฉันด้วย “กูถามทำไมมึงไม่พูด!!” พออลันไม่ยอมตอบเฮียเฟยก็ตวาดเสียงดัง“เฮียคะแพรขอโทษแทนอลันด้วยนะคะที่ทำให้วุ่นวายวันนี้” ฉันยอมขอโทษแทนไม่อย่างนั้นอลันเจอหนักแน่ๆ “มันเป็นอะไรกับแพร ?” เฮียเฟยขมวดคิ้วถาม ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พูดอะไรเสียงของอลันก็พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน “เป็นผัว” “เฮียไม่คิดว่าแพรจะชอบพวกอันธพาลแบบนี้นะ” “….….” ฉันเองก็ไม่รู้จะพูดยังไง ไม่ได้อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเลย ไม่คิดว่าอลันจะทำถึงขั้นนี้“ยุ่งอะไรไม่ทราบ อยากได้เมียคนอื่นว่างั้น ?” อลันถามเฮียเ
อลันพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ เหมือนเขากำลังไม่โอเคกับคำพูดของฉัน ซึ่งฉันมองว่ามันไม่ผิดอะไรเลยในเมื่อเขาหยุดไม่ได้ ต่อให้เราอยู่ด้วยกันแบบนี้มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะหยุดที่ฉัน เพราะฉะนั้นฉันก็ต้องเซฟความรู้สึกตัวเองเหมือนกัน ถึงจะทำแบบนั้นยากก็ตาม วันนี้ฉันถอยไม่ได้ก็จะเดินหน้าไปให้สุดทาง…เดินไปจนกว่าจะถึงทางตัน “นายบอกฉันว่าต้องใช้เวลา เวลาที่ว่าคือนายจะหยุดเจ้าชู้เพราะฉันงั้นหรอ”“ถ้าถึงวันนั้นจะรู้เอง” อลันยังไงก็คืออลัน เขาไม่เคยทำให้ฉันหายสงสัยในทุกๆ เรื่องที่ถามบางครั้งฉันคิดว่าตัวเองรู้จักเขาดี แต่บางครั้งก็รู้สึกว่าฉันไม่รู้จักเขาเลย “วันนั้นที่ว่ามันอีกนานหรือเปล่าล่ะ ถ้านานมากๆ ฉันคงไม่รอ” ฉันพูดไปตามตรง ในเมื่อรู้สึกฉันรอให้เขาจัดการตัวเองได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะรอไปตลอด คงไม่มีใครอยากเดินย้ำๆ อยู่กับที่ ฉันรู้ว่าไม่ควรเสี่ยงกับเสือตัวนี้ แต่ฉันเลือกเดินเข้ามาในกรงแล้วนี่ “หยุดพูดเรื่องนี้แล้วคุยเรื่องไอ้นักร้องนั่นดีกว่าไหม” อลันบอกเสียงเย็น เขาแกะมือที่ฉันสวมกอดออก จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนจ้องฉันเขม็ง “ฉะ ฉันบอกไปแล้วไงว่าไม่ได้ตั้งใจ”“ไม่ได้ตั้งใจ เหอะ! ถ้าตั้งใจจะ
วันต่อมาฉันตื่นขึ้นมาภายในห้องที่ว่างเปล่า อลันไม่ได้อยู่ในห้อง แค่ขยับตัวความปวดร้าวก็เข้ามาเล่นงาน มันเจ็บปวดไปทั้งร่างกายและเจ็บตรงนั้นเป็นพิเศษ “อื้อ~” ฉันร้องในลำคอขณะที่กำลังพยุงตัวเองลุกขึ้นนั่ง ตอนนี้ร่างกายไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าเลยสักชิ้น เมื่อลุกขึ้นได้ฉันก็มองหาโทรศัพท์ก่อนอันดับแรก จากนั้นก็หยิบมาเช็คดูว่ามีข้อความอะไรหรือเปล่า ฉันเลื่อนดูข้อความในโทรศัพท์เป็นข้อความจากมินนี่และขวัญส่งมา และข้อความจากอลันที่บอกว่าเขาไปมหาวิทยาลัยแล้ว ฉันเลือกที่จะเปิดอ่านแชตของเพื่อน เป็นแชตกลุ่มของเรา มินนี่: เป็นไงบ้างยัยแพรรายงานตัวด้วย ขวัญ: เงียบไปเลยแกโอเคหรือเปล่า ทั้งขวัญและมินนี่แท็กชื่อฉัน พอเปิดอ่านแล้วฉันก็ตอบกลับไปเพียงข้อความสั้นๆ ฉัน: ฉันโอเค หลังจากตอบแชตเพื่อนแล้วฉันก็กดปิดจอโทรศัพท์แล้วพยุงตัวเองลุกขึ้นไปหยิบผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำ ตอนนั่งฉี่บอกตามตรงว่าเจ็บตรงนั้นจนน้ำตาคลอ เหตุการณ์เมื่อคืนทำให้ฉันเข็ดหลาบ ไม่อยากเจออะไรที่รุนแรงแบบนั้นอีก อลันไม่เห็นใจฉันเลยสักนิด แถมยังทำจนเกือบจะเช้าจริงๆ เพิ่งสังเกตเห็นตอนกำลังจะอาบน้ำว่าที่ขาอ่อนของฉันมีคราบเลือดติดอยู่ด
ไม่คิดว่าอลันจะจมูกดีขนาดนั้นหรือว่าเขาแค่หาเรื่อง แล้วถ้าฉันบอกว่าเฮียเฟยกอดถึงได้ติดกลิ่นน้ำหอมมาคงจะซวยมากแน่ๆ “กะ กลิ่นน้ำหอมผู้ชายที่ไหนอย่ามาหาเรื่องสิ” “ทำอะไรกับมัน ?” ทั้งที่เฮียเฟยแก่กว่าตั้งหลายปีแต่อลันกลับใช้คำว่ามันอย่างไม่รู้เกรงกลัว เขามันคนอันธพาลอย่างที่เฮียเฟยว่า “ฉันแค่ไปคุยเรื่องเมื่อคืน ไม่ได้ทำอะไร” “ถ้าแค่คุยทำไมถึงมีกลิ่นน้ำหอมผู้ชายคนอื่นติดเสื้อ ?” “กลิ่นน้ำหอมนายหรือเปล่า”“ไม่ใช่กลิ่นนี้แน่!!” ฉันลอบถอนหายใจออกมาหนักๆ เมื่ออลันกำลังบีบให้จนมุม “เรื่องแค่นี้ตอบไม่ได้หมายความว่ายังไง ห๊ะ!!” “ละ แล้วนายจะขึ้นเสียงทำไม”“ถ้าคุยตรงนี้ไม่สะดวกกลับไปคุยที่ห้องดีไหม ?” ฉันเกลียดน้ำเสียงแบบนี้ของอลันที่สุด มันเหมือนความซวยจะกำลังมายืนในเวลาอันแสนใกล้นี้ “นะ นายไม่ไปเรียนหรอ” “ไม่ต้องห่วง มีเรียนแค่ตอนช่วงเช้า” พูดจบอลันก็สตาร์ทรถแล้วขับออกไปจากด้านหน้าคลับ ตลอดทางจนมาถึงที่คอนโดเราไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลย ฉันก็เอาแต่นั่งเกร็งไปทั้งตัว #คอนโดของอลัน เมื่อประตูห้องถูกปิดลงอลันก็เริ่มถามฉันอย่างหาเรื่องอีกครั้ง “ไปทำอะไรกับมันมา” อลันเดินมากระชากแขนฉันอย่
5 เดือนผ่านไป ชีวิตหลังแต่งงาน “ทำให้มันดีๆ หน่อยสิอลัน” “ก็ทำดีๆ อยู่นี่ไง” “แล้วนายเอาหมูไปผัดแบบนั้นได้ยังไง ทำไมไม่ผัดหมูก่อน”“แล้วทำไมไม่บอกก่อนก็รู้ว่าทำอาหารไม่เป็น”“ทำไม่เป็นก็ถอยไปฉันจะทำเอง”“ไม่ต้องยุ่งออกไปนั่งรอเลยไป” ฉันมองสามีของตัวเองทำอาหารด้วยความเหนื่อยใจ ทำไม่เป็นยังจะเสนอตัวอวดเก่งอยากจะโชว์ฝีมือ ชีวิตคู่ของเราไม่ได้โปรยด้วยกลีบกุหลาบ ไม่ได้รักกันจนหวานชื่น เรามีปากเสียงกันในบางครั้งไม่เข้าใจกันบ้าง แต่ความรักที่มีให้กันมันก็ยังคงอยู่และเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ฉันว่ามันคงเป็นธรรมดาของชีวิตคู่ จะให้รักกันปานจะกลืนกินคงไม่ใช่ คนที่อยู่ด้วยกันการทะเลาะและปรับความเข้าใจเป็นเรื่องปกติ “เสร็จแล้วครับคุณเมีย ^_^” อลันถือจานอาหารที่ตัวเองทำมาวางไว้ที่โต๊ะด้วยสีหน้าที่ปลื้มอกปลื้มใจกับฝีมือตัวเอง “ผัดผักยังไงให้ผักไม่สุก แบบนี้จะกินยังไง” “ผักต้องสุก ?” เขาถามอย่างกับไม่เคยกินผัดผักมาก่อนในชีวิตถึงไม่รู้ว่ามันต้องสุกประมาณไหน “ถ้าลูกคลอดออกมาฉันคงไม่ไว้ใจให้นายทำอาหารให้ลูกกินแน่ๆ” “ของแบบนี้มันพัฒนากันได้ ตอนนี้ทำไม่เป็นอีกสิบปีข้างหน้าอาจจะได้เป็นเชฟกระทะเหล็กก็ไ
#บ้านของฉันฉันกับอลันมาที่บ้านด้วยกันเพื่อจะมาบอกพ่อว่าเรากำลังจะมีลูก ก่อนมาเขาได้โทรบอกพ่อกำนันแล้วเห็นว่าดีใจยกใหญ่เลย พรุ่งนี้คงจะขึ้นมากรุงเทพมาคุยเรื่องงานแต่ง “จะมาทำไมไม่บอกก่อนจะได้ให้คนจัดเตรียมอาหารเพิ่ม” พอพ่อเห็นอลันเดินมาพร้อมกับฉันก็รีบท้วงทันที ถึงก่อนหน้านี้จะใจร้ายไปบ้างแต่ตอนนี้พ่อตากับลูกเขยเริ่มเข้ากันได้แล้วนะ “หนูมีเรื่องสำคัญจะบอกพ่อค่ะ ^_^” ฉันยิ้มให้พ่อแล้วก็หันมายิ้มให้อลัน จากนั้นเราสามคนก็พากันเดินมาที่ห้องขับแขก“มีอะไรทำไมถึงต้องคุยเป็นทางการขนาดนี้ ?” พ่อถาม “พ่ออยากมีหลานคือเปล่าคะ” “อยากสิ พ่อแก่แล้วอยากจะรีบอุ้มหลานเร็วๆ” “งั้นคุณลุงก็สมหวังแล้วครับ” อลันพูดแทรก “หมายความว่ายังไง ?” พ่อขมวดคิ้วมองเราทั้งคู่สลับกัน ฉันคลี่ยิ้มก่อนจะตอบ “หนูท้องค่ะ ^_^” พอบอกว่าท้องพ่อก็เงียบไปเหมือนตกใจ ทำเอาฉันใจหาย ไหนบอกว่าอยากอุ้มหลานเร็วๆ ไง ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้น“คุณลุงไม่ดีใจหรอครับ” อลันรีบถามเพราะเห็นพ่อเงียบไป “ลง ลุงอะไรกัน เรียกพ่อได้แล้วไอ้ลูกเขย” พ่อพูดออกมาพร้อใกับรอยยิ้มบนใบหน้า ทำเอาฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกนึกว่าพ่อจะเสียใจซะอีก อีกหนึ่งเรื่องร
โรงพยาบาลตอนนี้ฉันกับอลันอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนอลิชเธอกลับไปที่บ้านแล้วเพราะต้องไปดูลูก ทั้งฉันและอลันได้รับการตรวจร่างกายอย่างละเอียดทั้งคู่ แต่ที่ต่างออกไปคือหมอให้ฉันตรวจเลือดและตรวจปัสสาวะ ตอนนี้เรากำลังนั่งรอผลตรวจอยู่อาการของอลันดีขึ้น ตอนนี้เขานั่งจนแทบจะสิงร่างฉันอยู่แล้ว “ขยับไปหน่อยได้ไหม ดูสิคนมองเยอะเลยนะ” ฉันกระซิบบอกอลัน “ขยับออกก็อ้วก จะเอาแบบนั้นไหมล่ะ” “แล้วอยู่ใกล้ฉันไม่อยากอ้วกหรือไง” เขาส่ายหน้าแทนคำตอบ ถึงอาการของเขาจะดีขึ้นแต่ร่างกายยังอิดโรย ไม่นานเท่าไหร่คุณหมอก็เรียกให้เราสองคนไปฟังผลตรวจ “ผลตรวจของคุณผู้ชายเป็นปกติดีนะคะ” “แต่เขาทั้งเวียนหัวทั้งอ้วกเลยนะคะคุณหมอ” ฉันรีบพูดแย้งขึ้นทันที “คงจะเป็นอาการแพ้ท้องแทนภรรยาค่ะ ยินดีด้วยนะคะตอนนี้คุณกำลังตั้งครรภ์ ^_^” หมอพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่คำพูดนั้นยังวนอยู่ในหัวของฉัน ยินดีด้วยนะคะคุณกำลังตั้งครรภ์ มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเราไม่เคยพลาด อลันปล่อยนอกหรือไม่ก็ใส่ถุงยางอนามัยตลอด ตอนนั้นที่ปล่อยในฉันก็กินนาคุมฉุกเฉินแล้ว คิดไม่ออกเลยว่าจะท้องได้ยังไง “จริงหรอครับคุณหมอ ผมกำลังจะมีลูกหรอคร
อลันเดินออกมาจากห้องน้ำทั้งที่ยังเอามือปิดจมูกอยู่ เขาทำท่าเหมือนขยะแขยงอาหารที่ฉันเตรียมให้มากๆ มันรู้สึกเฟลนิดๆ นะ อุตส่าห์ตั้งใจเตรียมให้แท้ๆ “ไปหาหมอไหม”“ไม่เป็นไรแค่เวียนหัวนิดหน่อย” ฉันเดินมาหาอลันแล้วยกมือขึ้นทาบบนหน้าผากของเขาเพื่อเช็คว่าตัวร้อนหรือเปล่า “ตัวก็ไม่ร้อนนี่ ทำไมจู่ๆ ถึงเป็นแบบนี้ล่ะ ฉันว่าไปหาหมอดีกว่านะอลัน”อลันสวมกอดฉันเอาไว้แน่นแล้วบอกด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “แค่กอดเมียแป๊บเดียวเดี๋ยวก็หาย” แปะ! ฉันฟาดมือลงบนแขนของอลันเบาๆ แล้วพูดค้อน “ฉันเป็นห่วงนะยังจะมาพูดเล่นอีก”“ไม่ได้พูดเล่นมันดีขึ้นจริงๆ นะ” พูดจับอลันก็เอาใบหน้ามาซุกลงบนซอกคอของฉัน “หอมจัง” “…นายคงกินไม่ได้แล้วใช่ไหมฉันจะได้เก็บ” ฉันถามเสียงเศร้า “มันเหม็น” อลันพูดกระซิบบอกที่หูเสียงเบา “อยากกินเมียแทนข้าว” ฝ่ามือสากเริ่มเลื้อยไปมาเป็นปลาหมึก ริมฝีปากหนาพรมจูบไปจนทั่วซอกคอของฉันก่อนจะขยับขึ้นมาที่พวงแก้มและประกบจูบที่ริมฝีปาก “อืม~” เสียงครางในลำคออย่างพึงพอใจของอลันทำให้ฉันรู้สึกวาบหวิว แควก! เสียงนี้คือเสียงชุดซีทรูตัวบางของฉันถูกฉีกอย่างไร้ความปรานี “อลัน!!” ฉันดันตัวออกแล้วจ้องอลันเขม็ง เข
วันต่อมา หลังจากที่อลันเลิกเรียนเราก็มาเจอเฮียเฟย นัดเจอกันที่ร้านอาหารในห้าง ฉันโทรนัดเฮียเอาไว้แล้ว #ภายในร้านอาหาร “เฮียสั่งจะกินอะไรไหมคะเดี๋ยวแพรสั่งให้” ฉันรีบถามเมื่อเฮียเฟยมาถึง มันรู้สึกเกร็งเอามากๆ สาเหตุก็เพราะอลันที่เอาแต่จ้องมองตลอดเวลา “ไม่เป็นไรเดี๋ยวเฮียต้องเข้าบริษัทไปกินที่บริษัทก็ได้”“งานยุ่งหรอคะช่วงนี้”“ก็….”“มีอะไรจะพูดก็รีบๆ พูด เอาแต่เนื้อ น้ำไม่ต้อง” อลันพูดแทรกขึ้นมาอย่างเสียมารยาท ฉันจึงหันมามองค้อนเขาด้วยสายตาที่ตำหนิ แต่เขาก็ทำท่าเหมือนทองไม่รู้ร้อน“ทีหลังถ้าจะนัดคุยมาคนเดียวดีกว่านะ แฟนแพรคงไม่สะดวก” เฮียเฟยบอก “ถ้าคุยสองต่อสองคงไม่ปล่อยให้มา” อบันตอบกลับทันควัน “นายช่วยอยู่เงียบๆ ได้ไหมอลัน” ฉันบอกเขาเสียงดุ ใจคอจะหาเรื่องให้ได้เลยหรือไง “แพรขอโทษแทนอลันด้วยนะคะ”“ไม่เป็นไรเฮียเข้าใจ แฟนแพรยังเด็ก….”“เด็กแล้วยังไง ?” เป็นอีกครั้งที่อลันถามอย่างไม่สบอารมณ์ “อลัน!!” ฉันจ้องเขาเขม็งจึงยอมปิดปากเงียบ มันน่าดีดหน้าผากแรงๆ สักทีให้เข็ดหลาบ “ที่นัดมาวันนี้แพรอยากจะมาขอโทษที่เคยพูดให้ความหวังเฮีย อยากขอโทษที่เคยดึงเฮียเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งที่แพรไม่ไ
ทางผู้ใหญ่พูดคุยกันครั้งนี้พ่อฉันยินยอมไม่ได้ขัดอย่างที่เคยลั่นวาจาเอาไว้ คุณคานส์สามีของอลิชเสนอตัวจะออกค่าใช้จ่าย ส่วนค่าสินสอดวันแต่งพ่อของอลันจะเป็นคนออกเอง โดยงานหมั้นจะจัดหลังจากที่มหาวิทยาลัยของอลันปิดเทอม ซึ่งก็คืออีกไม่นานนี้แล้ว หลังจากคุยธุระเสร็จเรียบร้อยเราก็นั่งกินข้าวด้วยกัน ฉันเองก็ยังเกร็งไม่หาย แต่ก็ดีใจที่พ่อของอลันเอ็นดูฉันมากขนาดนี้ ตอนนี้ฉันกำลังเดินเล่นกับอลิชอยู่ที่สนามหน้าบ้าน ส่วนพ่อฉันกับพ่อของอลันคุยกันเรื่องธุรกิจ พ่อของอลันสนใจอยากจะเปิดธุรกิจเล็กๆ ที่บ้านต่างจังหวัดเลยขอคำปรึกษากับพ่อ ดีใจที่ทั้งสองคุยกันถูกคอ “แกไม่กลับบ้านพร้อมสามีหรออลิช” ที่ถามแบบนี้ก็เพราะว่าฉันเห็นคุณคานส์กลับไปก่อนแล้ว “ฉันกลับพร้อมพ่อน่ะ คุณคานส์รีบไปดูลูก” “สามีดีเด่นนะเนี่ย” “แกก็เถอะ ดีใจด้วยนะ รู้ไหมฉันแทบจะกรี๊ดลั่นบ้านตอนที่รู้ว่าอลันจะจอแกหมั้น” อลิชดีใจจนออกนอกหน้า “แกไม่ห้ามน้องหน่อยหรอ หมั้นทั้งๆ ที่ยังเรียนไม่จบ” “แพร อลันเป็นผู้ชายไม่มีอะไรเสียหายหรอกนะ ดีซะอีกน้องฉันตั้งใจทำงานมากๆ แถมยังไปเรียนทุกวัน ฉันละนับถือแกจริงๆ เลยที่เอาอลันอยู่หมัดขนาดนี้” “พี่อลิช
วันต่อมา เป็นอีกวันที่ฉันอยากจะไปดูร้านของตัวเองแต่พ่อห้ามเอาไว้ บอกเหตุผลว่าตั้งแต่แม่เสียพ่อทำแต่งานไม่มีเวลาให้ฉันเลย วันนี้จึงอยากให้เราอยู่ด้วยกัน ตอนนี้ฉันกับพ่อกำลังนั่งอยู่ที่สวนหลังบ้าน สวนนี้แม่เป็นคนอยากได้พ่อก็ตามใจแม่ทุกอย่าง “พ่อสัญญากับแม่เอาไว้ว่าจะดูแลลูกสาวคนเดียวของเราให้ดีที่สุด” พ่อพูดพร้อมกับสายตาที่มองไปยังสวนดอกไม้ต้นไม้ “ลูกโกรธหรือเปล่าที่ก่อนหน้านี้พ่อเคยห้ามไม่ให้รักกับผู้ชายที่ลูกเลือก” “โกรธสิคะ หนูโกรธพ่อมากที่ไม่ยอมฟังอะไรเอาแต่ยึดติดเรื่องฐานะ” “ถึงตอนนี้พ่อเริ่มเข้าใจแล้วว่าฐานะมันไม่สำคัญขนาดนั้น” ฉันยิ้มหวานให้พ่อ “ขอบคุณนะคะที่เปิดโอกาสให้อลัน” “ถ้าลูกรักมันมากขนาดนี้มันคงจะมีอะไรดีบ้างนั่นแหละ ไม่อยากนั้นลูกสาวของพ่อคงไม่หลงหัวปักหัวปำ” “หนูไม่ได้หลงขนาดนั้นสักหน่อย” “ไอ้เรื่องแข่งรถก็บอกเตือนให้เบาลงบ้าง จะดูแลลูกสาวของพ่อได้ยังไงถ้ายังเอาชีวิตไปเสี่ยงอันตรายอยู่แบบนั้น”“ตอนนี้เขาไม่ค่อยได้แข่งแล้วค่ะเพราะต้องดูแลคลับ”“ส่วนเรื่องตาบาสพ่อมองคนผิดไปจริงๆ ตอนนี้พ่อก็ยังรู้สึกผิดที่เคยบังคับลูก” “มันผ่านไปแล้วพ่ออย่าคิดมากเลยนะคะ ตอนนี้บา
#ภายในห้องทำงาน อลันเหวี่ยงร่างของฉันให้กระแทกกับโซฟาตัวใหญ่แรงๆ ไร้คำว่าปราณี ขนาดเป็นแฟนกันนะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่ไม่ใช่สถานะแฟนฉันไม่เจอบีบคอตายเลยหรอ แต่ถึงจะเจอเหวี่ยงกระแทกโซฟาแบบนี้ฉันก็ยังยิ้มหวานให้อลัน “วันนี้แฟนฉันหล่อเป็นพิเศษเลยนะ ^_^” ฉันลุกขึ้นจากโซฟาเดินมายกมือขึ้นคล้องคออลันแล้วพูดเสียงหวาน สายตาของอลันในตอนนี้กำลังจ้องชุดที่ฉันใส่เขม็งบ่งบอกถึงอารมณ์ไม่พอใจสุดๆ ก่อนที่เขาจะแกะมือฉันออกจากต้นคอ “อะไรกันจับนิดจับหน่อยก็ไม่ได้” “ทำไมถึงใส่ชุดแบบนี้มา” เขาถามเสียงเข้ม “รู้ใช่ไหมว่าไม่ชอบ รู้ใช่ไหมว่าถ้าเห็นใส่แล้วจะเป็นยังไง” “รู้สิ ^_^” “แล้วใส่มาทำไมวะห๊ะ!! ชอบให้โมโหว่างั้น ?”“ก็นายน่ะโกรธอะไรก็ไม่รู้ไร้สาระ ก็แค่ไปคุยกับพ่อเรื่องหมั้นเอง พอฉันตอบตกลงก็กล่าวหาว่าประชด”เขาไม่โต้ตอบอะไรแต่กลับพ่นลมหายใจร้อนผ่าวออกมาแรงๆ “สรุปจะไปคุยกับพ่อนายเรื่องหมั้นหรือเปล่า ?”“ไม่ไป!! ไม่อยากหมั้นก็ไม่ต้องไป ก็ดีแยกกันอยู่อิสระดี ชอบไม่ใช่ ? ได้แต่งตัวโป๊ๆ โชว์ผู้ชายไปทั่ว” “พูดอะไรออกมารู้ตัวไหมอลัน!! นายกำลังดูถูกฉันอยู่นะ” จากที่อารมณ์ดีพอได้ยินคำพูดเมื่อครู่ของอลันมัน
“พ่อไม่ห้ามหนูกับอลันแล้วงั้นหรอคะ” ถึงจะรู้สึกผิดแต่ฉันก็ต้องถามย้ำเพื่อความแน่ใจ พ่อพยักหน้าแทนคำตอบ “พ่อจะไม่ใจร้ายกับคนที่หนูรักใช่ไหม” ฉันจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้นของพ่อ รับรู้ได้ถึงความเศร้าจากสิ่งที่ฉันเลือกเมื่อครู่ “พ่อจะไม่ขัดขวางความรักของลูกอีก ขอให้ลูกมั่นใจพ่อพูดคำไหนคำนั้น”ฉันยิ้มออกมาก่อนจะโผล่เข้ากอดพ่อแน่น เป็นอีกครั้งที่ความรู้สึกอึดอัดในใจได้ปลดล็อก ในที่สุดพ่อก็ลดคติลงได้ “ขอบคุณที่ให้โอกาสผมได้รักกับลูกสาวของคุณลุงนะครับ” อลันพูดขึ้นพ่อจึงค่อยๆ ผละกอดออกแล้วเพ่งสายตามองอลันแทน “ถึงฉันจะไม่เต็มใจแต่ลูกสาวของฉันเลือกแล้ว อย่าทำให้ผิดหวังก็แล้วกัน”“ครับ ผมจะไม่ทำให้คุณลุงผิดหวัง” “หนูไม่อยากให้พ่อคาดหวังอะไรมากมายกับอลันนะคะ” ฉันพูดแทรกขึ้นพ่อจึงตวัดสายตาหันมา “ทำไมลูกถึงพูดแบบนั้น พ่อจะคาดหวังกับผู้ชายที่ลูกเลือกไม่ได้เลยหรือไง” “ไม่มีใครเป็นอย่างที่หวังได้อย่างสมบูรณ์แบบหรอกนะคะ ไม่เว้นแม้แต่หนูที่เป็นลูกสาวของพ่อ” “…….” พ่อถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบศีรษะของฉัน “หนูอยากให้พ่อเปิดใจให้อลันจริงๆ อย่างที่หนูเปิดใจให้เขานะคะ ถ้าแม่ยังอยู่หนูเชื่