ตอนนี้ทุกคนในคลับต่างให้ความสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น กลัวก็กลัวอายก็อาย “มีอะไรกัน” เสียงทุ้มของเฮียเฟยท้วงขึ้นก่อนจะเดินมาหยุดตรงโต๊ะฉัน แล้วมองอลันที่จับแขนฉันอยู่ด้วยสีหน้าที่เข้มขรึม “ไอ้นี่มันเอาขวดฟาดหัวผมครับเสี่ย” นักร้องหนุ่มรีบฟ้องเฮียเฟยทันที เฮียเฟยมองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินมาหาอลัน ฉันรู้ดีว่าเฮียเฟยเวลาโกรธนั้นน่ากลัวขนาดไหนจึงรีบมายืนบังอลันไว้เพราะถ้าเป็นฉันเฮียคงไม่กล้าทำอะไร“มึงมีปัญหาอะไรกับคนของกู” เสียงทุ้มของเฮียเฟยถามอลัน อลันไม่ได้ตอบอะไรเพื่อนๆ ของเขาก็เงียบ ไม่มีใครปริปากพูดรวมถึงเพื่อนฉันด้วย “กูถามทำไมมึงไม่พูด!!” พออลันไม่ยอมตอบเฮียเฟยก็ตวาดเสียงดัง“เฮียคะแพรขอโทษแทนอลันด้วยนะคะที่ทำให้วุ่นวายวันนี้” ฉันยอมขอโทษแทนไม่อย่างนั้นอลันเจอหนักแน่ๆ “มันเป็นอะไรกับแพร ?” เฮียเฟยขมวดคิ้วถาม ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พูดอะไรเสียงของอลันก็พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน “เป็นผัว” “เฮียไม่คิดว่าแพรจะชอบพวกอันธพาลแบบนี้นะ” “….….” ฉันเองก็ไม่รู้จะพูดยังไง ไม่ได้อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเลย ไม่คิดว่าอลันจะทำถึงขั้นนี้“ยุ่งอะไรไม่ทราบ อยากได้เมียคนอื่นว่างั้น ?” อลันถามเฮียเ
อลันพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ เหมือนเขากำลังไม่โอเคกับคำพูดของฉัน ซึ่งฉันมองว่ามันไม่ผิดอะไรเลยในเมื่อเขาหยุดไม่ได้ ต่อให้เราอยู่ด้วยกันแบบนี้มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะหยุดที่ฉัน เพราะฉะนั้นฉันก็ต้องเซฟความรู้สึกตัวเองเหมือนกัน ถึงจะทำแบบนั้นยากก็ตาม วันนี้ฉันถอยไม่ได้ก็จะเดินหน้าไปให้สุดทาง…เดินไปจนกว่าจะถึงทางตัน “นายบอกฉันว่าต้องใช้เวลา เวลาที่ว่าคือนายจะหยุดเจ้าชู้เพราะฉันงั้นหรอ”“ถ้าถึงวันนั้นจะรู้เอง” อลันยังไงก็คืออลัน เขาไม่เคยทำให้ฉันหายสงสัยในทุกๆ เรื่องที่ถามบางครั้งฉันคิดว่าตัวเองรู้จักเขาดี แต่บางครั้งก็รู้สึกว่าฉันไม่รู้จักเขาเลย “วันนั้นที่ว่ามันอีกนานหรือเปล่าล่ะ ถ้านานมากๆ ฉันคงไม่รอ” ฉันพูดไปตามตรง ในเมื่อรู้สึกฉันรอให้เขาจัดการตัวเองได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะรอไปตลอด คงไม่มีใครอยากเดินย้ำๆ อยู่กับที่ ฉันรู้ว่าไม่ควรเสี่ยงกับเสือตัวนี้ แต่ฉันเลือกเดินเข้ามาในกรงแล้วนี่ “หยุดพูดเรื่องนี้แล้วคุยเรื่องไอ้นักร้องนั่นดีกว่าไหม” อลันบอกเสียงเย็น เขาแกะมือที่ฉันสวมกอดออก จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนจ้องฉันเขม็ง “ฉะ ฉันบอกไปแล้วไงว่าไม่ได้ตั้งใจ”“ไม่ได้ตั้งใจ เหอะ! ถ้าตั้งใจจะ
วันต่อมาฉันตื่นขึ้นมาภายในห้องที่ว่างเปล่า อลันไม่ได้อยู่ในห้อง แค่ขยับตัวความปวดร้าวก็เข้ามาเล่นงาน มันเจ็บปวดไปทั้งร่างกายและเจ็บตรงนั้นเป็นพิเศษ “อื้อ~” ฉันร้องในลำคอขณะที่กำลังพยุงตัวเองลุกขึ้นนั่ง ตอนนี้ร่างกายไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าเลยสักชิ้น เมื่อลุกขึ้นได้ฉันก็มองหาโทรศัพท์ก่อนอันดับแรก จากนั้นก็หยิบมาเช็คดูว่ามีข้อความอะไรหรือเปล่า ฉันเลื่อนดูข้อความในโทรศัพท์เป็นข้อความจากมินนี่และขวัญส่งมา และข้อความจากอลันที่บอกว่าเขาไปมหาวิทยาลัยแล้ว ฉันเลือกที่จะเปิดอ่านแชตของเพื่อน เป็นแชตกลุ่มของเรา มินนี่: เป็นไงบ้างยัยแพรรายงานตัวด้วย ขวัญ: เงียบไปเลยแกโอเคหรือเปล่า ทั้งขวัญและมินนี่แท็กชื่อฉัน พอเปิดอ่านแล้วฉันก็ตอบกลับไปเพียงข้อความสั้นๆ ฉัน: ฉันโอเค หลังจากตอบแชตเพื่อนแล้วฉันก็กดปิดจอโทรศัพท์แล้วพยุงตัวเองลุกขึ้นไปหยิบผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำ ตอนนั่งฉี่บอกตามตรงว่าเจ็บตรงนั้นจนน้ำตาคลอ เหตุการณ์เมื่อคืนทำให้ฉันเข็ดหลาบ ไม่อยากเจออะไรที่รุนแรงแบบนั้นอีก อลันไม่เห็นใจฉันเลยสักนิด แถมยังทำจนเกือบจะเช้าจริงๆ เพิ่งสังเกตเห็นตอนกำลังจะอาบน้ำว่าที่ขาอ่อนของฉันมีคราบเลือดติดอยู่ด
ไม่คิดว่าอลันจะจมูกดีขนาดนั้นหรือว่าเขาแค่หาเรื่อง แล้วถ้าฉันบอกว่าเฮียเฟยกอดถึงได้ติดกลิ่นน้ำหอมมาคงจะซวยมากแน่ๆ “กะ กลิ่นน้ำหอมผู้ชายที่ไหนอย่ามาหาเรื่องสิ” “ทำอะไรกับมัน ?” ทั้งที่เฮียเฟยแก่กว่าตั้งหลายปีแต่อลันกลับใช้คำว่ามันอย่างไม่รู้เกรงกลัว เขามันคนอันธพาลอย่างที่เฮียเฟยว่า “ฉันแค่ไปคุยเรื่องเมื่อคืน ไม่ได้ทำอะไร” “ถ้าแค่คุยทำไมถึงมีกลิ่นน้ำหอมผู้ชายคนอื่นติดเสื้อ ?” “กลิ่นน้ำหอมนายหรือเปล่า”“ไม่ใช่กลิ่นนี้แน่!!” ฉันลอบถอนหายใจออกมาหนักๆ เมื่ออลันกำลังบีบให้จนมุม “เรื่องแค่นี้ตอบไม่ได้หมายความว่ายังไง ห๊ะ!!” “ละ แล้วนายจะขึ้นเสียงทำไม”“ถ้าคุยตรงนี้ไม่สะดวกกลับไปคุยที่ห้องดีไหม ?” ฉันเกลียดน้ำเสียงแบบนี้ของอลันที่สุด มันเหมือนความซวยจะกำลังมายืนในเวลาอันแสนใกล้นี้ “นะ นายไม่ไปเรียนหรอ” “ไม่ต้องห่วง มีเรียนแค่ตอนช่วงเช้า” พูดจบอลันก็สตาร์ทรถแล้วขับออกไปจากด้านหน้าคลับ ตลอดทางจนมาถึงที่คอนโดเราไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลย ฉันก็เอาแต่นั่งเกร็งไปทั้งตัว #คอนโดของอลัน เมื่อประตูห้องถูกปิดลงอลันก็เริ่มถามฉันอย่างหาเรื่องอีกครั้ง “ไปทำอะไรกับมันมา” อลันเดินมากระชากแขนฉันอย่
#อู่ซ่อมรถมาถึงที่อู่อลันก็มาดื่มกับเพื่อนจริงๆ ไม่มีผู้หญิง รู้สึกว่าฉันถูกสายตาเพื่อนทั้งสองคนของอลันมองแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้ เรานั่งกันบนโต๊ะหินอ่อน ที่นั่งจะเป็นสี่มุมหันหน้าเข้ากัน ฉันนั่งข้างๆ กับอลัน “มีอะไรหรือเปล่า” ฉันถามเพื่อนของอลันคนที่ชื่อกัน เพราะเขามองฉันบ่อยว่าอีกคนที่ชื่อตุล “ผมแค่ไม่คิดว่าพี่จะมากับมันด้วย” “…อ๋อ” ฉันพยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดต่อ “พอดีวันนี้ว่างน่ะก็เลยมา” “ดื่มไหม ?” อลันหันมาถามฉัน “อื้อดื่มนิดนึงก็ได้” จริงๆ วันนี้ไม่อยากดื่มเท่าไหร่แต่เห็นคนอื่นๆ ดื่มกัน อลันเปิดกระป๋องเบียร์แล้วยื่นมาให้ฉันที่นั่งข้างๆ “ไอ้อลันไปคุยกับกูหน่อย” กันเรียกให้อลันไปคุยกับตัวเองอีกมุมหนึ่ง สร้างความแปลกใจให้ฉันพอสมควร เขามีความลับอะไรถึงพูดตรงนี้ไม่ได้ “พี่จะกลับพร้อมมันหรือกลับก่อน ?” ตุลเพื่อนอีกคนของอลันถามฉัน “รอกลับพร้อมอลัน เขาสัญญาไว้แล้วว่าจะพาไปกินเนื้อย่าง” “ไอ้อลันเนี่ยนะกินเนื้อย่าง” เหมือนเขาจะตกใจไม่น้อยที่ได้ยินฉันพูดไปแบบนั้น “อื้อ ทำไมหรอ” “พวกผมชวนมันไม่เคยไปกินด้วยมันบอกไม่ชอบ พี่ชวนมันยังไงถึงยอม” “…….” พอได้ยินเพื่อนของอลันพูดแบบนั้นหัว
“อลันอย่าโหดสิ ชอบทำตัวโหดตลอดเลยนะ” เค้กเธอพูดขึ้น ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเธอต้องพูดแทรกทั้งที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง ทำไมถึงไม่ชวนกันคุยทั้งๆ ที่เป็นแฟนของเธอ ตั้งแต่มานั่งฉันเห็นแต่ชวนอลันคุย “เค้ก” กันเรียกเค้กเธอจึงหันไปมอง ฉันเห็นกันส่ายหน้าไปมาเล็กน้อย แต่ก็ไม่เข้าใจความหมายเหมือนกันว่าสื่อถึงอะไร อลันลุกขึ้นยืนโดยไม่ได้บอกว่าจะไปไหนฉันจึงรีบถามเขา “จะไปไหน” “สูบบุหรี่” “ขอไปด้วยได้ไหม” ฉันไม่อยากนั่งตรงนี้คนเดียว ไม่รู้สิแต่มันรู้สึกแปลกๆ “จะไปไมมันเหม็น” “ฉันทนได้” เหมือนอลันจะไม่ค่อยพอใจแต่เขาก็ไม่ห้ามก่อนจะเดินแยกตัวออกไป ฉันจึงรีบลุกขึ้นเดินตามไปติดๆ เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดแล้วสูบมัน ฉันอยากห้ามนะแต่เด็กคนนี้คงไม่ฟังหรอก “มีอะไรจะพูด ?” อลันหันมาถามขณะที่กำลังพ่นควันบุหรี่ออกจากปาก เขารู้สินะว่าฉันกำลังมีคำถามมากมายอยู่ในใจ “เค้กรู้จักกับพวกนายมานานแล้วหรอ คือ…ฉันเห็นว่าเธอดูสนิทกับพวกนายเป็นพิเศษเลยถามน่ะ” “อืม ก็รู้จักตั้งแต่เข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัย คณะเดียวกัน”“อ๋อ” “คิดอะไรอยู่ ?” อลันเลิกคิ้วถาม “ฉันคงคิดมากไปเอง อย่าใส่ใจเลย” ฉันยิ้มจางๆ ให้อลัน เขาจ
อลันท้าให้ฉันเปิดดูกล้อง ฉันเปิดดูแน่แต่ไม่ใช่ตรงนี้ ไม่อยากมาทะเลาะกันต่อหน้าคนอื่นแบบเมื่อกี้อีก “ฉันจะกลับ” ฉันพูดย้ำอีกเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ “ห้องใคร ?” อลันถามด้วยน้ำเสียงปนหาเรื่อง “ห้องนายก็ได้เพราะฉันจะไปเก็บเสื้อผ้า” อลันพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ เขาไม่ได้โต้ตอบอะไรแต่เลือกเดินไปที่รถ พอเห็นอลันเดินไปฉันก็รีบเดินตามเขา “นายรู้อยู่แล้วว่าในรถมีกล้อง ถ้าคนจะทำอะไรกันก็คงลงจากรถไปทำ” กล้องมันไม่ได้เห็นภาพในรถแต่เสียงทุกอย่างที่คุยได้ยินชัดเจน แล้วคนฉลาดเรื่องผู้หญิงอย่างอลันมีหรอจะทำให้ตัวเองถูกจับได้ “จะโทษให้ได้เลย ?”“ฉันพูดไปตามนิสัยของนาย”“ถ้ารู้นิสัยดีขนาดนั้นแล้วทำไมถึงชอบ ?” อลันเดินมาใกล้ๆ ฉันจึงรีบถอยหนีจนแผ่นหลังติดกับประตูรถ “ฉันชอบนายได้ก็เลิกชอบได้เหมือนกัน อย่าคิดเข้าข้างตัวเองว่าฉันจะรู้สึกไปตลอด”“แล้วตอนนี้ทำได้ไหมล่ะ เลิกชอบได้ไหม” เขาถามพร้อมกับขยับหน้าเข้ามาใกล้ๆ ฉันเงียบมันคือคำตอบที่ไม่อยากจะเอ่ย ว่าในตอนนี้ฉันทำไม่ได้ ฉันเลิกชอบเขาไม่ได้…“กะ กลับห้องได้หรือยัง” ฉันถามพร้อมกับใช้มือดันอกแกร่งของอลันออกห่าง “ขึ้นรถ” เขาออกคำสั่งก่อนจะถอยห่าง
ไม่คิดว่าจะได้ยินคำว่าขอโทษหลุดออกมาจากปากของอลัน ทำให้ฉันสะตั้นไปทำอะไรไม่ถูก “….ขอโทษงั้นหรอ” ฉันทวนคำพูดของอลัน “มันแปลก ?” อลันเลิกคิ้วขึ้นเชิงถาม “ใช่สิ แปลกมากๆ” “ไม่เคยพูดแบบนี้กับผู้หญิงคนไหน” “ฉันต้องหวั่นไหวกับคำพูดของนายหรือเปล่า”“แล้วใจเต้นแรงไหม ?” “นายก็แค่พูดเพื่อรั้งฉันเอาไว้” ทั้งที่อ่านเกมออกแต่ฉันก็ยังไม่ถอดใจ “อยากจบว่างั้น ?” “……” พออลันเปิดทางให้พูด ก็เป็นฉันอีกนี่แหละที่ไม่กล้ายืนยันว่าอยากจบ ทั้งที่ก่อนหน้านี้หนักแน่นว่าจะไปจากเขา “นายจะมีผู้หญิงคนอื่นไปเรื่อยๆ ทั้งที่มีฉันอยู่ตรงนี้หรือเปล่า” “จะพยายามปฏิเสธ”“ทำไมต้องพยายาม ทำไมถึงชัดเจนแค่กับฉันไม่ได้”“บอกไปแล้วไม่ใช่ว่าไม่ทำแต่กำลังพยายาม”“พยายามที่ไม่เคยพยายามน่ะหรอ ?” ฉันเกลียดตัวเองที่รู้ทุกอย่างแต่ก็ยังเอาแต่หวั่นไหวกับเด็กคนนี้ อลันไม่ตอบอะไรแต่กลับล้วงมือเข้ามาในเสื้อของฉัน ฉันจึงรีบรั้งมืออลันเอาไว้ก่อนที่อะไรมันจะเลยเถิด “ขอโทษเพราะอยากทำเรื่องบนเตียงใช่ไหม” “ก็ทำบ่อยอยู่แล้ว ทำไมต้องคิดแบบนั้น”“แต่วันนี้ฉันไม่อยากทำ” อลันเงียบไปครู่หนึ่ง เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะดึงมือกลับแล้วลุ
5 เดือนผ่านไป ชีวิตหลังแต่งงาน “ทำให้มันดีๆ หน่อยสิอลัน” “ก็ทำดีๆ อยู่นี่ไง” “แล้วนายเอาหมูไปผัดแบบนั้นได้ยังไง ทำไมไม่ผัดหมูก่อน”“แล้วทำไมไม่บอกก่อนก็รู้ว่าทำอาหารไม่เป็น”“ทำไม่เป็นก็ถอยไปฉันจะทำเอง”“ไม่ต้องยุ่งออกไปนั่งรอเลยไป” ฉันมองสามีของตัวเองทำอาหารด้วยความเหนื่อยใจ ทำไม่เป็นยังจะเสนอตัวอวดเก่งอยากจะโชว์ฝีมือ ชีวิตคู่ของเราไม่ได้โปรยด้วยกลีบกุหลาบ ไม่ได้รักกันจนหวานชื่น เรามีปากเสียงกันในบางครั้งไม่เข้าใจกันบ้าง แต่ความรักที่มีให้กันมันก็ยังคงอยู่และเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ฉันว่ามันคงเป็นธรรมดาของชีวิตคู่ จะให้รักกันปานจะกลืนกินคงไม่ใช่ คนที่อยู่ด้วยกันการทะเลาะและปรับความเข้าใจเป็นเรื่องปกติ “เสร็จแล้วครับคุณเมีย ^_^” อลันถือจานอาหารที่ตัวเองทำมาวางไว้ที่โต๊ะด้วยสีหน้าที่ปลื้มอกปลื้มใจกับฝีมือตัวเอง “ผัดผักยังไงให้ผักไม่สุก แบบนี้จะกินยังไง” “ผักต้องสุก ?” เขาถามอย่างกับไม่เคยกินผัดผักมาก่อนในชีวิตถึงไม่รู้ว่ามันต้องสุกประมาณไหน “ถ้าลูกคลอดออกมาฉันคงไม่ไว้ใจให้นายทำอาหารให้ลูกกินแน่ๆ” “ของแบบนี้มันพัฒนากันได้ ตอนนี้ทำไม่เป็นอีกสิบปีข้างหน้าอาจจะได้เป็นเชฟกระทะเหล็กก็ไ
#บ้านของฉันฉันกับอลันมาที่บ้านด้วยกันเพื่อจะมาบอกพ่อว่าเรากำลังจะมีลูก ก่อนมาเขาได้โทรบอกพ่อกำนันแล้วเห็นว่าดีใจยกใหญ่เลย พรุ่งนี้คงจะขึ้นมากรุงเทพมาคุยเรื่องงานแต่ง “จะมาทำไมไม่บอกก่อนจะได้ให้คนจัดเตรียมอาหารเพิ่ม” พอพ่อเห็นอลันเดินมาพร้อมกับฉันก็รีบท้วงทันที ถึงก่อนหน้านี้จะใจร้ายไปบ้างแต่ตอนนี้พ่อตากับลูกเขยเริ่มเข้ากันได้แล้วนะ “หนูมีเรื่องสำคัญจะบอกพ่อค่ะ ^_^” ฉันยิ้มให้พ่อแล้วก็หันมายิ้มให้อลัน จากนั้นเราสามคนก็พากันเดินมาที่ห้องขับแขก“มีอะไรทำไมถึงต้องคุยเป็นทางการขนาดนี้ ?” พ่อถาม “พ่ออยากมีหลานคือเปล่าคะ” “อยากสิ พ่อแก่แล้วอยากจะรีบอุ้มหลานเร็วๆ” “งั้นคุณลุงก็สมหวังแล้วครับ” อลันพูดแทรก “หมายความว่ายังไง ?” พ่อขมวดคิ้วมองเราทั้งคู่สลับกัน ฉันคลี่ยิ้มก่อนจะตอบ “หนูท้องค่ะ ^_^” พอบอกว่าท้องพ่อก็เงียบไปเหมือนตกใจ ทำเอาฉันใจหาย ไหนบอกว่าอยากอุ้มหลานเร็วๆ ไง ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้น“คุณลุงไม่ดีใจหรอครับ” อลันรีบถามเพราะเห็นพ่อเงียบไป “ลง ลุงอะไรกัน เรียกพ่อได้แล้วไอ้ลูกเขย” พ่อพูดออกมาพร้อใกับรอยยิ้มบนใบหน้า ทำเอาฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกนึกว่าพ่อจะเสียใจซะอีก อีกหนึ่งเรื่องร
โรงพยาบาลตอนนี้ฉันกับอลันอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนอลิชเธอกลับไปที่บ้านแล้วเพราะต้องไปดูลูก ทั้งฉันและอลันได้รับการตรวจร่างกายอย่างละเอียดทั้งคู่ แต่ที่ต่างออกไปคือหมอให้ฉันตรวจเลือดและตรวจปัสสาวะ ตอนนี้เรากำลังนั่งรอผลตรวจอยู่อาการของอลันดีขึ้น ตอนนี้เขานั่งจนแทบจะสิงร่างฉันอยู่แล้ว “ขยับไปหน่อยได้ไหม ดูสิคนมองเยอะเลยนะ” ฉันกระซิบบอกอลัน “ขยับออกก็อ้วก จะเอาแบบนั้นไหมล่ะ” “แล้วอยู่ใกล้ฉันไม่อยากอ้วกหรือไง” เขาส่ายหน้าแทนคำตอบ ถึงอาการของเขาจะดีขึ้นแต่ร่างกายยังอิดโรย ไม่นานเท่าไหร่คุณหมอก็เรียกให้เราสองคนไปฟังผลตรวจ “ผลตรวจของคุณผู้ชายเป็นปกติดีนะคะ” “แต่เขาทั้งเวียนหัวทั้งอ้วกเลยนะคะคุณหมอ” ฉันรีบพูดแย้งขึ้นทันที “คงจะเป็นอาการแพ้ท้องแทนภรรยาค่ะ ยินดีด้วยนะคะตอนนี้คุณกำลังตั้งครรภ์ ^_^” หมอพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่คำพูดนั้นยังวนอยู่ในหัวของฉัน ยินดีด้วยนะคะคุณกำลังตั้งครรภ์ มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเราไม่เคยพลาด อลันปล่อยนอกหรือไม่ก็ใส่ถุงยางอนามัยตลอด ตอนนั้นที่ปล่อยในฉันก็กินนาคุมฉุกเฉินแล้ว คิดไม่ออกเลยว่าจะท้องได้ยังไง “จริงหรอครับคุณหมอ ผมกำลังจะมีลูกหรอคร
อลันเดินออกมาจากห้องน้ำทั้งที่ยังเอามือปิดจมูกอยู่ เขาทำท่าเหมือนขยะแขยงอาหารที่ฉันเตรียมให้มากๆ มันรู้สึกเฟลนิดๆ นะ อุตส่าห์ตั้งใจเตรียมให้แท้ๆ “ไปหาหมอไหม”“ไม่เป็นไรแค่เวียนหัวนิดหน่อย” ฉันเดินมาหาอลันแล้วยกมือขึ้นทาบบนหน้าผากของเขาเพื่อเช็คว่าตัวร้อนหรือเปล่า “ตัวก็ไม่ร้อนนี่ ทำไมจู่ๆ ถึงเป็นแบบนี้ล่ะ ฉันว่าไปหาหมอดีกว่านะอลัน”อลันสวมกอดฉันเอาไว้แน่นแล้วบอกด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “แค่กอดเมียแป๊บเดียวเดี๋ยวก็หาย” แปะ! ฉันฟาดมือลงบนแขนของอลันเบาๆ แล้วพูดค้อน “ฉันเป็นห่วงนะยังจะมาพูดเล่นอีก”“ไม่ได้พูดเล่นมันดีขึ้นจริงๆ นะ” พูดจับอลันก็เอาใบหน้ามาซุกลงบนซอกคอของฉัน “หอมจัง” “…นายคงกินไม่ได้แล้วใช่ไหมฉันจะได้เก็บ” ฉันถามเสียงเศร้า “มันเหม็น” อลันพูดกระซิบบอกที่หูเสียงเบา “อยากกินเมียแทนข้าว” ฝ่ามือสากเริ่มเลื้อยไปมาเป็นปลาหมึก ริมฝีปากหนาพรมจูบไปจนทั่วซอกคอของฉันก่อนจะขยับขึ้นมาที่พวงแก้มและประกบจูบที่ริมฝีปาก “อืม~” เสียงครางในลำคออย่างพึงพอใจของอลันทำให้ฉันรู้สึกวาบหวิว แควก! เสียงนี้คือเสียงชุดซีทรูตัวบางของฉันถูกฉีกอย่างไร้ความปรานี “อลัน!!” ฉันดันตัวออกแล้วจ้องอลันเขม็ง เข
วันต่อมา หลังจากที่อลันเลิกเรียนเราก็มาเจอเฮียเฟย นัดเจอกันที่ร้านอาหารในห้าง ฉันโทรนัดเฮียเอาไว้แล้ว #ภายในร้านอาหาร “เฮียสั่งจะกินอะไรไหมคะเดี๋ยวแพรสั่งให้” ฉันรีบถามเมื่อเฮียเฟยมาถึง มันรู้สึกเกร็งเอามากๆ สาเหตุก็เพราะอลันที่เอาแต่จ้องมองตลอดเวลา “ไม่เป็นไรเดี๋ยวเฮียต้องเข้าบริษัทไปกินที่บริษัทก็ได้”“งานยุ่งหรอคะช่วงนี้”“ก็….”“มีอะไรจะพูดก็รีบๆ พูด เอาแต่เนื้อ น้ำไม่ต้อง” อลันพูดแทรกขึ้นมาอย่างเสียมารยาท ฉันจึงหันมามองค้อนเขาด้วยสายตาที่ตำหนิ แต่เขาก็ทำท่าเหมือนทองไม่รู้ร้อน“ทีหลังถ้าจะนัดคุยมาคนเดียวดีกว่านะ แฟนแพรคงไม่สะดวก” เฮียเฟยบอก “ถ้าคุยสองต่อสองคงไม่ปล่อยให้มา” อบันตอบกลับทันควัน “นายช่วยอยู่เงียบๆ ได้ไหมอลัน” ฉันบอกเขาเสียงดุ ใจคอจะหาเรื่องให้ได้เลยหรือไง “แพรขอโทษแทนอลันด้วยนะคะ”“ไม่เป็นไรเฮียเข้าใจ แฟนแพรยังเด็ก….”“เด็กแล้วยังไง ?” เป็นอีกครั้งที่อลันถามอย่างไม่สบอารมณ์ “อลัน!!” ฉันจ้องเขาเขม็งจึงยอมปิดปากเงียบ มันน่าดีดหน้าผากแรงๆ สักทีให้เข็ดหลาบ “ที่นัดมาวันนี้แพรอยากจะมาขอโทษที่เคยพูดให้ความหวังเฮีย อยากขอโทษที่เคยดึงเฮียเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งที่แพรไม่ไ
ทางผู้ใหญ่พูดคุยกันครั้งนี้พ่อฉันยินยอมไม่ได้ขัดอย่างที่เคยลั่นวาจาเอาไว้ คุณคานส์สามีของอลิชเสนอตัวจะออกค่าใช้จ่าย ส่วนค่าสินสอดวันแต่งพ่อของอลันจะเป็นคนออกเอง โดยงานหมั้นจะจัดหลังจากที่มหาวิทยาลัยของอลันปิดเทอม ซึ่งก็คืออีกไม่นานนี้แล้ว หลังจากคุยธุระเสร็จเรียบร้อยเราก็นั่งกินข้าวด้วยกัน ฉันเองก็ยังเกร็งไม่หาย แต่ก็ดีใจที่พ่อของอลันเอ็นดูฉันมากขนาดนี้ ตอนนี้ฉันกำลังเดินเล่นกับอลิชอยู่ที่สนามหน้าบ้าน ส่วนพ่อฉันกับพ่อของอลันคุยกันเรื่องธุรกิจ พ่อของอลันสนใจอยากจะเปิดธุรกิจเล็กๆ ที่บ้านต่างจังหวัดเลยขอคำปรึกษากับพ่อ ดีใจที่ทั้งสองคุยกันถูกคอ “แกไม่กลับบ้านพร้อมสามีหรออลิช” ที่ถามแบบนี้ก็เพราะว่าฉันเห็นคุณคานส์กลับไปก่อนแล้ว “ฉันกลับพร้อมพ่อน่ะ คุณคานส์รีบไปดูลูก” “สามีดีเด่นนะเนี่ย” “แกก็เถอะ ดีใจด้วยนะ รู้ไหมฉันแทบจะกรี๊ดลั่นบ้านตอนที่รู้ว่าอลันจะจอแกหมั้น” อลิชดีใจจนออกนอกหน้า “แกไม่ห้ามน้องหน่อยหรอ หมั้นทั้งๆ ที่ยังเรียนไม่จบ” “แพร อลันเป็นผู้ชายไม่มีอะไรเสียหายหรอกนะ ดีซะอีกน้องฉันตั้งใจทำงานมากๆ แถมยังไปเรียนทุกวัน ฉันละนับถือแกจริงๆ เลยที่เอาอลันอยู่หมัดขนาดนี้” “พี่อลิช
วันต่อมา เป็นอีกวันที่ฉันอยากจะไปดูร้านของตัวเองแต่พ่อห้ามเอาไว้ บอกเหตุผลว่าตั้งแต่แม่เสียพ่อทำแต่งานไม่มีเวลาให้ฉันเลย วันนี้จึงอยากให้เราอยู่ด้วยกัน ตอนนี้ฉันกับพ่อกำลังนั่งอยู่ที่สวนหลังบ้าน สวนนี้แม่เป็นคนอยากได้พ่อก็ตามใจแม่ทุกอย่าง “พ่อสัญญากับแม่เอาไว้ว่าจะดูแลลูกสาวคนเดียวของเราให้ดีที่สุด” พ่อพูดพร้อมกับสายตาที่มองไปยังสวนดอกไม้ต้นไม้ “ลูกโกรธหรือเปล่าที่ก่อนหน้านี้พ่อเคยห้ามไม่ให้รักกับผู้ชายที่ลูกเลือก” “โกรธสิคะ หนูโกรธพ่อมากที่ไม่ยอมฟังอะไรเอาแต่ยึดติดเรื่องฐานะ” “ถึงตอนนี้พ่อเริ่มเข้าใจแล้วว่าฐานะมันไม่สำคัญขนาดนั้น” ฉันยิ้มหวานให้พ่อ “ขอบคุณนะคะที่เปิดโอกาสให้อลัน” “ถ้าลูกรักมันมากขนาดนี้มันคงจะมีอะไรดีบ้างนั่นแหละ ไม่อยากนั้นลูกสาวของพ่อคงไม่หลงหัวปักหัวปำ” “หนูไม่ได้หลงขนาดนั้นสักหน่อย” “ไอ้เรื่องแข่งรถก็บอกเตือนให้เบาลงบ้าง จะดูแลลูกสาวของพ่อได้ยังไงถ้ายังเอาชีวิตไปเสี่ยงอันตรายอยู่แบบนั้น”“ตอนนี้เขาไม่ค่อยได้แข่งแล้วค่ะเพราะต้องดูแลคลับ”“ส่วนเรื่องตาบาสพ่อมองคนผิดไปจริงๆ ตอนนี้พ่อก็ยังรู้สึกผิดที่เคยบังคับลูก” “มันผ่านไปแล้วพ่ออย่าคิดมากเลยนะคะ ตอนนี้บา
#ภายในห้องทำงาน อลันเหวี่ยงร่างของฉันให้กระแทกกับโซฟาตัวใหญ่แรงๆ ไร้คำว่าปราณี ขนาดเป็นแฟนกันนะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่ไม่ใช่สถานะแฟนฉันไม่เจอบีบคอตายเลยหรอ แต่ถึงจะเจอเหวี่ยงกระแทกโซฟาแบบนี้ฉันก็ยังยิ้มหวานให้อลัน “วันนี้แฟนฉันหล่อเป็นพิเศษเลยนะ ^_^” ฉันลุกขึ้นจากโซฟาเดินมายกมือขึ้นคล้องคออลันแล้วพูดเสียงหวาน สายตาของอลันในตอนนี้กำลังจ้องชุดที่ฉันใส่เขม็งบ่งบอกถึงอารมณ์ไม่พอใจสุดๆ ก่อนที่เขาจะแกะมือฉันออกจากต้นคอ “อะไรกันจับนิดจับหน่อยก็ไม่ได้” “ทำไมถึงใส่ชุดแบบนี้มา” เขาถามเสียงเข้ม “รู้ใช่ไหมว่าไม่ชอบ รู้ใช่ไหมว่าถ้าเห็นใส่แล้วจะเป็นยังไง” “รู้สิ ^_^” “แล้วใส่มาทำไมวะห๊ะ!! ชอบให้โมโหว่างั้น ?”“ก็นายน่ะโกรธอะไรก็ไม่รู้ไร้สาระ ก็แค่ไปคุยกับพ่อเรื่องหมั้นเอง พอฉันตอบตกลงก็กล่าวหาว่าประชด”เขาไม่โต้ตอบอะไรแต่กลับพ่นลมหายใจร้อนผ่าวออกมาแรงๆ “สรุปจะไปคุยกับพ่อนายเรื่องหมั้นหรือเปล่า ?”“ไม่ไป!! ไม่อยากหมั้นก็ไม่ต้องไป ก็ดีแยกกันอยู่อิสระดี ชอบไม่ใช่ ? ได้แต่งตัวโป๊ๆ โชว์ผู้ชายไปทั่ว” “พูดอะไรออกมารู้ตัวไหมอลัน!! นายกำลังดูถูกฉันอยู่นะ” จากที่อารมณ์ดีพอได้ยินคำพูดเมื่อครู่ของอลันมัน
“พ่อไม่ห้ามหนูกับอลันแล้วงั้นหรอคะ” ถึงจะรู้สึกผิดแต่ฉันก็ต้องถามย้ำเพื่อความแน่ใจ พ่อพยักหน้าแทนคำตอบ “พ่อจะไม่ใจร้ายกับคนที่หนูรักใช่ไหม” ฉันจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้นของพ่อ รับรู้ได้ถึงความเศร้าจากสิ่งที่ฉันเลือกเมื่อครู่ “พ่อจะไม่ขัดขวางความรักของลูกอีก ขอให้ลูกมั่นใจพ่อพูดคำไหนคำนั้น”ฉันยิ้มออกมาก่อนจะโผล่เข้ากอดพ่อแน่น เป็นอีกครั้งที่ความรู้สึกอึดอัดในใจได้ปลดล็อก ในที่สุดพ่อก็ลดคติลงได้ “ขอบคุณที่ให้โอกาสผมได้รักกับลูกสาวของคุณลุงนะครับ” อลันพูดขึ้นพ่อจึงค่อยๆ ผละกอดออกแล้วเพ่งสายตามองอลันแทน “ถึงฉันจะไม่เต็มใจแต่ลูกสาวของฉันเลือกแล้ว อย่าทำให้ผิดหวังก็แล้วกัน”“ครับ ผมจะไม่ทำให้คุณลุงผิดหวัง” “หนูไม่อยากให้พ่อคาดหวังอะไรมากมายกับอลันนะคะ” ฉันพูดแทรกขึ้นพ่อจึงตวัดสายตาหันมา “ทำไมลูกถึงพูดแบบนั้น พ่อจะคาดหวังกับผู้ชายที่ลูกเลือกไม่ได้เลยหรือไง” “ไม่มีใครเป็นอย่างที่หวังได้อย่างสมบูรณ์แบบหรอกนะคะ ไม่เว้นแม้แต่หนูที่เป็นลูกสาวของพ่อ” “…….” พ่อถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบศีรษะของฉัน “หนูอยากให้พ่อเปิดใจให้อลันจริงๆ อย่างที่หนูเปิดใจให้เขานะคะ ถ้าแม่ยังอยู่หนูเชื่