บัวชมพูรีบปาดน้ำตาและหันไปมองก็พบเจ้าของร่างสูงใหญ่ภายใต้เสื้อยืดคอกลมและกางเกงเดนิมยืนห่างจากเธอไปเพียงไม่กี่ก้าว หญิงสาวแสดงอาการตระหนกเล็กๆออกมาก่อนจะรีบทำสีหน้าให้เป็นปกติ ศาสตราก้าวเข้ามาหาและมองเธอด้วยแววตาที่บอกว่าเขาเป็นกังวล
“บัว...คุณทำผมตกใจแทบแย่รู้มั้ย ตอนที่ผมกลับมาถึงก็พบป้าคำมีแกบอกว่าคุณขับรถจิ๊บมาที่น้ำตกคนเดียวผมเลยรีบตามมา”
“ขอโทษด้วยนะคะซีนิธ ฉันคิดว่าคุณเข้าไปทำธุระในเมืองกับคำแก้วแล้วจะกลับมาเย็น ๆ ค่ำๆ เสียอีก”
“งานที่ปางไม้มีออกเยอะแยะ ผมจะไปที่ไหนนาน ๆ ได้ยังไง ว่าแต่คุณเถอะ นึกยังไงถึงมาที่น้ำตกนี่คนเดียว”
“ฉันอยากมาพักผ่อนค่ะ...ขอโทษอีกครั้งนะคะที่ทำให้คุณเป็นห่วง ฉันกำลังจะกลับอยู่นี่ล่ะค่ะ”
“บัว” ศาสตราเข้าไปขวางหน้าหญิงสาวที่กำลังจะเดินกลับออกไปจากหลังม่านน้ำตก บัวชมพูเบือนหน้าไปทางอื่น เธอไม่อยากให้เขาเห็นความอ่อนแอในดวงตาคู่นั้น
“หลีกทางเถอะค่ะ บัวจะขับรถกลับไปที่ปางไม้เอง”
“ผมยังไม่ให้คุณกลับ...เราต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อน”
ร่างสูงใหญ่จับบ่าเล็กทั้งสองของหญิงสาวไว้แต่บัวชมพูก็ยังไม่ยอมมองหน้าเขา ศาสตราโน้มใบหน้าคมเข้มลงไปใกล้ ๆ เขาเห็นดวงตาของเธอแดงก่ำ หญิงสาวเม้มปากแน่นและทำตัวแข็งเหมือนก้อนหิน
“ผมรู้ว่ามันเป็นเรื่องน่าลำบากใจที่คุณจะต้องมาใช้ชีวิตอยู่กับใครก็ไม่รู้ที่คุณไม่เคยรู้จัก ไม่เคยคบกันมาก่อน ต้องมาเรียนรู้การใช้ชีวิตร่วมกันกับผู้ชายคนนั้น คนที่คุณ...ไม่เคยรู้สึกรักเขาแม้แต่นิดเดียว”
พอเขาพูดจบน้ำตาก็รินลงบนแก้มของหญิงสาว บัวชมพูเอียงหน้ากลับมาและช้อนตามองเขาด้วยความไหวหวั่นในหัวใจ
“คุณก็ไม่ได้ต่างจากฉันนี่ไม่ใช่หรือคะ ซีนิธ...คนที่คุณรักและตั้งความหวังว่าจะใช้ชีวิตร่วมกันคือพี่สาวของฉัน มันเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังสำหรับคุณใช่มั้ยคะ ฉันรู้ค่ะ ว่าคุณต้องฝืนใจมากแค่ไหนที่ต้องมาใช้ชีวิตอยู่กับผู้หญิงที่คุณไม่ได้รัก ซีนิธ...ฉันจะให้โอกาสคุณนะคะ คุณอยากจะมีผู้หญิงคนไหน มีใครอีกสักกี่คนก็ได้ เพื่อที่หลังจากนี้ฉันจะปล่อยให้คุณได้เป็นอิสระ”
“คุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง”
“ก็หมายความว่าต่อไปฉันจะยอมหย่าให้คุณได้ไปใช้ชีวิตกับผู้หญิงที่คุณรักเขาจริง ๆ ยังไงล่ะคะ”
“บัว...หยุดเถอะ...ผมยังไม่ให้คุณไปไหนทั้งนั้น...บัว!”
ศาสตราร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อเขาพยายามยื้อยึดร่างน้อยที่บิดตัวจนเสียหลักล้มลงไปนั่งอยู่ในแอ่งน้ำ
“อุ๊ย!...อื๊อ...ปล่อยนะคะ ซีนิธ” บัวชมพูร้องออกมาและปัดมือหนาที่ยื่นเข้ามาจับตามลำตัวของเธอซึ่งตอนนี้เปียกปอนไปหมด
“บัว...คุณเจ็บตรงไหนบ้างมั้ย”
ชายหนุ่มถามขณะก้มตามลงไปแต่แล้วหญิงสาวก็รีบทรงตัวลุกขึ้น ช่วงล่างของเธอซึ่งสวมกางเกงรัดรูปเปียกซ่กขึ้นมาถึงชายเสื้อ บัวชมพูจะหันหลังให้เขาอีกแต่คราวนี้พ่อเลี้ยงหนุ่มจับตัวเธอไว้และกอดรัดด้วยแขนแข็งแรงจนแน่น
“ซีนิธ...ปล่อยนะคะ บัวจะกลับไปที่ปางแล้ว”
“ผมยังไม่อนุญาตให้คุณไปไหนทั้งนั้นบัว คุณต้องพูดกับผมให้รู้เรื่องก่อน”
“เราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะคะซีนิธ”
“ยัง”
เขากล่าวสั้น ๆ แล้วกอดหญิงสาวแน่นขึ้นอีก กอดเธอแน่นจนบัวชมพูรู้สึกอึดอัด แต่เธอกลับไม่โต้ตอบเขา ไม่พยายามขัดขืน ร่างบอบบางยืนนิ่ง ใบหน้าของเธออยู่แนบอกกว้างใต้คางสากด้วยขนเคราสั้น ๆ
“บัว...ถ้าคุณเป็นเมียผมแล้วก็อย่าได้พูดเรื่องไร้สาระกับคนที่เป็นสามีของคุณอีก”
“เรื่องอะไรคะ...ที่คุณบอกว่าไร้สาระ”
“ก็เรื่องหย่านั่นยังไง อย่าพูดให้ผมได้ยินอีก”
พอศาสตรากล่าวเช่นนั้นบัวชมพูก็เหมือนมีอาการสะอึกขึ้นมาในทันใด หญิงสาวนิ่วหน้าแต่กลับแนบแก้มกับอกของเขา
“ทำไมล่ะคะ...ก็ในเมื่อ...คุณไม่ได้รักบัว บัวเป็นตัวแทนของพี่บีเท่านั้น บัวรู้ตัวดีค่ะ”
หญิงสาวเผลอสะอื้น และในเวลานั้นเองที่ศาสตราเชยคางหญิงสาวขึ้นมาและสบนัยน์ตากลมโตคู่สวย
“แต่คุณเป็นเมียผมแล้วนะบัว...หรือว่าคุณลืมไปแล้วว่าเมื่อคืนนี้...”
“ซีนิธ...” บัวชมพูอ้าปากซึ่งก็เป็นเวลาเดียวกับที่ศาสตราก้มหน้าลงไปหาพอดี ปากของเขาประกบลงบนกลีบปากอิ่มนุ่มและแทรกลิ้นเข้าไปเพื่อดูดเสียงประท้วงของเธอเอาไว้จนหมด
บัวชมพูสั่นสะท้าน ส่วนหนึ่งมาจากความเย็นชุ่มฉ่ำของสายน้ำตกและอีกส่วนก็มาจากลิ้นร้อนที่ตวัดไปมาเพื่อดูดชิมทุกส่วนในอุ้งปากเล็กของหญิงสาว
“บัว” ศาสตราถอนริมฝีปากออกแต่ยังกอดร่างบอบบางไม่ยอมปล่อย “วันนี้คุณคงหึงผมใช่มั้ย ตอนผมเข้าไปในเมืองกับคำแก้ว”บัวชมพูหรุบเปลือกตาลงต่ำเพื่อหลบสายตาคู่คม น้ำตาของเธอเหือดแห้งไปพร้อมกับความเอียงอาย ผิวหน้าเนียนสวยแดงซ่านเมื่อชายหนุ่มตั้งคำถามแบบนั้น“หึงอะไรคะ...บัวไม่ได้หึงคุณสักหน่อย”“เมียจ๋า” ศาสตราเรียกเสียงอ่อนหวาน “ถ้าคุณไม่หึงคงไม่หนีมาที่น้ำตกนี่คนเดียวหรอกใช่มั้ย”“บัวอยากมาเที่ยวต่างหากล่ะคะ ไม่เกี่ยวกับคุณเสียหน่อย”หญิงสาวเม้มปากแน่น พอเขาหวานใส่ก็ทำให้เธอลืมความเจ็บใจที่เขาเข้าไปในเมืองกับผู้หญิงอีกคน“ผมไม่เชื่อหรอกนะ ว่าคุณไม่หึง ไม่โกรธผม”“แล้วจะให้บัวทำยังไงล่ะคะ คุณถึงจะเชื่อว่าบัวไม่ได้โกรธคุณ”
“ไงล่ะ...”เขายิ้มขณะที่ต่างกอดกันและกันเหมือนจะแนบแน่นกว่าทุกครั้ง “คราวนี้เราก็เสมอกันแล้วซีนะ” “บัวไม่ได้มาแข่งแก้ผ้ากับคุณนะคะซีนิธ นี่ถ้าเกิดใครมาเห็นเข้าเขาคงจะเอาไปพูดกันสนุกปาก” ศาสตราก้มลงจูบแก้มนวลแรง ๆ ก่อนพูด “ช่างเขาปะไร ใครจะว่ายังไงก็ช่าง ผัวเมียจะรักกันท่ามกลางธรรมชาติ มันโรแมนติกออกจะตายไป คุณว่าอย่างงั้นมั้ยบัว?” เขาถามแล้วหรี่ตามองหญิงสาว บัวชมพูสบตากับเขาแล้วรีบหลบสายตาคมคู่นั้นแต่ก็ดูเหมือนเขาจะรู้ทันเธอไปเสียทุกอย่าง “ว่ายังไงล่ะ”ศาสตรากระซิบถามพลางเบียดความกำยำบึกบึนเข้าหาร่างเล็ก แท่งทองกลางลำตัวของเขาที่กำลังแข็งขึงเสียดส
เอวคอดกิ่วนั่นก็เย้ายวนนัก เขาอยากจับสะโพกของหญิงสาวแล้วแยกเรียวขาของเธอออกเสียให้รู้แล้วรู้รอด กระแทกตัวเขาเข้าไปในซอกขา แต่ศาสตราก็อดทนทั้งที่อยากร่วมรักกับเมียของเขาแทบบ้าบัวชมพูไม่ได้แค่ลองลิ้มชิมตัวเขา แต่เธอยังลูบไล้ฝ่ามือไปตามมัดกล้ามบนลำแขนแข็งแกร่ง ลำตัวด้านข้างของเขา กระทั่งหญิงสาวคุกเข่าลงเมื่อใบหน้าสวยหวานเลื่อนต่ำลงเรื่อย ๆหญิงสาวถอนหายใจเบา ๆ เมื่อใบหน้าแสนสวยเผชิญอยู่ตรงกลางลำตัวของเขา เจ้าของร่างสูงใหญ่กำยำเปล่าเปลือยที่ยืนอยู่ตรงหน้าแยกขาออกเล็กน้อย บัวชมพูช้อนตามองสามีของเธอและเลียริมฝีปากที่แห้งผากเมื่อเธอเห็นความอลังการผงาดง้ำอยู่ต่อหน้าเธอเมื่อคืนนี้เธอก็เห็นมันมาครั้งหนึ่งแล้ว สัญลักษณ์บอกความเป็นชาย ความแข็งแกร่งของบุรุษเพศ แต่วันนี้เธอกลับไม่รู้สึกเหนียมอายอย่างเมื่อคืนอีกต่อไปตรงข้ามเหมือนมีบางอย่างกระตุ้นความรู้สึกของเธอให้ตื่นตัวเต็มที่ รับรู้ถึงความอลังการ ความใหญ่โตของแท่งทองที่จะทำให้เธอหฤหรรษ์ แท่งเนื้อขนาดใหญ่ใจกลางตัวเขาที่ผงาดลำ เต็มไปด้วยเส้นเอ็นปูดโปนน่าตื่นใจ ส่วนปลายเรียบสีแดงก่ำเบ่งบานและช่างเร่าร้อน ความชุ่มฉ่ำห
“อา...อา...ซี๊ด...เสียวเหลือเกินบัว...โอว...คุณเยี่ยมมาก...เยี่ยมมากจริง ๆ “ศาสตราแหงนหน้าและหลายครั้งก็อดไม่ได้ที่จะก้มลงมองปากของหญิงสาวที่กลืนแท่งทองของเขาไว้เต็มลำจนกระพุ้งแก้มของหญิงสาวโป่งพอง พ่อเลี้ยงหนุ่มไม่สนใจอีกต่อไปแล้วว่าเขากับบัวชมพูกำลังทำอะไร อยู่ที่ไหนในตอนนี้เสียงน้ำตกสาดซ่าก็ไม่อาจกลบเสียงครวญครางของชายหนุ่มที่ดังออกมาเหมือนความสุขสมกำลังถาโถมเข้าหาเขาจนรับแทบไม่ทัน ร่างสูงสั่นสะท้าน ไม่นึกเลยว่า เมียมือใหม่ ของเขาจะเก่งกาจมากถึงขนาดนี้“ซี๊ด...อา...ซี๊ด...บัวจ๋า...แรงอีกหน่อย...ที่รัก...แรงอีก...อา...อา...ซี๊ด...อูว...อูว”สะโพกหนาขยับไปตามกลีบปากที่เลื่อนเข้าและออก บัวชมพูไม่ได้แค่ทำให้เขาเสียวสยิวไปทุกอณูขุมขน แต่หญิงสาวยังปลุกไฟร้อนในตัวเขาจนลุกโพลง ทำให้เขาปั่นป่วนกับลีลาการดูดกลืนท่อนลำแข็งขันด้วยริมฝีปากที่กดแน่นขณะรูดรึงและลิ้นน้อยแสนซุกซนที่ไล้รัวลงบนแท่งทองไปพร้อมกันด้วย“โอย...บัว...บัวจ๋า...ซี๊ด...โอย”ศาสตราครางออกมาเหมือนกับเขาจะขาดใจ ทุกครั้งที่บัวชมพูกลืนเขาเข้าไปจนเต็ม
“ซี๊ด...อา...พ่อเลี้ยงขา...ช่วยบัวด้วยค่ะ”หญิงสาวจับสายเถาวัลย์เหนือศีรษะของเธอไว้แน่น ส่ายสะโพกไปมาและยวนยั่วสายตาของเขาด้วยทรวงอวบใหญ่ ศาสตราเลียริมฝีปากตัวเองและก้มลงไปหาดอกบัวคู่มหึมาทั้งสอง ดูดกลืนยอดปทุมถันพร้อมทั้งสอดแขนเข้าไปใต้เรียวขาข้างหนึ่ง ยกมันขึ้นพาดไว้บนสะโพกของเขา“อูย...พ่อเลี้ยงขา...อูย...ซี๊ด...ซี๊ด...อ๊า...อ๊า...ซี๊ด”บัวชมพูครางซี๊ดซ๊าดเสียงดังโดยไม่กลัวว่าใครจะมาได้ยินอีกต่อไป หญิงสาวจับเถาวัลย์เส้นนั้นไว้มั่น เธอเหมือนนักโทษถูกลงทัณฑ์ แต่เป็นนักโทษที่ถูกลงโทษด้วยลีลาพิศวาสของพ่อเลี้ยงหนุ่มลูกครึ่งผู้หล่อเหลาที่ทำให้เสียวซ่านเข้าไปถึงทรวง“บัว...อืม...อูว...อูว”ครางไปด้วยพร้อมทั้งดูดกลืนเม็ดอัญมณีสีสวยจนรอบ ๆ เป็นสีแดงก่ำ ศาสตราเลื่อนมือไปลูบไล้บนก้นกอยหนั่นแน่น แทรกปลายนิ้วเข้าไปที่ร่องแคบระหว่างสองแก้มก้น เสียดสีนิ้วแกร่งกับกลีบนุ่มจากด้านหลัง“ซี๊ด...อ๊า...ซี๊ด...พ่อเลี้ยงขา...บัวเสียวค่ะ...”บัวชมพูแหงนหน้าและหายใจหอบเมื่อถูกจู่โจมด้วยปากของศาสตราที่ไล้เลียอย
บัวชมพูครางเสียงแหบพร่า ความสุขพ้นผ่านไปแล้วแต่ก็ดูเหมือนว่ามันยังไม่เพียงพอสำหรับเธอ และศาสตราก็รู้ว่าถึงเวลาที่เขาจะทำให้ภรรยาของเขามีความสุขชนิดที่ยั้งไม่อยู่เลยทีเดียว “บัว...”ชายหนุ่มยืดลำตัวขึ้นและยืนเผชิญหน้ากับหญิงสาวที่มือทั้งสองยังคงโหนอยู่กับเถาวัลย์เหนือศีรษะและขาข้างหนึ่งพาดอยู่บนเถาวัลย์อีกเส้น มันเป็นท่าที่ยั่วยวนเขาอย่างที่สุด ร่างกายอันเปลือยเปล่าผ่องผุดของหญิงสาวช่างเย้ายวนอยู่ท่ามกลางละอองน้ำตกสาดซ่า “ผมจะทำให้คุณมีความสุขอีกครั้ง” “เร็ว ๆ เถอะค่ะ พ่อเลี้ยง...บัวจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว รู้ไหมคะ” เธอออดอ้อนพ่อเลี้ยงหนุ่มลูกครึ่งเจ้าของร่างกายอันกำยำสูงใหญ่ด้วยน้ำเสียงเว้
หญิงสาวถามเขาเสียงหอบพร่าขณะที่ร่างทั้งร่างยังโยกโยนไปตามแรงกระแทกที่ไม่มีเบาลงเลย รอยยิ้มทรงเสน่ห์จุดขึ้นบนริมฝีปากหยัก ถึงเขาจะอยู่ในท่าทางที่กำลังร่วมรักกับเธอแต่บัวชมพูก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าเขายิ่งดูหล่อเหลามากแค่ไหน “บัวชอบรึเปล่าล่ะ”เขาถามกลับและยื่นริมฝีปากเข้าไปจุมพิตหญิงสาวพร้อมกันกับที่ยังขยับสะโพกไม่ยอมหยุด บัวชมพูยิ้มเอียงอาย “ชอบซีคะ...ดูซี...บัวน่ะ...เสร็จคุณไปตั้งสองครั้งแล้ว...แต่คุณ...ก็ยังทนอยู่เลย” “เอาอีกสักครั้งมั้ย เมียจ๋า” “เรียกบัวว่ายังไงนะคะ” หญิงสาวแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน “เมียจ๋า” เขาว่าพลางไล้ปลายจมูกโด่งไปบนแก้มสาว “ผัว
เธอแตะขอบสวรรค์ไปสองหน และนี่ก็กำลังจะเป็นหนที่สามแต่พ่อเลี้ยงหนุ่มลูกครึ่งเจ้าของความเป็นชายขนาดใหญ่อลังการกลับไม่แสดงทีท่าว่าเขาเหนื่อยหน่ายที่จะเสียบเสย กระเด้าความแข็งแกร่งของท่อนลำสีแดงเข้มเข้าไปในตัวเธอ ตรงข้ามที่เขายังแข็งแกร่ง เต็มไปด้วยเรี่ยวแรงและลีลาดุเด็ดที่บัวชมพูรู้สึกทึ่งและทำให้เธอเสียวซ่านจนไม่อาจบรรยายเป็นคำพูด ศาสตราปรับเปลี่ยนท่าของหญิงสาว ยกขาของเธอขึ้นพาดบ่าแล้วกระเด้าแท่งทองที่ทั้งใหญ่และยาวเข้าไปในซอกขาที่บีบรัดบทที่ 18 พลังรัก 
แล้วร่างอรชรก็ค่อยเลื่อนบั้นท้ายลงจากเก้าอี้ เธอเปลี่ยนท่าเป็นหันหลังให้เขา ย้ายสะโพกไปตามเสียงเพลงพร้อม ๆ กับเขาและก้มลงบนเก้าอี้ที่เธอนั่งเมื่อครู่บั้นท้ายงอนงามและก้นกอยหนั่นแน่นโด่งขึ้นและดูเหมือนเจ้าตัวตั้งใจส่ายไปมาอย่างเย้ายั่ว กลีบสีแดงแยกออกเผยให้เห็นร่องสวาทจากทางด้านหลังเธอกำลังเชิญชวนเขา อาร์เธอคิดในใจ และเมื่อมาถึงตอนนี้อาจารย์หนุ่มสอนรักก็ไม่อาจหักห้ามความรู้สึกที่มันพลุ่งพล่านขึ้นมาได้อีกต่อไป เขายังเต้นไปตามจังหวะเสียงเพลงแต่ขยับเขข้าไปชิดบั้นท้ายงอนเด้งที่ส่ายไหวไปมาตรงหน้า“พีชชี่.”“อูววว...อาร์เธอ...ฉันอยากให้กล้วยหอมของคุณ...เข้ามาอยู่ในตัวฉัน”เธอบอกเขาเสียงสั่นขณะที่ชายหนุ่มถอนใจและกลืนน้ำลายลงคอเบา ๆ ในเมื่อมันมาถึงขนาดนี้แล้วเขาก็จำเป็นต้องสอนบทเรียนสุดท้ายให้ลูกศิษย์สาวแสนสวยอย่างไม่อาจเลี่ยง“พีชชี่...โอ...คุณสวยงามมาก”
ชายหนุ่มครวญครางจนหน้าแดง เขาไม่เคยรู้สึกซ่านเสียวมากขนาดนี้มาก่อน เขาเคยผ่านผู้หญิงมา แต่ไม่ใช่หลายคน ถึงเขาจะเป็นแดนเซอร์โชว์ความเซ็กซี่ แต่อาร์เธอก็ไม่ชอบการมีคู่นอนพร่ำเพรื่อ ชายหนุ่มยอมรับกับตัวเองอย่างหนึ่งว่าเขาสะดุดตากับใบหน้าสวยหวานของกัญชลิกาตั้งแต่แรกเห็น และการที่เขายอมรับข้อเสนอของเธอ มาเป็นครูสอนเรื่องรักให้ มันก็มาจากหัวใจของเขาที่เรียกร้อง ไม่ใช่เพียงเพราะค่าตอบแทนบทที่ 7&nb
“ผมรู้ว่าคุณทำได้ยอดเยี่ยม” เขาให้กำลังใจ ยิ้มทรงเสน่ห์ของเขากำลังละลายความรู้สึกของเธอ อาร์เธอละมือออกจากแท่งเนื้อกลางลำตัวของเขาและประสานมือทั้งสองไว้ที่ท้ายทอย เขายกสะโพกขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้กัญชลิกาได้มองเห็นความยาวและใหญ่นั่นชัดเจน ใช่...มันทั้งยาวและใหญ่เกินบรรยาย กัญชลิการู้สึกร้อนขึ้นมาที่ซอกขา มันทั้งอบอุ่นและชุมชื้นขึ้นมาอย่างน่าอับอาย แต่หญิงสาวก็ลองลูบไล้ความเป็นชายของเขาที่ผงาดสู้มือ ลูบขึ้นลงเพื่อสัมผัสความอุ่นร้อนจากเนื้อหนังที่เต็มไปด้วยเส้นเอ็นปูดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด มันกระตุกเป็นจังหวะในอุ้งมือเรียวบาง เหยียดขยายและพองตัวทุกครั้งเมื่อมือของเธอสัมผัส ส่วนปลายเรียบลื่นและเบ่งบานนั่นต่างหากที่กำ
เป็นคำพูดที่มาจากความรู้สึกจริง ๆ ของเขา แต่ทำให้หญิงสาวเขินจนหน้าแดงอีกครั้ง “แล้วถ้าคุณเห็นมันชัด ๆ คุณจะร้อนรึเปล่าคะ?” “ผมก็อยากรู้เหมือนกัน” “ถ้าอย่างนั้น...” หญิงสาวเว้นคำพูดไว้ก่อนละมือจากขอบบ๊อกเซอร์และเลื่อนไล้ไปที่ขอบคอเสื้อลูกไม้ซีทรูคว้านกว้าง มันเป็นผ้าสแปนเด็กซ์ที่ยืดหยุ่นมากพอที่หญิงสาวจะสามารถรั้งคอเสื้อลงไปใต้ฐานของทรวงสวยอวบใหญ่และแน่นตึง ปล่อยให้มันดีดเด้งออกมาอวดสายตาของอาร์เธอที่มองความอลังการบนเรือนร่างแสนสวยอย่างตกตะลึง “พระเจ้า...พีชชี่...มัน...ใหญ่มากจริง ๆ”
กล้ามเนื้อสีแทนของเขาดูแวววาวยามสะท้อนแสงไฟราวกับมันฉาบด้วยน้ำผึ้งที่หญิงสาวแอบกลืนน้ำลายเหมือนกับว่าเธอเริ่มกระหายหิว รูปร่างของอาร์เธอสมส่วนและสมบูรณ์แบบ นัยน์ตาทรงเสน่ห์สีน้ำตาลบรูเน็ตกำลังเชิญชวนหญิงสาวอย่างเปิดเผยกล้ามเนื้อทุกมัดของเขาเหมือนกำลังตื่นเต้น แต่สิ่งที่ทำให้กัญชลิการู้สึกเขินอายจนแก้มแดงเพราะเลือดสูบฉีดคือกล้ามเนื้อส่วนที่อยู่ตรงกลางร่างกายของเขาเธอไม่เคยเห็นผู้ชายในสภาพกึ่งเปลือยต่อหน้าเลยสักหน ไม่ใช่แค่มัดกล้ามเนื้อของเขาเท่านั้นที่เคร่งเครียด แต่บ๊อกเซอร์ของเขามีบางอย่างที่กำลังดันตัวขึ้นมาจนเป้าตุงเห็นเป็นรูปร่างชัดเจน และมันทำให้เธอคิดถึงกล้วยหอมที่เธอลิ้มเลียมันเมื่อครู่กัญชลิกาเลียปากของเธอที่เริ่มแห้งผาก เธออยากพิสูจน์ตัวเองไม่ใช่หรือว่าเธอก็ทำให้ผู้ชายร้อนได้เช่นกัน เมื่อคิดดังนั้นร่างเล็กในชุดกระโปรงผ้าลูกไม้ซีทรูสุดเซ็กซี่จึงโน้มลำตัวลงไปหาร่างสูงใหญ่ที่อยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน เริ่มต้นด้วยการจูบเขาก่อน บนริมฝีปากหนาได้รูปและบนคางสากระคายด้วยขนสั้น ๆ เรื
“คุณต้องเรียนรู้มัน...เรียนรู้วิธีการที่จะทำให้ผมรู้สึกร้อน เพราะเมื่อไหร่ที่ผมเริ่มจะร้อน นั่นก็คือคุณ...จะไม่ใช่เจ้าหญิงน้ำแข็งอย่างที่หมอบอก” เขาเลิกคิ้วน้อย ๆ และขยับเข้าใกล้ร่างเล็กซึ่งเธอยังกุมกล้วยหอมไว้ในมือ อาร์เธอใช้มืออีกข้างค่อย ๆ ปอกเปลือกกล้วยหอมสีเหลืองนวลขนาดเขื่องลงมาประมาณครึ่งผลก่อนจะสั่งเธอด้วยน้ำเสียงอันนุ่มนวล “ผมอยากให้คุณลอง...เอิ่ม...กินมันอย่างเซ็กซี่ ผมยังไม่สอนให้คุณเล่นกับตัวเอง แต่อยากให้คุณเรียนรู้วิธีการเล่นกับสิ่งที่อยู่รอบข้าง” “แบบนี้หรือคะ?” หญิงสาวถามเขาด้วยเสียงแหบเบาและโน้มใบหน้าสวยหวานลงไปหากล้วยหอมในมือของเธอที่อาร์เธอยังกอบกุมไว้ ดวงตาคู่งามยังจับจ้องอยู่ที่เขาแต่กลีบปากอิ่มสวยและชุมฉ่ำอ้าออก&n
“นะ...นั่งลงก่อนซี”“ข้าง ๆ คุณรึเปล่า?”เธอถามแล้วเขาพยักหน้า กัญชลิกาพาร่างอ้อนแอ้นเย้ายวนเข้ามาหย่อนตัวลงนั่งข้างเขา เธอก็รู้สึกประหม่าไม่แตกต่างจากชายหนุ่ม ก็แค่เริ่มบทเรียน รัก นี่นะ หญิงสาวคิดและหันมายิ้มอวดฟันเรียบขาวสะอาดกับเขา“คุณต้องไม่ยิ้มกว้างแบบนี้ พีชชี่”พอเขาสั่งหญิงสาวก็หุบปาก เธอนิ่วหน้าอย่างสงสัย“คุณต้องเซ็กซี่อย่างมาริลีน มอนโร...ใช่...เธอยิ้มแต่ไม่อวดฟันขาว เธอยื่นปากออกมานิด ๆ ไม่อ้ากว้าง ทำให้มันดูเย้ายวน”อาร์เธออธิบายต่อ และกัญชลิกาก็พยายามทำอย่างเขาว่า มันดูเหมือนบทเรียนแสนยากสำหรับเธอ ไม่เคยทำเซ็กซี่แบบนี้ต่อหน้าผู้ชายคนไหนมาก่อนในชีวิตปากอิ่มจิ้มลิ้มเคลือบกลอสสีแดงอมชมพูยื่นออกมาเล็กน้อย มันดูเซ็กซี่มากพอแล้วสำหรับชายหนุ่มที่นั่งข้าง ๆ และจ้องมองดูดวงหน้าสวยหวานซึ่งเขาคิดว่า กัญชลิกาเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยมากพอตัว“โอเค...ต่อไป...” เขาว่าพลางเอียงตัวเข้าหาหญิงสาว เธอทำปากให้เป็นปกติ แต่หน้าอกหน้าใจที่กำลังดันชุดลูกไม้อยู่ใกล้เขานี่ซี มัน
แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาของอาร์เธอมากกว่านั้นคือเนินอกแสนสวยที่อวบล้นออกมาจากคอเสื้อสายเดี่ยวคว้านกว้าง กัญชลิกาก็เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาแต่ทำไมเขาถึงได้รู้สึกรุ่มร้อนขึ้นมาเล็กน้อยยามเมื่อเธอย่างกรายเข้ามาใกล้หญิงสาวร่างเล็กบอบบางนั่งในท่าไขว่ห้าง เธอประสานมือไว้บนตักแสดงท่าทีเหมือนกำลังอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ในขณะที่อาร์เธอยังเยือกเย็นทั้งที่ข้างในของเขากำลังร้อนขึ้นมาทีละน้อย“เอ้อ...อาร์เธอคะ...คือ...ที่เราตกลงกันคืนนั้น”“ผมโอเคครับ พีชชี่”อาร์เธอแทรกขึ้น เขารู้สึกคอแห้งผากขึ้นมาในทันใดแต่แล้วรอยยิ้มจางทว่าทรงเสน่ห์ก็ผุดขึ้นที่มุมปากหยักได้รูปบนใบหน้าหล่อเหลา“ที่คุณบอกกับกับผมว่า จะว่าจ้างให้ผมมาสอนคุณเพื่อพิสูจน์ว่าคุณไม่ได้เป็นอย่างที่หมอวินิจฉัยว่า...”“ฉันตายด้าน” กัญชลิกาไหวไหล่เล็กน้อย “ฉันรู้ว่าคุณอาจจะรู้สึกแบบว่า...เอ้อ...ประดักประเดิด...แต่ฉันก็อยากพิสูจน์ตัวเองว่าฉันไม่ได้เป็นอย่างนั้น”กัญชลิกาอธิบายด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นคงนัก ใช่...เธอเข้าพบจิตแพทย์เมื่อไม่นานมานี้จ
กรัชเพชรนามปากกาสำหรับนิยายอีโรติกเร่าร้อนและเพื่อผู้เปี่ยมความรักในหัวใจค่ะสอนรักให้เธอร้อนอาเธอร์ – กัญชลิกาหมอบอกว่าเธอตายด้าน!กัญชลิกา เลยต้องจ้าง อาร์เธอนักเต้นหนุ่มกล้ามล่ำและร้อนแรงที่สุดบนเวทีให้มาช่วยสอนกลเม็ดเด็ดพรายเรื่องรักและพิสูจน์ว่าเธอ ก็ ร้อน ไม่น้อยหน้าผู้หญิงคนไหน ๆ ในโลกเช่นกัน“อู๊ว...อ๊า...ซี๊ด...อา...อาร์เธอ...อา...อา”&nb