ชายหนุ่มครวญครางจนหน้าแดง เขาไม่เคยรู้สึกซ่านเสียวมากขนาดนี้มาก่อน เขาเคยผ่านผู้หญิงมา แต่ไม่ใช่หลายคน ถึงเขาจะเป็นแดนเซอร์โชว์ความเซ็กซี่ แต่อาร์เธอก็ไม่ชอบการมีคู่นอนพร่ำเพรื่อ
ชายหนุ่มยอมรับกับตัวเองอย่างหนึ่งว่าเขาสะดุดตากับใบหน้าสวยหวานของกัญชลิกาตั้งแต่แรกเห็น และการที่เขายอมรับข้อเสนอของเธอ มาเป็นครูสอนเรื่องรักให้ มันก็มาจากหัวใจของเขาที่เรียกร้อง ไม่ใช่เพียงเพราะค่าตอบแทน
บทที่ 7
กัญชลิกาดูดกลืนมัน ครอบครองมันด้วยปากของเธอไม่ต่างจากกล้วยหอมที่เธอลิ้มเลีย ผิดก็แต่รสชาติของสิ่งที่เธอรูดริมฝีปากขึ้นลงอยู่ตอนนี้มันช่างเอร็ดอร่อยจนแทบไม่สามารถหยุดความกระหายหิวไว้ได้
“โอวววว...อา”
ชายหนุ่มกำหมัดแน่น ปากของหญิงสาวที่กดไว้รอบ ๆ ช่างคับแคบและทำให้เขาต้องยกสะโพกเป็นจังหวะไม่ต่างกับการขยับโยกไปตามจังหวะเพลงแร็พและรึทึ่ม
“อา...อาร์เธอคะ...ฉันเคยเห็นพวกดาราหนังเอ็กซ์...ทำแบบนี้”
กัญชลิกาเลื่อนกลีบปากนุ่มออกและเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มที่ดวงตาของเขาอาบด้วยอารมณ์หวามที่คุกรุ่น หญิงสาวเลื่อนลำตัวขึ้นเล็กน้อยและคราวนี้เธอทำให้เขาต้องประหลาดใจด้วยลีลาที่อาจารย์หนุ่มสอนรักไม่คิดว่าเธอจะกล้า
“อูววว...พีชชี่...ไม่...”
รอยยิ้มเล็ก ๆ จุดขึ้นที่มุมปากหยักหนาเมื่อกัญชลิกาจับแท่งแห่งความเสียวกระสันกดไว้ที่ร่องอกของเธอ หญิงสาวบี้ทรวงสวยจากทางด้านข้าง ให้มันหนีบความแข็งแกร่งนั้นไว้ก่อนที่จะขยับทรวงอวบใหญ่ขึ้นลงให้มันเสียดสีกับความอลังการและก้มลงดูดเม้มส่วนปลายเรียบลื่นสลับกับการร้องครางเสียงดัง
“อูว...ซี๊ด...ฉันชอบกล้วยหอมของคุณมากค่ะ...อาร์เธอ...โอววว...ซี๊ด...อา”
เธอเรียกสิ่งที่กำลังผงาดอยู่ที่ร่องอกของเธอว่ากล้วยหอมและ แดนเซอร์หนุ่มกล้ามล่ำก็ไม่ปฏิเสธความต้องการของเธอ ดูเธอหลงใหลมัน หลงใหลความเป็นชายของเขาที่กำลังเครียดตึงไปทุกตารางนิ้ว
ร่างกายของเขาขมวดรัด กล้ามเนื้อแน่นจากการฝึกในฟิตเนสและกินอาหารสร้างกล้ามเนื้ออยู่เป็นนิจยิ่งทำให้เขาดูน่าหลงใหล หมอวินิจฉัยผิดแน่แล้ว กัญชลิการ้อนแรงเกินกว่าผู้หญิงคนไหนในโลกนี้
“ฉันคิดว่าคุณคงชอบฟังเพลง เพราะคุณเป็นแดนเซอร์”
หญิงสาวกล่าวขึ้นขณะปล่อยเขาให้เป็นอิสระ เธอปล่อยเขาให้นอนเอกเขนกที่โซฟาในสภาพที่กล้วยหอมของเขายังชูชัน ร่างอรชรเดินนวยนาดไปที่บาร์เครื่องดื่มและเปิดเพลงคลอ ในเป็นเพลงจังหวะแร็พ
“Kiss Kiss ของ Christ Brown อย่างนั้นหรือ”
อาร์เธอพูดขึ้นด้วยเสียงที่เขาไม่สามารถบังคับไม่ให้มันแหบพร่า เพลงแร็พของคริสต์ บราวน์ ดังอยู่ภายในห้องนั้น แต่สิ่งที่กำลังดึงดูดเขาตอนนี้คือร่างกลมกลึงที่นั่งลงบนเก้าอี้กลมหน้าบาร์ เธอกระดิกนิ้วเรียกเขาก่อนจะเริ่มลูบไล้ตัวเองและแยกเรียวขาออก อาร์เธอยิ้มก่อนลุกขึ้นไปยืนตรงหน้า
“พระเจ้า! นี่คุณยั่วผมหรือพีชชี่?”
“ฉันอยากเห็นคุณเต้น...ตรงนี้ต่างหากล่ะคะ”
หญิงสาวกล่าวเสียงอ่อนหวาน เธอส่งสายตาเชิญชวนขณะลากไล้ปลายนิ้วไปตามร่องตรงกลางของกลีบแสนสวยใต้เนินสามเหลี่ยมที่แยกออก อาร์เธอใจเต้นระทึกเมื่อเห็นแคมทั้งสองที่แยกออกจากกันเผยให้เห็นเนื้อในสีแดงฉ่ำด้วยหยาดอันชุ่มชื่น
กัญชลิกามีรอยสักรูปหัวใจเล็ก ๆ บนเนินสามเหลี่ยมเกลี้ยงเกลา เขาไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงที่ภายนอกดูเหมือนไร้เดียงสาและเหนียมอายจะแอบซ่อนความเร่าร้อนไว้ภายในได้ถึงเพียงนี้
แดนเซอร์หนุ่มกล้ามล่ำเริ่มยักย้ายสะโพกไปตามจังหวะเพลงแร็พ เขาคิดถึงตอนที่ตัวเองอยู่บนเวที ผิดแต่ตอนนี้เขาต้องเต้นต่อหน้าผู้หญิงเพียงคนเดียวแถมไม่ได้สวมใส่บ็อกเซอร์เสียอีกด้วย
แต่ลีลาการเต้นแบบยั่วยวนของเขาก็ช่างเร้าใจกัญชลิกายิ่งนัก หญิงสาวไม่อาจละสายตาไปจากกล้วยหอมขนาดใหญ่ที่แกว่งไปมาตามทีท่ายักย้ายตามจังหวะแร็พนั่นได้เลย
ในเวลาเดียวกันเธอก็เลื่อนปลายนิ้วต่ำลงและทำให้แดนเซอร์หนุ่มกล้ามล่ำที่แม้จะโยกสะโพกไปตามจังหวะดนตรีแต่สายตาคู่นั้นกลับจับจ้องอยู่ที่ท่าทีอันเย้ายวนของหญิงสาว
เธอคลึงปลายนิ้วกับร่องสวาทที่กำลังชุ่มฉ่ำ บดคลึงยอดเกสรสีชมพูเล็ก ๆ และทำสีหน้าเหมือนมีความสุขสุดยอด
“อือ...อูว...อา...ซี๊ด”
กัญชลิกาส่งเสียงครางออกมาก่อนที่นิ้วชี้จะผลุบหายเข้าไปในร่องลึกใจกลางลำตัวและขยับเข้าออกพลางส่งเสียงดังไปพร้อมกับเสียงเพลงแร็พ
“อ๊า...ทำไมมันเสียวแบบนี้...อ๊า...ซี๊ดดด”
แล้วร่างอรชรก็ค่อยเลื่อนบั้นท้ายลงจากเก้าอี้ เธอเปลี่ยนท่าเป็นหันหลังให้เขา ย้ายสะโพกไปตามเสียงเพลงพร้อม ๆ กับเขาและก้มลงบนเก้าอี้ที่เธอนั่งเมื่อครู่บั้นท้ายงอนงามและก้นกอยหนั่นแน่นโด่งขึ้นและดูเหมือนเจ้าตัวตั้งใจส่ายไปมาอย่างเย้ายั่ว กลีบสีแดงแยกออกเผยให้เห็นร่องสวาทจากทางด้านหลังเธอกำลังเชิญชวนเขา อาร์เธอคิดในใจ และเมื่อมาถึงตอนนี้อาจารย์หนุ่มสอนรักก็ไม่อาจหักห้ามความรู้สึกที่มันพลุ่งพล่านขึ้นมาได้อีกต่อไป เขายังเต้นไปตามจังหวะเสียงเพลงแต่ขยับเขข้าไปชิดบั้นท้ายงอนเด้งที่ส่ายไหวไปมาตรงหน้า“พีชชี่.”“อูววว...อาร์เธอ...ฉันอยากให้กล้วยหอมของคุณ...เข้ามาอยู่ในตัวฉัน”เธอบอกเขาเสียงสั่นขณะที่ชายหนุ่มถอนใจและกลืนน้ำลายลงคอเบา ๆ ในเมื่อมันมาถึงขนาดนี้แล้วเขาก็จำเป็นต้องสอนบทเรียนสุดท้ายให้ลูกศิษย์สาวแสนสวยอย่างไม่อาจเลี่ยง“พีชชี่...โอ...คุณสวยงามมาก”
“อู...ซี๊ด...มันคับมาก...พีชชี่ ทั้งคับทั้งแน่น...อา...”พอได้ยินเช่นนั้นหญิงสาวจึงยกบั้นท้ายให้สูงขึ้นอีกขณะที่เธอจับเก้าอี้เอาไว้แน่น กัญชลิกาเอียงหน้ากลับมามองเขาชั่วแว่บและสังเกตเห็นว่าใบหน้าหล่อเหลาของแดนเซอร์หนุ่มกำลังบิดเบี้ยวเหยเกด้วความเสียวแทบจะเรียกได้ว่าสุดชีวิตของเขาเลยทีเดียว“ซี๊ด...อาร์เธอ...ฉันเริ่มเสียวนิด ๆ แล้วล่ะค่ะ...อูว...อา”ร่างกลมกลึงส่ายบั้นท้ายและโยกเข้าหาตัวเขา จากเบา ๆ ก็เริ่มหนักหน่วงโดยที่อาจารย์สอนรักของนักเรียนสาวยืนเกร็งตัวอยู่ด้านหลัง ร่างสูงใหญ่เริ่มกระเด้าความใหญ่โตของกล้วยหอมที่ทั้งแข็งและอลังการเข้าไปในซอกอันคับแคบตามจังหวะเสียงเพลงแร็พที่ยังดังคลอบทรักอันเร่าร้อนไม่หยุด“อา...ซี๊ด...โอววว...พระเจ้า..เสียวเหลือเกิน คุณทำได้ยังไง พีชชี่...ซี๊ด...อา...อา”อาร์เธอจับสะโพกหญิงสาวไว้แน่นและกระแทกท่อนเนื้อขนาดเขื่องเข้าไปในซอกระหว่างแก้มก้น จากความเจ็บปวดก็กลายเป็นความเสียวกระสันเกินพรรณนา ร่างทั้งสองต่างขย่มโยกไปตามเสียงเพลงและจังหวะคึกคักอาร์เธอจินตนาการว่าเขากำลังอยู่บ
บัวชมพูซึ่งอยู่ในชุดผ้าสะใบเกาะอกนุ่งผ้าไหมลวดลายงดงามพรั่งพร้อมด้วยเครื่องประดับทองคำและไข่มุกที่มีทั้งสร้อยคอ แหวนและกำไลข้อมือต้องเดินตามเจ้าของร่างสูงใหญ่ซึ่งอยู่ในชุดพื้นเมืองผ้าไหมสีทองอร่าม ใบหน้าคร้ามเข้มนั้นหล่อเหลาตามแบบฉบับของลูกครึ่งไทยรัสเซียมือเรียวบางของเธอถูกผูกติดกับมือหนาใหญ่ของ ศาสตรา พ่อเลี้ยงหนุ่มแห่งปางไม้แม่เมยซึ่งบัดนี้อยู่ในฐานะเจ้าบ่าวที่ต้องปฏิบัติตามพิธีกรรมอย่างล้านนาของชาวเหนือ นั่นคือคู่แต่งงานต้องผูกข้อมือไว้ด้วยกันก่อนจะมีการส่งตัวเข้าเรือนหอโดยญาติผู้ใหญ่ทั้งบิดามารดาของฝ่ายหญิงและชายรวมทั้งคนเฒ่าคนแก่ที่มาร่วมจัดพิธี“ให้ผัวเป็นแก้ว เมียเป็นแสง บ่ดีหื้อเป็นผัวเผต เมียยักษ์ หื้อมีลูกเต็มบ้าน หลานเต็มเมือง หื้อฮักกั๋นแพงกั๋นอยู่ตราบเสี้ยงชีวิต ถ้าผัวเปนไฟ หื้อเมียเปนน้ำ หื้อพ่อชายเป็นหิง แม่ญิงเป็นข้อง”หลังจากเสียงการให้โอวาทในการครองเรือนสิ้นสุดลงหนุ่มสาวทั้งสองจึงเอนหลังลงไปพร้อมกันบนที่นอนซึ่งเป็นฟูกหนาคลุมด้วยผ้าปูรัดมุมตึงแน่น ด้านบนโรยด้วยกลีบดอกไม้ ฟูกหนาตั้งอยู่ชิดหน้าต่างบนพื้นของห้องนอนภายในเรือนไม้สักขนาดใหญ่ซึ่งถูกใช้เป็นห้องหอด้านน
ศาสตราตอบเสียงห้วนแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำขณะที่หญิงสาวมองตามพลางถอนหายใจ เธอรู้ว่าถึงยังไงก็ไม่มีทางแทนที่ บัวไพลิน พี่สาวของเธอที่เขารักได้เป็นแน่เธอก็เป็นแค่ตุ๊กตาตัวหนึ่งที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเต็มใจนำมาชักใยให้กระโดโลดเต้น พูดไปก็เหมือนหนังหน้าไฟ ต้องมาแบกรับปัญหาที่ตัวเองไม่ได้ก่อแถมยังถูกศาสตราแสดงท่าทีรังเกียจเข้าให้เสียอีกไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยรู้จักเขา ศาสตราเป็นลูกชายคนเดียวของเจ้าของปางไม้แม่เมย แม่ของเขาเป็นชาวรัสเซียและเขาก็พึ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้การแต่งงานระหว่างเขากับบัวไพลินก็เกิดขึ้นจากความเห็นชอบของผู้ใหญ่ บัวชมพูรู้ดีว่าพี่สาวของเธอไม่เต็มใจและแบ่งรับแบ่งสู้ทุกครั้งที่ศาสตราเดินทางไปหาที่บ้านแต่ในสายตาของบัวชมพู เขาเป็นผู้ชายที่ดูดีมากคนหนึ่ง แม้จะมีเชื้อสายของชาวต่างชาติแต่ศาสตราก็เป็นหนุ่มวัยยี่สิบแปดที่ดูดีมาก เขาสมบูรณ์แบบและเธอก็รู้สึกชื่นชมตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็นบทที่ 2 คืนเข้าหอสำหรับบัวชมพูแล้วจะเรียกสิ่งนั้นว่าความหวั่นไหวเลยก็ได้ ในวัยยี่สิบเอ็ดของหญิงสาวซึ่งเปิดธุรกิจทำสปาเล็ก ๆ เธอไม่เคยพบผู้ชายที่ทั้งหล่อเหลาและมีค
เขาเคยตั้งปณิธานว่าจะรักบัวไพลินคนเดียว แต่พอถูกหักหลังเขาก็ตั้งปณิธานใหม่ว่าจะไม่ให้อภัยใครก็ตามที่ใกล้ชิดผู้หญิงคนนั้น ซึ่งก็รวมทั้งบัวชมพู ที่เขาคิดว่าเธอเสแสร้งแกล้งทำดีเพื่อให้เขาลืมเรื่องอัปยศของพี่สาว กลิ่นน้ำมันหอมผสมกับการนวดจากปลายนิ้วไล่ขึ้นไปจนถึงไหล่กว้าง ลำคอและหลังของเขาทำให้ร่างสูงใหญ่รู้สึกผ่อนคลายลงอย่างมาก แต่น่าแปลกที่เขาไม่หลับเหมือนตอนให้หมอนวดแผนไทยนวดให้ที่ต่างประเทศ ดวงตาสีเขียวอมฟ้าคู่นั้นยังคงจับจ้องอยู่บนใบหน้าและท่าทางของหญิงสาวตลอดเวลา“พลิกตัวซีคะ” บัวชมพูสั่งเขาเบา ๆ และชายหนุ่มก็ทำตามด้วยการพลิกตัวนอนหงาย แต่เขาช่างไม่ระวังทำให้ปมของผ้าขนหนูผืนเล็กเจ้ากรรมที่ขมวดเอาไว้หลุดออกจากกันไปกองอยู่ข้างลำตัว“ซีนิธ...เอ้อ...เอ้อ” หญิงสาวหน้าแดงก่ำเมื่อเห็นความแข็งแกร่งที่กลางลำตัวของเขาตั้งลำขึ้นมา บัวชมพูลอบกลืนน้ำลายกับขนาดใหญ่โตของความเป็นชายซึ่งในชีวิตของเธอไม่เคยเห็นของใครชัด ๆ แบบนี้มาก่อน“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะบัว?” เขาถามแล้วเหยียดยิ้มพลางประสานมือทั้งสองไว้ที่ท้ายทอย “ไม่เคยเห็นอย่างนั้นหรือ?”“ค่ะ...บัวไม่เคยเห็น” รีบตอบแล้วรีบตวัดผ้าขนหนูขึ้นมาปิดเ
เนื้อสาวขาวผ่องสั่นระริก เธอไม่เคยสัมผัสประสบการณ์แบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต ยิ่งเขาจูบเธอก็ยิ่งอยากกอดอยากลูบไล้ไปบนไหล่กว้าง แต่หญิงสาวก็ทำได้แค่กดฝ่ามือไว้กับบ่าของเขาแน่น ภายในเหมือนมีกองไฟสุมอยู่ยังไงยังงั้นศาสตราก็กำลังเพลิดเพลินต่อรสสัมผัสทางปากแสนซาบซ่านซึ่งเขาไม่เคยได้รับมันจากบัวไพลิน พี่สาวของบัวชมพูยังไม่ยอมให้เขาสัมผัสหรือแตะต้องตัวเธอสักหน แม้แต่จูบสักครั้งก็ยังไม่เคย“อืม...อืม...” ร่างสูงครางลึกในลำคอ ลิ้นของเขากระหวัดเกี่ยวลิ้นเล็กที่ตอบสนองเขาเหมือนเธอพึ่งเรียนรู้การจูบ กลิ่นน้ำมันหอมกำจายออกมาอบอวลล้อมรอบคนทั้งสองที่ตอนนี้ร่างกายผุดผ่องของบัวชมพูที่ยังอยู่ในชุดเจ้าสาวกำลังบดเบียดแนบชิดด้านบนของร่างสูงใหญ่เปลือยเปล่าผ้าขนหนูผืนเล็กหลุดไปจากกลางลำตัวของเขาและกองอยู่ด้านข้างเพราะคนตัวโตขยับสะโพกและลำตัวไปมาด้วยความรัญจวนที่กำลังถาโถม ความร้อนจากแรงเสียดสีทำให้กลิ่นน้ำมันหอมยิ่งฟุ้งกระจายขึ้นมาและมันช่วยกระตุ้นกำหนัดในส่วนลึกของทั้งเขาและเธอได้เป็นอย่างดี“ซีนิธ...ปล่อยบัวเถอะค่ะ” บัวชมพูครางเสียงหอบเมื่อเขาเลื่อนริมฝีปากออกและซุกไซ้ใบหน้าไปตามลำคอระหง“อื๊อ...ปล่อยบัวเถอ
“บัว...ผมเป็นคนแรกใช่มั้ย ที่เห็นมัน?” ชายหนุ่มตั้งคำถามขณะบีบคลึงเบา ๆ ที่ฐานเต้ากลม ไม่ใช่ว่าบัวชมพูไม่อยากตอบคำถามของเขา แต่เธอกำลังตื่นเต้นจนพูดอะไรแทบไม่ออกตอนนี้ “ค่ะ” เธอพยักหน้าน้อย ๆ “คุณเป็นคนแรกที่ได้เห็นค่ะ ซีนิธ” หญิงสาวตอบอย่างเอียงอาย ไม่เคยรู้สึกอะไรอย่างนี้มาก่อน ในท้องไส้ปั่นป่วน ความร้อนพุ่งขึ้นสูงและเหมือนจะพาลไม่สบาย เนื้อตัวของเธอกำลังเปิดเผยต่อเขาจนหมดไม่มีเหลือ“บัว...ขอผมดูชัด ๆ “ เขาร้องขอแต่มือหนากลับดึงแขนของเธอออกโดยไม่ฟังเสียงอนุญาตจากเจ้าของเสียก่อน ศาสตราตรึงข้อมือของหญิงสาวไว้ข้าง ๆ ลำตัว ประกายตาสีฟ้าแกมเขียวบนใบหน้าหล่อเหลาเป็นประกายระยิบระยับ เนื้อในของบัวชมพูงดงามเหมือนชื่อของเธอทรวงอกเต็มตึงที่ทั้งอวบใหญ่และหนั่นแน่นกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหายใจและจุดความร้อนรุ่มในกายหนุ่มจนไม่อาจเก็บกลั้น ศาสตราโน้มใบหน้าลงต่ำและกดริมฝีปากร้อนลงบนส่วนยอดสีสวยที่อ่อนไหวและทำให้ร่างสาวสะดุ้งเล็กน้อย“อุ๊ย! ซี๊ด...” เสียงครางที่หลุดออกมาจากปากจิ้มลิ้มเบามากจนเขาแทบไม่ได้ยินในตอนแรก แต่เมื่อพ่อเลี้ยงหนุ่มตวัดปลายลิ้นไปบนยอดอัญมณีสีสวยหญิงสาวก็สะ
“อืม...อืม” ศาสตราครางลึกอยู่ในลำคอ เขาพยายามสะกดกลั้นตัวเองอย่างถึงที่สุด อดไม่ได้ที่จะมองหน้าอกหน้าใจของบัวชมพูที่มันกำลังส่ายไปมาอยู่ต่อหน้าเขาตอนเธอออกแรงนวด ชายหนุ่มประสานมือไว้ใต้ท้ายทอยอีกครั้ง “บัว...คุณเคยนวดให้แขกที่เป็นผู้ชายบ้างไหม?” หญิงสาวเงียบไปชั่วอึดใจก่อนตอบ “ไม่ค่ะ...บัวไม่เคยนวดให้แขกที่เป็นผู้ชายนอกจากคุณพ่อ” “นั่นซี...ถึงว่า มือคุณเบามากเลยนะ” บัวชมพูไม่โต้ตอบอะไร ศาสตราจะรู้บ้างไหมว่าเธอแทบสะกดหัวใจตัวเองไม่อยู่เสียแล้ว เขาทำเหมือนกับจะยั่วเธอ ทำให้ความคิดของเธอเตลิดเปิดเปิงจนกู่ไม่กลับ หญิงสาวหยิบขวดน้ำมันเทใส่มือแล้วละเลงไปบนเนื้อตัวของเขาจนมันวาว มันมีกลิ่นดอกไม้ไทย ๆ หอมรัญจวนใจและกระตุ้นความรู้สึกของคนถูกนวด “บัว” เขาเรียกเธออีกแต่คราวนี้รบกวนสมาธิของเธอด้วยมือซุกซนที่ลูบน้ำมันบนตัวของเขาก่อนไล้มันไปมาบนยอดอกอวบอิ่มของหญิงสาว บีบคลึงและเคล้นเบา ๆ จนบัวชมพูแทบอ่อนระทวย “พ่อเลี้ยง...อูว...อืม” หญิงสาวครางขณะไล้ลิ้นไปบนริมฝีปากแห้งผากของตัวเอง เธอยังคงทำ
“อู...ซี๊ด...มันคับมาก...พีชชี่ ทั้งคับทั้งแน่น...อา...”พอได้ยินเช่นนั้นหญิงสาวจึงยกบั้นท้ายให้สูงขึ้นอีกขณะที่เธอจับเก้าอี้เอาไว้แน่น กัญชลิกาเอียงหน้ากลับมามองเขาชั่วแว่บและสังเกตเห็นว่าใบหน้าหล่อเหลาของแดนเซอร์หนุ่มกำลังบิดเบี้ยวเหยเกด้วความเสียวแทบจะเรียกได้ว่าสุดชีวิตของเขาเลยทีเดียว“ซี๊ด...อาร์เธอ...ฉันเริ่มเสียวนิด ๆ แล้วล่ะค่ะ...อูว...อา”ร่างกลมกลึงส่ายบั้นท้ายและโยกเข้าหาตัวเขา จากเบา ๆ ก็เริ่มหนักหน่วงโดยที่อาจารย์สอนรักของนักเรียนสาวยืนเกร็งตัวอยู่ด้านหลัง ร่างสูงใหญ่เริ่มกระเด้าความใหญ่โตของกล้วยหอมที่ทั้งแข็งและอลังการเข้าไปในซอกอันคับแคบตามจังหวะเสียงเพลงแร็พที่ยังดังคลอบทรักอันเร่าร้อนไม่หยุด“อา...ซี๊ด...โอววว...พระเจ้า..เสียวเหลือเกิน คุณทำได้ยังไง พีชชี่...ซี๊ด...อา...อา”อาร์เธอจับสะโพกหญิงสาวไว้แน่นและกระแทกท่อนเนื้อขนาดเขื่องเข้าไปในซอกระหว่างแก้มก้น จากความเจ็บปวดก็กลายเป็นความเสียวกระสันเกินพรรณนา ร่างทั้งสองต่างขย่มโยกไปตามเสียงเพลงและจังหวะคึกคักอาร์เธอจินตนาการว่าเขากำลังอยู่บ
แล้วร่างอรชรก็ค่อยเลื่อนบั้นท้ายลงจากเก้าอี้ เธอเปลี่ยนท่าเป็นหันหลังให้เขา ย้ายสะโพกไปตามเสียงเพลงพร้อม ๆ กับเขาและก้มลงบนเก้าอี้ที่เธอนั่งเมื่อครู่บั้นท้ายงอนงามและก้นกอยหนั่นแน่นโด่งขึ้นและดูเหมือนเจ้าตัวตั้งใจส่ายไปมาอย่างเย้ายั่ว กลีบสีแดงแยกออกเผยให้เห็นร่องสวาทจากทางด้านหลังเธอกำลังเชิญชวนเขา อาร์เธอคิดในใจ และเมื่อมาถึงตอนนี้อาจารย์หนุ่มสอนรักก็ไม่อาจหักห้ามความรู้สึกที่มันพลุ่งพล่านขึ้นมาได้อีกต่อไป เขายังเต้นไปตามจังหวะเสียงเพลงแต่ขยับเขข้าไปชิดบั้นท้ายงอนเด้งที่ส่ายไหวไปมาตรงหน้า“พีชชี่.”“อูววว...อาร์เธอ...ฉันอยากให้กล้วยหอมของคุณ...เข้ามาอยู่ในตัวฉัน”เธอบอกเขาเสียงสั่นขณะที่ชายหนุ่มถอนใจและกลืนน้ำลายลงคอเบา ๆ ในเมื่อมันมาถึงขนาดนี้แล้วเขาก็จำเป็นต้องสอนบทเรียนสุดท้ายให้ลูกศิษย์สาวแสนสวยอย่างไม่อาจเลี่ยง“พีชชี่...โอ...คุณสวยงามมาก”
ชายหนุ่มครวญครางจนหน้าแดง เขาไม่เคยรู้สึกซ่านเสียวมากขนาดนี้มาก่อน เขาเคยผ่านผู้หญิงมา แต่ไม่ใช่หลายคน ถึงเขาจะเป็นแดนเซอร์โชว์ความเซ็กซี่ แต่อาร์เธอก็ไม่ชอบการมีคู่นอนพร่ำเพรื่อ ชายหนุ่มยอมรับกับตัวเองอย่างหนึ่งว่าเขาสะดุดตากับใบหน้าสวยหวานของกัญชลิกาตั้งแต่แรกเห็น และการที่เขายอมรับข้อเสนอของเธอ มาเป็นครูสอนเรื่องรักให้ มันก็มาจากหัวใจของเขาที่เรียกร้อง ไม่ใช่เพียงเพราะค่าตอบแทนบทที่ 7&nb
“ผมรู้ว่าคุณทำได้ยอดเยี่ยม” เขาให้กำลังใจ ยิ้มทรงเสน่ห์ของเขากำลังละลายความรู้สึกของเธอ อาร์เธอละมือออกจากแท่งเนื้อกลางลำตัวของเขาและประสานมือทั้งสองไว้ที่ท้ายทอย เขายกสะโพกขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้กัญชลิกาได้มองเห็นความยาวและใหญ่นั่นชัดเจน ใช่...มันทั้งยาวและใหญ่เกินบรรยาย กัญชลิการู้สึกร้อนขึ้นมาที่ซอกขา มันทั้งอบอุ่นและชุมชื้นขึ้นมาอย่างน่าอับอาย แต่หญิงสาวก็ลองลูบไล้ความเป็นชายของเขาที่ผงาดสู้มือ ลูบขึ้นลงเพื่อสัมผัสความอุ่นร้อนจากเนื้อหนังที่เต็มไปด้วยเส้นเอ็นปูดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด มันกระตุกเป็นจังหวะในอุ้งมือเรียวบาง เหยียดขยายและพองตัวทุกครั้งเมื่อมือของเธอสัมผัส ส่วนปลายเรียบลื่นและเบ่งบานนั่นต่างหากที่กำ
เป็นคำพูดที่มาจากความรู้สึกจริง ๆ ของเขา แต่ทำให้หญิงสาวเขินจนหน้าแดงอีกครั้ง “แล้วถ้าคุณเห็นมันชัด ๆ คุณจะร้อนรึเปล่าคะ?” “ผมก็อยากรู้เหมือนกัน” “ถ้าอย่างนั้น...” หญิงสาวเว้นคำพูดไว้ก่อนละมือจากขอบบ๊อกเซอร์และเลื่อนไล้ไปที่ขอบคอเสื้อลูกไม้ซีทรูคว้านกว้าง มันเป็นผ้าสแปนเด็กซ์ที่ยืดหยุ่นมากพอที่หญิงสาวจะสามารถรั้งคอเสื้อลงไปใต้ฐานของทรวงสวยอวบใหญ่และแน่นตึง ปล่อยให้มันดีดเด้งออกมาอวดสายตาของอาร์เธอที่มองความอลังการบนเรือนร่างแสนสวยอย่างตกตะลึง “พระเจ้า...พีชชี่...มัน...ใหญ่มากจริง ๆ”
กล้ามเนื้อสีแทนของเขาดูแวววาวยามสะท้อนแสงไฟราวกับมันฉาบด้วยน้ำผึ้งที่หญิงสาวแอบกลืนน้ำลายเหมือนกับว่าเธอเริ่มกระหายหิว รูปร่างของอาร์เธอสมส่วนและสมบูรณ์แบบ นัยน์ตาทรงเสน่ห์สีน้ำตาลบรูเน็ตกำลังเชิญชวนหญิงสาวอย่างเปิดเผยกล้ามเนื้อทุกมัดของเขาเหมือนกำลังตื่นเต้น แต่สิ่งที่ทำให้กัญชลิการู้สึกเขินอายจนแก้มแดงเพราะเลือดสูบฉีดคือกล้ามเนื้อส่วนที่อยู่ตรงกลางร่างกายของเขาเธอไม่เคยเห็นผู้ชายในสภาพกึ่งเปลือยต่อหน้าเลยสักหน ไม่ใช่แค่มัดกล้ามเนื้อของเขาเท่านั้นที่เคร่งเครียด แต่บ๊อกเซอร์ของเขามีบางอย่างที่กำลังดันตัวขึ้นมาจนเป้าตุงเห็นเป็นรูปร่างชัดเจน และมันทำให้เธอคิดถึงกล้วยหอมที่เธอลิ้มเลียมันเมื่อครู่กัญชลิกาเลียปากของเธอที่เริ่มแห้งผาก เธออยากพิสูจน์ตัวเองไม่ใช่หรือว่าเธอก็ทำให้ผู้ชายร้อนได้เช่นกัน เมื่อคิดดังนั้นร่างเล็กในชุดกระโปรงผ้าลูกไม้ซีทรูสุดเซ็กซี่จึงโน้มลำตัวลงไปหาร่างสูงใหญ่ที่อยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน เริ่มต้นด้วยการจูบเขาก่อน บนริมฝีปากหนาได้รูปและบนคางสากระคายด้วยขนสั้น ๆ เรื
“คุณต้องเรียนรู้มัน...เรียนรู้วิธีการที่จะทำให้ผมรู้สึกร้อน เพราะเมื่อไหร่ที่ผมเริ่มจะร้อน นั่นก็คือคุณ...จะไม่ใช่เจ้าหญิงน้ำแข็งอย่างที่หมอบอก” เขาเลิกคิ้วน้อย ๆ และขยับเข้าใกล้ร่างเล็กซึ่งเธอยังกุมกล้วยหอมไว้ในมือ อาร์เธอใช้มืออีกข้างค่อย ๆ ปอกเปลือกกล้วยหอมสีเหลืองนวลขนาดเขื่องลงมาประมาณครึ่งผลก่อนจะสั่งเธอด้วยน้ำเสียงอันนุ่มนวล “ผมอยากให้คุณลอง...เอิ่ม...กินมันอย่างเซ็กซี่ ผมยังไม่สอนให้คุณเล่นกับตัวเอง แต่อยากให้คุณเรียนรู้วิธีการเล่นกับสิ่งที่อยู่รอบข้าง” “แบบนี้หรือคะ?” หญิงสาวถามเขาด้วยเสียงแหบเบาและโน้มใบหน้าสวยหวานลงไปหากล้วยหอมในมือของเธอที่อาร์เธอยังกอบกุมไว้ ดวงตาคู่งามยังจับจ้องอยู่ที่เขาแต่กลีบปากอิ่มสวยและชุมฉ่ำอ้าออก&n
“นะ...นั่งลงก่อนซี”“ข้าง ๆ คุณรึเปล่า?”เธอถามแล้วเขาพยักหน้า กัญชลิกาพาร่างอ้อนแอ้นเย้ายวนเข้ามาหย่อนตัวลงนั่งข้างเขา เธอก็รู้สึกประหม่าไม่แตกต่างจากชายหนุ่ม ก็แค่เริ่มบทเรียน รัก นี่นะ หญิงสาวคิดและหันมายิ้มอวดฟันเรียบขาวสะอาดกับเขา“คุณต้องไม่ยิ้มกว้างแบบนี้ พีชชี่”พอเขาสั่งหญิงสาวก็หุบปาก เธอนิ่วหน้าอย่างสงสัย“คุณต้องเซ็กซี่อย่างมาริลีน มอนโร...ใช่...เธอยิ้มแต่ไม่อวดฟันขาว เธอยื่นปากออกมานิด ๆ ไม่อ้ากว้าง ทำให้มันดูเย้ายวน”อาร์เธออธิบายต่อ และกัญชลิกาก็พยายามทำอย่างเขาว่า มันดูเหมือนบทเรียนแสนยากสำหรับเธอ ไม่เคยทำเซ็กซี่แบบนี้ต่อหน้าผู้ชายคนไหนมาก่อนในชีวิตปากอิ่มจิ้มลิ้มเคลือบกลอสสีแดงอมชมพูยื่นออกมาเล็กน้อย มันดูเซ็กซี่มากพอแล้วสำหรับชายหนุ่มที่นั่งข้าง ๆ และจ้องมองดูดวงหน้าสวยหวานซึ่งเขาคิดว่า กัญชลิกาเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยมากพอตัว“โอเค...ต่อไป...” เขาว่าพลางเอียงตัวเข้าหาหญิงสาว เธอทำปากให้เป็นปกติ แต่หน้าอกหน้าใจที่กำลังดันชุดลูกไม้อยู่ใกล้เขานี่ซี มัน
แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาของอาร์เธอมากกว่านั้นคือเนินอกแสนสวยที่อวบล้นออกมาจากคอเสื้อสายเดี่ยวคว้านกว้าง กัญชลิกาก็เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาแต่ทำไมเขาถึงได้รู้สึกรุ่มร้อนขึ้นมาเล็กน้อยยามเมื่อเธอย่างกรายเข้ามาใกล้หญิงสาวร่างเล็กบอบบางนั่งในท่าไขว่ห้าง เธอประสานมือไว้บนตักแสดงท่าทีเหมือนกำลังอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ในขณะที่อาร์เธอยังเยือกเย็นทั้งที่ข้างในของเขากำลังร้อนขึ้นมาทีละน้อย“เอ้อ...อาร์เธอคะ...คือ...ที่เราตกลงกันคืนนั้น”“ผมโอเคครับ พีชชี่”อาร์เธอแทรกขึ้น เขารู้สึกคอแห้งผากขึ้นมาในทันใดแต่แล้วรอยยิ้มจางทว่าทรงเสน่ห์ก็ผุดขึ้นที่มุมปากหยักได้รูปบนใบหน้าหล่อเหลา“ที่คุณบอกกับกับผมว่า จะว่าจ้างให้ผมมาสอนคุณเพื่อพิสูจน์ว่าคุณไม่ได้เป็นอย่างที่หมอวินิจฉัยว่า...”“ฉันตายด้าน” กัญชลิกาไหวไหล่เล็กน้อย “ฉันรู้ว่าคุณอาจจะรู้สึกแบบว่า...เอ้อ...ประดักประเดิด...แต่ฉันก็อยากพิสูจน์ตัวเองว่าฉันไม่ได้เป็นอย่างนั้น”กัญชลิกาอธิบายด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นคงนัก ใช่...เธอเข้าพบจิตแพทย์เมื่อไม่นานมานี้จ