“บัว...ผมเป็นคนแรกใช่มั้ย ที่เห็นมัน?” ชายหนุ่มตั้งคำถามขณะบีบคลึงเบา ๆ ที่ฐานเต้ากลม ไม่ใช่ว่าบัวชมพูไม่อยากตอบคำถามของเขา แต่เธอกำลังตื่นเต้นจนพูดอะไรแทบไม่ออกตอนนี้
“ค่ะ” เธอพยักหน้าน้อย ๆ “คุณเป็นคนแรกที่ได้เห็นค่ะ ซีนิธ”
หญิงสาวตอบอย่างเอียงอาย ไม่เคยรู้สึกอะไรอย่างนี้มาก่อน ในท้องไส้ปั่นป่วน ความร้อนพุ่งขึ้นสูงและเหมือนจะพาลไม่สบาย เนื้อตัวของเธอกำลังเปิดเผยต่อเขาจนหมดไม่มีเหลือ
“บัว...ขอผมดูชัด ๆ “ เขาร้องขอแต่มือหนากลับดึงแขนของเธอออกโดยไม่ฟังเสียงอนุญาตจากเจ้าของเสียก่อน ศาสตราตรึงข้อมือของหญิงสาวไว้ข้าง ๆ ลำตัว ประกายตาสีฟ้าแกมเขียวบนใบหน้าหล่อเหลาเป็นประกายระยิบระยับ เนื้อในของบัวชมพูงดงามเหมือนชื่อของเธอ
ทรวงอกเต็มตึงที่ทั้งอวบใหญ่และหนั่นแน่นกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหายใจและจุดความร้อนรุ่มในกายหนุ่มจนไม่อาจเก็บกลั้น ศาสตราโน้มใบหน้าลงต่ำและกดริมฝีปากร้อนลงบนส่วนยอดสีสวยที่อ่อนไหวและทำให้ร่างสาวสะดุ้งเล็กน้อย
“อุ๊ย! ซี๊ด...” เสียงครางที่หลุดออกมาจากปากจิ้มลิ้มเบามากจนเขาแทบไม่ได้ยินในตอนแรก แต่เมื่อพ่อเลี้ยงหนุ่มตวัดปลายลิ้นไปบนยอดอัญมณีสีสวยหญิงสาวก็สะดุ้งอีกครั้ง
“อา...ซี๊ด...ซีนิธ”
คราวนี้เสียงของบัวชมพูดังยิ่งกว่าเก่า หญิงสาวบิดตัวไปมาด้วยความรัญจวนเมื่อศาสตราหยอกเอินยอดอกของเธอด้วยการขบเม้มเบา ๆ สลับกับดูดแรง ๆ หลายครั้ง
“อู๊ว...อ๊า...ซีนิธ...บัว...อา...บัว...”
บัวชมพูหลับตาด้วยความเสียวซ่าน เธอได้ยินเสียงลิ้นและปากของเขาที่กำลังดูดชิมความหอมหวานอยู่บนเนื้อตัวของเธอ ศาสตรารุกเร้าและทำให้เธอซ่านเสียวเจียนคลั่ง นี่น่ะหรือคือสัมผัสระหว่างชายหญิงซึ่งในชีวิตของเธอไม่เคยยอมให้ใครได้สัมผัสเลยสักครั้ง
เนื้อตัวผุดผ่องของสาววัยยี่สิบเอ็ดเป็นสีชมพูเหมือนดอกไม้ที่กำลังเบ่งบานสะพรั่ง บัวชมพูไม่อาจสะกัดกั้นเสียงตัวเองแม้จะพยายามเก็บกลั้นด้วยการเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น
“อูว...ซีนิธขา...บัว...บัวไม่ไหวแล้วนะคะ”
บัวชมพูหอบหายใจแรง ศาสตราดูดกลืนยอดอกอกอิ่มทั้งสองสลับไปมาเหมือนเขากำลังกระหายและแทบไม่อยากเลื่อนใบหน้าออกจากดอกบัวตูมขนาดใหญ่ทั้งคู่
เขาดูดเม้มสลับกับถูไถคางสากระคายด้วยขนเคราเล็ก ๆ ที่พึ่งขึ้นมาหลังโกนใหม่ ๆ เสียดสีไปบนเนื้อนวลนุ่มที่กำลังแข็งเป็นไตเพราะถูกเร่งเร้ามากขึ้นเรื่อย ๆ
“อ๊า...ซีนิธ...พ่อเลี้ยงขา...อา...บัว...อูว”
บัวชมพูร้องครางขณะรู้สึกล่องลอยเหมือนอยู่บนปุยเมฆ แต่แล้วศาสตราก็ทำให้หญิงสาวประหลาดใจเมื่อเขาเลื่อนใบหน้าออก แววแห่งความเสียดายฉายชัดอยู่ในดวงตากลมโตของหญิงสาวกระทังเขากล่าวขึ้น
“บัว...คุณลืมอะไรไปหรือเปล่า?”
“คะ?”
“คุณยังนวดให้ผมไม่เสร็จเลยนะบัว”
บทที่ 5 ปรนเปรอเสน่หา
บัวชมพูกระพริบตาปริบ ๆ เธอมองเขาชั่วขณะแม้ไม่เข้าใจแต่ก็เห็นในแววตาของพ่อเลี้ยงหนุ่มยามนี้อาบไว้ด้วยความฉ่ำหวาน หญิงสาวขยับลุกขึ้นนั่ง เธอเอื้อมมือไปหยิบผ้าไหมข้างตัวแต่กลับถูกมือหนารั้งไว้
“นวดให้ผมทั้งอย่างนี้ล่ะ”
เขาสั่งและนั่นยิ่งทำให้เธอหน้าแดง หญิงสาวปล่อยผ้าในมือแต่โดยดีและขยับตัวให้อยู่ในท่าพร้อมทำตามคำบัญชาของพ่อเลี้ยงหนุ่มอีกครั้ง ส่วนเจ้าของร่างสูงนอนหงายแผ่ลำตัวกำยำใหญ่โตอยู่ต่อหน้าเธอ
เจ้าของวงหน้ารูปไข่แสนสวยอดที่จะมองความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อทุกมัดบนลำตัวของเขาไม่ได้ ศาสตราเป็นผู้ชายที่ตัวโตมาก แต่ทุกส่วนของเขากระชับ หนั่นแน่น ทั้งกล้ามบนแขนและหน้าอก หน้าท้องเป็นลอนไร้ไขมัน ไรขนสีทองแต่งแต้มบนอกเป็นแนวต่ำลงไปจรดใต้สะดือ
บัวชมพูรู้ว่าตอนนี้บนตัวของเขาไม่มีอะไรปกปิดและหญิงสาวก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองบางอย่างที่กำลังชูชันกลางลำตัวของเขา มือเรียวบางสั่นเล็กน้อยเมื่อทาบลงบนไหล่กว้างขณะเริ่มบีบคลึงปลายนิ้วไปบนร่างสูงใหญ่โดยที่ลำตัวช่วงบนของเธอเปล่าเปลือย
บัวชมพูซึ่งอยู่ในชุดผ้าสะใบเกาะอกนุ่งผ้าไหมลวดลายงดงามพรั่งพร้อมด้วยเครื่องประดับทองคำและไข่มุกที่มีทั้งสร้อยคอ แหวนและกำไลข้อมือต้องเดินตามเจ้าของร่างสูงใหญ่ซึ่งอยู่ในชุดพื้นเมืองผ้าไหมสีทองอร่าม ใบหน้าคร้ามเข้มนั้นหล่อเหลาตามแบบฉบับของลูกครึ่งไทยรัสเซียมือเรียวบางของเธอถูกผูกติดกับมือหนาใหญ่ของ ศาสตรา พ่อเลี้ยงหนุ่มแห่งปางไม้แม่เมยซึ่งบัดนี้อยู่ในฐานะเจ้าบ่าวที่ต้องปฏิบัติตามพิธีกรรมอย่างล้านนาของชาวเหนือ นั่นคือคู่แต่งงานต้องผูกข้อมือไว้ด้วยกันก่อนจะมีการส่งตัวเข้าเรือนหอโดยญาติผู้ใหญ่ทั้งบิดามารดาของฝ่ายหญิงและชายรวมทั้งคนเฒ่าคนแก่ที่มาร่วมจัดพิธี“ให้ผัวเป็นแก้ว เมียเป็นแสง บ่ดีหื้อเป็นผัวเผต เมียยักษ์ หื้อมีลูกเต็มบ้าน หลานเต็มเมือง หื้อฮักกั๋นแพงกั๋นอยู่ตราบเสี้ยงชีวิต ถ้าผัวเปนไฟ หื้อเมียเปนน้ำ หื้อพ่อชายเป็นหิง แม่ญิงเป็นข้อง”หลังจากเสียงการให้โอวาทในการครองเรือนสิ้นสุดลงหนุ่มสาวทั้งสองจึงเอนหลังลงไปพร้อมกันบนที่นอนซึ่งเป็นฟูกหนาคลุมด้วยผ้าปูรัดมุมตึงแน่น ด้านบนโรยด้วยกลีบดอกไม้ ฟูกหนาตั้งอยู่ชิดหน้าต่างบนพื้นของห้องนอนภายในเรือนไม้สักขนาดใหญ่ซึ่งถูกใช้เป็นห้องหอด้านน
ศาสตราตอบเสียงห้วนแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำขณะที่หญิงสาวมองตามพลางถอนหายใจ เธอรู้ว่าถึงยังไงก็ไม่มีทางแทนที่ บัวไพลิน พี่สาวของเธอที่เขารักได้เป็นแน่เธอก็เป็นแค่ตุ๊กตาตัวหนึ่งที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเต็มใจนำมาชักใยให้กระโดโลดเต้น พูดไปก็เหมือนหนังหน้าไฟ ต้องมาแบกรับปัญหาที่ตัวเองไม่ได้ก่อแถมยังถูกศาสตราแสดงท่าทีรังเกียจเข้าให้เสียอีกไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยรู้จักเขา ศาสตราเป็นลูกชายคนเดียวของเจ้าของปางไม้แม่เมย แม่ของเขาเป็นชาวรัสเซียและเขาก็พึ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้การแต่งงานระหว่างเขากับบัวไพลินก็เกิดขึ้นจากความเห็นชอบของผู้ใหญ่ บัวชมพูรู้ดีว่าพี่สาวของเธอไม่เต็มใจและแบ่งรับแบ่งสู้ทุกครั้งที่ศาสตราเดินทางไปหาที่บ้านแต่ในสายตาของบัวชมพู เขาเป็นผู้ชายที่ดูดีมากคนหนึ่ง แม้จะมีเชื้อสายของชาวต่างชาติแต่ศาสตราก็เป็นหนุ่มวัยยี่สิบแปดที่ดูดีมาก เขาสมบูรณ์แบบและเธอก็รู้สึกชื่นชมตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็นบทที่ 2 คืนเข้าหอสำหรับบัวชมพูแล้วจะเรียกสิ่งนั้นว่าความหวั่นไหวเลยก็ได้ ในวัยยี่สิบเอ็ดของหญิงสาวซึ่งเปิดธุรกิจทำสปาเล็ก ๆ เธอไม่เคยพบผู้ชายที่ทั้งหล่อเหลาและมีค
เขาเคยตั้งปณิธานว่าจะรักบัวไพลินคนเดียว แต่พอถูกหักหลังเขาก็ตั้งปณิธานใหม่ว่าจะไม่ให้อภัยใครก็ตามที่ใกล้ชิดผู้หญิงคนนั้น ซึ่งก็รวมทั้งบัวชมพู ที่เขาคิดว่าเธอเสแสร้งแกล้งทำดีเพื่อให้เขาลืมเรื่องอัปยศของพี่สาว กลิ่นน้ำมันหอมผสมกับการนวดจากปลายนิ้วไล่ขึ้นไปจนถึงไหล่กว้าง ลำคอและหลังของเขาทำให้ร่างสูงใหญ่รู้สึกผ่อนคลายลงอย่างมาก แต่น่าแปลกที่เขาไม่หลับเหมือนตอนให้หมอนวดแผนไทยนวดให้ที่ต่างประเทศ ดวงตาสีเขียวอมฟ้าคู่นั้นยังคงจับจ้องอยู่บนใบหน้าและท่าทางของหญิงสาวตลอดเวลา“พลิกตัวซีคะ” บัวชมพูสั่งเขาเบา ๆ และชายหนุ่มก็ทำตามด้วยการพลิกตัวนอนหงาย แต่เขาช่างไม่ระวังทำให้ปมของผ้าขนหนูผืนเล็กเจ้ากรรมที่ขมวดเอาไว้หลุดออกจากกันไปกองอยู่ข้างลำตัว“ซีนิธ...เอ้อ...เอ้อ” หญิงสาวหน้าแดงก่ำเมื่อเห็นความแข็งแกร่งที่กลางลำตัวของเขาตั้งลำขึ้นมา บัวชมพูลอบกลืนน้ำลายกับขนาดใหญ่โตของความเป็นชายซึ่งในชีวิตของเธอไม่เคยเห็นของใครชัด ๆ แบบนี้มาก่อน“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะบัว?” เขาถามแล้วเหยียดยิ้มพลางประสานมือทั้งสองไว้ที่ท้ายทอย “ไม่เคยเห็นอย่างนั้นหรือ?”“ค่ะ...บัวไม่เคยเห็น” รีบตอบแล้วรีบตวัดผ้าขนหนูขึ้นมาปิดเ
เนื้อสาวขาวผ่องสั่นระริก เธอไม่เคยสัมผัสประสบการณ์แบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต ยิ่งเขาจูบเธอก็ยิ่งอยากกอดอยากลูบไล้ไปบนไหล่กว้าง แต่หญิงสาวก็ทำได้แค่กดฝ่ามือไว้กับบ่าของเขาแน่น ภายในเหมือนมีกองไฟสุมอยู่ยังไงยังงั้นศาสตราก็กำลังเพลิดเพลินต่อรสสัมผัสทางปากแสนซาบซ่านซึ่งเขาไม่เคยได้รับมันจากบัวไพลิน พี่สาวของบัวชมพูยังไม่ยอมให้เขาสัมผัสหรือแตะต้องตัวเธอสักหน แม้แต่จูบสักครั้งก็ยังไม่เคย“อืม...อืม...” ร่างสูงครางลึกในลำคอ ลิ้นของเขากระหวัดเกี่ยวลิ้นเล็กที่ตอบสนองเขาเหมือนเธอพึ่งเรียนรู้การจูบ กลิ่นน้ำมันหอมกำจายออกมาอบอวลล้อมรอบคนทั้งสองที่ตอนนี้ร่างกายผุดผ่องของบัวชมพูที่ยังอยู่ในชุดเจ้าสาวกำลังบดเบียดแนบชิดด้านบนของร่างสูงใหญ่เปลือยเปล่าผ้าขนหนูผืนเล็กหลุดไปจากกลางลำตัวของเขาและกองอยู่ด้านข้างเพราะคนตัวโตขยับสะโพกและลำตัวไปมาด้วยความรัญจวนที่กำลังถาโถม ความร้อนจากแรงเสียดสีทำให้กลิ่นน้ำมันหอมยิ่งฟุ้งกระจายขึ้นมาและมันช่วยกระตุ้นกำหนัดในส่วนลึกของทั้งเขาและเธอได้เป็นอย่างดี“ซีนิธ...ปล่อยบัวเถอะค่ะ” บัวชมพูครางเสียงหอบเมื่อเขาเลื่อนริมฝีปากออกและซุกไซ้ใบหน้าไปตามลำคอระหง“อื๊อ...ปล่อยบัวเถอ
“บัว...ผมเป็นคนแรกใช่มั้ย ที่เห็นมัน?” ชายหนุ่มตั้งคำถามขณะบีบคลึงเบา ๆ ที่ฐานเต้ากลม ไม่ใช่ว่าบัวชมพูไม่อยากตอบคำถามของเขา แต่เธอกำลังตื่นเต้นจนพูดอะไรแทบไม่ออกตอนนี้ “ค่ะ” เธอพยักหน้าน้อย ๆ “คุณเป็นคนแรกที่ได้เห็นค่ะ ซีนิธ” หญิงสาวตอบอย่างเอียงอาย ไม่เคยรู้สึกอะไรอย่างนี้มาก่อน ในท้องไส้ปั่นป่วน ความร้อนพุ่งขึ้นสูงและเหมือนจะพาลไม่สบาย เนื้อตัวของเธอกำลังเปิดเผยต่อเขาจนหมดไม่มีเหลือ“บัว...ขอผมดูชัด ๆ “ เขาร้องขอแต่มือหนากลับดึงแขนของเธอออกโดยไม่ฟังเสียงอนุญาตจากเจ้าของเสียก่อน ศาสตราตรึงข้อมือของหญิงสาวไว้ข้าง ๆ ลำตัว ประกายตาสีฟ้าแกมเขียวบนใบหน้าหล่อเหลาเป็นประกายระยิบระยับ เนื้อในของบัวชมพูงดงามเหมือนชื่อของเธอทรวงอกเต็มตึงที่ทั้งอวบใหญ่และหนั่นแน่นกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหายใจและจุดความร้อนรุ่มในกายหนุ่มจนไม่อาจเก็บกลั้น ศาสตราโน้มใบหน้าลงต่ำและกดริมฝีปากร้อนลงบนส่วนยอดสีสวยที่อ่อนไหวและทำให้ร่างสาวสะดุ้งเล็กน้อย“อุ๊ย! ซี๊ด...” เสียงครางที่หลุดออกมาจากปากจิ้มลิ้มเบามากจนเขาแทบไม่ได้ยินในตอนแรก แต่เมื่อพ่อเลี้ยงหนุ่มตวัดปลายลิ้นไปบนยอดอัญมณีสีสวยหญิงสาวก็สะ
เนื้อสาวขาวผ่องสั่นระริก เธอไม่เคยสัมผัสประสบการณ์แบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต ยิ่งเขาจูบเธอก็ยิ่งอยากกอดอยากลูบไล้ไปบนไหล่กว้าง แต่หญิงสาวก็ทำได้แค่กดฝ่ามือไว้กับบ่าของเขาแน่น ภายในเหมือนมีกองไฟสุมอยู่ยังไงยังงั้นศาสตราก็กำลังเพลิดเพลินต่อรสสัมผัสทางปากแสนซาบซ่านซึ่งเขาไม่เคยได้รับมันจากบัวไพลิน พี่สาวของบัวชมพูยังไม่ยอมให้เขาสัมผัสหรือแตะต้องตัวเธอสักหน แม้แต่จูบสักครั้งก็ยังไม่เคย“อืม...อืม...” ร่างสูงครางลึกในลำคอ ลิ้นของเขากระหวัดเกี่ยวลิ้นเล็กที่ตอบสนองเขาเหมือนเธอพึ่งเรียนรู้การจูบ กลิ่นน้ำมันหอมกำจายออกมาอบอวลล้อมรอบคนทั้งสองที่ตอนนี้ร่างกายผุดผ่องของบัวชมพูที่ยังอยู่ในชุดเจ้าสาวกำลังบดเบียดแนบชิดด้านบนของร่างสูงใหญ่เปลือยเปล่าผ้าขนหนูผืนเล็กหลุดไปจากกลางลำตัวของเขาและกองอยู่ด้านข้างเพราะคนตัวโตขยับสะโพกและลำตัวไปมาด้วยความรัญจวนที่กำลังถาโถม ความร้อนจากแรงเสียดสีทำให้กลิ่นน้ำมันหอมยิ่งฟุ้งกระจายขึ้นมาและมันช่วยกระตุ้นกำหนัดในส่วนลึกของทั้งเขาและเธอได้เป็นอย่างดี“ซีนิธ...ปล่อยบัวเถอะค่ะ” บัวชมพูครางเสียงหอบเมื่อเขาเลื่อนริมฝีปากออกและซุกไซ้ใบหน้าไปตามลำคอระหง“อื๊อ...ปล่อยบัวเถอ
เขาเคยตั้งปณิธานว่าจะรักบัวไพลินคนเดียว แต่พอถูกหักหลังเขาก็ตั้งปณิธานใหม่ว่าจะไม่ให้อภัยใครก็ตามที่ใกล้ชิดผู้หญิงคนนั้น ซึ่งก็รวมทั้งบัวชมพู ที่เขาคิดว่าเธอเสแสร้งแกล้งทำดีเพื่อให้เขาลืมเรื่องอัปยศของพี่สาว กลิ่นน้ำมันหอมผสมกับการนวดจากปลายนิ้วไล่ขึ้นไปจนถึงไหล่กว้าง ลำคอและหลังของเขาทำให้ร่างสูงใหญ่รู้สึกผ่อนคลายลงอย่างมาก แต่น่าแปลกที่เขาไม่หลับเหมือนตอนให้หมอนวดแผนไทยนวดให้ที่ต่างประเทศ ดวงตาสีเขียวอมฟ้าคู่นั้นยังคงจับจ้องอยู่บนใบหน้าและท่าทางของหญิงสาวตลอดเวลา“พลิกตัวซีคะ” บัวชมพูสั่งเขาเบา ๆ และชายหนุ่มก็ทำตามด้วยการพลิกตัวนอนหงาย แต่เขาช่างไม่ระวังทำให้ปมของผ้าขนหนูผืนเล็กเจ้ากรรมที่ขมวดเอาไว้หลุดออกจากกันไปกองอยู่ข้างลำตัว“ซีนิธ...เอ้อ...เอ้อ” หญิงสาวหน้าแดงก่ำเมื่อเห็นความแข็งแกร่งที่กลางลำตัวของเขาตั้งลำขึ้นมา บัวชมพูลอบกลืนน้ำลายกับขนาดใหญ่โตของความเป็นชายซึ่งในชีวิตของเธอไม่เคยเห็นของใครชัด ๆ แบบนี้มาก่อน“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะบัว?” เขาถามแล้วเหยียดยิ้มพลางประสานมือทั้งสองไว้ที่ท้ายทอย “ไม่เคยเห็นอย่างนั้นหรือ?”“ค่ะ...บัวไม่เคยเห็น” รีบตอบแล้วรีบตวัดผ้าขนหนูขึ้นมาปิดเ
ศาสตราตอบเสียงห้วนแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำขณะที่หญิงสาวมองตามพลางถอนหายใจ เธอรู้ว่าถึงยังไงก็ไม่มีทางแทนที่ บัวไพลิน พี่สาวของเธอที่เขารักได้เป็นแน่เธอก็เป็นแค่ตุ๊กตาตัวหนึ่งที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเต็มใจนำมาชักใยให้กระโดโลดเต้น พูดไปก็เหมือนหนังหน้าไฟ ต้องมาแบกรับปัญหาที่ตัวเองไม่ได้ก่อแถมยังถูกศาสตราแสดงท่าทีรังเกียจเข้าให้เสียอีกไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยรู้จักเขา ศาสตราเป็นลูกชายคนเดียวของเจ้าของปางไม้แม่เมย แม่ของเขาเป็นชาวรัสเซียและเขาก็พึ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้การแต่งงานระหว่างเขากับบัวไพลินก็เกิดขึ้นจากความเห็นชอบของผู้ใหญ่ บัวชมพูรู้ดีว่าพี่สาวของเธอไม่เต็มใจและแบ่งรับแบ่งสู้ทุกครั้งที่ศาสตราเดินทางไปหาที่บ้านแต่ในสายตาของบัวชมพู เขาเป็นผู้ชายที่ดูดีมากคนหนึ่ง แม้จะมีเชื้อสายของชาวต่างชาติแต่ศาสตราก็เป็นหนุ่มวัยยี่สิบแปดที่ดูดีมาก เขาสมบูรณ์แบบและเธอก็รู้สึกชื่นชมตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็นบทที่ 2 คืนเข้าหอสำหรับบัวชมพูแล้วจะเรียกสิ่งนั้นว่าความหวั่นไหวเลยก็ได้ ในวัยยี่สิบเอ็ดของหญิงสาวซึ่งเปิดธุรกิจทำสปาเล็ก ๆ เธอไม่เคยพบผู้ชายที่ทั้งหล่อเหลาและมีค
บัวชมพูซึ่งอยู่ในชุดผ้าสะใบเกาะอกนุ่งผ้าไหมลวดลายงดงามพรั่งพร้อมด้วยเครื่องประดับทองคำและไข่มุกที่มีทั้งสร้อยคอ แหวนและกำไลข้อมือต้องเดินตามเจ้าของร่างสูงใหญ่ซึ่งอยู่ในชุดพื้นเมืองผ้าไหมสีทองอร่าม ใบหน้าคร้ามเข้มนั้นหล่อเหลาตามแบบฉบับของลูกครึ่งไทยรัสเซียมือเรียวบางของเธอถูกผูกติดกับมือหนาใหญ่ของ ศาสตรา พ่อเลี้ยงหนุ่มแห่งปางไม้แม่เมยซึ่งบัดนี้อยู่ในฐานะเจ้าบ่าวที่ต้องปฏิบัติตามพิธีกรรมอย่างล้านนาของชาวเหนือ นั่นคือคู่แต่งงานต้องผูกข้อมือไว้ด้วยกันก่อนจะมีการส่งตัวเข้าเรือนหอโดยญาติผู้ใหญ่ทั้งบิดามารดาของฝ่ายหญิงและชายรวมทั้งคนเฒ่าคนแก่ที่มาร่วมจัดพิธี“ให้ผัวเป็นแก้ว เมียเป็นแสง บ่ดีหื้อเป็นผัวเผต เมียยักษ์ หื้อมีลูกเต็มบ้าน หลานเต็มเมือง หื้อฮักกั๋นแพงกั๋นอยู่ตราบเสี้ยงชีวิต ถ้าผัวเปนไฟ หื้อเมียเปนน้ำ หื้อพ่อชายเป็นหิง แม่ญิงเป็นข้อง”หลังจากเสียงการให้โอวาทในการครองเรือนสิ้นสุดลงหนุ่มสาวทั้งสองจึงเอนหลังลงไปพร้อมกันบนที่นอนซึ่งเป็นฟูกหนาคลุมด้วยผ้าปูรัดมุมตึงแน่น ด้านบนโรยด้วยกลีบดอกไม้ ฟูกหนาตั้งอยู่ชิดหน้าต่างบนพื้นของห้องนอนภายในเรือนไม้สักขนาดใหญ่ซึ่งถูกใช้เป็นห้องหอด้านน