บัวชมพูซึ่งอยู่ในชุดผ้าสะใบเกาะอกนุ่งผ้าไหมลวดลายงดงามพรั่งพร้อมด้วยเครื่องประดับทองคำและไข่มุกที่มีทั้งสร้อยคอ แหวนและกำไลข้อมือต้องเดินตามเจ้าของร่างสูงใหญ่ซึ่งอยู่ในชุดพื้นเมืองผ้าไหมสีทองอร่าม ใบหน้าคร้ามเข้มนั้นหล่อเหลาตามแบบฉบับของลูกครึ่งไทยรัสเซีย
มือเรียวบางของเธอถูกผูกติดกับมือหนาใหญ่ของ ศาสตรา พ่อเลี้ยงหนุ่มแห่งปางไม้แม่เมยซึ่งบัดนี้อยู่ในฐานะเจ้าบ่าวที่ต้องปฏิบัติตามพิธีกรรมอย่างล้านนาของชาวเหนือ นั่นคือคู่แต่งงานต้องผูกข้อมือไว้ด้วยกันก่อนจะมีการส่งตัวเข้าเรือนหอโดยญาติผู้ใหญ่ทั้งบิดามารดาของฝ่ายหญิงและชายรวมทั้งคนเฒ่าคนแก่ที่มาร่วมจัดพิธี
“ให้ผัวเป็นแก้ว เมียเป็นแสง บ่ดีหื้อเป็นผัวเผต เมียยักษ์ หื้อมีลูกเต็มบ้าน หลานเต็มเมือง หื้อฮักกั๋นแพงกั๋นอยู่ตราบเสี้ยงชีวิต ถ้าผัวเปนไฟ หื้อเมียเปนน้ำ หื้อพ่อชายเป็นหิง แม่ญิงเป็นข้อง”
หลังจากเสียงการให้โอวาทในการครองเรือนสิ้นสุดลงหนุ่มสาวทั้งสองจึงเอนหลังลงไปพร้อมกันบนที่นอนซึ่งเป็นฟูกหนาคลุมด้วยผ้าปูรัดมุมตึงแน่น ด้านบนโรยด้วยกลีบดอกไม้ ฟูกหนาตั้งอยู่ชิดหน้าต่างบนพื้นของห้องนอนภายในเรือนไม้สักขนาดใหญ่ซึ่งถูกใช้เป็นห้องหอ
ด้านนอกเสียงบรรเลงดนตรีไทยยังขับกล่อมแขกเหรื่อที่มาร่วมเลี้ยงฉลองการจัดงานสมรสระหว่างลูกสาวนักธุรกิจชื่อดังและพ่อเลี้ยงเจ้าของปางไม้แม่เมย
เมื่อประตูห้องนอนปิดลงภายในนั้นจึงเหลือเพียงหนุ่มสาวที่นอนอยู่บนฟูกผืนเดียวกัน ข้อมือของเขาและเธอต่างถูกมัดไว้ด้วยด้ายที่ทำจากด้ายดิบหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าฝ้ายไหมมือ
ร่างเล็กบอบบางของหญิงสาวชาวไทยนอนตะแคงหันหน้าเข้าหาคนตัวใหญ่ซึ่งเป็นลูกครึ่งไทยรัสเซีย ดวงตาสีเขียวอมฟ้าแวววาวบนใบหน้าหล่อเหลากำลังจับจ้องมายังเจ้าสาวของเขา
“คุณจะออกไปจากห้องตอนนี้ก็ได้นะ บัวชมพู”
น้ำเสียงดุดันที่ดังขึ้นทำให้หญิงสาวมีอาการสะดุ้งเล็กน้อย แต่บัวชมพูก็ทำสีหน้าอย่างปกติทั้งที่ในใจเริ่มหวาดหวั่นต่อท่าทีของเจ้าบ่าวที่แสดงความไม่เป็นมิตรออกมา
แน่นอนว่าศาสตราไม่ได้มีความสุขกับการแต่งงานในครั้งนี้ เขาแสดงอาการเคร่งขรึมตลอดเวลาของงานพิธี และมีเพียงเขาและเธอกับญาติสนิทในครอบครัวเท่านั้นที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
นี่ไม่ใช่พิธีแต่งงานที่ถูกจัดขึ้นสำหรับเธอ แต่เป็นงานสมรสที่ต้องจัดขึ้นเพราะ บัวไพลิน พี่สาวของเธอและเป็นเจ้าสาวตัวจริงได้ก่อเหตุอัปยศให้แก่ครอบครัวด้วยการหนีตามผู้ชายอีกคนไปก่อนพิธีแต่งงานเพียงวันเดียว
บัวชมพูผู้มีใบหน้าละม้ายคล้ายกับบัวไพลินซึ่งมีอายุห่างกันแค่ปีเดียวถูกบิดามารดาขอร้องให้ต้องมาทำหน้าที่เจ้าสาวแก้ขัดไปก่อน เพราะพิธีสมรสระหว่างลูกสาวนักธุรกิจใหญ่ของเมืองลำปางและศาสตรา บุตรชายคนเดียวของเจ้าของปางไม้ชื่อดังถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และคงไม่อาจล้มเลิกงานครั้งนี้ได้เนื่องด้วยต้องรักษาชื่อเสียงของทั้งสองฝ่ายเอาไว้
เหนือสิ่งอื่นใดคือความอัปยศที่บัวไพลินก่อนั้นไม่อาจแพร่งพรายออกไปให้ใครได้รู้ บัวชมพูจึงจำต้องแบกรับหน้าที่ที่เธอก็ไม่ได้เต็มใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพื่อรักษาชื่อเสียงของครอบครัว
แต่ตอนนี้ปัญหาใหญ่ไม่ได้อยู่ที่หน้าที่ใหม่ในชีวิตนั่นคือการเป็นเจ้าสาวและเมียของพ่อเลี้ยงศาสตรา แต่กลับกลายเป็นว่าเธอต้องมานั่งเห็นหน้าบอกบุญไม่รับของเขาตลอดทั้งงาน
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” บัวชมพูตอบเขาด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก “ถ้าฉันออกไปตอนนี้อาจเกิดเสียงครหาว่าคุณเอาได้”
“ดูคุณกลัวเรื่องนี้เหลือเกินนะ เกียรติยศ ชื่อเสียง...ทำไมพี่สาวของคุณถึงไม่คิดแบบนี้บ้าง!”
“ซีนิธ” หญิงสาวครางชื่อที่เขาให้พี่สาวของเธอเรียกตลอดระยะเวลาที่คบหากัน
“ฉันอยากขอโทษสำหรับเรื่องทุกอย่างแทนพี่บีนะคะ”
“ไม่มีอะไรจะลบล้างความผิดของพี่สาวคุณครั้งนี้ได้หรอก! บีทำเหมือนกับเล่นขายของ หรือคุณไม่ได้คิดอย่างผม“
“นั่นคุณจะไปไหนคะ?”
บัวชมพูร้องถามเมื่อชายหนุ่มถอดด้ายที่มัดมือของเขาและเธอเอาไว้และขยับลุกจากฟูกหนา
“คุณไม่ต้องกลัวไปหรอกว่าผมจะออกจากห้องหอนี่ ผมจะไปอาบน้ำ ผมเหนื่อย อยากพักผ่อน”
ศาสตราตอบเสียงห้วนแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำขณะที่หญิงสาวมองตามพลางถอนหายใจ เธอรู้ว่าถึงยังไงก็ไม่มีทางแทนที่ บัวไพลิน พี่สาวของเธอที่เขารักได้เป็นแน่เธอก็เป็นแค่ตุ๊กตาตัวหนึ่งที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเต็มใจนำมาชักใยให้กระโดโลดเต้น พูดไปก็เหมือนหนังหน้าไฟ ต้องมาแบกรับปัญหาที่ตัวเองไม่ได้ก่อแถมยังถูกศาสตราแสดงท่าทีรังเกียจเข้าให้เสียอีกไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยรู้จักเขา ศาสตราเป็นลูกชายคนเดียวของเจ้าของปางไม้แม่เมย แม่ของเขาเป็นชาวรัสเซียและเขาก็พึ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้การแต่งงานระหว่างเขากับบัวไพลินก็เกิดขึ้นจากความเห็นชอบของผู้ใหญ่ บัวชมพูรู้ดีว่าพี่สาวของเธอไม่เต็มใจและแบ่งรับแบ่งสู้ทุกครั้งที่ศาสตราเดินทางไปหาที่บ้านแต่ในสายตาของบัวชมพู เขาเป็นผู้ชายที่ดูดีมากคนหนึ่ง แม้จะมีเชื้อสายของชาวต่างชาติแต่ศาสตราก็เป็นหนุ่มวัยยี่สิบแปดที่ดูดีมาก เขาสมบูรณ์แบบและเธอก็รู้สึกชื่นชมตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็นบทที่ 2 คืนเข้าหอสำหรับบัวชมพูแล้วจะเรียกสิ่งนั้นว่าความหวั่นไหวเลยก็ได้ ในวัยยี่สิบเอ็ดของหญิงสาวซึ่งเปิดธุรกิจทำสปาเล็ก ๆ เธอไม่เคยพบผู้ชายที่ทั้งหล่อเหลาและมีค
เขาเคยตั้งปณิธานว่าจะรักบัวไพลินคนเดียว แต่พอถูกหักหลังเขาก็ตั้งปณิธานใหม่ว่าจะไม่ให้อภัยใครก็ตามที่ใกล้ชิดผู้หญิงคนนั้น ซึ่งก็รวมทั้งบัวชมพู ที่เขาคิดว่าเธอเสแสร้งแกล้งทำดีเพื่อให้เขาลืมเรื่องอัปยศของพี่สาว กลิ่นน้ำมันหอมผสมกับการนวดจากปลายนิ้วไล่ขึ้นไปจนถึงไหล่กว้าง ลำคอและหลังของเขาทำให้ร่างสูงใหญ่รู้สึกผ่อนคลายลงอย่างมาก แต่น่าแปลกที่เขาไม่หลับเหมือนตอนให้หมอนวดแผนไทยนวดให้ที่ต่างประเทศ ดวงตาสีเขียวอมฟ้าคู่นั้นยังคงจับจ้องอยู่บนใบหน้าและท่าทางของหญิงสาวตลอดเวลา“พลิกตัวซีคะ” บัวชมพูสั่งเขาเบา ๆ และชายหนุ่มก็ทำตามด้วยการพลิกตัวนอนหงาย แต่เขาช่างไม่ระวังทำให้ปมของผ้าขนหนูผืนเล็กเจ้ากรรมที่ขมวดเอาไว้หลุดออกจากกันไปกองอยู่ข้างลำตัว“ซีนิธ...เอ้อ...เอ้อ” หญิงสาวหน้าแดงก่ำเมื่อเห็นความแข็งแกร่งที่กลางลำตัวของเขาตั้งลำขึ้นมา บัวชมพูลอบกลืนน้ำลายกับขนาดใหญ่โตของความเป็นชายซึ่งในชีวิตของเธอไม่เคยเห็นของใครชัด ๆ แบบนี้มาก่อน“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะบัว?” เขาถามแล้วเหยียดยิ้มพลางประสานมือทั้งสองไว้ที่ท้ายทอย “ไม่เคยเห็นอย่างนั้นหรือ?”“ค่ะ...บัวไม่เคยเห็น” รีบตอบแล้วรีบตวัดผ้าขนหนูขึ้นมาปิดเ
เนื้อสาวขาวผ่องสั่นระริก เธอไม่เคยสัมผัสประสบการณ์แบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต ยิ่งเขาจูบเธอก็ยิ่งอยากกอดอยากลูบไล้ไปบนไหล่กว้าง แต่หญิงสาวก็ทำได้แค่กดฝ่ามือไว้กับบ่าของเขาแน่น ภายในเหมือนมีกองไฟสุมอยู่ยังไงยังงั้นศาสตราก็กำลังเพลิดเพลินต่อรสสัมผัสทางปากแสนซาบซ่านซึ่งเขาไม่เคยได้รับมันจากบัวไพลิน พี่สาวของบัวชมพูยังไม่ยอมให้เขาสัมผัสหรือแตะต้องตัวเธอสักหน แม้แต่จูบสักครั้งก็ยังไม่เคย“อืม...อืม...” ร่างสูงครางลึกในลำคอ ลิ้นของเขากระหวัดเกี่ยวลิ้นเล็กที่ตอบสนองเขาเหมือนเธอพึ่งเรียนรู้การจูบ กลิ่นน้ำมันหอมกำจายออกมาอบอวลล้อมรอบคนทั้งสองที่ตอนนี้ร่างกายผุดผ่องของบัวชมพูที่ยังอยู่ในชุดเจ้าสาวกำลังบดเบียดแนบชิดด้านบนของร่างสูงใหญ่เปลือยเปล่าผ้าขนหนูผืนเล็กหลุดไปจากกลางลำตัวของเขาและกองอยู่ด้านข้างเพราะคนตัวโตขยับสะโพกและลำตัวไปมาด้วยความรัญจวนที่กำลังถาโถม ความร้อนจากแรงเสียดสีทำให้กลิ่นน้ำมันหอมยิ่งฟุ้งกระจายขึ้นมาและมันช่วยกระตุ้นกำหนัดในส่วนลึกของทั้งเขาและเธอได้เป็นอย่างดี“ซีนิธ...ปล่อยบัวเถอะค่ะ” บัวชมพูครางเสียงหอบเมื่อเขาเลื่อนริมฝีปากออกและซุกไซ้ใบหน้าไปตามลำคอระหง“อื๊อ...ปล่อยบัวเถอ
“บัว...ผมเป็นคนแรกใช่มั้ย ที่เห็นมัน?” ชายหนุ่มตั้งคำถามขณะบีบคลึงเบา ๆ ที่ฐานเต้ากลม ไม่ใช่ว่าบัวชมพูไม่อยากตอบคำถามของเขา แต่เธอกำลังตื่นเต้นจนพูดอะไรแทบไม่ออกตอนนี้ “ค่ะ” เธอพยักหน้าน้อย ๆ “คุณเป็นคนแรกที่ได้เห็นค่ะ ซีนิธ” หญิงสาวตอบอย่างเอียงอาย ไม่เคยรู้สึกอะไรอย่างนี้มาก่อน ในท้องไส้ปั่นป่วน ความร้อนพุ่งขึ้นสูงและเหมือนจะพาลไม่สบาย เนื้อตัวของเธอกำลังเปิดเผยต่อเขาจนหมดไม่มีเหลือ“บัว...ขอผมดูชัด ๆ “ เขาร้องขอแต่มือหนากลับดึงแขนของเธอออกโดยไม่ฟังเสียงอนุญาตจากเจ้าของเสียก่อน ศาสตราตรึงข้อมือของหญิงสาวไว้ข้าง ๆ ลำตัว ประกายตาสีฟ้าแกมเขียวบนใบหน้าหล่อเหลาเป็นประกายระยิบระยับ เนื้อในของบัวชมพูงดงามเหมือนชื่อของเธอทรวงอกเต็มตึงที่ทั้งอวบใหญ่และหนั่นแน่นกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหายใจและจุดความร้อนรุ่มในกายหนุ่มจนไม่อาจเก็บกลั้น ศาสตราโน้มใบหน้าลงต่ำและกดริมฝีปากร้อนลงบนส่วนยอดสีสวยที่อ่อนไหวและทำให้ร่างสาวสะดุ้งเล็กน้อย“อุ๊ย! ซี๊ด...” เสียงครางที่หลุดออกมาจากปากจิ้มลิ้มเบามากจนเขาแทบไม่ได้ยินในตอนแรก แต่เมื่อพ่อเลี้ยงหนุ่มตวัดปลายลิ้นไปบนยอดอัญมณีสีสวยหญิงสาวก็สะ
“อืม...อืม” ศาสตราครางลึกอยู่ในลำคอ เขาพยายามสะกดกลั้นตัวเองอย่างถึงที่สุด อดไม่ได้ที่จะมองหน้าอกหน้าใจของบัวชมพูที่มันกำลังส่ายไปมาอยู่ต่อหน้าเขาตอนเธอออกแรงนวด ชายหนุ่มประสานมือไว้ใต้ท้ายทอยอีกครั้ง “บัว...คุณเคยนวดให้แขกที่เป็นผู้ชายบ้างไหม?” หญิงสาวเงียบไปชั่วอึดใจก่อนตอบ “ไม่ค่ะ...บัวไม่เคยนวดให้แขกที่เป็นผู้ชายนอกจากคุณพ่อ” “นั่นซี...ถึงว่า มือคุณเบามากเลยนะ” บัวชมพูไม่โต้ตอบอะไร ศาสตราจะรู้บ้างไหมว่าเธอแทบสะกดหัวใจตัวเองไม่อยู่เสียแล้ว เขาทำเหมือนกับจะยั่วเธอ ทำให้ความคิดของเธอเตลิดเปิดเปิงจนกู่ไม่กลับ หญิงสาวหยิบขวดน้ำมันเทใส่มือแล้วละเลงไปบนเนื้อตัวของเขาจนมันวาว มันมีกลิ่นดอกไม้ไทย ๆ หอมรัญจวนใจและกระตุ้นความรู้สึกของคนถูกนวด “บัว” เขาเรียกเธออีกแต่คราวนี้รบกวนสมาธิของเธอด้วยมือซุกซนที่ลูบน้ำมันบนตัวของเขาก่อนไล้มันไปมาบนยอดอกอวบอิ่มของหญิงสาว บีบคลึงและเคล้นเบา ๆ จนบัวชมพูแทบอ่อนระทวย “พ่อเลี้ยง...อูว...อืม” หญิงสาวครางขณะไล้ลิ้นไปบนริมฝีปากแห้งผากของตัวเอง เธอยังคงทำ
บัวชมพูไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร เธอเรียนรู้แต่การนวดเส้นผ่อนคลายภายนอก แต่ไม่ใช่สำหรับพื้นที่พึงสงวนแบบนี้ แต่หญิงสาวก็เรียนรู้ที่จะลอง มือขาวผ่องเริ่มรูดเนื้อนุ่มที่ห่อหุ้มแท่งเนื้อแข็งขึงขึ้นลง แต่มันกลับยิ่งขยายใหญ่และสิ่งที่ทำให้เธอตกใจเล็ก ๆ คือเสียงครางของเขา“ซี๊ด...อูว...บัว...แรงอีกนิด...อย่างนั้นล่ะ...อืม”มือบางเพิ่มจังหวะรูดขึ้นลงถี่เร็ว มันดูไม่เหมือนการนวดสักเท่าไหร่แต่เธอก็ตื่นเต้นและรวดร้าวที่แก่นกายเมื่อศาสตราเริ่มยกสะโพกขึ้นสูง ความเป็นชายของเขาขยายใหญ่และความยาวที่น่าครั่นคร้ามนั้นเต้นเป็นจังหวะอยู่ในมือของหญิงสาว เมื่อบัวชมพูเพิ่มจังหวะความแรงศาสตราก็ยิ่งส่ายสะโพกร่อนไปมาและใบหน้าหล่อเหลาบิดเบี้ยวเหมือนเจ็บปวด“โอว...อา...ซี๊ด...ใช่...แบบนั้นล่ะ..ซี๊ด”ไม่เพียงเธอจะสัมผัสความขึงขังของศาสตราเท่านั้น แต่มือเรียวบางยังอาบเอิบไปด้วยคราบน้ำมันหอมที่ทำให้แท่งทองของพ่อเลี้ยงหนุ่มเป็นมันมะเมื่อมหยาดเล็ก ๆ จากความเสียวกระสันที่หลั่งล้นออกมาจากส่วนปลายแดงก่ำอาบปลายนิ้วของเธอ บัวชมพูเม้มริมฝีปากแน่น ทำไมเธอถึงอยา
สิ่งแรกที่ชายหนุ่มสัมผัสได้คือติ่งเนื้อนุ่ม ๆ ที่ตอดขึ้นมาเป็นจังหวะ มันกำลังสั่นระริกเหมือนรอคอยมาแสนนาน ศาสตราคลึงด้วยปลายนิ้วเบา ๆ บัวชมพูถึงกับบิดเร่าด้วยความสยิวซ่าน“อู๊ย...ซีนิธ...อ๊า...ซี๊ด”หญิงสาวบิดไหล่ไปมา ศาสตรารู้ในทันทีว่านี่คือส่วนที่อ่อนไหวที่สุดของบัวชมพู เธอเหมือนดอกบัวสยายกลีบแรกแย้ม เขาหนักมือขึ้นอีก บดคลึงหนักขึ้นก่อนจะเลื่อนปลายนิ้วลงไปหยุดที่ปากร่องลึก สัมผัสเนื้อหนึบแน่นและลองแหย่นิ้วเข้าไป“อา...บัว” ศาสตราถึงกับครางเมื่อร่องสวาทตอดรัดนิ้วเขาเบา ๆ นี่ยังไม่ทันได้หยั่งนิ้วเข้าไปลึกมันยังตอดรัดเขาขนาดนี้ แล้วถ้าเขาจะลองสอดนิ้วเข้าไปแบบเต็มที่ล่ะ“ซีนิธ...ได้โปรด...อย่าทรมานบัวอีกเลยนะคะ”“ร้องขอผมสิบัว...อา...คุณอยากจะร้องขอให้ผมทำอะไร”บัวชมพูแยกเรียวขากว้างอีกและทาบมือเรียวบางลงบนมือหนาที่นิ้วของเขาเขี่ยเบา ๆ ไปรอบแคมสีแดงก่ำ“ช่วยด้วยค่ะ...ช่วยบัวด้วยค่ะ”“แบบไหน...?”“แบบนี้ค่ะ...อ๊า”
หญิงสาวจับเข่าของตัวเองเอาไว้ ขาเรียวทั้งสองอ้ากว้าง ปล่อยให้เขากระแทกความใหญ่โตเข้าไปครั้งแล้วครั้งเล่า ยิ่งเขากระเด้าช่วงกลางลำตัวรัวเร็วเธอก็รู้สึกเหมือนกำลังจะแตะขอบสวรรค์ แต่ก็ยังไม่ถึงสักที เธอยังไม่ต้องการเห็นสวนอีเดนในตอนนี้ น่าแปลกที่ถึงมันจะเจ็บแสบแต่ความเสียวลึกก็ทำให้หญิงสาวอยากอยู่แบบนี้นาน ๆอยู่บนตัวเขา ให้เขากระแทกความเป็นชายเข้าออกหลาย ๆ ครั้ง ทำให้ร่องสวรรค์ของเธอชุ่มฉ่ำ ทำให้เธอครวญครางกับความรู้สึกที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชีวิตความสาวเจ้าสาวคนใหม่เริ่มเรียนรู้มากขึ้นเรื่อย ๆ เธอหัดขยับสะโพกขึ้นลงด้วยตัวเอง ศาสตราจึงปล่อยมือจากเอวอ้อนแอ้นแล้วเปลี่ยนไปค้ำยันไว้เบื้องหลัง ปล่อยให้เจ้าสาวของเขาส่ายสะโพกและกระแทกตัวเธอขึ้นลงอยู่บนตัวเขา ปล่อยให้ความเป็นสาวตอดรัดแท่งเนื้ออันอลังการนั้นในทุกอณู“โอว...ซี๊ด...โอว...บัว...บัวจ๋า...อา...ซี๊ด...อา”ศาสตราครางหอบ ดวงตาคู่นั้นจับจ้องไปบนแผ่นหลังเนียนขาว เอวคอด บั้นท้ายกลมกลึง และเขาเห็นท่อนเนื้อปูดโปนด้วยเส้นเอ็นของตัวเองที่กำลังตั้งลำเต็มที่ผลุบหายเข้าไปในกลีบสีชมพูเข้มที่เจ้าของขยับขึ้
แล้วร่างอรชรก็ค่อยเลื่อนบั้นท้ายลงจากเก้าอี้ เธอเปลี่ยนท่าเป็นหันหลังให้เขา ย้ายสะโพกไปตามเสียงเพลงพร้อม ๆ กับเขาและก้มลงบนเก้าอี้ที่เธอนั่งเมื่อครู่บั้นท้ายงอนงามและก้นกอยหนั่นแน่นโด่งขึ้นและดูเหมือนเจ้าตัวตั้งใจส่ายไปมาอย่างเย้ายั่ว กลีบสีแดงแยกออกเผยให้เห็นร่องสวาทจากทางด้านหลังเธอกำลังเชิญชวนเขา อาร์เธอคิดในใจ และเมื่อมาถึงตอนนี้อาจารย์หนุ่มสอนรักก็ไม่อาจหักห้ามความรู้สึกที่มันพลุ่งพล่านขึ้นมาได้อีกต่อไป เขายังเต้นไปตามจังหวะเสียงเพลงแต่ขยับเขข้าไปชิดบั้นท้ายงอนเด้งที่ส่ายไหวไปมาตรงหน้า“พีชชี่.”“อูววว...อาร์เธอ...ฉันอยากให้กล้วยหอมของคุณ...เข้ามาอยู่ในตัวฉัน”เธอบอกเขาเสียงสั่นขณะที่ชายหนุ่มถอนใจและกลืนน้ำลายลงคอเบา ๆ ในเมื่อมันมาถึงขนาดนี้แล้วเขาก็จำเป็นต้องสอนบทเรียนสุดท้ายให้ลูกศิษย์สาวแสนสวยอย่างไม่อาจเลี่ยง“พีชชี่...โอ...คุณสวยงามมาก”
ชายหนุ่มครวญครางจนหน้าแดง เขาไม่เคยรู้สึกซ่านเสียวมากขนาดนี้มาก่อน เขาเคยผ่านผู้หญิงมา แต่ไม่ใช่หลายคน ถึงเขาจะเป็นแดนเซอร์โชว์ความเซ็กซี่ แต่อาร์เธอก็ไม่ชอบการมีคู่นอนพร่ำเพรื่อ ชายหนุ่มยอมรับกับตัวเองอย่างหนึ่งว่าเขาสะดุดตากับใบหน้าสวยหวานของกัญชลิกาตั้งแต่แรกเห็น และการที่เขายอมรับข้อเสนอของเธอ มาเป็นครูสอนเรื่องรักให้ มันก็มาจากหัวใจของเขาที่เรียกร้อง ไม่ใช่เพียงเพราะค่าตอบแทนบทที่ 7&nb
“ผมรู้ว่าคุณทำได้ยอดเยี่ยม” เขาให้กำลังใจ ยิ้มทรงเสน่ห์ของเขากำลังละลายความรู้สึกของเธอ อาร์เธอละมือออกจากแท่งเนื้อกลางลำตัวของเขาและประสานมือทั้งสองไว้ที่ท้ายทอย เขายกสะโพกขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้กัญชลิกาได้มองเห็นความยาวและใหญ่นั่นชัดเจน ใช่...มันทั้งยาวและใหญ่เกินบรรยาย กัญชลิการู้สึกร้อนขึ้นมาที่ซอกขา มันทั้งอบอุ่นและชุมชื้นขึ้นมาอย่างน่าอับอาย แต่หญิงสาวก็ลองลูบไล้ความเป็นชายของเขาที่ผงาดสู้มือ ลูบขึ้นลงเพื่อสัมผัสความอุ่นร้อนจากเนื้อหนังที่เต็มไปด้วยเส้นเอ็นปูดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด มันกระตุกเป็นจังหวะในอุ้งมือเรียวบาง เหยียดขยายและพองตัวทุกครั้งเมื่อมือของเธอสัมผัส ส่วนปลายเรียบลื่นและเบ่งบานนั่นต่างหากที่กำ
เป็นคำพูดที่มาจากความรู้สึกจริง ๆ ของเขา แต่ทำให้หญิงสาวเขินจนหน้าแดงอีกครั้ง “แล้วถ้าคุณเห็นมันชัด ๆ คุณจะร้อนรึเปล่าคะ?” “ผมก็อยากรู้เหมือนกัน” “ถ้าอย่างนั้น...” หญิงสาวเว้นคำพูดไว้ก่อนละมือจากขอบบ๊อกเซอร์และเลื่อนไล้ไปที่ขอบคอเสื้อลูกไม้ซีทรูคว้านกว้าง มันเป็นผ้าสแปนเด็กซ์ที่ยืดหยุ่นมากพอที่หญิงสาวจะสามารถรั้งคอเสื้อลงไปใต้ฐานของทรวงสวยอวบใหญ่และแน่นตึง ปล่อยให้มันดีดเด้งออกมาอวดสายตาของอาร์เธอที่มองความอลังการบนเรือนร่างแสนสวยอย่างตกตะลึง “พระเจ้า...พีชชี่...มัน...ใหญ่มากจริง ๆ”
กล้ามเนื้อสีแทนของเขาดูแวววาวยามสะท้อนแสงไฟราวกับมันฉาบด้วยน้ำผึ้งที่หญิงสาวแอบกลืนน้ำลายเหมือนกับว่าเธอเริ่มกระหายหิว รูปร่างของอาร์เธอสมส่วนและสมบูรณ์แบบ นัยน์ตาทรงเสน่ห์สีน้ำตาลบรูเน็ตกำลังเชิญชวนหญิงสาวอย่างเปิดเผยกล้ามเนื้อทุกมัดของเขาเหมือนกำลังตื่นเต้น แต่สิ่งที่ทำให้กัญชลิการู้สึกเขินอายจนแก้มแดงเพราะเลือดสูบฉีดคือกล้ามเนื้อส่วนที่อยู่ตรงกลางร่างกายของเขาเธอไม่เคยเห็นผู้ชายในสภาพกึ่งเปลือยต่อหน้าเลยสักหน ไม่ใช่แค่มัดกล้ามเนื้อของเขาเท่านั้นที่เคร่งเครียด แต่บ๊อกเซอร์ของเขามีบางอย่างที่กำลังดันตัวขึ้นมาจนเป้าตุงเห็นเป็นรูปร่างชัดเจน และมันทำให้เธอคิดถึงกล้วยหอมที่เธอลิ้มเลียมันเมื่อครู่กัญชลิกาเลียปากของเธอที่เริ่มแห้งผาก เธออยากพิสูจน์ตัวเองไม่ใช่หรือว่าเธอก็ทำให้ผู้ชายร้อนได้เช่นกัน เมื่อคิดดังนั้นร่างเล็กในชุดกระโปรงผ้าลูกไม้ซีทรูสุดเซ็กซี่จึงโน้มลำตัวลงไปหาร่างสูงใหญ่ที่อยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน เริ่มต้นด้วยการจูบเขาก่อน บนริมฝีปากหนาได้รูปและบนคางสากระคายด้วยขนสั้น ๆ เรื
“คุณต้องเรียนรู้มัน...เรียนรู้วิธีการที่จะทำให้ผมรู้สึกร้อน เพราะเมื่อไหร่ที่ผมเริ่มจะร้อน นั่นก็คือคุณ...จะไม่ใช่เจ้าหญิงน้ำแข็งอย่างที่หมอบอก” เขาเลิกคิ้วน้อย ๆ และขยับเข้าใกล้ร่างเล็กซึ่งเธอยังกุมกล้วยหอมไว้ในมือ อาร์เธอใช้มืออีกข้างค่อย ๆ ปอกเปลือกกล้วยหอมสีเหลืองนวลขนาดเขื่องลงมาประมาณครึ่งผลก่อนจะสั่งเธอด้วยน้ำเสียงอันนุ่มนวล “ผมอยากให้คุณลอง...เอิ่ม...กินมันอย่างเซ็กซี่ ผมยังไม่สอนให้คุณเล่นกับตัวเอง แต่อยากให้คุณเรียนรู้วิธีการเล่นกับสิ่งที่อยู่รอบข้าง” “แบบนี้หรือคะ?” หญิงสาวถามเขาด้วยเสียงแหบเบาและโน้มใบหน้าสวยหวานลงไปหากล้วยหอมในมือของเธอที่อาร์เธอยังกอบกุมไว้ ดวงตาคู่งามยังจับจ้องอยู่ที่เขาแต่กลีบปากอิ่มสวยและชุมฉ่ำอ้าออก&n
“นะ...นั่งลงก่อนซี”“ข้าง ๆ คุณรึเปล่า?”เธอถามแล้วเขาพยักหน้า กัญชลิกาพาร่างอ้อนแอ้นเย้ายวนเข้ามาหย่อนตัวลงนั่งข้างเขา เธอก็รู้สึกประหม่าไม่แตกต่างจากชายหนุ่ม ก็แค่เริ่มบทเรียน รัก นี่นะ หญิงสาวคิดและหันมายิ้มอวดฟันเรียบขาวสะอาดกับเขา“คุณต้องไม่ยิ้มกว้างแบบนี้ พีชชี่”พอเขาสั่งหญิงสาวก็หุบปาก เธอนิ่วหน้าอย่างสงสัย“คุณต้องเซ็กซี่อย่างมาริลีน มอนโร...ใช่...เธอยิ้มแต่ไม่อวดฟันขาว เธอยื่นปากออกมานิด ๆ ไม่อ้ากว้าง ทำให้มันดูเย้ายวน”อาร์เธออธิบายต่อ และกัญชลิกาก็พยายามทำอย่างเขาว่า มันดูเหมือนบทเรียนแสนยากสำหรับเธอ ไม่เคยทำเซ็กซี่แบบนี้ต่อหน้าผู้ชายคนไหนมาก่อนในชีวิตปากอิ่มจิ้มลิ้มเคลือบกลอสสีแดงอมชมพูยื่นออกมาเล็กน้อย มันดูเซ็กซี่มากพอแล้วสำหรับชายหนุ่มที่นั่งข้าง ๆ และจ้องมองดูดวงหน้าสวยหวานซึ่งเขาคิดว่า กัญชลิกาเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยมากพอตัว“โอเค...ต่อไป...” เขาว่าพลางเอียงตัวเข้าหาหญิงสาว เธอทำปากให้เป็นปกติ แต่หน้าอกหน้าใจที่กำลังดันชุดลูกไม้อยู่ใกล้เขานี่ซี มัน
แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาของอาร์เธอมากกว่านั้นคือเนินอกแสนสวยที่อวบล้นออกมาจากคอเสื้อสายเดี่ยวคว้านกว้าง กัญชลิกาก็เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาแต่ทำไมเขาถึงได้รู้สึกรุ่มร้อนขึ้นมาเล็กน้อยยามเมื่อเธอย่างกรายเข้ามาใกล้หญิงสาวร่างเล็กบอบบางนั่งในท่าไขว่ห้าง เธอประสานมือไว้บนตักแสดงท่าทีเหมือนกำลังอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ในขณะที่อาร์เธอยังเยือกเย็นทั้งที่ข้างในของเขากำลังร้อนขึ้นมาทีละน้อย“เอ้อ...อาร์เธอคะ...คือ...ที่เราตกลงกันคืนนั้น”“ผมโอเคครับ พีชชี่”อาร์เธอแทรกขึ้น เขารู้สึกคอแห้งผากขึ้นมาในทันใดแต่แล้วรอยยิ้มจางทว่าทรงเสน่ห์ก็ผุดขึ้นที่มุมปากหยักได้รูปบนใบหน้าหล่อเหลา“ที่คุณบอกกับกับผมว่า จะว่าจ้างให้ผมมาสอนคุณเพื่อพิสูจน์ว่าคุณไม่ได้เป็นอย่างที่หมอวินิจฉัยว่า...”“ฉันตายด้าน” กัญชลิกาไหวไหล่เล็กน้อย “ฉันรู้ว่าคุณอาจจะรู้สึกแบบว่า...เอ้อ...ประดักประเดิด...แต่ฉันก็อยากพิสูจน์ตัวเองว่าฉันไม่ได้เป็นอย่างนั้น”กัญชลิกาอธิบายด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นคงนัก ใช่...เธอเข้าพบจิตแพทย์เมื่อไม่นานมานี้จ
กรัชเพชรนามปากกาสำหรับนิยายอีโรติกเร่าร้อนและเพื่อผู้เปี่ยมความรักในหัวใจค่ะสอนรักให้เธอร้อนอาเธอร์ – กัญชลิกาหมอบอกว่าเธอตายด้าน!กัญชลิกา เลยต้องจ้าง อาร์เธอนักเต้นหนุ่มกล้ามล่ำและร้อนแรงที่สุดบนเวทีให้มาช่วยสอนกลเม็ดเด็ดพรายเรื่องรักและพิสูจน์ว่าเธอ ก็ ร้อน ไม่น้อยหน้าผู้หญิงคนไหน ๆ ในโลกเช่นกัน“อู๊ว...อ๊า...ซี๊ด...อา...อาร์เธอ...อา...อา”&nb