แสงจันทร์นวลสลัวส่องผ่านหน้าต่างกระจกบานสูงใหญ่ ตกกระทบลงบนแก้มแดงซ่าน ในภาพพร่าเลือนเมื่อไร้แว่นกรอบหนา คงไม่มีอะไรชัดเจนสักอย่างนอกเสียจากความโกรธงอนบนวงหน้าหวานงาม
ป้องเกียรติสติขาดผึง! ตั้งแต่เธอดึงเขาเข้าไปตะบมจูบอย่างดูดดื่มแล้ว ทว่าในวงแขนเล็กอันทรงพลัง คนไร้เหตุผลอย่างเขายอมหยุดและฟัง...
“พี่ป้องขา...”
“ครับเนย...”
เธอเรียกเขาก็มักจะตอบอย่างรวดเร็วเสมอ ท่ามกลางเสียงคลื่นลมซัดเข้าหาฝั่ง กลิ่นอายของท้องทะเลและบรรยากาศเป็นใจ คนเล็กตัวประทับริมฝีปากบางบนกรามแกร่งอย่างแสนรัก เอ่ยน้ำเสียงอ้อนหวาน
“เนยไม่ได้อยากเป็นคุณนาย เนยแค่อยากตื่นเช้ามาอบเค้กทุกวัน มีชีวิตแสนเรียบง่ายกับรอยยิ้มของลูกค้าที่บอกว่าเค้กอร่อย กับอาจารย์ป้อง... อืม... ตอนนี้เนยมีความสุขจัง ตอนพี่ป้องไม่งอแงกับเนยเนี่ย”
“พี่อยู่คนเดียวมาตลอด... พี่เบื่อ... พี่กลัวเนยกลับไปหาเขาแค่ไหนเนยไม่รู้...”
“เนยก็เบื่อค่ะ เบื่อเวลาพี่ป้องพูดไม่รู้เรื่อง น้อยใจอะไรนักหนา เนยมีแต่พี่นะ”
“ไม่ได้น้อยใจ”
“น้อยใจอยู่นี่ไงคะ หัวก็ยังไม่ล้านประหลาดคน เรื่องอนาคตมันยังไม่เกิด คิดไปปวดหัวเปล่าค่ะ”
ข้อเท็จจริงนั้นอีกคนคงไม่เห็นด้วยเพราะเขายังไม่พอใจปัถฐกร
ทว่าพอแววตาคู่สวยแปรเปลี่ยนไปเพราะอารมณ์รุ่นร้อนปรารถนา ร่างหนาขยับกายเข้าแทรกกลางเรียวขาขาว กระชับมือเรียวไว้ในพันธนาการ สอดประสานหว่างกลางนิ้วเข้าด้วยกันแนบแน่นบนที่นอน
เขารู้... ว่าเธอต้องการ
“พี่ป้อง... ทำให้เนยหน่อยนะคะ”
“อ้อ... มาทำอ้อนเพราะอยากได้พี่นี่เอง หงี่ล่ะสิแม่สาวน้อยร้อยเล่มเกวียน” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดบนใบหน้าหล่อเหลาที่โน้มลงกระซิบข้างหูทีละคำ
“อยากได้พี่จัดให้ครับ...”
พูดจบ วงหน้าหล่อเหลาโน้มลงสูบลมหายใจคนตัวเล็กออกมาอีกครั้งด้วยจุมพิตหื่นกระหาย กระหวัดเกี่ยวปลายลิ้นน้อยไม่ประสีประสาไปตามจังหวะของอารมณ์ที่หนักหน่วง ทว่ายังเฝ้าพะเน้าพะนอเธอด้วยความรู้สึกแสนหวงแหน ประคองเอวบางไว้ในอ้อมแขนแนบชิดสนิทกัน
มือหนาปัดป่ายผ่านหน้าท้องแบนราบถึงเนินอวบสวย กระทั่งถึงปลายยอดปทุมถันสีหวานซึ่งเขาเริ่มงานเล็ก ๆ ตรงนั้น สะกิดปั่นหมุนมันเป็นวงกลมด้วยปลายนิ้วเรียวยาวจนร่างบางไหวสะท้าน ก่อนจะผละริมฝีปากออก สลัดเสื้อเกะกะออกจากเรือนกาย แม้แต่ของเรือนร่างงามหมดจดที่ตกอยู่ใต้มนต์เสน่ห์ เสื้อลายหมีตัวหลวมโคร่งถูกโยนลงพื้นอย่างไม่แยแส
“อื้มม...” เสียงหวานครางอู้อี้ในลำคอแห้งผาก เพียงถูกประกบปิดเรียวปากอิ่มงามอีกคราด้วยจุมพิตหวาน เณศราพอจะรู้ว่าตัวเธอต้องการอะไรแน่ เพราะผ่านประสบการณ์วาบหวามด้วยฝีมืออาจารย์หนุ่มมาไม่น้อย
น่าแปลก! เธอคิดว่าตัวเองไม่พร้อมแต่กลับไม่ขัดขืนสักนิด ยอมให้เขาจับจูบลูบคลำ เขาจูบเธอมาแค่ไหนก็จูบกลับในแบบเดียวกัน ชื่นชมกันและกันด้วยใจปรารถนา ตราบจนกระทั่งสั่นสะท้านไปทั่วสรรพางค์กาย เขาพิงหน้าผากไว้กับหน้าผากของเธอ ส่งแววตาเร่าร้อนถึงเพียงนั้น
“เนย... มันตื่น ปวดด้วย ไม่ไหวแล้วครับ...”
“เนยก็รู้สึก... แปลกค่ะ เนยอยากกอดพี่” ลมหายใจหอบระทวยของเธอคงเท่ากันกับเขา ทั้งที่เธอกอดด้วยแขนข้างหนึ่งแล้วเธอก็ยังอยากจะกอดเขาอีก
“เนยอยากอย่างอื่นมากกว่าครับ... พี่ก็อยาก คงหยุดไม่ได้แล้ว...”
“เนยกลัวค่ะ...”
“ไม่ต้องกลัวนะครับ อยู่กับพี่จะต้องกลัวอะไร? หืม...” ในน้ำเสียงอ่อนโยนปลอบ มือเรียวข้างที่เป็นอิสระเลื่อนขึ้นล้อบกรอบวงหน้าหล่อเหลา เขาจับมือของเธอแนบใบหน้าตัวเอง พรมจูบบนหลังมืออย่าก่อนเลื่อนมือนุ่มข้างนั้นลงต่ำ สอดเข้าไปในป้อมปราการสุดท้ายที่คับตุง
“เนยจับสิ มันอยากเข้าไปในตัวเนยขนาดไหน ไม่สงสารมันเลยเหรอ?”
ทั้งเปียกทั้งแข็งขนาดนี้! อิพี่ป้องของเธอหื่นจริง ๆ ขอได้ครั้งหนึ่งก็อ้อนขอเอาทุกวัน..
คงได้แต่บริภาษเขาในใจ เณศราเม้มริมฝีปากแน่น หลุบตามองรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนเรียวปากหนาหยักได้รูปที่มีน้ำหล่อเลี้ยงเพราะพิษจูบ
ใจสาวเต้นตึกลุ้นระทึกไปกับท่อนอุ่นร้อนในกำมือ มันขยับหัวของมันพร้อมกับที่กรามแกร่งขบกัดกันแน่นเป็นสันนูน เส้นเลือดปูดโปนบนสันคอบอกว่าเขาร้อน!
ดวงตากลมโตยังชื่นชมเรือนร่างกำยำสมส่วน แผงอกกว้างยันหน้าท้องเป็นลอนหนาของเขาด้วยความหลงใหล ขณะที่ทุกอย่างเป็นไปตามอารมณ์มากกว่าเหตุผล เมื่อเขาเริ่มพรมจูบบนไรผม ขมับเนียนไปจนถึงแก้มนุ่มหอม เธอพริ้มตาปิดลงรับสัมผัสอบอุ่นวาบหวาม เลื่อนมือขึ้นโอบรอบคอแกร่งโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
“อือ... พี่ป้อง...”
“ที่ผ่านมาก็ติดใจ... รับรองว่าพี่ไม่ทำให้เนยผิดหวัง เคยสักครั้งไหมที่จะไม่เสร็จ”
“พูดอะไรคะ... น่าอายที่สุด”
“เรื่องธรรมชาติครับเนย” พูดพลันก้มหน้าลงจัดการปลายยอดสีชมพูหวาน ร่างบางแอ่นเกร็งรับทุกสัมผัสจากปลายลิ้นกระหวัดไปมา โพรงปากนุ่มอุ่นเป็นงาน หากว่างวางจากสองเต้าเมื่อไร เรียวปากหนาจะคอยพูดพร่ำคำบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องร้ายแรงสำหรับมนุษย์ เธอควรยอมให้เขาเข้าไปลิ้มรสอารมณ์หวานฉ่ำ โดยยังคงกุมมือเรียวไว้แนบแน่นบนที่นอน ให้เป็นที่พึ่งทางใจหากว่าเธอจะบีบมือของเขาเพื่อระบายอารมณ์ประหลาด
หญิงสาวคงไม่ทันรู้ตัวสักนิดด้วยความที่เธอกำลังเพลิดเพลินกับเรียวปากหนาหยักได้รูป นุ่มเนียน ความช่างเอาอกเอาใจและถ้อยคำหว่านล้อม เธอส่ายหน้าแดงก่ำมองร่างกำยำเคลื่อนไหวไปพร้อมจูบของเขาในความเงียบ จนผู้ชายตัวโตสะบัดกางเกงชิ้นสุดท้ายออกจากขา สะโพกสอบเลื่อนตรงไปยังจุดหมาย
ปลายหัวแดงก่ำจดจ่ออยู่ตรงปากทางเข้าซึ่งมันรู้ที่ทางของมัน สะโพกสอบหนาเริ่มขยับทีละนิดวนเวียนอยู่หน้าปากทางถ้ำก่อนค่อยปล่อยให้มันกลืนกินตัวตนของเขาเข้าไปในอีกอึดใจ
“อ๊าย พี่ป้อง!” หวีดร้องพลันกัดริมฝีปากตัวเองกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว วงหน้าหล่อเหลารัญจวนส่งเสียงคำรามออกมาพร้อมกัน ก่อนที่เขาจะโน้มลงปิดปากเธออีกครั้ง
ความรู้สึกประหลาดยังไม่หยุดแม้สักวินาทีให้เธอได้ปรับตัว หายใจหายคอเสียหน่อย มังกรร้ายขนาดใหญ่ยักษ์ราวจะฉีกร่างเธอเป็นชิ้น ๆ กระทั่งว่าสะโพกงามพยายามกระถดหนียังไม่เป็นผล เขาเพียงมอบความเจ็บปวดให้เธออย่างไม่รีรอ ไม่อ่อนโยนเหมือนคนก่อน กระทำเหมือนทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายดายแม้การโยกดันตัวเข้าออกจากพื้นที่ชุ่มฉ่ำนองน้ำ“อย่าเกร็ง... นิ่ง ๆ ครับเนย”“เจ็บค่ะ...” แววตาตัดพ้อต่อว่า จากนั้นน้ำตาตรงหางตาคู่สวยจึงถูกกลืนกินไปกับการปลอบประโลม เขาโน้มใบหน้าลงจูบเปลือกตาที่ปิดสนิทแน่น ปลายจมูกโด่งงาม เมื่อช่องทางรักโอบรัดแก่นกายร้อนฉ่าจนอึดอัดไปหมดกลางกายสาวแรกรักที่ถูกฉีกขาดออกจากกันพามือเรียวพยายามตะเกียกตะกายจิกแผ่นหลังกว้าง ปลายเล็บแหลมจิกลึกลงไป อีกข้างยังบีบมือหนาแน่น แผ่นหลังบางแอ่นเกร็งตามขนาดของชายร่างหนาใหญ่ที่ไม่ปรานีเธอเลย“ทำไม... ไม่บอกคะ ทำไมเอาเข้า... อ๊าา เนย...เสียวค่ะ อือ โอ๊ยย เบา ๆ ค่ะ”“เจ็บนิดเดียว... ให้พี่รักเนยนะครับ”ฟังดูแล้วเขาคงเห็นแก่ตัวเอามาก ๆ แต่ไม่นาน คนใต้ร่างกลับมาเชื่อใจเขาอีกครั้ง เพียงเพราะแรงส่งตัวอย่างไม่หยุดหย่อนแม้สักวินาที นำพาความรู้สึกแสนหฤหรรษ์เข้ามาแ
ไม่พูดเปล่า ด้วยอารมณ์รุ่นร้อนของเขาทำให้ไร้ยับยั้งชั่งใจ หลังโยนเน็กไทลงพื้น จึงมุดเข้าไปในผ้านวมหนา จับคนตัวเล็กขึงตรึงไว้ด้วยแขนข้างเดียว เธอดิ้นขลุกขลักด้วยกลัวจะถูกซ้ำแผลเดิมที่คงไม่ประสานกันง่าย ๆ “พี่ป้อง... เนยจั๊กจี้ พอก่อน ๆ” เสียงหัวเราะคิกคักดัง เมื่อหนวดเป็นตอมาไล่ตำตามซอกคอ แต่ห้ามเท่าไรเขาก็ไม่หยุด ป้องเกียรติรู้ว่าเธอยังเจ็บจากเสียงสูดลมเข้าปาก พยายามหุบขาตัวเองอยู่ตลอด อยากแค่ไหนก็พยายามหักห้ามใจให้หยุดแค่กอดหอม คิด ๆ ไปแล้วเขาคงอยากทะนุถนอมเธอมากกว่าเมื่อคืนนี้ที่จับขย่มเอาไม่มีหยุดพัก อุ้มพาไปทั้งห้องนอนห้องน้ำห้องรับแขกแล้วขาดแค่ระเบียงพอคนตัวเล็กหายใจเหนื่อยหอบเพราะโดนแกล้งหนักเข้า เขาจูบหน้าผากเนียนอย่างปลอบประโลม“พี่คิดถึงเนยจังเลย... เนยเจ็บมากไหม?”“ยังเจ็บอยู่ค่ะ ไม่ฟัดเนยแล้วนะคะ” เสียงหวานอ่อนลง ในอ้อมแขนแข็งแรง กลิ่นโคโลญจน์จากเสื้อเชิ้ตตัวโตของเขาคงปลุกความร่านร้ายของเธอขึ้นมา พอเขาซุกใบหน้าลงหอมอีกฟอด เธอเพียงพริ้มปิดตาลงส่งเสียง“อื้อ... พี่ป้อง...”“พี่ว่าหื่นไม่เบานะน้องเนย พักก่อนนะ ไหนใครบ่นว่าทั้งเจ็บทั้งเหนื่อ
ทานข้าวเสร็จแล้วต่างคนออกไปเดินซื้อของ ยืดเส้นยืดสายในเมือง เณศราได้ของฝากกลับบ้านหลายชิ้น ที่เธอชอบที่สุดคงจะเป็นสร้อย...“สลักอักษรย่อไว้นะ N กับ P มันเขียนได้แค่นี้อะครับ ไม่มีพื้นที่แล้ว”“หัวใจเนยก็ไม่มีพื้นที่แล้วค่ะ แค่นี้พอ... แค่คนนี้...” เหม็นความรัก! หน้าตาของแม่ค้าขายของบอกอย่างนั้นแต่ก็ขายของให้เธอและเขาด้วยรอยยิ้มสดชื่นแจ่มใส อวยพรให้รักกันนาน ๆ ยันแก่เฒ่า สองมือจับกัน สอดประสานทุกปลายนิ้ว บ้างสอดแขนเดินควงแขน ในเสื้อยืดกางเกงยีนสบาย ๆ แม้จะมีแว่นกรอบหนาอย่างเคย เธอสังเกตเห็นสาวน้อยใหญ่เหลียวคอมองแทบหลุด เณศราไม่ชอบใจนัก แต่คิดในอีกแง่ว่า“แฟนหล่อ”เลยยกมือป้องปากหัวเราะแทน ป้องเกียรติไม่รู้ว่าคนด้วยกันขำอะไร ขมวดคิ้วทำหน้างง ก้มหน้าลงมองของที่ขายบนโต๊ะตามความสูงชะลูด สลับหลอดไฟหลากสีสันตามรายทาง ผ่านฝูงชนคนเดินที่กำลังจะกลับบ้านกันในอีกไม่นาน“พี่ป้องไม่เคยมีแฟนเลยหรือคะ? สูงยาวเข่าดีสาวมองกันขนาดนี้เนยว่าน่าจะมีนะ แฟนเก่าพี่นิสัยเป็นไง”“พี่เรียนหนังสืออย่างเดียวครับ ไม่งั้นคงไม่จบดอกเตอร์ด้วยอายุเท่านี้ ตอนเรียนก็มีคนมาชอบบ้างนะแต่ไม่ถูกใจ พี่เ
“ยังไงก็จะไปขอครับ ป้าอี๊ดวินหน้าปากซอยก็ได้นะ เนยไม่ถือใช่ไหม? พี่สนิทกับแกอยู่แกไปส่งพี่ทุกวันตั้งแต่เรียนมอต้นแล้วครับ แกเหมือนญาติผู้ใหญ่พี่อีกคนแหละ”อัศวินเสื้อส้มคนนี้ไม่ต่างจากนางฟ้าเสื้อส้มของป้องเกียรติ กว่าเขาจะโตมาได้ประสบความสำเร็จมาได้ เณศราไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนจึงขมวดคิ้วมุ่นรอฟัง“พี่ยังไม่เคยเล่าให้ฟังเนอะ นานละพี่เคยประท้วงพ่อแม่ไม่ให้ตังค์ค่าขนมพี่ แกให้พี่นั่งวินฟรีประจำ มีอะไรแกก็คอยช่วยเหลือแบบคนมีน้ำใจน่ะ พอพี่สอบทุนได้ไปเรียนเมืองนอก พี่ไม่เคยลืมแกเลย... แกนิสัยดีนะ”“เอ้า! แม่ก็มีแต่ลูกจะให้วินมอเตอร์ไซค์ไปเป็นแม่เนี่ยนะ”“แม่ทำท่าว่าจะไม่ไปนี่ครับ ผมว่าถ้าผมไปถามพ่อก็คงตอบแบบเดียวกัน เนยว่าไงล่ะครับ?” เขาถามเธอว่ามันจะเป็นไปได้ไหมทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้วเหมือนฉีกหน้าคุณแม่ยังไงยังงั้น“เนยแล้วแต่พี่ป้องค่ะ พ่อแม่เนยไม่ถือค่ะ”“แล้วค่าสินสอดแพงไหมล่ะ? ช่วงนี้แม่ต้องเก็บเงินก่อนนะลูก ไว้ค่อยแต่งอีกสักสามปี รอเศรษฐกิจดี ๆ กว่านี้นะ”คุณนายของบ้านไม่พอใจกับการที่ฝ่ายหญิงเป็นแค่ลูกสาวข้าราชการธรรมดา ถึงลูกชายคนโตตัดขาดทุกคนไปนานแล้วก็เพราะอย่างนี้ เพราะเรื่อง
ป้องเกียรติไปทำงานเป็นเวลาเช้า-บ่ายตามชั่วโมงสอน เลิกงานแล้วก็ตรงไปร้านกาแฟตรงเวลาเช่นกัน เว้นเสียแต่ว่าวันไหนหยุดถึงอยู่แต่ในห้องพัก แต่วันไหนไปมหา’ลัยจะแวะไปส่งแฟนสาวก่อนทุกเช้าเป็นกิจวัตรใช้ชีวิตเหมือนคู่รักทั่วไป มีโกรธงอนกันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องบ้าง มีนอกใจให้โดนบ่นแค่เรื่องกาแฟ บางครั้งเขาจำเป็นต้องซื้อที่ร้านแบรนด์ใหญ่ร้านดังใต้ตึกคณะด้วยความใกล้กว่า สะดวกกว่าอย่างวันนี้ ทางมหา’ลัยจัดอบรมพิเศษมีวิทยากรและคุณหมอมาให้ความรู้เรื่องเพศแก่นักศึกษา“ห้าแก้วนะครับ อันนี้หกแก้ว” ทวนบอกพลางกวาดสายตามองกาแฟ น้ำผลไม้ปั่น โกโก้เย็นว่าครบถ้วน ข้างกายมีนักศึกษาหนุ่มผู้ชื่นชอบการช่วยเหลืองานอาจารย์ งานเอาหน้าล่ะก็ต้องยกให้นายเปี๊ยกกับแก๊งสาว ๆ“อาจารย์เลี้ยงจริงหรือคะ? ทำไมวันนี้ซื้อร้านนี้... ไม่ซื้อร้านหน้ามอ...”“ครับ เอาไปให้อาจารย์มนนะ แล้วก็ผู้ช่วย คุณหมอ...”“อาจารย์... ผมถาม...”“ไม่ต้องถามเลยนายเปี๊ยก ไปเลย ๆ... ไปเถอะไม่บอกหรอก” เขายิ้มแล้วส่งน้ำในถุงหิ้วให้หนุ่มสาว ในสายตาของหลายคน อาจารย์หนุ่มกับนักศึกษาขี้เล่นคนดังประจำคณะคอมฯ ดูสนิทสนมกันดีกว่าเมื่อก่อน“ว้าา! ว่าจะชวนเพื่อน
ฉีกยิ้มกว้างหวานให้เห็นไรฟันขาวครบทุกซี่ คนขับหันไปมองรอยยิ้มที่ตกเขาได้ตั้งแต่แรกเห็นนั่นแหละ แต่ปากดันไม่ตรงกับใจยังทำหน้าแหยง“ไม่สวยเลยอี๋... วันหลังอย่าให้ชุดนี้อีกนะเดี๋ยวนี้อ้วนพุงออกอะครับ คนเขามองพุงรู้ไหมเขาไม่ได้มองเจ้าของร้านสวย สงสัยว่าทำไมอ้วนขึ้นต่างหาก”“ฮะ? เนยอ้วนเหรอ...” เณศราเริ่มก้มหน้าดูสรีระตัวเอง หน้าท้องของเธอคงไม่ได้ยื่นยาวขนาดเขาว่า แค่โผล่ออกมาเล็กน้อยหลังรับประทานอาหารตามธรรมชาติคนทั่วไปแค่นั้น แต่นั่นก็ทำคนรักสวยรักงามเสียความมั่นใจสำเร็จ“เมื่อก่อนผอมกว่านี้นะ น้ำหนักขึ้นหรือเปล่า?”“อืม... ใส่สเตรย์รัดหน้าท้องก็น่าจะได้นะ ชุดแบบพอง ๆ หน่อยคงไม่เห็นว่ามีพุงมากมาย”“ไม่เอาลายดอก”“ตัวอื่นก็ได้ค่ะ วุ่นวายกับเสื้อผ้าเนยจริงนะ” ว่าตาขวาง เมื่อมาถึงจุดหมายในอีกไม่นานลานจอดรถโล่งเงียบในช่วงหัวค่ำ ชั้นใต้ดินไม่มีรถจอดมากนัก คนขับก็เลือกทำเลได้ดีห่างจากลิฟต์ไปเล็กน้อย นัยน์ตาคู่คมใต้แว่นกรอบหนาประกายวูบวาบพาไรขนลุกชูชัน เธอกำมือทั้งสองบนหน้าตักอย่างเกร็ง ๆ เพราะว่าเขาไม่ปลดล็อกประตูรถยังไม่ดับเครื่องยนต์“พี่ป้อง... จะทำอะไรคะ?”“ทำอะไรก็ได้ครับไม่มีคนหรอก... ท
ใบหน้าสดสวยบึ้งตึงเหมือนโกรธงอนกันสักเรื่องซึ่งเขารู้ จึงผละจากคนตัวเล็กไปคว้าผ้าเปียกหมาดบนเคาน์เตอร์ครัวมาโยนลงบนโต๊ะรับประทานอาหารอย่างเอาเรื่องเอาราว“เอาหน่อยสิ แต่ว่าต้องทำงานให้เนี้ยบกว่านี้นะ ทำไมเช็ดโต๊ะเช็ดครัวไม่สะอาด ยังมีคราบแม็กกี้เนี่ย...”“ไหนคะ?” ถามหน้ายุ่ง มือหยิบผ้าสีขาวได้ก็ส่ายคอมองตามปลายนิ้ว เพื่อหารอยคราบบนผ้าปูโต๊ะลายดอกไม้น่ารัก เณศราซื้อมาคลุมโต๊ะให้เจ้าของห้องเองเพราะมันสามารถมองหาคราบเปื้อนได้ง่ายแต่ในเมื่อมันไม่มี...“ตรงนั้นไง เมื่อกี้พี่เช็ดไปแล้วเนยดู...”“ไม่เห็นมีเลย เนยว่าเนยเช็ดหมดแล้วนะ”“ก้มต่ำ ๆ ดูให้ดีครับ”ก้มต่ำ! เธอหันขวับมองคนข้างหลังทันที แต่พอจะอ้าปากต่อว่า ผู้ชายตัวโตคว้าหมับจับสันคอเธอกดลงบนโต๊ะไม่ต่างจากว่าเธอเป็นผู้ร้าย ปลายเท้าเรียวทั้งสองจิกลงบนพื้นพยายามเขย่งตัว หน้าอกอวบอัดและแก้มของเธอเบียดบี้ไปกับกระจกเย็นเฉียบ“พี่ป้อง... ทำอะไรคะ?”“ช่วยเมียเช็ดโต๊ะ ตรงนั้นไง...”“...”มือเรียวกำผ้าเปียกหมาดแน่นจนน้ำกระเซ็นเปื้อนบนโต๊ะอีกระลอก และก็คงจะไม่ได้เช็ด ทันทีที่แผ่นหลังบางเย็นวาบตามอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ เธอได้ยินเสียงปลดซิบไว ๆ
ป้องเกียรติไม่ทำให้คนตัวเล็กผิดหวัง แม้แต่ช้อนตัวเบา ๆ เข้าออกช่องทางอ่อนนุ่มที่โอบรัดแก่นกาย มันกลืนกินตัวตนของเขาได้ดีเยี่ยมไม่ต่างจากว่าเป็นครั้งแรกของกันและกันบางครั้งก็ดิบเถื่อน! เมื่อร่างกายได้รับการเติมเต็มหลังห่างหายกันไปไม่กี่วัน แต่ยังคงอ่อนหวาน สอดประสานหลังมือเรียวที่จิกกำแน่น หลังแอ่นก้นรอรับความแข็งขึง ขยันขยับสะโพกสอบถี่ระรัว ปล่อยให้มังกรร้ายผลุบเข้าออกอย่างไม่ละวางจังหวะลง จะให้คนใต้ร่างได้หายใจหายคอยังไม่มีเณศราได้รับจุมพิตจากเขาที่ไม่เคยรู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย หน้าขาสั่นเทากระแทกกับขอบโต๊ะ หากว่าเธอทำท่าจะลุก คงถูกผลักลงให้นอนราบบนกินข้าว มือหนาปัดป่ายของกระเด็นไปคนละทิศละทาง ทั้งถุงพลาสติก ขวดแม็กกี้ เขาไม่สน! ว่าอะไรจะหล่นเละเทะเหมือนคนอดอยากปากแห้งมาแรมปีแววตาคู่สวยเอ่อคลอหยดน้ำใส ช่องท้องวูบไหวตามเสียงเสียบสับของเนื้อกระทบกันพาอารมณ์ของเธอถึงขีดสุด ถึงว่าที่สามีจะดุดันป่าเถื่อนสักหน่อย เธอกลับนึกชอบพอในความเป็นตัวเขา สะโพกงามงอนจิกเกร็ง“พี่ป้องขา... เนยไม่ไหวค่ะ!”“ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย... ทำไมเสร็จไวจังครับ อืม... อูยส์ เนยรัดพี่แรงแบบนี้ไม่ดีนะ”คนพูดจาทะล
งานหมั้นเช้าแต่งเย็นดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ด้วยความที่บ่าวสาวไม่ได้มีญาติเยอะ มีแขกมาร่วมงานไม่ถึงห้าสิบคน รวมเพื่อนร่วมชั้นสมัยเรียนอีกไม่กี่คน เรียกได้ว่าเป็นงานผูกข้อมือเล็ก ๆ ไม่ใช่งานแต่งเอิกเกริกซุ้มประตูดอกไม้ เพลงรักยอดฮิตในยุค 70s เคล้าคลอไปกับเสียงคลื่นลมของรีสอร์ตริมทะเล แม้แต่อาหารและสตรอว์เบอร์รีชีสเค้กก้อนโตยังตามใจคู่บ่าวสาว เดรสลายลูกไม้ชายลากยาวบนผืนทรายเข้ารูปทรงสมส่วน เสื้อสีขาวสะอาดคอลึกผ่าหลังเผยให้เห็นผิวขาวสวยทำเจ้าบ่าวตากระตุกน้อย ๆ ทว่าอาจารย์หนุ่มก็ลืมมันไปได้ เมื่อวันนี้เป็นวันสำคัญวันที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะสวยที่สุดในชีวิตใบหน้าหวานงามแต่งแต้มเครื่องสำอางอ่อนใต้รอยยิ้มเอียงอายที่มีให้ชายเพียงคนเดียว หน้าท้องเนินนูนเพียงเล็กน้อยคงไม่มีใครสังเกตเห็น ป้องเกียรติกำลังพึงพอใจกับบรรยากาศนี้ ขณะที่เธอบอกกับทุกคนผ่านไมโครโฟนว่ามากันสามคน พ่อแม่ลูก “เธอเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุด เป็นคุณแม่ที่ผมรักที่สุด ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมอวยพรให้ผมกับเนยนะครับ”เสียงปรบมือดังในลานกว้าง เธอสวย... ขนาดที่เขาละวางตาไปไม่ได้เสียเลย เขาจับจูงมือเธอไปบอกลาทุกคนหลังงานเลี้ยงสิ้นสุดลงญาติทา
เหตุการณ์สะเทือนขวัญยังหลอกหลอนยามหลับฝัน บางคืนเธอยังสะดุ้งตื่นกลางดึกด้วยความหวาดกลัว ทว่าพอพบสบตาคม อ้อมแขนอุ่นกลิ่นหอมสะอาด กลับแน่ใจถึงความปลอดภัยว่าไม่มีใครมาทำร้ายเธอได้ “พี่ป้อง... ตัวหอมจังค่ะ ตัวพี่อุ่นมาก เนยนอนหลับสบายจัง” “เนยก็หอมครับ ทำพี่หลับไม่สบายสักวันถ้าไม่ได้อึ้บเมีย” เงียบไป ใต้รอยยิ้มกรุ้มกริ่ม มือหนาลูบศีรษะน้อย ลากวนเข้าไปในเส้นผมสีน้ำตาลสลวยอย่างย่ามใจ ในความเงียบงันของห้องอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ ต่างคนไร้เสื้อผ้าแม้สักชิ้นห่อหุ้มกาย คลุมไว้ด้วยผ้านวมหนาในอ้อมกอดกัน เป็นเรื่องปกติที่เธอจะปรารถนาในตัวเขามากขึ้นทุกวัน ยิ่งเป็นคุณแม่ท้องอ่อนฮอร์โมนทำร้าย “เนยต้องพักผ่อนนะ เดี๋ยวลูกไม่โตทำไง” “โตซี พี่ฉีดสารเร่งโตให้ทุกวัน” คนทะลึ่งก็อย่างนั้น เขาก้มหน้าลงประทับจุมพิตบนขมับเนียน ผุดรอยยิ้มกว้างหวานเต็มวงหน้าใต้โคมไฟสลัว “เอ... ตัวเล็ก... ผู้หญิงหรือผู้ชายนะ?” “จะรู้ไหมคะ? คงเป็น... ผู้ชายมั้ง...” “พี่อยากให้ชื่อฟ่อน เงินฟ่อน ชิฟฟ่อน ชื่อเล่นนะเจ้าลูกฟ่อน... ถ้า
เพราะมีคนเผลอทำตัวเปิ่น ๆ ในโรงพยาบาล ส่งเสียงดังลั่นห้องฉุกเฉินให้คุณพยาบาลหัวเราะกันยกใหญ่ แต่ก็เข้ามาแสดงความยินดีพร้อมผลตรวจของคุณหมอ เซ็นอนุญาตให้ผู้ป่วยกลับบ้านอย่างสบายใจ เณศราไม่รู้เอาหน้าไปไว้ที่ไหน เธอดีใจที่จะได้เป็นคุณแม่ มีลูกน่ารัก ๆ สักคนกับว่าที่สามีไม่สนเรื่องแต่งก่อนแต่งหลังหรอก ในขณะที่ยังมีเรื่องไม่สบายใจพอได้ยินบางคนโทรไปด่าน้องสาวยกใหญ่ ผ่านลำโพงในรถยนต์ สายประชุมครบพ่อแม่พี่น้อง แม้แต่พ่อแม่ของเธอเองเขาโทรบอกให้ทุกคนรับทราบวีรกรรมของคนคนเดียว ที่ไม่สมควรได้รับการให้อภัย“ก็ให้ท้ายกันไงครับถึงได้โตมาสันดานแบบนี้ ผมไม่ยอมแล้วผมจะไม่ถอนฟ้องแทนเมีย ไม่รับค่าเสียหาย ให้อีสองคนนั้นไปนอนคุกอย่างเดียว อย่าคิดว่ามีเงินแล้วทำได้ทุกอย่าง ผมมีเพื่อนเป็นทนาย นักโซเชียลเยอะเหมือนกัน ดี... จะได้เอาปี๊บคลุมหัวกันให้หมดทั้งบ้านเวลาออกไปข้างนอก ขอให้หุ้นตก บริษัทฉิบหายย่อยยับนะครับ”เป็นชุด! มากกว่านี้ยังมีเรื่องของหุ้นส่วน เงินหมกเม็ด ภาษีที่จ่ายไม่ครบ คนขุดได้ก็ขุดมาทั้งเรื่องและเขาพร้อมจะแฉทุกอย่างให้พินาศย่อยยับ จนคุณพ่อขอไกล่เกลี่ยยอมขอว่าเขาอยากได้อะไร คนปากหนัก
ห้องเงียบเชียบให้ความรู้สึกเงียบเหงากว่าทุกวัน อาจารย์หนุ่มรออาหารมื้อเย็นจากแม่ครัวที่ยังไม่กลับบ้านสักที แต่งตัวเรียบร้อยด้วยเชิ้ตสีดำสนิทอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเครื่องใหญ่ งานสอนก็ค่อนข้างยุ่ง ต้องตรวจงานนักศึกษาไปด้วยระหว่างอธิบายการเขียนคำสั่งคอมพิวเตอร์ หลายอย่างวนเวียนในหัว ขมวดคิ้วมุ่นตั้งใจทำงานตลอดเวลาหลายคนในคลาสตั้งใจเรียนผิดปกติจนหมดชั่วโมงเรียน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กแสบ ทำขยิบตาผ่านกล้องเหมือนมีปัญหาสักอย่างแต่ไม่กล้าพูด ส่งเป็นข้อความมาบอกแทน...‘She’s in Danger!’บอกใบ้มาเป็นภาษาอังกฤษให้ตีความอีกต่างหาก คนเป็นอาจารย์สงสัยอยู่พักหนึ่ง นึกหงุดหงิดคนส่งข้อความมาให้เป็นปริศนาคาใจ ก่อนตกใจเป็นอย่างมากแทบทำห้องเรียนล่ม เรื่องใหญ่กว่าคือคาบสอนนี้เป็นบันทึกเทปย้อนหลังซึ่งเขาไม่สามารถปิดโทรศัพท์กลางกลางคันได้เป็นโชคดีที่แก๊งนายเปี๊ยกดันออกจากห้องเรียนไปก่อน ส่วนคนสอนทำได้แต่นับเวลาถอยหลัง ภาวนาให้บันทึกการสอนจบเร็ว ๆ พูดจาติดขัดเพราะจิตใจไม่อยู่กับเนื้อตัวป้องเกียรติพอคาดการณ์ได้ว่าเกิดเรื่องอะไร ด้วยความที่เขาคอยดูพฤติกรรมของอีกคนอยู่ตลอด เธอมีท่าทีแปลก ๆ เมื่อคืนนี้ ทำท่
ถ้าผัวฉันย่องไปหาแกที่ร้านอีกครั้งเดียว แกได้เจอฉันตัวเป็น ๆ แน่นังเนย เมมเบอร์นี้ไว้ด้วยนะเพราะฉันไม่เตือนใครเป็นครั้งที่สอง‘รวิตา’เณศราได้รับข้อความจากคนที่ไม่รู้ว่าเอาเบอร์ของเธอมาจากไหน เธอไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใครจึงใจคอไม่ค่อยดี นอนพลิกไปพลิกมาบนท่อนแขนอุ่นที่หนุนนอนต่างหมอนทุกคืน หน้าตาครุ่นคิดด้วยความเป็นกังวล ตื่นมาแล้วออกไปทำธุระประปรัง เดินซื้อของจากร้านสะดวกซื้อ กลับเข้าบ้านมาสติไม่อยู่กับเนื้อตัวนัก ขณะที่คนเก่าส่งข้อความมาบอกกับเธอแค่...‘พี่อยากคุยกับเนยนะ’ทั้งที่บอกชวนผ่านเพื่อนสาวเรื่องงานผูกข้อมือมะรืนนี้ ประเด็นอื่นขอไม่พูดคุยกันอีก แปลกที่คนมีเหตุผลเป็นนักธุรกิจ เป็นลูกชายที่ดีของบ้านมาโดยตลอดกลับไม่พยายามเข้าใจเสียเลยจะอย่างไร เธอก็มีไม้กันหมาที่ดี ติดกว่าคนนี้ไม่มีแล้วในชุดคลุมอาบน้ำบนร่างกำยำส่งกลิ่นหอมอ่อน ลอยผ่านจมูกไป อาจารย์หนุ่มหุ่นล่ำคอยเดินยั่วยวน อวดสรีระเรือนกายของเขาที่อุตสาหะทำมาอย่างยากลำบาก บริโภคอกไก่ปั่นด้วยท่าทางกล้ำกลืนฝืนทน ซึ่งคนอยู่ด้วยกันยังไม่รู้ว่าเขาจะทำมันไปเพื่ออะไร ในเมื่อเธอยังไงก็รักเขาหมดใจไปแล้วอ้วนพุงพลุ้ย ก็ยังรัก หัวล้านแก
คนอยู่ด้วยกันทุกวันคงสังเกตเห็น เธอแค่ไม่รู้ว่าเขาจับอะไรตลอดเวลา“เนยต้องใส่ไว้ก่อนนะ คนเขาจะได้รู้ว่ามีเจ้าของแล้ว พี่ไม่ชอบเวลาใครมองเนย พี่หวง...”“แต่เนยชอบค่ะ เวลาพี่ป้องทำตาเขียว ๆ น่ะ”“ชอบโดนจัดหนักด้วยใช่ไหม?”“ไม่รู้ค่ะ...” เสียงหัวเราะคิกคักดัง หัวใจดวงน้อยเต้นรัวแรง เมื่อเขาบรรจงสวมลงบนนิ้วนางข้างซ้าย ชักชวนให้ดูลอยสลักบริเวณรอบตัวแหวนN & P ดูจะเป็นไอเท็มคู่รักแนวแฟชั่นมากกว่าแหวนเพชรเม็ดโตในงานแต่งอลังการ ที่เคยเห็นบ่าวสาวสวมให้กัน“ขอบคุณนะคะพี่ป้อง... เนยจะรักษามันให้ดีทั้งสองชิ้นนี้ สร้อยกับแหวนของพี่... ชอบมากเลยค่ะ”เธอชอบมันที่สุด... ชอบผู้ชายคนนี้ที่สุดเณศราเม้มปิดริมฝีปากของเธอสนิทแน่น หยดน้ำใสเอ่อคลออย่างอดกลั้นไม่ไหว ก่อนที่ร่างสูงในเชิ้ตสีดำสนิทจะโน้มตัวลงหาเธอเชื่องช้า ประกบเรียวปากอิ่มงามแผ่วเบาแล้วผละออกประทับจุมพิตบนขมับเนียน“พี่รักเนยนะ”คนมีความรักมักหน้าเด็กทุกคน มองอะไรก็เป็นสีชมพู เห็นจะจริงกล่องข้าวน่ารักในแต่ละวันของเณศราประดิดประดอยด้วยผักหลากสีสัน เธอใช้ตราปั๊มลายตุ๊กตาในการทำอาหารเช่นข้าวญี่ปุ่นหุงร้อนเป็นหมีน้อย ห่มคลุมด้วยไข่เจียว ราดน้ำซอส
ป้องเกียรติไม่ทำให้คนตัวเล็กผิดหวัง แม้แต่ช้อนตัวเบา ๆ เข้าออกช่องทางอ่อนนุ่มที่โอบรัดแก่นกาย มันกลืนกินตัวตนของเขาได้ดีเยี่ยมไม่ต่างจากว่าเป็นครั้งแรกของกันและกันบางครั้งก็ดิบเถื่อน! เมื่อร่างกายได้รับการเติมเต็มหลังห่างหายกันไปไม่กี่วัน แต่ยังคงอ่อนหวาน สอดประสานหลังมือเรียวที่จิกกำแน่น หลังแอ่นก้นรอรับความแข็งขึง ขยันขยับสะโพกสอบถี่ระรัว ปล่อยให้มังกรร้ายผลุบเข้าออกอย่างไม่ละวางจังหวะลง จะให้คนใต้ร่างได้หายใจหายคอยังไม่มีเณศราได้รับจุมพิตจากเขาที่ไม่เคยรู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย หน้าขาสั่นเทากระแทกกับขอบโต๊ะ หากว่าเธอทำท่าจะลุก คงถูกผลักลงให้นอนราบบนกินข้าว มือหนาปัดป่ายของกระเด็นไปคนละทิศละทาง ทั้งถุงพลาสติก ขวดแม็กกี้ เขาไม่สน! ว่าอะไรจะหล่นเละเทะเหมือนคนอดอยากปากแห้งมาแรมปีแววตาคู่สวยเอ่อคลอหยดน้ำใส ช่องท้องวูบไหวตามเสียงเสียบสับของเนื้อกระทบกันพาอารมณ์ของเธอถึงขีดสุด ถึงว่าที่สามีจะดุดันป่าเถื่อนสักหน่อย เธอกลับนึกชอบพอในความเป็นตัวเขา สะโพกงามงอนจิกเกร็ง“พี่ป้องขา... เนยไม่ไหวค่ะ!”“ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย... ทำไมเสร็จไวจังครับ อืม... อูยส์ เนยรัดพี่แรงแบบนี้ไม่ดีนะ”คนพูดจาทะล
ใบหน้าสดสวยบึ้งตึงเหมือนโกรธงอนกันสักเรื่องซึ่งเขารู้ จึงผละจากคนตัวเล็กไปคว้าผ้าเปียกหมาดบนเคาน์เตอร์ครัวมาโยนลงบนโต๊ะรับประทานอาหารอย่างเอาเรื่องเอาราว“เอาหน่อยสิ แต่ว่าต้องทำงานให้เนี้ยบกว่านี้นะ ทำไมเช็ดโต๊ะเช็ดครัวไม่สะอาด ยังมีคราบแม็กกี้เนี่ย...”“ไหนคะ?” ถามหน้ายุ่ง มือหยิบผ้าสีขาวได้ก็ส่ายคอมองตามปลายนิ้ว เพื่อหารอยคราบบนผ้าปูโต๊ะลายดอกไม้น่ารัก เณศราซื้อมาคลุมโต๊ะให้เจ้าของห้องเองเพราะมันสามารถมองหาคราบเปื้อนได้ง่ายแต่ในเมื่อมันไม่มี...“ตรงนั้นไง เมื่อกี้พี่เช็ดไปแล้วเนยดู...”“ไม่เห็นมีเลย เนยว่าเนยเช็ดหมดแล้วนะ”“ก้มต่ำ ๆ ดูให้ดีครับ”ก้มต่ำ! เธอหันขวับมองคนข้างหลังทันที แต่พอจะอ้าปากต่อว่า ผู้ชายตัวโตคว้าหมับจับสันคอเธอกดลงบนโต๊ะไม่ต่างจากว่าเธอเป็นผู้ร้าย ปลายเท้าเรียวทั้งสองจิกลงบนพื้นพยายามเขย่งตัว หน้าอกอวบอัดและแก้มของเธอเบียดบี้ไปกับกระจกเย็นเฉียบ“พี่ป้อง... ทำอะไรคะ?”“ช่วยเมียเช็ดโต๊ะ ตรงนั้นไง...”“...”มือเรียวกำผ้าเปียกหมาดแน่นจนน้ำกระเซ็นเปื้อนบนโต๊ะอีกระลอก และก็คงจะไม่ได้เช็ด ทันทีที่แผ่นหลังบางเย็นวาบตามอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ เธอได้ยินเสียงปลดซิบไว ๆ
ฉีกยิ้มกว้างหวานให้เห็นไรฟันขาวครบทุกซี่ คนขับหันไปมองรอยยิ้มที่ตกเขาได้ตั้งแต่แรกเห็นนั่นแหละ แต่ปากดันไม่ตรงกับใจยังทำหน้าแหยง“ไม่สวยเลยอี๋... วันหลังอย่าให้ชุดนี้อีกนะเดี๋ยวนี้อ้วนพุงออกอะครับ คนเขามองพุงรู้ไหมเขาไม่ได้มองเจ้าของร้านสวย สงสัยว่าทำไมอ้วนขึ้นต่างหาก”“ฮะ? เนยอ้วนเหรอ...” เณศราเริ่มก้มหน้าดูสรีระตัวเอง หน้าท้องของเธอคงไม่ได้ยื่นยาวขนาดเขาว่า แค่โผล่ออกมาเล็กน้อยหลังรับประทานอาหารตามธรรมชาติคนทั่วไปแค่นั้น แต่นั่นก็ทำคนรักสวยรักงามเสียความมั่นใจสำเร็จ“เมื่อก่อนผอมกว่านี้นะ น้ำหนักขึ้นหรือเปล่า?”“อืม... ใส่สเตรย์รัดหน้าท้องก็น่าจะได้นะ ชุดแบบพอง ๆ หน่อยคงไม่เห็นว่ามีพุงมากมาย”“ไม่เอาลายดอก”“ตัวอื่นก็ได้ค่ะ วุ่นวายกับเสื้อผ้าเนยจริงนะ” ว่าตาขวาง เมื่อมาถึงจุดหมายในอีกไม่นานลานจอดรถโล่งเงียบในช่วงหัวค่ำ ชั้นใต้ดินไม่มีรถจอดมากนัก คนขับก็เลือกทำเลได้ดีห่างจากลิฟต์ไปเล็กน้อย นัยน์ตาคู่คมใต้แว่นกรอบหนาประกายวูบวาบพาไรขนลุกชูชัน เธอกำมือทั้งสองบนหน้าตักอย่างเกร็ง ๆ เพราะว่าเขาไม่ปลดล็อกประตูรถยังไม่ดับเครื่องยนต์“พี่ป้อง... จะทำอะไรคะ?”“ทำอะไรก็ได้ครับไม่มีคนหรอก... ท