ขึ้นรถแล้วเณศราเผลอหลับไปพักใหญ่ เธอรู้สึกตัวตื่นตอนได้ยินเสียงคลื่น ได้กลิ่นของไอน้ำเค็ม คนขับถึงบอกว่าพรุ่งนี้มีสัมมนาแต่เช้าเลยพาเธอมาด้วย เขาพาเธอเช็คอินเข้าที่พักรีสอร์ตที่พักอากาศดีติดริมทะเล ลากกระเป๋ามาถึงห้องนอนแบ่งเป็นสัดส่วนแยกกับห้องครัว ห้องรับแขก ทั่วทั้งห้องตกแต่งด้วยไม้สีน้ำตาลเข้มคล้ายบ้านสไตล์ไทยประยุกต์แนวโมเดิร์น
“จะพาเนยมาเซอร์ไพรส์ทำไมไม่บอกคะ? เนยจะได้เตรียมเสื้อผ้ามาด้วย”
อาจารย์หนุ่มส่ายหน้าพรืด “ฮื้อออ! ต้องใส่ที่ไหนเล่าเสื้อผ้าน่ะ แล้วเซอร์ไพรส์มันก็ต้องเป็นความลับสิครับ”
“พี่ป้อง… มาทำหื่นใส่เนยอีกแล้วนะ” เธอกัดริมฝีปากทำตาเขียวใส่คนที่ฉีกยิ้มกว้างหวาน เข้ามากอดหอมฟอดใหญ่ค่อยปล่อยเธอไป
เณศราอยู่ในกางเกงยีนขาดเสื้อยืดสีชมพูหวาน ผ่านแผ่นหลังกว้างในเชิ้ตสีขาวครีม ก้ม ๆ เงย ๆ เก็บกระเป๋าเข้าตู้ไม้สำหรับเก็บของ แขวนเดรสตัวสวยลายดอกไม้ เสื้อผ้าชุดใหม่มีเสื้อคอกลมทรงกระโปรงเหมือนชุดคลุมท้องแต่ดูท่าทางว่าจะสวมสบายทรงเดียวกับชุดนอนลายหมีที่บ้าน
“ซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้เนยอีกแล้วหรือคะ? ซักรึยัง...”
“ซักแล้ว ซื้อมาอีกสองสามชุดครับ รองเท้าด้วย น่ารักดี”
รองเท้าแตะหูหนีบมีโบขนาดใหญ่สีโอรสเหมาะสมกับสาววัยใส ตาคมจรดมองมัน นั่งยองลงจัดแจงใส่เข้าชั้นวางไว้ข้างกันกับรองเท้าหนังดำสนิทคู่ใหญ่
“ช่วงนี้ช้อปปิ้งเก่งจังเลยะนะคะพี่ป้อง”
“โฆษณาในมือถือมันเด้งขึ้นมาตลอดอะ พี่เห็นเสื้อผ้าสวย ๆ ก็อยากซื้อให้เนยใส่ เนยลองรองเท้าดูไหม? แต่พี่ว่าพอดีนะเบอร์แปด”
“ไหนคะ? ไม่ใช่ว่าใส่ไม่ได้นะเสียดายเงินแย่” เธอเลื่อนเท้าเข้าไปสวม พลันผุดรอยยิ้มผ่านดวงตาคู่เรียวรี ปากชมว่าสวยไม่ให้เสียน้ำใจงานอดิเรกของอาจารย์ผู้บอกว่าเป็นหนี้เยอะ! แต่ช้อปปิ้งข้าวของเครื่องใช้ผู้หญิงได้ไม่เว้นวัน เสียงกริ่งห้องดังเมื่อไรไม่หนีว่าเป็นพัสดุของเณศรา
หยิบเสื้อผ้าชุดใหม่ลายหมีกลิ่นหอมน้ำยาปรับผ้านุ่มฟุ้ง มาสวมแทนยีนขาดแนวแฟชั่น หย่อนก้นนั่งลงบนโซฟาหนังสีเนื้อนวลเข้ากับห้องรับแขกกว้างที่มีขนมอร่อย ๆ มินิบาร์ขนาดใหญ่สำหรับบริการแขก โดยไม่ทันสังเกตแววตาคู่คมปลาบประกาย ลึกลงไปราวกับว่ามีเปลวโทสะลูกใหญ่
“ห้องสวยดีนะคะ เนยอยากมาเที่ยวทะเลอยู่พอดีเลย”
“เนยหอมแก้มพี่ประชดแฟนเก่าเหรอ?” เสียงเข้มถามพลางทิ้งตัวนั่งลงตาม เขาไม่พอใจตั้งแต่เหยียบคันเร่งแรงข้ามจังหวัดมาแล้ว ถึงจะพยายามทำตัวเป็นปกติ
“หมั่นไส้”
“หมั่นไส้อะไรพี่ครับ? พี่ว่า... ควรเป็นพี่มากกว่านะ”
“หมั่นไส้คนอะไรยิ้มเก่ง ทำลอยหน้าลอยตาใส่พ่อแม่เนยอีก อืม... วันแดงเดือดนะคะ อดนะ อย่ามาวุ่นวายกับเนยเชียว อุตส่าห์พามาถึงหัวหิน”
“วันนี้วันที่เท่าไรครับ? อีแดงน่ะมาวันที่ยี่สิบห้าโดยประมาณ... พี่จำได้...”
ตาคมยังจับจ้องใบหน้านวล ขณะความปรารถนาในเรือนกายรุ่มร้อนปะทุขึ้นมาเท่ากับโทสะครานึกถึงสายตาของชายอีกคน ไม่มีใครรู้ว่าเขาแทบอกแตกตาย ต้องอดทนข่มใจไม่ให้ชกหน้าน้องเขยหน้าด้านสักที!
“เนยหิวไหม?”
“ไม่ค่ะ เพิ่งกินขนมที่บ้านมาเองนะ พี่ป้องหิวเหรอ?”
“หิว... โมโหหิว...” ไม่ขาดคำดี ร่างสูงขยับเข้าไปรวบข้อพับเนียนกระชับคนตัวเล็กในอ้อมแขน เธอเอาเรื่องเขาทันที
“พี่ป้องปล่อยเนยเลย... จะทำอะไร? เนยดูทีวีอยู่ เราตกลงกันแล้วนะ”
“ไม่... ไม่รับข้อตกลง”
“พี่จะปล้ำเนยเหรอ?”
“พี่เคยปล้ำเนยเหรอ?”
เถียงคอเป็นเอ็น แต่พอหยุดก้าวลงในห้องนอนกว้าง โยนร่างบางถูกลงที่นอนยวบยุบตามน้ำหนัก เขาบดเบียดแผงอกกว้างกับอกอวบอัดอย่างเอาแต่ใจ รวบมือเล็กเกะกะตรึงไว้เหนือศีรษะ ตรงข้ามคำที่บอกว่าจะไม่ปล้ำ! หญิงสาวหน้าตาบึ้งตึงหนักบริภาษเขา
“เนยบอกแล้วไงคะ ถ้าเนยทำอะไรเพลิน ๆ อยู่ห้ามมาวุ่นวาย แล้วเนยจำกัดให้แค่อาทิตย์ละวันพอ เราไม่ควรข้ามไปไกลกว่านี้”
“กับไอ้ปัดทำได้รึไง?”
“พี่ปัดไม่เคยจูบเนยด้วยซ้ำค่ะ” เสียงหวานแข็งขึ้น สบนัยน์ตาประกายกร้าว กระทั่งร่างกำยำที่ทาบทับตัวลงมาเขาตั้งใจทับจนเธอแทบหายใจไม่ออก
“พี่ป้องคะ...เลิกเอาแต่ใจได้ไหม? ถ้าเนยไม่มีใจให้พี่ เนยไม่ไปไหนกับคนแปลกหน้า ให้นั่งรถไฟฟ้าไปส่งเนยที่บ้านเนยไม่ไปด้วยค่ะ เห็นแบบนี้เนยระวังตัวนะ”
“พี่หวงเนย”
“เนยรู้ค่ะ... แต่เนยมาไกลขนาดนี้แล้ว ข้าวปลาเนยก็หาให้พี่ไปกินที่มหา’ลัยทุกวัน พี่ชอบกินเค้กหน้าไหนเนยสั่งลูกน้องอบเผื่อตลอด เนยเป็นคนหวงตัวแต่เนยยอมให้พี่ตั้งกี่ที เนยเอาอกเอาใจขนาดนี้ ไม่พอใจอะไรอีกคะ?”
“ไม่พอ พี่จะเอาอีกพี่โลภมาก พี่อยากได้พี่หื่น... อยากอึ้บเนย”
ก็พูดตรง ๆ! หญิงสาวถลึงตาใส่ “พี่ป้อง! พ่อแม่เนยหัวโบราณพี่ก็รู้นะ...”
“พี่ไปขออยู่แล้วแต่พี่ไม่รวยเหมือนไอ้ปัดไง พี่กำลังตั้งใจทำงานเก็บเงิน พี่ไม่คิดจะไปจากเนย... ไม่เคยคิดเลย” เขากล้ำกลืนฝืนทนพูดคำเหล่านั้น หัวคิดอยู่ทุกวันถ้าหากว่าคนรักเก่าของเธอหย่า แล้วมาทวงสิทธิ์ของตนคืน
ผู้ชายธรรมดา ๆ ไม่ร่ำรวยล้นฟ้าอย่างเขาจะต้องไปอยู่ตรงไหนในชีวิตเธอ
“พี่ปล่อยเนยก่อนนะแล้วเราไปดูหนังกัน ไปคุยกันดี ๆ นะคะ สงบสติอารมณ์ก่อน พี่จะไปหึงอะไรพี่ปัด...”
“ทำไม่ได้หรอกเนย พี่เรียนมาสูงขนาดนี้แต่พี่กลับรู้สึกว่าตัวเองต้อยต่ำ ถูกด้อยค่าด้วยระบบทุนนิยม พี่ออกจากบ้านมาตั้งแต่อายุเท่าไร แต่ดันเรียนไปไร้ค่า เพราะพี่ไม่รวยเท่ามันไง พี่คงไม่มีวันรวยได้เท่านั้นด้วย”
เณศราผ่อนลมหายใจหนัก พอถูกตัดพ้อสารพัด ซึ่งการหาเหตุผลมาพูดกับคนเรียนเยอะอย่างเขาก็ไม่ได้คุยกันง่าย ๆ นั่นทำให้เธอไม่มีทางเลือกต้องเลื่อนมือขึ้นดึงต้นคอหนาลงมาจูบ!
แสงจันทร์นวลสลัวส่องผ่านหน้าต่างกระจกบานสูงใหญ่ ตกกระทบลงบนแก้มแดงซ่าน ในภาพพร่าเลือนเมื่อไร้แว่นกรอบหนา คงไม่มีอะไรชัดเจนสักอย่างนอกเสียจากความโกรธงอนบนวงหน้าหวานงามป้องเกียรติสติขาดผึง! ตั้งแต่เธอดึงเขาเข้าไปตะบมจูบอย่างดูดดื่มแล้ว ทว่าในวงแขนเล็กอันทรงพลัง คนไร้เหตุผลอย่างเขายอมหยุดและฟัง...“พี่ป้องขา...”“ครับเนย...”เธอเรียกเขาก็มักจะตอบอย่างรวดเร็วเสมอ ท่ามกลางเสียงคลื่นลมซัดเข้าหาฝั่ง กลิ่นอายของท้องทะเลและบรรยากาศเป็นใจ คนเล็กตัวประทับริมฝีปากบางบนกรามแกร่งอย่างแสนรัก เอ่ยน้ำเสียงอ้อนหวาน“เนยไม่ได้อยากเป็นคุณนาย เนยแค่อยากตื่นเช้ามาอบเค้กทุกวัน มีชีวิตแสนเรียบง่ายกับรอยยิ้มของลูกค้าที่บอกว่าเค้กอร่อย กับอาจารย์ป้อง... อืม... ตอนนี้เนยมีความสุขจัง ตอนพี่ป้องไม่งอแงกับเนยเนี่ย”“พี่อยู่คนเดียวมาตลอด... พี่เบื่อ... พี่กลัวเนยกลับไปหาเขาแค่ไหนเนยไม่รู้...”“เนยก็เบื่อค่ะ เบื่อเวลาพี่ป้องพูดไม่รู้เรื่อง น้อยใจอะไรนักหนา เนยมีแต่พี่นะ”“ไม่ได้น้อยใจ”“น้อยใจอยู่นี่ไงคะ หัวก็ยังไม่ล้านประหลาดคน เรื่องอนาคตมันยังไม่เกิด คิดไปปวดหัวเปล่าค่ะ”ข้อเท็จจริงนั้นอีกคนคงไม่เห็นด้วยเพราะเขา
ความรู้สึกประหลาดยังไม่หยุดแม้สักวินาทีให้เธอได้ปรับตัว หายใจหายคอเสียหน่อย มังกรร้ายขนาดใหญ่ยักษ์ราวจะฉีกร่างเธอเป็นชิ้น ๆ กระทั่งว่าสะโพกงามพยายามกระถดหนียังไม่เป็นผล เขาเพียงมอบความเจ็บปวดให้เธออย่างไม่รีรอ ไม่อ่อนโยนเหมือนคนก่อน กระทำเหมือนทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายดายแม้การโยกดันตัวเข้าออกจากพื้นที่ชุ่มฉ่ำนองน้ำ“อย่าเกร็ง... นิ่ง ๆ ครับเนย”“เจ็บค่ะ...” แววตาตัดพ้อต่อว่า จากนั้นน้ำตาตรงหางตาคู่สวยจึงถูกกลืนกินไปกับการปลอบประโลม เขาโน้มใบหน้าลงจูบเปลือกตาที่ปิดสนิทแน่น ปลายจมูกโด่งงาม เมื่อช่องทางรักโอบรัดแก่นกายร้อนฉ่าจนอึดอัดไปหมดกลางกายสาวแรกรักที่ถูกฉีกขาดออกจากกันพามือเรียวพยายามตะเกียกตะกายจิกแผ่นหลังกว้าง ปลายเล็บแหลมจิกลึกลงไป อีกข้างยังบีบมือหนาแน่น แผ่นหลังบางแอ่นเกร็งตามขนาดของชายร่างหนาใหญ่ที่ไม่ปรานีเธอเลย“ทำไม... ไม่บอกคะ ทำไมเอาเข้า... อ๊าา เนย...เสียวค่ะ อือ โอ๊ยย เบา ๆ ค่ะ”“เจ็บนิดเดียว... ให้พี่รักเนยนะครับ”ฟังดูแล้วเขาคงเห็นแก่ตัวเอามาก ๆ แต่ไม่นาน คนใต้ร่างกลับมาเชื่อใจเขาอีกครั้ง เพียงเพราะแรงส่งตัวอย่างไม่หยุดหย่อนแม้สักวินาที นำพาความรู้สึกแสนหฤหรรษ์เข้ามาแ
ไม่พูดเปล่า ด้วยอารมณ์รุ่นร้อนของเขาทำให้ไร้ยับยั้งชั่งใจ หลังโยนเน็กไทลงพื้น จึงมุดเข้าไปในผ้านวมหนา จับคนตัวเล็กขึงตรึงไว้ด้วยแขนข้างเดียว เธอดิ้นขลุกขลักด้วยกลัวจะถูกซ้ำแผลเดิมที่คงไม่ประสานกันง่าย ๆ “พี่ป้อง... เนยจั๊กจี้ พอก่อน ๆ” เสียงหัวเราะคิกคักดัง เมื่อหนวดเป็นตอมาไล่ตำตามซอกคอ แต่ห้ามเท่าไรเขาก็ไม่หยุด ป้องเกียรติรู้ว่าเธอยังเจ็บจากเสียงสูดลมเข้าปาก พยายามหุบขาตัวเองอยู่ตลอด อยากแค่ไหนก็พยายามหักห้ามใจให้หยุดแค่กอดหอม คิด ๆ ไปแล้วเขาคงอยากทะนุถนอมเธอมากกว่าเมื่อคืนนี้ที่จับขย่มเอาไม่มีหยุดพัก อุ้มพาไปทั้งห้องนอนห้องน้ำห้องรับแขกแล้วขาดแค่ระเบียงพอคนตัวเล็กหายใจเหนื่อยหอบเพราะโดนแกล้งหนักเข้า เขาจูบหน้าผากเนียนอย่างปลอบประโลม“พี่คิดถึงเนยจังเลย... เนยเจ็บมากไหม?”“ยังเจ็บอยู่ค่ะ ไม่ฟัดเนยแล้วนะคะ” เสียงหวานอ่อนลง ในอ้อมแขนแข็งแรง กลิ่นโคโลญจน์จากเสื้อเชิ้ตตัวโตของเขาคงปลุกความร่านร้ายของเธอขึ้นมา พอเขาซุกใบหน้าลงหอมอีกฟอด เธอเพียงพริ้มปิดตาลงส่งเสียง“อื้อ... พี่ป้อง...”“พี่ว่าหื่นไม่เบานะน้องเนย พักก่อนนะ ไหนใครบ่นว่าทั้งเจ็บทั้งเหนื่อ
ทานข้าวเสร็จแล้วต่างคนออกไปเดินซื้อของ ยืดเส้นยืดสายในเมือง เณศราได้ของฝากกลับบ้านหลายชิ้น ที่เธอชอบที่สุดคงจะเป็นสร้อย...“สลักอักษรย่อไว้นะ N กับ P มันเขียนได้แค่นี้อะครับ ไม่มีพื้นที่แล้ว”“หัวใจเนยก็ไม่มีพื้นที่แล้วค่ะ แค่นี้พอ... แค่คนนี้...” เหม็นความรัก! หน้าตาของแม่ค้าขายของบอกอย่างนั้นแต่ก็ขายของให้เธอและเขาด้วยรอยยิ้มสดชื่นแจ่มใส อวยพรให้รักกันนาน ๆ ยันแก่เฒ่า สองมือจับกัน สอดประสานทุกปลายนิ้ว บ้างสอดแขนเดินควงแขน ในเสื้อยืดกางเกงยีนสบาย ๆ แม้จะมีแว่นกรอบหนาอย่างเคย เธอสังเกตเห็นสาวน้อยใหญ่เหลียวคอมองแทบหลุด เณศราไม่ชอบใจนัก แต่คิดในอีกแง่ว่า“แฟนหล่อ”เลยยกมือป้องปากหัวเราะแทน ป้องเกียรติไม่รู้ว่าคนด้วยกันขำอะไร ขมวดคิ้วทำหน้างง ก้มหน้าลงมองของที่ขายบนโต๊ะตามความสูงชะลูด สลับหลอดไฟหลากสีสันตามรายทาง ผ่านฝูงชนคนเดินที่กำลังจะกลับบ้านกันในอีกไม่นาน“พี่ป้องไม่เคยมีแฟนเลยหรือคะ? สูงยาวเข่าดีสาวมองกันขนาดนี้เนยว่าน่าจะมีนะ แฟนเก่าพี่นิสัยเป็นไง”“พี่เรียนหนังสืออย่างเดียวครับ ไม่งั้นคงไม่จบดอกเตอร์ด้วยอายุเท่านี้ ตอนเรียนก็มีคนมาชอบบ้างนะแต่ไม่ถูกใจ พี่เ
“ยังไงก็จะไปขอครับ ป้าอี๊ดวินหน้าปากซอยก็ได้นะ เนยไม่ถือใช่ไหม? พี่สนิทกับแกอยู่แกไปส่งพี่ทุกวันตั้งแต่เรียนมอต้นแล้วครับ แกเหมือนญาติผู้ใหญ่พี่อีกคนแหละ”อัศวินเสื้อส้มคนนี้ไม่ต่างจากนางฟ้าเสื้อส้มของป้องเกียรติ กว่าเขาจะโตมาได้ประสบความสำเร็จมาได้ เณศราไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนจึงขมวดคิ้วมุ่นรอฟัง“พี่ยังไม่เคยเล่าให้ฟังเนอะ นานละพี่เคยประท้วงพ่อแม่ไม่ให้ตังค์ค่าขนมพี่ แกให้พี่นั่งวินฟรีประจำ มีอะไรแกก็คอยช่วยเหลือแบบคนมีน้ำใจน่ะ พอพี่สอบทุนได้ไปเรียนเมืองนอก พี่ไม่เคยลืมแกเลย... แกนิสัยดีนะ”“เอ้า! แม่ก็มีแต่ลูกจะให้วินมอเตอร์ไซค์ไปเป็นแม่เนี่ยนะ”“แม่ทำท่าว่าจะไม่ไปนี่ครับ ผมว่าถ้าผมไปถามพ่อก็คงตอบแบบเดียวกัน เนยว่าไงล่ะครับ?” เขาถามเธอว่ามันจะเป็นไปได้ไหมทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้วเหมือนฉีกหน้าคุณแม่ยังไงยังงั้น“เนยแล้วแต่พี่ป้องค่ะ พ่อแม่เนยไม่ถือค่ะ”“แล้วค่าสินสอดแพงไหมล่ะ? ช่วงนี้แม่ต้องเก็บเงินก่อนนะลูก ไว้ค่อยแต่งอีกสักสามปี รอเศรษฐกิจดี ๆ กว่านี้นะ”คุณนายของบ้านไม่พอใจกับการที่ฝ่ายหญิงเป็นแค่ลูกสาวข้าราชการธรรมดา ถึงลูกชายคนโตตัดขาดทุกคนไปนานแล้วก็เพราะอย่างนี้ เพราะเรื่อง
ป้องเกียรติไปทำงานเป็นเวลาเช้า-บ่ายตามชั่วโมงสอน เลิกงานแล้วก็ตรงไปร้านกาแฟตรงเวลาเช่นกัน เว้นเสียแต่ว่าวันไหนหยุดถึงอยู่แต่ในห้องพัก แต่วันไหนไปมหา’ลัยจะแวะไปส่งแฟนสาวก่อนทุกเช้าเป็นกิจวัตรใช้ชีวิตเหมือนคู่รักทั่วไป มีโกรธงอนกันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องบ้าง มีนอกใจให้โดนบ่นแค่เรื่องกาแฟ บางครั้งเขาจำเป็นต้องซื้อที่ร้านแบรนด์ใหญ่ร้านดังใต้ตึกคณะด้วยความใกล้กว่า สะดวกกว่าอย่างวันนี้ ทางมหา’ลัยจัดอบรมพิเศษมีวิทยากรและคุณหมอมาให้ความรู้เรื่องเพศแก่นักศึกษา“ห้าแก้วนะครับ อันนี้หกแก้ว” ทวนบอกพลางกวาดสายตามองกาแฟ น้ำผลไม้ปั่น โกโก้เย็นว่าครบถ้วน ข้างกายมีนักศึกษาหนุ่มผู้ชื่นชอบการช่วยเหลืองานอาจารย์ งานเอาหน้าล่ะก็ต้องยกให้นายเปี๊ยกกับแก๊งสาว ๆ“อาจารย์เลี้ยงจริงหรือคะ? ทำไมวันนี้ซื้อร้านนี้... ไม่ซื้อร้านหน้ามอ...”“ครับ เอาไปให้อาจารย์มนนะ แล้วก็ผู้ช่วย คุณหมอ...”“อาจารย์... ผมถาม...”“ไม่ต้องถามเลยนายเปี๊ยก ไปเลย ๆ... ไปเถอะไม่บอกหรอก” เขายิ้มแล้วส่งน้ำในถุงหิ้วให้หนุ่มสาว ในสายตาของหลายคน อาจารย์หนุ่มกับนักศึกษาขี้เล่นคนดังประจำคณะคอมฯ ดูสนิทสนมกันดีกว่าเมื่อก่อน“ว้าา! ว่าจะชวนเพื่อน
ฉีกยิ้มกว้างหวานให้เห็นไรฟันขาวครบทุกซี่ คนขับหันไปมองรอยยิ้มที่ตกเขาได้ตั้งแต่แรกเห็นนั่นแหละ แต่ปากดันไม่ตรงกับใจยังทำหน้าแหยง“ไม่สวยเลยอี๋... วันหลังอย่าให้ชุดนี้อีกนะเดี๋ยวนี้อ้วนพุงออกอะครับ คนเขามองพุงรู้ไหมเขาไม่ได้มองเจ้าของร้านสวย สงสัยว่าทำไมอ้วนขึ้นต่างหาก”“ฮะ? เนยอ้วนเหรอ...” เณศราเริ่มก้มหน้าดูสรีระตัวเอง หน้าท้องของเธอคงไม่ได้ยื่นยาวขนาดเขาว่า แค่โผล่ออกมาเล็กน้อยหลังรับประทานอาหารตามธรรมชาติคนทั่วไปแค่นั้น แต่นั่นก็ทำคนรักสวยรักงามเสียความมั่นใจสำเร็จ“เมื่อก่อนผอมกว่านี้นะ น้ำหนักขึ้นหรือเปล่า?”“อืม... ใส่สเตรย์รัดหน้าท้องก็น่าจะได้นะ ชุดแบบพอง ๆ หน่อยคงไม่เห็นว่ามีพุงมากมาย”“ไม่เอาลายดอก”“ตัวอื่นก็ได้ค่ะ วุ่นวายกับเสื้อผ้าเนยจริงนะ” ว่าตาขวาง เมื่อมาถึงจุดหมายในอีกไม่นานลานจอดรถโล่งเงียบในช่วงหัวค่ำ ชั้นใต้ดินไม่มีรถจอดมากนัก คนขับก็เลือกทำเลได้ดีห่างจากลิฟต์ไปเล็กน้อย นัยน์ตาคู่คมใต้แว่นกรอบหนาประกายวูบวาบพาไรขนลุกชูชัน เธอกำมือทั้งสองบนหน้าตักอย่างเกร็ง ๆ เพราะว่าเขาไม่ปลดล็อกประตูรถยังไม่ดับเครื่องยนต์“พี่ป้อง... จะทำอะไรคะ?”“ทำอะไรก็ได้ครับไม่มีคนหรอก... ท
ใบหน้าสดสวยบึ้งตึงเหมือนโกรธงอนกันสักเรื่องซึ่งเขารู้ จึงผละจากคนตัวเล็กไปคว้าผ้าเปียกหมาดบนเคาน์เตอร์ครัวมาโยนลงบนโต๊ะรับประทานอาหารอย่างเอาเรื่องเอาราว“เอาหน่อยสิ แต่ว่าต้องทำงานให้เนี้ยบกว่านี้นะ ทำไมเช็ดโต๊ะเช็ดครัวไม่สะอาด ยังมีคราบแม็กกี้เนี่ย...”“ไหนคะ?” ถามหน้ายุ่ง มือหยิบผ้าสีขาวได้ก็ส่ายคอมองตามปลายนิ้ว เพื่อหารอยคราบบนผ้าปูโต๊ะลายดอกไม้น่ารัก เณศราซื้อมาคลุมโต๊ะให้เจ้าของห้องเองเพราะมันสามารถมองหาคราบเปื้อนได้ง่ายแต่ในเมื่อมันไม่มี...“ตรงนั้นไง เมื่อกี้พี่เช็ดไปแล้วเนยดู...”“ไม่เห็นมีเลย เนยว่าเนยเช็ดหมดแล้วนะ”“ก้มต่ำ ๆ ดูให้ดีครับ”ก้มต่ำ! เธอหันขวับมองคนข้างหลังทันที แต่พอจะอ้าปากต่อว่า ผู้ชายตัวโตคว้าหมับจับสันคอเธอกดลงบนโต๊ะไม่ต่างจากว่าเธอเป็นผู้ร้าย ปลายเท้าเรียวทั้งสองจิกลงบนพื้นพยายามเขย่งตัว หน้าอกอวบอัดและแก้มของเธอเบียดบี้ไปกับกระจกเย็นเฉียบ“พี่ป้อง... ทำอะไรคะ?”“ช่วยเมียเช็ดโต๊ะ ตรงนั้นไง...”“...”มือเรียวกำผ้าเปียกหมาดแน่นจนน้ำกระเซ็นเปื้อนบนโต๊ะอีกระลอก และก็คงจะไม่ได้เช็ด ทันทีที่แผ่นหลังบางเย็นวาบตามอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ เธอได้ยินเสียงปลดซิบไว ๆ
งานหมั้นเช้าแต่งเย็นดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ด้วยความที่บ่าวสาวไม่ได้มีญาติเยอะ มีแขกมาร่วมงานไม่ถึงห้าสิบคน รวมเพื่อนร่วมชั้นสมัยเรียนอีกไม่กี่คน เรียกได้ว่าเป็นงานผูกข้อมือเล็ก ๆ ไม่ใช่งานแต่งเอิกเกริกซุ้มประตูดอกไม้ เพลงรักยอดฮิตในยุค 70s เคล้าคลอไปกับเสียงคลื่นลมของรีสอร์ตริมทะเล แม้แต่อาหารและสตรอว์เบอร์รีชีสเค้กก้อนโตยังตามใจคู่บ่าวสาว เดรสลายลูกไม้ชายลากยาวบนผืนทรายเข้ารูปทรงสมส่วน เสื้อสีขาวสะอาดคอลึกผ่าหลังเผยให้เห็นผิวขาวสวยทำเจ้าบ่าวตากระตุกน้อย ๆ ทว่าอาจารย์หนุ่มก็ลืมมันไปได้ เมื่อวันนี้เป็นวันสำคัญวันที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะสวยที่สุดในชีวิตใบหน้าหวานงามแต่งแต้มเครื่องสำอางอ่อนใต้รอยยิ้มเอียงอายที่มีให้ชายเพียงคนเดียว หน้าท้องเนินนูนเพียงเล็กน้อยคงไม่มีใครสังเกตเห็น ป้องเกียรติกำลังพึงพอใจกับบรรยากาศนี้ ขณะที่เธอบอกกับทุกคนผ่านไมโครโฟนว่ามากันสามคน พ่อแม่ลูก “เธอเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุด เป็นคุณแม่ที่ผมรักที่สุด ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมอวยพรให้ผมกับเนยนะครับ”เสียงปรบมือดังในลานกว้าง เธอสวย... ขนาดที่เขาละวางตาไปไม่ได้เสียเลย เขาจับจูงมือเธอไปบอกลาทุกคนหลังงานเลี้ยงสิ้นสุดลงญาติทา
เหตุการณ์สะเทือนขวัญยังหลอกหลอนยามหลับฝัน บางคืนเธอยังสะดุ้งตื่นกลางดึกด้วยความหวาดกลัว ทว่าพอพบสบตาคม อ้อมแขนอุ่นกลิ่นหอมสะอาด กลับแน่ใจถึงความปลอดภัยว่าไม่มีใครมาทำร้ายเธอได้ “พี่ป้อง... ตัวหอมจังค่ะ ตัวพี่อุ่นมาก เนยนอนหลับสบายจัง” “เนยก็หอมครับ ทำพี่หลับไม่สบายสักวันถ้าไม่ได้อึ้บเมีย” เงียบไป ใต้รอยยิ้มกรุ้มกริ่ม มือหนาลูบศีรษะน้อย ลากวนเข้าไปในเส้นผมสีน้ำตาลสลวยอย่างย่ามใจ ในความเงียบงันของห้องอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ ต่างคนไร้เสื้อผ้าแม้สักชิ้นห่อหุ้มกาย คลุมไว้ด้วยผ้านวมหนาในอ้อมกอดกัน เป็นเรื่องปกติที่เธอจะปรารถนาในตัวเขามากขึ้นทุกวัน ยิ่งเป็นคุณแม่ท้องอ่อนฮอร์โมนทำร้าย “เนยต้องพักผ่อนนะ เดี๋ยวลูกไม่โตทำไง” “โตซี พี่ฉีดสารเร่งโตให้ทุกวัน” คนทะลึ่งก็อย่างนั้น เขาก้มหน้าลงประทับจุมพิตบนขมับเนียน ผุดรอยยิ้มกว้างหวานเต็มวงหน้าใต้โคมไฟสลัว “เอ... ตัวเล็ก... ผู้หญิงหรือผู้ชายนะ?” “จะรู้ไหมคะ? คงเป็น... ผู้ชายมั้ง...” “พี่อยากให้ชื่อฟ่อน เงินฟ่อน ชิฟฟ่อน ชื่อเล่นนะเจ้าลูกฟ่อน... ถ้า
เพราะมีคนเผลอทำตัวเปิ่น ๆ ในโรงพยาบาล ส่งเสียงดังลั่นห้องฉุกเฉินให้คุณพยาบาลหัวเราะกันยกใหญ่ แต่ก็เข้ามาแสดงความยินดีพร้อมผลตรวจของคุณหมอ เซ็นอนุญาตให้ผู้ป่วยกลับบ้านอย่างสบายใจ เณศราไม่รู้เอาหน้าไปไว้ที่ไหน เธอดีใจที่จะได้เป็นคุณแม่ มีลูกน่ารัก ๆ สักคนกับว่าที่สามีไม่สนเรื่องแต่งก่อนแต่งหลังหรอก ในขณะที่ยังมีเรื่องไม่สบายใจพอได้ยินบางคนโทรไปด่าน้องสาวยกใหญ่ ผ่านลำโพงในรถยนต์ สายประชุมครบพ่อแม่พี่น้อง แม้แต่พ่อแม่ของเธอเองเขาโทรบอกให้ทุกคนรับทราบวีรกรรมของคนคนเดียว ที่ไม่สมควรได้รับการให้อภัย“ก็ให้ท้ายกันไงครับถึงได้โตมาสันดานแบบนี้ ผมไม่ยอมแล้วผมจะไม่ถอนฟ้องแทนเมีย ไม่รับค่าเสียหาย ให้อีสองคนนั้นไปนอนคุกอย่างเดียว อย่าคิดว่ามีเงินแล้วทำได้ทุกอย่าง ผมมีเพื่อนเป็นทนาย นักโซเชียลเยอะเหมือนกัน ดี... จะได้เอาปี๊บคลุมหัวกันให้หมดทั้งบ้านเวลาออกไปข้างนอก ขอให้หุ้นตก บริษัทฉิบหายย่อยยับนะครับ”เป็นชุด! มากกว่านี้ยังมีเรื่องของหุ้นส่วน เงินหมกเม็ด ภาษีที่จ่ายไม่ครบ คนขุดได้ก็ขุดมาทั้งเรื่องและเขาพร้อมจะแฉทุกอย่างให้พินาศย่อยยับ จนคุณพ่อขอไกล่เกลี่ยยอมขอว่าเขาอยากได้อะไร คนปากหนัก
ห้องเงียบเชียบให้ความรู้สึกเงียบเหงากว่าทุกวัน อาจารย์หนุ่มรออาหารมื้อเย็นจากแม่ครัวที่ยังไม่กลับบ้านสักที แต่งตัวเรียบร้อยด้วยเชิ้ตสีดำสนิทอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเครื่องใหญ่ งานสอนก็ค่อนข้างยุ่ง ต้องตรวจงานนักศึกษาไปด้วยระหว่างอธิบายการเขียนคำสั่งคอมพิวเตอร์ หลายอย่างวนเวียนในหัว ขมวดคิ้วมุ่นตั้งใจทำงานตลอดเวลาหลายคนในคลาสตั้งใจเรียนผิดปกติจนหมดชั่วโมงเรียน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กแสบ ทำขยิบตาผ่านกล้องเหมือนมีปัญหาสักอย่างแต่ไม่กล้าพูด ส่งเป็นข้อความมาบอกแทน...‘She’s in Danger!’บอกใบ้มาเป็นภาษาอังกฤษให้ตีความอีกต่างหาก คนเป็นอาจารย์สงสัยอยู่พักหนึ่ง นึกหงุดหงิดคนส่งข้อความมาให้เป็นปริศนาคาใจ ก่อนตกใจเป็นอย่างมากแทบทำห้องเรียนล่ม เรื่องใหญ่กว่าคือคาบสอนนี้เป็นบันทึกเทปย้อนหลังซึ่งเขาไม่สามารถปิดโทรศัพท์กลางกลางคันได้เป็นโชคดีที่แก๊งนายเปี๊ยกดันออกจากห้องเรียนไปก่อน ส่วนคนสอนทำได้แต่นับเวลาถอยหลัง ภาวนาให้บันทึกการสอนจบเร็ว ๆ พูดจาติดขัดเพราะจิตใจไม่อยู่กับเนื้อตัวป้องเกียรติพอคาดการณ์ได้ว่าเกิดเรื่องอะไร ด้วยความที่เขาคอยดูพฤติกรรมของอีกคนอยู่ตลอด เธอมีท่าทีแปลก ๆ เมื่อคืนนี้ ทำท่
ถ้าผัวฉันย่องไปหาแกที่ร้านอีกครั้งเดียว แกได้เจอฉันตัวเป็น ๆ แน่นังเนย เมมเบอร์นี้ไว้ด้วยนะเพราะฉันไม่เตือนใครเป็นครั้งที่สอง‘รวิตา’เณศราได้รับข้อความจากคนที่ไม่รู้ว่าเอาเบอร์ของเธอมาจากไหน เธอไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใครจึงใจคอไม่ค่อยดี นอนพลิกไปพลิกมาบนท่อนแขนอุ่นที่หนุนนอนต่างหมอนทุกคืน หน้าตาครุ่นคิดด้วยความเป็นกังวล ตื่นมาแล้วออกไปทำธุระประปรัง เดินซื้อของจากร้านสะดวกซื้อ กลับเข้าบ้านมาสติไม่อยู่กับเนื้อตัวนัก ขณะที่คนเก่าส่งข้อความมาบอกกับเธอแค่...‘พี่อยากคุยกับเนยนะ’ทั้งที่บอกชวนผ่านเพื่อนสาวเรื่องงานผูกข้อมือมะรืนนี้ ประเด็นอื่นขอไม่พูดคุยกันอีก แปลกที่คนมีเหตุผลเป็นนักธุรกิจ เป็นลูกชายที่ดีของบ้านมาโดยตลอดกลับไม่พยายามเข้าใจเสียเลยจะอย่างไร เธอก็มีไม้กันหมาที่ดี ติดกว่าคนนี้ไม่มีแล้วในชุดคลุมอาบน้ำบนร่างกำยำส่งกลิ่นหอมอ่อน ลอยผ่านจมูกไป อาจารย์หนุ่มหุ่นล่ำคอยเดินยั่วยวน อวดสรีระเรือนกายของเขาที่อุตสาหะทำมาอย่างยากลำบาก บริโภคอกไก่ปั่นด้วยท่าทางกล้ำกลืนฝืนทน ซึ่งคนอยู่ด้วยกันยังไม่รู้ว่าเขาจะทำมันไปเพื่ออะไร ในเมื่อเธอยังไงก็รักเขาหมดใจไปแล้วอ้วนพุงพลุ้ย ก็ยังรัก หัวล้านแก
คนอยู่ด้วยกันทุกวันคงสังเกตเห็น เธอแค่ไม่รู้ว่าเขาจับอะไรตลอดเวลา“เนยต้องใส่ไว้ก่อนนะ คนเขาจะได้รู้ว่ามีเจ้าของแล้ว พี่ไม่ชอบเวลาใครมองเนย พี่หวง...”“แต่เนยชอบค่ะ เวลาพี่ป้องทำตาเขียว ๆ น่ะ”“ชอบโดนจัดหนักด้วยใช่ไหม?”“ไม่รู้ค่ะ...” เสียงหัวเราะคิกคักดัง หัวใจดวงน้อยเต้นรัวแรง เมื่อเขาบรรจงสวมลงบนนิ้วนางข้างซ้าย ชักชวนให้ดูลอยสลักบริเวณรอบตัวแหวนN & P ดูจะเป็นไอเท็มคู่รักแนวแฟชั่นมากกว่าแหวนเพชรเม็ดโตในงานแต่งอลังการ ที่เคยเห็นบ่าวสาวสวมให้กัน“ขอบคุณนะคะพี่ป้อง... เนยจะรักษามันให้ดีทั้งสองชิ้นนี้ สร้อยกับแหวนของพี่... ชอบมากเลยค่ะ”เธอชอบมันที่สุด... ชอบผู้ชายคนนี้ที่สุดเณศราเม้มปิดริมฝีปากของเธอสนิทแน่น หยดน้ำใสเอ่อคลออย่างอดกลั้นไม่ไหว ก่อนที่ร่างสูงในเชิ้ตสีดำสนิทจะโน้มตัวลงหาเธอเชื่องช้า ประกบเรียวปากอิ่มงามแผ่วเบาแล้วผละออกประทับจุมพิตบนขมับเนียน“พี่รักเนยนะ”คนมีความรักมักหน้าเด็กทุกคน มองอะไรก็เป็นสีชมพู เห็นจะจริงกล่องข้าวน่ารักในแต่ละวันของเณศราประดิดประดอยด้วยผักหลากสีสัน เธอใช้ตราปั๊มลายตุ๊กตาในการทำอาหารเช่นข้าวญี่ปุ่นหุงร้อนเป็นหมีน้อย ห่มคลุมด้วยไข่เจียว ราดน้ำซอส
ป้องเกียรติไม่ทำให้คนตัวเล็กผิดหวัง แม้แต่ช้อนตัวเบา ๆ เข้าออกช่องทางอ่อนนุ่มที่โอบรัดแก่นกาย มันกลืนกินตัวตนของเขาได้ดีเยี่ยมไม่ต่างจากว่าเป็นครั้งแรกของกันและกันบางครั้งก็ดิบเถื่อน! เมื่อร่างกายได้รับการเติมเต็มหลังห่างหายกันไปไม่กี่วัน แต่ยังคงอ่อนหวาน สอดประสานหลังมือเรียวที่จิกกำแน่น หลังแอ่นก้นรอรับความแข็งขึง ขยันขยับสะโพกสอบถี่ระรัว ปล่อยให้มังกรร้ายผลุบเข้าออกอย่างไม่ละวางจังหวะลง จะให้คนใต้ร่างได้หายใจหายคอยังไม่มีเณศราได้รับจุมพิตจากเขาที่ไม่เคยรู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย หน้าขาสั่นเทากระแทกกับขอบโต๊ะ หากว่าเธอทำท่าจะลุก คงถูกผลักลงให้นอนราบบนกินข้าว มือหนาปัดป่ายของกระเด็นไปคนละทิศละทาง ทั้งถุงพลาสติก ขวดแม็กกี้ เขาไม่สน! ว่าอะไรจะหล่นเละเทะเหมือนคนอดอยากปากแห้งมาแรมปีแววตาคู่สวยเอ่อคลอหยดน้ำใส ช่องท้องวูบไหวตามเสียงเสียบสับของเนื้อกระทบกันพาอารมณ์ของเธอถึงขีดสุด ถึงว่าที่สามีจะดุดันป่าเถื่อนสักหน่อย เธอกลับนึกชอบพอในความเป็นตัวเขา สะโพกงามงอนจิกเกร็ง“พี่ป้องขา... เนยไม่ไหวค่ะ!”“ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย... ทำไมเสร็จไวจังครับ อืม... อูยส์ เนยรัดพี่แรงแบบนี้ไม่ดีนะ”คนพูดจาทะล
ใบหน้าสดสวยบึ้งตึงเหมือนโกรธงอนกันสักเรื่องซึ่งเขารู้ จึงผละจากคนตัวเล็กไปคว้าผ้าเปียกหมาดบนเคาน์เตอร์ครัวมาโยนลงบนโต๊ะรับประทานอาหารอย่างเอาเรื่องเอาราว“เอาหน่อยสิ แต่ว่าต้องทำงานให้เนี้ยบกว่านี้นะ ทำไมเช็ดโต๊ะเช็ดครัวไม่สะอาด ยังมีคราบแม็กกี้เนี่ย...”“ไหนคะ?” ถามหน้ายุ่ง มือหยิบผ้าสีขาวได้ก็ส่ายคอมองตามปลายนิ้ว เพื่อหารอยคราบบนผ้าปูโต๊ะลายดอกไม้น่ารัก เณศราซื้อมาคลุมโต๊ะให้เจ้าของห้องเองเพราะมันสามารถมองหาคราบเปื้อนได้ง่ายแต่ในเมื่อมันไม่มี...“ตรงนั้นไง เมื่อกี้พี่เช็ดไปแล้วเนยดู...”“ไม่เห็นมีเลย เนยว่าเนยเช็ดหมดแล้วนะ”“ก้มต่ำ ๆ ดูให้ดีครับ”ก้มต่ำ! เธอหันขวับมองคนข้างหลังทันที แต่พอจะอ้าปากต่อว่า ผู้ชายตัวโตคว้าหมับจับสันคอเธอกดลงบนโต๊ะไม่ต่างจากว่าเธอเป็นผู้ร้าย ปลายเท้าเรียวทั้งสองจิกลงบนพื้นพยายามเขย่งตัว หน้าอกอวบอัดและแก้มของเธอเบียดบี้ไปกับกระจกเย็นเฉียบ“พี่ป้อง... ทำอะไรคะ?”“ช่วยเมียเช็ดโต๊ะ ตรงนั้นไง...”“...”มือเรียวกำผ้าเปียกหมาดแน่นจนน้ำกระเซ็นเปื้อนบนโต๊ะอีกระลอก และก็คงจะไม่ได้เช็ด ทันทีที่แผ่นหลังบางเย็นวาบตามอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ เธอได้ยินเสียงปลดซิบไว ๆ
ฉีกยิ้มกว้างหวานให้เห็นไรฟันขาวครบทุกซี่ คนขับหันไปมองรอยยิ้มที่ตกเขาได้ตั้งแต่แรกเห็นนั่นแหละ แต่ปากดันไม่ตรงกับใจยังทำหน้าแหยง“ไม่สวยเลยอี๋... วันหลังอย่าให้ชุดนี้อีกนะเดี๋ยวนี้อ้วนพุงออกอะครับ คนเขามองพุงรู้ไหมเขาไม่ได้มองเจ้าของร้านสวย สงสัยว่าทำไมอ้วนขึ้นต่างหาก”“ฮะ? เนยอ้วนเหรอ...” เณศราเริ่มก้มหน้าดูสรีระตัวเอง หน้าท้องของเธอคงไม่ได้ยื่นยาวขนาดเขาว่า แค่โผล่ออกมาเล็กน้อยหลังรับประทานอาหารตามธรรมชาติคนทั่วไปแค่นั้น แต่นั่นก็ทำคนรักสวยรักงามเสียความมั่นใจสำเร็จ“เมื่อก่อนผอมกว่านี้นะ น้ำหนักขึ้นหรือเปล่า?”“อืม... ใส่สเตรย์รัดหน้าท้องก็น่าจะได้นะ ชุดแบบพอง ๆ หน่อยคงไม่เห็นว่ามีพุงมากมาย”“ไม่เอาลายดอก”“ตัวอื่นก็ได้ค่ะ วุ่นวายกับเสื้อผ้าเนยจริงนะ” ว่าตาขวาง เมื่อมาถึงจุดหมายในอีกไม่นานลานจอดรถโล่งเงียบในช่วงหัวค่ำ ชั้นใต้ดินไม่มีรถจอดมากนัก คนขับก็เลือกทำเลได้ดีห่างจากลิฟต์ไปเล็กน้อย นัยน์ตาคู่คมใต้แว่นกรอบหนาประกายวูบวาบพาไรขนลุกชูชัน เธอกำมือทั้งสองบนหน้าตักอย่างเกร็ง ๆ เพราะว่าเขาไม่ปลดล็อกประตูรถยังไม่ดับเครื่องยนต์“พี่ป้อง... จะทำอะไรคะ?”“ทำอะไรก็ได้ครับไม่มีคนหรอก... ท