เนื่องจากร้านกาแฟ ปิดประมาณ 2 ทุ่ม อันนา เลยได้มีโอกาสทำงานพิเศษที่นี่ต่อหลังจากที่เธอเลิกเรียน
เธอทำงานเป็นพนักงานพาร์ทไทม์อยู่ที่ร้านนี้แห่งนี้ ซึ่งร้านกาแฟร้านนี้อาจไม่ได้ใหญ่โตหรูหรา แต่เต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่นและเสียงพูดคุยอย่างเป็นกันเองจากพนักงานและลูกค้าประจำ
เมื่อหญิงสาวมาถึงก็ยิ้มให้เจ้าของร้านและเพื่อนร่วมงาน ก่อนจะเริ่มงานของตัวเอง
เธอจะต้องทำงานพิเศษหลังเลิกเรียน เนื่องจากต้องการช่วยแบ่งเบาภาระของพ่อและแม่ แต่เธอก็ไม่เคยละเลยเรื่องการเรียน
ขณะที่เธอกำลังจัดเรียงขนมบนตู้กระจกอย่างตั้งใจ เสียงเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ก็ดังขึ้นจากด้านนอก มันแทรกผ่านบรรยากาศอันเงียบสงบของร้าน ก่อนจะค่อย ๆ แผ่วลงราวกับกลืนหายไปกับสายลม และในที่สุด ทุกอย่างก็สงบนิ่งเมื่อเครื่องยนต์ดับลง
เธอชะงักมือไปชั่วครู่ รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนจาง ๆ ที่ยังค้างอยู่ในอากาศ และเพียงไม่นาน ร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มที่คุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าประตูร้าน
อันนา เงยหน้ามอง และต้องตกใจเมื่อเห็นพีท เดินเข้ามา
“นี่นายมาทำอะไรที่นี่? ฉันคิดว่าฉันหนีพ้นนายแล้วนะ นายยังจะตามฉันมาอีกหรอเนี่ย เราไม่ได้อยู่ในเวลาทำโครงการวิจัยกันนะ”
อันนา ไม่คิดว่า พีท จะตามเธอมาถึงร้านกาแฟที่เธอทำงานอยู่
“ฉันมาหากาแฟดื่ม” พีท ตอบหน้าตาย
ชายหนุ่มเดินไปนั่งที่โต๊ะใกล้ ๆ เคาน์เตอร์ แบบสบายอารมณ์
ที่แท้เขาไม่ได้ตามเธอต่อ เพราะกลับไปเอารถมอเตอไซด์คู่ใจ เพื่อจะขับมาหาเธอที่ร้านกาแฟ
อันนา เหลือบตามองเขาอย่างสงสัย
“นายไม่เคยมาแถวนี้นี่”
“ก็ลองเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง” พีท ตอบเรียบ ๆ ด้วยเสียงทุ้มนุ่มลึก
เขาเสยผมขึ้นอย่างแผ่วเบา ปลายนิ้วลากผ่านเส้นผมอย่างเป็นธรรมชาติ ท่าทางเรียบง่ายแต่กลับดูมีเสน่ห์เหลือเกิน ราวกับทุกอิริยาบถของเขาสามารถสะกดสายตาของผู้คนรอบข้างได้
บรรยากาศในร้านกาแฟเต็มไปด้วยเสียงกระซิบกระซาบของเพื่อนร่วมงานที่แอบมองพีทเป็นระยะ ๆ ทุกคนต่างจับจ้องชายหนุ่มที่มาด้วยท่าทีสงบนิ่งแต่ดูโดดเด่นเกินกว่าจะเป็นลูกค้าทั่วไป
เขาเอนตัวพิงพนักเก้าอี้อย่างสบายใจ รู้สึกได้ถึงสายตาอยากรู้อยากเห็นจากเพื่อนพนักงานคนอื่น ๆ
“จะรับอะไรดีคะ คุณลูกค้า?” อันนา เดินมา เพื่อจดออเดอร์และยังคงจ้องเขาด้วยความระแวง
พีท นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้น “ขอ...ลาเต้ร้อน”
“รับอะไรเพิ่มไหมคะ คุณลูกค้า?”
“ครับ” พีท ยิ้มบาง “ขอเบเกอรี่เพิ่มด้วยนะ ให้เธอแนะนำว่ามีอะไรอร่อย สั่งให้ฉันสัก 2 เมนูนะ” ชายหนุ่ม ไม่พูดแค่นั้นเขายังแกล้งยื่นหน้ามาพูดใกล้ๆ เธอ
อันนา ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจ
“งั้นรอแป๊บนึงนะคะคุณลูกค้า”
เธอบอกพร้อมเดินกลับไปที่เคาน์เตอร์
ในขณะที่นิดหน่อยเพื่อนร่วมงานร่างตุ้ยนุ้ย เป็นคนที่มีอัธยาศัยและอารมณ์ดีมาก เธอเป็นพนักงานที่ทำงานประจำอยู่ที่ร้าน
และ
พี่ลิน พนักงานอีกคน รีบกรูเข้ามาหาหญิงสาวทันที
“อันนา! จะไม่อธิบายอะไรหน่อยเหรอ? ใครกันอ่ะ โคตรหล่อเลย” นิดหน่อยเขย่าตัว อันนา อย่างแรง
แรงเขย่าของนิดหน่อยทำให้ร่างบางๆ ของหญิงสาวสั่นครอน
นิดหน่อยทำหน้าตื่นเต้น “นี่มันละครโรแมนติกชัด ๆ”
“บ้าเหรอ นิดหน่อย” อันนา กระซิบตอบ “เขาเป็น...แค่คนรู้จักน่ะ”
“คนรู้จักที่หล่อขนาดนี้น่ะเหรอ? ” พี่ลิน หรี่ตาถาม
“บอกมาตรง ๆ ดีกว่า เขาเป็นแฟนใช่ไหม? ” พี่ลินถามแบบไม่อ้อมค้อม
“ไม่ใช่!คร้าพี่ลิน” อันนา ส่ายหน้าทันที
แต่ก็อดไม่ได้ที่จะมองไปทางพีทอีกครั้ง เขายังคงนั่งอยู่ที่เดิม ท่าทางสงบนิ่งราวกับไม่มีอะไรผิดปกติ
เมื่อของพร้อมเสริ์ฟ…..
อันนา วางแก้วลาเต้ร้อน และเบเกอรี่ ลงตรงหน้า พีท พลางถอนหายใจเฮือกหนึ่ง
เธอควรจะชินกับความกวนประสาทของเขาได้แล้ว
“นี่ค่ะ ลาเต้ร้อนและเบเกอรี่ คุณลูกค้า" เธอพยายามทำเสียงเป็นทางการที่สุด หวังจะตัดบทสนทนา
แต่ พีท กลับไม่แม้แต่จะมองแก้วกาแฟตรงหน้า ดวงตาคมกริบของเขายังจับจ้องที่เธออย่างมั่นคง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบง่ายแต่หนักแน่น
“วันนี้ฉันจะรอเธอ จนกว่าเธอจะทำงานร้านกาแฟเสร็จ แล้วไปกินข้าวกับฉันหน่อย ฉันจะพาไปเปลี่ยนบรรยากาศ"
ตึก ตัก — ตึก ตัก
หัวใจของอันนาสะดุดจังหวะไปชั่วขณะ คำพูดของเขาไม่ได้ฟังดูเหมือนการขอร้องเลยสักนิด แต่เป็นการบอกให้รู้ว่ามันจะต้องเป็นแบบนั้น ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้
เธอขมวดคิ้ว พยายามไม่แสดงอาการหวั่นไหว
"นี่นาย… สั่งฉันเหรอ?”
พีท ยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ "ถ้าเธออยากจะมองแบบนั้น ก็แล้วแต่"
เธออ้าปากจะเถียง แต่กลับพูดไม่ออกไปชั่วขณะ เพราะสายตาของเขาไม่ได้มีแค่ความกวนประสาทอย่างที่เธอเคยคิด แต่มันมีอะไรบางอย่างที่เธอไม่กล้าจะตีความ
"นาย…" เธอเรียกเสียงเบา
เขาโน้มตัวไปข้างหน้า วางแขนลงบนโต๊ะก่อนจะยิ้มบาง ๆ ให้เธอ
อันนา เม้มริมฝีปากแน่น รีบเบือนหน้าหนี
บ้าจริง… ผู้ชายคนนี้กำลังทำให้เธอหวั่นไหวอีกแล้ว
เสียงเครื่องบดกาแฟทำงานเป็นจังหวะ….
ขณะที่ อันนา พยายามทำตัวให้ยุ่งเข้าไว้ หวังจะให้คนที่นั่งรออยู่มุมร้านเบื่อหน่ายและจากไปเอง แต่ดูเหมือนเธอจะประเมินความดื้อด้านของ พีท ต่ำเกินไป
ชายหนุ่มนั่งไขว่ห้างอยู่ที่โต๊ะตัวเดิม มุมปากประดับด้วยรอยยิ้มบาง ๆ แววตาคมจับจ้องมาที่เธอโดยไม่คิดจะหลบซ่อนความตั้งใจแม้แต่น้อย ทำให้เธอเริ่มรู้สึกหงุดหงิด
"นี่นาย ฉันไม่ว่าง ฉันต้องทำงาน และเลิกดึก" เสียงตอบเสียงที่แข็งขึ้น เหมือนเธอตั้งใจจะปฏิเสธให้ชัดเจน
"งั้นฉันก็จะรอจนกว่าเธอจะเลิกงาน" ชายหนุ่มตอบกลับทันควัน ไม่มีท่าทีจะยอมแพ้แม้แต่นิดเดียว
อันนา ถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจ มือกำผ้าเช็ดโต๊ะแน่นขึ้นกว่าเดิม
พีท ยักไหล่ราวกับไม่ใส่ใจอะไรทั้งนั้น
หญิงสาว เม้มปากแน่น
นี่เขาคิดว่าตัวเองเป็นใครกันถึงกล้าทำแบบนี้? ทำไมต้องมายุ่งกับเธอขนาดนี้ด้วย?
เธอไม่เข้าใจเลยจริง ๆ แต่สิ่งที่แน่ใจคือ...วันนี้ คงไม่มีทางกำจัดเขาไปได้ง่าย ๆ แน่!
เวลาผ่านไป…….
ร้านเริ่มเงียบลง ลูกค้าเริ่มทยอยกลับกันไปจนเหลือเพียงไม่กี่คน
พีท ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม
เขาดูสบายใจราวกับร้านนี้เป็นบ้านของเขาเอง
เธอพยายามไม่มองไปที่เขา แต่ก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าแววตาคู่นั้นยังคงเฝ้ามองเธออยู่ตลอดเวลา
"นี่ นายจะนั่งอยู่แบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่?" อันนา ถามในที่สุด ปากเริ่มสั่นเล็กน้อยเพราะความหงุดหงิดปะปนกับความประหม่า
"จนกว่าเธอจะเลิกงานไง" เขาตอบกลับอย่างง่ายดาย
"แต่มันดึกแล้วนะ นายควรกลับไปได้แล้ว"
ชายหนุ่ม ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู ก่อนจะเงยหน้ามองเธอด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ "ฉันรอได้ ไม่เห็นเป็นไรเลย"
อันนา เม้มปากแน่น เธอรู้ดีว่าถ้าเธอไม่พูดอะไร เขาก็คงจะรอจริง ๆ และไม่ยอมไปไหนแน่ ๆ
"ก็ได้ แต่ฉันไม่รับผิดชอบนะถ้านายจะเบื่อจนหลับไปเอง" หญิงสาวประชดพลางเช็ดแก้วกาแฟที่วางอยู่หลังเคาน์เตอร์
เสียงหัวเราะแต่มีเสน่ห์ของพีทได้ยินเบา ๆ ก่อนที่เขาจะยันตัวลุกขึ้นเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์ บังคับให้เธอเงยหน้าขึ้นสบตา
"ฉันไม่มีวันเบื่อหรอก ถ้าฉันได้นั่งมองเธอ" สายตาคมกริบของชายหนุ่มช่างยั่วยวนยิ่งนัก
หัวใจเธอเต้นแรงขึ้นกว่าเดิม รู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาที่แก้ม เธอรีบหันไปหยิบผ้าขึ้นมาขัดแก้วโดยไม่สนใจเขาอีก พยายามทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"อย่ามาพูดอะไรบ้า ๆ แถวนี้ได้ไหม อายคนอื่นเค้านะ?" เธอพึมพำเสียงเบา
พีท ยิ้มมุมปาก "เธอคิดว่าฉันพูดเล่นเหรอ?"
อันนา ไม่ตอบ เธอเพียงแค่ก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองต่อไป แต่ลึก ๆ แล้ว เธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอกำลังเล่นตลกกับเธออย่างร้ายกาจ
ในที่สุด เวลาปิดร้านก็มาถึง
หญิงสาว ถอนหายใจโล่งอกขณะถอดผ้ากันเปื้อนออก วางมันลงบนโต๊ะใกล้ ๆ
ก่อนจะหันไปเจอ พีท ที่ยังคงยืนพิงเคาน์เตอร์มองเธออยู่
"เลิกงานแล้วใช่ไหม?" เขาถามเสียงนุ่ม
"ใช่ นายควรกลับได้แล้ว" อันนา ตอบ พลางคว้ากระเป๋าสะพายขึ้นมาพร้อมจะเดินหนีจากเขาให้เร็วที่สุด
แต่ก่อนที่เธอจะได้ก้าวออกไป เสียงจากเพื่อนร่วมงานก็ดังขึ้นอย่างจงใจ
"อันนา ไปกินข้าวกับเขาเถอะ! เขาอุตส่าห์รอเธอนานแล้วนะ สงสารจะตายไป เธอปล่อยให้เขานั่งรอนานแล้วนะ" พี่ลิน พูดขึ้น และดูเหมือนจะเข้าข้างชายหนุ่ม
"นั่นสิ ๆ ไม่บ่อยเลยนะที่เราจะเห็นหนุ่มสุดฮอตมายืนรอใครนานขนาดนี้" นิดหน่อยกล่าวสนับสนุน
"ว้าว~ โรแมนติกจังเลย~" นิดหน่อย พูดพลางยกมือขึ้นแตะแก้ม ทำท่าเขินอายเกินจริง ก่อนจะหันไปทำตากรุ้มกริ่มกับพี่ลินที่ยืนข้าง ๆ ราวกับกำลังดูฉากรักหวานซึ้งในละครหลังข่าว
พี่ลิน ที่ถูกลูกเล่นของนิดหน่อยเล่นงานเข้าเต็ม ๆ หัวเราะคิก พลางพยักหน้าเห็นด้วย ดวงตาเป็นประกายซุกซน
"ใช่ ๆ แบบนี้ไม่ไปไม่ได้แล้วล่ะอันนา"
อันนา หันขวับไปมองยังตัวต้นเสียง ที่กำลังหัวเราะคิกคักกันอยู่หลังเคาน์เตอร์ ความร้อนวูบวาบแล่นขึ้นมาถึงปลายหู เธอขมวดคิ้ว กระซิบเสียงดุ
พีท ที่ยืนฟังอยู่นั้นยิ้มบาง ๆ ดวงตาคมแพรวพราวไป
ด้วยแววขบขัน และ…บางอย่างที่ อันนา ไม่กล้ามองนานเกินไป
"เห็นไหม ไม่ใช่แค่ฉันที่คิดว่าเธอควรไปกับฉัน สาวๆ ที่น่ารักทั้ง 2 คนยังเห็นด้วยเลย"
ทั้ง นิดหน่อย และพี่ลิน ได้ยินอย่างนั้น ยิ่งเขินอายเข้าไปใหญ่ ราวกับตนเองเป็น อันนา หญิงสาวที่กำลังถูกชายหนุ่มรูปงามตามตื๊ออย่างไม่ลดละ
อันนา เม้มริมฝีปากแน่น เธออึกอัก มองซ้ายมองขวาหาทางหนี แต่เพื่อนร่วมงานดันพยักหน้าเชียร์รัว ๆ ทำให้เธอแทบจะหมดหนทางถอย
สุดท้ายเธอก็ถอนหายใจออกมาแรง ๆ ยกมือขึ้นแตะแขนตัวเองราวกับพยายามปลอบใจ
"ก็ได้…" เธอพึมพำ เสียงแผ่วราวกับไม่อยากให้ใครได้ยิน "แค่…มื้อเดียวนะ!"
พีท ยิ้มกว้างขึ้น ดวงตาของเขาทอแสงวาววับ ก่อนจะก้าวเข้ามาใกล้เธอจนลมหายใจอุ่นร้อนแผ่วเบาอยู่ข้างแก้ม
"แน่นอน…" เสียงทุ้มต่ำกระซิบชิดข้างหู
"แค่มื้อเดียว"
อันนา กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ไม่กล้าแม้แต่จะหันไปสบตาเขา เพราะเธอรู้ดี… ว่าแววตาของเขาไม่ได้หมายความว่า "แค่ มื้อเดียวเลยสักนิด!"
อันนา ก้าวออกจากร้านกาแฟเพื่อขึ้นซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ของ พีทพีท ยื่นหมวกกันน็อกมาตรงหน้าเธอโดยไม่พูดอะไร หญิงสาวก้มมองมัน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับเขาเล็กน้อยอย่างลังเลหมวกกันน็อกสีดำด้านมีรอยขีดข่วนเล็กน้อยตามการใช้งาน แต่มันดูสะอาดและถูกดูแลอย่างดี กลิ่นจาง ๆ ของน้ำหอมผู้ชายยังติดอยู่ที่ด้านในของมันเธอจ้องมันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะค่อย ๆ ยกขึ้นครอบศีรษะขอบหมวกแตะกับหน้าผากของเธอเบา ๆ ก่อนที่เธอจะค่อย ๆ ดึงมันลงจนพอดีกับศีรษะเธอเอื้อมมือไปจับสายรัดคาง พยายามเกี่ยวมันเข้ากับตัวล็อก แต่นิ้วมือดันสั่นเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเพราะความตื่นเต้นหรือเพราะสายรัดมันแน่นเกินไปกันแน่"อยู่เฉย ๆ เดี๋ยวฉันช่วย"เสียงของ พีท ดังขึ้นใกล้ ๆ ก่อนที่มืออุ่นของเขาจะเอื้อมเข้ามาจัดการล็อกสายรัดให้แทน ปลายนิ้วของเขาแตะแผ่วเบาที่ใต้คางของเธอ ทำให้ อันนา สะดุ้งเล็กน้อย ดวงตาเบิกกว้างขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้อันนา เผลอกลั้นหายใจเมื่อเขาขยับเข้ามาใกล้กว่าที่เธอคาดไว้ ใกล้เสียจนเธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ที่รินรดอยู่แถวแก้ม และกลิ่นกายของเขาที่เจือไปด้วยความสดชื่นแบบผู้ชายเธอ พยายามทำตัวให้เป็นปกติ แต่หัวใจ
บรรยากาศรอบตัวกลับคืนสู่ความเงียบสงบ เหลือเพียงแค่พีทและอันนานั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารของพวกเขาแสงไฟสีอุ่นจากโคมระย้าสาดส่องลงมา เพิ่มบรรยากาศโรแมนติกโดยไม่ตั้งใจบนโต๊ะมีเมนูอาหารสุดพิเศษที่ พีท เป็นคนเลือกสั่ง ทุกจานถูกจัดวางอย่างประณีต กลิ่นหอมของอาหารลอยคลุ้งไปทั่ว แต่เจ้าของร่างสูงที่เอนหลังพิงพนักเก้าอี้กลับไม่ได้ให้ความสนใจกับมื้ออาหารตรงหน้าเลยสายตาของเขาจับจ้องไปที่หญิงสาวตรงข้าม ที่กำลังใช้ส้อมจิ้มอาหารในจานของเธออย่างเงียบ ๆ ท่าทางเหมือนตั้งใจจะโฟกัสกับมื้อนี้แต่ชายหนุ่มรู้ดีว่าเธอเองก็รับรู้ถึงสายตาของเขา“นี่…” เขาเอ่ย และมองเธออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้ม ดวงตาคมวาววับราวกับมีเรื่องในใจที่เขากำลังชั่งใจว่าจะพูดออกมาดีหรือไม่...“แลกเบอร์กันไว้หน่อยสิ” พีท พูดหน้าตาย พลางหมุนส้อมในมืออย่างไม่ใส่ใจ“เผื่อมีอะไรต้องคุยกันเรื่องโครงการวิจัย จะได้สะดวก”อันนา มองเขาด้วยสายตาอ่านไม่ออก ก่อนจะยอมพยักหน้าเล็กน้อย“ก็ได้ จะได้สะดวก”เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดหมายเลขของตัวเองแล้วเลื่อนหน้าจอไปให้ พีท บันทึกหมายเลขลงเครื่องของเขา ส่วนพีท ก็ทำแบบเดียวกัน เอ่ยบอกตัวเลขด้วยน้ำเสียงราบเรียบราว
ห้องพักของ อันนา อยู่ชั้นล่างสุดของอาคาร และตัวหอพักเองก็ไม่ได้มีระบบการล็อคใดๆ มีเพียงรั้วประตูที่กั้นระหว่างหอพักกับถนน และใช้สำหรับเปิด-ปิดเข้าออกหอพักเท่านั้นเมื่อประตูห้องของเธอถูกไขกุญแจและเปิดออก เผยให้เห็นความอบอุ่นด้านในห้องห้องไม่ได้กว้างขวางมากนัก แต่กลับเต็มไปด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นและน่ารัก เธอตกแต่งมันด้วยโทนของสีพาสเทลอ่อนหวาน ผนังห้องติดภาพวาดดอกไม้เล็ก ๆ และโปสเตอร์ศิลปะที่ให้ความรู้สึกอ่อนโยน โต๊ะเล็ก ๆ ข้างเตียงมีโคมไฟสีชมพูอ่อนตั้งอยู่ พร้อมกับตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่นั่งอยู่ข้างหมอนเตียงของเธอเป็นเตียงขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็สามารถนอนได้ 2 คน ปูด้วยผ้าปูที่นอนสีขาวลายลูกไม้มีหมอนหลายใบจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ โดยเฉพาะหมอนใบเล็กที่เป็นรูปหัวใจที่ดูเหมือนจะเป็นของโปรดของเธอ ผ้าห่มเนื้อนุ่มถูกพับไว้ที่ปลายเตียง ทำให้ห้องดูอบอุ่นเหมือนมุมพักผ่อนของเจ้าหญิงในเทพนิยายอันนา เหนื่อยล้าไปทั้งร่าง หลังจากวันที่เต็มไปด้วยภาระที่ดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด เธอถอดแว่นตาวางที่โต๊ะเธอเดินเข้าไปในห้องน้ำ ถอดชุดนักศึกษาออก เหลือแต่ชั้นในลูกไม้ตัวจิ๋ว 2 ชิ้นที่ห่อหุ้มร่างบาง และเธอเองกำลังถ
"อย่าหนีสิ..." เขากระซิบใกล้ริมฝีปากเธอ กลิ่นไวน์เจือจางในลมหายใจของเขา ร้อนผ่าวจนทำให้สติของอันนาสั่นคลอนเธอควรผลักเขาออกไป แต่ทำไมร่างกายถึงไม่ยอมขยับเลย...พีท สบตากับ อันนา อยู่ชั่วอึดใจ ก่อนที่เขาจะโน้มตัวลงมาใกล้กว่าเดิม ริมฝีปากของเขาอยู่ห่างจากเธอเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นหญิงสาว หัวใจเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกจากอก และก่อนที่เธอจะทันตั้งสติและก่อนที่เธอจะรู้ตัว…….ริมฝีปากร้อนของ พีท ก็แนบลงมา...ค่อยๆ บดขยี้ริมฝีปากอันอ่อนนุ่มของเธอ อย่างหนักหน่วง ร้อนแรง และเต็มไปด้วยแรงปรารถนากลิ่นไวน์จางๆ ที่เจืออยู่ในริมฝีปากและลมหายใจของเขายิ่งกระตุ้นเร่งเร้าอารมณ์ของชายหนุ่มสัมผัสแรกอ่อนโยนแต่หนักแน่น ราวกับให้เวลาหัวใจของเธอได้ปรับตัวกับแรงปรารถนาที่เขากำลังมอบให้ เขากดจูบลึกขึ้น ดูดดึงริมฝีปากบางแสนยั่วยวนอารมณ์ของเธออย่างโหยหาอันนา สั่นสะท้านไปทั้งตัว ความร้อนแล่นวูบไปทั่วร่าง ราวกับถูกกระแสไฟฟ้าช็อต เธอพยายามจะถอยหนี แต่แผ่นหลังของร่างบางๆของเธอก็ชนเข้ากับผนังอีกครั้งพีท ใช้ร่างกายอันใหญ่โตของเขาครอบครองพื้นที่ตรงหน้าเธอทั้งหมด ไม่มีที่ว่างให้เธอหลบหนีอีกแล้วมือใหญ่ของเขาลูบไล้ไปต
เขาหยุดทุกสัมผัส ปล่อยให้เธอได้มีพื้นที่หายใจชายหนุ่มลุกขึ้นนั่งที่ปลายเตียง สูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อดับไฟร้อนที่ยังลุกโชนอยู่ในอก ความรู้สึกพลุ่งพล่านจากสัมผัสเมื่อครู่ยังคงอบอวล ปลายนิ้วของเขายังจำได้ถึงความเนียนนุ่มของผิวกาย ริมฝีปากยังคงติดตรึงกับรสสัมผัสอันหอมหวานที่เพิ่งลิ้มลองใบหน้าหล่อคมเข้มเริ่มคลายจากแรงปรารถนาอันเกินจะต้านทานที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้และเมื่อเขาปล่อยเธอให้หลุดพ้นจากการถูกทับไว้โดยร่างกายกำยำของเขาหญิงสาว ก็รีบลุกขึ้นจากเตียงไปที่หยิบเสื้อนอนที่โดนเขาขว้างทิ้งไปมาสวมปิดบังเนินเนื้อเต่ง จากนั้นก็เปิดตู้เสื้อผ้าแล้วรีบคว้าเสื้อคลุมมาสวมทับชุดนอนอย่างรวดเร็ว ดึงสาบเสื้อเข้าหากันแน่นเพื่อปิดบังเรือนร่างใต้ชุดนอนบางเบา ไม่อยากให้เขาสำรวจเธอด้วยสายตาแบบนั้นอีกเขานิ่งไปพักใหญ่ และเมื่อชายหนุ่มหันไปมองนาฬิกาบนผนัง เวลาก็ล่วงเลยไปจนเกือบเที่ยงคืนแล้ว"ขอฉันอยู่ที่นี่สักพักได้ไหม...แค่อยากพักอยู่ตรงนี้อีกสักหน่อย" ลมหายใจที่ยังหอบพร่า และเสียงทุ้มอ่อนนุ่มของเขาเอ่ยขึ้นอันนา ยังคงมองเขาด้วยแววตาลังเล หวาดกลัว โดยที่ความหวาดกลัวนั้นเธอไม่ได้กลัวเขา แต่เธอกลัวหัวใจเธอเอง
เขาเดินไปที่มอเตอร์ไซด์คันใหญ่คู่ใจเมื่อสตาร์ทรถ เขาจงใจไม่เร่งเครื่องมากนักเพื่อลดเสียงรบกวน ไม่ให้ใครในหอพักต้องตื่นขึ้นมาท่ามกลางความเงียบสงัดของค่ำแล้วไม่นาน ไฟท้ายของรถก็เคลื่อนตัวออกไปอย่างเงียบเชียบ ละลายหายไปในความมืด ขณะที่เขาขับออกจากเขตหอพักของอันนา…บรรยากาศรอบตัวเขายังเงียบสงัด ถนนโล่งมีเพียงลมเย็นที่ปะทะใบหน้า ทำให้ความมึนง่วงจากคืนอันยาวนานค่อย ๆ จางลงเล็กน้อยแต่มีสิ่งที่กำลังครุกรุ่นอยู่ในใจของเขา มันไม่ใช่เพียงแค่ความหลงใหล มันลึกซึ้งกว่านั้น อันตรายกว่านั้นมันคือความปรารถนาในตัวอันนา...ความปรารถนาที่ตัวเขาเองยังรู้สึกหวาดหวั่นเขากลัวเหลือเกินว่า สักวันหนึ่ง…เขาอาจจะหยุดความรู้สึกนี้ไว้ไม่ได้ อาจจะเผลอปล่อยให้ความปรารถนาที่ซ่อนเร้นอยู่ในใจ กลืนกินสติสัมปชัญญะของเขาไปทั้งหมด และบางที...บางทีคืนนี้อาจเป็นคืนที่เขาเข้าใกล้ขีดจำกัดของตัวเองมากที่สุดแล้วพีท เร่งเครื่อง มุ่งหน้าสู่คฤหาสน์ของเขาทุกครั้งที่เขากลับบ้าน มักจะเป็นหัวค่ำ แต่ไม่ใช่ครั้งนี้ ครั้งนี้เขากลับมาตอนฟ้าใกล้สาง… สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเมื่อรถเคลื่อนตัวเข้ามาถึงหน้าประตูคฤหาสน์ลุงมิ่ง รปภ.ที่
แสงแดดอ่อน ๆ ในตอนสายส่องลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาในห้อง อันนา พลิกตัวช้า ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เธอกระพริบตาถี่ ๆ ไล่ความง่วงออกไป ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียงดวงตาคู่งามกวาดมองไปทั่วห้อง และแล้วเธอก็พบว่า…พีท…ไม่อยู่แล้วอันนา ชะงัก หัวใจเต้นแผ่วเบาเมื่อพบว่า ไม่มีร่างของชายหนุ่มที่เธอจำได้ดีว่าเขาอยู่ที่นี่เมื่อคืนเธอขยับนิ้วแตะริมฝีปากตัวเองแผ่วเบา ภาพความทรงจำจากเมื่อคืนไหลย้อนกลับมาสัมผัสร้อนแรง... ลมหายใจของเขาที่ใกล้จนได้ยินชัด... ริมฝีปากของเขาที่แนบลงมาหาเธอช้า ๆ แล้วจูบอย่างอ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยความเร่าร้อนสัมผัสของมือหนาที่กอบกุมเต้าอกอวบอิ่มพร้อมทั้งแรงเคล้าคลึงด้วยความเบามือแต่แฝงด้วความผ่าวร้อนได้แผ่ซ่านผ่านชุดนอนบางจิ๋วเข้าไปยังเนินเนื้อยังคงติด ผิวกายของหญิงสาวสั่นสะท้านด้วยแรงปรารถนาที่ไม่เคยได้สัมผัสจากชายคนไหนมาก่อนอันนา ใบหน้าร้อนผ่าวโดยไม่รู้ตัว เธอหลุบตามองต่ำ ใช้ปลายนิ้วแตะริมฝีปากตัวเองอีกครั้งราวกับต้องการยืนยันว่าค่ำคืนที่ผ่านมามันไม่ใช่แค่ความฝันพีท... ทำให้หัวใจของเธอสั่นไหวและสัมผัสของเขาเธอเองก็ไม่เคยได้เจอะเจอมาก่อนเลย มันทำให้เธอวาบหวามและอบอุ่นไปใ
ตอนบ่ายถึงเวลานัดหมายทำโครงการวิจัยร่วมกันของ ทั้ง 2 คนอันนาเดินเข้ามาในห้องทดลองพร้อมแฟ้มเอกสารแนบอก พยายามรักษาท่าทีให้เป็นปกติที่สุด แม้หัวใจจะเต้นแรงจนแทบหลุดออกมาจากอก เธอก้าวเท้าอย่างระมัดระวัง ขยับแว่นตาเล็กน้อยเพื่อปรับโฟกัส ดวงตากลมโตสอดส่ายไปทั่วห้อง แต่เธอยังไม่พบกับใครบางคนที่เธอพยายามหลบหน้าและหัวใจของเธอตอนนี้ก็เต้นโครมคราม จนแทบจะระเบิดออกมาข้างนอก เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า… เธอจะต้องเผชิญหน้ากับพีท—เจ้าของรอยจูบและสัมผัสที่ยังทำให้หัวใจเธอสั่นไหวไม่เสื่อมคลายเธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ พยายามสะกดอารมณ์ แล้วเดินไปนั่งลงที่โต๊ะ ก่อนจะเปิดเอกสารเพื่อเตรียมเริ่มงานแต่ทันทีที่เธอเงยหน้าขึ้น ก็เห็นร่างกำยำของชายหนุ่ม ยืนพิงกรอบประตู เขายกยิ้มมุมปากพลางกอดอก สายตาคมมองเธอราวกับอ่านใจออก“ไง…” พีท ทักและลากเสียงเนิบนาบที่ฟังดูสบายๆ ก่อนจะเดินเข้ามาแล้วทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามเธออย่างไม่รีบร้อน ท่าทีของเขาดูผ่อนคลาย ราวกับว่าการพบกันครั้งนี้เป็นเพียงเหตุการณ์ธรรมดา“ทำไมทำหน้าเครียดขนาดนั้นล่ะ? หรือว่า… คิดถึงเรื่องเมื่อคืนอยู่?”อันนาสะดุ้ง รีบหลบตาพีททันที หน้า
ค่ำคืนเดียวกันนี้….เสียงเครื่องยนต์ของมอเตอร์ไซค์ดังก้องไปตามเส้นทางที่มืดสลัว ลมกลางคืนพัดปะทะใบหน้า อันนา แต่กลับไม่ได้ช่วยให้เธอใจเย็นลงเลยสักนิด และเธอไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำส้มที่เธอรับมาดื่มจากกวิน นั้นแฝงไว้ด้วยอันตรายบางอย่างความคิดของเธอยังคงวนเวียนอยู่กับเหตุการณ์ก่อนหน้า กับคำพูดและการกระทำของกวิน... และที่สำคัญ—สัมผัสของพีทอันนา กระชับอ้อมแขนรอบเอวของ พีท โดยไม่รู้ตัว ไออุ่นจากแผ่นหลังของเขาทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยอย่างประหลาด ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ เธอไม่เคยไว้ใจเขาเลยพีท เองก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสของความวางใจที่เธอเริ่มมีให้เขามากขึ้น"ใกล้ถึงหอเธอแล้วนะ" พีท เอ่ยขึ้นลอยๆ น้ำเสียงราบเรียบ แต่ก็ยังมีความอบอุ่นบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกมั่นใจอันนา ไม่ตอบ แต่เธอรู้ว่าใจของตัวเองกำลังสั่นไหว ภาพของ กวิน ในค่ำคืนนี้ยังตามหลอกหลอนเธอ ทว่า อ้อมกอดที่เธอพึ่งพิงอยู่ตอนนี้กลับมั่นคงจนเธอไม่อยากปล่อย เวลาผ่านไปสักพัก…. อันนา เริ่มรู้สึกว่าร่างกายร้อนวูบวาบขึ้นทุกขณะ ราวกับมีเปลวไฟลุกไหม้อยู่ภายในเธอรู้สึกเหมือนโดนบางอย่างควบคุม ความต้องการบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้พลุ่งพล่านอยู่
"ขึ้นไปกันเถอะ" เขาเอ่ยเสียงแหบต่ำ ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถยี่หวา ก้าวลงมาเช่นกัน ส้นสูงของเธอกระทบพื้นเป็นจังหวะ เธอเดินไปข้างกวินอย่างมั่นใจ ก่อนจะคว้าแขนเขาและพาเข้าไปด้านในล็อบบี้ของโรงแรมเงียบสงบในยามดึก พนักงานต้อนรับทำหน้าที่รับข้อมูลจากแขกผู้มาเยือ ก่อนจะส่งกุญแจห้องให้ตามที่ ยี่หวา ต้องการเธอรับมันมา ก่อนจะจับมือ กวิน แล้วเดินตรงไปยังลิฟต์เมื่อประตูลิฟต์ปิดลง บรรยากาศก็เริ่มเปลี่ยนไปกวิน ใช้สายตาจับจ้องเธอเหมือนจะกลืนกิน ปลายนิ้วเรียวยาวของเขาแตะที่ข้อมือของเธอเบาๆ ก่อนจะไล้ขึ้นมาจนถึงต้นแขนยี่หวา หันมามองเขา ดวงตาของเธอเป็นประกายเจ้าเล่ห์ "มองยี่หวาแบบนี้ทำไม?"กวิน โน้มตัวลงมากระซิบข้างหูเธอ "เพราะเธอร้อนแรงเกินกว่าจะละสายตานะสิ"เธอหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้เขามากขึ้น ปลายนิ้วแตะลงบนอกของกวิน ไล้ไปตามสาบเสื้อของเขาเบาๆ"แล้วกวินแน่ใจเหรอ ว่ารับมือยี่หวาไหว?"ติ๊ง!เสียงลิฟต์ดังขึ้น ประตูเปิดออกสู่ชั้นบนสุดของโรงแรมยี่หวา ดึงมือ เขาให้ก้าวออกไป ก่อนจะใช้คีย์การ์ดแตะประตูห้อง แล้วเปิดออกพร้อมกับผลักเขาเข้าไปเบาๆภายในห้องกว้างขวาง มีแสงไฟสลัวจากโคมไฟหัวเตียง ห
กวินและกลุ่มเพื่อนมาถึงผับแล้ว ค่ำคืนย่างกรายเข้ามาอย่างสมบูรณ์ แสงไฟนีออนกระพริบระยิบระยับจากผับชื่อดังกลางเมือง เสียงเพลงจังหวะหนักดังกระหึ่มตั้งแต่หน้าประตู กลิ่นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปะปนกับน้ำหอมราคาแพงลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณที่นี่เป็นจุดนัดหมายของพวกเขาในคืนนี้ พวกเขามีแผนจะมาสนุก ดื่ม และแน่นอน—ใช้เวลากับสาวๆเมื่อ กวิน ก้าวเท้าเข้าไปในโซนวีไอพี ดวงตาของเขากวาดมองไปรอบๆ ก่อนจะหยุดลงที่กลุ่มสาวๆ โต๊ะประจำของพวกเขาและคนที่เขาต้องเจอคือ ยี่หวาเธอสวมเดรสสีแดงรัดรูปที่เปิดไหล่ข้างหนึ่ง เผยผิวเนียนละเอียดจนเป็นประกายภายใต้แสงไฟ กระโปรงของเธอสั้นจนแทบปิดต้นขาไม่มิด พร้อมกับส้นสูงคู่สวยที่ช่วยเสริมให้ขาเรียวยาวของเธอดูโดดเด่นขึ้นเธอนั่งไขว่ห้างบนโซฟา ท่าทางเป็นธรรมชาติ แต่แฝงไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนข้างๆ เธอมีแก้วเครื่องดื่มอยู่ในมือ นิ้วเรียวยาวจับมันไว้เบาๆ ราวกับกำลังเล่นสนุกกับมันมากกว่าจะแค่ถือไว้เฉยๆเมื่อเธอเห็นกวินเดินเข้ามา รอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความท้าทายก็ปรากฏขึ้นที่มุมปาก"มาแล้วเหรอคะกวิน?" เสียงของเธอดังขึ้นท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังระรัวยี่หวา คบกับ กวิน ส่วนหนึ่งมันคือความสะดวกส
ใกล้สามทุ่ม…..อันนามองนาฬิกาข้อมือก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ "คงต้องกลับหอพักแล้ว..." เธอพึมพำเบา ๆ ก่อนจะหันไปมองโชติและพี่หมอธีร์ด้วยสายตาคาดหวัง "พี่หมอกับโชติ ไปส่งอันนาหน่อยได้ไหม?"โชติ ยิ้มแหย ๆ ก่อนจะส่ายหน้า "เสียดายจังอันนา วันนี้เรากับพี่หมอมีนัดแล้วด้วยสิ"พี่หมอธีร์ เสริมขึ้นพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ"ใช่ พี่จองโต๊ะที่คาเฟ่อีกแห่งไว้แล้ว กะว่าจะไปฉลองวันเกิดกันสองคนต่อนะ วันนี้ให้หนุ่มหล่อ คุณพีท ไปส่งนะ พี่ว่าเขาไม่น่าจะติดอะไรนะ" หมอธีร์พูดให้เธอรู้สึกคลายกังวลอันนา ชะงักเล็กน้อย หัวใจหล่นวูบอย่างช่วยไม่ได้ นั่นหมายความว่าเธอไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องให้ พีท ไปส่งอีกแล้วงั้นเหรอ?เธอหันไปมอง พีท ที่นั่งติดกันเขาได้ยินที่ทุกคนพูด รอยยิ้มมุมปากของเขาทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาอีกครั้ง"ยินดีครับ" พีท เอ่ยรับคำของพี่หมอธีร์อย่างสั้นๆ เขาทำหน้าอมยิ้ม ใบหน้าอันหล่อเหลามีความเจ้าเล่ห์บางอย่างความทรงจำครั้งก่อนยังคงติดอยู่ในหัว...การสัมผัสที่ร้อนระอุจนผิวเนื้อเธอขนลุกชูชัน ความใกล้ชิดที่ทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหวยังไม่จางหายไปเธอกำมือแน่น พยายามกลั้นความรู้สึกกลัวที่ก่อตัวขึ้นมาในใจ"
เมื่อทั้งสองมาถึงร้านชาบูหน้ามหาวิทยาลัย สถานที่นัดหมายกับ โชติพีท ก้าวเข้ามาในร้านชาบูพร้อมด้วยร่างบางของอันนาท่วงท่าอันสง่างาม และร่างสูงโปร่งของเขา ดึงดูดทุกสายตาราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ไม่อาจต้านทานได้ใบหน้าคมคายรับกับหน้าคมเข้มสมส่วน ดวงตาคมลึกเปล่งประกายความมั่นใจ เพียงแค่เขาก้าวเท้าเข้ามา บรรยากาศในร้านก็ดูจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย เสียงพูดคุยที่เคยจอแจพลันแผ่วลงแทบจะพร้อมกันอย่างน่าประหลาดสาว ๆ หลายคนเหลือบมองเขาด้วยแววตาตื่นเต้น บางคนกระซิบกระซาบกับเพื่อนราวกับไม่อยากเชื่อว่าได้เจอเดือนมหาวิทยาลัยคนหล่อ ในสถานที่แห่งนี้จริง ๆ พนักงานต้อนรับถึงกับชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะรีบส่งยิ้มต้อนรับพร้อมนำทางไปยังโต๊ะชายหนุ่มไม่ได้สนใจสายตาที่จับจ้องมาที่ตน เขาเดินไปอย่างมั่นคง ทุกจังหวะก้าวเต็มไปด้วยความมั่นใจ ราวกับไม่เคยหวั่นไหวต่อสิ่งรอบข้าง ถ้าใครเห็นคงต้องบอกว่า นายคนนี้….ขี้เก๊กเป็นที่สุดเขารู้สึกถึงบรรยากาศที่แตกต่างออกไปจากสิ่งที่เขาคุ้นเคยโดยสิ้นเชิง กลิ่นน้ำซุปร้อน ๆ ลอยคลุ้ง เสียงพูดคุยจอแจของกลุ่มนักศึกษาดังปะปนกับเสียงน้ำเดือดปุด ๆ และเสียงตะเกียบกระทบหม้อ ทุกอย่างดูเป็นกันเ
ริมฝีปากได้รูปของเขากดจูบลงมาที่ริมฝีปากบางของเธออย่างแนบแน่น ความรู้สึกที่อัดอั้นมานานพรั่งพรูออกมาในสัมผัสที่อ่อนโยนแต่เต็มไปด้วยแรงปรารถนาอันนา ตัวแข็งทื่อ สมองว่างเปล่าไปชั่วขณะ เธอรู้ดีว่าเธอควรผลักเขาออกไป ควรบอกให้เขาหยุด แต่ร่างกายกลับไม่เชื่อฟังอีกแล้วหัวใจเต้นแรงเสียจนเธอมั่นใจว่าพีทต้องได้ยิน มือเย็นเฉียบของเธอกำเข้าหากันแน่น รู้สึกถึงเหงื่อที่เริ่มซึมออกมาตามฝ่ามือเขารังแกเธออีกครั้งแล้วหรือนี่? ทำไมเขาถึงชอบทำแบบนี้กับเธอ? หรือว่าเธอเป็นเพียงของเล่นสำหรับเขา... คำถามนั้นติดค้างอยู่ในใจแต่ริมฝีปากกลับหนักอึ้งเกินกว่าจะเปล่งเสียงออกมา และมันถูกปิดอยู่ด้วยปากของชายหนุ่มลมหายใจอุ่น ๆ ของเขาปะทะกับริมฝีปากของเธอ ลิ้นที่อุ่นๆ ของเขาไต่ไล่หาลิ้นนุ่มของหญิงสาว ดูดดื่มริมฝีปากบางอิ่มเหมือนกลัวว่ามันจะหลุดลอยไปจูบที่แสนเสียวซ่านนี้ทำให้ อันนา ลืมตัวไปชั่วขณะ เธอเริ่มตอบสนองการจูบของเขา เริ่มเรียนรู้การตอบสนองต่อการรุกราน จากการบังคับของเขาที่ค่อยๆ สอดใส่ปลายลิ้นเข้ามาภายในเพื่อความหาลิ้นอันอ่อนนุ่มของเธอและดูดดื่มมันให้เนิ่นนานที่สุดเท่าที่อารมณ์ของเขาจะพอใจเธอเกลียดตัวเองที
พีท ยืดแขนเพื่อบิดความเมื่อยล้า สายตาคมเข้มมองมาพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ “สรุปว่าเย็นนี้ไปกินชาบูที่ไหนกันแน่นะ?”อันนา ที่กำลังเก็บของชะงักไปนิดหน่อยก่อนตอบ “โชติบอกว่าร้านชาบู หน้ามอ ร้านเดิมที่เคยไปกินประจำ”พีท เงยหน้ามองหญิงสาวอย่างช้า ๆ ก่อนลากเสียงถาม“ที่เคยไปกินประจำ….ไปกินด้วยกันบ่อยรึไง?” เสียงเขาดูไม่สบอารมณ์มากนักเมื่อได้ยินคำตอบอันนา เงยหน้าขึ้นมองพีทที่จู่ ๆ ก็เปลี่ยนท่าที สีหน้าเขาดูนิ่งขึ้น แต่แววตากลับมีอะไรบางอย่างแฝงอยู่“ก็… เคยไปกินด้วยกันบ้างเป็นครั้งคราว” เธอขมวดคิ้ว “ทำไมหรอ?”พีท เท้าแขนลงกับโต๊ะ จ้องเธอนิ่ง “ไปกันบ่อยแค่ไหน?”หญิงสาว เริ่มรู้สึกแปลก ๆ กับน้ำเสียงและท่าทางของเขา “ก็… หลายครั้งอยู่ ทำไม นายมีปัญหาหรือไง?”พีท พ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนยืดตัวขึ้นเต็มความสูง “เปล๊า~ แค่สงสัยว่าไปกันแค่สองคน หรือไปกันหลายคน”อันนา เลิกคิ้ว “บางทีก็หลายคน บางทีก็แค่ฉันกับโชติ”คำตอบนั้นทำให้ พีท ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะหรี่ตาลงเล็กน้อย “แค่เธอกับโชติ?”อันนา เริ่มจับสังเกตได้ว่าเขาดูไม่พอใจ“อืม บางครั้งก็แค่ฉันกับโชติสองคน ทำไมหรอ?”พีท จ้องเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนจ
ตอนบ่ายถึงเวลานัดหมายทำโครงการวิจัยร่วมกันของ ทั้ง 2 คนอันนาเดินเข้ามาในห้องทดลองพร้อมแฟ้มเอกสารแนบอก พยายามรักษาท่าทีให้เป็นปกติที่สุด แม้หัวใจจะเต้นแรงจนแทบหลุดออกมาจากอก เธอก้าวเท้าอย่างระมัดระวัง ขยับแว่นตาเล็กน้อยเพื่อปรับโฟกัส ดวงตากลมโตสอดส่ายไปทั่วห้อง แต่เธอยังไม่พบกับใครบางคนที่เธอพยายามหลบหน้าและหัวใจของเธอตอนนี้ก็เต้นโครมคราม จนแทบจะระเบิดออกมาข้างนอก เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า… เธอจะต้องเผชิญหน้ากับพีท—เจ้าของรอยจูบและสัมผัสที่ยังทำให้หัวใจเธอสั่นไหวไม่เสื่อมคลายเธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ พยายามสะกดอารมณ์ แล้วเดินไปนั่งลงที่โต๊ะ ก่อนจะเปิดเอกสารเพื่อเตรียมเริ่มงานแต่ทันทีที่เธอเงยหน้าขึ้น ก็เห็นร่างกำยำของชายหนุ่ม ยืนพิงกรอบประตู เขายกยิ้มมุมปากพลางกอดอก สายตาคมมองเธอราวกับอ่านใจออก“ไง…” พีท ทักและลากเสียงเนิบนาบที่ฟังดูสบายๆ ก่อนจะเดินเข้ามาแล้วทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามเธออย่างไม่รีบร้อน ท่าทีของเขาดูผ่อนคลาย ราวกับว่าการพบกันครั้งนี้เป็นเพียงเหตุการณ์ธรรมดา“ทำไมทำหน้าเครียดขนาดนั้นล่ะ? หรือว่า… คิดถึงเรื่องเมื่อคืนอยู่?”อันนาสะดุ้ง รีบหลบตาพีททันที หน้า
แสงแดดอ่อน ๆ ในตอนสายส่องลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาในห้อง อันนา พลิกตัวช้า ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เธอกระพริบตาถี่ ๆ ไล่ความง่วงออกไป ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียงดวงตาคู่งามกวาดมองไปทั่วห้อง และแล้วเธอก็พบว่า…พีท…ไม่อยู่แล้วอันนา ชะงัก หัวใจเต้นแผ่วเบาเมื่อพบว่า ไม่มีร่างของชายหนุ่มที่เธอจำได้ดีว่าเขาอยู่ที่นี่เมื่อคืนเธอขยับนิ้วแตะริมฝีปากตัวเองแผ่วเบา ภาพความทรงจำจากเมื่อคืนไหลย้อนกลับมาสัมผัสร้อนแรง... ลมหายใจของเขาที่ใกล้จนได้ยินชัด... ริมฝีปากของเขาที่แนบลงมาหาเธอช้า ๆ แล้วจูบอย่างอ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยความเร่าร้อนสัมผัสของมือหนาที่กอบกุมเต้าอกอวบอิ่มพร้อมทั้งแรงเคล้าคลึงด้วยความเบามือแต่แฝงด้วความผ่าวร้อนได้แผ่ซ่านผ่านชุดนอนบางจิ๋วเข้าไปยังเนินเนื้อยังคงติด ผิวกายของหญิงสาวสั่นสะท้านด้วยแรงปรารถนาที่ไม่เคยได้สัมผัสจากชายคนไหนมาก่อนอันนา ใบหน้าร้อนผ่าวโดยไม่รู้ตัว เธอหลุบตามองต่ำ ใช้ปลายนิ้วแตะริมฝีปากตัวเองอีกครั้งราวกับต้องการยืนยันว่าค่ำคืนที่ผ่านมามันไม่ใช่แค่ความฝันพีท... ทำให้หัวใจของเธอสั่นไหวและสัมผัสของเขาเธอเองก็ไม่เคยได้เจอะเจอมาก่อนเลย มันทำให้เธอวาบหวามและอบอุ่นไปใ